วันที่ 7 พฤษภาคม 2024

“ครม.เศรษฐา 1” แบ่งงานรองนายกฯ กำกับดูแลกระทรวง

People Unity News : 14 กันยายน 2566 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (13 ก.ย.) ได้มีการแบ่งงานให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแลกระทรวงการคลัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงกลาโหม

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงยุติธรรม (ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ) กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กำกับดูแลกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กำกับดูแลกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

Advertisement

“เศรษฐพงค์”แจงประโยชน์ 5G ต่อระบบสาธารณสุขไทย

People Unity News : “เศรษฐพงค์”แจงประโยชน์ 5G ต่อระบบสาธารณสุขไทย ยัน “Telemedicine” ช่วยแก้ปัญหารพ.แออัด ลดเหลื่อมล้ำ แนะ ลงทุนด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อรักษาข้อมูลทางการแพทย์

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสัง หรือ กมธ.ดีอีเอส ให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อวาน(12พ.ย.) ตนได้รับเชิญไปกล่าวในงาน Diner Dialogue เกี่ยวกับนวัตกรรมทางการแพทย์ จัดโดยสมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ หรือ พรีม่า ซึ่งตนได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาการขาดแคลนแพทย์ของประเทศไทยที่มีมายาวนาน และขณะนี้รัฐบาลได้มีนโยบายนำ Telemedicine หรือการแพทย์ทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการดูแลจากโรงพยาบาลใกล้บ้านได้ และในที่สุดจะสามารถดูแลโดยตรงถึงบ้านผู้ป่วย โดยแพทย์สามารถให้คำแนะนำผ่านวิดีโอแบบเรียลไทม์ และแม้แต่การขอใบสั่งยาจากแพทย์ได้และนำส่งยาถึงบ้านได้เลย ซึ่งปัญหาการขาดแคลนแพทย์ จะส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาต้องใช้เวลารอนานหลายชั่วโมง และแพทย์เองก็อาจมีความเสี่ยงที่จะตัดสินใจผิดพลาด เนื่องจากความเหนื่อยล้า

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การบริหารของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข จึงมีนโยบายเร่งด่วนในการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยร่วมมือกับสํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้นำร่องในการใช้ Telemedicine เพื่อดูแลสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ชนบทและพื้นที่ชายขอบ ให้มีโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างเท่าเทียม โดยใช้ชื่อว่าโครงการเทเลเฮลธ์ (Telehealth) ซึ่งเป็นการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกลและพื้นที่ชายขอบในระยะเวลา 3 ปี เริ่มต้นใน 9 จังหวัด ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของวงการแพทย์แห่งอนาคต และเป็นปัจจัยสําคัญที่จะช่วยผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

รองประธานกมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า นอกจากนี้ การพัฒนาการแพทย์สู่อนาคต ต้องมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัล 5G มาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีการแพทย์ใหม่ๆ จะช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งผู้ป่วยและแพทย์อย่างเห็นได้ชัด จากการศึกษาของ Market Research Future ระบุว่า แนวคิดของรัฐบาลเกือบทุกประเทศทั่วโลก มองไปทิศทางเดียวกันคือการใช้ Telemedicine ในพื้นที่ชนบทมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการดูแลสุขภาพ แน่นอนว่า 5G ต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์หลายประเภท แต่ที่ใช้ได้อย่างแพร่หลายและสะดวกคือ การใช้เครือข่าย IoT (Internet of things) ที่สามารถติดตามอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ เช่น การวัดชีพจร อุปกรณ์วัดความดัน อุปกรณ์วัดวิเคราะห์ผลเลือด เป็นต้น จึงทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาและสามารถเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ทำให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถทำการมอนิเตอร์ เพื่อตรวจสอบติดตามอาการผู้ป่วยและรวบรวมข้อมูลที่สามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงการดูแลส่วนบุคคลและการป้องกันได้

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า จะเห็นได้ว่าการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ ทำให้การแพทย์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาให้ก้าวหน้ามากขึ้น ก็ยิ่งต้องความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ด้วย โดยเฉพาะข้อมูลของคนไข้หรือผู้ป่วยที่ถือเป็นความลับ รวมถึงข้อมูลทางการแพทย์การรักษา การวิจัยตัวยา หรือแนวทางการรักษาใหม่ๆ ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญต้องได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย ดังนั้นเมื่อเทคโนโลยีดิจิทัล 5G สามารถพัฒนาระบบสาธารณสุขของไทยให้เข้าถึงประชาชนทุกคนได้ เป็นการลดความเหลื่อมล้ำ ทัดเทียมนานาประเทศแล้ว จำเป็นต้องดำเนินการควบคู่กับความมั่นคงปลอดภัยด้วย แม้พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์จะมีผลบังคับใช้แล้ว แต่ก็มีความจำเป็นที่จะลงทุนในเรื่องอุปกรณ์เพื่อรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ Telemedicine ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมั่นคงปลอดภัย

“สนธิรัตน์” ผิดหวัง!! ตั้งใจจะผลักดันอุตสาหกรรมเกษตร แต่ถูกโยกไป ก.พลังงาน

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

People Unity :  ตามโผเก่า ก่อนหน้าที่จะมีโผ ครม.ใหม่ล่าสุดออกมา สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ถึงกับถูกอกถูกใจ เมื่อมีชื่อว่าจะเป็น รมว.อุตสาหกรรม เพราะตนเคยเป็น รมช.อุตสาหกรรมมาแล้ว และเป็นคนที่ปฏิรูปงานของกระทรวงอุตสาหกรรมที่แต่เดิมถูกมองว่าเป็นแค่กระทรวงเปิด-ปิดโรงงาน ให้กลายเป็นกระทรวงส่งเสริมอุตสาหกรรม นอกจากนี้สนธิรัตน์ยังทำให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นกระทรวงเจ้าภาพหลักในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งสนธิรัตน์เป็นคนที่มีบทบาทในการส่งเสริมช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาตั้งแต่สมัยยังไม่เล่นการเมือง โดยตอนนั้นเป็นประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอี

พอมีชื่อว่าจะได้เป็น รมว.อุตสาหกรรม สนธิรัตน์ก็เหมือนได้กลับบ้านเก่า เพราะจะได้สานงานต่อที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกลับไปกระทรวงอุตสาหกรรมคราวนี้ สนธิรัตน์ตั้งใจจะทำให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นกระทรวงหลักในการส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรม หรืออุตสาหกรรมการเกษตร เพราะเล็งเห็นว่าไทยจะต้องสร้างอุตสาหกรรมการเกษตรขึ้นอย่างจริงจังเสียที หลังจากที่รัฐบาลแทบทุกรัฐบาลในอดีตไม่เคยเอาจริงในการส่งเสริมเกษตรอุตสาหกรรมหรืออุตสาหกรรมการเกษตร ทั้งนี้ สนธิรัตน์เห็นว่า มีแต่การสร้างอุตสาหกรรมการเกษตรขึ้นเท่านั้นที่จะเป็นตลาดรองรับผลผลิตการเกษตรของเกษตรกรไทยได้อย่างยั่งยืน และทำให้ราคาสินค้าเกษตรของไทยมีราคาสูงอย่างมีเสถียรภาพ อันจะทำให้เกษตรกรไทยลืมตาอ้าปากได้และรู้จักกับความร่ำรวยเสียที ซึ่งที่ผ่านมาเกษตรกรไทยมีแต่จนลงๆ เพราะสินค้าเกษตรของไทยส่วนใหญ่ถูกส่งออกในรูปอาหารและวัสถุดิบ ทำให้ราคาไม่แน่นอนตามราคาตลาดโลกและความต้องการของตลาดโลก หากมีการแปรรูปสินค้าเกษตรของไทยให้เป็นสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมอย่างจริงจังและครอบคลุมได้แทบทุกสินค้าเกษตร ก็จะทำให้เกษตรกรไทยมีรายได้ดีขึ้น และจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมรายใหญ่ สร้างตลาดการส่งออกของไทยให้เติบโตขึ้น สร้างรายได้จากการส่งออกได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องนำเข้าวัสถุดิบจากต่างประเทศมาเป็นต้นทุนการผลิตเหมือนกับอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ เพราะไทยมีความพร้อมหรือจุดแข็งด้านผลผลิตการเกษตรอยู่แล้ว

