วันที่ 14 กันยายน 2025

“อนุทิน” ยืนยัน สธ.พร้อมดูแลประชาชนหลัง PM 2.5 วิกฤติ

People Unity News : 27 มีนาคม 2566 “อนุทิน” ยืนยันกระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อม ยา เวชภัณฑ์ ดูแลโรคทางเดินหายใจ หลังฝุ่น PM 2.5 วิกฤติในหลายพื้นที่ แม้เป็นรัฐบาลรักษาการก็พร้อมทำงาน ย้ำเลี่ยงสั่งการ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาฝุ่นละออง PM.2.5 ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญดูแลปัญหา และดูแลปัญหามลพิษค่าฝุ่น  PM 2.5  ที่หลายฝ่ายวิจารณ์รัฐบาลไม่มีความเข้มแข็ง ทำให้เกิดการเผาในหลายจุดว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมในเรื่องของการรักษาพยาบาลดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ สั่งเวชภัณฑ์ดูแลเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว

เมื่อถามว่าจังหวัดเชียงรายขณะนี้ เป็นจังหวัดที่น่ากังวลสุดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าตอนนี้สภาพน่ากังวลทั่วประเทศ แต่เรื่องการรักษาพยาบาลกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมไว้อยู่แล้ว ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการเต็มที่ เพราะในช่วงรัฐบาลรักษาการเราจะระวังเรื่องการสั่งการ  แต่จะคอยสนับสนุนการทำงานของข้าราชการ แต่หากเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นต่อประชาชนก็จะพร้อมที่จะลงไปทำงานกับข้าราชการประจำอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าแต่ละพรรคมีนโยบายในการแก้ปัญหา PM 2.5 พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายในเรื่องนี้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยทำแล้ว  คือ ปรับมาใช้รถเมล์ไฟฟ้า EV ที่วิ่งอยู่ 1200 คัน ช่วยลดการปล่อยมลพิษได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งกำลังเร่งให้ออกมาบริการประชาชนในระบบขนส่งมวลชนประมาณอีกประมาณ 4-5 พันคัน ในระยะ 1  ปี ถึงปีครึ่งนี้  เพื่อทดแทนรถมีน้ำมันที่ใช้น้ำมันอยู่ นี่คือสิ่งที่เราได้ทำไปแล้ว

Advertisement

รัฐบาลยัน เดินหน้าปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ลดความเหลื่อมล้ำประชาชน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 ธันวาคม 2566 รัฐบาลจะเดินหน้าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต่อ ลดความเหลื่อมล้ำให้ประชาชน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการค่าจ้าง มีมติเห็นชอบปรับค่าจ้างขั้นต่ำปี 2567 ตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมไปก่อน ว่ารัฐบาลเข้าใจสิ่งใดสามารถดำเนินการได้ พรรคเพื่อไทยในช่วงเลือกตั้ง ก็ได้มีการหาเสียงไว้ ดังนั้นรัฐบาลมีสิทธิ์รับฟังความคิดเห็น ขณะเดียวกัน คณะกรรมการมีหน้าที่ตามกฏหมาย ซึ่งเป็นเอกสิทธิไม่สามารถไปแทรกแซงได้

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สามารถพูดคุยกันได้ และไม่มีข้อบังคับที่ระบุว่า 1 ปีให้พิจารณาการขึ้นค่าแรงเพียงครั้งเดียว หากผ่านไปแล้วระยะหนึ่ง เมื่อคณะกรรมการมีการทบทวนหรือพิจารณาใหม่อีกครั้งภายในปีเดียวกันก็ได้ ยืนยัน เรื่องนี้เป็นไปตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเคยระบุไว้ ส่วนตัวคิดว่า ตรรกะนายกรัฐมนตรี มองในเชิงการมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเห็นว่ามีช่องว่างและมีความเหลื่อมล้ำสูง เชื่อว่าเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีการขับเคลื่อนต่อ รวมถึงคณะรัฐมนตรีได้เห็นคล้อยตามนายกรัฐมนตรี จะต้องมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

ส่วนจะเป็นการผลักผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากย้ายฐานการผลิตจะทำให้เกิดช่องว่างของตลาด ย้ำว่า ธุรกิจทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าแรงเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของเส้นทางคมนาคมขนส่ง ความเสถียรของไฟฟ้า ซึ่งยังมีปัจจัยอื่นอีกมาก ส่วนตัวไม่ห่วง เพราะหากถอยออกไปก็จะมีคนที่อยู่ได้และมีการขยายตัวเข้ามาแทนที่

Advertisement

รัฐบาลเผยรายชื่อโรงพยาบาล 140 แห่ง ที่ให้บริการนอกเวลาราชการ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 14 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพทั่วประเทศ มีผลบังคับใช้แล้ว 140 แห่ง โรงพยาบาลที่ให้บริการนอกเวลาราชการ พร้อมยกระดับโครงการ ​“30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” สู่ยุคดิจิทัล ด้วยธรรมาภิบาลข้อมูลสุขภาพ

วันนี้ (14 กรกฎาคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นการยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพทั่วประเทศ เปิดรายชื่อโรงพยาบาล 140 แห่ง ซึ่งเป็นหน่วยบริการนอกเวลาราชการ ที่เป็นความจําเป็นของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการอื่น โดยมีห้องบริการ แยกจากห้องฉุกเฉิน สอดรับกับนโยบายปฏิรูปห้องฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมเดินหน้าปฏิรูประบบสาธารณสุข ยกระดับโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” สู่ยุคดิจิทัล ด้วยธรรมาภิบาลข้อมูลสุขภาพ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ สปสช. เรื่อง รายชื่อหน่วยบริการที่ให้บริการนอกเวลาราชการที่เป็นความจําเป็นของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการอื่น พ.ศ. 2567 ซึ่งมีการปรับปรุงรายชื่อหน่วยบริการ ที่ให้บริการนอกเวลาราชการ ที่เป็นความจำเป็นของผู้มีสิทธิในหน่วยบริการอื่น โดยมีห้องบริการ แยกจากห้องฉุกเฉิน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายปฏิรูปห้องฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีรายชื่อโรงพยาบาล จำนวน 140 เเห่งที่ให้บริการนอกเวลาราชการ เเละมีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลทั้งหมดได้ที่ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/33539.pdf

พร้อมกันนี้ กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ยกระดับโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เข้าสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการจัดทำนโยบายและแนวปฏิบัติธรรมาภิบาลข้อมูลสุขภาพ เพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ ซึ่งประกอบด้วย 1.จัดทำแนวปฏิบัติธรรมาภิบาลข้อมูลสำหรับหน่วยบริการทั่วประเทศ 2.แต่งตั้งทีมบริกรข้อมูล นำโดยผู้อำนวยการสำนักดิจิทัลสุขภาพ 3.ประกาศโครงสร้างมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ เพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพ รวมถึงระบบการเบิกจ่าย โดยจะมีการลงนามประกาศให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและดำเนินการต่อไป และ 4.กำหนดมาตรฐานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลสำหรับผู้รับและผู้ให้บริการ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้เกิดการบูรณาการข้อมูลอย่างไร้รอยต่อจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการได้ทุกที่ สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของตนเองอย่างสะดวกและรวดเร็ว

“นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งการทำงาน ดำเนินนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อความต้องการของประชาชน โดยเชื่อมั่นว่าการยกระดับบริการสุขภาพ ให้ครอบคลุมช่วงเวลา ความจำเป็นของประชาชน รวมทั้ง อำนวยความสะดวกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างระบบสาธารณสุขที่เหมาะสมสำหรับคนไทย จะช่วยเพิ่มทางเลือก ลดความเเออัดในการเข้าใช้บริการทางสาธารณสุข และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนรับบริการทางสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น” นายชัย กล่าว

Advertisement

นายกฯขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯสนับสนุนการทวงคืนโบราณวัตถุกลับสู่ไทยสำเร็จ

People unity news online : นายกฯชื่นชมทุกฝ่ายติดตามโบราณวัตถุกลับสู่ไทยสำเร็จ พร้อมขอบคุณการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ แนะบันทึกประวัติศาสตร์-เผยแพร่ความรู้แก่สาธารณชน

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยที่ได้ร่วมกันติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยล่าสุดสหรัฐฯได้ส่งคืนโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ 12 ชิ้น จากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จ.อุดรธานี ให้แก่รัฐบาลไทย ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในความครอบครองของสตรีอเมริกันรายหนึ่ง

นายกรัฐมนตรียังขอบคุณไปยังรัฐบาลสหรัฐฯที่เข้าใจและให้ความร่วมมือ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งโบราณวัตถุกลับมายังประเทศไทย รวมถึงเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีบทบาทสนับสนุนให้การดำเนินการสำเร็จลงด้วยดี

“นายกฯเน้นย้ำว่า การส่งคืนโบราณวัตถุครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญที่ควรบันทึกไว้ และเผยแพร่องค์ความรู้แก่ประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนให้ได้รับทราบถึงความเป็นมาและขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ รวมทั้งควรนำโบราณวัตถุเหล่านี้ไปจัดแสดง เพื่อให้คนไทยได้เห็นถึงคุณค่าและภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมอันมีค่าของประเทศไทย”

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังเตรียมงานหรือดำเนินการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศชิ้นอื่นๆอยู่ในขณะนี้ เช่น ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว พระโพธิสัตว์ไมเตรยะสำริด พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรมสำริด เศียรพระพุทธรูปหินทราย นาคปักหินทราย แผ่นทองคำดุนลวดลาย เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของสหรัฐฯ โดยขอให้ภารกิจที่ทุกคนทุ่มเทอย่างเต็มที่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้โดยเร็ว

People unity news online : post 6 สิงหาคม 2561 เวลา 08.50 น.

เตือนผู้ที่มีภาวะไขมันส่วนเกินสะสมมากกว่าปกติเสี่ยงเป็นโรคหอบหืด

People Unity : กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก เตือนผู้ที่มีภาวะไขมันส่วนเกินสะสมมากกว่าปกติ หรือโรคอ้วนลงพุง ทำให้ระบบหายใจทำงานติดขัด ก่อให้เกิดโรคหอบหืดตามมา

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การรับประทานอาหารเกินความต้องการของร่างกาย ทำให้เกิดภาวะที่มีไขมันสะสมมากผิดปกติหรือมากเกินกว่าที่ร่างกาย จะเผาผลาญออกไป ส่งผลให้พุงยื่นออกมาอย่างชัดเจน เรียกว่า โรคอ้วนลงพุง ซึ่งผลแทรกซ้อนของ โรคดังกล่าว อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา คือ เสี่ยงกับภาวะไขมันอุดตันหลอดเลือดและหัวใจ อาทิ โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง ไตวาย มะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ ภาวะหัวใจล้มเหลว อีกทั้งไขมันส่วนเกินนั้นยังสามารถเข้าไปสะสมในปอดจนเบียดทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมตีบลง เกิดอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบากซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหอบหืดได้ ทั้งนี้ผู้ที่เข้าเกณฑ์เสี่ยงโรคอ้วนลงพุงจะมีลักษณะต่างๆ อย่างน้อย 3 ข้อ ดังนี้ คือ 1. ภาวะอ้วนลงพุง 2. ความดันโลหิตสูง 130/85 มม.ปรอทขึ้นไป 3. น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารสูงกว่า 100 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตรขึ้นไป 4. ไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร 5. มีไขมันดี ชนิด HDL ต่ำ โดยเพศชายน้อยกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และเพศหญิงน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หากพบว่าร่างกายมีลักษณะดังกล่าว ต้องรีบหาแนวทางการรักษาและป้องกันโรคอ้วนลงพุง เพื่อห่างไกลโรคร้ายแทรกซ้อนที่จะตามมาอย่างทันท่วงที

นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคอ้วนลงพุง เป็นกระบวนการหนึ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม ทำให้มีอาการโรคหอบหืดตามมา อาการในผู้ป่วยโรคหอบหืดมักจะเหนื่อยหอบเวลาออกแรง ไอ เสมหะเหนียวข้น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก และมีเสียงดังวี๊ดๆ หรือมีอาการในช่วงกลางคืน และมีค่าความเร็วของลมหายใจออกสูงสุดอยู่ระหว่าง 50 – 80 % ของค่าที่ดีที่สุด ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค ผู้ป่วยต้องปฏิบัติตนด้วยการคุมอาหารและลดน้ำหนักในรายที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด มัน กะทิ ดื่มน้ำเปล่าหลีกเลี่ยงน้ำหวานและน้ำอัดลม หากสามารถปฏิบัติตนตามคำแนะนำต่างๆเหล่านี้ ได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ จะทำให้หลีกหนีโรคอ้วนลงพุง ส่งผลให้มีสุขภาพแข็งแรงห่างไกลโรคร้ายที่แทรกซ้อนตามมาอีกด้วย

