วันที่ 27 เมษายน 2024

“ไทย” ติดอันดับ 3 Top Countries in the World

People Unity News : 6 ตุลาคม 2565 นายกฯ ยินดี ไทยติดอันดับ 3 Top Countries in the World จาก Condé Nast Traveler Readers’ Choice Awards 2022 ขอบคุณคนไทยช่วยให้ประเทศเป็นจุดสนใจของโลก พร้อมเดินหน้าทำงาน สนับสนุนการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดี ที่ประเทศไทยได้อันดับ 3 “ประเทศระดับท็อปของโลก” (Top Countries in the world) และกรุงเทพฯ ได้อันดับ 4 “เมืองที่ดีที่สุดในโลก” ในขณะที่เกาะ โรงแรม และรีสอร์ทของไทยหลายแห่ง ยังติดอันดับสูงในรายการ ‘ดีที่สุด’ อื่นๆอีกด้วย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากรายงานผลการประกาศรางวัล Condé Nast Traveler Readers’ Choice Awards 2022 ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นอันดับที่ 3 ใน Top Countries in the World จากทั้งหมด 48 ประเทศ โดยได้รวม 90.46 คะแนน และอันดับ 1 คือ โปรตุเกส (91.22 คะแนน) และอันดับ 2 ญี่ปุ่น (91.17 คะแนน) ในขณะที่อันดับ 4 คือ สิงคโปร์ (90.09 คะแนน) โดยไทยและสิงคโปร์ เป็น 2 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับการจัดให้อยู่ใน 10 อันดับแรก

นอกจากนี้ กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยก็ติดอันดับ 4 เมืองที่ดีที่สุดในโลก (Best Cities in the World) โดยกรุงเทพฯ ก็เป็นเพียง 1 ใน 2 เมืองในภูมิภาคอาเซียนที่ติดอันดับ 10 เมืองที่ดีที่สุดในโลกเช่นกัน ด้วยคะแนน 89.36 ซึ่ง เมืองซาน มิเกล เด อัลเลนเด (San Miguel de Allende) ประเทศเม็กซิโก ได้รับการจัดอันดับที่ 1 ด้วยคะแนน 92.94 สิงคโปร์ อันดับที่ 2 (89.49 คะแนน) และอันดับ 3 เมืองวิคทอเรีย ประเทศแคนาดา (89.46 คะแนน) ตามลำดับ

ในขณะที่การจัดอันดับ 10 ‘เกาะยอดนิยม’ ในเอเชีย เกาะสมุยได้อันดับที่ 3 ด้วยคะแนน 92.13 ภูเก็ตอยู่ที่ 5 ด้วย 90.88 คะแนน ส่วนเกาะพีพี อยู่ที่อันดับ 10 ด้วยคะแนน 76.41 นอกจากนี้ การประกาศรางวัลดังกล่าวได้มีการจัดอันดับ The Best ในส่วนของของรีสอร์ท โรงแรม สปา และอื่นๆ ซึ่งประเทศไทยก็ติดอันดับสูงในหลายรายการอีกด้วย

นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลขอขอบคุณทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนทุกคน ที่มีส่วนร่วมสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย จากเสน่ห์ และความมีเอกลักษณ์ของประเทศ จนได้รับการยอมรับจากการจัดอันดับด้านต่างๆหลายรายการจากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยมีชื่อเสียงในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นที่สนใจชาวต่างชาติประสงค์เดินทางมาไทย ทั้งเพื่อเดินทางมาท่องเที่ยว ทำงาน และมาอยู่อาศัย ซึ่งรัฐบาลได้อำนวยความสะดวกให้เกิดการเดินทางกระตุ้นเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมดำเนินนโยบายที่เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของกระแสโลก เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวไทย

Advertisement

กต.-มูลนิธิไทย มอบรางวัลทูตสาธารณะครั้งแรกของไทย 

People Unity News : 20 ตุลาคม 2565 กต. จับมือมูลนิธิไทย มอบรางวัลการทูตสาธารณะเชิดชูเกียรติบุคคลทำงานสาธารณประโยชน์ ด้าน “นพ.สุนทร อันตรเสน” ผู้รับมอบรางวัลคนแรก ชี้เป็นกำลังใจให้เดินหน้าทำงานต่อ และหวังสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยคนอื่นด้วย

กระทรวงการต่างประเทศ โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับมูลนิธิไทย โดยนายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานกรรมการมูลนิธิไทย และนายธฤต จรุงวัฒน์ เลขาธิการมูลนิธิไทย จัดทำโครงการรางวัลการทูตสาธารณะเพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรที่ดำเนินงานสาธารณประโยชน์ มนุษยธรรม วัฒนธรรม กีฬา นวัตกรรม จนสามารถสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศไทยและได้รับการยอมรับในต่างประเทศ

