วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

พล.อ.ประวิตร ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมพัฒนา ปท.อย่างยั่งยืน

People Unity News : 8 มีนาคม 2566 3 เมษายน 2566 “พล.อ.ประวิตร” ประชุม กพย. ให้ความสำคัญพลังเยาวชน-เอกชน-ภาคีเครือข่าย ควบคู่หลัก ศก.พอเพียง ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน รองรับความท้าทายใหม่  ตั้งเป้าบรรลุ กรอบ UN ปี 2030

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (กพย.) ครั้งที่1/2566 ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยที่ประชุมรับทราบสรุปผลการดำเนินงานตามแผนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับประเทศไทย (Thailand’s  SDG  Roadmap) โดยมีผลการดำเนินการ 6 ด้านหลักได้แก่ 1.การสร้างการตระหนักรู้ 2. ความเชื่อมโยงระหว่างเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน กับแผน 3 ระดับของประเทศ 3. กลไกการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน 4. การดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 5.ภาคีการพัฒนา และ 6. การติดตาม ประเมินผล

ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ออกกฎระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การขับเคลื่อน SEA มีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์เป็นรูปธรรม โดยสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐนำไปจัดทำแผนในทางปฏิบัติสอดคล้องกัน และเห็นชอบให้ปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการและคณะทำงานภายใต้ กพย. เพื่อให้การขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย ตอบสนองและรับมือกับความท้าทายใหม่

ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ผ่านคณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ภาคเอกชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน พลังเยาวชนขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน และคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของไทยตามกรอบ UN

พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณคณะทำงานที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกำชับให้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติงานตามแผนงาน อย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเยาวชน เอกชน ที่มีความรู้ความสามารถ เข้าร่วมดำเนินการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้บรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ในปีค.ศ. 2030 ร่วมกับประชาคมโลก โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอีกต่อไป

Advertisement

“ธณิกานต์”เผยรับสมัคร”เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน”ร่วมออกแบบกรุงเทพฯ

People Unity News : “ธณิกานต์”ประธานอนุฯพัฒนาการเมือง เปิดรัฐสภารับสมัคร “เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน”ร่วมออกแบบกรุงเทพฯ

วันที่ 11 พ.ย.2562 ประเทศชาติไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นความรับผิดชอบของเราทุกคน โครงการ ‘Active Citizenship : เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน’ คือ โอกาสอันดีของเยาวชนในการส่งเสียงเพื่อชาติ เสียงที่จะมีภาครัฐและผู้บริหารประเทศมารับฟัง และนำไปต่อยอดให้เป็นรูปธรรม ด้วยการมา workshop ออก idea ร่วมกับพี่ๆภาครัฐและกลุ่มการเมือง เพื่อสร้างบ้านกรุงเทพของเราร่วมกัน

น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตบางซื่อ-ดุสิต ประธานคณะอนุกรรมาธิการการสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนฯ สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวว่า คณะอนุฯ เตรียมเปิดรัฐสภาแห่งใหม่ ต้อนรับเยาวชนกว่า 250 คน ที่เข้าร่วมโครงการ ‘Active Citizenship : เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน’ ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของประเทศไทย ชื่อว่า ‘สัปปายะสภาสถาน’ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศ เยาวชนผู้เข้าร่วมทุกทีมจะได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมองกับพี่ๆนักการเมืองรุ่นใหม่ คณะรัฐมนตรีและทีมผู้บริหารประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเข้ามารับฟัง เพื่อกำหนดนโยบายจากเสียงเยาวชนอย่างแท้จริง

โครงการประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก คือ 1) Open House ให้เยาวชนมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรม workshop เปิดโลกทัศน์ใหม่ ในสถานที่ทำงานจริง รัฐสภาแห่งใหม่ 2) On Field การลงพื้นที่ทำงานจริง สำรวจ เลือกพื้นที่ใกล้ตัว จุดประกายการเปลี่ยนแปลง 3) Voice your idea นำเสนอไอเดียกับผู้มีอำนาจตัดสินใจ

สอบถามเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ – 24 พฤศจิกายนนี้ ที่ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ รัฐสภา โทร. 0-2244-2640-41 และ Facebook/เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน LINE : @ActiveCitizenship

ทส.ทุ่มงบ 445 ล้าน จ้างงานประชาชน 16,488 อัตรา อัตราละ 9,000 บาท นาน 3 เดือน

People Unity News : ทส.ทุ่ม 445 ล้าน จ้างงานประชาชน 16,488 อัตรา อัตราละ 9,000 บาท ช่วยคนตกงานจากโควิด-19

25 มิ.ย.2563 เวลา 10.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานแถลงข่าว “โครงการจ้างงานให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19” ทุ่มงบประมาณ 445,176,000 บาท จ้างงาน 16,488 อัตรา อัตราละ 9,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลาการจ้าง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2563 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ตกงาน และเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่นั้นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดศักยภาพในการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวว่า สำหรับการจ้างงานทั้งหมด แบ่งเป็น 4 หน่วยงาน คือ  1.สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในโครงการ 1 คน 1 ตำบล ร่วมใจฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 7,225 อัตรา 2.กรมป่าไม้ ทำหน้าที่ลูกจ้างผู้ช่วยงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในการปฏิบัติงานตามนโยบาย คทช. ในการสำรวจการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และโครงการจ้างงานประชาชนเพื่อฟื้นฟูป่าหลังถูกไฟไหม้ “สร้างป่า สร้างงาน สร้างรายได้” จำนวน 5,058 อัตรา 3.กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทำหน้าที่ลูกจ้างผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำแหล่งอาหารของสัตว์ป่า จำนวน 3,500 อัตรา 4.กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในโครงการจ้างสำรวจพื้นที่ใช้ประโยชน์ในเขตป่าชายเลน จำนวน 675 อัตรา

นอกจากนี้ ยังได้แถลงข่าวในประเด็นการเปิดอุทยานแห่งชาติ โดยบริหารการท่องเที่ยวแบบ New normal ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 นี้ ซึ่งมีอุทยานแห่งชาติที่เปิดทุกแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 64 แห่ง และอุทยานแห่งชาติที่เปิดให้เที่ยวบางส่วน 63 แห่ง และต้องจองล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ ก่อนการท่องเที่ยว

สำหรับประเด็นการรื้อถอนอาคาร บอมเบย์เบอร์มา รมว.ทส. ได้กล่าวขอโทษพี่น้องชาวจังหวัดแพร่ และจะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก รวมถึงขอยืนยันว่าไม้สักจากการรื้อถอน ยังอยู่ครบถ้วน มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ได้ถูกนำไปขายตามที่มีการกล่าวหาในโลกโซเชียลแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้ประสานกับกรมอุทยานฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวจังหวัดแพร่ในการหารือร่วมกันฟื้นฟูอาคารหลังนี้กลับมาขึ้นใหม่ มั่นใจจะฟื้นฟูอาคารแห่งนี้กลับมาได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และฝากให้ทุกหน่วยงานในสังกัด สำรวจอาคารเก่าที่มีคุณค่า ว่าหากต้องซ่อมแซมจะมีแนวทางการซ่อมแซมอย่างไร ต้องหารือหน่วยงานใดบ้าง ซึ่งจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ประกอบด้วย

Advertising

อาเซียน-เกาหลีหนุนภาคเอกชนสร้างความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ

People Unity News : “บิ๊กตู่”ร่วมประชุม ASEAN-ROK CEO Summit ที่เกาหลี พร้อมหารือทวิภาคี ปธน.เกาหลีใต้ทำ MOU เทคโนโลยี แรงงาน หนุนลงทุนใน EEC เผย “อาเซียน-เกาหลี” พร้อมสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นนครปูซาน ที่อาคารนิทรรศการ 2 ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนครปูซาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมพิธีเปิดและกล่าวถ้อยแถลงแสดงความยินดีในการประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN-ROK CEO Summit) สรุปสาระสำคัญดังนี้

การประชุม ASEAN-ROK CEO Summit เป็นเวทีสำคัญให้ผู้นำ และภาคเอกชนอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีหารือเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจในภูมิภาค โดยมีผู้นำอาเซียน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ผู้แทนภาคธุรกิจสำคัญ อาทิ ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และเมียนมา ฯลฯ โดยมีนายไพรัช บูรพชัยศรี รองประธานหอการค้า เข้าร่วมในฐานะผู้แทนไทย

ไทยในฐานะประธานอาเซียน ให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ การส่งเสริมความยั่งยืนในทุกมิติ โดยสาธารณรัฐเกาหลีถือเป็นหนึ่งในคู่เจรจาสำคัญของอาเซียน การอำนวยความสะดวกทางการค้าเป็นสิ่งที่อาเซียนไม่เคยมองข้ามและให้ความสำคัญ ซึ่งในอนาคตสามารถขยายความเชื่อมโยงไปยังประเทศคู่เจรจาได้ โดยอาเซียนพร้อมสนับสนุนการสร้างความเชื่อมโยงทางการค้าดิจิทัล รวมทั้งผลักดันให้เกิดความเชื่อมโยงภายในภูมิภาคผ่านการลดอุปสรรคทางการค้า นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญกับการบรรลุความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้กับภาคธุรกิจ เกิดการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน

อาเซียนตระหนักดีถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ที่ถือเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยอาเซียนเห็นพ้องให้มีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดตามที่ระบุในแผนปฏิบัติการ ภาคเอกชนอาเซียนได้วางเป้าหมายการพัฒนา ดังนี้

หนึ่ง การพัฒนาแรงงานทักษะฝีมือ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเทคโนโลยี

สอง การเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางดิจิทัล ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และการสร้างความเชื่อมโยงทางดิจิทัลในอาเซียน

สาม ความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม

สี่ การส่งเสริมกลไกความร่วมมือทางการค้า โดยเฉพาะความร่วมมือภาคเอกชน

ภาครัฐสนับสนุนให้ภาคเอกชนใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้กรอบ FTA อาเซียน-เกาหลี โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ที่สาธารณรัฐเกาหลีมีความโดดเด่น อาทิ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่อาเซียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

หารือทวิภาคี ปธน.เกาหลีใต้ทำ MOU เทคโนโลยี แรงงาน หนุนลงทุนใน EEC

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @DrNarumonP ว่า หลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย และนายมุน แช อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ 3 ฉบับ ได้แก่

1.บันทึกความเข้าใจระหว่าง กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ไทยกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เกาหลีใต้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านการวิจัยพัฒนาการดำเนินโครงการร่วมกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ไทยในการได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ของเกาหลีใต้

2.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อเป็นโอกาสในการสนับสนุนการพัฒนาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ ส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจพื้นที่ EEC และส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

3.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ กำหนดให้มีการประชุมระหว่างผู้ปฏิบัติของทั้งสองหน่วยงานอย่างสม่ำเสมอ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้แรงงานไทยเดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย

“บิ๊กป้อม” กลับมาแล้ว หลังหายตัวไปหลายวัน

People Unity : หลังจากที่ในช่วงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม หายตัวไป ซึ่งบางกระแสข่าวบอกว่าแอบเดินทางไปต่างประเทศเพื่อรักษาตัวจากปัญหาสุขภาพ แต่ไม่รู้จุดหมายว่าไปที่ไหน ขณะที่บางกระแสข่าวบอกว่า พล.อ.ประวิตร ไปยาว โดยจะไม่รับตำแหน่งใน ครม.ชุดใหม่

ล่าสุด วันนี้ 19 มิถุนายน 2562 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กลับมาปรากฏตัวเป็นประธานประชุมคณะกรรมการสภาการศึกษาวิชาการทหาร ณ ศาลาว่าการกลาโหม ซึ่งที่ประชุมวันนี้ เห็นชอบปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนนายร้อยเหล่าทัพ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปัจจุบัน และแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการศึกษา โดยเน้นภาวะผู้นำที่ต้องมีองค์ความรู้ ควบคู่กับคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้สอดรับกับพลวัตทางการศึกษาที่เป็นสากล โดย พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำขอให้เสริมการศึกษาภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารในอนาคต

การเมือง : บิ๊กป้อม กลับมาแล้ว หลังหายตัวไปหลายวัน

People Unity : post 19 มิถุนายน 2562 เวลา 21.40 น.

 

“จุรินทร์” ยัน ปชป. ไม่หนุน “กัญชาเสรี”

People Unity News : 25 ตุลาคม 2565 “จุรินทร์” ยัน ปชป. ไม่หนุน “กัญชาเสรี” ชี้ แต่ละพรรคมีจุดยืนของตนเอง แต่ยังคุยกับ “อนุทิน” ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล

นายจุรินทร์​ ลัก​ษ​ณ​วิศิษฏ์​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พาณิชย์​ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ กล่าวถึงนโยบายกัญชาเสรีว่า ได้พูดไปชัดเจนแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์​ สนับสนุนกัญชาเพื่อการเเพทย์​ แต่ไม่สนับสนุน​เรื่องกัญชาเสรี​ เพราะฉะนั้น​พรรคจะใช้หลักนี้ในการพิจารณา​ เพราะมองว่ากัญชาเสรีจะสร้างปัญหา​ให้กับประเทศในอนาคตระยะยาว​ จึงเป็นที่มาในการกำหนดหลักเกณฑ์​ที่เราจะไม่สนับสนุนกัญชาเสรี​ แต่ว่าสนับสนุนกัญชาที่จะนำไปใช้ทางการแพทย์​

ส่วนจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์​ จะส่งผลกระทบ​ต่อความสัมพันธ​ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์​และพรรค​ภูมิใจ​ไทย​หรือไม่​ ​ นายจุรินทร์​ ไม่ได้ตอบคำถาม​ แต่ย้ำว่าหลักใหญ่จะต้องคำนึงถึงประโยชน์​ของประเทศ​ ต้องให้ประเทศเดินหน้าเป็นหลัก​ ขณะที่การพูดคุยกับนายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล รองนายกรัฐมนตรีและ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข​ ในฐานะ​หัวหน้า​พรรค​ภูมิใจ​ไทย​ ก็คุยกันในฐานะพรรคร่วม​รัฐบาล​ แต่จุดยืนทางการเมืองของแต่ละพรรค​ เชื่อว่าทุกพรรคมีจุดยืนเป็นของตัวเอง​ และพรรคประชาธิปัตย์​ก็มีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องนี้

Advertisement

“เทวัญ”เร่ง”สคบ.”เคลียร์คดีสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน

People Unity News : “เทวัญ”นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เร่งเคลียร์คดีสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ช่วยผู้เสียหาย ตามนโยบาย สคบ. เชิงรุก

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 5/2562 ณ ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และร่างคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ที่ประชุมยังได้พิจารณาการดำเนินคดีด้านอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 29 เรื่อง ซึ่งส่วนมากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการเช่าซื้อห้องชุดและบ้านที่อยู่อาศัยก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยขอให้มีการดำเนินคดีทางแพ่งและเร่งรัดให้ดำเนินการยุติโดยเร็ว นอกจากนี้ ที่ประชุมมีการพิจาณาดำเนินคดีด้านสินค้าและบริการ จำนวน 18 เรื่อง โดยส่วนมากเป็นเรื่องของการซื้อสินค้าและบริการแล้วไม่ได้ตามที่โฆษณาไว้ โดยอาจมีสินค้าชำรุด บกพร่อง เสียหาย

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ ทั้งเรื่องการดำเนินคดีกรณีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีการลักลอบจำหน่ายเป็นวงกว้าง แม้ที่ผ่านมา สคบ. ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถจับกุมการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์รายใหญ่ได้ก็ตาม และย้ำให้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลและรายละเอียดการขอสินเชื่อบ้าน ที่ครอบคลุมถึงการทำสัญญาระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เพราะมีผ่านมามีกลุ่มผู้บริโภคต้องการซื้อบ้าน มีการวางมัดจำแต่สินเชื่อไม่ผ่าน และไม่สามารถเรียกเงินคืนจากโครงการขายได้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้แต่ละคณะตรวจสอบเรื่องตกค้างที่ร้องมาเป็นระยะเวลานาน หรือเรื่องที่ค้างการพิจารณา ให้รีบดำเนินการนำเรื่องต่างๆ อย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะมีบางเรื่องที่ร้องเรียนมานานแล้วยังไม่ได้รับการพิจารณา

“จุรินทร์”ลั่นปชป.ต้องเปลี่ยน! เล็งฟื้นปักษ์ใต้ สร้างยุวประชาธิปัตย์

People Unity News : พรรคประชาธิปัตย์จัดการอบรม Avengersหลักสูตรผู้นำภาคใต้ “จุรินทร์”ลั่นปชป.ต้องเปลี่ยน เตรียมฟื้นปักษ์ใต้ พาพรรคสู่ยุค”ประชาธิปไตยกินได้” ขายของจริง ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่เพื่อประชาชน “นิพนธ์” หนุนสร้างยุวประชาธิปัตย์สืบสานอุดมการณ์พรรค

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ห้องประชุมนพรัตน์ โรงแรมมาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์จัดการอบรม Avengersหลักสูตรผู้นำภาคใต้ “ขุนพลประชาธิปัตย์ อุดมการณ์ ทันสมัย” โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในพิธีเปิด มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาผู้แทนราษฎร อดีตหัวหน้าพรรค และประธานที่ปรึกษาพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค กรรมการสาขาพรรค และสมาชิกพรรค ในพื้นที่ภาคใต้เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้เปิดการอบรม Avengers หลักสูตรผู้นำภาคใต้ โดยมีกรรมการบริหารสาขาพรรค และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จากภาคใต้ เข้าร่วมรับการอบรมร่วม 250 คน ซึ่งหลักสูตรการอบรม ประกอบด้วย การบรรยายพิเศษจากนายจุรินทร์ ในหัวข้อ “ประชาธิปัตย์ อุดมการณ์ ทันสมัย” และในเรื่องของบทเรียนการเมืองไทยและการปฏิบัติตน ในฐานะนักประชาธิปไตย จากนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรค รวมไปถึง “ทำได้ไว ทำได้จริง” จากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และยุทธศาสตร์ประชาธิปไตยเพื่อคนใต้ โดยนายองกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค และจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ในหัวข้อ “อภิสิทธิ์ คิดด้วยกัน” พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ ผู้เข้ารับการอบรมร่วมแสดงความคิดเห็น และนำเสนอต่อพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการจัดอบรม Avengers ผู้นำภาคใต้ครั้งนี้ มีกำหนดการอบรม สมาชิกพรรค ปชป.ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 25 – 27 พฤศจิกายน 2562

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนอดีตเพราะประการที่หนึ่งไม่ได้มี สส. 160 แต่ามีแค่ 53 ประการที่สองไม่ใช่แกนนำจัดตั้งรัฐบาลแต่เป็นแค่พรรคร่วมรัฐบาล และประการที่สาม ไม่ได้มี 40- 50 เสียงในภาคใต้อีกต่อไป แต่เหลือแค่ 22 ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง โจทก์ของเราจึงต้องมาช่วยกันหาคำตอบว่าทำอย่างไรเราจึงจะฟื้นปักษ์ใต้กลับคืนมา ซึ่งต้องฝากทุกคนช่วยคิด

“แต่สำหรับตน คำตอบแรกก็คือเราต้องไม่ทำเหมือนเดิมเพราะถ้าทำเหมือนเดิม คำตอบของเราก็จะออกมาเหมือนเดิม มาถึงวันนี้เราคิดว่าเราไม่มีทางเลือก เราต้องจับมือกันเดินหน้าไปด้วยกันด้วยความเป็น “อเวนเจอร์ส” สู่ความเปลี่ยนแปลง โดยประการที่หนึ่งต้องทำให้คนปักษ์ใต้เห็นให้ชัดว่าประชาธิปัตย์วันนี้มีความเปลี่ยนแปลง หัวใจสำคัญคือเปลี่ยนที่การกระทำไม่ใช่คำพูด ต้องทำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ เน้นการทำและทำที่ว่าคือทำเพื่อประชาชน ทำในสิ่งที่เป็นรูปธรรม และทำได้ไว ทำได้จริง” นายจุรินทร์ กล่าวและว่า

พิสูจน์ตั้งแต่การร่วมรัฐบาลเงื่อนไข 3 ข้อมาวันนี้ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะประกันรายได้ ทั้งปาล์ม ทั้งยาง เริ่มปรากฏผลให้เห็นชัดแล้ว นอกจากเงินส่วนต่างวันนี้ปาล์มขึ้นไปแล้ว กิโลละกว่า 4 บาท ส่วนยางแม้ยังช้าอยู่บ้าง เพราะการตรวจสวนของการยางยังล่าช้า แต่หลังการตรวจสวนงวดแรกแล้วการโอนเงินงวดต่อไปจะได้เร็วในทันที และผู้ถือบัตรสีชมพูแม้ยังมีอุปสรรคบ้างแต่ยืนยันจะสู้ให้ต่อไป ประชาธิปัตย์ยุคใหม่จึงไม่เน้นประชาธิปไตยอย่างเดียว แต่ต้องเป็น “ประชาธิปไตยกินได้” ขายของจริง!!! และพร้อมตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่อย่างมุ่งมั่น เข้มแข็งต่อไปเพื่อประชาชน

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน พรรคต้องเตรียมความพร้อมเสมอ ทั้งการสร้างผลงานและการบริหารจัดการ จึงเป็นที่มาที่นัดประชุมอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งการรับสมัครสมาชิกพรรค การจัดตั้งสาขาพรรค ตัวแทนจังหวัด การเตรียมการเรื่องกิจกรรมต่างๆของพรรคในแต่ละภาค แต่ละเขตเลือกตั้ง แต่ละพื้นที่และแน่นอนสำหรับภาคใต้ที่มีพื้นฐานที่เคยเข้มแข็งก็ต้องทำให้เร็ว เพื่อเตรียมฟื้นปักษ์ใต้ต่อไป

“นิพนธ์”แนะสร้างยุวประชาธิปัตย์สืบสานอุดมการณ์พรรค

นายนิพนธ์ ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การกระจายอำนาจ กับพรรคประชาธิปัตย์” กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความจำเป็น ต้องสร้างคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่า”ยุวประชาธิปัตย์” เพื่อสืบสานอุดมการณ์ของพรรค มิเช่นนั้นเราก็จะเสียฐานเสียงคนรุ่นใหม่ให้กับพรรคอื่น ซึ่งนายสรรเสริญ สมะลาภา กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็กำลังเร่งดำเนินการในเรื่องนี้

นายกฯ เลือกอีก 4 มูลนิธิ ส่งต่อเงินเดือน-เงินประจำตำแหน่งให้

People Unity News : 17 พฤศจิกายน 2566 ทำเนียบ – โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ คัดเลือกมูลนิธิเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง ส่งต่อเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ต่อยอดโอกาส เพื่อกลุ่มเปราะบาง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า สืบเนื่องจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศส่งต่อเงินเดือน และเบี้ยประชุมของทุกเดือน ให้มูลนิธิต่างๆ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง นั้น สำหรับเงินเดือนประจำตำแหน่ง และเบี้ยประชุมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้คัดเลือกมูลนิธิเพิ่มเติมอีกจำนวน 4 แห่ง โดยมูลนิธิที่นายกรัฐมนตรีส่งต่อ คือ

1.มูลนิธิคนพิการไทย จำนวน 50,000 บาท เพื่อสมทบทุนในโครงการ “เป็นแขน-ขาให้ตากะยาย” โดยผลิตวีลแชร์ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กพิการ คนพิการ และผู้สูงอายุทั่วประเทศ

2.มูลนิธิอิสรชน จำนวน 50,000 บาท ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินกิจกรรมกับผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะในประเทศไทย เพื่อดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือ การแบ่งปันอาหาร หรือมอบถุงปันสุขให้แก่คนด้อยโอกาส และผู้ยากไร้ในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ

3.มูลนิธิสายธารสุขใจ จำนวน 50,000 บาท เพื่อสมทบทุนในการซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง และจัดหาสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับผู้ชรา และคนยากไร้

4.มูลนิธิบ้านพระพร จำนวน 50,000 บาท เพื่อให้การช่วยเหลือ และเป็นทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนผู้พ้นโทษ และเด็กที่พ่อแม่อยู่ในเรือนจำ เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“นอกจากการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง นายกรัฐมนตรีและคณะของรัฐบาล ยังมีการลงพื้นที่เพิ่มเติมในหลายๆ พื้นที่ เช่น จังหวัดยโสธร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น โดยเข้าไปพบปะ พูดคุยกับประชาชนและองค์กรต่าง ๆ รับฟังปัญหาและความต้องการ เพื่อจะหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

“รมว.เฮ้ง” เตรียมนำเข้าแรงงานต่างด้าวทำงานไป-กลับ หรือตามฤดูกาลพื้นที่ชายแดน 8 จังหวัด

People Unity News : “รมว.เฮ้ง” รับข้อสั่งการ “ศบค.” เตรียมเปิดนำเข้าแรงงานต่างด้าวตาม ม.64 ทำงานไป-กลับ หรือตามฤดูกาลในพื้นที่ชายแดน 8 จังหวัด

20 ก.พ. 65 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน มีข้อสั่งการให้กระทรวงแรงงาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินมาตรการการนำเข้าแรงงานต่างด้าว เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างรัดกุม เข้มงวด และครบถ้วน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย กระทรวงแรงงานจึงเร่งวางแนวทางการนำคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา และกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานบริเวณชายแดนในลักษณะไป – กลับ หรือตามฤดูกาลในพื้นที่ความตกลงว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศทั้งสอง ( มาตรา 64) หลังจากสำรวจความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าวของนายจ้าง สถานประกอบการ และพบความต้องการจ้างแรงงานในพื้นที่ 8 จังหวัด จำนวน 32,479 คน จึงมอบหมายกรมการจัดหางานเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามมาตรา 64 ต่อไป

“กระทรวงแรงงาน มีการเปิดให้นำเข้าแรงงานชาวกัมพูชามาทำงานตามฤดูกาลกับผู้ปลูกลำไยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา พบมีนายจ้างสถานประกอบการนำเข้าแรงงาน จำนวน 708 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว จำนวน 1,856 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ก.พ. 65) ซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและประเมินแล้วว่ามีความพร้อมที่จะเปิดนำแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา และเมียนมาเข้ามาทำงานตามมาตรา 64 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ. ศ. 2560 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่ 8 จังหวัด แบ่งเป็น สัญชาติกัมพูชาในพื้นที่ 4 จังหวัดได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว และตราด สัญชาติเมียนมา ในพื้นที่ 4 จังหวัดได้แก่ เชียงราย ตาก กาญจนบุรี และระนอง โดยดำเนินการตามแนวทางเดียวกับการนำแรงงานกัมพูชาทำงานในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

Advertising

Verified by ExactMetrics