วันที่ 11 ธันวาคม 2024

“เศรษฐา” แจงความเห็นที่แตกต่างกันกับ “วิษณุ” เป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 พฤษภาคม 2567 นายกฯ มั่นใจทำงานร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ ความไม่เห็นด้วย เป็นแค่บางประเด็น เป็นเรื่องของความไม่ใช่เรื่องของคนสามารถทำงานร่วมกันได้

วันนี้ (29 พฤษภาคม 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากเดินทางกลับจากการเข้าร่วมงาน UBS AIC 2024 ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง

นายกรัฐมนตรีตอบคำถามเกี่ยวกับความเห็นกฤษฎีกา กรณีการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ข้าราชการตำรวจ (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.) ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ยังไม่ถูกต้องสมบูรณ์ โดยขอใช้คำว่ายังไม่สมบูรณ์ เชื่อว่าหากเป็นการทักท้วงมาต้องรับฟัง และให้ดำเนินการต่อไป อย่างรอบคอบ ดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้อง ทั้งนี้ นายกกล่าวว่ากังวลใจต่อทุกเรื่อง เนื่องจากต้องการทำให้ถูกต้อง และแต่ละเรื่องมีรายละเอียดปลีกย่อย มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับฟังความคิดเห็นให้ครบถ้วน และมีลำดับขั้นตอนก่อนหลัง

ส่วนกรณีการแต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะส่วนตัวมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้าง และมีความชื่นชมในตัวของนายวิษณุหลายเรื่อง  ซึ่งอาจจะไม่เห็นด้วยบางเรื่องเหมือนกับการดำรงชีวิตร่วมกันในสังคม ในครอบครัว สิ่งที่มีความเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องของความ ไม่ใช่เรื่องของคน  และถือว่าเป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย นายวิษณุเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเชื่อว่าสามารถสื่อสารกันได้ ทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติได้

ทั้งนี้ ในส่วนหน้าที่ของนายวิษณุขอดูที่ตัวเอกสารอีกครั้งโดยเป็นการแต่งตั้งเพื่อให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีมีงานในอำนาจหน้าที่หลากหลายเรื่อง ไม่ได้เป็นการแต่งตั้งเพื่อนำมาช่วยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

กรณี ดำเนินคดีนายทักษิณฯ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าให้ความเคารพต่อศาลยุติธรรมในเรื่องของรายละเอียด ขอให้เคารพระบบตุลาการ ซึ่งอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง ส่วนการลงพื้นที่ร่วมกัน ยังไม่เคยมีการพูดคุยว่าจะลงพื้นที่พร้อมกัน และไม่ทราบว่ามีความประสงค์ว่าจะลงพื้นที่หรือไม่ ไม่เคยมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ และได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการกระทบภาพลักษณ์หรือไม่อย่างไร นายกรัฐมนตรีได้ตอบว่าในส่วนของรัฐบาลมีการแยกแยะการทำงานอย่างชัดเจน

Advertisment

“ธรรมนัส”เป็นปธ.ทอดกฐินพะเยาสามัคคี บอกรอขายข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน

People Unity : “ธรรมนัส”เป็นปธ.ทอดกฐินพะเยาสามัคคี ขอรอฟังเสียงนกหวีดขายข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน ตามโครงการพะเยาโมเดล

วันที่ 27 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีทอดกฐินสามัคคี ที่วัดปัวใหม่ ต. ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยมีอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กรมฝนหลวง สำนักงานปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยตัวแทนราชการส่วนท้องถิ่น ร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง โดยมีประชาชนในพื้นที่มาร่วมในงานทอดกฐินสามัคคีเป็นจำนวนมาก โดยยอดทำบุญกฐินมีจำนวนทั้งสิ้น 4, 200, 870 บาท( สี่ล้านสองแสนแปดร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน )

ร.อ.ธรรมนัส ยังได้ร่วมในประเพณีทำบุญสลากภัตที่วัดทุ่งกิ่ว อ.เมือง จ.พะเยา และได้กล่าวกับประชาชนที่มาร่วมงานว่า ช่วงที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส. ตนได้หาเสียงกับพี่น้องชาวพะเยาว่า ในฐานะที่ตนเป็นลูกชาวนา มีเป้าหมายพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้ชาวนาพะเยามีรายได้มากขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลงข่าวโครงการพะเยาโมเดล โดยเบื้องต้นได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการซื้อขายข้าวหอมมะลิ ระหว่างสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่จังหวัดพะเยา กับ บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด ภายใต้พะเยาโมเดล โดยให้ ซีพี รับซื้อข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15 % ได้ในราคาที่ 18,000 บาทต่อตัน จำนวน 40,000 ตัน จากชาวนาในจังหวัดพะเยา ซึ่งสูงกว่าราคาประกันข้าวหอมมะลิของรัฐบาล 3,000 บาทต่อตัน หรือราคาสูงกว่าต้นทุนการผลิต 5,000-6,000 บาทต่อตัน