นายธฤต กล่าวว่า ปีนี้เป็นครั้งแรกที่มีการมอบรางวัลนี้ เพื่อจารึกเป็นเกียรติสำหรับผู้ที่ทำคุณประโยชน์ โดยนายแพทย์สุนทร อันตรเสน เป็นผู้ได้รับมอบรางวัล จากที่มีการเสนอรายชื่อมา 8 คน โดยถือว่ามีผลงานโดดเด่นในการนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรคหูมากว่า 30 ปี ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และในฐานะที่เป็นคนไทยช่วยให้คนหายป่วยได้ ทำให้ได้รับความประทับใจ และทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักนิยม ได้รับการยอมรับ จึงถือเป็นการส่งเสริมให้ผู้รับรางวัลสามารถดำเนินงานตามเจตนารมณ์ต่อไป และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่บุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรอื่น อีกทั้งสร้างความตระหนักรู้ว่าประชาชนทั่วไปก็สามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานการทูตสาธารณะได้

ด้านนายแพทย์สุนทร อันตรเสน กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ และเป็นกำลังใจให้ตนและทีมงานได้เดินหน้าทำงานต่อไป ซึ่งได้ทำงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรคหูมาตั้งแต่ปี 2518 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงบริเวณชายแดน เมื่อเห็นคนไข้มาหาก็อยากจะช่วย การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดีกว่าตั้งรับอยู่เฉยๆ ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีคนไข้หลากหลาย รวมถึงรัฐมนตรีของเมียนมาด้วย และหลายเคสหากไม่ช่วยอาจจะเสียชีวิตจากฝีในสมองอักเสบได้ พร้อมทั้งหวังว่าการที่มีการมอบรางวัลเช่นนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนทำงาน เพื่อสาธารณะมากขึ้น ซึ่งในส่วนของตนก็อยากได้คนมาสานต่อ เพราะตอนนี้อายุ 82 ปีแล้ว

สำหรับผู้ได้รับรางวัลในปีนี้คือ นายแพทย์สุนทร อันตรเสน ซึ่งมีผลงานเด่นในการนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรคหู (Ear Surgery Mobile Unit) ไปให้บริการตรวจรักษาและผ่าตัดโรคหูให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นพื้นที่ห่างไกลในประเทศต่างๆ เช่น จีน อินเดีย บังกลาเทศ เคนยา เมียนมา สปป ลาว เวียดนาม และกัมพูชา ต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

Advertisement

ค่า PM 2.5 พุ่งจากเพื่อนบ้าน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 มีนาคม 2567 “พล.ต.อ.พัชรวาท” เผยค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งคืนวานนี้ เหตุจากประเทศเพื่อนบ้าน กางแผนที่ให้สื่อดูจุดความร้อนจำนวนมาก

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานประชุมคณะอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ​พระ​บาท​สมเด็จ​พระเจ้าอยู่หัว​ เรื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนม์พรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยให้สัมภาษณ์กรณีปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่หนาแน่น คืนวานนี้ (20 มี.ค.) จนหลายพื้นที่รู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็นไหม้ ว่า มันเกิดขึ้นนอกประเทศเรา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมงานของรัฐมนตรีได้เปิดแผนที่ให้สื่อดูจุดความร้อน ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมากและพัดเข้ามาปกคลุมในประเทศ

Advertisement

นายกฯ ร่วมงานตรุษจีนเยาวราช อวยพรให้มั่งมี มั่งคั่ง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 10 กุมภาพันธ์ 2567 เยาวราช – นายกฯ ร่วมเทศกาลตรุษจีนเยาวราช นักท่องเที่ยวแห่ถ่ายรูป พร้อมอวยพรให้มีความสุข มั่งมี มั่งคั่ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาร่วมงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ซึ่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันนี้ (10 ก.พ.) ตลอดเส้นทางที่เดินชมงาน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติขอถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนซาอุดีอาระเบีย ก่อนเข้าร่วมงานเทศกาลตรุษจีน พร้อมระบุว่า ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตลอด 2 ปีที่เชื่อมสัมพันธ์ทางการทูต รวมทั้งเรื่องปิโตรเคมี และการท่องเที่ยว ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก รวมทั้งการค้าการลงทุน

ส่วนความขัดแข้งระหว่างกลุ่มรักสถาบันและกลุ่มทะลุวัง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวว่า อยากให้พูดคุยกันดีๆ ไม่ใช้กำลัง เพราะวันนี้เป็นวันตรุษจีน วันแห่งการท่องเที่ยว จะมีการกำชับเจ้าหน้าที่ไปดูเรื่องความปลอดภัยกับประชาชนมากขึ้น

“เนื่องในวันปีใหม่เทศกาลตรุษจีน เป็นวันของการสนุกสนาน อยากให้ทุกคนมีความสุข มั่งมี มั่งคั่ง สุขภาพแข็งแรง ดูแลผู้หลักผู้ใหญ่ อยากให้เทศกาลตรุษจีน เงินสะพัดที่สุดเท่าที่จะเป็น นโยบายรัฐบาลพยายามกระตุ้นเรื่องนี้ ทั้งเรื่องวีซ่าฟรี และนโยบายความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ ความสะดวกสบายในการตรวจคนเข้าเมือง อยากให้ประทับใจประเทศไทยตั้งแต่แรกที่เข้ามา” นายกฯกล่าว

Advertisement

นายกฯ ชม “ผู้ว่า กทม.” ทำงานดีแต่ต้องพีอาร์มากขึ้น

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 23 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลาว่าการ กทม. – นายกฯ เยือนศาลาว่าการ กทม. นั่งหัวโต๊ะประชุมพัฒนา กทม. ชม “ชัชชาติ” ทำงานดี แต่ต้องประชาสัมพันธ์เพิ่ม นอกจากสร้างความเข้าใจ ปชช.แล้ว ยังจูงใจ นทท.ด้วย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการเร่งรัดการพัฒนากรุงเทพมหานคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. โดยนายกรัฐมนตรีรับฟังการบรรยายสรุปการประชุมติดตามการเร่งพัฒนากรุงเทพมหานคร จาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งให้เป็นไปตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่น การขับเคลื่อนพัฒนากรุงเทพฯ การจัดการสาธารณูปโภคพื้นฐานและการจัดการด้านสังคม กับเรื่องเศรษฐกิจ ได้แก่  การแก้ปัญหาการจราจร โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย  การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งด้านจราจร ถือว่าเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน เบื้องต้นจะกวดขันวินัยจราจร ติดตั้งกล้อง CCTV การปรับปรุงจุดที่เป็นคอขวดและงานก่อสร้าง ซึ่งมีหลายจุดในกรุงเทพฯ

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่นำเสนอข้อมูลอย่างชัดเจน กรุงเทพฯ ถือเป็นแหล่งความเจริญสำคัญ แต่ยอมรับว่าการดำเนินการทุกอย่างขณะนี้ ยังขาดการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน จึงอาจจะยังไม่รวดเร็วทันใจ แต่หลายคนมีฝีมือและทำงานได้ดีในการเร่งพัฒนาหลายด้าน ต่อจากนี้อยากเห็นในหลาย ๆ หน่วยงานมาร่วมกันผลักดัน ซึ่งหากมีอะไรติดขัดนั้นสามารถให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรับทราบและเร่งประสานกันสนับสนุนต่อไปได้

“สำหรับปัญหาการจราจร ยอมรับว่าประสบปัญหามานาน ที่ผ่านมาการทำงานของกรุงเทพฯ ถือว่าดี แต่ภาพรวมนั้นยังขาดการสื่อสาร หลายประเทศที่ผมเดินทางไป การจราจรอาจจะมีปัญหามากกว่าประเทศไทยด้วยซ้ำ สิ่งที่กรุงเทพฯ ต้องเร่งประชาสัมพันธ์การทำงานอย่างต่อเนื่องให้ประชาชนรับทราบมากกว่าเดิม เพราะถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพฯ มากขึ้นด้วยหากประชาสัมพันธ์ที่ดี” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านการเดินทางท่องเที่ยวที่กำลังเป็นปัญหาคือขนส่งมวลชน แท็กซี่โกงมิเตอร์ ในส่วนนี้ตนเข้าใจดีกว่าหากแท็กซี่รับผู้โดยสาร กดมิเตอร์เลย แล้วไปเจอรถติดเขาก็ไม่ได้เงิน ตรงนี้ก็ต้องเห็นใจทุกฝ่าย พร้อมฝากไปยังกระทรวงคมนาคมในการใช้เทคโนโนยีที่ทันสมัย เข้ามาแก้ไขปัญหาและพัฒนาให้ระบบทัดเทียมต่างประเทศ ส่วนเรื่องของแท็กซี่ผี ตุ๊กตุ๊กผี ขอฝาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ดูแล เพราะอยากให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจมากที่สุด

“ด้านการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 มั่นใจรัฐบาลบริหารจัดการฝุ่นได้ดี  แต่ปัญหาหลักตอนนี้คือด้านเศรษฐกิจ ที่การแก้ไขปัญหาของประชาชนต้องใช้เงิน  ทำให้ในด้านการเกษตรที่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มในการกำจัดวัชพืชโดยไม่เผา ซึ่งได้ขอบคุณทางกรุงเทพมหานครที่แจกเครื่องอัดฟางให้กับเกษตรกรในเขตหนองจอก ทำให้ลดปริมาณการเผาลงได้มาก รวมทั้งปัญหาของเพื่อนบ้าน ซึ่งข้อจำกัดการจัดการหลายอย่าง แต่รัฐบาลได้ต่อสายตรงหลายประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรับฟังและแก้ไขปัญหาไปพร้อมกัน ขณะนี้ปัญหาฝุ่นลดลงมาก หากผลักดันได้ให้ใช้ขนส่งมวลชน รถยนต์ส่วนบุคคลแบบไฟฟ้าคงจะดีมากขึ้น รัฐบาลจริงจังจริงใจแก้ปัญหา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวได้เปรียบเทียบการแก้ไขปัญหาจราจรสมัยนายทักษิณ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีและนายชัชชาติ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมว่ามีประสิทธิภาพปัญหาลดลงมากกว่าตอนนี้  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่ากลับไปเหมือนเดิมหรือไม่ แต่เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาสามารถทำได้ดีกว่านี้ ตอนนี้ยังแก้ไขปัญหาและบริหารงานอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องการเดินทางขนส่งมวลชน การลดราคาค่าโดยสาร

ด้านนายชัชชาติ กล่าวเสริมว่า การแก้ไขปัญหา ไม่ใช่การสร้างถนน แต่เป็นการสร้างขนส่งมวลชนที่ดี ซึ่งขณะนี้กรุงเทพมหานครกำลังดำเนินการอยู่เช่นกัน

ส่วนแนวคิดที่กรุงเทพมหานครพิจารณาย้ายท่าเรือคลองเตย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องตรวจสอบให้รอบด้าน ต้องดูการสร้างท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เฟส 1-2 หากเสร็จสมบูรณ์ก็ต้องดำเนินการควบคู่กันไป แต่ต้องไม่กระทบการขนส่ง ซึ่งนายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เรื่องท่าเรือคลองเตยอยู่ในวาระฝุ่นแห่งชาติ ปี 2562 แล้ว จะบอกว่าต้องกลับมาทบทวนว่าแนวทางดังกล่าวจะเหมาะสมหรือไม่ แต่ตัวอย่างจากหลายประเทศก็ไม่มีท่าเรือขนาดใหญ่ในเมืองหลวง

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การทำงานระหว่างรัฐบาลกับกรุงเทพมหานครไม่มีปัญหา ที่ผ่านมาเห็นชัดกันอยู่แล้วว่าสามารถโทรติดต่อเพื่อขอประสานงาน ยกหูสายตรงได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ หลังการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกับส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ปล่อยขบวนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพัฒนากรุงเทพมหานคร ที่บริเวณลานคนเมือง

Advertisement

สภากาชาดไทย ชวนบริจาคโลหิตรับเทศกาลตรุษจีน สร้างบุญ เสริมเฮง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์  : 3 กุมภาพันธ์ 2567 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคโลหิตเป็นมงคลชีวิต ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 9-11 ก.พ.67 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และหน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 7 แห่ง (Fixed Station) รับปฏิทินจีน เป็นของที่ระลึก

รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า วันตรุษจีน ถือเป็นเทศกาลสำคัญของจีน เพราะถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในปี 2567 วันตรุษจีนตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ทั้งนี้เพื่อเป็นการเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับปีนักษัตรมะโรงหรือปีมังกรทอง นับเป็นปีมงคลที่เหมาะแก่การทำบุญเสริมมงคลชีวิตให้แก่ตนเองและครอบครัว ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนชาวไทยเชื้อสายจีน และประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคโลหิตในโครงการ “ตรุษจีนนี้ มอบโลหิต เป็นมงคลชีวิต” ระหว่างวันที่ 9-11 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และหน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 7 แห่ง (Fixed Station) ผู้บริจาคโลหิตจะได้รับปฏิทินจีน “Year of The Dragon Chinese New Year 2024” แทนคำขอบคุณ เพื่อมอบเป็นที่ระลึกให้กับผู้บริจาคโลหิต ในช่วงเทศกาลตรุษจีน และส่งต่อพลังดีๆ ต้อนรับปีมังกรทอง

การทำบุญด้วยการบริจาคโลหิต นับได้ว่าเป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่และเป็นบุญกุศลแก่ผู้ให้ เพราะเป็นการสละโลหิตในร่างกายของตนเอง เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ และผู้ที่ต้องการใช้โลหิตในการรักษา นอกจากจะได้บุญในการช่วยเหลือผู้ป่วยแล้ว การบริจาคโลหิตยังส่งผลให้ผู้บริจาคมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย ทั้งนี้สามารถบริจาคโลหิตได้เป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อให้มีปริมาณโลหิตที่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยอย่างยั่งยืน

บริจาคโลหิตได้ที่ : ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์, หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) ได้แก่ สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค) เดอะมอลล์ สาขาบางแค สาขาบางกะปิ สาขางามวงศ์วาน สาขาท่าพระ ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม และบ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง)

ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช (ทุ่งสง) สงขลา และภูเก็ต

โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตทั่วประเทศ

Advertisement

ชาวบ้านเรียกร้องต่ออายุราชการ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” แต่เจ้าตัวขอเดินหน้าทำงานภาคประชาชน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 มีนาคม 2567 นครราชสีมา – ชาวบ้านเสียดาย “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ จะเกษียณในอีก 7 เดือน อยากให้ต่ออายุราชการอีก 1 ปี ด้านเจ้าตัวฝากขอบคุณ แต่ขอเดินหน้าทำงานในบทบาทภาคประชาชน

กลุ่มเพื่อนชาวจังหวัดมหาสารคาม และขอนแก่น ที่นำรถจักรยานมาปั่นออกกำลังกายบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และพื้นที่โดยรอบ เกาะติดข่าวสารเกี่ยวกับพื้นที่พิพาทระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และ ส.ป.ก. จนมีอารมณ์ร่วม ได้แสดงความคิดเห็นหลังทราบข่าว นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ จะเกษียณอายุราชการในอีก 7 เดือนว่า รู้สึกเสียดายข้าราชการที่มีความกล้าหาญ ปกป้องผืนป่า โดยไม่หวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ จึงอยากให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่ออายุราชการให้อีกสัก 1 ปี เหมือนที่กรมอุทยานฯ ทำให้กับนายสุทธิพร สินค้า ผู้พิทักษ์ช้างป่าเขาใหญ่ ในปีที่ผ่านมา ซึ่ง ผอ.ชัยวัฒน์ ก็มีคุณสมบัติพิเศษของข้าราชการที่หาได้ยากเช่นกัน

ด้าน ผอ.ชัยวัฒน์ เปิดใจทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ฝากขอบคุณกำลังใจจากพี่น้องประชาชน ทั้งที่มีให้ตนและเจ้าหน้าที่ทุกคนของกรมอุทยานฯ ตั้งแต่ตนได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตั้งแต่ปี 2533 ก็ทำงานอนุรักษ์ป่ามาอย่างเต็มที่ ไม่เฉพาะความต้องการของประชาชน แต่อธิบดีกรมอุทยานฯเอง ก็เห็นความตั้งใจของตน บอกว่า จะตั้งเป็นที่ปรึกษาหลังเกษียณอายุราชการ แต่ตนปฏิเสธ เพราะถือว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่แล้ว บทบาทในภาคประชาชนน่าจะทำงานคล่องตัวกว่า

นายสาโรจน์ ประพันธ์ อดีตผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ซึ่งทำงานปกป้องป่า ในช่วงปี 2535 – 2551 รวม 16 ปีเต็ม กำลังร่างจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชน ในชื่อ “ส.ป.ก.รุกป่าเขาใหญ่ อะไรเท็จ อะไรจริง ความเป็นไป อนาคตที่สุ่มเสี่ยงของป่าผืนนี้ โดยราคาที่ดินเขาใหญ่ จากไร่ละไม่ถึงหมื่น มาเป็นไร่ละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท จึงเป็นต้นตอให้กลุ่มทุนการเมืองอยู่เบื้องหลังการรุกป่าเขาใหญ่

โดยบริเวณเขาใหญ่ เกิดความทับซ้อนกันของหน่วยงานราชการถึง 5 พื้นที่ ได้แก่

เป็นพื้นที่ของป่าเขาใหญ่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและสงวนป่า พ.ศ.2481

เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2505

เป็นพื้นที่สวนป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำลำตะคอง

เป็นพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง พ.ศ.2515

เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. พ.ศ.2530

สำหรับข้อเสนอบางส่วน ระบุว่า ต้องผลักดันให้มีการออกพระราชกฤษฎีกาผนวกพื้นที่สวนป่า และพื้นที่อื่นๆ ที่เหมาะสมเข้าเป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่โดยเร็ว ส่วนความเห็นที่เสนอให้ทำเป็นพื้นที่กันชน กำหนดให้เป็นป่าชุมชนนั้น นายสาโรจน์ มองว่า ยังมีความสุ่มเสี่ยงสูงที่จะถูกบุกรุกทำลาย แล้วถ่ายโอนไปสู่กลุ่มทุนการเมืองได้ในที่สุด เนื่องจากการจัดการป่าชุมชนส่วนใหญ่ มักจะล้มเหลว มีน้อยมากที่ประสบความสำเร็จ โดยพื้นที่สำเร็จมักเป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีวิถีชีวิตผูกพัน พึ่งพิงป่าอย่างใกล้ชิด ทำให้เกิดความรัก ความหวงแหน ช่วยกันดูแลรักษาป่าโดยชุมชน ผิดกับป่าชุมชนที่เกิดจากการจัดตั้งโดยหน่วยงานราชการ

Advertisement

สศช.จับตา Influencer อวดรวย สร้างผลกระทบเชิงลบต่อสังคม

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 5 มีนาคม 2567 สศช.จับตา Influencer อวดร่ำรวย หวั่นสร้างกระแสสร้างผลกระทบเชิงลบต่อสังคม เสี่ยงพนันออนไลน์กลุ่มคนรุ่นใหม่ คาดทั่วโลกเพิ่มขึ้น 7.4 เท่าตัว

นายดนุชา พิชยนันท์  เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) มีจำนวน Influencer มากถึง 13.5 ล้านคน โดยคนไทยกว่า 2 ล้านคน เป็นอันดับสองรองจากอินโดนีเซีย นับว่าการขยายตัวของ Influencer ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นช่องทางสร้างรายได้ ทั้งโฆษณา รีวิวสินค้า ในปี 2566 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั่วโลกถึง 19.01 พันล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 140.33 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2573  หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 7.4 เท่า ภายใน 7 ปี

สำหรับไทย Influencer ได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะสร้างรายได้ได้ค่อนข้างสูง เฉลี่ยตั้งแต่ 800-700,000 บาทขึ้นไปต่อโพสต์ มีการแข่งขันผลิต Content และการให้ความสำคัญกับ Engagement ของ Influencer มักมีการสร้าง Content ให้เป็นกระแสโดยไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสมก่อนเผยแพร่ อาจสร้างผลกระทบเชิงลบต่อสังคมหลายประการ อาทิ การนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ตัวอย่างเช่น การเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประจำปี 2566 ของกระทรวงดิจิทัลฯ พบยอดสะสมผู้โพสต์เข้าข่ายเป็นข่าวปลอม 7,394 บัญชี โดยเป็นจำนวนข่าวปลอมและข่าวบิดเบือนรวมกันกว่า 5,061 เรื่อง การชักจูงหรือชวนเชื่อที่ผิดกฎหมาย อาทิ การโฆษณาเว็บพนันออนไลน์ผ่าน Influencer ข้อมูลจากผลการสำรวจพฤติกรรมการเล่นพนันออนไลน์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ในปี 2566 พบว่าคนรุ่นใหม่เล่นพนันออนไลน์ประมาณ 3 ล้านคน โดย 1 ใน 4 เป็นนักพนันฯ หน้าใหม่ หรือคิดเป็นจำนวนกว่า 7.4 แสนคน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 87.7 พบเห็นการโฆษณาหรือได้รับการชักชวนทางออนไลน์ ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1 ล้านคน

การละเมิดสิทธิ พบว่า Influencer บางรายมีการเสนอข่าวอาชญากรรมราวกับละคร เพื่อสร้างความตื่นเต้นเร้าใจ และไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้เสียหาย ครอบครัว หรือบุคคลใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังพบการทำข่าวโดยใช้ภาพผู้คนหรือวิดีโอของผู้อื่นมาตัดต่อลง Content ของตน โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มา นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาบางประเภทที่ไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย แต่อาจนำไปสู่การสร้างค่านิยมที่ผิดต่อสังคม อาทิ Content  “การอวดความร่ำรวย” จากการศึกษาของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า กลุ่ม Gen Z ร้อยละ 74.8 เป็นผู้ที่ชอบแสดงตัวตนในรูปแบบนี้มากที่สุด หรือการนำเสนอภาพบุคคลที่ได้รับการปรับแต่งให้ดูดี จนกลายเป็นมาตรฐานความงามที่ไม่แท้จริง ซึ่งอาจสร้างค่านิยมที่ผิดให้กับเด็กและเยาวชนในสังคม และอาจกระทบต่อการก่อหนี้เพื่อนำมาซื้อสินค้าและบริการ

ตัวอย่างข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลเชิงลบของ Influencer ต่อสังคมหลายแง่มุม ซึ่งในต่างประเทศ เริ่มมีการออกกฎหมายเฉพาะ Influencer อย่างชัดเจน เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ออกระเบียบห้ามเผยแพร่เนื้อหาในลักษณะอวดความร่ำรวย และการใช้ชีวิตแบบกินหรูอยู่สบายเกินจริง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กำหนดให้ Influencer ต้องจดทะเบียนและได้รับใบอนุญาตจากสภาสื่อแห่งชาติ (NMC) เพื่อป้องกันการโฆษณาที่ผิดกฎหมาย นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร กำหนดให้ Influencer แจ้งรายละเอียดภาพบุคคลที่ใช้สำหรับการขายและโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย พร้อมแสดงเครื่องหมายกำกับ เพื่อลดปัญหาความกดดันทางสังคมต่อมาตรฐานความงามที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน

Advertisement

มท. สั่งกวดขันปืนเถื่อน เร่งจับกุมเด็ดขาด

People Unity News : 4 มีนาคม 2566 มท. สั่งการทุกจังหวัด กวดขันอาวุธปืนเถื่อน พร้อมกำชับนายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยในสังคม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันปรากฏข่าวสารตามสื่อสาธารณะต่าง ๆ เกี่ยวกับเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นโดยมีหรือใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุและมีการจับกุมบุคคลที่มีพฤติกรรมครอบครอง หรือพกพาอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (อาวุธปืนเถื่อน) และเพื่อให้การสอดส่องดูแล ควบคุมตรวจตรา และกวดขันการบังคับใช้กฏหมาย กรณีเกี่ยวกับการทำ มี ใช้ หรือจำหน่ายอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อาวุธปืนเป็นไปอย่างมีรูปธรรมในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีหนังสือสั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการสั่งการให้นายอำเภอบูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ กวดขันการบังคับใช้กฏหมายกลุ่มบุคคลผู้มีอิทธิพลโดยเฉพาะแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่นที่มีความสุ่มเสี่ยงอาจก่ออาชญากรรมให้ดำเนินการบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งกำชับให้ทุกอำเภอรายงานข้อมูลผลการปฏิบัติมายังกรมการปกครองเป็นประจำทุกเดือน

โดยกรมการปกครองแจ้งให้ทุกจังหวัดประชาสัมพันธ์การรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่…) พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญคือ ให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย (อาวุธปืนเถื่อน) นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน มาขอรับอนุญาตต่อนายทะเบียนท้องที่ เพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย และกรณีเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ให้ส่งมอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน แก่ทางราชการโดยไม่ต้องรับโทษ รวมทั้งการจัดเก็บรายละเอียดของอาวุธปืนทั้งกรณีอาวุธปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตใหม่และอาวุธปืนที่นายทะเบียนได้ออกใบอนุญาตไปแล้ว ซึ่งเป็นมาตรการควบคุมอาวุธปืนผิดกฎหมายเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมจากอาวุธปืน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีประกอบกับได้มีหนังสือแจ้งให้จังหวัดแจ้งแนวทางปฏิบัติของนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่ กรณีเกิดเหตุอาชญากรรมโดยมีหรือใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ โดยให้รายงานผลการตรวจสอบให้กระทรวงมหาดไทยทราบโดยเร็ว และให้เร่งพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตหรือเรียกประกันหรือทัณฑ์บน แล้วแต่กรณี รวมทั้งให้ติดตามผลคดีจนกว่าจะเสร็จสิ้น และให้รายงานข้อมูลคดีและผลการดำเนินการทางทะเบียนเกี่ยวกับอาวุธปืนที่เกี่ยวข้องกับเหตุอาชญากรรม ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กรมการปกครองทราบเป็นประจำทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า เหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นโดยมีหรือใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุและมีการจับกุมบุคคลที่มีพฤติกรรมครอบครอง หรือพกพาอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (อาวุธปืนเถื่อน) ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนท้องที่จะออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) ตามกฎหมายให้ไม่ได้ไปในที่สาธารณะ สร้างความหวาดกลัว ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐได้มีการตรวจค้นจับกุมบุคคลที่ลักลอบทำ มี ใช้ หรือจำหน่ายอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (อาวุธปืนเถื่อน) และยึดอาวุธปืนของกลางได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผลกระทบต่อความหวาดกลัวในความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดกำชับนายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสอดส่องดูแล ควบคุมตรวจตรา และกวดขันการบังคับใช้กฎหมาย กรณีเกี่ยวกับการทำ มี ใช้ หรือจำหน่ายอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (อาวุธปืนเถื่อน) เป็นไปอย่างมีรูปธรรมในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยให้นายอำเภอดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยระดมสรรพกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน รวมทั้งอาสาสมัครอื่น ๆ ในพื้นที่ ในการสอดส่องดูแล ควบคุมตรวจตรา และกวดขันการบังคับใช้กฎหมาย กรณีกลุ่มบุคคลผู้มีอิทธิพล กลุ่มบุคคลผู้มีข้อมูลเกี่ยวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่นที่มีความสุ่มเสี่ยง ที่อาจก่ออาชญากรรม หรือบุคคลผู้ลักลอบทำ มี ใช้ หรือจำหน่ายอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (อาวุธปืนเถื่อน) หากพบการกระทำความผิด ให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดในการจับกุม ผู้กระทำความผิดและยึดของกลางในการกระทำความผิด เพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ตามกฎหมายต่อไป

“นอกจากนี้ให้รายงานข้อมูลสถิติผลการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสอดส่องดูแล ควบคุมตรวจตรา และกวดขันการบังคับใช้กฎหมาย กรณีเกี่ยวกับการทำ มี ใช้ หรือจำหน่ายอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (อาวุธปืนเถื่อน) ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กรมการปกครองทราบเป็นประจำทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ติดตามผลการดำเนินคดีจนกว่าจะเสร็จสิ้น กระทรวงมหาดไทยคาดว่าจะสามารถลดการก่อเหตุอาชญากรรมที่เกี่ยวกับอาวุธปืน รวมถึงการกระทำผิดที่เกี่ยวเนื่องกัน ตลอดจนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้ทุกชุมชนหมู่บ้านมีความเข้มแข็ง ทั้งนี้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแลและเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่รัฐในการป้องกันการกระทำความผิดทางสังคมทุกรูปแบบโดยสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทั่วประเทศ หรือที่สายด่วน 1567 เพื่อร่วมสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ไปด้วยกัน” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

Advertisement

‘อนุทิน’ เผย เปิดผับตี 4 ขอหาข้อมูลให้ชัดเจนก่อน จะไม่เปิดทั่วไป แต่จะทำเป็นโซน

People Unity News : 16 ตุลาคม 2566 ทำเนียบรัฐบาล – ‘อนุทิน’ เผย มหาดไทย เตรียมมาตรการดูแล ‘ความปลอดภัย-ความเรียบร้อย’ นทท. หลังมีนโยบายต่อวีซ่า 90 วันให้รัสเซีย ส่วนขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงต้องดูเป็นโซนไป

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการต่ออายุวีซ่านักท่องเที่ยวชาวรัสเซียระยะเวลา 90 วัน ว่า ทางกระทรวงมหาดไทยจะดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และต้องมั่นใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวจริง ๆ ไม่ใช่อยู่เกินวีซ่ากำหนด

ส่วนเรื่องการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ยังบอกไม่ได้ว่าจะขยายเวลาไปถึงกี่โมง ต้องดูเป็นพื้นที่ ๆไป หากโซนไหนทำแล้วไม่เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชน เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจต้องดูกันไป ทางกรมการปกครอง จังหวัดต่าง ๆ กำลังศึกษาอยู่ กระทรวงมหาดไทยก็เป็นส่วนหนึ่ง เมื่อรับนโยบายมาก็ต้องเตรียมข้อมูลไว้ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา

“พื้นที่นำร่องในการเปิดสถานบันเทิงจะต้องเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น ส่วนเวลาในการศึกษาข้อมูล คิดว่าไม่น่าใช้เวลานานมาก ให้สามารถอธิบายกับประชาชนได้ ไม่รู้สึกว่าทำไมตรงนี้ได้ ทำไมตรงนี้ไม่ได้ เราต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายให้ชัดเจนได้ เรื่องนี้ต้องทำร่วมกับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงท่องเที่ยวด้วย ส่วนประเด็นว่ามหาดไทยวางแผนไว้กี่จังหวัด เป็นเรื่องของรายละเอียด ต้องไปถามคนทำงาน เราให้แนวทางไปแล้ว” นายอนุทิน กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics