วันที่ 12 กรกฎาคม 2025

“บิ๊กป้อม”ห่วงใยสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพคนไทยและนักท่องเที่ยว

People Unity News : พล.อ.ประวิตรห่วงใยสิ่งแวดล้อม เพื่อสุขภาพคนไทยและนักท่องเที่ยว กำชับ คกก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ขับเคลื่อนโครงการฯภายใต้มาตรการ EIA เคร่งครัด

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00น.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่7/ 2562 โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องประชุม อารีสัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

ที่ประชุมได้รับทราบ การรายงานสถานสภาพการเงินกองทุน สิ่งแวดล้อมสิ้นไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2562 และผลการดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์การจัดการ ซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปีพ.ศ. 2557-2564 และรับทราบรายงานท่าทีของไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญา มินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่3 จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ เรื่องที่สำคัญได้แก่โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน กทม.และศูนย์สำรวจและเฝ้าระวังชายฝั่ง ของสำนักการระบายน้ำ กทม.และเห็นชอบรายงานการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้าตากสินของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ซึ่งโครงการดังกล่าวจะต้องดำเนินการตามมาตรการ EIA อย่างเคร่งครัด นอกจากนั้น คณะกรรมการยังได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติก และขยะอิเล็คทรอนิกส์ชุดใหม่เนื่องจากคณะอนุกรรมการชุดเดิมภายใต้ กขป.5 ได้หมดวาระ แต่ยังคงมีภารกิจที่ต้องดำเนินงานต่อเนื่องต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าที่ด้วยดีที่ผ่านมา และเน้นย้ำขอให้คณะกรรมการฯได้มีการเร่งรัด กำกับ ติดตามการดำเนินงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการประเมินผลตามตัวชี้วัด มุ่งผลสัมฤิทธิ์ และขอให้ ทส.เร่งปฏิบัติงานตามแผนงานที่ผ่านความเห็นชอบแล้วให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมบริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดการขยะพลาสติก และขยะอิเล็คทรอนิกส์ ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ และที่นำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมทั้งต้องมีมาตรการสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับประชาชนทุกภาคส่วนตลอดจนนักท่องเที่ยว ได้มีส่วนร่วมรณรงค์ รักษาสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืนร่วมกัน

“บิ๊กป้อม”เร่งขับเคลื่อนแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ

People Unity : พล.อ.ประวิตรสั่งเร่งขับเคลื่อนแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติเพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานไทย

วันที่ 21 ต.ค.2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 3/2562 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยที่ประชุมรับทราบผลการประชุมคกก.มรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 43 เมื่อ 30 มิ.ย.-12 ก.ค.62 ณ กรุงบากู สาธารณรัฐ อาเซอร์ไบจาน โดย พล.อ.ประวิตร ได้มอบหมายให้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตแก้ว เป็นหัวหน้าคณะเข้าร่วมประชุม สรุปสาระสำคัญดังนี้

มติคกก.มรดกโลก ให้รับรองแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติของศูนย์ มรดกโลก ที่จัดทำบัญชีก่อน 15 เม.ย.62 จำนวน 59 แห่ง จากรัฐภาคี37ประเทศ และขอขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ เป็นแหล่งมรดกโลก จำนวน 29 แห่ง โดยมีแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมในกลุ่มประเทศอาเซียนจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย(เหมืองถ่านหินอมบีลิน),สหภาพเมียนมาร์(พุกาม)และลาว (ทุ่งไหหิน)สำหรับการประชุมคกก.มรดกโลกครั้งต่อไป (ครั้งที่44) กำหนดจัดขึ้นที่ประเทศจีนในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.2563

มีวาระที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ได้แก่ การบรรจุเมืองโบราณศรีเทพ และกลุ่มเทวสถานประสาทพนมรุ้ง ประสาทเมืองต่ำ และประสาทปลายบัคในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก มีการพิจารณารายงานสถานภาพการอนุรักษ์นครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา โดยที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการในเรื่องต่างๆ และขอให้จัดส่งรายงานต่อศูนย์มรดกโลกภายใน 1 ธ.ค.63 สำหรับการพิจารณาการนำเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นมรดกโลกที่ประชุมมีมติให้ส่งกลับเอกสาร (Referral) โดยไทยจะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี

นอกจากนั้นการประชุมวันนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบรายงานสถานภาพ การอนุรักษ์พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง พ.ศ.2557-พ.ศ.2562 และเห็นชอบร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการนำเสนอ แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการ ที่ช่วยกันปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีความสำคัญ และ กำชับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต้อง ดูแลรักษา อนุรักษ์แหล่งทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติให้มีความสมบูรณ์อย่างดีที่สุดเพื่อเก็บไว้ให้เป็นมรดกสำหรับลูกหลานคนไทย และมีความเป็นสากลเพื่อยกระดับให้เป็นมรดกโลกต่อไป โดยได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติฯ เร่งรัดขับเคลื่อนผลการประชุมที่ผ่านความเห็นชอบแล้วให้เป็นไปตามแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมและต้องรายงานความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจควบคู่กันไปด้วย

 

“คณะสื่อกัมพูชา”เข้าพบ”เทวัญ” หารือแนวทางแก้ปัญหา’เฟคนิวส์’

People Unity : “คณะสื่อมวลชนกัมพูชา” เข้าเยี่ยมคารวะ “รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” ย้ำความสัมพันธ์อันดีของ2ประเทศ พร้อมหารือแนวทางแก้ปัญหา”Fake News”

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 21 ตุลาคม 2562 ที่ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเปญ โบนา (Mr. Pen Bona) นายกสมาคมนักข่าวกัมพูชา (Club Cambodian journalists) นำคณะเข้าเยี่ยมคารวะ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายกสมาคมนักข่าวกัมพูชา แสดงความขอบคุณรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ให้โอกาสเข้าพบ พร้อมทั้งยืนยันความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและกัมพูชา

สำหรับด้านสื่อมวลชนนั้นทั้งสองฝ่ายมีการลงนามบันทึกความเข้าใจในการแลกเปลี่ยนการฝึกอบรมระหว่างสมาคมนักข่าวกัมพูชา และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือและความเข้าใจอันดีในการดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยและกัมพูชาต่อไป ซึ่งทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการประชาสัมพันธ์ในสังคมปัจจุบันที่เป็นยุคสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสื่ออินเตอร์เน็ต และดิจิทัล เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดปัญหาข่าวลวง (Fake News) ในวงกว้าง ซึ่งนายกสมาคมนักข่าวกัมพูชาได้สอบถามแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวของรัฐบาล

ส่วน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลหน่วยงานด้านการประชาสัมพันธ์ของรัฐ ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการแก้ไขปัญหา Fake News โดยมีการดำเนินการ 3 วิธี ได้แก่ 1.ปิดเว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวที่บิดเบือน 2.ให้ความรู้และประชาสัมพันธ์กับประชาชนให้ระมัดระวังในการส่งต่อข้อมูล 3.ตั้งอาสาสมัครในการให้ความรู้ รวมถึงสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในเรื่อง Fake News นอกจากนี้กรมประชาสัมพันธ์มีการจัดตั้ง “ข่าวจริงประเทศไทย” ทางแอพพลิเคชั่น Line และ Facebook เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชนด้วย

ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและกัมพูชา พร้อมยืนยันว่า หากมีสิ่งใดที่สามารถให้ความร่วมมือกับสมาคมนักข่าวกัมพูชาได้ รัฐบาลไทยยินดีให้ความร่วมมือต่อไป

“ทิพานัน” โต้เพื่อไทย หลังกล่าวหาภาพลักษณ์นายกฯ

People Unity News : 17 พฤศจิกายน 2565 “ทิพานัน” โต้เพื่อไทย หลังกล่าวหาภาพลักษณ์นายกฯ ย้ำรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” มาจากการเลือกตั้งในกติกาเดียวกับที่เพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน เย้ยออกอาการหวั่นไหวเพราะนานาชาติตอบรับเอเปค

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่าภาพลักษณ์เผด็จการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นอุปสรรคในเวทีโลกว่า การแสดงความคิดเห็นดังกล่าว สะท้อนความหวั่นไหวและหวาดกลัวของพรรคเพื่อไทยที่ได้เห็นภาพความสำเร็จยของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ได้รับการยอมรับและให้การต้อนรับเป็นอย่างดีจากบรรดาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นผู้นำประเทศที่เดินทางมาร่วมการประชุมด้วยตนเอง

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยิ่งมีเสียงชื่นชมการจัดงานการประชุมที่ได้มาตรฐานระดับโลก จากบุคลากรของเอเปคเอง คือนางรีเบคกา สตา มาเรีย ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการเอเปคด้วยแล้ว พรรคเพื่อไทยอาจรับไม่ได้ที่นานาประเทศชื่นชมไทย ส่วนที่กล่าวหาว่าเป็นรัฐบาลเผด็จการ ความจริงแล้ว พรรคเพื่อไทยเองก็ตระหนักดีว่า พล.อ.ประยุทธ์มาจากการเลือกตั้งที่มีกติกาเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2562 ที่เป็นฝ่ายค้านในสภาฯ อยู่ในขณะนี้

“พรรคเพื่อไทยต้องยอมรับว่านักโทษชายทักษิณ หลอกคนไทยว่าจะไม่โกง เพราะรวยอยู่แล้ว จะเข้ามาบริหารประเทศด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ใช้วาทกรรมหลอกจนปังแต่ปัจจุบันพินาศไปแล้ว เพราะในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่พรรคเพื่อไทยมักจะนำมากล่าวอ้างถึงความสำเร็จต่างๆ โดยเฉพาะการจัดการประชุมเอเปคในยุคนั้น กลับมีพฤติกรรมที่เรียกว่า “เผด็จการรัฐสภา” ที่ก่อให้เกิดปัญหาคอร์รัปชันเชิงนโยบาย เช่น กรณีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคม เป็นภาษีสรรพาสามิต ด้วยการตราพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพาสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจ บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท  ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ฐานที่นายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทซึ่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยให้บุคคลอื่นมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทน ในกรณีของการถือหุ้น บริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองและผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต” น.ส.ทิพานัน กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยังคงภาคภูมิใจกับเศษซากปรักหักพังของประเทศ ที่ต้องสูญเสียไปกับการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย ที่ขโมยผลประโยชน์ชาติเข้าตระกูลตัวเองอยู่อีกหรือ ทั้งยังเป็นนักโทษหลบหนีคดี แต่จะขอกลับมาเมืองไทยแบบเท่ๆ สร้างความอับอาย และเป็นพฤติกรรมที่สังคมโลกรังเกียจ

Advertisement

รบ.ชี้ แผนสร้างดาวเทียม THEOS-3 ผลักดันวงการอวกาศไทยให้ก้าวหน้า

People Unity News : 25 ตุลาคม 2566 ทำเนียบ – รองโฆษกรัฐบาล ชวนติดตาม “งานสัปดาห์อวกาศแห่งชาติ (Thailand Space Week 2023) GISTDA” เผยแผนสร้างดาวเทียม THEOS-3 ผลักดันวงการอวกาศไทยให้ก้าวหน้า

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า อีกหนึ่งความสำเร็จของนักวิทยาศาสตร์ไทยที่ช่วยผลักดันวงการอวกาศของประเทศไทยให้มีความก้าวหน้า กับการขึ้นสู่วงโคจรของดาวเทียม THEOS-2 สำเร็จ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา และได้เริ่มปฏิบัติการสำรวจโลกแล้ว

โดย THEOS-2 ถือเป็นดาวเทียมด้านการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติและติดตามสภาพแวดล้อมของประเทศไทย โดยข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 จะถูกนำไปใช้เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและการบริหารเชิงพื้นที่ตามภารกิจของประเทศ โดยเฉพาะด้านน้ำ การเกษตร ภัยพิบัติ ทรัพยากรธรรมชาติ ผังเมือง และความมั่นคง ตลอดจนใช้ส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมจากอวกาศ โดยที่ผ่านมาได้มีการนำข้อมูลจากดาวเทียมดวงอื่นๆ ของ GISTDA มาใช้ประโยชน์ในด้านนี้ โดยเฉพาะการบริหารจัดการที่ดิน และทรัพยากรดินของประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ซึ่งเมื่อดาวเทียม THEOS-2 ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จแล้วก็จะยิ่งเกิดประโยชน์มากขึ้น

นางรัดเกล้า กล่าวว่า ในขณะนี้ได้ทราบว่า GISTDA มีแผนที่จะจัดสร้างดาวเทียม THEOS-3 โดยได้ออกแบบครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันได้มีการสัมมนา และประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะเบื้องต้น รวมทั้งยังวางแผนที่จะสร้างและประกอบดาวเทียม THEOS-3 ที่ประเทศไทยอีกด้วย โดยมีแผนจะนำขึ้นสู่อวกาศภายในปี พ.ศ. 2569-2570 ซึ่งนอกจากความสำเร็จดังกล่าวแล้ว โดยประเทศไทยกำลังจะมีงานใหญ่ด้านเทคโนโลยีอวกาศ ‘งานสัปดาห์อวกาศแห่งชาติ (Thailand Space Week 2023)’ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและสนใจด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ และอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศได้มาพบปะรวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนและติดตามข้อมูลด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยงานจัดระหว่างวันที่ 25-27 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นี้

“นับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศไทย แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพ โดยดาวเทียม THEOS-2 และ THEOS-3 จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ จึงเหมือนเป็นความมุ่งหมายที่จะนำข้อมูลมาช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไทย รวมทั้งให้ต่างชาติได้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสในอุตสาหกรรมอวกาศของประเทศไทย” นางรัดเกล้า กล่าว

Advertisement

“ประยุทธ์” จะนำ ครม. “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานประเพณีไทย 1 ครอบครัว 1 กระทง” ณ คลองผดุงกรุงเกษม

People Unity News : “ประยุทธ์” อยากเห็นคนไทยร่วมงานลอยกระทง อย่างมีความสุข ปลอดโรคและปลอดภัย เตรียมให้หน่วยงานถอดบทเรียนการจัดงานลอยกระทง เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการสำหรับการจัดกิจกรรมและงานบันเทิงต่างๆ ช่วงเทศกาลในปลายปีนี้

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับผู้จัดงานและประชาชนผู้ร่วมงานยึดหลัก  “ลอยกระทงวิถีใหม่” ปฏิบัติตามมาตรการโควิดฟรีเซ็ตติ้ง (COVID Free Setting) และป้องกันการติดเชื้อครอบจักรวาล (Universal Prevention) พร้อมรณรงค์ การลอยกระทงรักษ์โลก “1 ครอบครัว 1 กระทง“ หรือ “1 หน่วยงาน 1 กระทง” โดยใช้กระทงทำจากวัสดุที่ย่อยสลายง่ายและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อการใช้ทรัพยากรคุ้มค่าและลดปริมาณขยะ โดยในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีและภริยาจะนำคณะรัฐมนตรี แต่งกายผ้าไทยร่วมงาน “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานประเพณีไทย 1 ครอบครัว 1 กระทง รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ปลอดโรค ปลอดภัย” ณ คลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ จุดลงทะเบียน “ไทยชนะ” และจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าและออกงานด้วย

นายธนกร กล่าวย้ำถึงแนวทางและมาตรการการจัดประเพณีลอยกระทง ภายใต้โควิดฟรีเซ็ตติ้ง (COVID Free Setting) และมาตรการป้องกันการติดเชื้อครอบจักรวาล (Universal Prevention) เพื่อคุมเข้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขอความร่วมมือผู้จัดงานเน้นมาตรการป้องกัน เช่น คัดกรองผู้เข้าร่วมงาน จัดพื้นที่เว้นระยะห่างทางสังคม ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสก่อนและหลังการจัดงาน และทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเข้าร่วมงาน ขณะเดียวกัน ต้องคำนึงถึงมาตรการด้านความปลอดภัยภายในงาน โดยห้ามปล่อยโคมลอย งดเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และรณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า เพี่อให้ความมั่นใจกับประชาชนที่มาร่วมงาน

“นายกรัฐมนตรีคาดว่า ปีนี้จะมีประชาชนร่วมงานลอยกระทงในพื้นที่ต่างๆเพิ่มขึ้น จึงอยากให้ประชาชนได้ท่องเที่ยวร่วมงานอย่างมีสุข แต่ต้องปลอดโรคและปลอดภัย ซึ่งหลังเสร็จสิ้นประเพณีลอยกระทง นายกรัฐมนตรียังเตรียมให้หน่วยงานถอดบทเรียนการจัดงานลอยกระทง  นำข้อบกพร่องและข้อจำกัดต่างๆมาปรับปรุงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ให้เป็นแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดกิจกรรมและงานบันเทิงต่างๆ  ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วย” นายธนกร กล่าว

Advertising

นายกฯ เซ็นตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ นั่ง ปธ.เอง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 17 ตุลาคม 2567 ทำเนียบ – “แพทองธาร” นายกฯ เซ็นตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ นั่งประธานเอง ขณะที่ “หมอเลี๊ยบ” ปธ.คกก.พัฒนาซอฟต์พาวเวอร์

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง 2 ฉบับ ฉบับแรก ลงวันที่ 16 ต.ค.2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยมี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่กำกับการกำหนดยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศในด้านต่าง ๆ กำหนดเป้าหมายการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ และบูรณาการการทำงานของหน่วยงานราชการและภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการยกระดับภูมิปัญญาไทยไปสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับทักษะ และปลดล็อกศักยภาพของคนไทย ให้สร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ส่วนฉบับที่ 2 น.ส.แพทองธาร ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยมี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ ขึ้นมารับตำแหน่งเดิมของ น.ส.แพทองธาร ในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เพื่อจัดทำแผนเฉพาะด้านในด้านต่างๆ และกำกับการทำงานให้เป็นไปตามนโยบายและแผนระดับชาติตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ

Advertisement

“พัชรินทร์” ปลื้มราชกิจฯเผยแพร่ กม.ป้องกันทำผิดซ้ำ

People Unity News : 26 ตุลาคม 2565  “พัชรินทร์” ปลื้มใจ หลังราชกิจฯเผยแพร่ กม.ป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ในคดีทางเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง เชื่อจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ในสังคมไทย

นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต2 ปทุมวัน บางรัก สาทร และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้เสนอร่างกฎหมาย เปิดเผยภายหลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ. มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 โดยให้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ว่าตนรู้สึกปลื้มใจ ที่เราจะมีกฎหมาย ที่มุ่งคุ้มครองกลุ่มเป้าหมายเปราะบาง ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้หญิง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับคดีทางเพศ และคดีที่มีความรุนแรงเป็นการเฉพาะ ซึ่งที่จะสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม เป็นเรื่องลดการกระทำความผิดซ้ำ และเชื่อว่ากฎหมายดังกล่าว จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในสังคมไทย โดยที่ผ่านมาตนได้พยายามผลักดันกระบวนการในสภาฯ ตั้งแต่ต้นน้ำ จนสำเร็จเป็นกฎหมายฉบับนี้ออกมา และต้องขอขอบคุณนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เจ้าภาพหลักที่ผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเห็นผลเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าว มีสาระสำคัญ คือการดำเนินการกับผู้กระทำผิดในคดีทางเพศ และคดีที่มีความรุนแรง พร้อมมาตรการการป้องกันภัยคุกคามทางเพศ และความรุนแรง ซึ่งพร้อมกับพลวัตรสังคม ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการใช้หลักทางจิตวิทยา และมาตรการทางการแพทย์ เพื่อเข้ามามีส่วนในการป้องกันในผู้ต้องหาที่ได้กระทำผิดซ้ำ เช่น การใช้ยา, การฉีดฮอร์โมนลดความต้องการทางเพศ หรือฉีดให้ฝ่อ โดยมาตรการทางการแพทย์โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอย่างน้อย 2 คน มีความเห็นพ้องต้องกันและจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้กระทำความผิดด้วย ควบคู่กับมาตรการทางกฎหมาย เช่น ให้พักอาศัยในสถานที่ที่ศาลกำหนด, ห้ามออกนอกประเทศ, ต้องแจ้งเมื่อมีการเปลี่ยนสถานที่ทำงาน, ห้ามทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด, ใส่อุปกรณ์ติดตามตัว เป็นต้น เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำขึ้นอีก

Advertisement

“บิ๊กตู่”เผยนายกฯแคนนาดาโทรแจ้ง ร่วมประชุมอาเซียนไม่ได้

People Unity News : “บิ๊กตู่”เผยนายกฯแคนนาดาโทรแจ้ง ร่วมประชุมอาเซียนไม่ได้ รองโฆษกเพื่อไทยซัดรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ หลังปธน.สหรัฐฯปฎิเสธคำเชิญเข้าประชุมอาเซียน

วันที่ 31 ตุลาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนนาดา ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตนโดยระบุว่าติดปัญหาภายในประเทศทำให้ไม่สามารถเข้าร่วม ประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพได้ แต่จะมีผู้แทนมาร่วมประชุม แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่มีต่อกันระหว่างเราและแคนนาดา และแคนนาดากับอาเซียนด้วย

เมื่อถามถึงการยกเลิกการประชุมเอเปคประจำปี 2019 ที่ประเทศชิลี พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ประเทศชิลี แจ้งเรื่องดังกล่าวเข้ามาแล้ว มีการประท้วงและข้อนข้างมีความรุนแรงเกิดขึ้นด้วย เขาขอเลื่อนไปก่อน

ทั้งนี้เมื่อเวลา 08.30 น. ตามเวลาของประเทศไทย นายจัสติน ทรูโด ได้โทรศัพท์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ โดยพลตรี อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ได้สรุปสาระสำคัญของการสนทนาทางโทรศัพท์ ดังนี้

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวทักทาย นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา พร้อมกับแสดงความยินดีในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีแคนาดาชนะการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา พร้อมขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีแคนาดาได้ให้ความสนใจและความสำคัญกับอาเซียน และโทรศัพท์มาสนทนาด้วยตนเองในวันนี้

นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่ารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ได้ เนื่องจากมีภารกิจสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสต้อนรับนายกรัฐมนตรีแคนาดา แต่เข้าใจถึงภารกิจของนายกรัฐมนตรีแคนาดาในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมแสดงความชื่นชมเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทยที่ได้ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นอย่างดี ซึ่งนายกรัฐมนตรีเพิ่งได้พบหารือกับเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เพื่ออำลาในโอกาสพ้นวาระ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (29 ต.ค. 2562)

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลแคนาดาอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย – แคนาดาทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค โดยเฉพาะความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา ซึ่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาเองได้ยืนยันที่จะร่วมมือกับไทยเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจและการค้าการลงทุน พร้อมกับฝากนายกรัฐมนตรีทักทายผู้นำจากประเทศต่างๆ ที่จะเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายน 2562 ที่จะถึงนี้

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึง ทิศทางการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างไทย-แคนาดาในอนาคต โดยประสงค์ให้แคนาดาพิจารณาความร่วมมือในรูปแบบ Thailand +1 ตลอดจนความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคมากขึ้น เช่น การเข้าเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) และโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) โดยผู้นำทั้งสองต่างหวังที่จะได้พบและหารือกันในโอกาสต่อไป

รองโฆษกเพื่อไทยซัดรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ หลังปธน.สหรัฐฯปฎิเสธคำเชิญเข้าประชุมอาเซียน

ขณะที่น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.ขอนแก่น และ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาปฎิเสธคำเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ ASEAN Summit 2019 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพว่า เป็นการหักดิบความสัมพันธ์การต่างประเทศระหว่างไทย และ สหรัฐฯ

น.ส. สรัสนันท์ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า การที่นายโดนัล ทรัมป์ เซ็นระงับสิทธิทางภาษีนำเข้า GSPนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อสินค้าไทยหลายร้อยรายการอย่างมีนัยยะสำคัญ และต่อด้วยการปฎิเสธคำเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ ASEAN Summit 2019 ที่เป็นเจ้าภาพ เป็นการบ่งบอกถึงสัญญาณที่ทางสหรัฐฯไม่ได้ให้น้ำหนักกับประเทศไทยเหมือนเคย ถือว่าเป็นการหักดิบความสัมพันธ์การต่างประเทศ

แม้การเซ็นระงับสิทธิทางภาษีนำเข้า GSP กับประเทศไทยนั้น อาจมาจากหลายๆปัจจัย เช่น นโยบาย America First ที่มุ่งเน้นการปรับดุลการค้าที่ขาดดุลมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี แต่ก็อาจมาจากจุดยืนด้านการต่างประเทศ ที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์แลดูให้ความสำคัญกับประเทศจีนเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นโครงการเมกะโปรเจค ที่เอื้อแก่กลุ่มเจ้าสัว และรัฐบาลจีน หรือการปล่อยให้ Alibaba เข้ามาทำกิจการอย่างง่ายดายโดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบอื่นๆ ส่งผลให้อุตสาหกรรมไทยขนาดเล็ก หลายพันบริษัท ต้องประสบสภาวะขาดทุน ซึ่งสวนทางกับรัฐบาลที่เคยพูดว่า ให้ความสำคัญกับการสร้างธุรกิจ ecommerce แต่ที่สำคัญกว่ารัฐบาลไทยดูท่าจะไม่มีแนวทางรองรับกับผลกระทบที่กำลังจะตามมาเป็นระลอกจากการแย่งชิงอำนาจระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ”

น.ส.สรัสนันท์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นการที่นายโดนัล ทรัมป์ เลือกที่จะไม่มาร่วมการประชุม ซึ่งต่างกับทุกๆครั้งที่ผู้นำสูงสุดของประเทศจะต้องมาร่วมเอง แต่เลือกที่จะส่ง นายโรเบิร์ต โอบราเอน ซึ่งเป็นผู้ช่วยด้านความมั่นคง ในฐานะทูตแต่งตั้งพิเศษพร้อมรัฐมนตรีการพาณิชย์ เป็นการกระทำที่ทำให้เห็นชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกากำลังใช้ไม้แข็งกับรัฐบาลไทย

“ภท.”ชู”มนัญญา”หญิงแกร่งแบน 3 สารพิษจนสำเร็จ

People Unity : “ภท.”ชู”มนัญญา”หญิงแกร่ง ผนึกกำลัง “กษ.-สธ.” แบน 3 สารพิษจนสำเร็จ “อนุทิน” ขอบคุณทุกฝ่ายให้ความร่วมมือช่วยผลักดันนโยบาย “เศรษฐพงค์” ลั่น “ภูมิใจไทย”จะเดินหน้าทำงานหนักต่อไปเพื่อประโยชน์ปชช.

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้เข้าทำงานมากว่า 4 เดือน เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลเดินหน้าทำงานอย่างหนัก เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ต่างเดินหน้าทำงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร ก็ได้ผนึกกำลังร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในการผลักดันแบนด์ 3 สารพิษได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งน.ส.มนัญญา ถือเป็นรัฐมนตรีผู้หญิงเพียงคนเดียวของพรรคภูมิใจไทย ที่ทำงานเดินหน้าต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เรียกได้ว่าเป็นหญิงแกร่งแห่งพรรคภูมิใจไทย สู้ไม่ทอยในเรื่องที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของพี่น้องประชาชน

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีในส่วนของกระทรวงคมนาคมที่พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแล โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ก็ได้มีการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้า 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ซึ่งเป็นโครงการสำคัญและมีผลต่ออนาคตการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เป็นโครงการที่จะนำการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนมาก และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ประเทศไทย ก้าวไปข้างหน้าได้ ตนจึงอยากให้พี่น้องประชาชาชนได้เห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของพรรคภูมิใจไทย เราสัญญาว่าบุคลากรของพรรคภูมิใจไทยทุกคน จะเดินทำงานหนัก อย่างไม่ย่อท้อ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนต่อไป

“ท่านอนุทิน ฝากขอบคุณทุกคน ทุกหน่วยงาน รวมถึงรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ที่ให้ความร่วมมือในการทำงานผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมและประสบความสำเร็จอย่างดี ซึ่งผลงานที่ออกมา ไม่ใช่เป็นของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แต่ถือเป็นผลงานของรัฐบาลด้วย เพราะทุกนโยบายที่จะสำเร็จได้ ลำพังเพียงพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียวไม่อาจทำให้สำเร็จได้ ต้องได้แรงสนับสนุนจากรัฐบาลด้วย ดังนั้นผลงานที่ออกมาต้องให้เครดิตกับทุกคนในรัฐบาล” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

Verified by ExactMetrics