พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 14 มีนาคม 2567 รัฐสภา – “มายด์ ภัสราวลี” พร้อมทนายเข้าชี้แจง กมธ.นิรโทษกรรม ยันชุมนุมปี 63 เป็นคดีการเมือง ขอรวม ม.112 เชื่อเป็นก้าวแรกคลี่คลายขัดแย้ง

น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ อดีตผู้ชุมนุมกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก และน.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กลุ่มโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมโดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นประธานประชุม เพื่อให้ความคิดเห็น และชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองว่ามีเป้าหมาย มีมูลเหตุทางการเมืองอย่างไร เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ

น.ส.พูนสุข กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557-2562 มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหาร 2,400 คน หลังจากยกเลิกศาลทหาร ก็มีผู้ที่ถูกดำเนินศาลยุติธรรมอีกกว่า 100 คน ตั้งแต่กรกฎาคม ปี 2563-ปัจจุบัน มีคนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง 1,957 คน และตัวเลขเพิ่มขึ้น แม้จะไม่มีการชุมนุม ส่วนใหญ่เกิดจากการโพสต์ข้อความในช่องทางออนไลน์ และเข้าข่ายกระทำความผิดมาตรา 112 ซึ่งการประชุมร่วมกับกมธ.นิรโทษกรรมจะพูดถึงที่มา และความสำคัญของเหตุผลที่ต้องมีมาตรา 112 และพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

ด้านน.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีและมีความสำคัญมากที่จะได้ชี้แจงว่าการชุมนุมที่เกิดในปี 2563 มีเหตุจูงใจเกี่ยวกับการเมืองไทย ทั้งยังเป็นประเด็นที่คนในสังคมถกเถียงกันอยู่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าจำนวนของคดีมาตรา 112 เป็นหนึ่งในสาเหตุความขัดแย้งที่ถูกสะสม แล้วอาจจะก่อตัวเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงกว่านี้ในอนาคตได้ หากนิรโทษกรรมคดีอื่น ๆ ได้แต่แยกมาตรา 112 ออกจะพูดได้อย่างไรว่า ได้คืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพทั้งหมดแล้วจริง ๆ

“พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรา 12 จะต้องถูกรวมใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะการนิรโทษกรรมจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องรวมมาตรา 112 ไปด้วย เพื่อให้การคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมือง โดยเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นของปัญหา” น.ส.ภัสราวลี กล่าว

Advertisement