วันที่ 3 พฤษภาคม 2024

“อนุทิน”อัดพวกเสียประโยชน์แบน 3 สารพิษ มโนโยงสหรัฐฯตัดจีเอสพีการค้าไทย

People Unity : “อนุทิน”ยันไทยถูกตัดจีเอสพีไม่เกี่ยวเรื่องแบน 3 สารพิษ อัดพวกเสียประโยชน์มโนบิดเบือน ย้ำจุดยืนหนุนมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย

วันที่ 28 ต.ค.2562 กรณีที่ประเทศไทยถูกสหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษทางการค้า ซึ่งมีบางฝ่ายเชื่อมโยงว่ามีสาเหตุมาจากที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติแบน 3 สารพิษนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ฝ่ายที่เสียหาย ก็มโนไปเรื่อย หาทางบิดเบือนให้ฝ่ายตนได้ประโยชน์ ทั้งที่การตัดสิทธิ์นั้น ทางนั้นจะจัด จะให้เมื่อไร ตอนไหนก็ได้ ล่าสุด อ้างเหตุผลเรื่องสิทธิมนุษยชน ก็ต้องไปดูว่ามีข้อเท็จจริงแค่ไหน ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องอธิบาย สำหรับคนไทย ก็ต้องเชื่อมั่นใจสินค้าไทย โดนตัดสิทธิ์ ก็บริโภคกันเอง ส่งขายตลาดอื่น ถ้าของเราดี ย่อมไม่ต้องกังวล ทางด้านสหรัฐฯเอง ก็ต้องได้รับผลกระทบเหมือนกัน เขาขึ้นภาษีของไทย ของก็ต้องแพงขึ้น เดี๋ยวผู้บริโภคในสหรัฐฯ ก็ส่งเสียงมาเอง

เมื่อถามถึงโอกาสในการเปลี่ยนมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย นายอนุทิน กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข เรายืนยันมติเดิม ที่ให้ตัวแทนของกระทรวงไปแสดงจุดยืนในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ทั้งนี้แม้ทางสหรัฐฯ จะอ้างผลการวิจัยว่าสารบางตัวที่ถูกแบนไม่มีอันตราย แต่ที่ตนเห็นด้วยตาคือแผลที่เน่าจนจะเห็นกระดูก การขึ้นป้ายสนับสนุนการแบนสารพิษของโรงพยาบาล อันเกิดจากการตระหนักถึงอันตรายของสารพิษ ให้คนไทยใช้และกินของดีๆ มิได้หรือ

“ในส่วนของคณะกรรมการวัตถุอันตรายตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติมีมานานแล้ว ไม่ใช่การรวมกลุ่มเฉพาะกิจเพื่อแบนสารพิษ แต่การโหวตเกิดจากการศึกษาข้อมูลมาอย่างดี เมื่อคณะกรรมการมีมิตอย่างไร ก็เป็นกฎหมาย ว่าไปตามนั้น ยิ่งคะแนนฝ่ายแบนขาดลอย ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว หรือจะให้กลับมติ แล้วจะมีคณะกรรมการวัตถุอันตรายไว้ทำไม”

“เศรษฐพงค์”ยัน”ภท.-รัฐบาล”ทำงานมีเอกภาพ

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนว่าเขาตัดจีเอสพี เพราะการแบนด์ 3 สารพิษ เนื่องจากเขาให้เหตุผลว่าเพราะรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยยังไม่สามารถยกระดับสิทธิแรงงานให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล ซึ่งไม่ว่าเขาจะตัดสินใจด้วยเหตุผลใด ตนต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่าที่เราผลักดันการแบนด์ 3 สารพิษได้สำเร็จ เป็นเพราะการทำงานอย่างเป็นเอกภาพของรัฐบาล เราเห็นชัดเจนว่าสารดังกล่าว มีผลกระทบต่อสุขภาพคนไทยจริงๆ แล้วในเมื่อพรรคภูมิใจไทย มีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบโดยตรง ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว. สาธารณสุข รวมถึงน.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ก็ต้องทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน แล้วเมื่อเราผลักดันสำเร็จ ก็ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลเช่นกัน ที่ได้ทำเรื่องที่ดีเพื่อชีวิตในอนาคตของประชาชนคนไทย และพรรคภูมิใจไทยยังจะยืนยันหลักการทำงานเพื่อชีวิต ความเป็นอยู่ เพื่อปากท้องพี่น้องประชาชนต่อไป

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนการที่มีบางประเทศจะตัดสิทธิจีเอสพีนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เรื่องดังกล่าวตนขอพูดในหลักการโดยไม่เจาะจงไปยังประเทศใดประเทศหนึ่ง ว่าหลักการบริหารประเทศในเชิงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก่อนอื่นเลยประเทศยักษ์ใหญ่ไม่ควรใช้วิธีการในเชิงแทรกแซง หรือกดดันการบริหารงานของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศที่เล็กกว่า มีศักยภาพน้อยกว่า แต่ควรให้ความเคารพในการบริหารงานของประเทศไทย ที่ผ่านมาเมื่อประเทศไทยตกอยู่ในภาวะอ่อนไหวทางการเมืองหลังการรัฐประหาร อยู่ในวิกฤต ก็ไม่เห็นประเทศยักษ์ใหญ่ยื่นมือเข้ามาช่วยอะไร มาถึงตอนนี้เมื่อไทยดำเนินการเพื่อประโยชน์ เพื่อคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ตนจึงอยากเห็นการสนับสนุนจากประเทศยักษ์ใหญ่ เพราะจะเป็นท่าทีที่ชี้ว่าเห็นแก่ประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่า ตนคิดว่าเรื่องที่มีผลกระทบชีวิตประชาชนไม่ควรนำมาเป็นข้อได้เปรียบเสียเปรียบกัน ซึ่งการบริหารงานเชิงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องรู้จักได้ รู้จักเสีย

“ผมหวังว่าการแบนด์ 3 สารพิษ จะไม่ใช่เหตุผลหลักในการตัดจีเอสพีประเทศไทย แต่ถึงอย่างไรประเทศไทยเราก็ขอยืนยันว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกทำอะไรสักอย่าง เราก็จะเลือกทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตพี่น้องประชาชนมาก่อนเป็นลำดับแรก เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด” พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว

ประยุทธ์ พอใจตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลง 5 วันติดกัน

People Unity News : 7 พฤษภาคม 2565 นายกฯ พอใจตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงติดต่อกัน 5 วันต่อเนื่อง ย้ำ สธ. เฝ้าระวังการกลายพันธุ์ในต่างประเทศ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชื่นชมและขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขจนส่งผลให้ตัวเลขผู้ติดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทยลดลงมาอยู่ในหลักพันติดต่อกัน 5 วันแล้ว ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เริ่มทรงตัว และมีการดูแลรักษาที่บ้าน (Home Isolation) มากขึ้น ทำให้หลายสถานพยาบาลปรับลดการดูแลผู้ป่วยโควิด – 19 ในสถานพยาบาลลง และกลับมารักษาผู้ป่วยโรคอื่นๆ รวมถึงทำการรักษาผ่าตัดเพิ่มมากขึ้น ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่มีการระบาดของโรคโควิด – 19 ที่รุนแรง

อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัดต่อไปเพื่อทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอีก

พร้อมมอบหมายกระทรวงสาธารณสุข ติดตามและเฝ้าระวังการตรวจพบเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ย่อยในบางประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

Advertisement

“เพื่อไทยพลัส”แพร่คลิปความคิดคนรุ่นใหม่ชี้ต้องแก้รัฐธรรมนูญ

People Unity News : “เพื่อไทยพลัส”แพร่คลิปสะท้อนความคิดคนรุ่นใหม่ ชี้ปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้คือรัฐธรรมนูญ เศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำ

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 พรรคเพื่อไทย เผยแพร่คลิปรายการ “เพื่อไทยพลัส : เพื่อไทยยุคใหม่ แข็งแกร่งกว่าเดิม” EP.2 หลังลงพื้นที่จัดกิจกรรมโฟกัสกรุ๊ป ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเป็นการสะท้อนความคิดเห็นว่าคนรุ่นใหม่อยากเห็นอะไรในบ้านเมืองของเรา

โดย นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทยพลัส กล่าวสรุปกิจกรรมว่า พรรคการเมืองที่คนรุ่นใหม่อยากเห็นมากที่สุดคือพรรคการเมืองที่ทำเพื่อประชาชน พูดจริงทำจริง และปกป้องประชาธิปไตย และนักการเมืองที่พวกเขาอยากเห็นคือต้องมีความซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ มีวิสัยทัศน์ และรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น และปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองที่ได้พบเจอในปัจจุบัน ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่เห็นตรงกันว่าต้องนำมาแก้ไข คือ ปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตยของบ้านเมือง ซึ่งต้องเร่งแก้รัฐธรรมนูญ แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมให้หมดไปโดยเร็วที่สุด

นายตรีรัตน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสำรวจความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยผลสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมถึงเรื่องภาพลักษณ์พรรคเพื่อไทยและบุคลากรของพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 26 มองพรรคเพื่อไทยและบุคลากรมีภาพลักษณ์ที่ดีมาก และร้อยละ 31 มองว่าดี ซึ่งเมื่อจบกิจกรรมแล้วร้อยละ 54 มองภาพลักษณ์พรรคเพื่อไทยและบุคลากรพรรคเพื่อไทยอยู่ในระดับที่ดีมาก และเรายังมีการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ถึงการมองภาพรวมทางเศรษฐกิจอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าสภาพเศรษฐกิจแย่ลงถึงร้อยละ 37 และสำรวจทางด้านการศึกษา น้องๆนักศึกษาร้อยละ 18 รู้สึกเฉยๆ กับหลักสูตรการศึกษาในปัจจุบันว่าจะตอบโจทย์นักศึกษาที่เรียนจบแล้วมีงานทำหรือไม่

ทั้งนี้ นายตรีรัตน์ ได้เชิญชวนติดตามรายการ “เพื่อไทยพลัส : เพื่อไทยยุคใหม่ แข็งแกร่งกว่าเดิม” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. ในทุกช่องทางโซเชียลมีเดียพรรคเพื่อไทย

รัฐบาลปฏิเสธเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนกรณี Airport Rail Link

People Unity News : รัฐบาลเดินหน้าไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ยืนยันสัญญาเป็นธรรม รัฐไม่เสียประโยชน์ ประชาชนได้ใช้บริการ โฆษกรัฐบาลปัดเอื้อนายทุน จับประชาชนเป็นตัวประกัน

1 พ.ย.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานบอร์ด EEC ขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าสิทธิในการบริหารรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานหรือ Airport Rail Link (ARL) มูลค่า 10,671 ล้านบาท ตามเงื่อนไขสัญญาการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน ซึ่งก็คือ บจก.คู่สัญญา บริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ที่ถือหุ้น 70% โดยกลุ่มซีพี เป็นการกระทำที่เข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่ด้วยผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ทั้งๆที่คู่สัญญาทำผิดเงื่อนไข แต่รัฐยังเปิดโอกาสให้เดินรถได้โดยชำระเงินเพียง 10% ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่การจับประชาชนเป็นตัวประกัน หรือเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน ถ้าจะมีใครที่จับประชาชนเป็นตัวประกันนั้น ก็น่าจะเป็นพรรคการเมืองหนึ่งมากกว่า ที่มักจะออกมาให้สัมภาษณ์สนับสนุน รวมถึงช่วยประกันตัวกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประท้วงด้วยการใช้ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินราชการ และจาบจ้วงสถาบันอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน

นายธนกร กล่าวอีกว่า การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ทุกการดำเนินการอยู่บนความเท่าเทียมและเป็นธรรม และหากมีการปกปิดข้อมูลจริง ฝ่ายค้านก็คงจะไม่มีข้อมูลมาจับแพะชนแพะ สร้างความสับสนให้ประชาชนจนรัฐบาลต้องมาคอยแก้ข่าวเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนอยู่ทุกวัน เหมือนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายๆครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายค้านมีข้อมูล หลักฐานต่างๆก็สามารถส่งมาให้รัฐบาลตรวจสอบเพื่อดำเนินการได้ หรือจะยื่นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีหลายหน่วยงาน อาทิ ป.ป.ช. หรือแม้แต่กรรมาธิการฯ ชุดต่างๆ เพื่อขอให้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เช่นกัน

Advertising

วุฒิสภาเห็นชอบ “อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์” เป็นอัยการสูงสุด

People Unity News : 5 กันยายน 2566 วุฒิสภามีมติเห็นชอบให้ นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อธิบดีอัยการ รักษาการในตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด คนที่ 18

ที่ประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 14 ได้มีมติให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 โดยมีการเสนอชื่อนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานวิชาการ รักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด ให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน 201 คน ผลการออกเสียงลงคะแนนให้ความเห็นชอบ 193 เสียง ไม่ให้ความเห็นชอบ 1 เสียง และไม่ออกเสียง 7 เสียง จึงได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด ที่มีอยู่ของวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด

ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งต่อไป

นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ว่าที่อัยการสูงสุด คนที่ 18 สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเนติบัณฑิต สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา นิติศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรระดับสูง ดังนี้

พ.ศ. 2554 หลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมชั้นสูง (ยธส.3) สำนักงานกิจการยุติธรรม

พ.ศ. 2562 หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 24 (บ.ย.ส.24) สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม

พ.ศ. 2564 หลักสูตรนักบริหารงานยุติธรรมชั้นสูง รุ่นที่ 11 (นบยส.11) สำนักงานอัยการสูงสุด

พ.ศ. 2565 หลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย “นธป.” รุ่นที่ 10 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

สำหรับประวัติการทำงานของนายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์

เริ่มรับราชการปี 2528 สำนักงานคดีอาญา สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (จังหวัดอำนาจเจริญ) สำนักงานนโยบาย ยุทธศาสตร์ และงบประมาณ

ปี 2561 รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ

ปี 2563 อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอัยการสูงสุด

ปี 2564 อธิบดีอัยการ สำนักงานวิชาการ

ปัจจุบันอธิบดีอัยการ สำนักงานวิชาการ รักษาการในตำแหน่ง รองอัยการสูงสุด

Advertisement

นายกฯชี้แจงจัดสรรงบประมาณทุกด้านตามความท้าทายโลก พลังงาน สิ่งแวดล้อม Smart Farmer

People Unity News : วันนี้ (2 มิถุนายน 2565) เวลา 15.30 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยนายกรัฐมนตรีได้วางยุทธศาสตร์เพื่ออนาคตโดย เรื่องอุตสาหกรรม การค้า การลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับการลดปริมาณคาร์บอน ประเทศไทยได้ประกาศกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) โดยมีเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน ในปี พ.ศ.2593 (ค.ศ.2050) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ.2608 (ค.ศ.2065) การตั้งเป้าหมายดังกล่าว จะทำให้ลดความเสี่ยงจากการถูกกีดกันทางการค้า และเพิ่มโอกาสที่จะเข้าร่วมในเวทีการค้าได้มากขึ้น เนื่องจากเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะถูกใช้เป็นเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้น ประเทศไทยจะต้องใช้โอกาสเร่งพัฒนาและประยุกต์ใช้นวัตกรรม คิดค้นอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไป ก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มุ่งใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่มุ่งไปสู่สินค้าและบริการ ที่สร้างผลกระทบให้โลกน้อยที่สุด ซึ่งจะสร้างประโยชน์ทางการค้า การส่งออก และภาคธุรกิจไทย

โดยในภาคพลังงาน การผลิตไฟฟ้า รัฐบาลได้ปรับโครงสร้างพลังงานลดสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) รัฐบาลกำหนดแผนที่จะผลิตรถยนต์ไม่ปล่อยมลพิษร้อยละ 30 ของการผลิตในปี 2573 ทั้งรถยนต์นั่ง รถกระบะ รถจักรยานยนต์ รถบัส และรถบรรทุก โดยมีแผนระยะสั้นและระยะปานกลาง เพื่อเพิ่มความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในภาพรวม ตลอดจนออกมาตรการสนับสนุน สร้างแรงจูงใจและดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น การส่งเสริมสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าสาธารณะ เป็นต้น

รองนายกรัฐมนตรีพลเอกประวิตร ได้ดูแลด้านการปลูกและเพิ่มพื้นที่ป่า และการพัฒนาตลาดซื้อขายคาร์บอน เป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน รัฐบาลมีแผนในการเพิ่มพื้นที่ปลูกป่าในประเทศ จากร้อยละ 31.8 เป็นร้อยละ 40 ในปี 2579 เพื่อเพิ่มศักยภาพการดูดซับก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นการใช้จุดแข็งของประเทศไทยที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีพันธุ์พืชที่เหมาะกับการดูดซับก๊าซเรือนกระจกสูงต่อพื้นที่หลายชนิด นอกจากนี้ รัฐบาลได้พัฒนากลไกตลาดคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย โดยกำหนดแนวทางและกลไกการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิต เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับภาคเอกชนในการลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภาคเอกชน ชุมชน และท้องถิ่นก็จะมีรายได้จากการปลูกป่า ต้นไม้ ที่เข้าร่วมโครงการซื้อขายคาร์บอนเครดิต

นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) มุ่งเน้นการใช้ความหลากหลายของทรัพยากรที่ไทยมีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยพัฒนาให้เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เชื่อมโยงกับการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ควบคู่การใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG ที่ในภาคการเกษตรและอาหาร

รัฐบาลถือว่าภาคเกษตรกรรมเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางการพัฒนาภาคเกษตรกรรมให้เข้มแข็ง ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรแบบครบวงจร เพื่อยกระดับเกษตรกรไทยเป็นการสร้าง “เกษตรอัจฉริยะ” หรือ Smart Farmer ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน เช่น เกษตรกรใช้เทคโนโลยีมาควบคุมการปลูก ทั้งการให้น้ำ ให้ปุ๋ย เฝ้าดูการเจริญเติบโตขของพืช แม้แต่ช่วยเลือกเวลาที่เหมาะสมในการรับแสงแดด

นอกจากนี้ เศรษฐกิจ BCG ยังเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ให้ความสำคัญกับอัตลักษณ์ความเป็นไทย และมรดกทางวัฒนธรรม” (Soft Power) “5F” คือ (1) Food-อาหาร (2) Film-ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ (3) Fashion-การออกแบบแฟชั่นไทย (4) Fighting-ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (5) Festival-เทศกาลประเพณีไทย มาสร้าง “มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ” จากระดับท้องถิ่นสู่เวทีระดับโลก ส่วนที่สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาที่ต่างจังหวัดนายรัฐมนตรีก็เห็นด้วย

ในส่วนของการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆเหล่านี้ รัฐบาลได้ปรับปรุงการให้สิทธิประโยชน์ ทั้งที่อยู่ในรูปภาษีและไม่ใช่ภาษี เพื่อให้เกิดการลงทุนดังกล่าว นอกจากนี้ เรื่องกำลังคนก็เป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลได้วางหลักสูตรการศึกษาและพัฒนาแรงงาน การเตรียมคน สร้างคนรุ่นใหม่ โดยจะเน้นในเรื่องของสาขาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลกมาเปิดสาขาสอนหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หลายแห่งแล้ว มีการปฏิรูปการศึกษา อย่างไรก็ดี ในระหว่างที่การพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถของคนภายในประเทศ ในอุตสาหกรรมใหม่ๆเหล่านี้ ต้องใช้เวลา

ในทุกโอกาสที่ได้พบปะผู้นำประเทศแบบทวิภาคี หรือการประชุมสำคัญๆแบบพหุภาคี นายรัฐมนตรีได้นำเสนอนโยบายเชิงรุก และแสวงหาความร่วมมือใหม่ๆ ในประเด็นหลักที่เป็น “วาระของโลก”

(1) การฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ในวันประวัติศาสตร์ เมื่อ 25 ม.ค. 2565 หลังจากห่างหายมากว่า 30 ปี โดยเริ่มเกิดความร่วมมือในการเปิดประเทศ เพื่อท่องเที่ยวไปมาหาสู่กันในทุกระดับอีกครั้ง – การส่งออกอาหาร สินค้าเกษตร และแรงงาน – การลงทุนและร่วมมือด้านพลังงาน เป็นต้น

(2) ความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น โดยนายกญี่ปุ่นมาเยือนไทย ช่วงวันที่ 1-2 พ.ค. 2565 เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือใหม่ๆ เช่น การผลักดันให้ไทยเป็น “ผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า” ในภูมิภาคและเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอันดับต้นๆ ของโลก – การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ระบบราง โครงข่ายดิจิทัล และ 5G – การพัฒนา 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายและเพิ่มการลงทุนใน EEC เป็นต้น โดยเมื่อวานได้พบกับ นายกรัฐมนตรี สปป ลาว และวันนี้ก็จะมีภารกิจร่วมกันอีก ซึ่งลาว ได้นำนักธุรกิจจำนวนมากมา นายกรัฐมนตรีพร้อมคุยกับทุกประเทศ รวมทั้ง ACMECs

นายกรัฐมนตรีย้ำว่าไทยเป็นประเทศหนึ่งใน 190 กว่าประเทศของโลกที่ได้รับการจัดลำดับให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ซึ่งไทยไม่ได้ด้อยกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งเรื่องการบินที่ได้แก้ไขปัญหา ICAO ไปแล้ว การค้ามนุษย์ IUU ประมงผิดกฎหมาย ก็สามารถแก้ไขได้แล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งหลายอย่างได้ถูกแก้ไขในรัฐบาลนี้ และล้วนเกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาลและ ส.ส. ทั้งหมด นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง เพราะมองที่ประชาชนเป็นหลัก โดยทุกอย่างยึดตามขั้นตอน อะไรที่สามารถจัดสรรให้ได้ก็จะดำเนินการให้ ซึ่งที่ผ่านมา ในหลายจังหวัดก็ได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มโดยใช้งบกลาง ซึ่งยืนยันว่าตรวจสอบได้ ดังนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะนายกรัฐมนตรีนึกถึงประชาชนและคำนึงถึงกฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ ไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์ใด ๆ ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันต่อไป และสิ่งสำคัญที่สุดคือเราจะต้องธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักแห่งชาติ เราต้องรักษาสัญลักษณ์ของความเป็นไทย ความภาคภูมิใจของคนไทยที่มีอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์สอนให้ได้เรียนรู้ สิ่งใดไม่ดีเราก็อย่าไปทำ อะไรที่ดีก็ขอให้สานต่อ เป็นความเป็นไทยที่เราจะต้องภูมิใจไปด้วยกัน ไม่อยากให้เกิดความขัดเเย้ง ซึ่งขอให้มองในหลายมิติ หลายเรื่องก็มีประโยชน์ที่รัฐบาลพร้อมรับฟังและจะปรับแผนให้เหมาะสม ยืนยันทุกอย่างทำดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่ตั้งไว้ และขอขอบคุณทุกท่านด้วยใจจริง

Advertisement

 

โฆษกรัฐบาลยืนยัน ครม.ไม่ได้มีมติให้ยกเลิกรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ใน รพ.เอกชน

People Unity News : โฆษกรัฐบาลยืนยัน! ครม. ไม่ได้มีมติให้ยกเลิกรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ใน รพ.เอกชน รัฐบาลพร้อมดูแลคนไทยที่ติดโควิด ฟรี

4 ม.ค. 65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ผ่านโซเซียลมีเดียว่า ครม. มีมติยกเลิกการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ใน รพ.เอกชน ขอยืนยันว่าเป็นเพียงข้อเสนอของหน่วยงานเพื่อการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้นำเรื่องนี้ไปพิจารณาถึงความเหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 และประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งขณะนี้ “ทุกอย่างยังคงเดิม ไม่มีการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น”

นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญสูงสุดในการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยผู้ป่วยโควิด-19 ทุกสิทธิสามารถเข้ารับการรักษาได้ทั้ง รพ.รัฐ และเอกชน ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ประชาชนไม่ต้องจ่าย และห้าม รพ. เรียกเก็บเงินเพิ่มจากผู้ป่วย ขอให้ประชาชนอย่าวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าว

Advertising

“ภท.”ถามหาจรรยาบรรณสื่อเนชั่น โยง “อนุทิน” หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูล “ชิโน-ไทย”

People Unity News : “ภูมิใจไทย”ถามหาจรรยาบรรณสื่อเนชั่น โยง “อนุทิน” หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูล “ชิโน-ไทย” ก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมโยง

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการนำเสนอข่าวกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลข้าราชการ และผู้บริหารบริษัท ชิโน-ไทย ติดสินบนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราชว่า ขอให้สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีทำหน้าที่สื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมา ตามจรรยาบรรณ

“หลังมีรายการของเนชั่นทีวีพยายามบิดเบือนสร้างความเสียหายให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยพยายามเชื่อมโยงให้นายอนุทินเกี่ยวข้องกับผู้บริหารของบริษัทซิโน-ไทย ซึ่งความเป็นจริงนายอนุทินพ้นจากการเป็นผู้บริหารบริษัทชิโน-ไทย 15 ปีแล้ว และปัจจุบันเป็นเพียงผู้ถือหุ้นที่มีจำนวนหุ้นน้อยนิด ยืนยันว่ากรณีนี้เป็นเรื่องของบริษัท ชิโน-ไทยที่ไม่เกี่ยวข้องกับนายอนุทิน แต่รายการของเนชั่นทีวีกลับนำเสนอภาพให้ประชาชนเข้าใจผิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดคดีอาญา และเชื่อว่านายอนุทินคงดำเนินคดีกับเนชั่นทีวี” รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าว

นายศุภชัย กล่าวถึงกรณีที่อภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 13 พ.ย.) ที่ระบุถึงเนชั่นทีวี ว่า ทางเนชั่นทีวีจะกล่าวว่าตนอย่างไรก็ได้ แต่อย่าเผลอหมิ่นตน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการห้องทางคดีเช่นกัน

แจง! จัดงาน “ถามมา – ตอบไป Better Thailand Open Dialogue ไม่มีการใช้งบประมาณภาครัฐ

People Unity News : 22 พฤษภาคม 2565 แจง! เวทีเสวนา “ถามมา – ตอบไป Better Thailand Open Dialogue เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่า” เป็นความร่วมมือรัฐ – เอกชน – ปชช. และใช้งบเอกชนในการจัดงาน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อกรณีกระแสข่าวการจัดงานเสวนาเวที “ถามมา – ตอบไป Better Thailand Open Dialogue เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่า” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 พ.ค. 65 ณ รอยัล พารากอน ฮอล์ สยามพารากอน ว่า ใช้งบประมาณรัฐจำนวนมากนั้น ความจริงแล้วเวทีเสวนานี้ไม่ได้ใช้งบประมาณภาครัฐในการจัด แต่เป็นความร่วมมือของสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาคมนิสิตเก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาคมนิสิตเก่าเศรษฐศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งมีการสนับสนุนงบประมาณในการจัดงานจากบริษัทในเครือกลุ่ม ปตท. และภาคเอกชนที่สนใจ จึงขอยืนยันว่า “ไม่มีการใช้งบประมาณภาครัฐแต่อย่างใด”

Advertisement

นายกฯกำชับดูแลความปลอดภัย ปชช.เดินทางช่วงสงกรานต์

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 26 มีนาคม 2567 ทำเนียบรัฐบาล – “เศรษฐา” ขอบคุณ รมต.ร่วมชี้แจง สว.วานนี้ เผย ครม.อนุมัติงบอุดหนุนค่าอาหารกลางวัน ม.1 – ม.3 งบจ้างภารโรงดูแลความปลอดภัย กำชับคมนาคมดูความปลอดภัยประชาชนเดินทางช่วงสงกรานต์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้ขอบคุณรัฐมนตรีที่เข้าร่วมการอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 รวมทั้งชี้แจงและอธิบายประเด็นต่าง ๆ ต่อสมาชิกวุฒิสภา วานนี้ (25 มี.ค.) และในวันนี้ (26 มี.ค.) ให้ผู้แทนการค้าไทยและเลขาธิการคณะทำงานส่งเสริมการลงทุนบีโอไอมาชี้แจงให้ที่ประชุมทราบว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง แต่ขอไม่ลงรายละเอียด เพราะจะแถลงข่าวอีกครั้งภายหลัง เชื่อว่ามีแต่เรื่องดี ๆ จากที่ทีมงานที่ทำงานมาอย่างหนัก

“ผมกำชับกระทรวงคมนาคมเรื่องความปลอดภัยของการเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลเรื่องความเป็นอยู่และความปลอดภัย รวมทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬาจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งตนได้เตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบก่อนเทศกาลสงกรานต์” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณอุดหนุน ค่าอาหารกลางวันของนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 ของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา และให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเรื่องไปพิจารณาต่อไป รวมทั้งอนุมัติงบประมาณสำหรับการจ้างเหมา บริการนักการภารโรงตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอเฉพาะในช่วงของปี 2568 โดยให้กระทรวงศึกษาธิการใช้งบประมาณการจ้างภารโรงอย่างคุ้มค่า โปร่งใส นอกจากนี้ยังให้นำเทคโนโลยีอย่างกล้องวงจรปิดมาช่วยดูแลความปลอดภัยทดแทนกำลังคน จากการยกเลิกครูเวรเมื่อสองเดือนก่อน

“ที่ประชุมมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงและร่างประกาศตามกระทรวงแรงงานเสนอผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาเดินทางกลับประเทศเนื่องในโอกาสประเพณีสงกรานต์ในปีนี้ และให้คณะกรรมการส่งเสริมและคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ตรวจสอบการประกาศโดยเร่งด่วน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics