วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

“บิ๊กป้อม”เชื่อศาลรธน.ตัดสินคดี”ธนาธร”ถือหุ้นไร้วุ่น

People Unity News : “บิ๊กป้อม”เชื่อศาลรธน.ตัดสินคดี”ธนาธร”ถือหุ้นไร้วุ่น ขณะที่”กกต.”มีมติเอกฉันท์ให้”อคน.”ส่งเอกสารแจง คดีหัวหน้าปล่อยกู้พรรค

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัย กรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นสื่อ ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ว่า ยังไม่ได้รับรายงานความเคลื่อนไหวของมวลชน และเชื่อว่าไม่มีอะไร เรื่องนี้เป็นกระบวนการของศาลและไม่ต้องมีการดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นพิเศษ ส่วนที่ประชาชนไปให้กำลังใจถือเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ

“กกต.”มีมติเอกฉันท์ให้”อคน.”ส่งเอกสารแจง คดีหัวหน้าปล่อยกู้พรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประชุมพิจารณาสำนวนการสืบสวน กรณีมีผู้กล่าวหาว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินของตนเอง ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ตามมาตรา 66 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยได้บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาท ต่อพรรคการเมืองต่อปี โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของสำนักงาน กกต. และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ได้ดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการ และขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดทุกประการแล้ว

ทั้งนี้ มติของ กกต.พิจารณาแล้ว เห็นว่า เพื่อให้การพิจารณาในเรื่องดังกล่าวข้างต้นปรากฏข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ ชัดเจน และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาประกอบการพิจารณาเพิ่มเติม อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่อไป โดยเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องเป็นเอกสารที่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหา หรือข้อโต้แย้งได้เคยเรียกเอกสารดังกล่าวแล้ว แต่พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ให้แก่คณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

“วรวัจน์”ขย่มต่อ! หวั่นตัด GSP กระทบส่งออกหมื่นล้าน

People Unity News : “วรวัจน์” ขย่มต่อ! หวั่นตัด GSP กระทบส่งออกหมื่นล้าน อึ้งก.พาณิชย์เผยเจรจาเหลวไร้มาตรการรับมือ

วันที่ 29 ต.ค.2562 นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ เปิดเผยว่า การประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จะเป็นการพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ต่อเนื่อง เพราะยังมีอีกจำนวน 11 หน่วยงานและ 1 รัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะกลุ่มงานการค้าต่างประเทศ ทั้งกรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น

ในที่ประชุมกรรมาธิการผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลว่า หลังการรัฐประหารปี 2557 หลายประเทศเริ่มดำเนินการตัดสิทธิพิเศษทางภาษี หรือ GSP ไทย โดยปี 2558 สหภาพยุโรปหรือ EU มีการตัด GSP ไทย ต่อมาต้นปี 2562 ประเทศญี่ปุ่นก็ตัด GSPไทย และล่าสุดอเมริกาก็ตัด GSPไทย นอกจากนี้ที่ผ่านมามาตราการเจรจาของรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ในขณะที่มาตราการช่วยเหลือภาคเอกชน ยังไม่มีความชัดเจน มีแต่การออกมาขอให้ภาคเอกชนปรับตัวลดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเอง และกระทรวงพาณิชย์คาดว่า ถึงแม้ถูกตัด GSP แต่ก็ไม่มีผลกระทบกับเกษตรกร

โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ยืนยันในที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณ ว่า ปัญหาจีเอสพี จะทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบเพียง 1,800 ล้านบาท ไม่ใช่ 40,000 ล้านบาท อย่างที่มีการวิเคราะห์ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็มีมาตรการในการรับมือ แต่ไม่แจ้งรายละเอียดต่อกรรมาธิการ นั่นอาจหมายถึงไม่ได้มีแผนมาตราการแก้ไขเตรียมไว้ และบรรจุในงบประมาณปี 63 ทั้งที่เรื่องนี้เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ควรมีคำตอบให้กับประชาชน

นายวรวัจน์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้ท้วงติงไปยังกระทรวงพาณิชย์ ว่า จำนวนเงิน 1,800 ล้านบาทดังกล่าวที่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจง อาจเป็นเพียงแค่ส่วนต่างทางภาษี ซึ่งหากจะคำนวณแบบนี้ คงไม่ถูกต้อง เพราะต้องรวมมูลค่าส่งออกในภาพรวมทั้งหมดไปด้วย ดังนั้นการดำเนินการของสหรัฐครั้งนี้อาจจะส่งผลเสียมากกว่าที่หน่วยงานรัฐคาดการณ์ ทั้งนี้คาดว่าผลกระทบจากการส่งออกสินค้าไทยอาจสูงถึงหลักหมื่นล้านบาท

“อนุทิน”ประกาศ”แบนสารพิษ”เป็น”นโยบายเร่งด่วน”ของ สธ.

People Unity News : “อนุทิน”ประกาศ”แบนสารพิษ”เป็น”นโยบายเร่งด่วน” เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เพจเฟซบุ๊กกระทรวงสาธารณสุข ได้เผยแพร่การปราศรัยของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุข มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับการพัฒนามาต่อเนื่องตลอด 77 ปี จนปัจจุบันนี้ การบริการด้านสุขภาพของไทย อยู่ในอันดับ 6 ของโลก และเป็นที่ 1 ของอาเซียน ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้น จากสถานการณ์ของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง อาทิ การขยับสู่การเป็นโลกดิติตัล สังคมผู้สูงอายุ เรื่องการค้าการลงทุน ความเป็นสังคมเมือง การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศที่กระทบต่อสุขภาพ

จากนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะพัฒนาการดำเนินการ บนหลักการ “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง และเศรษฐกิจไทยแข็งแรง” ด้วยโนยาย 5 ด้าน คือ
1.การพัฒนางานด้านสาธารณสุข ตามแนวพระราชดำริ 2.ให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ 3.ให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ และมีความมั่นคงทางสุขภาพ 4.ผลักดันเทคโนโลยีทางการแพทย์ และการสาธารณสุข 5.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ

มีนโยบายเร่งด่วนคือ การสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาและสมุนไพรทางการแพทย์อย่างปลอดภัย จัดการภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพอย่างครบวงจร ยกระดับ อสม. ให้เป็นหมอประจำบ้าน ใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และ

“สนับสนุนให้ยุติการใช้สารเคมีทางการเกษตรที่มีอันตรายต่อสุขภาพประชาชน”

ทั้งนี้ ความสำเร็จที่ผ่านมา จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องชาวสาธารณสุขทุกคน

ศธ.-สธ. เร่งกำหนดมาตรการให้โรงเรียนกลับมาเรียน-สอนตามปกติ

People Unity News : ศธ. และ สธ. เร่งกำหนดมาตรการให้โรงเรียนกลับมาเรียน-สอนตามปกติ ขณะที่จุดผ่อนปรนการค้า 91 แห่งทั่วประเทศยังต้องรอ ศบค. พิจารณา

โฆษก ศบค. ชี้แจง มีโรงเรียนจำนวนหลายหมื่นแห่งทั่วประเทศที่เริ่มกลับมาเปิดการเรียนการสอนปกติ เหลือเพียงอีก 4,532 แห่งที่ยังต้องสลับกลุ่ม สลับวันมาเรียน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่พื้นที่จำกัด ห้องเรียนขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม โฆษก ศบค. ยอมรับว่าหลายโรงเรียนมีนโยบายที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่สามารถกลับไปเปิดการเรียนการสอนแบบปกติได้ทั้งหมด ทั้งนี้ มีการมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข เร่งหารือเพื่อจัดทำมาตรการสำหรับโรงเรียนที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ รวมทั้งให้ปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอน เพื่อลดภาระของครูผู้สอนและผู้ปกครอง โดยจะให้เสนอต่อ ศบค. เพื่อพิจารณาให้มีการผ่อนคลายโดยเร็วที่สุดต่อไป

โอกาสนี้ โฆษก ศบค. ยังชี้แจงกรณีคณะกรรมการกลุ่มการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดน เสนอให้เปิดจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนการค้า ทั้งหมด 91 จุดทั่วประเทศแบบถาวรตั้งแต่เดือนสิงหาคมนั้นว่า กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และฝ่ายความมั่นคง จะกำหนดความเหมาะสมและความพร้อมของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เพื่อเสนอ ศบค. ให้พิจารณาเห็นชอบ โดยมีเป้าหมายควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ควบคู่ไปกับการดูแลเศรษฐกิจ

ในตอนท้าย โฆษก ศบค. กล่าวเพิ่มเติมถึงพื้นที่ Organizational Quarantine เป็นความร่วมมือจากหน่วยงาน องค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน มีวัตถุประสงค์เพื่อการจัดหาพื้นที่รองรับสำหรับแรงงานที่ต้องการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ภายใต้มาตรฐานสาธารณสุข ปลอดภัย ลดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลดังกล่าวต้องกักตัวในพื้นที่ 14 วัน เพื่อป้องกันควบคุมโรค พร้อมทั้งสร้างความปลอดภัย มั่นใจให้แก่ประชาชนในประเทศ

Advertising

“อนุดิษฐ์”ติง”บิ๊กตู่” ศก.ไทยแย่อย่าอ้างภาวะโลก เพื่อนบ้านตัวเลขดีกว่าเยอะ

People Unity News :  เลขาธิการพรรคเพื่อไทยเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์หยุดใช้ประเทศเป็นหนูลองยาแก้เศรษฐกิจ หลังมาตรการแจกเงินส่อแววล้มเหลว จนทีมงานด้านเศรษฐกิจเริ่มแสดงอาการถอดใจ

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แสดงความห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หลังหน่วยงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลออกมาเปิดเผยตัวเลขที่ถดถอยลงในทุก ๆ ด้าน ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ทำได้เพียงขอร้องไม่ให้พูดเรื่องเศรษฐกิจแย่เพราะจะส่งผลต่อการแก้ปัญหาและขอให้เชื่อมั่นรัฐบาล

น.อ.อนุดิษฐ์เห็นว่า เป็นท่าทีที่ขาดความรับผิดชอบของผู้นำรัฐบาล เพราะการพูดในทำนอง ตัวเองแก้ไม่ได้ แต่กลับยังไปโทษคนอื่นว่าไม่ช่วย ทั้งที่หลายฝ่ายได้เตือนมาตลอดว่าแนวทางแก้เศรษฐกิจของรัฐบาลเดินมาผิดทาง โดยเฉพาะการใช้นโยบายแจกเงินเฉพาะหน้าให้ประชาชน ซึ่งไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม แต่รัฐบาลก็ยังดึงดันใช้แนวทางนี้ จนกระทั่งตัวเลขด้านต่าง ๆ ออกมาประจานความล้มเหลวให้เห็น

“ประเทศไม่ใช่หนูลองยา ที่จะให้ผู้นำที่ขาดความรู้อย่าง พล.อ.ประยุทธ์มาทดลองแก้เศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแจกเงินแบบคิดเอาเองว่าแจกแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น แต่วิกฤติครั้งนี้รุนแรงมากกว่าที่คิด เพราะต่อเนื่องมาจากการรัฐประหารที่ต่างชาติไม่ยอมรับ จนกระทั่งมาเป็นนายกฯรอบ 2 ด้วยกลไกรัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบมาเพื่อสืบทอดอำนาจ ดังนั้นการจะให้ต่างชาติหรือคนส่วนใหญ่เชื่อมั่น จึงเป็นไปได้ยาก” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่าที่ผ่านมารัฐบาลมักโทษไปที่ปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่หากย้อนไปดูประเทศเพื่อนบ้าน ตัวเลขทางเศรษฐกิจของเขาดีกว่าของเรามาก เนื่องจากมีผู้นำที่ทำให้คนในชาติเชื่อมั่นได้ ต่างกับของไทยที่ผู้นำขาดวิสัยทัศน์ ทำให้ประชาชนอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกและขาดความเชื่อมั่นต่ออนาคตของประเทศ ทำให้พวกเขาเลือกที่จะไม่ใช่จ่ายหรือลงทุน เพราะเห็นฝีมือ พล.อ.ประยุทธ์มาแล้วกว่า 5 ปี ไม่ใช่ 4 เดือนอย่างที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามกล่าวอ้าง

“พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงตัวเลขโรงงานที่ต้องปิดตัวลงกว่า 1,000 แห่งในยุคของตัวเอง แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว และใช้วิธีการแบบเดิม ๆ แก้ปัญหา นั่นคือสั่งให้รัฐมนตรีลงไปดูแล ขณะที่ตัวรัฐมนตรีเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะรัฐบาลไม่มีนโยบายร่วมกันที่ชัดเจน แม้กระทั่งค่าแรงขั้นต่ำที่หาเสียงเอาไว้ก็เบี้ยวผู้ใช้แรงงานหน้าตาเฉย สุดท้ายก็แก้ปัญหาแบบแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ ด้วยการเดินตามก้นระบบราชการ” น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวต่ออีกว่าพล.อ.ประยุทธ์อาจอยู่ในอำนาจต่อไปได้เรื่อย ๆ ด้วยกลไกรัฐธรรมนูญที่พวกเขาช่วยกันออกแบบมา แต่หากอยู่แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนได้ ก็น่าสงสัยว่าจะอยากอยู่ต่อไปทำไม หากพล.อ.ประยุทธ์ยิ่งอยู่เศรษฐกิจยิ่งแย่ ขอถามว่าใครจะรับผิดชอบ กว่า 5 ปีแล้ว พวกเราจะปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ใช้ประเทศเป็นหนูลองยาแก้เศรษฐกิจต่อไปอีกหรือ

“สุชาติ”ชี้รัฐบาลไม่ควรแตะต้อง”กองทุนประกันสังคม”

People Unity News : “สุชาติ ธาดาธำรงเวช” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​รัฐบาลทักษิณ ชี้รัฐบาลไม่ควรแตะต้อง”กองทุนประกันสังคม”

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ศ.ดร.สุชาติ​ ธาดาธำรงเวช​ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ เปิดเผยว่า รัฐบาลที่ไม่เข้าใจเรื่อง​เศรษฐกิจ​และไม่ควรแตะ​ต้อง กองทุนประกันสังคม​ กองทุนบำเหน็จบำนาญ​ รวมถึง กองทุนอื่นๆและการที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีส่งหนังสือข้อสั่งการ​ของนายกรัฐมนตรี ถึงสำนักประกันสังคม​ เพื่อให้บริหารจัดการ​กองทุนประกันสังคมให้เกิดประโยชน์​ ตอบสนองแก่ความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น​ เช่น​ การกู้ยืมเพื่อการลงทุน​ หรือการกู้ยืมเพื่อรายจ่ายจำเป็นอื่นๆ
แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ​ เงินประกันสังคมเป็นเงินออมของลูกจ้าง​ ของกรรมกร​ ทั้งประเทศ เพื่อใช้ดูแลชีวิตลูกจ้างและกรรมกร​ ให้ดีขึ้น​ รัฐบาลทั่วโลกมีกฎหมายให้หักเงินรายได้ของลูกจ้างและกรรมกร​ เพื่อไว้ใช้จ่าย เมื่อต้องหยุดงาน​ อันเนื่องมาจาก ว่างงาน​ เจ็บไข้ได้ป่วย​ ทุพพลภาพ​ คลอดบุตร​ สงเคราะห์บุตร ชรา​ภาพ และเสียชีวิต​

“เงินประกันสังคมเหล่านี้​ ไม่ใช่เงินของรัฐบาล​ที่จะสั่งการได้ และเงินเหล่านี้ก็มีการใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มที่อยู่แล้ว​​ โดยมีการลงทุนในรูปเงินฝาก​ ซื้อพันธบัตรฯ ซื้อกองทุน​ ซื้อหลักทรัพย์​ ฯลฯ​ สถาบันที่กองทุนประกันสังคม​ นำเงินไปลงทุน​ ก็ได้ไปใช้จ่ายไปลงทุนแล้ว​ ไม่มีเม็ดเงินประกันสังคมเหลืออยู่เลย​ นอกจากเงินที่เตรียมไว้จ่ายให้ลูกจ้างและกรรมกรแต่ละท่าน​ ที่ได้รับสิทธิประโยชน์”

นอกจากนี้ ศ.ดร.สุชาติ ยังย้ำว่า เป็นความเข้าใจผิด​ของรัฐบาลที่คิดว่า​ มีเงินประกันสังคมกว่า​ 2.1 ล้านล้าน​บาท​ เก็บไว้ทำไม​ ทำไมไม่ไปให้กู้เพื่อเป็นประโยชน์​ต่อประเทศและที่สำคัญการบริหารระบบเศรษฐกิจ​ เป็นเรื่องที่ต้องใช้สติปัญญา บวกกับความรู้ในระดับปรัชญา​ รวมถึง ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลที่ไม่รู้เศรษฐกิจที่จะคิดๆ​เอา​แบบง่าย ๆ เพราะการคิดง่ายๆ​ ได้ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยเจริญเติบโตต่ำ​มาก ผลผลิตขายไม่ได้​ คนตกงานมาก​มายและ กำลังเหี่ยวแห้งตาย…ในทุกวันนี้..

“อนุทิน” เชื่อ ที่ประชุม ป.ป.ส. 22 พ.ย. ไม่ดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

People Unity News : 21 พฤศจิกายน 2565 ทำเนียบรัฐบาล “อนุทิน” รับหนังสือจากสมาคมนักวิจัยฯ หนุนใช้กัญชาทางการแพทย์ เชื่อ ป.ป.ส.ไม่ดึงกลับไปเป็นยาเสพติด หากทำ เป็นการถ่มน้ำลายรดฟ้า ทางออกต้องออก พ.ร.บ.กัญชากัญชง

สมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทยและเครือข่ายนักวิจัย นำโดย นายพิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยฯ พร้อมด้วยรายชื่อผู้สนับสนุนอีก 6,000 ชื่อ ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้คงไว้ซึ่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับปลดกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษ เพื่อสนับสนุนให้ใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยหากกลับไปเป็นยาเสพติดจะเกิดผลกระทบจำนวนมาก และเป็นการทำลายโอกาสต่างๆของประเทศชาติที่จะสามารถพัฒนาต่อไปได้ ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ตั้งคณะทำงานวิจัยกัญชาทางการแพทย์ และสมุนไพรเพื่อสิทธิและสังคม

นายอนุทิน ได้รับหนังสือ พร้อมระบุว่า ยินดีที่ทางสมาคมฯ เดินหน้าเรื่องนี้ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขจะให้ความร่วมมือด้วย ซึ่งการที่ได้รับหนังสือในวันนี้ เป็นการยืนยันว่า กัญชามีประโยชน์ ถ้าใช้ในทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการนำไปใช้ทางการแพทย์ สุขภาพ รวมถึงการส่งเสริมทางเศรษฐกิจ และยินดีที่ได้รู้จักกับนายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย ทางกระทรวงสาธารณสุขจะได้มีช่องทางในการอาศัยความร่วมมือซึ่งกันและกัน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายกัญชากัญชง ตรงไหนที่ทางกระทรวงฯ สามารถช่วยเหลือในเรื่องของข้อมูลได้ จะมีส่วนช่วยทำให้ความน่าเชื่อถือในเรื่องกัญชาเพิ่มมากขึ้น และประชาชนจะได้ประโยชน์

ส่วนรายชื่อสนับสนุนที่ยื่นในครั้งนี้ จะมีผลต่อการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ย.) หลังมีกระแสข่าวว่าดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มี เพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ส่วนที่เป็นยาเสพติดคือสารสกัดจากกัญชา ที่มีค่า THC มากกว่า 0.2 เพราะฉะนั้น ประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการควบคุมพืชสมุนไพร ที่ตนได้ลงนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับทาง ป.ป.ส. และไม่น่าจะมีผลเกี่ยวข้องใดๆกับคณะรัฐมนตรี ซึ่งในประกาศนั้นไม่ใช่กฎกระทรวง แต่เป็นประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นผู้รักษากฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพืชสมุนไพร ได้ใช้อำนาจของรัฐมนตรีในการประกาศมาตรการต่างๆออกมา ซึ่งรัฐมนตรีก็ได้ใช้อำนาจไปแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทำงานเพียง 2 วัน และมีการประชุมเอเปค ดังนั้นอย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ และคงไม่มีนัยที่จะกลับไปเป็นพืชยาเสพติด

ส่วน ป.ป.ส. สามารถดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ป.ป.ส. ประกอบด้วยคณะกรรมการ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยในกรณีนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานแทน และคณะกรรมการชุดนี้ได้ประกาศให้กัญชาออกจากพืชยาเสพติด แล้วจะไปถ่มน้ำลายรดฟ้าได้อย่างไร และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับนายวิษณุ เพราะเป็นเรื่องของประโยชน์บ้านเมือง และเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

“ยืนยันไม่ได้ส่งเสริมในเรื่องของสันทนาการและนันทนาการ หากมีใครที่กำลังกังวล โดยเฉพาะห่วงใยเรื่องเยาวชนจะไปยุ่งเกี่ยว หรือห่วงใยผู้ที่ใช้ในทางที่ผิด ขอให้ร่วมกันออก พ.ร.บ.กัญชากัญชง ให้เรียบร้อย และสามารถให้ความเห็นเพิ่มเติมและเสนอแนะต่างๆได้ เพราะกรรมาธิการก็ประกอบด้วยตัวแทนจากพรรคการเมืองทุกพรรค ตัวแทนข้าราชการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเรื่องการใช้กัญชากัญชง” นายอนุทิน กล่าว

Advertisement

รัฐบาลขับเคลื่อน “มหาวิทยาลัยปลอดบุหรี่” ป้องกันนักสูบหน้าใหม่ 

People Unity News : 10 กรกฎาคม 2565 รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนการสร้าง “มหาวิทยาลัยให้เป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่” โดยกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงนามบันทึกข้อตกลงกับอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษา 155 แห่งทั่วประเทศ และสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ให้มหาวิทยาลัยประกาศเป็นนโยบายสถานศึกษา จัดสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ จัดบริการคัดกรอง บำบัด ฟื้นฟูผู้ต้องการเลิกบุหรี่ สอดแทรกเนื้อหาในการเรียน และปฏิเสธการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบ

เนื่องจากบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดโรคไม่ติดต่อ เช่น โรคมะเร็ง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งปัจจุบันมีนิสิต นักศึกษา สูบบุหรี่เกือบ 900,000 คน และมีการพบเห็นการสูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากปี 2560 นอกจากนี้ ยังต้องป้องกันเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อควบคุมยาสูบ พบว่าทำให้เกิดการเริ่มใช้บุหรี่ได้มากขึ้น 4 เท่าด้วย เพื่อป้องกันการเกิดนักสูบหน้าใหม่ และคุ้มครองสุขภาพเยาวชนอันเป็นอนาคตของประเทศ

Advertisement

ประยุทธ์ นำ ครม.สัญจร กระบี่-ตรัง 15-16 พ.ย.นี้ กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความมั่นใจท่องเที่ยวปลอดภัย

People Unity News : ประยุทธ์ นำทีม ครม.สัญจร จ.กระบี่ – ตรัง 15 – 16 พ.ย.นี้ กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความมั่นใจ ท่องเที่ยวปลอดภัย รับเปิดประเทศ

14 พฤศจิกายน 2564 นายกรัฐมนตรีและคณะ จะลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กระบี่และตรัง พร้อมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม. สัญจร) ครั้งที่ 1/2564 ระหว่างวันที่ 15 – 16 พ.ย. 64

สำหรับภารกิจวันที่ 15 พ.ย. 64 นายกฯ จะไปตรวจเยี่ยมสถานที่ต่างๆ ภายใน จ.กระบี่ เช่น ศูนย์พัฒนาประสิทธิภาพการให้ความช่วยเหลือและสร้างความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว, ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้า OTOP อันดามัน 6 จังหวัด, ชุมชนท่องเที่ยวบ้านคลองหรูด (คลองน้ำใส) และอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี เป็นต้น

วันที่ 16 พ.ย. 64 เป็นประธานการประชุม ครม. สัญจร และการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ร่วมกับผู้ว่าราชการ 6 จังหวัด ณ โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปา รีสอร์ท หลังเสร็จสิ้นการประชุมจะเดินทางไป อ.สิเกา จ.ตรัง เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิด “ท่าเรือปากเมง เปิดประตูสู่อันดามัน”

การลงพื้นที่ของนายกฯครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และช่วยสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ภายหลังจากที่ประเทศไทยได้ “เปิดประเทศ” อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา

Advertising

“บิ๊กตู่” เมิน 5 พรรคเล็กสร้างอำนาจต่อรอง

People Unity News : ‘บิ๊กตู่’เมิน 5 พรรคเล็กสร้างอำนาจต่อรอง พร้อมมอบ รมช.กลาโหมแจงกมธ.”เสรีพิศุทธ์”แทน “หมอระวี”ยันแค่ไปอวยพรวันเกิด”ชัชวาลล์” ย้ำยังทำงานร่วมรัฐบาล

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเกิดความระหองระแหงจนอาจทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพว่า “ผมไม่เห็นมีเลย ใครหรือ ผมยังไม่เห็น ได้ข่าวอะไรเลย” เมื่อถามว่า แต่มีบางพรรคร่วมรัฐบาลระบุว่าอาจจะไม่ร่วมโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้

เมื่อถามถึงกรณี 5 พรรคเล็ก เริ่มเคลื่อนไหวต่อรองอีกครั้ง หากรัฐบาลไม่สามารถชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้จะโหวตสวนรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า ก็แล้วแต่เขา ประเทศชาติอยู่ตรงไหนตนก็ไม่รู้เหมือนกัน วันนี้เขามองประเทศชาติอยู่ตรงไหนล่ะ จะเดินเกมการเมืองกันอย่างเดียวก็ตามใจท่าน ประชาชนก็จะรู้เองว่า เลือกกันมาแล้วทำประโยชน์กันบ้างหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน
เมื่อถามย้ำว่า ดูเหมือนเป็นพฤติกรรมต่อรองทุกครั้งในการใช้เสียงรัฐบาล นายกฯ ตอบว่า “ไม่มีหรอก มาต่อรองอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่กังวลอะไรกับเรื่องเหล่านี้ ผมทำงานของผมให้ดีที่สุด แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องยอมรับมัน ประเทศก็ต้องรับไปด้วย ประชาชนก็เดือดร้อนไปด้วย รับไปด้วย ผมก็ทำของผมดีที่สุดแล้วแหละ”

เมื่อถามว่า นายกฯ ได้มอบหมายพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ไปชี้แจงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ กรณีการเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไปสิ เขาให้ไปก็ไป

“หมอระวี”ยันแค่ไปอวยพรวันเกิด”ชัชวาลล์” ย้ำยังทำงานร่วมรัฐบาล

นพ.ระวี มาศฉมาดล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ได้เดินทางไปวันคล้ายวันเกิดครบรอบ76 ปี ของนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ซึ่งมีแกนนำ 4 พรรคเล็กเข้าร่วมอวยพรวันเกิดและประกาศการทำงานการเมืองร่วมกันได้แก่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรม นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ว่า ตนไปร่วมงานวานนี้ เพราะนายชัชวาลล์ถือเป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวและให้ความเคารพ ตั้งใจจะมาอวยพรวันเกิดเท่านั้น ไม่ได้มีนัยยะทางการเมืองซ่อนเร้น

เมื่อถามว่าทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะมีการประกาศรวมตัวของ 5 พรรค นพ.ระวี กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน ได้รับแจ้งเพียงแค่ว่าจะมีการจัดงานวันเกิดของนายชัชวาลล์เท่านั้น ตนก็เดินทางมาร่วม

เมื่อถามต่อว่า ในอนาคตจะมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมกับกลุ่ม 5 พรรคหรือไม่ นพ.ระวี กล่าวว่า ในวันนี้ตนและพรรคพลังธรรมใหม่ยังเชื่อว่า สามารถทำงานร่วมกับรัฐบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติได้อยู่ ส่วนตัวตนมองว่า การร่วมตัวของ 5 พรรคในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะเชื่อว่าหากรัฐบาลทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่มีการทุจริต คอร์รัปชั่น ทั้ง 5 พรรคคงจะไม่มีการตีรวนทางการเมือง เพราะ ส.ส.ทุกคนที่เข้ามาก็ต้องยึดประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนเป็นหลัก

Verified by ExactMetrics