วันที่ 29 เมษายน 2024

“จุรินทร์” นำ “พาณิชย์-เกษตร” เชื่อม Big Data สินค้าเกษตร

People Unity News : “จุรินทร์”นำพาณิชย์-เกษตร ร่วมมือเชื่อมฐานข้อมูลสินค้าเกษตร Big Data สำคัญ 5 รายการทั้ง ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ประชุมหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือบูรณาการในระดับส่วนกลาง เรื่องเชื่อมโยงฐานข้อมูลสินค้าเกษตร (Big Data) ในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และระดับประเทศเพื่อใช้ในการบริหารจัดการทั้งระบบเพื่อให้สินค้าเกษตรที่ผลิตได้มีความสมดุล ทั้งในด้านปริมาณความต้องการซื้อ และความต้องการขายซึ่งจะส่งผลให้สินค้าเกษตรมีเสถียรภาพด้านราคาทำให้เกษตรกรมีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) ให้จัดทำระบบกำกับและติดตามนโยบายด้านการบริหารจัดการสินค้าเกษตรสำคัญ 5 รายการ ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อนำมาศึกษาวิเคราะห์สำหรับประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง และ สนค. ได้หารือร่วมกับผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ศูนย์เทคโนโลยีสาระสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับแนวทางการจัดทำ MOU ด้านการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดยการดำเนินการเริ่มจากด้านการบริหารจัดการสินค้าเกษตรทั้งระบบเพื่อให้สินค้าเกษตรที่ผลิตได้มีความสมดุล ทั้งในด้านปริมาณความต้องการซื้อและความต้องการขาย ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าเกษตรมีเสถียรภาพด้านราคา และจัดเตรียมข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่พร้อมเชื่อมโยงสู่ระบบฐานข้อมูล เพื่อนำไปสู่การจัดทำระบบกำกับ และติดตามนโยบาย ซึ่งจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนไปสู่การกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการสินค้าเกษตรทั้งระบบต่อไป

สำหรับรายละเอียดของ MOU หรือข้อตกลง คือ ส่งเสริมสนับสนุนการเชื่อมโยงข้อมูลเชิงลึกเพื่อใช้ในการตัดสินใจกำหนดนโยบาย และยุทธศาสตร์ ด้านการบริหารจัดการสินค้าเกษตรทั้งระบบ รวมถึงการปลดล๊อคเงื่อนไข หรือกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้ประโยชน์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจภาครัฐ ร่วมกันพัฒนาและดำเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเก็บข้อมูล ที่สนับสนุนการใช้ปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงพัฒนาฐานข้อมูลกลางให้มีมาตรฐานร่วมกัน เพื่อสร้างการเชื่อมโยงข้อมูลที่มีความต่อเนื่องทันสมัย และเป็นอัตโนมัติ ร่วมกันออกแบบ กระบวนการบริหารจัดการข้อมูลที่เป็นความลับ โดยทั้งสองฝ่ายจะใช้ข้อมูลดังกล่าวสำหรับการประมวลผล และวิเคราะห์สำหรับประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบาย และยุทธศาสตร์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง โดยจะรักษาความลับ และไม่เปิดเผยไม่ว่ากรณีใด เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานเจ้าของข้อมูล ต่อไปคือให้จัดตั้งทีมงานด้านเทคนิคและข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อดำเนินการขับเคลื่อนการดำเนินการ ตามประเด็นความร่วมมือ ให้บรรลุผลโดยเร็วและมีประสิทธิภาพ

“การจัดทำบิ๊กดาต้าราวมกันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการแก้ไขปัญหาประชาชนได้ทันเวลาและตรงกับยุทธศาสตร์ง่ายต่อการตัดสินใจทางนโยบายและสำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นพื้นมีสินค้าเกษตรจำนวนมากต้องบูรณาการระหว่างกระทรวง” นายจุรินทร์ กล่าว

โฆษณา

“บิ๊กป้อม”เชียร์”บิ๊กแดง” เป็นนายกฯต่อจาก”บิ๊กตู่”

People Unity : “บิ๊กป้อม”เชียร์”บิ๊กแดง” เป็นนายกฯต่อจาก”บิ๊กตู่” ยันงบประมาณด้านความมั่นคงมีรายละเอียดชัดเจนอยู่แล้ว

วันที่ 19 ต.ค.2562 ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายโจมตีงบประมาณด้านความมั่นคง ที่ไม่ได้มีการลงรายละเอียด เนื่องจากเกรงใจพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า คงไม่ เพราะในงบประมาณก็มีรายละเอียดชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนที่ยังไม่ชัดเจนนั้น เป็นเพราะบางอย่างยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเอาไปทำอะไร เป็นการกำหนดเอาไว้แบบกว้างๆ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่ามีการเพิ่มค่าตอบแทนให้ทหารชั้นนายพล ตำแหน่งพิเศษใช้งบประมาณสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ หรือ 7 พันล้านบาทต่อเดือนพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ขอไปตรวจสอบก่อน แต่เท่าที่ดูไม่น่าจะมี เชื่อว่าคงไม่น่าจะมีการเพิ่มให้ทหารชั้นนายพล มีเพียงค่าปฎิบัติหน้าที่อย่างเดียว

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าการโหวตร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 จะเกิน 250 เสียง พล.อ.ประวิตร ย้อนถามสื่อมวลชนว่า “แล้วคุณว่าอย่างไร”

เมื่อถามว่านอกจากเสียงของรัฐบาลแล้วยังมีเสียงของพรรคฝ่ายค้านมาช่วยสนับสนุนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวพร้อมอมยิ้มว่า “ยังไม่รู้”

เมื่อถามอีกว่าแต่ท่านยิ้ม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมก็ยิ้มแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว”

ต่อข้อถามถามว่าก่อนหน้านี้ฝ่ายค้านโจมตีผบ.ทบ.ภายหลังบรรยายายพิเศษในหัวข้อ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะให้ทำอย่างไรได้ ท่านก็ตั้งใจดี

ผู้สื่อข่าวถึงประเทศฝ่ายค้านคาดเดาว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมหรือ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็ไม่รู้สิ แต่ถ้าเป็นได้ก็ดี” ก่อนจะหัวเราะและเดินเข้าห้องประชุม

ปชป.ชูแก้ปัญหาที่ดินทำกินเผย”นิพนธ์”เร่งรังวัดจัดโฉนดมอบประชาชน

People Unity News : ปชป.ชูแก้ปัญหาที่ดินทำกิน เผย”นิพนธ์”เร่งรังวัดจัดโฉนดมอบประชาชน สะท้อนพึงพอใจมากที่สุด

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินทำกินมาโดยตลอด เพราะปัญหาที่เกี่ยวกับที่ดินทำกินเป็นปัญหาใหญ่ที่มีผลต่อวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการขาดแคลนที่ดินทำกิน ความไม่ชัดเจนเขตที่ดินของรัฐ การประกาศเขตที่ดินสาธารณะทับที่ดินชาวบ้าน ความไม่ขัดเจนในแผนที่ และอีกหลายปัญหาที่รอการแก้ไข

ขณะนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขอย่างเป็นระบบและยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน โดยมุ่งประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เช่นการเร่งสำรวจที่ดินเพื่อออกเอกสารสิทธิ์ ที่สามารถออกได้ก็ออกให้ในทันที และพี่น้องประชาชนก็สะท้อนความเห็นมาที่พรรคว่าโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน ที่นายนิพนธ์ได้ทำไว้นั้น เป็นเรื่องที่พึงพอใจเป็นอย่างมาก รวมถึงการเร่งสำรวจรังวัดทำแผนที่เพื่อออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ต่างๆ ตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ต้องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน จะเห็นว่านายนิพนธ์ย้ำเสมอว่าการออกโฉนดที่ดินจากทางราชการเป็นเอกสารสิทธิ์มีความสำคัญ โฉนดที่ดินที่ได้รับจากทางราชการสามารถนำไปสร้างงาน สร้างรายได้ เป็นหลักที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของนายนิพนธ์ ซึ่งเน้นหลักการทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด และสามารถส่งข้อเสนอแนะมาที่พรรคได้ตลอดเวลาเพื่อจะได้นำไปเสนอต่อรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลต่อไป

กกต.สรุปผล! “เผดิมชัย”เข้าวินที่ 37,675 คะแนน เลือกตั้งนครปฐม

People Unity : กกต.สรุปผล! “เผดิมชัย”เข้าวินที่ 37,675 คะแนน เลือกตั้งนครปฐม ใช้สิทธิ์กว่า 9 หมื่นราย

วันที่ 24 ต.ค.2562 คณะกรรมการการเลือกตั้ง จังหวัดนครปฐม เปิดเผย ผลคะแนนเลือกตั้งส.ส.เขต 5 นครปฐม อย่างไม่เป็นทางการ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 143,542 คน มาใช้สิทธิ 91,043 คน บัตรดี 87,424 บัตรเสีย 1,623 บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 1,996 บัตร โดยผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ได้คะแนนมากที่สุด 37,675 คะแนน

อันดับ 2 พรรคอนาคตใหม่ 28,216 คะแนน อันดับ 3 พรรคประชาธิปัตย์ 18,425 คะแนน อันดับ 4 พรรคเสรีรวมไทย 2,261 คะแนน อันดับ 5 พรรคไทยศรีวิไลย์ 467 คะแนน อันดับ 6 พรรคเพื่อชีวิตใหม่ 226 คะแนน อันดับ 7 พรรคพลังสังคม 154 คะแนน

“ปชป.” เตรียมคัดชื่อ กมธ. แก้รัฐธรรมนูญ

People Unity News : “องอาจ คล้ามไพบูลย์” ประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เผย “ปชป.” เตรียมคัดชื่อ กมธ. แก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ตนได้เชิญ ส.ส. ของพรรคฯ มาประชุมเพื่อพิจารณาหาผู้ที่เหมาะสมไปเป็นคณะกรรมาธิการฯ ในส่วนของพรรคฯ จำนวน 4 ท่าน ในวันอังคารที่ 26 พ.ย. เวลา 13.30 น.

พรรคประชาธิปัตย์ มีบุคคลที่เหมาะสมหลายท่าน ขึ้นอยู่กับ ส.ส. ของพรรคฯ จะดูว่าใครเหมาะสมโดยจะใช้วิธีเสนอชื่อแล้วให้ ส.ส. เลือกในที่ประชุม โดยผู้ที่ถูกเสนอชื่อและที่ประชุม ส.ส. เลือกก็ต้องสมัครใจที่จะไปทำงานเป็นคณะกรรมาธิการฯ ด้วย

ส่วนที่ประชุม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เคยมีมติเสนอชื่อคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคฯ ไปเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ นั้น ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม เพราะคุณอภิสิทธ์มีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ประธานคณะกรรมาธิการฯ แต่ก็ขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาลด้วยว่าจะมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร ขณะนี้พรรคฯ ก็รอฟังจากวิปรัฐบาลอย่างเป็นทางการว่าจะมีมติออกมาอย่างไร

กรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจะก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองนั้น คิดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบอะไรกับการเมืองในภาพรวม เพราะเป็นเพียงเริ่มต้นศึกษาหลักเกณฑ์วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังต้องมีกระบวนการที่จะต้องดำเนินการอีกพอสมควร

ทุกฝ่ายควรตระหนักร่วมกันว่าการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งนี้ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งและองค์กรหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งจึงจะทำให้เกิดผลสำเร็จได้

“ทักษิณ” ถึงไทย ก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์

People Unity News : 22 สิงหาคม 2566 ดอนเมือง-“ทักษิณ” อดีตนายกฯ ถึงไทยแล้ว ก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมทักทายนักการเมืองและมวลชนที่มารอรับ

บรรยากาศที่อาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล MJET ภายหลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินเข้ามาปรากฏตัว หลังเดินทางถึงประเทศไทยเวลา 09.00 น. ตามเวลา พร้อมกับ บุตรชายและบุตรสาว นายพานทองแท้ ชินวัตร นางสาวพินทองธา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร รวมถึงหลานๆ

โดยนายทักษิณ ได้โค้งคำนับพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี พร้อมเปิดกรวย ถวายสักการะ จากนั้นเดินไปทักทายแกนนำพรรคเพื่อไทย นักการเมืองสมัยพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน รวมถึงนักการเมืองคนอื่นที่มารอต้อนรับ ก่อนที่จะเดินกลับมายืนบริเวณหน้าประตูเพื่อให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพ รวมเวลาประมาณ 5 นาที

ขณะที่บรรดาคนเสื้อแดงที่มารอให้กำลังใจ ต่างส่งเสียงโห่ร้อง ปรบมือด้วยความดีใจ “บางส่วนตะโกนเรารัก “ทักษิณ” “ทักษิณสู้ๆ” บางคนถึงกับปาดน้ำตาด้วยดีใจ และบอกว่าแม้ไม่ได้เห็นแต่ก็ดีใจที่นายทักษิณ ได้กลับประเทศไทย

Advertisement

นายกฯปลื้ม “ชาไทยเย็น” คะแนนโหวตติดอันดับโลก ต่อยอดท่องเที่ยว

People Unity News : 25 กุมภาพันธ์ 2566 โฆษกรัฐบาล เผย TasteAtlas จัดอันดับ “ชาไทยเย็น” ติด 1 ใน 10 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ได้รับคะแนนดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 (10 Best Rated Non-Alcoholic Beverages in the World)

วันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่า TasteAtlas ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมบทความและข้อมูลอาหารยอดนิยมทั่วโลกได้จัด 10 อันดับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 (10 Best Rated Non-Alcoholic Beverages in the World) (https://www.tasteatlas.com/best-rated-non-alcoholic-beverages-in-the-world#!#modal) โดย “ชาไทยเย็น” ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลกสะท้อนเอกลักษณ์และวัฒนธรรมอาหารของไทยที่โดดเด่น ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2018 ชาเย็นไทย ก็ได้รับการจัดอันดับที่ 27 ใน 50 เครื่องดื่มที่อร่อยที่สุดในโลก (World’s 50 most delicious drinks) จากเว็บไซต์ CNN Travel เช่นเดียวกัน (https://edition.cnn.com/travel/article/most-delicious-drinks-world/index.html)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผลการจัดอันดับดังกล่าวได้ให้รายละเอียดว่า ชาไทยเย็น ได้รับคะแนนโหวต 4.7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน โดยถือเป็นเครื่องดื่มที่ผสมผสานเข้ากันได้ดีระหว่างชาดำเข้มข้น นมข้นหวาน/จืด น้ำตาล และสมุนไพรเครื่องเทศต่าง ๆ ซึ่งเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง โดยปัจจุบันจะพบชาไทยเย็นได้ ทั้งใน Street Food และร้านอาหารทั่วไป

ทั้งนี้ การจัดอันดับเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1. Hong Kong-Style Milk Tea จากฮ่องกง 2. Aguas Frescas จากเม็กซิโก 3. Chai masala จากอินเดีย 4. Maghrebi Mint Tea จากเมืองอัลมัฆริบ (Maghreb) และโมร็อกโก 5. Horchata จากเม็กซิโก 6. Salep จากตุรกี 7. ชาไทยเย็น จากไทย 8. El submarino จากอาร์เจนตินา 9. Ristretto จากอิตาลี และ 10. Darjeeling จากอินเดีย

“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการส่งเสริม Soft power ประเภทต่าง ๆ ซึ่งมั่นใจว่าไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งเอกลักษณ์ของอาหารไทยถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งเป็นการตอกย้ำเป้าหมายของไทยในการขับเคลื่อนนโยบายครัวไทย สู่ครัวโลก ชูจุดเด่นด้านอาหารของไทยที่มีความหลากหลาย รสชาติอร่อย ซึ่งเป็นสิ่งนานาชาติให้การชื่นชมและยอมรับมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังสามารถต่อยอดไปสู่การส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการบริโภคได้เพิ่มเติมในอนาคต” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

“เพื่อไทย”ยังอารมณ์ค้าง! อัดรัฐทำงบฯไม่โปร่งใส

People Unity : “เพื่อไทย”ยังอารมณ์ค้าง! อัดรัฐทำงบฯไม่โปร่งใส แนะประชาชนจับตารัฐใช้เงินนอกงบประมาณ

วันที่ 23 ตุลาคม 2562 นายสงวน พงษ์มณี สส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการอภิปรายงบประมาณปี 2563 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีหลายประเด็นที่สังคมยังคงสงสัยในการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล ผลโดยรวมของการอภิปรายพบว่ารัฐบาลตอบไม่ตรงคำถามและในหลายประเด็นเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถามหรืออธิบายถึงการใช้จ่ายงบประมาณว่าจะก่อให้เกิดความคุ้มค่าได้อย่างไร

การใช้เงินงบประมาณกว่า 3.2 ล้านล้านบาทที่เป็นภาษีของประชาชน เป็นเพียงส่วนเดียวที่รัฐเปิดเผยตัวเลข ยังคงมีเงินที่รัฐเก็บไว้ ที่เรียกว่าเป็นเงินนอกงบประมาณที่อยู่ในความรับผิดชอบของส่วนราชการ นอกจากเงินงบประมาณรายจ่ายเงินรายได้แผ่นดิน เงินเหล่านี้ คือ เงินเบิกเกินส่งคืน และเงินเหลือจ่ายปีเก่าส่งคืน แต่ไม่มีการส่งคืนให้กระทรวงคลังยังคงค้างอยู่ที่หน่วยราชการ ที่ผ่านมารัฐไม่มีการแจงตัวเลขว่าเงินนอกงบประมาณมีจำนวนเท่าไหร่นำไปใช้ในโครงการอะไรบ้าง

นายสงวน กล่าวด้วยว่า การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลขาดความโปร่งใส และไม่เปิดเผยต่อประชาชน อยากให้ประชาชน จับตาดูการใช้เงินนอกงบประมาณที่รัฐจัดเก็บไว้ เพราะเงินทั้งหมดนี้เป็นภาษีของประชาชน ดังนั้นประชาชนควรจับตาดูการใช้จ่ายงบประมาณว่ารัฐใช้เงินอย่างไร เกิดประโยชน์กับประชาชนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เงินนอกงบประมาณมีจำนวนเท่าไหร่ ประชาชนไม่เคยทราบ แม้กฎหมายกำหนดให้หน่วยงานรัฐต้องมีการแจ้งว่าแต่ละหน่วยงานมีเงินเหลือเท่าไหร่ ถึงจะต้องจัดเงินงบประมาณไปเพิ่ม การจัดทำงบประมาณต้องนำเงินส่วนนี้มาร่วมด้วยหากนำเงินคงเหลืออยู่การจัดทำงบประมาณก็อาจจะไม่ถึง 3.2 ล้านล้านบาท ดังนั้นการจัดทำงบประมาณครั้งนี้จึงขาดความโปร่งใสและไร้การตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ

“นฤมล” หนุนกองทุนรวมเพื่อสังคม

People Unity News : 5 ตุลาคม 2565 “นฤมล” หนุนกองทุนรวมเพื่อสังคมกลไกลดเหลื่อมล้ำสร้างเศรษฐกิจไทยยั่งยืน

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัวสะท้อนมุมมองถึงแนวทางการเก็บภาษีของรัฐบาลทุกประเทศอยู่บนหลักการที่จะนำรายได้ภาษีไปเพื่อจุดประสงค์หลักได้แก่  1)สร้างความเท่าเทียมในระดับหนึ่ง คือ ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ ด้วยการเก็บภาษีคนรวย มาช่วยคนจน ด้วยโครงการอุดหนุนชดเชยต่างๆ กับ 2) นำมาพัฒนาประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ทางรถไฟ เป็นต้น นอกจากนั้น เป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยราชการ

ทั้งนี้แนวนโยบายหลายประเทศ เมื่อรายได้ภาษี น้อยกว่า รายจ่ายที่มี จึงจำเป็นต้องทำงบประมาณขาดดุล และอาศัยการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล เงินกู้นี้ถือเป็นหนี้สาธารณะ เพื่อให้เกิดวินัยทางการคลัง กฎหมายจึงกำหนดเพดานเงินกู้ไว้ในมาตรา 28 ของ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ  เดิมกำหนดเพดานไว้ที่ 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP และ 30% ของประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ ต่อมา ขยายเป็น 70% และ 35% ตามลำดับ

นอกจากนี้ มาตรา 20 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ  ยังกำหนดให้งบประมาณรายจ่ายลงทุนต้องไม่น้อยกว่า 20% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีและต้องไม่น้อยกว่าวงเงินของส่วนที่ขาดดุลของงบประมาณประจำปีนั้น กฎหมายเขียนไว้ เพื่อให้เกิดวินัยการคลังว่าเม็ดเงินที่กู้มาอย่างน้อยจะนำไปลงทุนที่ทำให้เกิดการพัฒนาประเทศ

ด้วยข้อจำกัดของรายได้ภาษี กับวินัยการคลังที่จำเป็นต้องมีเป็นอย่างยิ่ง หลายประเทศ รวมทั้งไทยเรา จึงได้หันมาใช้แหล่งเงินจากตลาดทุน (กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) และภาคเอกชน (การร่วมทุน PPP) ในการพัฒนาประเทศด้านโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น

นางนฤมล กล่าวว่า แต่ภารกิจของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ยังคงพึ่งพิงงบประมาณ ซึ่งคือรายได้ภาษีเป็นหลักเท่านั้น ในขณะที่หลายประเทศเริ่มหันไปใช้แหล่งเงินทุนจากตลาดทุน ในรูปแบบของกองทุนรวมเพื่อสังคม ตลาดทุนของไทยเราก็มีศักยภาพสูง การตั้งกองทุนรวมเพื่อสังคมนี้ นอกจากจะสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนในประเทศแล้ว นักลงทุนและกองทุนลักษณะเดียวกันนี้ในต่างประเทศก็พร้อมที่จะเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกกับสังคมในประเทศไทยเช่นกัน

นางนฤมล กล่าวว่า กองทุนรวมเพื่อสังคม ให้เงินลงทุนกับธุรกิจเพื่อสังคมที่คณะกรรมการกองทุนพิจารณาว่ามีศักยภาพในการสร้างผลงานตามตัวชี้วัดที่กำหนด เช่น เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ รายได้รวมของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ผู้พ้นโทษจำคุกที่เข้าร่วมโครงการได้มีงานทำและมีรายได้ขั้นต่ำตามที่กำหนด รายได้ของผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพเพิ่มขึ้น เป็นต้น

กองทุนรวมเพื่อสังคม และธุรกิจเพื่อสังคม เดินหน้าร่วมกัน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน ที่จะไม่นำเม็ดเงินไปอุดหนุนหรือแจกโดยตรง แต่ทำการพัฒนาผ่านการให้ความรู้ เครื่องมือ และกลไกในการที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน ตามแนวทางของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ของสหประชาชาติ (UN)

นอกจากจะเป็นแนวทางที่แก้ปัญหาให้ประเทศเรื่องแหล่งเงินทุนแล้ว ยังสามารถนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมมิติต่างๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน เพราะไม่ว่าในอนาคตรัฐบาลจะจัดตั้งโดยพรรคใด กองทุนนี้จะดำเนินงานได้ต่อเนื่องเพราะไม่ได้ใช่เงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี จึงมิได้ใช้ระบบราชการในการดำเนินโครงการ แต่อาศัยผู้ประกอบการทำงานเพื่อสังคม ที่จำนวนมากเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักอยากร่วมพัฒนาชาติไทย

Advertisement

นายกฯ เผยข่าวดี กรมแผนที่ทหารสำรวจพื้นที่ทับซ้อนเสร็จแล้ว ไม่ให้นำที่ดินแนวกันชนออก ส.ป.ก.

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 27 กุมภาพันธ์ 2567 ทำเนียบรัฐบาล – นายกฯ เผยข่าวดีกรมแผนที่ทหาร สำรวจพื้นที่ ส.ป.ก.ทับซ้อนอุทยานเขาใหญ่เสร็จแล้ว เตรียมประกาศไม่ให้นำที่ดินแนวกันชนออกเป็น ส.ป.ก. ให้ปลูกป่า ประชาชนมีส่วนร่วม สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินทั่วประเทศ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ทับที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ให้กรมแผนที่ทหาร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกันแก้ปัญหา ว่า กรมแผนที่ทหารเดินสำรวจได้เร็วกว่าที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 สัปดาห์ แต่ตอนนี้เสร็จแล้ว หลังจากที่เชิญทุกฝ่ายมาหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ตอนนี้ได้ข้อสรุปแล้วว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะยึดหลักการและประกาศว่าจะไม่นำที่ดินตามแนวเขตกันชน และพื้นที่คาบเกี่ยวมาใช้แบ่งที่ดินเพื่อเป็นที่ ส.ป.ก.

“ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ส่งเสริมให้ปลูกป่าในพื้นที่ดังกล่าวและให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมปลูกป่าด้วย ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยเลขาธิการ ส.ป.ก. ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับที่ดินของรัฐทุกประเภทจะจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อเข้าสำรวจและหาข้อยุติในพื้นที่ที่ยังมีข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานให้เเล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics