วันที่ 14 กันยายน 2025

ไม่เลื่อนแบนสารพิษเด็ดขาด! “อนุทิน”ยันเดินตามมติ กก.วัตถุอันตราย

People Unity News : ไม่เลื่อนแบนสารพิษเด็ดขาด! “อนุทิน” ยันเดินตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ไม่สนสหรัฐฯตัดจีเอสพีการค้าไทยอ้างแก้ปัญหาสิทธิแรงงานเหลว ลั่นอย่าเอามาโยงกัน

วันที่ 29 ต.ค.2562 จากกรณีที่มีความกังวลกันว่ามติคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่ให้ยกเลิกสารพิษ อาจเป็นเหตุให้ประเทศไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหรัฐฯนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขออย่านำเรื่องดังกล่าวเชื่อมโยงกับกรณีที่สหรัฐฯ สั่งยกเลิกสั่งยกเลิก GSP กับประเทศไทย ต้องแยกเป็นคนละเรื่องกัน ส่วนการเดินหน้าของทุกภาคส่วนในการแบนสารพิษนั้น ล้วนทำเพื่อให้ประชาชนมีสุขอนามัยที่ดีปราศจากสารพิษ และไม่ให้มีสารพิษปนเปื้อนอยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ส่วนตัวขอยืนยันว่า ไม่มีเรื่องใดต้องกังวล การดำเนินการแต่ละอย่างมีขั้นตอนที่ต้องรายงานต่อนายกรัฐมนตรีให้รับทราบเป็นระยะ

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มเกษตรกรเตรียมยืนร้องศาลปกครองให้ยกเลิกแบน 3 สารเคมี นายอนุทิน ตอบว่า เป็นสิทธิ์ของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย แต่ยืนยันว่าขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามข้อมูลที่ได้รับ เพื่อดูแลประชาชนให้ปลอดภัยจากสารพิษ

นักข่าวถามต่อถึงกระแสข่าวเรื่องมีข้อเสนอให้ขยายเวลาการเริ่มต้นแบนสารพิษไปอีก 6 เดือน จากที่ควรเริ่มต้นในวันที่ 1 ธันวาคมปีนี้ เป็นให้แบนในช่วงกลางปีหน้า นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้เนื่องจากมีมติจากคณะกรรมการวัตถุอันตรายออกไปแล้ว และคณะกรรมการนี้ก็อยู่ภายใต้กฎหมาย

“เรื่องที่มันเกี่ยวกับสุขภาพ มันจะรอได้หรือ สารพิษดังกล่าวไม่ได้อยู่แค่เพียงในผักผลไม้เท่านั้น แต่มีอยู่ทุกที่ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน”

 

“เฉลิมชัย”จับมือกมธ.เซี่ยงไฮ้ร่วมมือใช้ไอทีสมัยใหม่พัฒนาเกษตร

People Unity News :  “เฉลิมชัย”จับมือ คณะกรรมาธิการเกษตรเซี่ยงไฮ้ เร่งผลักดันพัฒนาศักยภาพภาคการเกษตรร่วมกัน ผ่านการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และการฝึกอบรมกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ เข้าพบหารือกับคณะกรรมาธิการเกษตรเซี่ยงไฮ้ เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาภาคการเกษตรร่วมกัน โดยฝ่ายจีน แจ้งว่า เซี่ยงไฮ้ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรมาก โดยมีนโยบายหลักในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในภาคเกษตรในทุกมิติ ตั้งแต่ การบริหารจัดการน้ำและดิน การคัดเลือกพันธุ์ การปลูก การดูแลและการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ใช้พื้นที่เกษตรน้อยแต่ได้ผลผลิตมาก โดยเน้นการฝึกอบรม ให้ความรู้ แก่เกษตรกรรุ่นใหม่ การผลักดันการจ้างงาน การบริหารจัดการรายได้ให้เกษตรกรรายบุคคล และการให้สวัสดิการด้านสุขภาพต่างๆ เพื่อดึงแรงงานกลับภาคการเกษตร แก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานจากปัญหา Aging Society ทั้งนี้ ยังเน้นในเรื่อง การรวมกลุ่มพื้นที่ในทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ระบบสหกรณ์ และสินค้าเกษตรปลอดภัยที่ลดการใช้สารเคมี และยาปราบศัตรูพืช

ฝ่ายไทยแจ้งว่า ไทยมีนโยบายปฏิรูปภาคการเกษตร ที่สอดคล้องกับแนวทางของจีน อาทิเช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคเกษตร ผ่านการฝึกอบรมเกษตรกรที่อายุไม่เกิน 45ปี นโยบายตลาดนำการผลิต ผ่านระบบสหกรณ์ และการทำ Zoning พื้นที่เกษตร โดยฝ่ายไทยมุ่งเน้นในเรื่องสินค้าเกษตรปลอดภัย และการปรับปรุงมาตรฐานการตรวจสอบสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้ สองฝ่ายมีความยินดีที่จะมีความร่วมมือกันในด้านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี และการฝึกอบรมระหว่างเกษตรกรของสองประเทศ

“เทคโนโลยีสมัยใหม่ และการให้องค์ความรู้แก่เกษตรกร ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาภาคการเกษตรของทั้งสองประเทศ ซึ่งสองฝ่ายพร้อมจะมีการแลกเปลี่ยนระหว่างกันในเร็ววันนี้” นายเฉลิมชัย กล่าว

ปธ.วิปรัฐบาลเป่านกหวีด! พร้อมถกญัตติทั้งกมธ.ศึกษาแก้รธน.

People Unity News : “วิรัช”กำชับ ส.ส.รัฐบาลเตรียมความพร้อม พิจารณาญัตติตั้ง คณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ห่วง “สิระ – ปารีณา” กระทบภาพลักษณ์พรรค เพื่อไทยชู”โภคิน”นั่งประธานกมธ.แก้รธน. “เทพไท”เย้ยอ้าปากก็เห็นไส้ติ่ง พรรคที่ไม่จริงใจ แก้ รธน.หรือไม่

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ญัตติเพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ น่าจะมีการพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ โดยกำชับกับวิปทุกพรรคฝ่ายรัฐบาลเตรียมความพร้อมวันพุธนี้เวลา 15 นาฬิกา โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เตรียมความพร้อม โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด กลุ่มจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่จะมาชี้แจง เลื่อนไปประชุมวันเสาร์แทน

ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานกรรมาธิการ นายวิรัชกล่าวว่า นายไพบูลย์ก็อยู่ในรายชื่อผู้ที่จะเป็นแคนดิเดต มีโอกาสเป็นประธานกรรมาธิการได้ และยังมีอีกหลายคนอาทิ นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ จนไปถึงนายสุชาติ ตันเจริญ ก็มีความเหมาะสมในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1

สำหรับกระแสกระแสวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ที่กระทบถึงภาพลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ นายวิรัชกล่าวว่า คงมีการหารือกันในที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐวันพรุ่งนี้ ซึ่งบุคคลทั้งสองเป็นคนตั้งใจทำงาน แม้บางครั้งผิดพลาดบ้างก็พยุงขึ้นมาแล้วพากันเดินไป เพื่อ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐคงไม่ซ้ำเติมกัน มีอะไรก็ต้องช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน

ส่วนกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ให้ดูจากยอดกดไลค์แฟนเพจ 4 ถึง 5 แสนคน ก็ต้องยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจ ส่วนเรื่องการปรับภาพลักษณ์ต้องถามหัวหน้าพรรค ยังไม่มีการหารือกันว่าจะมีการเปลี่ยนตัวบุคคลทั้งสองออกจากคณะกรรมาธิการหรือไม่

“สิระ” เลื่อนปลด “เสรีพิศุทธ์” รอ “ไพบูลย์” เข้ากรรมาธิการก่อน

นายสิระ เปิดเผยว่า จะยังไม่มีการเสนอให้ปลดพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ออกจากตำแหน่งประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่จะมีการประชุมช่วงเช้าวันพุธนี้ เพราะต้องรอให้มีการเสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการในช่วงบ่าย เพื่อให้มีเสียงในคณะกรรมาธิการครบ 15 เสียง แล้วสัปดาห์ถัดไปจึงจะเสนอให้มีการลงมติในที่ประชุมกรรมาธิการ ว่าจะให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการต่อหรือไม่

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการสิสามัญศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ในส่วนของพรรคเพื่อไทย มีความคืบหน้า 90% แล้ว คาดว่าพรุ่งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ โดยมีรายชื่อหลักๆ อาทิ นายโภคิน พลกุล นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายชัยเกษม นิติศิริ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายวัฒนา เมืองสุข นายนพดล ปัทมะ นายจตุพร เจริญเชื้อ รวมถึงตนเอง ส่วนคนที่ 9 อยู่ระหว่างที่ประชุม ว่า จะเป็นใคร ระหว่าง นายอุดมเดช รัตนเสถียร หรือ นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ

เพื่อไทยชู”โภคิน”นั่งประธานกมธ.แก้รธน.

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า วิปฝ่ายค้านจะประชุมกันในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับบุคคลที่จะมาดำรงประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา มีความเหมาะสม แต่ในภาพรวมคิดว่า ประธานกมธ.ควรมาจากบุคคลที่เป็นกลางหรือฝ่ายค้านที่มีความตั้งใจอยากแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเชื่อว่า จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญประสบความสำเร็จได้รับความร่วมมือ

“เทพไท”เย้ยอ้าปากก็เห็นไส้ติ่ง พรรคที่ไม่จริงใจ แก้ รธน.

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้าพรรคการเมืองเปิดชื่อกรรมธิการออกมาแล้ว ก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีความจริงใจในการศึกษาปัญหาและแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือตั้งคณะกรรมการชุดนี้หรือไม่ เท่าที่ปรากฎรายชื่อออกมา บ่งบอกให้เห็นได้ว่า บางพรรคต้องการแค่พิธีกรรมเพื่อให้เห็นว่าได้ทำตามนโยบายที่ประกาศไว้แล้ว อย่าว่าแต่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่เลย อย่างนี้ต้องเรียกว่า อ้าปากก็เห็นถึงไส้ติ่งด้วยซ้ำไป

“พล.อ.ประวิตร” ขอหน่วยงาน-ผู้ประกอบการ เข้มปลอดภัยฮาโลวีนในไทย

People Unity News : 31 ตุลาคม 2565 พรรคพลังประชารัฐแสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมที่อิแทวอน “พล.อ.ประวิตร” ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง-ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ เข้มมาตรการความปลอดภัยเทศกาลฮาโลวีนในไทย

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยวานนี้ (30 ตุลาคม 2565) ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ติดตามข่าวโศกนาฏกรรมในเทศกาลฉลองวันฮาโลวีน ที่ย่านอิแทวอน กรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไทยกับเกาหลีใต้มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างใกล้ชิดมานานกว่า 60  ปี มีความสัมพันธ์ในระดับประชาชนอยู่ในระดับที่ดี โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เดินทางมาไทย และนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปเกาหลีใต้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร จึงขอให้หน่วยงานต่างๆ ดูแลความปลอดภัยในการจัดงานเทศกาลฉลองวันฮาโลวีนในประเทศไทย โดยเฉพาะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ผู้จัดงานต่างๆ คำนึงถึงความปลอดภัย ประเมินสถานการณ์ผู้เข้าร่วมงานเป็นระยะ และตรวจสอบมาตรการรักษาความความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเป็นสถานประกอบการแบบปิด ต้องตรวจตราระบบไฟ ประตู ทางหนีไฟให้พร้อมใช้งานได้ดีอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้าย

Advertisement

เลขาฯพระปกเกล้า ชี้เลือกตั้งท้องถิ่นเป็นเครื่องมือสร้างประชาธิปไตยระดับชาติ

People Unity News : 28 กันยายน 2565 “วุฒิสาร”  ชี้การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรง สร้างประชาธิปไตย โจทย์สำคัญแก้ปัญหาของคนในชุมนุม ยกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สร้างปรากฎการณ์สะท้อนสิทธิประชาชน

นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า  กล่าวในเวทีสัมมนาสาธารณะ “การประเมินผลการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น”  ที่จัดโดย สถาบันพระปกเกล้า  ว่าการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่สำคัญสุดของระบอบประชาธิปไตย โดยเฉพาะประชาธิปไตยแบบตัวแทน   กลไกการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือที่ให้อำนาจกับประชาชน ในการกำหนดคนที่จะมาเป็นตัวแทน ไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือท้องถิ่น ดังนั้นหากสามารถทำให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นแบบ Free and Fair  ทุกคนกาบนเสรีภาพทางความคิด  ปราศจากเงื่อนไข  อามิสสินจ้าง มีกลไกควบคุมการปฏิบัติอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม กลไกการตรวจสอบต้องมีประสิทธิภาพที่จะชี้ให้เห็นว่าการเลือกตั้งบริสุทธ์ยุติธรรมทั้งนี้การเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นเครื่องมือการสร้างประชาธิปไตยท้องถิ่นเพื่อไปสู่การสร้างประชาธิปไตยระดับชาติ

การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเป็นการเลือกตั้งโดยตรง เมื่อพื้นที่เล็ก ความใกล้ชิดพื้นที่ ทำให้การตัดสินใจง่าย ขณะที่อำนาจในการถอดถอนตามกฎหมายยังมีข้อจำกัดทั้งเงื่อนเวลาการดำรงตำแหน่งและจำนวนประชาชนเข้าชื่อ พร้อมมองว่าการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรง เป็นโจทย์สำคัญในการแก้ปัญหา พร้อมยกตัวอย่างการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีปรากฎการณ์ใหม่ เช่น แคนติเดตที่น่าสนใจจำนวนมากที่มีข้อเสนอทางนโยบายที่เป็นรูปธรรม และทำให้ประชาชนจับต้องได้ และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งในพื้นที่และภาพรวม โดยมีนโยบายที่จะนำไปสู่การพัฒนาการเลือกตั้งท้องถิ่นในอนาคตต้องมีนโยบายและทิศทาง

นายวุฒิสาร มองว่าการเลือกตั้งทางตรงแม้จะมีข้อดี แต่ยังมีข้ออ่อน เช่น ทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น ทำให้การต่อสู้กันรุนแรงขึ้น  โดยเฉพาะในพื้นที่เล็ก จะทำให้การจัดเลือกตั้งยาก ทั้งนี้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง อบจ.  เทศบาล  อบต. ที่ผ่านมาหลังถูกแช่แข็งมา 6-7 ปี  พบว่าประชาชนตื่นตัว ออกมาใช้สิทธิ์มาก ผู้สมัครหน้าใหม่และคนรุ่นใหม่ลงสมัคร โดย 60-70% ที่คนหน้าใหม่ได้รับเลือกตั้ง  สะท้อนว่าการเลือกตั้งไม่ใช่การส่งต่อมรดก  และบทบาทนักการเมืองท้องถิ่นเด่นชัด  ทำให้การเลือกตั้งเปลี่ยน และโจทย์ใหม่คือต้องทำให้หลังการเลือกตั้งจบลงยังเกิดความสามัคคี  ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนในชุมชน

Advertisement

พรุ่งนี้ ประยุทธ์ ลงพื้นที่ ยะลา-ปัตตานี ติดตามงานพัฒนา “เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง” ชายแดนใต้

People Unity News : ประยุทธ์ ลงพื้นที่ จ.ยะลา – ปัตตานี ติดตามงานพัฒนา “เศรษฐกิจ – สังคม – ความมั่นคง” พื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ 15 ธ.ค. นี้

14 ธ.ค.64 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ยะลา และปัตตานี เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ วันที่ 15 ธ.ค.นี้

ประเด็นสำคัญในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เช่น

การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ผ่านโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” การแก้ไขปัญหาโควิด-19 และการเตรียมการภายหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมเชิงพื้นที่ในพื้นที่ เป็นต้น

นอกจากนี้ จะเปิดปฏิบัติการ “การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้” ภายใต้กรอบแนวทาง “1 ข้าราชการ ศอ.บต. 1 ครัวเรือนยากจน”

สำหรับภารกิจในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จะตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการโครงการจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมืองปูทะเลโลก ณ ศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูทะเล ซึ่งดำเนินการตามกรอบแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

ปูทะเลเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดใหม่ ที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ร่วมกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่

Advertising

“นิพนธ์”เผย 3 กระทรวงหลัก จับมือใช้ แผนที่ One map แก้ปัญหาที่อยู่อาศัย

People Unity News : “นิพนธ์”เผย 3 กระทรวงหลัก จับมือใช้ แผนที่ One map แก้ปัญหาที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกิน เขตเมือง-ชนบท ภาคเหนือใช้กลไก คทช.

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เป็นประธานเปิดงานวันที่อยู่อาศัยโลก ภาคเหนือ ปี 2562 ภายใต้หัวข้อ “การขับเคลื่อนแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินระดับจังหวัดให้เกิดรูปธรรม” วิถีชุมชนท้องถิ่นสู่การแก้ไขปัญหาอยู่อาศัย และที่ดินทำกิน ทั้งเมืองและชนบท โดยมีผู้แทนองค์กรชุนชนจาก 17 จังหวัด และหน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงราย. โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของพี่น้องประชาชน

โดยกระทรวงมหาดไทยมีแนวทางที่จะบูรณาการความร่วมมือกับ 3 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินการเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว โดยจะดำเนินการสำรวจข้อมูลที่ดินที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของประชาชนโดยใช้กลไกโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล(คทช.)ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนโดยทดลองใช้ แผนที่ One map มาใช้เป็นเครื่องมือในการกันพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทยในการจัดแนวเขตที่ดินให้ชัดเจนว่า พื้นที่ส่วนใหญ่จะสามารถนำมาจัดสรรให้กับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางเครือข่ายการพัฒนาที่อยู่อาศัย และการจัดการที่ดินภาคเหนือ ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีในระดับจังหวัดดำเนินงานแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย และที่ทำกินของประชาชนผู้มีรายได้น้อยในปี 2562 โดยมีผู้ได้รับผลประโยชน์รวม 3,636 ครัวเรือน แบ่งเป็นบ้านมั่นคงเมืองและชนบท 1,182 ครัวเรือน และบ้านพอเพียงชนบท 2,455 ครัวเรือน

ประวิตร มอบตราสัญลักษณ์ 15 เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ยกระดับการบริหารจัดการเมือง

People Unity News : 28 ธันวาคม 2564 รัฐบาลเร่งขับเคลื่อน “เมืองอัจฉริยะ (Smart City)” ยกระดับการบริหารจัดการเมือง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

โครงการเมืองอัจฉริยะ เป็นโครงการที่รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และจากความร่วมมือของทุกฝ่าย ล่าสุด ได้มีเมือง/พื้นที่ที่ผ่านเกณฑ์ จนได้รับมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทย จาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จำนวนกว่า 15 เมือง

โดย 15 เมืองอัจฉริยะดังกล่าว ถือว่าเป็นต้นแบบของเมืองที่ได้ดำเนินการจนเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ประกอบด้วย

1.ขอนแก่นเมืองอัจฉริยะ

2.ฉะเชิงเทรา เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุน

3.ภูเก็ตเมืองอัจฉริยะ

4.เมืองศรีตรัง

5.การพัฒนาเมืองอัจฉริยะเพื่อสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่โดยรอบคลองผดุงกรุงเกษม

6.เมืองอัจฉริยะย่านพระราม 4

7.สามย่านสมาร์ทซิตี้

8.การพัฒนาเมืองเก่าอย่างชาญฉลาด เทศบาลนครเชียงใหม่

9.เมืองอัจฉริยะเพื่อความเป็นเลิศที่ยั่งยืนสู่ชุมชน พื้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และพื้นที่ประกอบ

10.เมืองแม่เมาะน่าอยู่ จ.ลำปาง

11.ยะลาเมืองอัจฉริยะเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน

12.นครสวรรค์สมาร์ทซิตี้

13.แสนสุขสมาร์ทซิตี้ จ.ชลบุรี

14.เมืองอัจฉริยะวังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง

15.เมืองอัจฉริยะมักกะสัน เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน

การดำเนินโครงการดังกล่าว สอดคล้องกับเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องการให้เกิดการกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ อันจะส่งผลให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

Advertising

ศบค. ลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 6 จว. – ปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ถึง 15 ม.ค. 65

People Unity News : ศบค. ลดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 6 จว. – ปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ถึง 15 ม.ค. 65

ที่ประชุม ศบค. วันนี้ (12 พ.ย.64) มีมติสำคัญดังนี้

เห็นชอบ การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด (ประกอบด้วย ตาก/นครศรีธรรมราช/นราธิวาส/ปัตตานี/ยะลา/สงขลา ) ขณะที่ปรับจังหวัดจันทบุรีเพิ่มในพื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมเป็น 39 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้า 4 จังหวัด ยังคงปิด สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และเห็นชอบเลื่อนการเปิดบริการจากแผนเดิม จาก 1 ธ.ค. 64 เป็น 16 ม.ค. 65 เพื่อเตรียมการ และประเมินสถานการณ์การระบาด และความครอบคลุมการได้รับวัคซีน

โดยมอบหมาย ศปก.ศบค., มท., สธ. คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดสถานบันเทิงฯ  และกำกับติดตามมาตรการ ป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 แบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง

เห็นชอบแนวทางการนำแรงงานต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศตาม MoU รวมทั้งเดินหน้าโครงการ Factory Sandbox โดยมีการขยายขอบจังหวัดจาก 4 จังหวัดเป็น 11 จังหวัด ปรับลดหลักเกณท์ขนาดสถานประกอบการจาก 500 คน เป็น 100 คน เพื่อให้ครอบคลุมให้มากที่สุด

Advertising

เฮ! ครม. ปรับเพิ่มเงินอุดหนุน อนุบาล – ปวช. ลดภาระรายจ่าย นร. กว่า 11.5 ล้านคน หลังไม่ได้ปรับมานาน 10 ปี

People Unity News : 26 กรกฎาคม 2565 ที่ประชุม ครม. วันนี้ (26 ก.ค. 65) เห็นชอบการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายหัวตามความจำเป็นพื้นฐาน เพื่อลดภาระผู้เรียนและเพิ่มศักยภาพสถานศึกษาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และ ปวช. ทั้งสถานศึกษาของรัฐและเอกชน ครอบคลุมการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาทางเลือก เริ่มปีงบประมาณ 2566 – 2569 ประกอบด้วย

ค่าใช้จ่ายด้านผู้เรียน : 1.ค่าอุปกรณ์การเรียน ปรับเพิ่มตามผลการศึกษาค่าใช้จ่ายจริงสำหรับอุปกรณ์การเรียนพื้นฐาน เริ่มปี 2566 และคงอัตราเดิมในปีต่อไป 2.ค่าเครื่องแบบ ปรับตามผลการศึกษาค่าใช้จ่ายจริงสำหรับเครื่องแบบนักเรียนครบ 1 ชุด และเพิ่มเติมอีก 1 ชุด เฉพาะผู้เรียนที่ผู้ปกครองถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ค่าใช้จ่ายด้านสถานศึกษา : 1.ค่าจัดการเรียนการสอน 2.ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ทั้งในระบบและนอกระบบ โดยปีงบประมาณ 2566 จะเพิ่มขึ้น 2,259 ล้านบาท จากนั้นจะทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันไดถึงปีงบประมาณ 2569 ซึ่งจะเพิ่มจากปัจจุบันราว 8,066 ล้านบาท

นับเป็นการปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนฯ ในรอบกว่า 10 ปี โดยการปรับครั้งล่าสุด คือ ปี 2553 ขณะที่ปัจจุบันราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระรายจ่ายของนักเรียนกว่า 11.5 ล้านคน รวมถึงพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย

Advertisement

Verified by ExactMetrics