วันที่ 7 พฤษภาคม 2024

นายกฯ ขอ ผบ.ตร.เร่งกวาดบ้านตัวเอง

People Unity News : 27 กุมภาพันธ์ 2566 นายกฯ นำถก ก.ตร. ย้ำข้าราชการเลวมีทุกที่ ขอ ผบ.ตร.เร่งกวาดบ้านตัวเอง สร้างความเชื่อมั่นประชาชน ยันให้ความเป็นธรรม หากผิดว่าไปตามหลักฐาน บ่นอารมณ์ดีก็ถูกว่า

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 2/2566 ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงผลการประชุม เพราะทุกเรื่องมีระเบียบและขั้นตอนอยู่ ทั้งเรื่องของ พ.ร.บ.ตำรวจ กฎกระทรวง ก.ตร. มีหมดทุกอย่าง ซึ่งวันนี้ได้คุยกันแล้ว ได้กำชับให้ ผบ.ตร.กวาดบ้านตัวเอง เพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่นเชื่อถือ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับตำรวจด้วย ขณะนี้ข้อกล่าวหาต่างๆ ต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนขยายผล ตนได้ย้ำไปว่า ขอให้เกิดความเป็นธรรมก็แล้วกัน หากผิดก็ว่ากันไปตามหลักฐาน หลายๆ อย่างมีช่องทาง ก็ขอให้ดูด้วยว่า บางอย่างก็ทำเร็วไม่ได้ เนื่องจากต้องเป็นไปตามกฎหมาย หลายอย่างไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจอย่างเดียว เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงานที่ร่วมกันสอบสวน ไม่ว่าจะคดีอะไรก็ตามที่เขาร้องเรียนเข้ามา ก็ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะข้าราชการที่ดีก็มีมากกว่า 99% คนชั่วก็มีทุกที่แหละ แต่จะทำอย่างไรให้เขาดีขึ้นหรือไม่ ก็ต้องขจัดออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณสื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่า อารมณ์ดีก็ว่ากันอีก แล้วนายกรัฐมนตรีก็หันมายิ้มกับสื่ออย่างอารมณ์ดี

Advertisement

“ชวน”ยันออกระเบียบเรียกบุคคลแจง”กมธ.”ไม่ได้เอื้อใครเหตุมีมานานแล้ว

People Unity News : “ชวน”ยันออกระเบียบเรียกบุคคลแจง”กมธ.”ไม่ได้เอื้อใครเหตุมีมานานแล้ว กรีด”วันนอร์”ปูดห้องลับซื้องูเห่า ชี้ไม่ว่าสัตว์อะไรก็ขออย่ามาเข้าสภา “วิปฝ่ายค้าน”โอด!วาระรับทราบค้างเยอะ ทำญัตติแก้”รธน.”ถูกเลื่อน

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการออกประกาศระเบียบสภาผู้แทนราษฎรว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการกระทำกิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดที่มีความเกี่ยวข้องกันของคณะกรรมาธิการหลายคณะ พ.ศ.2562 โดยยืนยันว่า มีการออกระเบียบทำนองนี้มานานแล้ว ไม่ได้เพิ่งจะมาออกเพื่อเป็นการปกป้องหรือเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลใด

ทั้งนี้ หลังจากที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ระเบียบดังกล่าวออกมาภายหลังกรณีที่ทางคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริตฯ ออกคำสั่งเรียก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นรอบที่ 4 ในกรณีที่อ้างว่ามีการถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ไม่ครบถ้วน จึงไม่มีอำนาจเสนอกฎหมายงบประมาณ พ.ศ.2563

กรีด”วันนอร์”ปูดห้องลับซื้องูเห่า ชี้ไม่ว่าสัตว์อะไรก็ขออย่ามาเข้าสภา

นายชวน กล่าวถึงกรณีที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุว่ามีการเปิดห้องลับในรัฐสภา เพื่อดำเนินการซื้อตัว ส.ส.งูเห่า ว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ตนอยากจะเตือนว่า ไม่ว่าสัตว์อะไรก็ขออย่ามาเข้าสภา เพราะถือว่ามีอันตรายทั้งนั้น รวมทั้งการประชุมในสัปดาห์นี้จะเป็นการพิจารณาวาระรับทราบที่ค้างมาจากการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ข่าวนี้จะทำให้ภาพพจน์ของสภาเสียหายหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่อยากออกความเห็นในสิ่งที่สมมุติขึ้นมา เดี๋ยวจะมีปัญหากระทบกัน คงต้องไปถาม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทาเอง

“วิปฝ่ายค้าน”โอด!วาระรับทราบค้างเยอะ ทำญัตติแก้”รธน.”ถูกเลื่อน

ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ทั้ง 7 พรรค โดยมีตัวแทนแต่ละพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อพิจารณาวาระการประชุมสภาฯ โดยเฉพาะญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 และญัตติเสนอตั้งกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาผลกระทบจากมาตรา 44 ของ คสช.

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า ความจริงสัปดาห์ที่แล้ว วาระรับทราบควรจะพิจารณาให้เสร็จสิ้นทั้งหมด นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เคยระบุว่า วาระรับทราบต่อสัปดาห์จะบรรจุมากสุด 2 เรื่อง แต่ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14พ.ย. พิจารณาไม่จบ เลยทำให้วาระที่ยังค้าง ต้องนำมาพิจารณาต่อในสัปดาห์ถัดไป จึงทำให้ญัตติเรื่องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้รับผลกระทบไปด้วย

เมื่อถามว่า มองว่า เรื่องนี้เป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่อยากมองว่า เป็นเกมการเมือง เพียงแต่อยากให้ประธานและรองประธานสภาฯ ทั้ง 3 คน คุยกันให้ชัดว่า ในการประชุมวันนี้ ควรพิจารณาวาระนั้นๆ เอาให้จบไปเลย การประชุมสภาฯ 20-21 พ.ย. กลายเป็นว่า มีวาระค้างอยู่ 4 เรื่อง มีวาระใหม่เพิ่มอีก จึงทำให้ ญัตติเรื่องรัฐธรรมนูญของพรรคฝ่ายค้าน ถูกเลื่อนไปอีก แต่ถึงจะเลื่อนไปอีก คิดว่า ในสัปดาห์ถัดไป ประมาณวันที่ 28 พ.ย.หรือ 29 พ.ย.น่าจะมีการพิจารณาได้ คงไม่เลื่อนออกไปอีก ยอมรับว่า เมื่อญัตติยังไม่ได้ถูกนำมาพิจารณาก็จะทำให้กระบวนการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องล่าช้าออกไปอีก

นายกรัฐมนตรีกำชับ เตรียมความพร้อม ก่อนแจก ATK ฟรี 8.5 ล้านชุด 15 กันยายนนี้

People Unity News : นายกรัฐมนตรีกำชับ เตรียมความพร้อม ก่อนแจก ATK ฟรี 8.5 ล้านชุด 15 กันยายนนี้

5 กันยายน 2564 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เตรียมความพร้อมการกระจายชุดตรวจโรควิด-19 ด้วยตัวเอง หรือ Antigen Test Kit (ATK) ภายหลังผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ได้ลงนามสัญญาจัดซื้อชุดตรวจ ATK จำนวน 8.5 ล้านชุด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่า จะเริ่มแจกจ่ายประชาชนกลุ่มเป้าหมายในวันที่ 15 กันยายนนี้

สปสช.ได้เตรียมการกระจายชุดตรวจ ATK ผ่านหน่วยบริการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพใน 2 รูปแบบคือ แจกให้ชุมชนแออัด รวมทั้งตลาด โดยให้ผู้นำชุมชน ผู้ประสานงาน หรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มารับชุดตรวจและกระจายให้กลุ่มเป้าหมาย โดยที่ประชาชนไม่ต้องเดินทางมารับที่หน่วยบริการ แจกที่หน่วยบริการ ได้แก่ โรงพยาบาล และ รพ.สต.ทุกแห่ง รวมถึงคลินิกและร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ โดยประชาชนขอรับผ่านแอปเป๋าตัง ที่ธนาคารกรุงไทยกำลังพัฒนาระบบอัพเดทแอปเป๋าตัง เพิ่มเมนูรับชุดตรวจโควิด-19 ฟรี

Advertising

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯขอบคุณกก.วัตถุอันตราย”แบน 3 สารพิษ”

People Unity : องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายและรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวง ที่มีมติแบน 3 สารพิษ ชื่นชมการปฎิบัติหน้าที่โดยมิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต หวังเห็นความร่วมมือจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม และ ยั่งยืน อย่างแท้จริง

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ACT ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 เรื่องขอขอบคุณคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่มีมติยกเลิกการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตเพื่อคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และคนไทยทุกคน โดยในแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมและได้ลงมติอย่างเปิดเผยให้มีการยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีอันตราย พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซตนั้น องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ขอขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างดำรงไว้ซึ่งจริยธรรมและมนุษยธรรม มิเพิกเฉยต่อสุขภาพ ชีวิต ทั้งในส่วนของเกษตรกรผู้รับผลกระทบโดยตรงและผู้บริโภคผู้ได้รับผลกระทบในภายหลัง และที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง คือ การดำเนินการให้มีการลงมติอย่างเปิดเผย ตามที่องค์กรฯ และหลายภาคส่วนเรียกร้อง ช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องความโปร่งใสในการพิจารณา

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอขอบคุณไปยังท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (คุณอนุทิน ชาญวีรกูล) รวมทั้งรัฐมนตรี (คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน) และรัฐมนตรีช่วย (คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ซึ่งได้แสดงจุดยืนชัดเจน ให้ยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีดังกล่าว และร่วมรณรงค์ผลักดันจนทำให้มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย จนนำมาซึ่งการลงมติดังกล่าวในที่สุด

“องค์กรฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การมีมติยกเลิกการใช้ 3 สารเคมีในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความร่วมมือกันในการจัดการปัญหาการใช้สารพิษในการเกษตรอย่างเหมาะสม ยั่งยืน และเป็นจุดเริ่มต้นแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดต่อทั้งชีวิตของ’เกษตรกรผู้ใช้ ระบบนิเวศทางธรรมชาติและชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางองค์กรฯและเครือข่าย พร้อมจะทำหน้าที่ในการสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้ปฎิบัติงานอย่างซื่อตรงต่อหน้าที่และความรับผิดชอบ เพื่อยังประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนคนไทยในทุกระดับ”

“มาดามเดียร์”หนุน”อาเซียน”เจ้าภาพบอลโลก2034

People Unity News : “มาดามเดียร์”หนุน”อาเซียน”เจ้าภาพบอลโลก2034 ชี้เป็นความท้าทายของประเทศสมาชิก แต่หากทำได้ ช่วยกระตุ้น ศก.ทั้งระยะสั้น-ยาว ยกระดับอาเซียนในเวทีโลก

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ FB ส่วนตัว”เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี” ระบุว่า หลังจากที่สมาชิกอาเซียนประกาศจับมือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2034 ที่เกิดขึ้นในการประชุมอาเซียนซัมมิท ทำให้เดียร์และเชื่อว่าแฟนบอลอีกหลายคนต้องดีใจเป็นพิเศษ เพราะฟุตบอลโลกนอกจากจะเป็นความฝันสูงสุดของวงการฟุตบอลทีมชาติ แต่การจัดงานยังช่วยกระตุ้นระบบหมุมเวียนเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและยาวให้กับประเทศ ยกระดับกลุ่มอาเซียนให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก แต่เป้าหมายจะไปได้ถึงจริงหรือไม่ นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ 1. จากตัวเลขมูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะได้รับเทียบกับมูลค่าการลงทุน หากเราดูกรณีตัวอย่างเจ้าภาพในรอบ 3 ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่า ทั้งกรณีแอฟริกาใต้ บราซิลและรัสเซีย ต่างล้วนอยู่ในสภาวะที่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งมาจากสาเหตุหลายปัจจัย เช่น ทั้ง 3 ประเทศล้วนมีต้นทุนค่าก่อสร้างสนามแข่งขัน และพื้นฐานสาธารณูปโภคอื่นๆที่สูงมาก โดยเฉพาะหากเราย้อนดูกรณีเมื่อครั้งที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพปี 2006 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการกอบโกยรายได้เข้าประเทศเพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับบราซิลที่งบประมาณก่อสร้างบานปลาย มีปัญหาคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นมากมาย จนสร้างสนามเสร็จวินาทีสุดท้ายก่อนพิธีเปิด

2. ความเป็นเอกภาพของประเทศในอาเซียน ในการร่วมกันจัดงาน ยกตัวอย่างงานพิธีเปิด-ปิด ของฟุตบอลโลกที่จะถือเป็นไฮไลท์สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เราจะมีมาตรการอย่างไรในการคัดเลือกประเทศที่มีความพร้อมที่สุดในการเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถ้าดูจากความพร้อมสนามปัจจุบันที่ต้องมีจำนวนที่นั่งอย่างน้อย 80,000 ที่นั่งตามข้อกำหนดของฟีฟ่า ก็ดูเหมือนจะมีเฉพาะ 2 ประเทศในอาเซียนที่มีความพร้อมปัจจุบันคือ อินโดนีเซียและมาเลเซีย เพราะสนามรัชมังคลาฯของไทยที่ใหญ่ที่สุดสามารถจุคนได้เพียงประมาณ 49,000 คนเท่านั้น ดังนั้นหากไทยต้องการคว้าพิธีเปิด หรือปิดฟุตบอลโลกมาจัดเองก็ต้องมีการลงทุนสนามแข่งเพิ่มเติม

น.ส.วทันยา ระบุด้วยว่า ยังมีความท้าทายอีกหลายจุดโดยเฉพาะในการเตรียมทีมชาติเพื่อให้ทัดเทียมกับนานาชาติได้ หากอาเซียนต้องการเป็นเจ้าภาพจริง การพัฒนาวงการกีฬาฟุตบอลก็คงต้องทุ่มเทความสำคัญนับเป็นวาระหลักของประเทศอีกหนึ่งวาระ ส่วนจะคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนก็คงอยู่ที่ความสามารถของรัฐบาลที่จะวางแผนควบคุมต้นทุนไม่ให้เกิดปัญหาดังเช่นในกรณีประเทศบราซิล แต่ที่สำคัญแน่ๆคือ การลงทุนครั้งนี้สิ่งหนึ่งที่ประเมินค่าไม่ได้คือ ความสุขและความภูมิใจของแฟนบอลอาเซียนทุกคน และอีกสิ่งสำคัญนั่นคือความสามัคคีของคนในชาติที่สามารถสร้างได้ด้วยกีฬา

นายกฯ เลือกอีก 4 มูลนิธิ ส่งต่อเงินเดือน-เงินประจำตำแหน่งให้

People Unity News : 17 พฤศจิกายน 2566 ทำเนียบ – โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ คัดเลือกมูลนิธิเพิ่มเติมอีก 4 แห่ง ส่งต่อเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ต่อยอดโอกาส เพื่อกลุ่มเปราะบาง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า สืบเนื่องจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศส่งต่อเงินเดือน และเบี้ยประชุมของทุกเดือน ให้มูลนิธิต่างๆ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง นั้น สำหรับเงินเดือนประจำตำแหน่ง และเบี้ยประชุมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้คัดเลือกมูลนิธิเพิ่มเติมอีกจำนวน 4 แห่ง โดยมูลนิธิที่นายกรัฐมนตรีส่งต่อ คือ

1.มูลนิธิคนพิการไทย จำนวน 50,000 บาท เพื่อสมทบทุนในโครงการ “เป็นแขน-ขาให้ตากะยาย” โดยผลิตวีลแชร์ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กพิการ คนพิการ และผู้สูงอายุทั่วประเทศ

2.มูลนิธิอิสรชน จำนวน 50,000 บาท ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินกิจกรรมกับผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะในประเทศไทย เพื่อดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือ การแบ่งปันอาหาร หรือมอบถุงปันสุขให้แก่คนด้อยโอกาส และผู้ยากไร้ในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ

3.มูลนิธิสายธารสุขใจ จำนวน 50,000 บาท เพื่อสมทบทุนในการซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง และจัดหาสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตให้กับผู้ชรา และคนยากไร้

4.มูลนิธิบ้านพระพร จำนวน 50,000 บาท เพื่อให้การช่วยเหลือ และเป็นทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนผู้พ้นโทษ และเด็กที่พ่อแม่อยู่ในเรือนจำ เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“นอกจากการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง นายกรัฐมนตรีและคณะของรัฐบาล ยังมีการลงพื้นที่เพิ่มเติมในหลายๆ พื้นที่ เช่น จังหวัดยโสธร จังหวัดอุดรธานี จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก เป็นต้น โดยเข้าไปพบปะ พูดคุยกับประชาชนและองค์กรต่าง ๆ รับฟังปัญหาและความต้องการ เพื่อจะหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนต่อไป” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

ส่อทางไม่สวย!”อภิสิทธิ์”นั่งปธ.กมธ.แก้รธน”พปชร.”ค้าน

People Unity News : “จุรินทร์” โยนวิปรัฐบาลเคาะ “อภิสิทธิ์” นั่งประธานกมธ.แก้รธน. งดออกความเห็นเหมาะสมหรือไม่ ขณะที่ “วีระกร” ดักคอต้องเป็นพรรคแกนนำรบ.

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคปชป. เป็นประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า เรื่องนี้ขอไม่พูดถึงตัวบุคคล แต่ขอพูดในหลักการคือ ขณะนี้ญัตติการตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้บรรจุอยู่ในวาระของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เมื่อมีการหยิบยกขึ้นมาก็จะมีการพิจารณาว่าจะให้มีการตั้งกรรมการวิสามัญหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าแนวโน้มคงตั้ง เพราะทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีความเห็นร่วมกันให้มีการตั้งอยู่แล้ว ตอนเสนอญัตติเข้าไป ดังนั้นเมื่อมีการตั้งก็จะมีการพิจารณาตัวกรรมาธิการที่จะเข้าไปสู่การพิจารณา ซึ่งในส่วนของพรรคปชป.นั้น ขึ้นอยู่กับที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยส.ส.จะเป็นผู้พิจารณาว่าใครจะไปเป็นกรรมาธิการ

“ผมคงไม่สามารถเรียนให้ทราบล่วงหน้าได้ว่าจะมีใครสนใจบ้าง และควรจะเป็นใคร แต่หลังจากได้ตัวกรรมาธิการครบ จะพิจารณาว่าใครจะเป็นประธาน รองประธาน ตำแหน่งไหนในกรรมาวิสามัญ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมาธิการ ซึ่งในส่วนรัฐบาลก็มีวิปรัฐบาลที่จะเป็นผู้พิจารณา โดยวิปในพรรคปชป. จะเป็นหนึ่งในวิปรัฐบาล ที่จะเข้าไปร่วมพิจารณา ซึ่งต้องรอวิปรัฐบาลเป็นผู้รอพิจารณาอีกขั้นหนึ่ง ว่าควรจะเป็นใครอย่างไร”นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากวิปรัฐบาลไฟเขียว ในขณะที่ฝ่ายค้านก็เห็นถึงความเหมาะสมของตัวนายอภิสิทธิ์ นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่า ขอให้เป็นเรื่องของวิปฯ ที่จะไปคุยกัน ในส่วนของพรรคปชป.ก็จะคุยกันในส่วนของวิปรัฐบาล เพราะเป็นกลไกที่เราทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ต้นในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และจำเป็นจะต้องหารือกันในวิปรัฐบาล เพราะซีกรัฐบาลมีความสำคัญต่อความสำเร็จเหมือนกัน และจะเป็นความสำเร็จของทุกฝ่าย เพราะการแก้รัฐธรรมจะสำเร็จได้ ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล แต่ต้องรวมไปถึงวุฒิสมาชิกด้วย นั้นแปลว่าจะต้องมีความเห็นพ้องต้องกัน ยืนยันว่าในส่วนของปชป. จะต้องไปนับหนึ่งที่วิปรัฐบาล ในฐานะพรรคร่วม ซึ่งเราจะเจรจากันตรงนั้น ตอนนี้ขอไม่พูดในรายละเอียด ขอให้เป็นหน้าที่วิปที่จะคุยกัน

เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวเห็นว่านายอภิสิทธิ์ มีความเหมาะสมหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นส่วนตัว เป็นเรื่องของพรรคที่จะพิจารณาตัวบุคคล

“วีระกร” ดักคอต้องเป็นพรรคแกนนำรบ.

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอชื่อประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนพรรคพปชร.ที่จะเสนอชื่อคนใน หรือคนนอกพรรคนั้น ว่า จะต้องเป็นคนในพรรค ซึ่งกมธ.ชุดดังกล่าวเป็นแค่การศึกษาหาแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้เป็นเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง โดยจะไปสามารถแก้ไขอย่างรวดเร็วคงไม่ใช่ ก็ต้องศึกษาก่อน เพราะฉะนั้นคนในพรรคพปชร.ก็สามารถนั่งเป็นประธานกมธ.ได้ทั้งนั้น เบื้องต้น อาจเป็นนายวิรัช รัตนเศรฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานวิปรัฐบาล นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคพปชร. หรือแม้แต่ตน ก็สามารถนั่งเป็นประธานกมธ. ได้ โดยมองว่าจะต้องผู้ที่มีความอาวุโส ซึ่งภายในพรรคก็มีผู้ที่มีความอาวุโสอยู่หลายคน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเห็นอย่างไร ต่อกระแสข่าวการผลักดันให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เป็นประธานกมธ.ชุดดังกล่าว นายวีระกร กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของกรรมาธิการคณะใหญ่ๆ ที่จะต้องเป็นแกนนำพรรครัฐบาล แต่เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นแกนนำพรรครัฐบาล ซึ่งการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ฯ นั้นมีสิทธิที่จะเสนอได้ แต่ตามหลักและมารยาท จะต้องเป็นพรรคใหญ่ที่สุดของรัฐบาล นั่งเป็นประธานกมธ.

เมื่อถามว่าสามารถกล่าวได้หรือไม่ว่า ทางพรรคพปชร.ไม่ขัดข้อง หากนายอภิสิทธ์ฯ นั่งประธานกมธ. นายวีระกร กล่าวย้ำว่า จะบอกว่าขัดข้อง หรือไม่ขัดข้องนั้นไม่ได้ แต่ย้ำว่าไม่ได้รังเกียจนายอภิสิทธิ์ แต่เขาเสียงน้อยมานั่งตรงนี้ คงจะไม่ได้ แต่ทั้งนี้ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่านายอภิสิทธิ์ฯ มีความเหมาะสมในสายตาของตน แต่เป็นตัวแทนพรรคปชป.มองว่ายังเล็กไป ควรจะต้องเป็นพรรครัฐบาล หรือพรรคพปชร.

เมื่อถามอีกว่าผู้ที่เหมาะสมจะมานั่งประธานกมธ.ชุดนี้ จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างนั้น นายวีระกร กล่าวว่า จะต้องรู้เรื่องกฎหมาย และมีประสบการณ์ทางการเมืองมากพอสมควร รวมถึงจะต้องรู้ว่ารัฐธรรมนูญเก่าๆ ที่ผ่านมาให้สิทธิเสรีภาพอย่างไร หรือมีอะไรที่แตกต่างจากฉบับปัจจุบัน เพื่อเปรียบเทียบ ซึ่งหลายคนก็บอกว่าฉบับปัจจุบันก็ไม่ค่อยเต็มใบสักเท่าไหร่ ดังนั้น คนที่จะมานั่งเป็นประธานจะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ในหลายรัฐธรรมนูญมาแล้ว เป็นผู้ที่มีความรู้ทางกฎหมายและมีความอาวุโส อย่างน้อยจะต้องมีจิตวิญญาณ และความรู้สึกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเก่าให้สิทธิและเสรีภาพเช่นไรบ้าง

นายกฯสั่งเตรียมแถลงผลงานรัฐบาลครบ 3 ปี พร้อมทั้งแจงการใช้งบประมาณที่ผ่านมาใช้อะไรไปบ้าง?

People unity news online : เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เวลา 13.00 น. ณ บริเวณห้องโถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงการทำงานของรัฐบาลที่ใกล้จะครบ 3 ปีในเดือนหน้าว่า ได้ชี้แจง และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานสรุปผลงานความคืบหน้าต่างๆ ทั้งในเรื่องของงานฟังก์ชั่น และงานบูรณาการให้มีความชัดเจนมากขึ้น ในการใช้จ่ายงบประมาณที่ผ่านมาว่า ได้มีการดำเนินการ และใช้อะไรไปบ้าง อีกทั้งการวางพื้นฐานในอนาคตต่างๆที่ยังทำไม่เสร็จก็ต้องวางแผนไว้ให้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลหน้าจะตัดสินใจอย่างไร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ ในเรื่องของการต่างประเทศเรามีความสัมพันธ์ที่ดี มีการเพิ่มมูลค่าการค้าขาย การท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขในเชิงรุกทุกๆมิติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการดำเนินงานในด้านของกระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมาว่า เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกันติดตามและมองในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อย่าไปมองแต่สิ่งเล็กๆ จนเกิดความรู้สึกว่าไว้ใจ บางเรื่องบางคดีเป็นเรื่องของคนเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งถ้าผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่ไม่ได้หมายความว่าคนทั้งหมด 70 ล้านคนในประเทศไทยจะต้องถูกดำเนินคดีไปด้วย อย่าลืมว่าแต่ละวันมีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งที่รู้และไม่รู้ แต่ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ขยายข่าวไปต่างๆนานา แล้วแต่ใครจะคิดอย่างไร ซึ่งกระบวนการยุติธรรมมีขั้นตอน มีหลักฐาน และรัฐบาลพยายามสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้น อย่างเช่น คดีการหลอกลวง ที่ผ่านมาจับไม่ได้ และไม่เป็นข่าว แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญและใส่ใจจึงทำให้เป็นข่าวขึ้นมา แต่ทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดี และไม่ดี เราต้องแยกแยะให้ออก และชั่งน้ำหนักให้ได้ การจะให้ไม่มีเรื่องเลยเป็นไปไม่ได้ วันนี้คนไทยจำเป็นต้องผนึกกำลังให้ได้ ขอให้ยืนอยู่ตรงกลางอย่าโอนเอียงไปซ้ายทีขวาที ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้การเมืองกำลังเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตย ขอร้องว่าอย่าให้เป็นประเด็นการเมืองทุกเรื่อง ไม่เช่นนั้นจะทำงานกันไม่ได้ ถ้าทำงานไม่ได้ เท่ากับ 3 ปีที่รัฐบาลทำมาก็ล้มเหลว กลายเป็นว่าทำไม่ดีสักเรื่อง ทั้งหมดขอให้ติดตาม และดูกันต่อไป พร้อมขอให้รับฟังรัฐบาลบ้าง

People unity news online : post 3 พฤษภาคม 2560 เวลา 22.03 น.

“สุดารัตน์” วางมาตรการเชิงรุก “แก้หนี้ประเทศ ด้วยการสร้างรายได้”

People Unity News : 1 มีนาคม 2566 “สุดารัตน์” ชี้ไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายโลก 5 เรื่องใหญ่ที่ผู้นำประเทศต้องเข้าใจ และวางมาตรการเชิงรุก ”พลิกวิกฤติโลกให้เป็นโอกาสหาเงินเข้าประเทศ” ระบุไทยสร้างไทยจะมุ่ง “แก้หนี้ประเทศ ด้วยการสร้างรายได้” ให้คนไทย

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยต้องเผชิญและรับมือกับ 5 ความท้าทายของโลก หากรับมือได้ทันก็รอด แต่หากรับมือไม่ทันก็ร่วง ถ้าผู้นำมีวิสัยทัศน์ วางยุทธศาสตร์ประเทศให้ดี ก็จะสามารถพลิกวิกฤติโลกให้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของประเทศไทยได้ และสำหรับ 5 วิกฤติและความท้าทายที่กล่าวถึงคือ

1.ความท้าทายของโรคระบาด ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ (Emerging Diseases) อย่างโควิด-19 ที่เป็นปัญหากระทบทั่วโลก ทั้งด้านชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจ ต่อเนื่องเข้าปีที่ 3 มีการล็อกดาวน์ ปิดประเทศ กระทบซัพพลายเชน และรายได้การท่องเที่ยวทั้งโลก ดังนั้น ในวิกฤติโรคระบาด ไทยเราสามารถพลิกวิกฤตินี้ให้เป็นโอกาสได้ เพราะเรามีระบบสาธารณสุขที่ดีมาก เราต้องทำให้ไทยเป็นหลุมหลบภัยจากโรคระบาดให้คนทั้งโลก มา Work from Thailand เราต้องเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล และการส่งเสริมสุขภาพครบวงจรของโลก โดยเฉพาะการชูสมุนไพรไทย ที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ

2.ความท้าทายการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศ (Climate Change) ที่จะส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ทุกประเทศจึงให้ความสำคัญกับการรับมือกับสภาวะโลกร้อน ไทยต้องปรับตัวให้เกิดการผลิตพลังงานทดแทนอย่างเร่งด่วน สามารถทำได้ไม่ยากเพียงแต่รัฐต้องเลิกเอื้อประโยชน์ให้โรงงานไฟฟ้ารายใหญ่ แล้วหันมาสนับสนุนให้ภาคครัวเรือน, เอกชน และท้องถิ่น สามารถผลิตไฟฟ้าของตนเองได้อย่างแท้จริง รวมทั้งการนำของเหลือจากภาคเกษตรมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน และ Bio Plastic ได้อย่างมากมาย ลดการเผาที่ทำให้โลกร้อนและเกิด PM 2.5 ทั้งหมดนี้ต้องทำอย่างเร่งด่วนเพราะทั้งสหรัฐและยุโรป ได้ผ่านกฎหมายที่จะเก็บภาษีเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานที่ยังปล่อยก๊าซเรือนกระจก ภายใน 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบในการส่งออกของธุรกิจ SMEs อย่างมหาศาล

3.ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนประชากรโลก (Population Ageing) ซึ่งไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลก ที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงวัยมากที่สุด อีกทั้งคนไทย “แก่ก่อนรวย” และสุขภาพไม่ดี ดังนั้น นอกจากคนวัยทำงานจะน้อยลง ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย ปีละเป็นแสนล้าน เราจึงต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้ อย่างโครงการ ”บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท” ที่ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ ซึ่งต้องเข้าโปรแกรมการสร้างสุขภาพให้แข็งแรง พร้อมทั้งการให้ความรู้ด้านอาชีพและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรงกลับไปทำงานได้ และเงินของผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้ฟื้นตัว ซึ่งจะยกระดับให้เศรษฐกิจทั้งประเทศดีขึ้นอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ไทยจะสามารถเป็นศูนย์กลางธุรกิจสุขภาพผู้สูงอายุ “Thai Hospitality” และทำเป็นที่พำนักระยะยาว สำหรับผู้สูงอายุจากทั่วโลกได้อีกด้วย

4.ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่มีความรวดเร็ว (Technology Destruction) ซึ่งเป็นทั้งวิกฤติและโอกาสของโลกยุคใหม่ เพราะปัจจุบันโลกเรากำลังอยู่ในยุคปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Big Data, Internet of Things, Robots และ Quantum Computing ได้เข้ามามีบทบาทต่อภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งไทยต้องเร่งส่งเสริมปรับหลักสูตรการศึกษา ให้เด็กไทยได้เข้าถึงโอกาสเหล่านี้ พร้อมทั้งต้องแก้กฎหมายให้ทันสมัย ให้รองรับการสร้างธุรกิจจากเทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ Startup ได้ระเบิดศักยภาพของตนเองได้เต็มที่

5.ความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงของภูมิศาสตร์โลก (Geopolitics) ที่ส่งผลกระทบทั่วโลกในหลายๆ ด้าน ทั้งในด้านดุลอำนาจของ 2 ขั้วอำนาจระหว่างชาติตะวันตก กับตะวันออก, สงครามรัสเซีย-ยูเครน, สงครามการค้า ซึ่งเราต้องใช้โอกาสนี้ที่เราเป็นประเทศที่เป็นมิตรที่แน่นแฟ้นกับทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา รวมถึงรัสเซีย วางตำแหน่ง ภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศให้ถูก และควรจะยืนอยู่กลางความถูกต้อง ค้าขายกับประเทศใดก็ได้ ใครอยากจะมาลงทุนก็ยินดีรับหมด เพื่อดึงดูดการย้ายฐานการผลิต และใช้ทำเลที่ตั้งที่เราอยู่ใจกลางภูมิภาค มาเป็นโอกาสในการทำให้ไทยศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมใหม่ที่ต้องย้ายฐานการผลิต อย่างรถ EV และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

Advertisement

“ธรรมนัส”มอบ ส.ป.ก. 4-01 เกษตรกรเพชรบุรี-ราชบุรี

People Unity News : “ธรรมนัส” ให้กำลังใจเกษตรกรเพชรบุรี-ราชบุรี มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ดร.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินฯ พร้อมด้วยนายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต2 นาย สุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต3 โดยมีนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการและประชาชนกว่า 500 คน ให้การต้อนรับ

ดร.ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวแสดงความยินดีพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน เกษตรกรได้รับสิทธิเข้าทำประโยชน์ เข้าทำกิน พร้อมกล่าวแสดงความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรในเรื่องน้ำและที่ทำกิน โดยเฉพาะได้มอบนโยบายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมมอบอาชีพให้เกษตรกร ไม่ใช่แค่เพียงมอบที่ดินอย่างเดียว สิ่งสาธารณูปโภคต่างๆต้องมีพร้อมรัฐบาลมีความห่วงใย ดูแลพี่น้องให้กินดี อยู่ดีและมีความสุข

สำหรับการมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินแก่เกษตรกรราชบุรี 45 ราย มอบสัญญาแก้ไขสัญญาเช่าซื้อฯ ให้เกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค จำนวน 55 ราย และมอบบัตรดินดีให้แก่เกษตรกรด้วย

ต่อมาดร.ร.อ.ธรรมนัสได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการ ชมจุดสาธิตการวิเคราะห์ดิน และพบปะเกษตรกร นอกจากนั้นพี่น้องเกษตรกรได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมโครงการชิมช้อปใช้ แต่ขอให้มีวิธีการเข้าถึงให้กับผู้สูงอายุที่ไม่มีโทรศัพท์ในการเข้าถึง และให้ช่วยอย่างต่อเนื่องสำหรับที่ดินบางพื้นที่ที่ยังมีปัญหาด้วย

Verified by ExactMetrics