วันที่ 18 กันยายน 2025

เลขา สมช.เผยความรุนแรงภาคใต้ลดลง-เตรียมเสนอซ่อมกล้อง CCTV ทั่ว 3 จว.ชายแดนใต้

People unity news online : เมื่อวานนี้ (2 สิงหาคม 2560) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (เดิม) ชั้น 2 อาคารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ครั้งที่ 2/2560 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี พลเอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พลเอก ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในส่วนกลาง และในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลทั้ง 13 คน ในฐานะกรรมการ คปต. เข้าร่วมประชุมด้วย

รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต่อที่ประชุม คปต. ว่า การใช้เครื่องมือสนับสนุนการปฏิบัติงานของทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อมุ่งป้องกัน และขจัดเงื่อนไขภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องเร่งจัดระบบให้มีกรอบการจัดหา และการบำรุงรักษาให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเหล่าทัพและ กอ.รมน. เร่งจัดทำและปรับปรุงแผนงานที่เกี่ยวข้องให้สมบูรณ์ ทันสมัย เพื่อนำเสนอ คปต. พิจารณาต่อไป

ขณะที่การใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความก้าวหน้าไปเป็นลำดับ โดยมอบหมายให้ กอ.รมน. และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดทำรายละเอียดของแผนการซ่อมบำรุงกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ฯ และพิจารณาจัดทำแผน/ โครงการที่สำคัญเร่งด่วน โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนฯ เพื่อนำเสนอ คปต. พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป

ส่วนแผนการเสริมสร้างกองกำลังประจำถิ่นและกำลังประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2560 – 2564 ซึ่ง กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ดำเนินการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เพื่อร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองอย่างมีประสิทธิภาพ นั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ สมช. ไปพิจารณาทบทวนแผนงานโครงการที่หน่วยดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เพื่อปรับปรุงให้สมบูรณ์สอดคล้องกับแผนดังกล่าว รวมทั้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบริเริ่มจัดทำแผนงานโครงการใหม่ๆภายใต้แผนงานฯดังกล่าว ทั้งนี้ งานเสริมสร้างกองกำลังประจำถิ่นและกำลังประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ รวมถึงการจัดกำลังทหารพรานเป็นกำลังรับผิดชอบหลักในพื้นที่เสริมสร้างความมั่นคงและพื้นที่เศรษฐกิจให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด ตลอดจนให้จัดกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม และดูแลพื้นที่ภายในให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พลเอก ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุม คปต. ได้รับทราบเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในรอบ 9 เดือน ที่ผ่านมา สรุปว่า เหตุการณ์รุนแรงลดลงมาโดยลำดับ เมื่อเทียบกับห้วงเดียวกันในปีที่แล้ว รวมทั้ง ได้มีวาระติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการตามมติ คปต. หรือข้อสั่งการประธาน คปต. ได้แก่ การพัฒนาระบบประสานงานด้านการข่าว มาตรการเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยพื้นที่โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” และการใช้ประโยชน์จากระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เร่งรัดซ่อมบำรุงกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ชำรุดให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกรอบแผนซ่อมบำรุงกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า เสนอ โดยแผนซ่อมบำรุงกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ดังกล่าวเป็นแผนซ่อมบำรุงที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อเฝ้าระวังป้องการก่อเหตุร้ายเชิงรุกก่อนที่จะมีการก่อเหตุขึ้น

อีกทั้ง ที่ประชุม คปต.ได้เห็นชอบร่างแผนการเสริมสร้างกองกำลังประจำถิ่นและกำลังประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2560 – 2564 ตามที่ กอ.รมน. เสนอ ซึ่งเป็นกรอบแผนดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจความมั่นคงของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักระดับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจในมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น รวมทั้งได้เห็นชอบการขออนุมัติกรอบอัตรากำลังพนักงานมหาวิทยาลัยในพื้นที่เพิ่มเติมของสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และเห็นชอบโครงการสานฝันกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนในพื้นที่มีโอกาสศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างยั่งยืน

People unity news online : post 3 สิงหาคม 2560 เวลา 22.30 น.

ไทยสร้างไทยชู “สุดารัตน์” แคนดิเดตนายกฯ ชี้ตั้งใจทำงานเพื่อคนไทยทุกคน

People Unity News : 9 กันยายน 65 “โภคิน-น.ต.ศิธา” หนุน “คุณหญิงสุดารัตน์” แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคไทยสร้างไทย ชี้ตั้งใจทำงานเพื่อคนไทยทุกคน ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง พร้อมเปิดรับคนอุดมการณ์เดียวกัน

นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยไทยสร้างไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในโอกาสที่ที่ประชุมพรรคไทยสร้างไทยให้ความไว้วางใจดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยมั่นใจว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะเป็นผู้นำพรรคเพื่อร่วมกับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนเปลี่ยนประเทศให้สำเร็จ เพื่อปลดปล่อยและสร้างพลังให้กับพี่น้องประชาชนทุกด้าน ต้องร่วมกัน ทำให้ประเทศหลุดพ้นจากแนวคิดและวัฒนธรรมแบบอำนาจนิยมและรัฐราชการที่กดทับการดำรงชีวิต และการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนตัวเล็ก

นายโภคิน กล่าวว่า จากการร่วมทำงานกับคุณหญิงสุดารัตน์ ได้เห็นความตั้งใจ ความเสียสละ การใฝ่หาความรู้อยู่ตลอดเวลา การมีน้ำใจและมิตรไมตรีกับผู้คนทั้งหลาย การให้ความสำคัญกับผู้คนทุกรุ่นทุกวัย ตลอดจนความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะมาทำงานเพื่อบ้านเมืองไม่ใช่มาทำเพื่อตัวเอง เพราะประเทศกำลังอยู่ในสภาวะที่อันตรายอย่างยิ่งในทุกๆด้าน อันจะนำไปสู่ความตกต่ำอย่างถึงที่สุดจนยากจะแก้ไข

“ผมได้เห็นความตั้งใจของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่จะสร้างพรรคไทยสร้างไทยให้เป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน เอาตัวเองเป็นเสาเข็มและสะพานเชื่อมให้กับคนทุกรุ่นทุกวัย มีความเป็นผู้นำ พร้อมเป็นกองหน้าของผู้คนที่รักชาติ รักประชาธิปไตย และต้องการทำเพื่อคนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนตัวเล็ก ที่กำลังประสบกับความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสในเวลานี้ ผมจะเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และของคนไทยทุกคนต่อไป” นายโภคิน กล่าว

ด้าน นต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ยืนยันสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์เป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรี ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาเรื่องของการรวมกับพรรคสร้างอนาคตไทย ขอยืนยันว่าหากใครมี อุดมการณ์เดียวกับเรา ก็พร้อมที่จะเปิดรับมาร่วมเส้นทางเดียวกัน เพราะวันนี้พวกเรามีความเชื่อมั่นว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์จะเป็นทางออกเดียวในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศไทย

Advertisement

“สุเทพ”มาแล้ว! ชูรธน.60ไร้มลทิน คนนั่งปธ.กมธ.ศึกษาต้องเป็นกลาง

People Unity News : “สุเทพ”มาแล้ว! ชูรธน.60ไร้มลทิน คนนั่งปธ.กมธ.ศึกษาต้องเป็นกลาง เลี่ยงตอบ”อภิสิทธิ์”เหมาะ

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยได้เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

แต่สิ่งสำคัญคือเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญที่จะพยายามแก้ไขซึ่งก่อนที่จะไปถึงประเด็นนั้นส่วนตัวมีจุดยืนที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตั้งแต่ตอนที่มีการรณรงค์เพื่อเชิญชวนประชาชนไปลงประชามติรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเป็นหนึ่งในประชาชน 16 ล้านคนที่เห็นชอบให้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยมองว่าเป็นหนทางในการที่จะสามารถปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงประเทศได้

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนยังไม่เห็นข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่เห็นข้อบกพร่องของตัวบุคคลมากกว่าซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องสามารถบอกได้ว่ามาตราไหนที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาประเทศหรือการดูแลประชาชน แต่บางประเด็นที่ไปพูดกันในภาคใต้ก็ไม่เห็นด้วย เช่น ประเทศไทยสามารถแบ่งแยกเป็นมลรัฐได้ ด้านคุณสมบัติของการเป็นประธานกรรมาธิการฯ ตนเห็นว่าควรจะเป็นบุคคลที่เป็นกลาง ไม่ใช่คนที่ต่อต้านรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้นหรือสนับสนุนมาตั้งแต่แรก

ส่วนประเด็นที่มองว่าจะเป็นชนวนความขัดแย้งหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่าไม่น่าเป็นประเด็นความขัดแย้ง ประเทศไทยเดินหน้าและก้าวข้ามผ่านความขัดแย้งมาแล้ว และยังทิ้งท้ายด้วยว่า ส่วนตัวเป็นคนมองโลกในแง่ดี และเชื่อว่าประเทศไทยจะร่วมกันผนึกกำลังทำให้ประเทศพัฒนาก้าวต่อไปได้

โฆษกรัฐบาลปลื้มผลโพลล์ระบุ “บิ๊กตู่” เหมาะนายกมากที่สุด ชี้ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อสถาบันหลัก

People Unity News : โฆษกรัฐบาลปลื้มผลโพลล์ระบุ “บิ๊กตู่” เหมาะนายกมากที่สุด มุ่งทำงานให้ประเทศ ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ เดินหน้าทำงานให้ประเทศเต็มที่

18 ต.ค.64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จากสำนักวิจัยที่ประเมินภาพรวมสถานการณ์ความคิดเห็นของประชาชนต่อการเมืองและผู้นำ โดยทั้ง สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) และ “สวนสุนันทาโพล”  ระบุว่า เสียงประชาชนส่วนใหญ่สะท้อนผลประเมินให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความเหมาะสมบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ประชาชนยังคงมีความเห็น 68.2% จาก “SUPER POLL” และ 16.68%  จาก “สวนสุนันทาโพล” ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนให้เหตุผลว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ อดทน อดกลั้น มุ่งมั่นทุ่มเททำงานให้ประเทศชาติและประชาชนต่อเนื่อง และกำลังทำงานต่อเนื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศแก้ปัญหาปากท้องให้กลับมาเปิดประเทศได้ ที่โดดเด่นคือ ยังไม่พบปัญหาทุจริตคอร์รัปชันที่รุนแรงเอื้อต่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ไม่เหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเอื้อผลประโยชน์ต่อครอบครัวและพวกพ้อง เป็นต้น

“ผลโพลล์เป็นส่วนหนึ่งของเสียงสะท้อนของสังคมส่วนใหญ่ว่า ท่านนายกฯเป็นบุคคลที่ยังคงมีผลงานเชิงประจักษ์ และพร้อมเดินหน้าทำงานด้วยความสุจริต ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ซึ่งท่านนายกฯให้คำมั่นว่าจะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนทุกลุ่มจนกว่าจะครบวาระของรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน” นายธนกร กล่าว

Advertising

เช้านี้ “ประยุทธ์” พูดในสภา จะทำงานในหน้าที่ให้จบ ยืนยันไม่ได้ต้องการรักษาอำนาจ

People Unity News : นายกรัฐมนตรีระบุคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ต้องทำงานเพื่อสร้างอนาคตไปด้วยกัน ย้ำจะทำงานในหน้าที่ให้จบ พร้อมยืนยันไม่ได้ต้องการรักษาอำนาจ

วันนี้ (27 ต.ค.63)  เวลา 10.22 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวระหว่างการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) ยืนยันว่าไม่เคยพูดเรื่องการแบ่งชนชั้นระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่เลยสักครั้ง มีแต่บอกว่าคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ต้องทำงานไปด้วยกัน เพื่อจะสร้างอนาคตไปด้วยกัน โดยประวัติศาสตร์ ปัจจุบันและอนาคต เป็นสิ่งที่กำหนดความก้าวหน้าความยั่งยืนของประเทศไทย วันนี้เกิดการทำลายสถาบันครอบครัวในประเทศไทย ลูกไม่เคารพพ่อแม่ ลูกศิษย์ไม่เคารพครูอาจารย์ ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นในครอบครัว  เมื่อตนเข้ามาทำหน้าที่ ต้องทำงานในหน้าที่ให้จบ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการรักษาอำนาจไว้ให้นานที่สุด

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกไม่เคยพูดถึงเผด็จการรัฐสภาที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านั้น ซึ่งตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่มีการตรวจสอบการถ่วงดุลที่เข้มข้น วันนี้อยากให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ก็ให้แก้กันไป ขออย่านำไปโยงเรื่องอื่น จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ที่ผ่านมามีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉินมาทุกรัฐบาล

นายกรัฐมนตรียังฝากถึงทุกคน ขอให้อย่าลืมว่าประวัติศาสตร์คือปัจจุบันและอนาคต ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกสัญชาติ ที่อยู่ในประเทศไทยต้องรักประเทศไทย ซึ่งตนไม่บังคับใครแต่เป็นสิ่งที่ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน มีหลายเรื่องเกิดขึ้นก่อนที่จะเข้ามารับหน้าที่ ทั้งการทุจริตมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ขอให้สมาชิกได้ไปทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นในปี 2557 รวมทั้งก่อนหน้านั้นหลายปี และวันนี้ที่บ้านเมืองกำลังวุ่นวายอยู่เพราะอะไร

Advertising

“ทักษิณ” ขอความเห็นใจคนแก่วัย 75 บอกใครไม่ชอบให้ต่างคนต่างอยู่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 มีนาคม 2567 เชียงใหม่ – “ทักษิณ” บอกอบอุ่น ได้กลับบ้านเกิดเชียงใหม่ในรอบ 17 ปี ขอความเห็นใจคนแก่วัย 75 บอกใครไม่ชอบให้ต่างคนต่างอยู่ พร้อมให้กำลังใจ นายกฯ เศรษฐา ฝ่าวิกฤติปัจจุบันที่หนักกว่ายุคต้มยำกุ้ง เชื่อเศรษฐกิจดีทุกอย่างดีตาม เปรียบกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ชี้ห่วงปัญหาฝุ่น PM 2.5 เร่งแก้และสร้างพื้นที่สีเขียว

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ว่า รู้สึกอบอุ่นดีใจ 17 ปีที่หายไปกลับมาก็คิดถึงบ้านเกิด เมืองนอน คิดถึงอาหาร วัฒนธรรม คนเก่าๆ ว่าเป็นธรรมชาติที่ทำให้เรากระชุ่มกระชวยขึ้น

ส่วนช่วงสงกรานต์จะปีนี้ มีความตั้งใจว่าจะกลับมาจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง เพราะรักในวัฒนธรรม จึงอยากกลับมา ร่วมประเพณีรดน้ำดำหัวด้วย

นายทักษิณ กล่าวว่าการกลับมาเชียงใหม่ครั้งนี้สิ่งที่อยากพัฒนาแก้ไข คือเรื่องฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาหนักที่สุด เป็นห่วงอยู่ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ทราบปัญหาและได้รีบแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ยังมองว่าปัญหาส่วนหนึ่งคือความแห้งแล้ง อยากให้ฟื้นโดยการไม่ต้องใช้น้ำมาก จะทำให้สภาพแวดล้อมชุ่มชื้นเขียวได้ ซึ่งจะทำให้อากาศกลับมาสภาพดี ซึ่งตนเป็นห่วงเพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตามเรื่องเศรษฐกิจก็ต้องดีด้วย ซึ่งตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ได้วางแผนที่จะฟื้นเศรษฐกิจอยู่ เพราะถ้าเศรษฐกิจดีทุกอย่างก็จะดีตาม เปรียบกับกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าท้องไม่อิ่มก็ลำบาก

เมื่อถามว่าให้กำลังใจนายกเศรษฐาเรื่องอะไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า ให้กำลังใจทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง มีความซับซ้อนมากกว่า ส่วนจะให้ข้อคิดนายเศรษฐาอย่างไรในฐานะที่เคยแก้วิกฤติต้มยำกุ้งมามาก่อน นายทักษิณบอกว่าบางอย่างก็ใช้ได้บางอย่างก็ต้องเปลี่ยนเพราะโลกมันเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม นักการเมืองก็ต้องร่วมมือกับข้าราชการฝ่ายประจำ ต้องให้กำลังใจกัน

เมื่อถาม ถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น ว่า ดราม่าก็คือดราม่า นั่นหมายความว่าเป็นเรื่องไม่จริง ส่วนกระแสป่วยจริงหรือไม่จริงในการลงพื้นที่นั้น นายทักษิณกล่าวว่าภาวะจิตใจคนเป็นเรื่องที่สำคัญ หากภาวะจิตใจแย่มันก็แย่ ทำให้บางอย่างมันรวนได้ ตอนนี้กำลังใจดีมีลูกสาว อยู่ใกล้หลาน 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่วัย 75 ยังไงก็ขอให้โปรดเข้าใจคนแก่ในวัยนี้ ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานด้วย ใครไม่ชอบหน้าตนก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวแล้วก็กำลังใจดีขึ้น แต่ถามว่าอาการป่วยทุกวันนี้ก็ยังมีอาการกดกระดูกประสาทของคอและหลัง และมีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ตนเป็นโควิด อาการหนักมากตอนนั้นเข้าไอซียูถึง 9 วัน ข้างในร่างกายก็มีผลบ้าง ทำให้ตอนนี้ปอดยังมีอาการอยู่หลายจุด จากนั้นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้พูดเสริมระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่าคุณพ่อไม่ชอบยอมรับว่าป่วย จนกระทั่งได้เข้าไอซียูออกมาถึงจะรับ เมื่อถามว่าใครดื้อกว่ากัน นางสาวแพทองธาร จึงได้ชี้ไปที่นายทักษิณ และบอกว่าพ่อเป็นต้นตำรับ นายทักษิณจึงบอกว่า ยอมรับตัวเลข 75ได้ แต่ไม่อยากยอมรับว่าแก่ ทั้งที่มันคือธรรมชาติ ฝืนมันไม่อยากแก่

จากนั้น นายทักษิณ และครอบครัว ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินส่วนตัวทันที

Advertisement

“จุรินทร์” ยัน ปชป. ไม่หนุน “กัญชาเสรี”

People Unity News : 25 ตุลาคม 2565 “จุรินทร์” ยัน ปชป. ไม่หนุน “กัญชาเสรี” ชี้ แต่ละพรรคมีจุดยืนของตนเอง แต่ยังคุยกับ “อนุทิน” ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล

นายจุรินทร์​ ลัก​ษ​ณ​วิศิษฏ์​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​พาณิชย์​ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ กล่าวถึงนโยบายกัญชาเสรีว่า ได้พูดไปชัดเจนแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์​ สนับสนุนกัญชาเพื่อการเเพทย์​ แต่ไม่สนับสนุน​เรื่องกัญชาเสรี​ เพราะฉะนั้น​พรรคจะใช้หลักนี้ในการพิจารณา​ เพราะมองว่ากัญชาเสรีจะสร้างปัญหา​ให้กับประเทศในอนาคตระยะยาว​ จึงเป็นที่มาในการกำหนดหลักเกณฑ์​ที่เราจะไม่สนับสนุนกัญชาเสรี​ แต่ว่าสนับสนุนกัญชาที่จะนำไปใช้ทางการแพทย์​

ส่วนจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์​ จะส่งผลกระทบ​ต่อความสัมพันธ​ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์​และพรรค​ภูมิใจ​ไทย​หรือไม่​ ​ นายจุรินทร์​ ไม่ได้ตอบคำถาม​ แต่ย้ำว่าหลักใหญ่จะต้องคำนึงถึงประโยชน์​ของประเทศ​ ต้องให้ประเทศเดินหน้าเป็นหลัก​ ขณะที่การพูดคุยกับนายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล รองนายกรัฐมนตรีและ​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข​ ในฐานะ​หัวหน้า​พรรค​ภูมิใจ​ไทย​ ก็คุยกันในฐานะพรรคร่วม​รัฐบาล​ แต่จุดยืนทางการเมืองของแต่ละพรรค​ เชื่อว่าทุกพรรคมีจุดยืนเป็นของตัวเอง​ และพรรคประชาธิปัตย์​ก็มีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องนี้

Advertisement

เลขาฯยูเอ็นขอ”บิ๊กตู่”ดันแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม-ลดขยะทะเล

People Unity News : “บิ๊กตู่”ยันไทยและอาเซียนร่วมมือยูเอ็นเดินหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน นำการประชุมผู้นำอาเซียนเน้นเป้าหมายประชาชนเป็นศูนย์กลาง ขณะที่เลขาฯยูเอ็นขอไทยช่วยผลักดันการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม-ลดขยะในทะเล

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้อง Sappire 108 ชั้น 1 อาคารอิมแพค ฟอรั่ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พบหารือกับ นายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง โดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ยินดีที่ได้พบกับเลขาธิการสหประชาชาติอีกครั้ง ภายหลังจากที่พบเมื่อเดือนกันยายนในช่วงการประชุม UNGA 74 ขอบคุณที่เดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหประชาชาติ ครั้งที่ 10 นี้

พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันว่า ไทยให้ความสำคัญกับการสร้างหุ้นส่วนการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน และระหว่างอาเซียนกับกลุ่มภูมิภาคต่างๆ ซึ่งอาเซียนพร้อมร่วมมือกับสหประชาชาติเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับกลุ่มต่างๆ เกี่ยวกับแนวทาง องค์ความรู้ และประสบการณ์ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย SDGs ไปด้วยกัน ทั้งนี้ ไทยยินดีเพิ่มบทบาท และมีส่วนร่วมในกรอบสหประชาชาติมากขึ้น ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นท้าทายที่สืบเนื่องจากการประชุม UNGA 74

ด้าน เลขาธิการสหประชาชาติ ชื่นชมไทยและนายกฯ ที่มีบทบาทในเวทีระหว่างอย่างกระตือรือร้น ทั้งการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน และการแสดงวิสัยทัศน์ในประเด็นท้าทายต่างๆ ในโลก ชื่นชมบทบาทของไทยที่โดดเด่นในเรื่องการดำเนินการเพื่อบรรลุ SDGs และยืนยันว่าองค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม โดยขอให้ไทยช่วยเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันเพื่อแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม การลดการปล่อยก๊าซ เรือนกระจก การใช้พลังงานหมุนเวียน ตลอดจน ชื่นชมความริเริ่มของไทยในการประชุมเกี่ยวกับการลดขยะในทะเล

ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นในความร่วมมือร่วมกันทั้งระหว่างไทยกับสหประชาชาติ และระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ โดยเชื่อมั่นว่าความเข้าใจในระดับพหุภาคีเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งในโอกาสนี้ นายกฯ ย้ำนโยบายของไทยที่สอดคล้องกับแนวทางความร่วมมือกับสหประชาชาติ อาทิ การแก้ไขปัญหาการประมง IUU การต่อต้านการค้ามนุษย์ การป้องกันการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ และสิทธิมนุษยชน โดยในโอกาสนี้ นายกฯ ยินดีสนับสนุน ESCAP และทีมงานสหประชาชาติ ในการจัดงานครบรอบ 75 ปี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในตอนท้าย เลขาธิการสหประชาชาติ อวยพรให้นายกฯ และประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนในครั้งนี้

นำการประชุมผู้นำอาเซียนเน้นเป้าหมายประชาชนเป็นศูนย์กลาง

ต่อมาเวลา 17:00 น. ณ ห้อง Sapphire 205 – 206 พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานการประชุมการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 แบบเต็มคณะ(Plenary) โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมด้วย พร้อมกับผู้นำประเทศอาเซียนทั้งหมด

ช่วงเปิดการประชุม พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ยินดีที่ได้พบทุกท่านอีกครั้งที่ประเทศไทย และประสงค์จะใช้โอกาสนี้แลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์ และติดตามการดำเนินการเพื่อร่วมกันกำหนดเป้าหมาย และทิศทางของอาเซียนต่อไป โดยภายหลังการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาตนได้นำผลการประชุมดังกล่าวไปหารือกับผู้นำ G 20 ที่นครโอซากา และได้นำเสนอประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ 4 ประการ ระหว่างอาเซียนกับประเทศสมาชิก G 20 เพื่อต่อยอดให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมคือ 1 การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ 2 การเข้าถึงแหล่งทุน 3 การพัฒนาทุนมนุษย์ และ 4 การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งรวมถึงการแก้ปัญหาขยะทะเล

นอกจากนี้ยังได้นำประเด็นความร่วมมือที่ส่งเสริมความยั่งยืนในมิติต่างๆไปหารือต่อในช่วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นครนิวยอร์กเมื่อเดือนกันยายน รวมทั้งได้ส่งเสริม “เสียงของอาเซียน”ในเวทีสหประชาชาติโดยได้กล่าวถ้อยแถลงในนามของอาเซียนในการประชุมไคลเมท แอ๊กชั่น ซัมมิท (Climate Action Summit) และ เอส ดี จี ซัมมิท ( SDG Summit )ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของอาเซียนในการร่วมมือ กับประชาคมโลก เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติ

การดำเนินการทั้งหมดนี้ก็เพื่อ สนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคตทั้งนี้โดยให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับมิตรประเทศและภาคส่วนต่างๆ เพื่อการบรรลุเป้าประสงค์ข้างต้น เนื่องจากอาเซียนไม่สามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จโดยลำพัง ตนเชื่อว่าความเป็นหุ้นส่วนและการเป็นมิตรกับประเทศต่างๆ นอกภูมิภาคจะช่วยประชาคมอาเซียนของเราขับเคลื่อนแนวคิดหลักของอาเซียนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน ต่อไปในโอกาสนี้ โดยตอนหนึ่งนายกรัฐมนตรีไทยได้กล่าวถึงท่านนายกรัฐมนตรีแคนาดาได้ฝากความปรารถนาดีมายังผู้นำอาเซียนทุกท่าน และขอให้การประชุมสุดยอดในครั้งนี้ประสบความสำเร็จสมตามเจตนารมย์

จากนั้นนายกรัฐมนตรีประเทศไทยได้นำการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 โดยคาดว่าจะใช้เวลาพอสมควรขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ในเวทีการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนที่นายจุรินทร์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานสิ่นสุดเมื้อวานนี้นั้นได้ทำหน้าที่สรุปเนื้อหาและข้อบทต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหุ้นส่วนเศรษฐกิจและการค้าโดยเฉพาะเป็นการเจรจาเงื่อนไขระหว่างกันซึ่งก็ได้ว่ามีการรายงานให้พลเอกประยุทธ์ได้รับทราบเพื่อได้มีข้อสรุปในการประชุมผู้นำอาเซียนครั้งนี้ด้วย

ให้ความสำคัญสภาฯ! “บิ๊กแดง”บินกลับด่วนเข้าแจงกมธ.มั่นคง ปมบรรยายพิเศษ

People Unity : ให้ความสำคัญสภาฯ! “บิ๊กแดง”บินกลับด่วนเข้าแจงกมธ.มั่นคง ปมบรรยายพิเศษ “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง”

วันที่ 21 ต.ค.2562 พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยพลเอกสุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เดินทางเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการกิจการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพลโทพงศกร รอดชมภู เป็นประธาน หลังเสร็จสิ้นภารกิจ ตรวจชายแดนไทย-เมียนมา ที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังคณะกรรมธิการฯ มีมติ ให้เชิญผู้บัญชาการทหารบกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นภายหลังเปิดเวทีบรรยายเรื่อง “แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง” เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา

พลเอกอภิรัชต์ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญกับคณะกรรมาธิการฯชุดนี้ ซึ่งหลังจากที่ได้มีการส่งหนังสือเชิญตนผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทางรัฐมนตรีญก็ได้พิจารณาและให้กองทัพบกจัดตามความเหมาะสม ซึ่งในวันนี้เมื่อช่วงเช้าตนได้มีภารกิจตรวจเยี่ยมหน่วยทหารชายแดนไทย-เมียนมา และมอบนโยบาย ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยตามกำหนดการจะเสร็จในช่วงบ่าย แต่ตนได้ยกเลิกภารกิจบางส่วนเพื่อบินกลับมา และได้เปลี่ยนเสื้อผ้าในรถยนต์ ทั้งนี้ยืนยันว่า พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้ความร่วมมือต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลเอกอภิรัชต์ได้มอบหมายให้พลเอกสุนัยเข้าชี้แจงแทน เนื่องจากติดภารกิจ ตรวจชายแดนไทย-เมียนมา ที่จังหวัดกาญจนบุรีในช่วงเช้า แต่พลโทพงศกรไม่อนุญาตให้พลเอกสุนัยชี้แจงเนื่องจากเห็นว่า การบรรยายดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวของผู้บัญชาการทหารบก จึงจำเป็นต้องให้ผู้บัญชาการทหารบก มาชี้แจง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับกรรมาธิการฯ ด้วยตัวเอง พร้อมยืนยันว่า การเชิญผู้บัญชาการทหารบกมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนี้ไม่ใช่การแทรกแซงการทำงาน แต่เป็นการแลกเปลี่ยนความเห็น และหากกรรมาธิการมีข้อสังเกตสำคัญ ก็จะเสนอให้ผู้บัญชาการทหารบก ไปพิจารณา ซึ่งจะดำเนินการหรือไม่ก็ได้

โดยการชี้แจงของพลเอกอภิรัชต์ต่อที่ประชุมกรรมาธิการฯ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกรรมาธิการนั้น เป็นการหารือแบบลับ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก”Wassana Nanuamได้โพสต์ข้อความโดยสรุปว่า” “บิ๊กแดง” ไม่ว่าง! บินตรวจชายแดน ส่ง”บิ๊กนัย” ผู้ช่วยผบ.ทบ.รบพิเศษ ไปพบกรรมาธิการ ความมั่นคงฯ แทน ทบ.ส่งหนังสือ ย้ำ ขอให้เกียรติ ผู้แทน ทบ. ด้วยกองทัพบก ได้ส่งหนังสือ ถึงคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรว่า ตามที่ มีหนังสือถึงรมว.กลาโหมเพื่อเชิญ พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่องความมั่นคงนั้น นับเป็นเรื่องที่ดีและถือเป็นการเพิ่มความเข้าใจ ระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคง กับคณะกรรมาธิการ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ทิซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงของชาติ…………………….”

“วิรัตน์”เผยญัตติตั้งกมธ.ศึกษาแก้รธน.เข้าสภาฯสัปดาห์หน้า

People Unity News : “วิรัตน์”เผยญัตติตั้งกมธ.ศึกษาแก้รธน.เข้าสภาฯสัปดาห์หน้า เพื่อไทย-อนาคตใหม่แห่จัดหนัก ส.ว.เสรี ขวางแก้รธน.

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลังจากการพิจารณารับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 แล้ว ยังมีวาระรับทราบเรื่องต่างๆอีก 2-3 เรื่อง ก่อนจะเข้าสู่วาระการพิจารณาญัตติด่วนเรื่องการให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศ และคำสั่งของคสช. และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช.ตามมาตรา 44 ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคคตใหม่ เป็นผู้เสนอ ซึ่งญัตติด่วนดังกล่าวคงพิจาณาเสร็จไม่ทันในเวลา 21.00น. วันนี้ ดังนั้นจึงต้องนำญัตติด่วนเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาในวัน พรุ่งนี้ 7พ.ย.แทน ส่วนญัตติด่วนการให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี2560 คาดว่าจะนำเข้าสู่ที่ประชุมได้ในสัปดาห์หน้า

เพื่อไทย-อนาคตใหม่แห่จัดหนัก ส.ว.เสรี ขวางแก้รธน.

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ออกมาขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มีเพียงเหตุผลเดียว คือ หวงอำนาจ ไม่อยากสูญเสียประโยชน์ที่ได้รับ แม้ที่มาเป็น ส.ว.ของนายเสรี นั่น มาจาก คสช. ที่ตั้งเข้ามาเพื่อเป็นนั่งร้านให้กับรัฐบาลสืบทอดอำนาจ นอกจากนี้ ที่มาของ ส.ว.นั้น ขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นอย่าหวงอำนาจที่ตัวเองได้มาอย่างไม่ถูกต้องชอบธรรม

นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประธานกรรมาธิการวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญ มีอำนาจกำหนดทิศทางภารกิจได้ จึงต้องเป็นบุคคลที่มีความแน่วแน่ และจริงใจ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงไม่อยากให้ผู้มีความเกี่ยวข้องผูกพันกับเผด็จการทหารในอดีต หรือผู้ที่ได้ประโยชน์ จากผลพวงของคณะรัฐประหาร หรือผู้ที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งในอดีตมาเป็นประธานกรรมาธิการ สำหรับ กรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.ที่ขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ส.ว.ชุดนี้มีที่มาอย่างไร มีความชอบธรรม ความสง่างามแค่ไหน ได้รับฉันทานุมัติจากใคร นายเสรี เคยเป็น สสร. และเป็นนักกฎหมายใหญ่ ย่อมทราบดี หากแต่อยู่ที่ว่า จะทำเพื่อประชาชน หรือทำเพื่อใคร

นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) และส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า คำตอบ ก็ชัดเจนอยู่แล้วคือ นี่คือญัตติที่ขอให้สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้ง คณะกรรมาธิการ วิสามัญ เพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของการศึกษา อย่างน้อยที่สุดคือศึกษาวิธีการแก้ไข ส่วนเรื่องเนื้อหานั้นแน่นอนว่ายังไม่ได้มีการพูดถึง ประเด็นต่อมาที่บอกว่า ยังไม่เห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตนไม่แน่ใจว่านายเสรีไม่เห็นหรือต้องการเป็นปัญหา ทั้งๆ ที่ทุกคนเห็นปัญหากันหมด ที่ชัดเจนเลยก็คือ สูตรคำนวน ส.ส.แบบฉบับพิศดารของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

“อีกเรื่องหนึ่งซึ่งผมเองรู้สึกงงเป็นอย่างมาก คือที่บอกว่า ส.ว. มีหน้าที่ควบคุมความเรียบร้อยในช่วงเปลี่ยนประเทศ 5 ปี อยากถามว่า คุณเสรีไปเอามาจากไหน ใครมอบหมายให้ ส.ว.ซึ่งไม่ได้มีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทำหน้าที่นี้ การแสดงความคิดเห็นทั้งหมดของ ส.ว.ท่านนี้ ผมสงสัยว่าเป็นความเคยตัวจากการสืบทอดอำนาจ เสพสุขมาอย่างยาวนาน โดยไม่เคยรู้จักแบ่งปันเพื่อร่วมชาติ ไม่คิดจะทำให้ประชาชนเพื่อนร่วมชาติ ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญบ้าง อยากบอกว่า อย่าขัดขวางกระบวนการเติบโตของระบอบประชาธิปไตย อย่าทำตัวให้ไปที่ไหนมีแต่คนส่ายหน้า เบ้ปากใส่” นายชำนาญ กล่าว

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า กรณีที่สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) อ้างว่าการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะต้องผ่านความเห็นชอบจากประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการทำประชามติจากประชาชนดังนั้นไม่ว่าทางสภาจะดำเนินการอย่างไรก็ตามสุดท้ายต้องไปทำประชามติถามประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การให้ความเห็นของส.ว.เป็นการหาข้ออ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมเท่านั้น แต่ในข้อเท็จจริงคือการทำประชามติที่ผ่านมา ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เปิดโอกาสให้มีการถกเถียงถึงข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญคือเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบธรรมและดูถูกประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ประชาชนมีส่วนร่วมน้อยมาก รวมทั้งการทำประชามติที่ผ่านมา มีการใช้อำนาจของคสช.ดำเนินการจับกุม พร้อมตั้งข้อหากับกลุ่มคนที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจเป็นจำนวนมาก ดังนั้นอย่ามาอ้างประชาชนเพราะที่มาของ ส.ว. ก็ไม่ได้มาจากประชาชน ไม่มีตรงไหนเลยที่ยึดโยงกับประชาชน

พร้อมกันนี้ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่แปลกใจที่พรรคพลังประชารัฐและส.ว.จะตีรวนการตั้งคณะกรรมาธิการในศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะทั้งสองกลุ่มหวั่นเสียผลประโยชน์จากรัฐธรรมนูญ และเสียโอกาสในการเอาชนะการเลือกตั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นคือการใช้แท็กติก การสร้างประเด็น การสร้างข่าวเพื่อสร้างแนวร่วมเท่านั้น สุดท้ายคือกลัวเสียผลประโยชน์ที่ตัวเองได้จากรัฐธรรมนูญฉบับคสช.

Verified by ExactMetrics