สนธิรัตน์เอาแนวความคิดของตนในเรื่องเกษตรอุตสาหกรรมไปบอก สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ สมคิดตบเข่าเสียงดัง บอกว่าเอาเลย เห็นด้วย หลังจากนั้นสมคิดมีคิวไปประชุมผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม และสั่งการให้ข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมเรื่องเกษตรอุตสาหกรรมไว้ได้เลย เพราะ รมว.อุตสาหกรรมคนใหม่ และรัฐบาลจะเอาจริงเรื่องเกษตรอุตสาหกรรมหรืออุตสาหกรรมการเกษตร

แต่ทว่าโผ ครม.ล่าสุด สนธิรัตน์ ถูกนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจโยกไปเป็น รมว.พลังงาน นโยบายเกษตรอุตสาหกรรมของสนธิรัตน์อาจเป็นหมัน เพราะตามโผใหม่ รมว.อุตสาหกรรม เป็นนักอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ อาจมองไม่เห็นเกษตรอุตสาหกรรม?

ก็ขอฝากนายกฯประยุทธ์ไว้แล้วกัน!!

คนการเมือง : “สนธิรัตน์” ผิดหวัง!! ตั้งใจจะผลักดันอุตสาหกรรมเกษตร แต่ถูกโยกไป ก.พลังงาน

โดย : อาทิตย์ วันใหม่

People Unity : post 1 กรกฎาคม 2562 เวลา 00.25 น.

 

โฆษกรัฐบาลยันเศรษฐกิจยังขยายตัวโรงงานขอปิดแค่ 1,391 แห่ง

People Unity News : โฆษกรัฐบาลยันเศรษฐกิจยังขยายตัว ลงทุนใหม่มูลค่าทะลุ 4.3 แสนล้าน กิจการเปิดเพิ่มมากกว่าปิด 2 เท่าตัว

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงอุตสาหกรรมรายงานว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.-12 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการยื่นขอ “เปิดกิจการ” โรงงานใหม่ สูงถึง 2,889 โรงงาน มีการจ้างงานสูงถึง 84,033 คน และมีการจ้างงานเพิ่มจากการ “ขยายโรงงาน” อีกจำนวน 84,704 คน ขณะที่การยื่นขอ “ปิดกิจการ” โรงงาน จำนวน 1,391 โรงงาน มีการเลิกจ้างงานจำนวน 35,533 คน กล่าวคือมีโรงงานเปิดใหม่สูงขึ้นกว่าปิดกิจการกว่า 2 เท่าตัว และพบว่าในปีนี้มีเงินลงทุนเพิ่มสูงถึง 4.31แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 36.6% สอดคล้องกับข้อมูลกระทรวงแรงงานที่รายงานว่ายังมีตำแหน่งงานว่างถึง 79,000 อัตรา

สำหรับการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ หรือ ใบรง.4 ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.ย. 62 จำนวน 3,184 โรงงาน มีการลงทุนสูงถึง 3.67 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการเปิดกิจการใหม่ 2,519 โรงงาน เพิ่มขึ้น 47.9% และการขยายกิจการ 665 โรงงาน เพิ่มขึ้น 32.51% สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจของไทยยังเติบโต ส่วนการเปิดโรงงานใหม่และขยายโรงงานในโครงการอีอีซี ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการขอใบอนุญาตประกอบกิจการ รง.4 และขยายกิจการ 402 โรงงาน มีมูลค่าการลงทุน 8.35 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4.29 หมื่นล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์และแขนกล ท่องเที่ยวสุขภาพ และยานยนต์ ตามลำดับ

รองโฆษกพท.ชี้ยิ่งรัฐบาลอัดฉีดชิมช็อปใช้ ยิ่งสะท้อนสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ

People Unity News : “สรัสนันท์ อรรณนพพร”รองโฆษกเพื่อไทยชี้ยิ่งรัฐบาลอัดฉีดชิมช็อปใช้ ยิ่งสะท้อนสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ

วันที่ 3 พฤศจิกายน น.ส. สรัสนันท์ อรรณนพพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ขอนแก่น ในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลล์การจัดอันดับโครงการที่ประชาชนชื่นชอบในไตรมาสแรกของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์คือชิมช๊อปใช้นั้น สะท้อนถึงความอ่อนแอทางการเงินของประชาชนอย่างชัดเจนที่ต้องพึ่งเงินสนับสนุนจากภาครัฐ เพราะไม่มีรายรับที่มั่นคง

จึงขอสอบถามพลเอกประยุทธ์ฯ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลเศรษฐกิจ ว่า “เงินหนึ่งพันบาท รัฐบาลต้องแจกอีกกี่ครั้ง ต้องอัดงบประมาณอีกกี่หมื่นแสนล้าน ประชาชนถึงจะกินดีอยู่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลนี้นอกจากแจกเงินแล้วคืออะไร?”

และนอกจากนี้ น.ส. สรัสนันท์ อรรณนพพร ได้ชี้ว่า รัฐบาลนี้ยังเพิ่มรายจ่ายให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยกรมสรรพากรได้มีการขยายฐานการจัดเก็บภาษีและประเภทภาษีต่างๆเช่น ภาษีของเค็ม-หวาน-มัน ภาษีรถบิ๊กไบค์ และ แนวคิดที่จะเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อเพิ่มรายรับให้รัฐบาล สุดท้ายภาระนี้ก็มาตกที่ประชาชนอยู่ดี

รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ร่วมโครงการล้างถังพักน้ำราคาพิเศษ 990 บาท

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 10 ธันวาคม 2566 รัฐบาลเชิญชวน ปชช. ร่วมโครงการล้างถังพักน้ำราคาพิเศษ 990 บาท ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ภายใน 31 ธ.ค นี้ ใช้สิทธิ์ได้ถึง 31 ม.ค 67

วันนี้ (10 ธันวาคม 2566) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดย การประปานครหลวง (กปน.) กระทรวงมหาดไทย ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ มอบโปรโมชัน Flash Sale ลดค่าบริการล้างถังพักน้ำราคาพิเศษ 990 บาท ต่อถังขนาดไม่เกิน 2,000 ลิตร ให้กับลูกค้า กปน. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 เท่านั้น และใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567

นายคารม กล่าวว่า เงื่อนไขในการรับสิทธิ์ล้างถังพักน้ำราคาพิเศษ 990 บาท ถังพักน้ำบนดินจะต้องมีขนาดไม่เกิน 2,000 ลิตร (2 ลบ.ม.) สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2566 และใช้สิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567  สำหรับช่วงวันและเวลาในการให้บริการล้างถังพักน้ำ คือ วันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลาทำการ 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

“ประชาชนที่สนใจ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ https://shorturl.asia/4x0ZV หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2504 0123 ต่อ 1865, 1253 หรือ 0 2500 2802 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์” นายคารม ย้ำ

Advertisement

“จุรินทร์”ช่วยชาวใต้! มอบที่อยู่อาศัย-ที่ดินทำกิน

People Unity News : “จุรินทร์”ช่วยชาวใต้! มอบที่อยู่อาศัย-ที่ดินทำกิน เน้นนโยบายสร้างความมั่นคงให้ชาวบ้านได้มีที่อยู่ที่กินถ้วนทั่ว

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิด งานมหกรรมที่อยู่อาศัยโลกภาคใต้ “20 ปี พอช.พลังองค์กรชุมชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ณ ชุมชนทับตะวัน โดย นายจุรินทร์กล่าวขอบคุณ เครือข่ายองค์กรชุมชน เครือข่ายบ้านมั่นคงภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชื่นชมผลงานและความสาเร็จในการแก้ไขปัญหา ที่ดินและที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร สมดุล และยั่งยืน ที่เกิดจากความร่วมมือของ ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในที่ดินป่าชายเลน โดยให้พี่น้องในชุมชนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมดาเนินการ และได้รับประโยชน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ ดูแลรักษา และคุ้มครองที่ดินและทรัพยากร ไม่ให้ถูกบุกรุก ทำลาย

รวมถึงการฟื้นฟู บริหารจัดการการใช้ประโยชน์ในทรัพยากรพื้นที่ป่าชาย เลน และชายฝั่งทะเล เพื่อให้สามารถดารงศักยภาพเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้า เกิดการช่วยเหลือเกื้อกูลต่อการประมง การท่องเที่ยว และการประกอบอาชีพ ทั้งการพัฒนากระบวนการ ฐานข้อมูล และแผนการจัดการพื้นที่ชายฝั่งอย่าง เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ไม่ส่งผล กระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง

“ขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่มีโอกาสบ้านพี่มั่นคงหรือบ้านพอเพียงเพราะหมายความว่า ต่อไปนี้เราไม่ต้องอยู่แบบผิดกฎหมายเพราะได้รับการรับรองจากรัฐบาล อย่างน้อยที่มาวันนี้และกว่า 2,800 กว่าครอบครัวได้รับการรับรองจากรัฐบาลว่าอยู่ได้อย่างถูกกฎหมายและได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในรูปแบบสาธารณูปโภคและอื่นๆโดยให้ประชาชนรวมตัวกันเป็นชุมชนที่มีระบบบริหารจัดการที่เป็นระบบถูกต้องและขณะเดียวกันเพื่อให้เป็นกันชนหรือเกราะป้องกัน การบุกรุกที่ดินรัฐต่อไป ไม่ว่าจะเป็นป่าสงวนหรือชายเลน ต้องขอทุกฝ่ายโดยโครงการนี้เป็นความคิดมาตั้งแต่สมัยปี 2535 คณะรัฐบาลนายกชวน หลีกภัย เดินระยะเริ่มต้นอาจจะมีอุปสรรคอยู่บ้างแต่ปัจจุบันนี้สามารถที่จะผลักดันได้มาก” นายจุรินทร์ กล่าว

รายงานระบุว่า นายจุรินทร์ และรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในเรื่องการพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชนจาก ฐานราก การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน สร้างชุมชนที่น่าอยู่ รวมทั้งการพัฒนาทักษะอาชีพ และพัฒนาพื้นที่เมืองแบบองค์รวม โดยรัฐบาลได้สาน ต่อแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20ปี (พ.ศ.2560-2579) ที่มีวิสัยทัศน์ ให้ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2579” เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ข้างต้น รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนการแก้ไข ปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยอย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องการเงินเพื่อที่อยู่อาศัย และ การสนับสนุนงบประมาณโครงการบ้านมั่นคง โครงการบ้านพอเพียงชนบทอย่าง ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาที่ดินโดยการ อนุญาตการใช้ที่ดินรัฐแบบสิทธิร่วมหรือที่เรียกว่าโฉนดชุมชน ซึ่งหนึ่งในประเภทที่ดินที่รัฐได้ให้การสนับสนุนคือที่ดินในเขตป่าชายเลน โดยได้มีการขออนุญาตผ่าน คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ในการดาเนินโครงการบ้านมั่นคงแล้ว สาหรับชุมชนประมงในพื้นที่ภาคใต้ ในจังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ พังงา ระนอง ภูเก็ตนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และปัตตานี และในพื้นที่ภาคกลางและตะวันตก ในพื้นที่อ่าว ก.ไก่ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร เพื่อให้ชุมชนหรือสหกรณ์มีสิทธิ์ในการอยู่อาศัยทำกินได้ชั่วลูกชั่วหลาน ไม่ให้เสี่ยง ต่อการถูกกว้านซื้อที่ จนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยหรือที่ทากินได้ในอนาคต

นายกฯ กิน “แกงไตปลา“ ที่เกาะสมุย บอกอร่อยจริงๆ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 7 เมษายน 2567 เกาะสมุย – นายกฯ กิน “แกงไตปลา“ มื้อเที่ยงที่เกาะสมุย บอก อร่อยจริงๆ ไม่ได้อร่อยเล่นๆ ชี้ คนอื่นมีสิทธิไม่ชอบ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช 6-8 เมษายน ได้แวะรับรับประทานอาหารเที่ยง โดยหนึ่งเมนูบนโต๊ะอาหารของนายกรัฐมนตรี ได้มีเมนูแกงไตปลา หลังเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีได้โพสต์แอปพลิเคชัน X ถามหาร้านอาหารเด็ด ที่มีเมนู “แกงไตปลา” หลังเมนูดังกล่าวติด 100 เมนูอาหารยอดแย่ของโลกบนเว็บไซต์ เว็บไซต์ TasteAtlas

โดยทันทีที่เมนูแกงไตปลา มาเสิร์ฟ นายกรัฐมนตรี ได้ชิม โดยบอกว่า “อร่อยมากครับ” พร้อมกับยกนิ้วโป้ง อย่างไรก็ตามก็มีสิทธิที่คนอื่นจะไม่ชอบ เพราะมีอะไรหลายๆ อย่างที่แตกต่างกัน เพราะ เขาอาจจะชอบบางอย่าง หรือไม่ชอบบางอย่าง จะไปอะไรเขาก็ไม่ได้ เพราะอาหารไทยมีหลายอย่าง เช่น ต้มยำกุ้ง มัสมั่นไก่

เมื่อถามว่าจะรับประทานแกงไตปลา กับข้าวสวยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนเองกำลังลดน้ำหนักอยู่ พร้อมย้ำว่า “อร่อยจริงๆ ไม่ใช่อร่อยเล่นๆ”

Advertisement

“พิพัฒน์”ชมนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร

People Unity News : รมว.ท่องเที่ยวและ​กีฬา​ เยี่ยมชมนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 29 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ที่ท้องสนามหลวง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเยี่ยมชมนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยมีนาย​โชติ​ ตราชู​ ปลัด​กระทรวง​การ​ท่องเที่ยว​และ​กีฬา​ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนให้การต้อนรับและเข้าร่วมชมการแสดง

รัฐบาล มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน อาทิ กระทรวงกลาโหม สำนักนายกรัฐมนตรี จัดแสดงนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม – 11 พฤศจิกายน 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ตลอดจนเพื่อเผยแพร่ อนุรักษ์ สืบทอดและต่อยอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่ โดยภายในนิทรรศการฯ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย

ส่วนที่ 1 “เถลิงถวัลย์ราชสมบัติ สยามรัฐสีมา” มีรูปแบบการจัดแสดงแบ่งออกเป็น 3 ห้อง ได้แก่

ห้องที่ 1 “มหามงคลสมัยพระขวัญไผทเถลิงรัช” จัดแสดงองค์ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในสมัยรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน โดยมีเนื้อหาและภาพพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์และการแสดงมหรสพสมโภชทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ผ่านจอแอลอีดีและแท่นอักษรเบลล์สำหรับผู้พิการทางสายตา รวมทั้งห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ E-book สำหรับสืบค้นและศึกษาข้อมูล ภาษาไทยและอังกฤษ

ห้องที่ 2 “นิรมิตเรืองนทีเถลิงหล้า” จัดแสดงแสง สี เสียง และสื่อผสม นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความสุขของคนไทยใต้ร่มพระบารมีผ่านจอแอลอีดีในรูปแบบ 3 มิติ ประกอบการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากดารา นักแสดงที่มีชื่อเสียง และการแสดงขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค เรือพระราชพิธีจำลอง 52 ลำ พร้อมกาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ ประพันธ์โดย นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

ห้องที่ 3 “ขบวนนาวาอารยศิลป์แผ่นดินสยาม” จัดแสดงองค์ความรู้เกี่ยวกับขบวนพระยุหยาตราทางชลมารคตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยนำเสนอภาพขบวนเรือจากอดีตถึงปัจจุบันผ่านจอแอลอีดี รวมทั้งกาพย์เห่เรือ จำลองภาพเรือ 52 ลำ ประกอบคำบรรยาย พร้อมทั้งจัดแสดงเครื่องดนตรีประกอบการเห่เรือและหุ่นแสดงเครื่องแต่งกายของพนักงานประจำเรือ ทั้งนี้ ภายในพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการฯ ทั้ง 3 ห้อง จัดทำอารยสถาปัตย์และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุอีกด้วย

ส่วนที่ 2 “ศรีศุภยาตรา ปวงประชารวมใจถวายพระพร” จัดแสดงเรือพระที่นั่งจำลอง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ประกอบการแสดงเห่เรือจากกองทัพเรือ รวมทั้ง มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมจาก 4 ภูมิภาค และการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ การแสดงละครนอก ละครใน โดยนักแสดงจากกรมศิลปากรและสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

ส่วนที่ 3 “ม่านธาราลือขจรเฉลิมราชย์องค์ราชัน” จัดแสดงม่านน้ำประกอบแสง สี เสียง เฉลิมพระเกียรติฯ นำเสนอเรื่องราววิถีชีวิตคนไทยกับสายน้ำที่ผูกพันมาอย่างยาวนาน และความวิจิตร ตระการตาของโขนเรือขบวนพยุหยาตราทางชลมารค รวมทั้งพระราชกรณียกิจต่างๆ ผ่านเทคนิคม่านน้ำ

ส่วนที่ 4 “เอมอิ่มสุขสันต์ครบครันสำรับไทย” จำหน่ายสุดยอดอาหารไทยเลิศรสจากร้านที่มีชื่อเสียง

รัฐบาล ขอเชิญชวนประชาชนร่วมชมนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในพระราชประเพณีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของไทยที่สืบทอดมายาวนานจนถึงปัจจุบัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม 1765 และ www.m-culture.go.th

“สนธิรัตน์” ขอบคุณ “ปิยบุตร” อภิปรายแนวนำขับเคลื่อนงบฯ

People Unity : “สนธิรัตน์”เชื่อ ร่างพ.ร.บ.งบฯ ผ่านฉลุย ขอบคุณ “ปิยบุตร” อภิปรายให้แนวทางนำไปขับเคลื่อนงบประมาณแผ่นดิน
เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2562 เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภาฯ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ช่วง 2 วันที่ผ่านมาว่า เป็นบรรยากาศการอภิปรายที่สร้างสรรค์ ทั้งส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ได้เสนอความคิดให้รัฐบาลนำไปพิจารณา ซึ่งการอภิปรายดังกล่าวจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ และจากการที่ตนได้เจอกับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โดยเขายืนยันว่ายืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะสกัดร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ แต่เป็นเจตาดีเพื่อให้รัฐบาลนำไปปฎิบัติ ขับเคลื่อนงบประมาณของแผ่นดิน ซึ่งตนก็ได้ขอบคุณนายปิยบุตรไปแล้ว ทั้งนี้ตนมั่นใจว่าการลงมติจะผ่านไปได้ด้วยดี และรัฐบาลจะได้รับสียงสนับสนุนตามที่ต้องการ

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่าหากร่างพร.บ.งบประมาณฯ ผาน จะเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในสิ้นปีนี้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สิ่งไหนที่เป้นสิทธืตามรัฐธรรมนูญ ก็เป็นกระบวนการที่ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลสามารถทำได้ วึ่งขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามะเบียบข้อบังคับ

Verified by ExactMetrics