วันที่ 3 พฤษภาคม 2024

นายกฯ แนะนักกีฬาซีเกมส์ ใช้ประสบการณ์ที่ได้พัฒนาตัวเองต่อไป

People Unity News : 6 กรกฎาคม 2566 นายกฯ มอบเงินรางวัลแก่ทัพนักกีฬาซีเกมส์ ชื่นชมตัวแทนประเทศไทยพร้อมทีงานทุกคนร่วมกันคว้าชัยชนะกลับสู่ประเทศได้สำเร็จ เป็นอันดับที่ 2 จาก 11 ประเทศ แนะให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขันนำไปพัฒนาศักยภาพต่อไป

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบเงินรางวัลและแสดงความยินดีให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ นางสาวสุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนเข้าร่วมงานซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น

นายกรัฐมนตรีมอบเงินรางวัลและของที่ระลึกให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอนและสมาคมที่ได้รับเหรียญรางวัล และเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ดังนี้ 1) มอบของที่ระลึกให้แก่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2) มอบของที่ระลึกแก่ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย 3) มอบเงินรางวัลและของที่ระลึกแก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอนและสมาคมที่ได้รับเหรียญรางวัลและเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 จำนวน 39 สมาคมกีฬา รวมเงินทั้งสิ้น 239,190,000 บาท 4) มอบเงินรางวัลและของที่ระลึกแก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอนและสมาคมที่ได้รับเหรียญรางวัลและเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 จำนวน 4 สมาคมกีฬา รวมเงินทั้งสิ้น 99,365,000 บาท ทั้งนี้ มีนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา ได้รับเงินรางวัลรวม 43 สมาคมกีฬา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 338,555,000 บาท

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลและประชาชนชาวไทยขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่นักกีฬาไทยได้แสดงความสามารถทางกีฬาให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ และเป็นโอกาสดีที่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขัน เพื่อนำไปพัฒนาศักยภาพของตนเองต่อไป ทั้งนี้ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นที่ทุกคนได้รับมานั้นล้วนเกิดจากความ “มานะ บากบั่น และสู้สุดใจ” ของของทุกคน จึงทำให้ทุกคนมาอยู่ตรงจุดนี้ ซึ่งคำเหล่านี้ขอให้ทุกคนประทับไว้อยู่ในหัวใจและนำไปเป็นหลักในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลสำเร็จในด้านกีฬาและด้านอื่น ๆ ของชีวิตต่อไป

“ขอชื่นชมสมาคมกีฬา ผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประเทศไทยในการนำทัพนักกีฬาไปคว้าชัยชนะกลับมาสู่ประเทศชาติได้สำเร็จ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ มีวินัยในการฝึกซ้อมอย่างดีของทุกคน และแสดงความสามารถ ศักยภาพออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม รางวัลเกียรติยศที่ได้รับในครั้งนี้จะเป็นขวัญและกำลังใจแก่ทุกคน เป็นเกียรติประวัติแก่ประเทศชาติ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่ชาวไทยทุกคน รวมทั้งตนเองและครอบครัว ขอให้ทุกคนพัฒนาความสามารถของตนเองให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาในฐานะนักกีฬาทีมชาติไทย รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนทุกด้าน เพื่อทำให้การกีฬาไทยมีศักยภาพสูงและสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างทัดเทียม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรียังแสดงความเชื่อมั่นว่าทุกคนทำหน้าที่ตัวแทนของคนไทยและประเทศไทยอย่างดีที่สุดแล้ว และขอเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาที่ไม่ได้รับเหรียญรางวัลจากการแข่งขัน ขอให้ตั้งใจพัฒนาทักษะและหมั่นฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และนำเอาประสบการณ์จากการแข่งขันในครั้งนี้ไปพัฒนาตนเอง ซึ่งจะทำให้นักกีฬาทุกคนประสบความสำเร็จในการแข่งขันในโอกาสครั้งต่อ ๆ ไปได้อย่างแน่นอน พร้อมขอขอบคุณบุคคลและหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันขับเคลื่อนพัฒนาการกีฬาของชาติให้ก้าวหน้าตลอดมา สร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิมาสู่ประเทศชาติมาอย่างต่อเนื่อง และขอให้ระลึกไว้ว่าผลงานด้านกีฬาที่สร้างไว้นั้น จะถูกจารึกไว้ในหัวใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศตลอดไป

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ส่งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5 – 17 พ.ค. 2566 และการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 3 – 9 มิ.ย. 2566 ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยผลงานของทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 สามารถคว้ารวมมาได้ 108 เหรียญทอง 95 เหรียญเงิน 108 เหรียญทองแดง ในอันดับที่ 2 ในตารางรวมเหรียญรางวัล จาก 11 ประเทศ ขณะที่ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ทำผลงานในกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ 126 เหรียญทอง 109 เหรียญเงิน และ 94 เหรียญทองแดง จบอันดับที่ 2 จาก 11 ประเทศ ในตารางรวมเหรียญรางวัลเช่นกันใช้ประสบการณ์ที่ได้พัฒนาตัวเองต่อไป

Advertisement

“รัฐบาล”เดินหน้านโยบายลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า ลดภาระค่าครองชีพ

People Unity News : รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย “รัฐบาล” เดินหน้านโยบายลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า ลดภาระค่าครองชีพประชาชน

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า โดยไม่มีผลกระทบต่อสัญญา เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง บรรเทาความเดือนร้อนของผู้โดยสาร ลดภาระค่าครองชีพที่ใช้จ่ายประจำวัน ซึ่งนโยบายดังกล่าวนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด รฟม. พิจารณาลดภาระค่าโดยสารรถไฟฟ้าเพื่อประชาชน

ทั้งนี้ บอร์ด รฟม. จะพิจารณาใน 2 มาตรการ 1.เปิดจำหน่ายตั๋วโดยสารร่วมระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง คิดอัตราค่าโดยสารต่อเที่ยวถูกลง 2.ลดอัตราค่าโดยสารในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off Peak) ระหว่าง 9.00-15.30 น. และช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยปัจจุบันเก็บอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 14-42 บาทต่อเที่ยว ส่วนมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าทั้งระบบนั้น ขณะนี้ กรมการขนส่งทางราง กำลังเร่งหาแนวทางอยู่ โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ได้กระทบต่อสัญญา และให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

“การลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าลง จะทำให้ประชาชนหันมาเดินทางโดยรถไฟฟ้ามากขึ้น โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คาดหวังจะให้นโยบายนี้ แล้วเสร็จก่อนสิ้นปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนชาวไทย และคาดหวังว่าจะเป็นที่น่าพอใจต่อประชาชน สามารถช่วยเหลือประชาชนในการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางได้เป็นอย่างดี” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

“เทพไท”เย้ย”บิ๊กตู่”คุมตร.เอง โยกย้ายยัง 3 ส.”เส้น-สาย-ส่วย”

People Unity News : “เทพไท”อัด โยกย้ายตร.ไม่เป็นธรรม แม้ “บิ๊กตู่”มาคุมเอง หนีไม่พ้นค่าของคนอยู่ที่คนของใครถ้าไม่อยู่ในระบบ 3 ส.”เส้น-สาย-ส่วย” ก็ไม่ได้รับการดูแล

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ facebook live จากสภากาแฟ ร้านป้าเผี้ยน ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เรื่อง การโยกย้ายตำรวจประจำปีนี้ ว่า การโยกย้ายปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตำแหน่งประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(กตร.) จากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาเป็น พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรีเอง แต่ระบบการโยกย้ายของตำรวจก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม วงจรอุบาทว์ก็ยังไม่สูญหายไป ถ้าตราบใดยังไม่มีการปฎิรูปตำรวจอย่างจริงจัง คำว่า “ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร” ยังใช้ได้มาทุกยุคทุกสมัย

นายเทพไท กล่าวต่อว่า สำหรับการโยกย้ายประจำปีนี้ กระแสข่าวการซื้อขายตำแหน่งมีลดน้อยลง แต่ระบบเด็กเส้น เด็กนายยังคงมีอยู่ให้เห็นในหลายตำแหน่ง ตำรวจคนใดไม่อยู่ระบบ 3 ส. คือ เส้น-สาย-ส่วย ก็จะไม่ได้รับการดูแล โยกย้ายไปสู่ตำแหน่งที่ดีกว่า ตำรวจที่ไม่มีเส้นว่าเป็นเด็กของใคร ไม่มีสายงานที่ผู้บังคับบัญชาช่วยเหลือ ไม่มีการส่งส่วยให้กับนาย ก็ไม่มีโอกาสเจริญเติบโตในหน้าที่ราชการตำรวจ เป็นสัจธรรมในวงการตำรวจจริง แม้มีการเรียกร้องให้มีการปฎิรูปตำรวจโดยใช้มาตรา44 ตามคำสังของ คสช. แต่ก็ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง อย่าหวังว่ายุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจะปฎิรูปตำรวจได้สำเร็จ

นายเทพไท กล่าวต่อว่าถ้าดูจากคำสั่งบัญชีโยกย้ายตำรวจระดับ รอง ผบก.-ผกก.ประจำปีนี้แล้ว ยังคงมีปัญหาอยู่ในหลายตำแหน่ง ที่โยกย้ายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอยกตัวอย่าง คำสั่ง ตร.ที่ 675/2562 ลำดับที่104 กรณี พ.ต.อ.คมสัน พฤศวานิช ผกก.สภ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช ย้ายไปเป็น ผกก.สภ.กะเปอร์ จ.ระนอง ซึ่งเป็นการโยกย้ายลดระดับของนายตำรวจคนนี้ลงไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่เป็นตำรวจน้ำดี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ได้รับโล่รางวัล และเกียรติบัตรในการทำงานมากมาย เคยเป็น ผกก.สภ.ทุ่งสง ได้พัฒนาโรงพักเป็นโรงพักดีเด่นระดับประเทศ เคยได้รับคำชมจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.คนปัจจุบัน และผู้บังคัญบัญชาทุกระดับที่ได้มาเยี่ยมชม หลังจากนั้นก็ถูกย้ายจาก สภ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นโรงพักชั้นหนึ่ง ไปอยู่ สภ.บางขัน โรงพักชั้น3 มาปีนี้ถูกย้ายไปอยู่ สภ.กะเปอร์ จ.ระนอง ไกลจากพื้นที่เดิมมาก ทำให้เขามีปัญหาการเดินทางหรือดูแลครอบครัว และลูกยังเล็กต้องเรียนหนังสือที่ จ.นครศรีธรรมราช การโยกย้ายในครั้งนี้ถ้าไม่ได้รับการเยียวยา ครั้งหน้ามีโอกาสถูกย้ายไปถึงพม่าอย่างแน่นอน

“ผมจึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ตำรวจอีกหลายคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในการโยกย้ายประจำปีนี้ ซึ่งเห็นได้จาก มีการออกคำสั่งถอน-แต่งตั้งนายตำรวจ18นาย ตามคำสั่ง ตร.ที่ 686/2562 ลงวันที่29พฤศจิกายน 2562 จึงเรียนมายัง พล.อประยุทธในฐานะประธาน กตร. และพล.ต.อ.จักรทิพย์ โปรดพิจารณาดำเนินการแก้ไขและทบทวนคำสั่งโดยด่วนหากไม่มีการพิจารณาดำเนินการใดๆผมจะนำไปตั้งกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป” นายเทพไท กล่าว

สธ.-ไอโอเอ็มลงนามความร่วมมือแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในกลุ่มประชากรต่างด้าวชายแดน

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุข ลงนามความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ครั้งที่ 3 เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในกลุ่มต่างด้าวในชายแดน ทั้งผู้ย้ายถิ่น และกลุ่มด้อยโอกาสในพื้นที่ประเทศไทย เข้าถึงบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมายปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนางสาวดาน่า เกรเบอร์ ลาเด๊ก (Ms.Dana Graber Ladek)หัวหน้าสำนักงานองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐานประเทศไทย(International Organization for Migration : IOM) ร่วมลงนามความร่วมมือสนับสนุนการแก้ปัญหาสาธารณสุขในกลุ่มประชากรต่างด้าวในจังหวัดชายแดน และให้สัมภาษณ์ว่า ได้ลงนามความร่วมมือกับไอโอเอ็มครั้งแรกตั้งแต่พ.ศ. 2552 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี เริ่ม 14 พฤศจิกายน 2562 – 30 พฤศจิกายน 2565 เป็นกรอบความร่วมมือในการดูแลด้านสุขภาพของผู้ย้ายถิ่นในประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือกระทรวงสาธารณสุขในการพัฒนาความรู้ สร้างความตระหนักรู้ ขีดความสามารถด้านนโยบายและแนวทางการปฏิบัติ รวมทั้งการให้บริการและสนับสนุนการเข้าถึงบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชากรต่างด้าว ครอบคลุมทั้งที่ได้ขึ้นทะเบียนและมิได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายกำหนด รวมถึงประชาชนที่ด้อยโอกาสในประเทศไทย

นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า การบริการภายใต้โครงการนี้ มุ่งเน้น 6 ด้าน คือ 1.สาธารณสุขมูลฐาน การตรวจและการประเมินสุขภาพ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น 2.การรักษาพยาบาลฉุกเฉินสำหรับผู้ย้ายถิ่นที่อยู่ในภาวะวิกฤติ 3.อนามัยเจริญพันธุ์และสุขภาวะทางเพศและสุขภาพเด็ก เช่น การวางแผนครอบครัว การมีบุตรอย่างปลอดภัย โภชนาการ การให้ภูมิคุ้มกันเด็ก โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเอดส์ 4.การป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อ โดยเฉพาะโรคประจำถิ่น เช่น โรคไข้เลือดออก มาลาเรีย วัณโรค โรคท้องร่วง และโรคติดต่ออุบัติใหม่ โรคอุบัติซ้ำเช่น ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ 5.อนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลชุมชน และการจัดให้มีแหล่งน้ำที่สะอาดปลอดภัย และ6.การเตรียมความพร้อมรับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น โดยไอโอเอ็มจะเป็นผู้รับผิดชอบด้านบัญชี การเงินการบริหารโครงการ การประเมินโครงการ และการแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“นฤมล” เผยบัตรประชารัฐเป็นนโยบาย พปชร.

⇒ “นฤมล” เผยบัตรประชารัฐเป็นนโยบาย พปชร.

People Unity News : 19 มกราคม 66 “นฤมล” ย้ำ บัตรประชารัฐ เป็นนโยบาย พปชร.ตั้งแต่ปี 61 เพิ่มวงเงิน 700 มีแหล่งที่มางบ แย้มเตรียมประกาศนโยบาย ”ที่ดินประชารัฐ” เร็วๆนี้

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงนโยบายการเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐเป็น 700 บาทต่อเดือน ของพรรคพลังประชารัฐว่า ในปี 2566 จะมีประชาชนได้รับสิทธิประมาณ 18 ล้านคน คนละ 700 บาทต่อเดือน จะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวมีการคำนวนแหล่งที่มาของงบประมาณมาจากที่ใดแล้ว ในส่วนของบัตรประชารัฐที่เราได้ทำมาตั้งแต่ปี 61 ไม่ใช่มีแค่เงินรายเดือน 200 หรือ 300 บาทเท่านั้น แต่ยังมีสวัสดิการอื่น ๆ อีก อย่างเช่น ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าเดินทาง เราพยายามจัดการสิ่งเหล่านี้ให้สอดคล้อง กับความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

นางนฤมล กล่าวว่า เมื่อปี 2561 ตนก็เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ดูแลรับผิดชอบสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงนั้น เราอยากจะให้พี่น้องประชาชน ผู้ที่มีรายได้น้อย สามารถที่จะมีเงินประทังชีวิตต่อเดือน สิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐาน เขาสามารถไปซื้อ ข้าวสาร น้ำปลา อาหารแห้ง ได้ ในต่างจังหวัดอยู่ได้โดยไม่ลำบาก แต่ปัจจุบันสภาวะทางเศษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับสภาวะเงินเฟ้อ ไม่ต่างกับประเทศไทย สินค้ามีราคาที่สูงขึ้นมาก ดังนั้นเงิน 200-300 บาทต่อเดือน ก็ไม่เพียงพอ เสียงสะท้อนก็ออกมาจากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ที่ลงพื้นที่ไปพบปะกับประชาชนต่างก็บอกเงินไม่พอแล้ว

“พรรคพลังประชารัฐให้ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน ต้องปรับให้สอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจและปัจจุบัน ให้สู้กับสภาวะเงินเฟ้อได้ และจริงๆในนโยบาย ทั้งหมดไม่ใช่มีแค่ 700 บาท เรายังคงมุ่งหน้าทำการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน หมายความว่าต้องมีการฝึกอบรมให้ 700 บาทไม่เป็นการให้ปลาไปเฉยๆ จะต้องมีการให้เบ็ดเขาด้วย แล้วก็สอนวิธีตกปลา” นางนฤมล กล่าว

นางนฤมล กล่าวด้วยว่า จากนี้พรรคพลังประชารัฐจะแถลงนโยบายออกมาเรื่อย ๆ คาดว่า นโยบายต่อไปที่น่าจะประกาศก็คือ นโยบายที่ดินประชารัฐ

Advertisement

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯขอบคุณกก.วัตถุอันตราย”แบน 3 สารพิษ”

People Unity : องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายและรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวง ที่มีมติแบน 3 สารพิษ ชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่โดยมิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต หวังเห็นความร่วมมือจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม และ ยั่งยืน อย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ACT ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 เรื่องขอขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีมติยกเลิกการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตเพื่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และคนไทยทุกคน โดยในแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมและได้ลงมติอย่างเปิดเผยให้มีการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตนั้น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ขอขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างดำรงไว้ซึ่งจริยธรรมและมนุษยธรรม มิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต ทั้งในส่วนของเกษตรกรผู้รับผลกระทบโดยตรงและผู้บริโภคผู้ได้รับผลกระทบในภายหลัง และที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง คือ การดำเนินการให้มีการลงมติอย่างเปิดเผย ตามที่องค์กรฯ และหลายภาคส่วนเรียกร้อง ช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องความโปร่งใสในการพิจารณา

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอขอบคุณไปยังท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (คุณอนุทิน ชาญวีรกูล) รวมทั้งรัฐมนตรี (คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน) และรัฐมนตรีช่วย (คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ซึ่งได้แสดงจุดยืนชัดเจน ให้ยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีดังกล่าว และร่วมรณรงค์ผลักดันจนทำให้มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย จนนำมาซึ่งการลงมติดังกล่าวในที่สุด

“องค์กรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การมีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความร่วมมือกันในการจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม ยั่งยืน และเป็นจุดเริ่มต้นแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดต่อทั้งชีวิตของ’เกษตรกรผู้ใช้ ระบบนิเวศทางธรรมชาติและชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางองค์กรฯและเครือข่าย พร้อมจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ปฎิบัติงานอย่างซื่อตรงต่อหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนคนไทยในทุกระดับ”

ฝ่าแรงต้าน! “ธนาธร” ผงาดนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษากมธ.งบฯ63

People Unity : “กมธ.งบฯ63” ถกนัดแรก “อุตตม” นั่งโต๊ะ รอง 19 คนเลขาฯ 13 คนขณะที่โฆษก14 คน “ธนาธร”นั่งที่ปรึกษา ขณะที่ “สิระ”ตามราวีต่อยื่นศาลตีความหัวหน้าพรรค อนค.นั่งกมธ.งบฯ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 ตุลาคม 2562 ที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 นัดแรกเพื่อเลือกตำแหน่งต่างๆประกอบด้วยประธานรองประธานและโฆษกกรรมาธิการรวมทั้งวางกรอบการทำงาน โดยที่ประชุมมีมติเลือกนายอุตตมสาวนายนรมว.คลังเป็นประธานกรรมาธิการและรองประธานมีทั้งสิ้น 19 คน

ส่วนตำแหน่งเลขานุการกรรมาธิการมีทั้งสิ้น 13 คนมีนายเรืองไกรลีกิจวัฒนะตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยเป็นด้วย ขณะตำแหน่งโฆษกมีจำนวน 14 คนอาทินายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายภราดรปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทองพรรคภูมิใจไทย นายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่นายธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นที่ปรึกษากรรมาธิการ

ทั้งนี้ที่ประชุมกรรมาธิการได้กำหนดวันแปรญัตติเริ่มตั้งแต่วันที่28ต.ค.-13ธ.ค.62ซึ่งจะมีการประชุมวันจันทร์ถึงวันศุกร์โดยในวันจันทร์และวันอังคารจะเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา13.00-22.00น.ส่วนวันพุธและวันพฤหัสบดีจะเริ่มเวลา09.00-18.00น.ขณะที่วันศุกร์จะเริ่มประชุมเวลา09.00-17.00 น.

“สิระ”ตามราวีต่อยื่นศาลตีความ “ธนาธร” นั่งกมธ.วิสามัญงบฯ

ขณะที่นายสิระ​ เจนจาคะ​ ส.ส.พลังประชารัฐ เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ​ขอให้พิจารณาสถานภาพนายธนาธร​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคต​ใหม่ที่มาเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ​2563 ว่า​ สามารถเป็นกมธ.วิสามัญฯได้หรือไม่​ หลังจากได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรและ กมธ.งบประมาณปี 2563แล้ว

Verified by ExactMetrics