“พิพัฒน์​”​เปิดสเปเชียลโอลิมปิกยูนิฟายด์แบดมินตันชิงแชมป์เอเชียแปซิฟิคครั้งที่ 1

People Unity News : รมว.ท่องเที่ยว​และ​กีฬา​ เป็น​ประธาน​เปิดสเปเชียลโอลิมปิกยูนิฟายด์แบดมินตันชิงแชมป์เอเชียแปซิฟิค ครั้งที่ 1

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน​ 2562​ เวลา 19.00 น. นาย​พิพัฒน์​ รัช​กิจ​ประการ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงการ​ท่องเที่ยว​และ​กีฬา​ เป็น​ประธาน​เปิดการแข่งขันสเปเชียลโอลิมปิกยูนิฟายด์แบดมินตันชิงแชมป์เอเชียแปซิฟิค ครั้งที่ 1 ปี 2562 ระหว่างวันที่ 12-16 พฤศจิกายน 2562 โดยมีนายเขมพล​ อุ้ย​ต​ยะ​กุล​ เลขานุการ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การ​ท่องเที่ยว​และ​กีฬา​ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการ​คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.นริศ ชัยสูตร นายกสมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิกแห่งประเทศไทย คณะ​ผู้บริหาร​ฯ และแขกผู้​มีเกียรติ ร่วมในพิธี ณ อินดอร์สเตเดี้ยม การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก

การแข่งขันกีฬายูนิฟายด์เป็นการแข่งขันกีฬาในรูปแบบที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการอยู่ร่วมกันในสังคม (Inclusive Society) ประกอบด้วยผู้เล่นที่เป็นนักกีฬาพิเศษ (พิการทางสติปัญญา และนักกีฬาทั่วไป(ไม่พิการ) ในทีมหรือคู่เดียวกันซึ่งอยู่ในเพศเดียวกัน วัยเดียวกัน และมีทักษะกีฬาเท่าเทียมกัน จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการร่วมมือระหว่างคนพิเศษกับคนปกติ และเพื่อแสดงให้เห็นว่าคนพิเศษสามารถเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้ อันเป็นการสร้างการยอมรับทางสังคมให้กับผู้พิการกลุ่มนี้

โดยได้รับความสนใจ​จากคณะนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิก 14 ประเทศ ในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิค เข้าร่วม ประกอบด้วย อินเดีย ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลีใต้ ปากีสถาน บังคลาเทศ ศรีลังกา เมียนมาร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินโดนิเซีย มัลดีฟ และประเทศไทย แต่ละประเทศส่งผู้เข้าร่วมได้ 11 คน ประกอบด้วย คู่ยูนิฟายด์ชาย 2 คู่ + คู่ยูนิฟายด์หญิง 2 คู่ รวมนักกีฬา 8 คน ผู้ฝึกสอนชาย 1 คน + ผู้ฝึกสอนหญิง 1 คน รวมผู้ฝึกสอน 2 คน (ไทยในฐานะประเทศเจ้าภาพ สามารถส่งได้ 2 ทีม) ผู้จัดการทีม 1 คน

สำหรับ​ประเภทการแข่งขัน แบ่งออกเป็น 2 รุ่นอายุ คือ
1. รุ่นอายุ 16-21 ปี ประเภทคู่ยูนิฟายด์ ชาย และ หญิง
2. รุ่นอายุ 22-29 ปี ประเภทคู่ยูนิฟายด์ ชาย และหญิง

ก.ศึกษาฯ ขับเคลื่อนกลยุทธ์ “ปลุก” ชุมชนให้เข้มแข็ง ลุกขึ้นมาสู้ปัญหายาเสพติดในเด็กและเยาวชน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 6 กรกฎาคม 2567 “คารม” เผย ก.ศึกษาธิการ ขับเคลื่อนกลยุทธ์ “ปลุก” ปลุกชุมชนให้เข้มแข็ง ลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติด ร่วมกับภาครัฐ ป้องกัน สอดส่องดูแล ไม่ให้เยาวชนใช้ยาเสพติด

วันนี้ 6 กรกฎาคม 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ทุกภาคส่วนเร่งระดมกวาดล้างปัญหายาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในระยะเวลา 3 เดือน ด้วยกลยุทธ์ “ปลุก เปลี่ยน ปราบ” โดยสั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เร่งหาวิธีการสอดส่องดูแลอย่าให้ลูกหลานเสพยา และให้โรงเรียนร่วมกันปลูกฝังค่านิยมคุณค่าใหม่ เด็กและเยาวชนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

นายคารม กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รับนโยบายขับเคลื่อนนกลยุทธ์ “ปลุก” คือ การปลุกชุมชนให้เข้มแข็ง ลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติดร่วมกับภาครัฐ ป้องกันตั้งแต่ระดับเยาวชนผ่านหลักสูตรในสถาบันการศึกษา เร่งหาวิธีการสอดส่องดูแล ไม่ให้เยาวชนใช้ยาเสพติด และให้โรงเรียนร่วมกันปลูกฝังค่านิยมใหม่ “เด็กและเยาวชนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด” โดยสอดแทรกเรื่องโทษของยาเสพติดเข้าไปให้เด็กมีการรับรู้ในชีวิตประจำวัน เช่น การพูดหน้าเสาธงว่าเราจะห่างไกลจากยาเสพติด การให้ข้อมูลเชิงลึก เป็นต้น

“เด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดยาเสพติดสูง เนื่องจากเป็นวัยแห่งการเรียนรู้แต่ยังขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์ รวมทั้งการเผชิญการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ศธ. ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง จึงได้วางรากฐานการสร้างภูมิคุ้มกันในสถานศึกษาทุกระดับให้แข็งแกร่ง ผ่านกระบวนการการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษาทุกระดับให้มีความรู้เท่าทันกับปัญหายาเสพติด ควบคู่กับการพัฒนาทักษะชีวิตกิจกรรมทางเลือกเชิงสร้างสรรค์ เพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนนักศึกษาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งการเสพและการค้าในทุกกรณี ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของชาว ศธ. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเข้มแข็ง สอดส่องดูแล ช่วยเหลือ ประคับประคอง เฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาแพร่ระบาดในสถานศึกษาชุมชนและครอบครัว จึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ศธ. จะสามารถพัฒนานักเรียน นักศึกษาให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความรู้ความสามารถ คุณธรรมจริยธรรมสามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นสุข” นายคารม กล่าว

Advertisment

“อนุชา” ชี้ขายสลากบนแพลตฟอร์ม ต้องมีปริมาณมากพอ ปัญหาสลากเกินราคาจะลดลง คาดเริ่มงวด 16 มิ.ย.ได้

People Unity News : วันนี้ (27 เมษายน 2565) เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ชั้น 3 สานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ โดยในเบื้องต้น ที่ประชุมได้เห็นชอบ มาตรการที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา ได้แก่ มาตรการทางแพ่ง มาตรการทางอาญา และมาตรการทางกฎหมายอื่นๆ โดยมาตรการทางแพ่ง ต้องมีการแก้ไขสัญญาการรับสลากไปจำหน่าย ระหว่างสำนักงานสลากฯ กับตัวแทน รายย่อย และสมาคม องค์กร โดยเพิ่ม “หน้าที่และความรับผิดชอบ” ในการควบคุมกำกับดูแลตัวแทนจำหน่าย เพื่อแก้ไขและลดปัญหาการเปลี่ยนมือของสลาก มีวางเงิน “มัดจำ” เพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา รวมถึง การกำหนด “เบี้ยปรับ” กรณีมีการกระทำผิดสัญญา ซึ่งคณะอนุกรรมการจะศึกษาในรายละเอียดต่อไป และเห็นว่า การปรับแก้ไขรูปแบบของสัญญาสามารถดำเนินการได้ทันที นอกจากนี้ ต้องมีการเพิ่มมาตรการทางอาญา โดยเห็นควรออกใบอนุญาตให้ผู้ขายสลาก รวมถึงการใช้มาตรการทางกฎหมายอื่นๆ เช่น การกำหนดฐานความผิดเพิ่ม กรณีมีทำให้ราคาสลากมีความปั่นป่วน การขายสลากเกินราคาที่กระทำโดยเปิดเผย กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การตรวจสอบการชำระภาษีอากร เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ที่สำนักงานฯกำลังดำเนินการ ประกอบด้วย โครงการสลาก 80 ขณะนี้ ให้บริการแล้ว จำนวน 209 จุดใน กทม. และภาคกลาง ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 151 ราย ภาคตะวันออก 48 ราย อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญา และจะเดินทางไปคัดเลือกที่ภาคเหนือ และภาคใต้ อีกเกือบ 1,500 ราย ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อให้โครงการ สลาก 80 ทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของการจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม โดยร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย พัฒนาแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยใช้แอปถุงเงินและแอปเป๋าตัง เป็นหลัก  คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในงวด 16 มิถุนายน 2565 โดยสำนักงานฯ จะนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้ความเห็นชอบในวันพรุ่งนี้ (28 เมษายน 2565) สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สำนักงานฯ เตรียมนำเสนอคณะกรรมการสลากฯ เพื่อดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม ประจาปี 2565 โดยระยะแรก จะรับฟังความคิดเห็น 2 รูปแบบ ได้แก่ สลากตัวเลข 3 หลัก และสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือแบบที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นได้กลางปีนี้

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า กรณีแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สำนักงานฯ กำลังทดสอบระบบและเริ่มดำเนินการเร็วๆนี้ ปริมาณสลากที่จะนำเข้าจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น ควรจะมีปริมาณมากพอที่จะสร้างแรงกระเพื่อม ทำให้ความรุนแรงของปัญหาสลากเกินราคาลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ได้ขอให้สำนักงานฯ ศึกษาวิเคราะห์ ส่วนลดจากการจำหน่าย มีความเหมาะสมหรือเพียงพอหรือไม่อย่างไร และในส่วนของมาตรการต่างๆของสำนักงานฯ ที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไป ขอให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างการรับรู้และสื่อสารให้ประชาชนอย่างแพร่หลายต่อไป สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบการค้าสลากออนไลน์เกินราคา ขอให้ประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมในการปิดให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดการค้าสลากเกินราคาในรูปแบบออนไลน์อีกต่อไป

Advertisement

“บิ๊กตู่” กำชับดูแลฝุ่นละออง PM 2.5 ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน

People Unity News : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับดูแลฝุ่นละออง PM 2.5 ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่

เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.62) เวลา 13.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงแก่สื่อมวลชนถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองว่า รัฐบาลดำเนินการทุกอย่างเต็มที่ โดยสั่งการให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหา วัสดุที่เหลือจากการเกษตรเช่น อ้อย ข้าวโพด ฯลฯ ก็ให้นำมาทำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าเกิดประโยชน์มากขึ้น หรือนำไปเป็นวัสดุเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานในโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กในชุมชน แทนการเผาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ใช้มาตรการและวิธีการใหม่ๆที่เหมาะสมในการดูแลจุดความร้อนหรือฮอตสปอตในพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงการขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีปัญหาเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

สำหรับการใช้รถขนส่งสาธารณะ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รวมทั้งการก่อสร้างก็มีความก้าวหน้าโดยลำดับ หลายเส้นทางก็ได้มีการเปิดใช้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการใช้รถส่วนตัวลงได้บ้าง เพื่อผลดีต่อการจราจร นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความเข้าใจว่า บางกรณีก็มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการรับส่งลูกหลานไปโรงเรียน แต่ขอความร่วมมือในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หากไม่มีความจำเป็นมากนัก ก็ให้หันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะบ้าง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดูแลและส่งเสริมรถบริการสาธารณะให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น พร้อมๆไปกับการเร่งดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน ถนน เส้นทางต่างๆ ทั้งเส้นทางถนนปกติและทางด่วนพิเศษที่ต้องจ่ายเงิน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าถึงบริการและรับความสะดวกอย่างทั่วถึงตามศักยภาพของแต่ละบุคคล

จากนั้น นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่บางพื้นที่ไม่มีน้ำทำนาปลังว่า จะต้องหาวิธีการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่ออุปโภคบริโภคของประชาชน โดยขอความร่วมมือประชาชนทุกคนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะต้องลดปริมาณการใช้น้ำสำหรับการทำการเกษตรลงให้ได้มากที่สุด เพราะมีบางประเทศมีการใช้น้ำทำการเกษตรน้อยกว่าประเทศไทย ซึ่งได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาวิธีการและแนวทางดังกล่าวเพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เตรียมบริหารจัดการการให้ใช้น้ำบาดาลมากขึ้น เพื่อเตรียมรองรับแก้ไขปัญหากรณีน้ำอุปโภคบริโภคขาดแคลนน้ำที่และบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน

ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงมาตรดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมและออกมาตรการและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งการกวดขันบังคับใช้กฎหมาย การอำนวยความสะดวก การจารจร อาชญากรรม ฯลฯ ส่วนการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ขณะนี้ได้มีการเพิ่มมาตรการเชิงรุกมากขึ้น โดยดำเนินการเป็นไปตามกติกาสากล ในการปฏิบัติหน้าที่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐระมัดระวังดูแลตนเองให้ดี รวมถึงการดูแลประชาชนให้ได้รับปลอดภัย พร้อมขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย

โฆษณา

“อนุทิน”เปิดคลีนิคกัญชารพ.สุรินทร์ ให้ชาวบ้านร่วมปลูกได้แล้ว

People Unity News : “อนุทิน”เปิดคลีนิคกัญชารพ.สุรินทร์ เผยประชาชนปลูกได้ แต่ต้องร่วมมือกับโรงพยาบาล และใช้เพื่อการแพทย์ เล็งใช้ “หมอออนไลน์” ทำงานร่วม “อสม.” ดูแลสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ ร.พ.สุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายปกครอง คณะผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้ทำพิธีเปิดคลีนิคกัญชาทางการแพทย์ หลังเสร็จพิธี นายอนุทิน กล่าวว่า
เรื่องกัญชาทางการแพทย์ ได้คลายกฎระเบียบไปมากแล้ว ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้ แต่ต้องไปรวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน และปลูกร่วมกับโรงพยาบาล ให้โรงพยาบาลสกัดสารในกัญชามาใช้ประโยชน์

“พันธุ์ที่ปลูกจะต้องได้รับจากภาครัฐ เพราะเป็นพันธุ์ที่ปลูกง่าย ให้สารสำคัญครบ การปลูก และใช้ เป็นไปเพื่อการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะใช้รักษาอาการซึมเศร้า เบื่ออาหาร และผู้ป่วยมะเร็งระยะประคับประคอง ให้กินอิ่ม นอนหลับ แต่ห้ามนำมาใช้เพื่อความบันเทิง เพราะกฎหมายยังไม่อนุญาต สำหรับแพทย์แผนไทย เราเปิดช่องให้ใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรคได้ แต่หมอพื้นบ้านต้องมาลงทะเบียนกับทางกระทรวง ขณะที่ยาสูตรกัญชาก็ต้องลงทะเบียนเช่นกัน” นายอนุทิน กล่าว

เล็งใช้ “หมอออนไลน์” ทำงานร่วม “อสม.” ดูแลสุขภาพ
นายอนุทิน ยังกล่าวเรื่องการยกระดับ อสม.ระบุว่า ได้มอบหมายให้นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข หรือ สบส.ดูแลเรื่องการพัฒนาศักยภาพของ อสม.โดยแลกกับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นตัวเงิน หรือสวัสดิการ ที่ต้องหารือกันต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับ อสม.เพราะแพทย์ พยาบาล มีจำกัด จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจาก อสม. โดยหวังเห็น อสม.มีความสามารถดูแลผู้ป่วยชั้นปฐมภูมิได้ ไม่ใช่แค่นำออกกำลังกาย แต่ท่านต้องมีความเข้าใจในเรื่องการดูแลสุขภาพประชาชนขั้นพื้นฐาน ซึ่งด้วยศักยภาพ สามารถทำได้ดีแน่นอน
ขอยกตัวอย่างเมื่อครั้งไปตรวจเยี่ยมกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไปดูการสาธิตวิธีตรวจสอบสารตกค้างในพืชผักผลไม้ และผู้ที่มาสาธิตไม่ใช่หมอ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ แต่เป็น อสม.ซึ่งทำอย่างชำนาญ พร้อมอธิบายข้อมูลทั้งหมดอย่างครบถ้วน นี่คือคุณค่าของ อสม. ที่ต้องนำมาใช้ประโยชน์ ที่อยากเห็นคือ ในเมื่อเรามีเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และมี อสม.กระจายอยู่ทั่วประเทศ หากประชาชนมีอาการเจ็บป่วย ยังไม่ต้องไปหาหมอในตัวเมือง แต่ให้ อสม.คัดกรองก่อน อสม.ต้องสื่อสารกับแพทย์ ให้แพทย์ดูอาการเบื้องต้นให้ หมอ ต้องเป็น “หมอออนไลน์” ดูว่าผู้ป่วยมีแนวทางอย่างไร ต้องไป รพ.สต. ใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลศูนย์ เพื่อลดภาระในการเดินทางของผู้ป่วย และลดความแออัดในโรงพยาบาลศูนย์

“ผมมั่นใจว่าปีหน้าเรื่องการยกระดับ อสม. เราจะเห็นความเป็นรูปธรรมแน่นอน พี่น้อง อสม.ต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง อย่าท้อถอย ผมเป็นกำลังใจให้”

Verified by ExactMetrics