นอกจากนี้ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด มีกำหนดจัดงาน “วันเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิโลก” ณ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา และในเร็ว ๆ นี้ จังหวัดพะเยาเตรียมจัดงานเจรจาซื้อขายข้าวหอมมะลิระหว่างคู่ค้าเอกชนรายอื่น ๆ ดังนั้น ตนขอให้พี่น้องชาวพะเยา รอฟังเสียงนกหวีดเพื่อประกาศวันรับซื้อข้าวหอมมะลิ ในราคาดังกล่าว ระหว่างนี้ขอให้รอหลังเก็บเกี่ยวอย่าเพิ่งนำไปขาย อย่าให้พ่อค้าคนกลางเอาเปรียบอีก

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวว่า พะเยาโมเดล ยังจะขยายโครงการไปยังพืชอื่น อาทิ ยางพารา ลำใย ลิ้นจี่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง เลี้ยงสัตว์ ไข่ไก่ เป็นต้น โดยเฉพาะราคายางพาราจะมีเป้าหมายร่วมเอกชนรับซื้อที่ราคา 65 บาทต่อกิโลกรัมด้วย เมื่อทำสำเร็จจะนำเป็นตัวอย่างขยายไปจังหวัดอื่นต่อไป

“บิ๊กตู่” ยันสอบที่ดิน “ปารีณา” ตามกม.-พยานหลักฐาน

People Unity News : “บิ๊กตู่” ยันสอบที่ดิน “ปารีณา” กว่า 1,700 ไร่ ตามกฎหมายและพยานหลักฐาน รวมถึง “ชัยวัฒน์” คดีอุ้มฆ่า “บิลลี่” ส่วน ครม.เห็นชอบ”ชิมช้อปใช้”เฟส 3 รอบนี้ไม่แจก 1 พัน

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ครอบครองที่ดินกว่า 1,700 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ว่า เป็นเรื่องของกลไกกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส.ป.ก. รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ที่มีความเกี่ยวข้องและมีการตรวจสอบอยู่แล้ว ดังนั้น ทุกอย่างขอให้เป็นไปตามกฎหมายและพยานหลักฐาน

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอให้ออกหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานว่า เป็นเรื่องของดีเอสไอที่ไปออกหมายจับ ไม่ได้มาขอกับตน เป็นการดำเนินการไปขอกับศาล เป็นเรื่องที่จะพิจารณา และดำเนินการต่างๆ ในการสั่งการตนคงไปสั่งการในเรื่องของกฎหมายไม่ได้ ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามวัตถุพยาน พยานหลักฐาน พยานบุคคล ก็ว่าไปตามขั้นตอน การที่จะไปตรวจบ้านพัก หากเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย เขาก็สามารถตรวจสอบได้ ถือเป็นเรื่องของกระบวนการ ตนไม่มีส่วนไปเกี่ยวข้อง ถ้าผิดก็ว่ากันไปตามผิด ตนไม่ไปช่วยเหลือใครทั้งสิ้น

ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็กล่าวเช่นกันว่าว่า ใครทำอะไรก็ต้องว่าไปตามนั้น ส่วนระหว่างการดำเนินคดีต้องให้นายชัยวัฒน์หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนหรือไม่เป็นเรื่องของระเบียบทางราชการเขาต้องทำตามระเบียบทุกอย่าง

ครม.เห็นชอบ”ชิมช้อปใช้”เฟส 3 รอบนี้ไม่แจก 1 พัน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (12 พ.ย.) มีมติเห็นชอบโครงการชิมช้อปใช้ เฟส 3 แต่รอบนี้จะไม่มี “เป๋าตัง1” คือ ไม่มีเงินสด 1,000 บาท เพราะจะมุ่งเน้นการให้ประชาชนใช้สอยเงินของตัวเอง แต่จะได้รับแคชแกคคืนเหมือนเดิม ใช้จ่ายวงเงินไม่เกิน 30,000 บาท จะได้คืนได้ไม่เกิน 4,500 บาท หรือร้อยละ 15 เกินกว่า 30,000 บาท จะได้ชดเชย 4,000 บาท หรือร้อยละ 20 ของส่วนที่เกินนอกจากนี้ ปรับปรุงเงื่อนไขให้ใช้จ่ายได้ทุกจังหวัด รวมทั้งถิ่นที่อยู่อาศัย เพื่อให้การหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น และให้ใช้จ่ายค่าบริการ ที่พัก การเดินทางบริการที่เกี่ยวเนื่องได้ด้วย เริ่มวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายนนี้พร้อมกันนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยืดมาตรการทั้ง 3 ระยะ เวลาเดิมถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2562 เป็นสิ้นสุดมาตรการ 31 มกราคม 2563

นายกฯระบุยุทธศาสตร์ชาติกำหนดทิศทางและแก้ปัญหาประเทศ บอกตนเองเป็นคนเบิร์ด เบิร์ด

People Unity News : นายกรัฐมนตรียืนยันยุทธศาสตร์ชาติกำหนดทิศทาง และแก้ปัญหาของประเทศ ย้ำไม่มีปัญหาไหนแก้ได้ในวันเดียว

เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.2563) เวลา 19.30 น. ณ อาคารรัฐสภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวยินดีที่ได้มีโอกาสมาร่วมรับฟังการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พร้อมยืนยันตัวตนที่แท้จริงเป็นคนสบายๆ แบบ “เบิร์ด เบิร์ด” พร้อมชี้แจงประเด็นสำคัญทั้งการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน การปราบปรามยาเสพติด บ่อนการพนัน การป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารราชการแผ่นดิน

นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีเหตุรุนแรงที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่าย ซึ่งได้มอบหมายรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินำหน่วยบัญชาการพิเศษเข้าไปดูแลในพื้นที่แล้ว ซึ่งเป็นการเตรียมการในระยะที่ 2 และวันรุ่งขึ้นแต่เช้าก็ได้รีบเดินทางลงไปเพื่อไปควบคุมการดำเนินการซึ่งเป็นระยะที่ 3 ระหว่างนั้นก็ได้รับรายงานมาว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามแผนที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นไปตามขั้นตอนแผนปฏิบัติการ เมื่อเดินทางถึงก็เข้าไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารีและโรงพยาบาลกรุงเทพนครราชสีมา ตนเองเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นและเมื่อลงมาชั้นล่างของโรงพยาบาลก็มีประชาชนจำนวนมากมาโบกมือให้กำลังใจ ก็ได้ตอบสนองพี่น้องประชาชนที่มารออยู่ โดยโบกมือทำสัญลักษณ์ให้กำลังใจชาวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมกันผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปให้ได้ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ขณะนี้ก็กำลังสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด หากมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกองทัพบก กองทัพบกก็พร้อมน้อมรับเพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

นายกรัฐมนตรีได้ตอบข้อซักถามถึงการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชนว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งหนี้นอกระบบ หนี้ครัวเรือน มีการออกกฎหมายทั้งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา และพระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย จับกุมผู้กระทำความผิดดำเนินคดีได้ 1,712 คดี มีผู้ต้องหา จำนวน 1,736 ราย พร้อมทั้งจัดพิธีคืนโฉนดไปแล้ว 12 ครั้ง ซึ่งผลการช่วยเหลือทำให้มีลูกหนี้ได้รับคืนทรัพย์สินถึง 25,044 ราย โฉนดที่ดิน 21,304 ฉบับ คิดเป็นเนื้อที่ 59,421 ไร่ 3 งาน 27.42 ตารางวา มูลค่ารวมทั้งสิ้น 30,667 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี “ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” สืบสวน ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทุกคนสามารถแจ้งเข้ามาได้หากพบใครโกงใครทุจริตก็จะถูกจับกุมลงโทษ ทั้งนี้ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมเพราะเราเป็นสังคมใหญ่เดียวกัน  นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “นาโนไฟแนนซ์ และ พิโกไฟแนนซ์” เพื่อปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนเพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบมากขึ้น ล่าสุดมีการปล่อยสินเชื่อแล้ว 500,000 ราย รวมทั้งส่งเสริมให้มีสถาบันการเงินชุมชนหรือธนาคารชุมชนให้เกิดการออมเพื่อสร้างความยั่งยืน มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย ปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ ขยายเงินกู้ พักชำระหนี้ และที่สำคัญคือ การให้ความรู้ทางการเงินผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 กลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนทั่วไป SMEs เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุ ด้วย ซึ่งหลังจากนี้ ครม. ก็จะได้มีการออกมาตรการต่างๆทยอยออกมาอีก

สำหรับการดำเนินการในการปราบปรามยาเสพติดนั้น นายกรัฐมนตรีย้ำว่าประเทศไทยไม่ใช่ประเทศฐานการผลิตยาเสพติดและได้ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 5 ประเทศ มีผลงานทั้งการทำลายโรงงานยาเสพติด ทำลายโครงสร้าง สลายเครือข่ายอิทธิพลทั้งแหล่งค้า ทุกวันนี้เครื่องจักรแบบใหม่และหัวเชื้อด้วยสารเคมีทำให้ผลิตยาบ้าได้เป็นจำนวนมาก ราคาถูก แต่ก็ยังดำเนินการจับกุมมาตลอด โดยเฉพาะการสืบหานายทุน แล้วทำการยึดทรัพย์ ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติได้ทำการสำรวจตัวอย่างจำนวน 46,000 ราย ระหว่าง 10 เมษายน ถึง 15 พฤษภาคม 2562 พี่น้องประชาชนร้อยละ 95.2 มีความพึงพอใจในการดำเนินงานและในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล  ทั้งนี้ จากข้อมูลจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC : Office des Nations unies contre la drogue et le crime)  การจับกุมยาบ้าในภูมิภาคนี้เฉลี่ยแล้วเพิ่มสูงขึ้น 15 เท่า ประเทศไทยเพิ่มขึ้น 12 เท่า จีน 20 เท่า การจับกุมไอซ์ในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น 5 เท่า ของไทยเพิ่มขึ้น 112 โดยไทยนั้นได้มีการดูแลลงไปถึงหมู่บ้านชุมชน  ทำให้ตั้งแต่ปี 2558-ปัจจุบัน สัดส่วนหมู่บ้าน ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติดลดลง และในปี 2562 มีหมู่บ้าน/ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติด อยู่ที่ร้อยละ 30 ซึ่งก็ยังคงมากอยู่ ปัญหาที่รัฐบาลเข้าไปดูแลต่อไปคือการลดจำนวนนักโทษ ปัจจุบันนักโทษคดียาเสพติดมีจำนวนมาก ล้นคุก ต้องเดินหน้าแก้ปัญหาทั้งระบบ ทั้งแยกผู้เสพและผู้ค้ารายย่อยออกจากรายใหญ่ การฟื้นฟู การหาอาชีพ ดูแลให้งานสาธารณสุขนำหน้าการบำบัดผู้ต้องขัง การฝึกอาชีพ ซึ่งวันนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายบริษัทห้างร้าน สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือผู้ต้องขังเมื่อพ้นโทษมีอาชีพและมีโอกาส

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาว่า รัฐบาลได้มีการเตรียมการล่วงหน้า แต่ไม่ได้มีการประกาศเพราะไม่ต้องการสร้างความตื่นตระหนกตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ตั้งแต่การตรวจสอบที่สนามบิน การให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมโรค 14 วัน 21 วัน ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกที่มีมาตรการตรวจคัดกรองที่สนามบิน สำหรับการเดินทางไปรับคนไทยที่เมืองอูฮั่นนั้นได้ประสานกับประเทศต้นทาง แต่จีนเองก็มีมาตรการของเขา ต่อมาเราก็ได้ประสานเครื่องบินพาณิชย์ที่มีเส้นทางบินอยู่เดิมให้ไปรับคนไทยกลับมา สำหรับหน้ากากอนามัยนั้นประสานเพื่อแบ่งจำนวนหนึ่งมาช่วยจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งในส่วนของรัฐบาลก็ได้แจกจ่ายไปกว่าแสนชิ้น ขณะนี้ได้ให้ชุมชนช่วยเย็บหน้ากากผ้าเพื่อแจกอีก โดยจะให้ อปท. ช่วยดูแลจัดการเป็นการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน ชุมชน ซึ่งสามารถป้องกันได้ระดับหนึ่ง ยืนยันว่าราชการไม่มีการปิดบังตัวเลขเพราะสั่งให้มีการชี้แจงทุกวันอยู่แล้ว

สำหรับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง รถไฟเมื่อปี 2557 มีเส้นทางรถไฟทั้งหมด 4,024 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นทางเดี่ยวร้อยละ 91.5 ซึ่งวันนี้ได้ดำเนินการอีกหลายโครงการ ทางคู่ระยะที่ 1 จำนวน 6 เส้นทาง รถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง ระยะทาง 1,489 กิโลเมตร รถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง 473 กิโลเมตร จะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป และในปี 2569 จะมีโครงข่ายทางรถไฟเพิ่มขึ้นเป็น 6,191 กิโลเมตร ขณะที่ด้านการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน มีการเปิดบริการแล้วหลายเส้นทาง ช่วงศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ทางหลวงระหว่างเมืองพัทยา-มาบตาพุด บางปะอิน-นครราชสีมา บางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงพระราม 3-ดาวคะนอง หากทำได้แล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2566 จะมีโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเพิ่มขึ้นเป็น 525 กิโลเมตรจากในปี 2557 ที่มีเพียง 165 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้ช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรได้มากพอสมควร  ด้านการบริการโครงข่ายรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ 3 เส้นทาง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 10 เส้นทาง จะแล้วเสร็จในปี 2569 ที่จะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ จากเดิมที่มีอยู่เพียง 72 กิโลเมตร เป็น 415 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 680 ตารางกิโลเมตร รองรับการให้บริการประชาชนได้ประมาณ 5.13 ล้านคน ส่วนรถโดยสารประจำทางอยู่ระหว่างการเร่งปฏิรูปแนวทางเดินรถโดยสารใหม่ การทบทวนรูปแบบการหารถที่เหมาะสมทั้งของภาครัฐและเอกชน

การพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศ มีทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมืองระยะที่ 2 ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะชี้แจงรายละเอียด รวมทั้งท่าอากาศยานภูเก็ตระยะที่ 1 ท่าอากาศยานแม่สอด จังหวัดตาก ที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 136 ล้านคนต่อปี จากเดิมมี 117 ล้านคนต่อปีในปี 2557 นอกจากนี้มีโครงการใหม่อีก 5 แห่งคือ กระบี่ สุวรรณภูมิเฟส 2 บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ในปีนี้ และทางวิ่งเส้นทางที่ 3 ภายในปี 2565 ท่าอากาศยานานาชาติอู่ตะเภา ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา โดยทั้งหมดจะแล้วเสร็จในปี 2567 จะทำให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถของท่าอากาศยานในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 169.8 ล้านคนต่อปี สำหรับการขนส่งทางน้ำ มีโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง มาบตาพุด เมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับตู้สินค้าได้เป็น 13.3 ล้านTEU ต่อปีในปี 2566 และจะมีการรองรับการขนถ่าย LNG สินค้าเหลวเพิ่มขึ้นอีก 19 ล้านตันต่อปีในปี 2573

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์ชาติว่า การทำงานตามยุทธศาสตร์ชาติตามแผนปฏิรูป สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 เพื่อให้ประเทศมีเส้นทางเดิน แต่ก็ปรับเปลี่ยนได้ทั้งหมด ตนไม่สามารถเอื้อประโยชน์ให้ใครได้ เป็นการประมูล ทุกเรื่องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ขอให้เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ที่ประเทศอื่นๆให้มากกว่าเรา ขอให้ช่วยกันสร้างการรับรู้ในเรื่องนี้ด้วย  เช่นเดียวกับเหตุผลที่ไทยต้องสร้างรถไฟความเร็วสูงด้วยการลงทุน 1 แสนกว่าล้าน เพราะเราต้องการเป็นเจ้าของเส้นทางเองในเส้นทางรถไฟสายแรก มีสิทธิในการบริหารเศรษฐกิจทั้งหมดบนเส้นทางตลอดเส้นทาง เพียงใช้เทคโนโลยีและวิศวกรต่างประเทศ เป็นการทำตามกติกาด้วยความสัมพันธ์อันดี ไทยเลือกใครไม่ได้ต้องอยู่ตรงกลางให้ได้ โดยการสร้างทางรถไฟต้องเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหม One  Belt One Road กับต่างประเทศ เพราะเป็นเส้นทางที่ผ่าน 100 กว่าประเทศ เพื่อเป็นการเคลื่อนย้ายคน บุคลากร ที่มีขีดความสามารถและเคลื่อนย้ายเทคโนโลยีด้วย

สำหรับปัญหาขยะพลาสติกนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว เพราะเป็นวิกฤตสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการจัดทำโรดแมปปี 2561 – 2573 ที่มีเป้าหมายที่ 1 คือการเลิกใช้ถุงพลาสติก ซึ่งจะต้องหามาตรการเยียวบริษัท ร้านค้า ประชาชน ด้วย ขอให้ทุกคนช่วยกันใช้ถุงผ้า วันนี้กำหนดให้เลิกใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม ไมโครบีดส์จากพลาสติก เลิกใช้พลาสติก 4 ชนิดภายในปี 2565 ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว หลอดพลาสติก โดยทั้งหมดนี้จะต้องมีมาตรการเปลี่ยนผ่าน สำหรับเป้าหมายที่ 2 คือ การนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ร้อยละ 100 ภายในปี 2570 นำวัสดุของเก่ามาแปรรูปเป็นวัสดุรีไซเคิล ทั้งนี้ เรื่องการอนุญาตนำเข้าในวันนี้ได้ลดไปแล้วหลายร้อยชนิด มีมาตรการเป็นระยะๆ ถ้ายังพบมีการนำเข้าขยะพิษอยู่ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย

เรื่องแม่วัยใส แม่เลี้ยงเดี่ยว ครอบครัวแหว่งกลาง ปู่ย่าตายายเลี้ยงลูกแทนพ่อแม่ ตนมีข้อมูลเป็น Big Data ทั้งหมด สำรวจแล้วทั้งประเทศ 5 แสนครัวเรือน จะต้องมีมาตรการเชิงป้องกัน มาตรการการเยียวยา พัฒนาให้มีทักษะพึ่งตนเองได้ ให้สภาเด็กและเยาวชน สภานักเรียนทุกตำบล อบรมสื่อสาร มีพี่เลี้ยง โดยกรมอนามัย กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน มหาวิทยาลัยในพื้นที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมดำเนินการเชิงรุก บูรณาการร่วมกันหลายกระทรวง รวมทั้งสังคมชุมชนต้องช่วยกัน  และทั้งหมดข้างต้นที่กล่าวมานี้ คือแค่ตัวอย่างงานที่รัฐบาลดำเนินการ และยังมีอีกจำนวนมากซึ่งจะได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนต่อไป โดยการดำเนินการยึดยุทธศาสตร์ชาติเป็นแนวทาง เพื่อเป้าหมายประเทศและประชาชนมีชีวิตและโอกาสที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

โฆษณา

แก้แรงงานเหลว! “ทรัมป์” ยกเลิกจีเอสพี เพื่อไทยถาม “บิ๊กตู่” จะรับผิดชอบอย่างไร

People Unity : แก้แรงงานเหลว! “ทรัมป์”ยกเลิกจีเอสพีสินค้าไทย 60 รายการ “อนุสรณ์”ถามหาความรับผิดชอบจาก”บิ๊กตู่” ก.พาณิชย์เตรียมแถลงวันจันทร์ ส.อ.ท.โอดไทยเจ้อ 2 เด้ง บาทแข็งสุดของโลกด้วย

วันที่ 26 ต.ค.2562 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในคำสั่งยกเลิกการให้สิทธิจีเอสพีสินค้าไทยเกือบ 60 รายการ เฉียด 40,000 ล้านบาทว่า สาเหตุที่รัฐบาลสหรัฐตัดสิทธิ เนื่องจากรัฐบาลไทยล้มเหลวการยกระดับสิทธิแรงงานให้เท่าเทียมมาตรฐานโลก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลมา 5 ปี จะโยนความผิดไปใส่รัฐบาลไหนคงไม่ได้

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ คุยมาตลอดว่า ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ สามารถออกกฎหมายได้มากที่สุด วันนี้ คงถึงบางอ้อแล้วว่า ประสิทธิภาพของการออกกฎหมาย ขึ้นอยู่กับเนื้อหา รายละเอียด ความเป็นสากล ไม่ใช่ปริมาณ โจทย์ใหญ่ที่ท้าทายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คือเรื่องเศรษฐกิจ ท่ามกลางข้อจำกัดทางการคลัง ความล่าช้าของงบปี 63 อย่างน้อย 3 เดือน การหดตัวของการส่งออก การซบเซาของการท่องเที่ยวที่ต้องเผชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตอบว่าจะรับผิดชอบปมสหรัฐ ตัดสิทธิจีเอสพีสินค้าไทย อย่างไร

“ชิมช้อปใช้ เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ใดๆ นอกจากการตลาดสร้างภาพรัฐบาลแจกเงิน ขยายภาพรวยกระจุก จนกระจายไม่มีที่สิ้นสุด และไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ต้อนตอของปัญหา” นายอนุสรณ์ กล่าว

ทั้งนี้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ(ยูเอสทีอาร์) ประกาศว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือจีเอสพี กับสินค้าไทยคิดเป็นมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 39,650 ล้านบาท โดยระบุว่าไทยล้มเหลวในการจัดสิทธิที่เหมาะสมให้กับแรงงานตามหลักสากลนั้น โดยสินค้าไทยที่อยู่ในรายการที่จะถูกตัดสิทธิจีเอสพีตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2563 มีมากถึง 573 รายการ ครอบคลุมทั้งของกินและของใช้ ตั้งแต่อาหารทะเลหลากชนิด ผักและผลไม้ เมล็ดพันธุ์ น้ำเชื่อมและน้ำตาล ซอสถั่วเหลือง น้ำผักและน้ำผลไม้ ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องครัว ประตูหน้าต่าง ไม้อัดและไม้แปรรูป ตะกร้า ดอกไม้ประดิษฐ์ จานชาม เครื่องประดับ เหล็กแผ่น สแตนเลส ฯลฯ นั้น

โดยนายกีรติ รัชโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จะแถลงข่าว เรื่อง กรณีสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP ไทย ในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมนี้ ที่กรมการค้าต่างประเทศ ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ส.อ.ท.โอดไทยเจ้อ2เด้ง ถูกตัดจีเอสพี-บาทแข็งสุดของโลก

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ที่ภาครัฐในการกำหนดท่าทีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะจะมีผลวันที่ 25 เมษายน 2563 ยังพอมีเวลารับมือ แต่อย่างไรก็ตามในมุมของเอกชนกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะด้านการส่งออก แต่เชื่อว่าสินค้าไทยกลุ่มดังกล่าวยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคสหรัฐฯ เพราะเป็นสินค้าในชีวิตประจำวัน และไทยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและหลากหลาย แต่ผลกระทบที่กังวลมากกว่าคือ ตัวผู้ประกอบการส่งออกของไทย ที่ปัจจุบันกำลังเผชิญกับสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าที่สุดในโลก เท่ากับว่าไทยโดน 2 เด้ง ดังนั้นอยากให้หน่วยงานอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เข้ามาดูแลเรื่องเงินบาทโดยด่วน

“บิ๊กตู่” มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2563 “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

People Unity News : “บิ๊กตู่” มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบคำขวัญ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 ว่า  “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”

โฆษณา

เพื่อไทยยอมรับสภาพ ส.ส.หายเบี้องต้นสามเสียงโหวตงบฯปี63

People Unity : “สุทิน​”ประธานวิปฝ่ายค้านยอมรับสภาพ ส.ส.เพื่อไทย หายเบี้องต้นสามเสียงโหวตงบฯปี63

วันที่ 19 ต.ค.2562 ที่รัฐสภา นายสุทิน​ คลังแสง​ ส.ส.มหาสารคาม​ พรรคเพื่อไทย(พท.)​ในฐานะประธานคณะกรรมการ​ประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน​(วิปฝ่ายค้าน)​ ให้สัมภาษณ์​ก่อนการอภิปรายร่าง​พระราช​บัญญัติ​(พ.ร.บ.)​งบประมาณ​รายจ่ายประจำปีงบประมาณ​พ.ศ.​2563 วันที่​ 3 ว่า​ ขณะนี้เหลือเวลาอภิปรายอยู่ประมาณ​ 7​ ชั่วโมง​ หากทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย​ การพิจารณา​ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ​ รวมถึงการตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)​น่าจะเสร็จ​ภายใน​ 21.00 น.

นายสุทิน กล่าวว่าภาพรวมการอภิปรายวันนี้​ ฝ่ายค้านจะอภิปรายถึงโจทย์ที่ยังติดใจอยู่และรัฐบาลยังไม่ตอบ​เช่น​ การประมาณการณ์รายรับและการบริหารงบ​ เพราะปีที่แล้ว​ การใช้งบประมาณใช้ไปเพียง​ 60​ เปอร์เซ็นต์​ แทนที่จะได้กระตุ้นเศรษฐ​กิจ​จากงบเหล่านี้ ก็ทำไม่ได้​ ขณะที่ปีนี้มีเวลาใช้งบเพียง 8​ เดือน​ จะเข้าตำรา​ “คนจนกู้เงินใช้ไม่หมด” หรือไม่

ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการโหวตร่างพ.ร.บ.​งบประมาณฯ​ ว่า​ ฝ่ายค้านจะประชุมกันในช่วงเที่ยงวันนี้​ มั่นใจว่าเสียงจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน​ แต่รายละเอียด​ของแต่ละพรรคเราไม่ทราบ​

ผู้สื่อข่าวถามว่า​ จะมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่โหวตไปในแนวทางเดียวกับพรรคหรือไม่​ นายสุทินกล่าวว่า​ แต่ละพรรคคงมีอยู่แล้ว​ แม้เรื่องดังกล่าวเป็นเอกสิทธิ์​ แต่เชื่อว่าส.ส.แต่ละพรรคจะมีวินัย​ ดำเนินการตามแนวทางของพรรค​ บทลงโทษขณะนี้ยังไม่มี​ แต่อาจจะมีในช่วงของการพิจารณา​ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง รวมถึงการส่งเสริมความก้า​วหน้าในพรรค​ ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรง​แต่ถึงอย่างไร​ เราก็ต้องฟังเหตุผลการชี้แจงของเขาด้วย​

เช่น​ ของพรรคเพื่อไทย​ วันนี้ก็มีนอนโรงพยาบาล​อยู่​ อาทิ​ นายเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์​ ส.ส.บึงกาฬ​ นายจักพรรดิ​ ไชยสาส์น​ ส.ส.อุดรธานี​ และถ้ารวมกับนายนวัธ​ เตาะเจริญสุข​ ส.ส.ขอนแก่น​ ที่ต้องคำพิพากษา​อยู่​ก็จะทำให้เสียงของเพื่อไทยหายไป​ 3 คน​

เมื่อถามว่า​ สภาฯจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญอีกครั้งในวันที่​ 1 พฤศจิกายน​ ฝ่านค้านจะยื่นอภิปราย​ไม่ไว้วางใจ​เลยหรือไม่​ นายสุทินกล่าวว่า​ ต้องดูตามความสมควร​ และเ​ท่าที่ดูข้อมูลก็พอจะมีเหตุและหลักเกณฑ์​ที่ต้องลงแซ่​ เช่น​ การไม่ปฏิบัติตาม​กฎหมาย​โดยเฉพาะ​เรื่องเงินนอกงบประมาณ​ ที่จะไปขัดกับเรื่องวินัยการเงินการคลังได้​ และคิดว่าจะยื่นอภิปราย​ภายในสิ้นปีนี้​ เพราะการอภิปราย​ไม่ไว้วางใจ​จะทำได้ปีละ​ 1 ครั้งตามวงรอบปฏิทิน​

“ประยุทธ์” กำชับติดตาม บอส อยู่วิทยา กลับมาสู่กระบวนการพิจาณาคดีในไทย

People Unity News : นายกรัฐมนตรีกำชับติดตาม บอส อยู่วิทยา กลับมาสู่กระบวนการพิจาณาคดีในไทย พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ทำให้การชุมนุมที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

22 กันยายน 2563 เวลา 13.20 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจะประสานกับตำรวจสากลออกประกาศหมายแดง เพื่อติดตามตัวกลับมาสู่กระบวนการพิจาณาคดีทางกฎหมายที่ประเทศไทยต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการและขอให้ติดตามความคืบหน้าจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมที่ผ่านมา ซึ่งตนได้กำชับเจ้าหน้าให้ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนและเสียสละ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม ยืนยันว่า รัฐบาลยินดีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พร้อมขอให้ทุกฝ่ายใช้หลักการและเหตุผลในการพูดคุยเจรจา สร้างการเรียนรู้ให้มากขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวต่อไปได้

Advertising

ด่วน!! นายกฯ เตือนคนไทยในอิสราเอล ขอให้กลับประเทศโดยเร็วที่สุด

People Unity News : 28 ตุลาคม 2566 ทำเนียบ – ด่วน! โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ สั่งการให้ประชาสัมพันธ์เตือนให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอลเดินทางกลับประเทศโดยเร็วที่สุด และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและหาช่องทางทำงานให้แรงงานที่เดินทางกลับมาโดยเร็ว

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรงการคลัง ห่วงใยต่อสถานการณ์ที่กองทัพอิสราเอลได้ขยายปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นที่เข้าไปในฉนวนกาซา สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งประชาสัมพันธ์เตือนให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอล เดินทางกลับประเทศโดยเร็วที่สุด โดยนายกรัฐมนตรีได้โพสข้อความผ่านทวิตเตอร์ หรือเอ็กซ์ ว่า ตามที่ทางการอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบรุนแรงยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยในอิสราเอล รวมถึงเป็นไปได้ว่า การสู้รบจะขยายพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางภายในประเทศ และกระทบต่อการอพยพ

รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องคนไทยในอิสราเอลเป็นอย่างยิ่ง และขอเรียกร้องให้ท่านเดินทางกลับไทยโดยเร็วที่สุด และขอให้ญาติพี่น้องที่อยู่ในไทย ช่วยแจ้งให้พี่น้องแรงงานที่ยังอยู่ในอิสราเอล เปลี่ยนใจกลับมาโดยเร็วที่สุด

ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้โพสต์ข้อความเช่นเดียวกันว่า ขณะนี้ กองทัพอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบที่รุนแรงยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยในอิสราเอล รวมถึงมีความเป็นไปได้ว่า การสู้รบจะขยายพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางภายในประเทศ และกระทบต่อกระบวนการอพยพอย่างมีนัยสำคัญ

รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องคนไทยในอิสราเอลเป็นอย่างยิ่ง และขอเรียกร้องให้คนไทยในอิสราเอล เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด และขอเชิญชวนให้ญาติพี่น้องที่อยู่ในประเทศไทย ช่วยแจ้งให้พี่น้องแรงงานที่ยังตัดสินใจอยู่ในอิสราเอล พิจารณาเปลี่ยนใจกลับประเทศโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ท่านที่ประสงค์จะเดินทางกลับ สามารถแจ้งสถานทูตฯ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ทันที ที่ โรงแรม David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501 โทรศัพท์ศูนย์พักพิง : 050-443 8094 และโทรศัพท์สถานทูตฯ : 055-271 2201, 053-245 2826, 054-636 8150

“นายกรัฐมนตรีห่วงใย เน้นย้ำอย่างต่อเนื่องถึงความปลอดภัยของคนไทย ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด ได้ประสานการทำงานไปยังทุกหน่วยงานเพื่อให้ดูแลความปลอดภัยแรงงานไทย ให้ความยุติธรรมกับแรงงานไทยในต่างแดน พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องให้ดูแลแรงงานไทยที่ตัดสินใจเดินทางกลับให้มีรายได้ มีงานทำ” นายชัย กล่าว

Advertisement

สดุดี”สุวัจน์”! หนุนวิจัย”ไดโนเสาร์โคราชกินเนื้อสายพันธ์ใหม่ของโลก”

People Unity News : สดุดี”สุวัจน์”! หนุนวิจัย”ไดโนเสาร์โคราชกินเนื้อสายพันธ์ใหม่ของโลก” งานแถลงข่าวสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา 9.30 น. ที่อาคารสิรินธร สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้รับการสดุดีในงานแถลงข่าวไดโนเสาร์กินเนื้อสายพันธ์ใหม่ของโลก ในฐานะผู้นำกิติมศักดิ์ทางด้านบรรพชีวินที่ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานอนุรักษ์และวิจัยฟอสซิลของสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯมาถึง 25 ปี กล่าวเปิดงานแถลงข่าว “ไดโนเสาร์โคราชกินเนื้อสายพันธ์ใหม่ของโลก : นักล่าแห่งสยาม” ร่วมกับ นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี, นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในฐานะประธานร่วมกันของงานแถลงข่าว

นายสุวัจน์ได้กล่าวขอบคุณที่ท่านอธิการบดีและคณะผู้วิจัยไทยและญี่ปุ่นได้ตั้งของตน เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ของชื่อไดโนเสาร์ที่พบใหม่และเป็นพันธ์ใหม่ ลำดับที่ 12 ของไทย ในชื่อ “สยามแรพเตอร์ สุวัจน์ติ” (Siamrapter Suwati) และนายสุวัจน์ยังแสดงความคิดเห็นถึงความสนใจที่จะพัฒนาในด้านของบรรพชีวินวิทยา เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดนครราชสีมาที่มีความพร้อม โดยเฉพาะด้านฟอสซิล ที่อาจกล่าวได้ว่า โคราชเป็น Fossil City เพราะพบเป็นจำนวนมาก หลากหลายอายุและหลายชนิดในบริเวณชานเมืองจังหวัดนครราชสีมา ที่สามารถจะพัฒนาไปจนถึงเป็นระดับผู้นำของโลกได้ เพราะศักยภาพโคราชพร้อมและโดดเด่น โดยสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯเป็นเสาหลักในเรื่องนี้ รวมทั้งนำเรื่องนี้เป็นเหตุผลหลักในการขอรับรองการจัดตั้งพื้นที่ 5 อำเภอ ของโคราชจีโอพาร์ค ให้เป็นจีโอพาร์คโลกที่รับรองโดยยูเนสโก ซึ่งจะมีการประเมิณในอีก 6-7 เดือนที่จะถึงนี้ โดยหวังในความอนุเคราะห์สนับสนุนจากทางกรมทรัพยากรธรณี จังหวัดนครราชสีมา กรรมการบริหารมหาวิทยาลัย ประการสำคัญคือ ชาวโคราชทั้งหมดที่จะมีส่วนร่วมผลักดันขับเคลื่อน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ของโลกต่อจากเกาหลีใต้และจีน ที่จะได้ชื่อว่า “ดินแดน 3 มงกุฎของยูเนสโก” หรือ “The UNESCO Triple Crown”

โดยภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายประเสริฐ บุญชัยสุข อีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และประชาชนมาร่วมงานอย่างอบอุ่น

Verified by ExactMetrics