วันที่ 30 เมษายน 2024

ก.แรงงาน เร่งสกัด! แรงงานไทยไปเกาหลีใต้ผิดกฎหมาย ลดเสี่ยงไม่ให้ ปชช. ตกเป็นเหยื่อ

People Unity News : 5 สิงหาคม 2565 กรณีทางการเกาหลีใต้ปฏิเสธการเดินทางเข้าประเทศของคนไทยที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งนั้น (ประมาณ 10,000 คน ถูกปฏิเสธแล้ว 5,000 คน)

ก.แรงงาน ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาดังกล่าว ได้สั่งการกรมการจัดหางานเร่งตรวจสอบผู้มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศอย่างเข้มงวดใน 2 ด่านที่คนหางานมักจะเดินทาง คือด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ และด่านตรวจคนหางานดอนเมือง

โดยในปี 65 ได้ระงับการเดินทางผู้มีพฤติการณ์จะลักลอบไปทำงานต่างประเทศแล้ว จำนวน 328 คน และได้ขยายผล จับกุม ดำเนินคดีสาย/นายหน้าเถื่อนแล้ว 112 ราย เป็นการหลอกลวงคนหางานทั้งสิ้น 158 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย จำนวน 12,758,210 บาท

สำหรับแรงงานไทยที่ประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศจะต้องไปอย่างถูกต้องด้วย 5 วิธี

✔️กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง

✔️บริษัทจัดหางานจัดส่ง

✔️นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างของตนไปทำงานต่างประเทศ

✔️นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างของตนไปฝึกงานในต่างประเทศ

✔️คนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตัวเอง โดยต้องแจ้งการเดินทางกับกรมการจัดหางานก่อนเดินทางทุกครั้ง และต้องเดินทางออกไปทำงานโดยผ่านด่านตรวจคนหางานที่ประจำอยู่ ณ ท่าอากาศยาน

ทั้งนี้ การไปทำงานในต่างประเทศอย่างถูกต้องถูกกฎหมาย จะช่วยลดความเสี่ยงไม่ต้องตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ ได้ทำงานอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่ต้องหลบซ่อน

ผู้ที่สนใจเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี สามารถติดตามข่าวสารได้ทางเว็บไซต์ doe.go.th/overseas หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด/กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ฝ่ายจัดส่งไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี EPS โทร. 0 2245 6716, 0 2245 9429

Advertisement

“บิ๊กตู่” เผยแนวทางการทำงานรัฐบาลปี 63 เร่งเดินหน้าเพื่อประชาชน

People Unity News : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำแนวทางการทำงานปี 2563 เร่งเดินหน้าเพื่อประชาชน สั่งติดตามการเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงแก่สื่อมวลชนถึงแนวทางในการทำงานในปี 2563 ว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานมุ่งตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การยึดหลักกฎหมาย หลักการงบประมาณ โดยได้มีการกำหนดมาตรการเสริมต่างๆ ซึ่งขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สำหรับเศรษฐกิจไทยที่มีการประเมินนั้น อาจประเมินได้ทั้งมากและน้อยนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ หลายอย่างขึ้นอยู่กับกฎกติกา รัฐบาลต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ กฎหมายให้ถูกต้อง ส่วนการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีการติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งหามาตรการเสริมเข้ามาช่วยซึ่งบางอย่างก็ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่บางอย่างก็อยู่ระหว่างดำเนินการ

โฆษณา

“จุรินทร์”เตรียมช่วยชาวนาราคาตก ชง”นบข.” ชะลอขายช่วยตันละ 1,500 บาท

People Unity News : “จุรินทร์”เตรียมช่วยชาวนาราคาตก ชง”นบข.” ชะลอขายช่วยตันละ 1,500 บาท วอนสหกรณ์ สถาบันเกษตรกรอื่นๆ ช่วยเก็บข้าวไว้ก่อน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึง มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเน้นให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ในเรื่องมาตรการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวนาปี ปีการผลิต 62-63 ว่า ตรงนี้จะเป็นการช่วยเหลือในเรื่องของเงินกู้ และการช่วยเหลือในส่วนของเงินจ่ายขาด เพราะตอนนี้ข้าวออกมากและมีผลต่อราคา จึงต้องใช้มาตรการในการชะลอการปล่อยข้าวออกสู่ตลาดด้วยวิธีการช่วยเงินจ่ายขาดตันละ 1,500 บาท ให้กับเกษตรกรที่ต้องการเก็บข้าวไว้และยังไม่ขาย ขณะที่ในส่วนของสถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์ หรืออื่นๆ ถ้าจะช่วยรับซื้อข้าวหรือช่วยเก็บข้าวของชาวนาไว้ จะได้เงินชดเชยตันละ 1,500 บาท โดย 1,000 บาทจะเป็นของสถาบัน และ 500 บาทเป็นของเกษตรกรที่ขายข้าวให้ ซึ่งเรื่องนี้จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยจะประชุมวันที่ 6 ธ.ค.ซึ่งต้องรอยืนยันวันประชุมอีกครั้ง

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือชาวนา ที่นอกจากมาตรการประกันรายได้ที่มีการโอนเงินงวดแรกและทยอยโอนจนกว่าจะหมดฤดูกาลผลิต ตรงนี้มีส่วนในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป็นการช่วยชาวนาจากที่มีเงินกระเป๋าซ้ายจากการขายข้าวตามราคาตลาดและคุณภาพที่ชาวนาผลิตเพียงกระเป๋าเดียว ก็มีกระเป๋าขวาที่เป็นเงินส่วนต่างช่วยเหลือให้มีรายได้ในปริมาณที่เพียงพอแก่การเลี้ยงชีพ และยังมีมาตรการเสริมอื่นๆ เช่น การช่วยเหลือต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นมามาตรการที่จะเสนอควบคู่กันไปด้วย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นเจ้าของเรื่อง

“บิ๊กตู่”หารือทวิภาคีกับนายกฯญี่ปุ่นพัฒนาคนรับ EEC

People Unity : “บิ๊กตู่”หารือทวิภาคีกับ”ชินโซ อาเบะ”นายกฯญี่ปุ่น พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ส่งเสริมการลงทุน ยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC รวมถึงเมืองอัจฉริยะ

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.2562 เวลา 12.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบหารือทวิภาคีกับนายชินโซ อาเบะ (H.E. Mr. Shinzo Abe) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในห้วงการเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญ่ีปุ่น ณ ทำเนียบรับรองของรัฐบาลญี่ปุ่น (State Guesthouse) สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวในนามของรัฐบาลและประชาชนไทยแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสพระราชพิธี บรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญ่ีปุ่น โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมรัฐบาลญี่ปุ่นที่จัด พระราชพิธีได้อย่างสมพระเกียรติ ปีนี้ถือเป็นปีมหามงคลของทั้งไทยและญี่ปุ่น โดยไทยได้จัดพระราชพิธี พระบรมราชาภิเษกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำและกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีอาเบะ และการบริหารจัดการภัยพิบัติที่เป็นเลิศของรัฐบาลญี่ปุ่น จะทำให้ญี่ปุ่นจะสามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ไต้ฝุ่นฮากิบิสได้อย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มาร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของของสมเด็จพระจักรพรรดิ แห่งญี่ปุ่น และหวังว่าจะพบกันในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 (ASEAN Summit) ในต้นเดือน พฤศจิกายนนี้

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือเพื่อผลักดันประเด็นความร่วมมือ ทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การส่งเสริม การลงทุน และการยกระดับอุตสาหกรรมเป้าหมายใน EEC การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการค้าเสรี และความร่วมมือในการพัฒนาประเทศที่สาม รวมทั้งเห็นพ้องจะเร่งผลักดันการเจรจา RCEP ให้สำเร็จ รวมทั้งขยายผลความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น และการเข้าร่วม TPP

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความพร้อมของไทย ในการจัดการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือ ลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครังที่ 11 ในฐานะประธานร่วมกับญี่ปุ่น ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ที่กรุงเทพฯ โดย ไทยมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นในการขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2018 และข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030

จากนั้นในเวลา 18.00 น. นายกรัฐมนตรีและภริยาเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่น และภริยา เป็นเจ้าภาพเลี้ยง เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จ พระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ณ โรงแรมนิวโอตานิ โตเกียว

ในเวลา 00.20 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2562 นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะ จะเดินทางออกจากท่าอากาศยานฮาเนดะ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น โดยจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการในเวลา 04.50 น. ในวันเดียวกัน

“ธนาธร”ส่อวืดนั่งกมธ.งบฯปี63 “ทศพล”กาง รธน.เบรกแนะต้องลาออกจาก ส.ส.

People Unity : “ทศพล เพ็งส้ม” กาง รธน.เบรก “ธนาธร” นั่ง กมธ.งบประมาณฯ เหตุศาลให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ส่วนจะใช้ฐานะ “คนนอก” ก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะยังคงสถานะ ส.ส.อยู่ ถาม “อนาคตใหม่” หวังให้ พ.ร.บ.งบประมาณฯโมฆะหรือไม่ แนะ “ธนาธร” ต้องเลือกลาออก ส.ส.หรือไขก๊อก กมธ.

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 ต.ค.2562 สถานีโทรทัศน์รัฐสภา ได้ออกอากาศรายการ “มองรัฐสภา” ดำเนินรายการโดย พ.ท.หญิง ชลรัศมี งาทวีสุข ในหัวข้อ “จับตาบทบาท กมธ.งบฯ 63 หลากหลายขั้วการเมือง” โดยได้เชิญ นายทศพล เพ็งส้ม ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 มาให้ความเห็นเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินงานของสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังที่ประชุมสภาฯได้ลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 (ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63) ในวาระที่ 1 และตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 จำนวน 64 คน กำหนดกรอบการพิจารณา 105 วันไปแล้ว เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา

นายทศพล ได้กล่าวตอนหนึ่งถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเป็นหนึ่งใน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ในสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ว่า อำนาจการตั้ง กมธ.วิสามัญของสภาฯ บัญญัติไว้ในมาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ระบุว่า สภาฯ มีอํานาจเลือกบุคคลผู้เป็น ส.ส.หรือมิได้เป็น ส.ส.ตั้งเป็น กมธ.วิสามัญเพื่อกระทํากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดๆ และรายงานให้สภาฯทราบตามระยะเวลาที่กําหนด ฉะนั้นจึงมี 2 ทางเลือกสำหรับ กมธ.วิสามัญ ว่าจะเป็น ส.ส. หรือบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ก็ได้ จึงต้องมาพิจารณาดูว่า การเสนอชื่อ นายธนาธร ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เป็นการชั่วคราว ในระหว่างรอคำวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็นส.ส.ของ นายธนาธร ในกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชน เข้ามาเป็น กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 นั้นมาในสถานะใด

“เมื่อดูหลักกฎหมายแล้ว ก็พบว่าคนที่จะเป็น กมธ.วิสามัญ ได้ต้องเป็น ส.ส.หรือมิได้เป็น ส.ส. จึงต้องถามว่าคุณธนาธรเข้ามาในเงื่อนไขไหน ถ้าเข้ามาในฐานะ ส.ส.ถือว่าไม่ได้เลย เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงทำหน้าที่ ส.ส.ไม่ได้ ส่วนจะใช้สิทธิ์คนนอกก็มีปัญหาอีกว่า คุณธนาธรเป็นคนนอกหรือไม่ เพราะยังมีสมาชิกภาพ ส.ส.อยู่ ไม่สามารถถอดสถานะ ส.ส.และเดินเข้ามาในฐานะคนนอกได้เอง” นายทศพล กล่าว

นายทศพล กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ หากว่า นายธนาธร ขาดคุณสมบัติในการที่จะเข้ามาเป็น กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ที่กำลังจะมีการประชุมครั้งแรกในวันที่ 24 ต.ค.นี้แล้ว หากมีการเสนอความเห็น หรือสงวนความเห็น ตลอดจนร่วมลงมติใดๆ ก็อาจส่งผลให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 เป็นโมฆะได้ ดังนั้นเจตนารมณ์ของเขา เพื่อให้กฎหมายใช้ไม่ได้หรือไม่ เพราะเอาคนที่ขาดคุณสมบัติการเป็น กมธ.วิสามัญ มาพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 จึงควรที่จะมีการยื่นคำร้องเพื่อให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความเพื่อให้เกิดความชัดเจน มิเช่นนั้นหากสภาฯพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 แล้วเสร็จในวาระที่ 2 และ 3 เกิดมีผู้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า มีผู้ขาดคุณสมบัติร่วมเป็น กมธ.วิสามัญ พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว

“ในกระบวนการมี 2 ทางเลือก หนึ่ง คุณธนาธร ต้องไปลงออกจาก ส.ส. เพื่อใช้สถานะคนนอก เข้ามาเป็น กมธ.วิสามัญ หรือสอง หากอยากเป็น ส.ส.ต้องลาออกจาก กมธ.วิสามัญ ต้องเลือกเอาว่าอยากเป็นอะไร ซึ่งไม่ใช่เรื่อกีดกันการทำหน้าที่ของคุณธนาธร เพียงแต่เป็นการทำเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น มิเช่นนั้นก็จะมีคนมองว่า พรรคอนาคตใหม่ตั้งคนที่ขาดคุณสมบัติ พรรคคุณต้องรับผิดชอบ หากกฎหมายมีปัญหา” นายทศพล ระบุ

นายทศพล กล่าวต่อว่า ในกรณีที่นายธนาธรขาดคุณสมบัติ ซึ่งส่งผลต่อการทำหน้าที่ของ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ประธานสภาฯอาจต้องเรียกประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาแต่งตั้ง กมธ.แทนนายธนาธร เพื่อให้ครบ 64 คนตามมติที่ประชุมสภาฯ อย่างไรก็ดีมองว่า ช่วงที่พรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อนายธนาธรเมื่อวันที่ 19 ต.ค.นั้น ที่ประชุมสภาฯอาจจะยังไม่ทราบว่าประเด็นคุณสมบัติดังกล่าว จึงไม่มีผู้คัดค้านหรือทักท้วง แต่เมื่อมีประเด็นขึ้นมา ก็ต้องมาตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อความถูกต้อง ผู้ที่เป็นประธานในการดำเนินการประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 นัดแรกในวันที่ 24 ต.ค.นี้ จำเป็นต้องหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา เพราะไม่สามารถเริ่มประชุมได้ ก่อนทำหนังสือแจ้งประธานสภาฯต่อไป

นอกจากนี้ นายทศพล ยังได้อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของ กมธ.สามัญต่างๆของสภาฯนั้นได้สงวนไว้เฉพาะผู้ที่เป็น ส.ส.เท่านั้น ขณะที่ กมธ.วิสามัญ ซึ่งตั้งตามวาระต่างๆที่ภารกิจไม่เข้ากับ กมธ.สามัญ ที่มีอยู่แล้ว สำหรับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ให้คนนอกเข้ามาเป็น กมธ.วิสามัญได้นั้น ก็เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลผู้มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำหน้าที่พิจารณาหรือศึกษาเรื่องใดๆที่ ส.ส.บางคนอาจจะไม่ถนัด อาทิ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ก็เปิดโอกาสให้รัฐบาลหรือพรรคการเมืองเสนอชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านงบประมาณแผ่นดินมาร่วมร่วมทำงานกับ ส.ส. เป็นต้น

 

“ประยุทธ์” เชิญชวนประชาชนประเมินความโปร่งใสหน่วยงานภาครัฐผ่านทางแอป ไอทีเอเอส

People Unity News : นายกรัฐมนตรีประกาศให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็น “วาระแห่งชาติ” พร้อมชวนประชาชนและข้าราชการ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพ และคุณธรรมของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ

17 พฤษภาคม 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวคำปราศรัย เชิญชวนประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าร่วมการประเมินคุณธรรมความโปร่งใสในการดำเนินงานของภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการทุจริตส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการภาครัฐ การพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการพัฒนาประเทศ รวมถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ทั้งในแง่การรับรู้ของภาคประชาชน และภาคธุรกิจ รัฐบาลได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้มีการปฏิบัติอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม

ทุกปี องค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ จะดำเนินการสำรวจสถานการณ์การทุจริตของทุกประเทศทั่วโลก โดยในปีที่ผ่านมาประเทศไทยถูกจัดอันดับปัญหาการทุจริตผ่านดัชนีการรับรู้การทุจริตหรือ คอรัปชั่น เพอเซพชั่น อินเดกซ์ หรือค่าซีพีไอ (CPI) โดยมีค่าคะแนนอยู่ในอันดับที่ 104 จากประเทศที่เข้าร่วมประเมินทั้งหมด 180 ประเทศทั่วโลก

นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า  รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ จึงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดำเนินการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ด้านการปรับสมดุล และพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ซึ่งยึดหลักภาครัฐของประชาชน เพื่อประชาชน และประโยชน์ส่วนรวม เพื่อสร้างภาครัฐให้โปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ มีการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล และมุ่งสร้างวัฒนธรรมต่อต้านการทุจริต รวมทั้งความละอายต่อการทุจริต ประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกและค่านิยมในการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตอย่างสิ้นเชิง โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน และภาคีต่างๆ ร่วมมือกันในการลดและป้องกันการทุจริตให้ได้ผลอย่างยั่งยืน

โดยได้มีการนำระบบการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือที่เรียกว่า ไอทีเอ (ITA) มาใช้ในการยกระดับธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ และองค์กรอิสระ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำข้อเสนอแนะที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุง พัฒนาการปฏิบัติงาน ให้มีความโปร่งใส และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาด้านการบริหารจัดการภาครัฐของประเทศ

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียังเชิญชวนคนไทย ทั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงานเข้ามามีส่วนร่วมในการยกระดับความโปร่งใสของประเทศไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพ และคุณธรรมในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ โดยร่วมกันประเมินหน่วยงานภาครัฐที่เคยติดต่อหรือรับบริการได้ทางเว็บไซต์สำนักงาน หรือทางแอปพลิเคชัน ไอทีเอเอส (ITAS) ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 โดยจะมีการประกาศผลการประเมิน ไอทีเอ ของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศให้ต่อไป

Advertising

“ชวน” เชื่อธรรมาภิบาลแก้ฉ้อฉลธุรกิจการเมืองยั่งยืน

People Unity News : 29 กันยายน 2565 ประธานรัฐสภาขอให้คนในสังคมยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลักดำเนินชีวิต เชื่อธรรมาภิบาลแก้ปัญหาทุจริตฉ้อฉลของธุรกิจการเมืองได้ยั่งยืน

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานพิธีมอบรางวัลการคัดสรรตัวอย่างสุจริต : สุจริตโมเดล ปี 2565 พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับผู้เข้ารับรางวัลตัวอย่าง : สุจริตโมเดล ว่า การคัดสรรตัวอย่างสุจริต : สุจริตโมเดล เป็นกิจกรรมที่ต่อยอดกิจกรรมการขับเคลื่อนแนวคิดบ้านเมืองสุจริตจากกิจกรรมประกวดคลิปวีดีโอ “บ้านเมืองสุจริต” ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสังคมของเรายังตระหนักในความสำคัญและความจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมให้คนในบ้านเมืองยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต

“ไม่ว่าการตระหนักรู้ จะเกิดขึ้นในกลุ่มใดก็ตาม นับเป็นพลังการขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยให้คนในสังคมยึดถือความซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลักในการดำเนินชีวิตทุกด้าน อันจะเป็นรากฐานที่สร้างความก้าวหน้าของบ้านเมืองได้อย่างแท้จริง ผมมีความตั้งใจว่าจะส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเมืองที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดหลักธรรมาภิบาล จะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาการทุจริตฉ้อฉลในรูปแบบธุรกิจการเมืองได้อย่างยั่งยืน” ประธานรัฐสภา กล่าว

นายชวน กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ได้รับรางวัลได้ความว่าสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง จึงขอให้นำไปขยายผลสู่สังคมรอบข้างด้วย ซึ่งจะเป็นต้นทางแห่งการเป็นพลเมืองสุจริต อันจะเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนบ้านเมืองให้สุจริตได้อย่างทรงพลัง เพราะความไม่สุจริตคือวิกฤติของบ้านเมือง เราไม่สามารถนิ่งเฉยได้ จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องช่วยกันทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง บ้านเมืองสุจริต

Advertisement

“เอกนัฏ” เผยหมายเลข 22 เป็นเลขมงคลถูกโฉลก “พล.อ.ประยุทธ์”

People Unity News : 4 เมษายน 2566 เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติเผย “พล.อ.ประยุทธ์” ดีใจได้เบอร์ 22 ส.ส.บัญชีรายชื่อ เผยเป็นเลขมงคลถูกโฉลก อีกทั้งสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจง่าย

เมื่อวันที่ 4 เมษายน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยว่า หลังจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค จับสลาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้หมายเลข 22 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พอใจกับหมายเลขนี้มาก ในส่วนของเราจะเป็นหมายเลขอะไรไม่มีปัญหา ทั้ง ส.ส.เขต หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะเราเชื่อว่าจนถึงวันเลือกตั้งพี่น้องประชาชนคงจะจดจำเบอร์ที่ทุกคนชอบ แล้วมีความตั้งใจที่จะเลือกเบอร์ที่ชอบอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้น จะเบอร์อะไรก็ดีทั้งนั้น เพราะไม่เคยเชื่อว่าจะแพ้หรือชนะอยู่ที่เบอร์

ทั้งนี้ พอจับได้เบอร์ 22 ดีใจพอสมควร เพราะจะมีความสำคัญด้านสื่อสารกับประชาชน เบอร์ 22 สื่อสารง่ายและสอดคล้องกับบริบทของพรรครวมไทยสร้างชาติหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรรครวมไทยสร้างชาติมีแคนดิเดต 2 คน ลุงตู่จะทำหน้าที่ต่ออีก 2 ปี เลข 2 ทำสัญลักษณ์ได้ง่ายต่อการสื่อสาร เพราะในช่วงการเลือกตั้ง การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ เลขดีก็มีประสิทธิภาพในการสื่อสาร และทราบมาว่าเลข 2 ยังเป็นเลขที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกโฉลกด้วย สำหรับพรรคต้องบอกว่าดีใจที่ได้เลข 22 ถือเป็นข่าวดีของพรรค และจะแพ้หรือชนะคงไม่ใช่มาดีใจกับวันนี้ เหลือเวลาอีกกว่า 40 วัน ถึงวันเลือกตั้ง ก็ต้องทำงานกันให้เต็มที่

“พอท่านนายกฯ ทราบว่าจับสลากได้หมายเลข 22 มีเลข 2 ถึงสองเลขเป็นเลขเบิ้ลก็ถือเป็นเลขมงคล อีกทั้งสัญลักษณ์ทำง่ายต่อการสื่อสาร สัญลักษณ์ Y2K นายกฯ ก็ชอบทำอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เป็นท่าที่ท่านทำอยู่เป็นประจำ ฉะนั้นท่านแฮปปี้ดีใจที่ได้เบอร์ 22 ความจริงท่านนายกฯ อยากจะจับเบอร์ด้วยตนเอง แต่บังเอิญกติกาเขากำหนดไว้ให้หัวหน้าพรรคเป็นคนจับ ฉะนั้นวันนี้ต้องบอกว่าท่านนายกฯ ไม่ได้อยู่เหนือหรือนอกกระแส ท่านอยู่ในกระแสตลอดเวลา” นายเอกนัฏ กล่าว

Advertisement

โฆษกปชป. แนะทุกฝ่ายยึดหลักศึกษาแก้ไข รธน. ให้เป็นปชต.เต็มรูปแบบ

People Unity News : โฆษก ปชป. แนะ ทุกฝ่ายยึดหลักศึกษาแก้ไข รธน. ให้เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ เพื่อประโยชน์ “ประชาชน-ประเทศชาติ” เตือนอย่าโต้เถียงจนขัดแย้งทางการเมือง

วันที่ 9 พ.ย.2562 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประเด็นดังกล่าวขอให้ทุกฝ่ายอย่าโต้เถียงกันจนเป็นประเด็นขัดแย้งในทางการเมือง แต่ควรยึดหลักให้ได้ว่าหลักที่สำคัญที่จะเดินไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบมากขึ้น ประชาชนประเทศชาติได้ประโยชน์เราจะมาช่วยกันอย่างไรให้ไปถึงจุดนั้น แน่นอนว่าพรรคการเมือง รัฐบาล รัฐสภา ก็จะเป็นหลักในการขับเคลื่อน เมื่อขณะนี้มีญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้เข้าสู่การแก้ไข แต่เป็นการตั้งคณะกรรมาธิการมาเพื่อศึกษา อย่าให้เสียหลักตั้งแต่เริ่มตั้งต้น มีส่วนไหนที่ควรนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อกำหนดทิศทาง ส่วนไหนของรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนไหนที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ ส่วนไหนที่ควรกำหนดไว้ให้เป็นสิทธิของประชาชนกลับคืนมา การแก้ไขที่กำหนดให้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขยากทำอย่างไรที่จะทำเป็นการแก้ไขโดยใช้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ก็จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี คนที่มีความสามารถ คิดดี ทำดี มีแง่มุม มีประสบการณ์ ปราศจากอคติทั้ง 4 คิดโดยยึดหลักเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศ ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้โดยผ่านกลไกการเสนอของพรรคการเมือง หรือ รัฐบาล

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองแรกที่ชูธงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล จนนำไปสู่การกำหนดไว้เป็นนโยบายของรัฐบาล มีหลักการคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศเพื่อระบบประชาธิปไตยที่ดีขึ้นมีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น และล่าสุดมติที่ประชุม ส.ส. ก็ชัดเจนว่าสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ และพร้อมสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมติที่ประชุม ส.ส.ก็ให้วิปของพรรคไปพูดคุยกับวิปรัฐบาล พรรคร่วม และพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อได้ข้อหารือความเห็นพ้องต้องกันว่าทุกพรรคการเมืองจะมีแนวทางอย่างไร ผลเป็นเช่นใด วันอังคารที่จะถึงนี้ก็จะมีการกลับมารายงานก็ว่ากันไป ตามมติที่ประชุม ส.ส.พรรค มีกลไกเหล่านี้อยู่ ท้ายที่สุดก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภา

รัฐบาลจัดสรรที่ดินทำกิน-ที่อยู่อาศัยให้ราษฎรยากไร้แล้ว 1.12 ล้านไร่

People Unity News : 31 ตุลาคม 2565 รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาที่ดิน ออกหนังสืออนุญาตฯ แล้ว 1.12 ล้านไร่

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมุ่งเน้นให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งต้องอาศัยการร่วมมือบูรณาการกันของทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเร่งให้เกิดการดำเนินการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ตลอดจนเรื่องของการแก้ไขหรือปลดล็อกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการตรวจพิสูจน์สิทธิการครอบครองและการใช้ประโยชน์จากที่ดิน โดยให้ยึดหลักการใช้ข้อเท็จจริงที่รอบด้าน และหลักการการเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ แต่ให้สามารถเข้าใช้ประโยชน์ได้ในการแก้ปัญหา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและผลกระทบ

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน โดยได้จัดสรรที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้แก่ราษฎรที่ยากไร้และเกษตรกรตามหลักการของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) โดยได้ดำเนินการออกหนังสืออนุญาตแล้วใน 356 พื้นที่ 65 จังหวัด เนื้อที่ 1.12 ล้านไร่ จัดคนลงพื้นที่ จำนวน 73,809 ราย ใน 331 พื้นที่ 67 จังหวัด เนื้อที่ 501,475 ไร่ และส่งเสริมและพัฒนาอาชีพใน 247 พื้นที่ 65 จังหวัด เนื้อที่ 327,976 ไร่ รวมทั้งได้ดำเนินการมอบสมุดประจำตัวผู้ที่ได้รับการคัดเลือกการจัดที่ดินทำกิน จำนวน 55,589 เล่ม ใน 53 จังหวัด

“รัฐบาลมุ่งสร้างพื้นที่ทำกินให้แก่ประชาชน และได้กำหนดให้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ มีกลไกคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติขับเคลื่อนการบูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกินที่เรื้อรังและซับซ้อน โดยจะอำนวยการดูแลประชาชนทั้งเรื่องการรวมกลุ่มให้เข้มแข็ง จัดตั้งเป็นสหกรณ์ และพัฒนาอาชีพ เพื่อนำไปสู่การมีรายได้เพิ่มอย่างยั่งยืนด้วย” นางสาวรัชดา กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics