วันที่ 9 พฤษภาคม 2024

“ประยุทธ์” ปลื้ม คลองโอ่งอ่าง ได้รางวัลระดับโลก

People Unity News : นายกฯ ปลื้ม คลองโอ่งอ่าง ได้รางวัลระดับโลก ตอกย้ำความสำเร็จการปรับปรุงภูมิทัศน์เมือง ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความยินดีที่โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง ได้รับรางวัล 2020 Asian Townscape Awards จากโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme: UN-HABITAT) ถือเป็นความภาคภูมิใจในความสำเร็จของโครงการพัฒนาคูคลองของกรุงเทพมหานคร อันเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

ขณะเดียวกัน โครงการนี้จะเป็นต้นแบบของการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ รวมถึงเป็นต้นแบบการพัฒนาให้กับหลายๆประเทศทั่วโลก ในการปรับปรุงพื้นที่ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ส่งผลในแง่บวกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

“นายกรัฐมนตรีติดตามการพัฒนาและบริหารจัดการคลองโอ่งอ่างมาโดยตลอด ได้พบว่าประสบความสำเร็จทั้งด้านเศรษฐกิจและการยอมรับ มีหลากหลายกิจกรรมสามารถดึงดูดความสนใจ กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครได้ในเวลาอันรวดเร็ว ที่สำคัญยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาบริเวณโดยรอบคูคลองให้กับพื้นที่อื่นๆ ให้กลับมามีชีวิตชีวา”

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบบริเวณคูคลอง เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เฉพาะในกรุงเทพมหานคร มีการปรับปรุงและอยู่ในระหว่างการปรับปรุงคลองแล้วหลายสาย เช่น คลองหลอด คลองผดุงกรุงเกษม คลองลาดพร้าว คลองช่องนนทรี โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การปรับภูมิทัศน์พื้นที่เมือง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น มีการวางแนวทางการปรับปรุงที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวชุมชน รักษาเอกลักษณ์ของพื้นที่ พร้อมเพิ่มกิจกรรมใหม่ๆให้มีความหลากหลาย ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยรอบคูคลองให้กลายเป็นที่พักผ่อนของประชาชน รวมถึงการเชื่อมโยงการเดินทาง ซึ่งผลที่ได้มาคือ มูลค่าทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะถูกพัฒนาต่อยอดจากไปมรดกทางวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับวิถีชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน จึงเป็นแนวการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Advertising

ข่าวดี ..เปิดแล้วศูนย์ Job Ready Center 11 แห่งทั่วประเทศ ช่วยผู้จบ ป.ตรีมีงานทำครบวงจร

People unity news online : รองนายกรัฐมนตรีเปิดศูนย์ ที่นี่มีงานทำ Job Ready Center  ช่วยเหลือผู้จบปริญญาตรีให้มีงานทำ บริการให้คำปรึกษา พัฒนาทักษะฝีมือ แนะแนวอาชีพ จับคู่ตำแหน่งงาน เริ่มเปิดดำเนินการ 11 แห่ง พร้อมกันทั่วประเทศ ตามแนวทาง “ประชารัฐ ร่วมใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ”

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ที่นี่มีงานทำ (Job Ready Center) ณ อาคารศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยกระทรวงแรงงาน  โดยมี พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้กล่าวรายงาน โดย พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ด้วยการยกระดับและปฏิรูประบบราชการ ให้เป็นที่พึ่งของประชาชน กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงได้จัดตั้งศูนย์ที่นี่มีงานทำ (Job Ready Center) ขึ้น ภายใต้แนวคิด “ประชารัฐ ร่วมใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ” โดยมีกลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีที่ยังไม่มีงานทำ เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักในเบื้องต้น เพื่อส่งเสริมให้มีงานทำ มีรายได้ ตรงกับความต้องการและความสามารถของตนเอง สอดคล้องกับภารกิจหลักของกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งเน้นให้คนไทยมีงานทำอย่างมีศักดิ์ศรี ด้วยการสร้างโอกาสในการเข้าถึงตำแหน่งงานว่าง โอกาสในการพัฒนาทักษะอย่างเท่าเทียม ได้รับการคุ้มครอง และมีหลักประกันเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งทรัพยากรบุคคลเหล่านี้ คือรากฐานสำคัญในการนำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า

พล.ต.อ. อดุลย์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ที่นี่มีงานทำ จะให้บริการพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ (19 ก.ค.61) เป็นต้นไป โดยศูนย์ดังกล่าว มีภารกิจหลัก 4 ประการ ประกอบด้วย 1. การแนะแนวงานที่เหมาะสมกับความสามารถ และความสนใจของผู้เข้ารับบริการ โดยจัดให้มีการทดสอบความพร้อม และความถนัดทางอาชีพเบื้องต้น 2. การจับคู่งาน (Matching) ระหว่างผู้ที่กำลังหางานกับนายจ้าง สถานประกอบการ โดยใช้ฐานข้อมูลของ ก.แรงงานและหน่วยงานภาคีเครือข่าย ทั้งงานในประเทศ ต่างประเทศ ผ่าน Job fair, Mobile App, Line Jobs, Job Box เป็นต้น รวมทั้งการรับงานไปทำที่บ้าน 3. การพัฒนาทักษะ ในกรณีที่ต้องการยกระดับความสามารถของตนเอง (Up skill/Re-skill) โดยได้จัดให้มีการฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ ทั้งในระยะสั้น 18 – 60 ชั่วโมง และระยะยาว 60 วันขึ้นไป และ 4. การให้การคุ้มครองการจ้างงาน สภาพการทำงาน สวัสดิการที่ลูกจ้างพึงได้รับ และการนำเข้าสู่ระบบประกันสังคมเพื่อสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้กับชีวิต ซึ่งการดำเนินงานของศูนย์ที่นี่มีงานทำ ได้แบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรก คือระยะนำร่องมีการดำเนินการทั้งสิ้น จำนวน 11 แห่ง ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา ปราจีนบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง สุราษฎร์ธานี สงขลา และกรุงเทพมหานคร และในระยะต่อไป จะขยายการดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ภายในงานเปิดศูนย์ ได้มีกิจกรรม “นัดพบแรงงาน (JOBS FAIR)” เพื่อให้บริการจับคู่งาน (Matching) ระหว่างผู้ที่กำลังหางานกับนายจ้าง สถานประกอบการ โดยมีบริษัทชั้นนำกว่า 30 บริษัท มารับสมัครงานและสัมภาษณ์งาน อาทิ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.ซีพี ออลล์, บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ, บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น, บมจ.อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล็อปเม้นต์, บจก.โตโยต้าบัสส์, บจก.อยุธยาแคปปิตอล เซอร์วิสเซส และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยมีตำแหน่งงานว่างพร้อมบรรจุกว่า 3,000 อัตรา นอกจากนี้ ยังได้จัดบริการให้คำแนะนำ/แนะแนวอาชีพ/ทดสอบความพร้อมทางอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ/การรับงานไปทำที่บ้าน/หลักสูตรฝึกอบรม/สิทธิประโยชน์ประกันสังคม และให้ความรู้ด้านกฎหมายแรงงาน ฯลฯ

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ศูนย์ที่นี่มีงานทำ จะเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแนวทางประชารัฐ ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถานศึกษา เพื่อผนึกกำลังประสานข้อมูล และบูรณาการการทำงานให้คนไทยมีงานทำ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจะเป็นการพัฒนากำลังคนให้พร้อมที่จะการนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามนโยบายของรัฐบาล”

ในท้ายนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เชิญชวนผู้ที่จบการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรี ที่กำลังหางานทำ มาใช้บริการศูนย์ที่นี่มีงานทำ ทั้ง 11 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งมีบริการที่ครบวงจร พร้อมเน้นย้ำ รัฐบาลได้วางแนวทางการสร้างคน ให้มีคุณภาพ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ศูนย์ที่นี่มีงานทำของกระทรวงแรงงาน จะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว อันนำไปสู่การยกระดับสภาพความเป็นอยู่ของแรงงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

People unity news online : post 20 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.10 น.

ประยุทธ์ ห่วงคนไทยถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา กำชับเจ้าหน้าที่เร่งจับแก๊งมิจฉาชีพค้ามนุษย์

People Unity News : ประยุทธ์ ห่วงคนไทยถูกหลอกไปทำงานกัมพูชา กำชับเจ้าหน้าที่เร่งจับแก๊งมิจฉาชีพค้ามนุษย์มาดำเนินคดี

3 มี.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ติดตามการช่วยเหลือคนไทย 56 คน ที่ถูกหลอกให้ไปทำงานในกัมพูชากลับมาประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือรอบที่ 9 รวมคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 583 คน พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริง ผู้ตกเป็นเหยื่อขบวนการขอให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมกับบันทึกประวัติไว้อย่างละเอียดมอบหมายให้ส่วนราชการในพื้นที่คอยเฝ้าระวัง เพื่อความปลอดภัย และไม่ให้ถูกหลอกเป็นเหยื่ออีก

รวมทั้งให้ติดตามกลุ่ม แก๊ง กระบวนการที่มีพฤติกรรมหลอกลวงคนไปค้ามนุษย์ หรือแรงงานทาสในต่างประเทศ หากมีหลักฐานให้ขยายผล จับกุม ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อคำชักชวนให้ไปทำงานต่างประเทศ ที่มีข้อเสนอให้ค่าตอบแทนสูง ขอให้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ พร้อมกับเน้นย้ำเรื่องการสอบสวนหากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

Advertising

ลานพระธรรม!วัดโคราชเห็นใจชาวนาเปิดให้ตากข้าวฟรี

People Unity News : ลานพระธรรม!วัดโคราชเห็นใจชาวนาเปิดให้ตากข้าวฟรี เจ้าอาวาสเผยทางวัดรู้สึกสงสารและเห็นใจชาวนาที่ไม่มีสถานที่ตาก ตั้งกติกาตากได้ไม่เกินคนละ 2 วัน

วันที่ 15 พ.ย.2562 จากความทุกข์ของชาวนาเมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วไม่มีที่ตากให้แห้งบางพื้นที่ต้องตากบนถนนเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันจากการหักหลบกองข้าวเปลือกทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ที่อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมานั้น ชาวนาบ้านท่าหลวง ตำบลท่าหลวง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้นำข้าวเปลือกมาตากพึ่งแดดไว้ภายในลานวัดบ้านท่าหลวงเป็นจำนวนมาก หลังจากหน่วยงานภาครัฐได้ขอความร่วมมือชาวนาไม่ให้ตากข้าวเปลือกบนถนน หวั่นเกิดอุบัติเหตุและกีดขวางการจราจร

พระสมุหะบุญมี ฐาระจิตโต เจ้าอาวาสวัดบ้านท่าหลวง กล่าวว่า ทางวัดรู้สึกสงสารและเห็นใจชาวนาที่ไม่มีสถานที่ตากข้าวเปลือกหลังจากเก็บเกี่ยวมาแล้ว จึงเปิดพื้นที่ลานวัดให้ชาวนานำข้าวเปลือกมาตาก เพราะไม่อยากให้ชาวนาไปตากข้าวบนถนน ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ด้านนายเจริญ โจ้พิมาย ชาวบ้าน บ้านท่าหลวง บอกว่า ดีใจที่ทางวัดอนุญาตให้นำข้าวมาตากบริเวณลานวัด เพราะชาวนาส่วนใหญ่ไม่มีที่ตากข้าว แต่กติกาการตากข้าวที่ลานวัดแห่งนี้ ต้องสลับสับเปลี่ยนกันไป หากชาวนาคนไหนเกี่ยวข้าวก่อน ก็จะนำข้าวมาตากก่อน ตากได้ไม่เกินคนละ 2 วัน จากนั้นก็เป็นคิวของชาวนาคนต่อไป ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งแย่งที่ตากข้าวกันอีก ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนถนน และช่วยไม่ให้เกิดปัญหาการนำวัสดุมาวางกีดขวางการจราจรบนพื้นผิวถนนได้ด้วย

Cr.ภาพตากข้าวถนนจาก https://www.posttoday.com/social/local/606260

สำนักงานสลากฯ เตรียมพร้อมออกสลากสัญจรที่จังหวัดชุมพร

People Unity News : 22 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานสลากฯ เตรียมออกสลากสัญจร งวดวันที่ 1 มีนาคม 2566 นี้ ที่จังหวัดชุมพร ให้ชาวบ้านดูความโปร่งใส ลดข่าวลือ เลขเด็ดจากกลุ่มมิจฉาชีพ

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในการออกรางวัลงวดวันที่ 1 มีนาคม 2566 นี้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เตรียมเดินทางไปออกรางวัลสลากสัญจร ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมลอฟท์ มาเนีย บูติค โฮเทล อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในต่างจังหวัดได้เห็นขั้นตอนและวิธีการตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกรางวัลด้วยตนเอง จะได้ไม่หลงเชื่อข่าวลือเรื่องเลขเด็ดจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ทำการหลอกลวงต้มตุ๋น ผ่านทางสังคมออนไลน์และการส่งจดหมายแอบอ้างว่าสามารถให้ตัวเลขที่จะออกรางวัลได้

สำหรับการออกรางวัลครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรให้เกียรติเป็นประธานกรรมการออกรางวัล รวมทั้งข้าราชการระดับสูง ผู้นำชุมชนและผู้แทนสื่อมวลชนในพื้นที่ร่วมเป็นคณะกรรมการออกรางวัล โดยเชิญข้าราชการหรือบุคลากรของจังหวัดร่วมทำหน้าที่หมุนวงล้อสลับกับพนักงานหมุนวงล้อออกรางวัล โดยการออกรางวัลเป็นไปตามมาตรฐานสากล โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ทั้งนี้ การออกรางวัลได้ดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาล อย่างเคร่งครัด ด้วยการทำความสะอาดสถานที่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและแอลกอฮอล์ มีการตรวจวัดอุณหภูมิคณะกรรมการออกรางวัล บุคลากร สื่อมวลชน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล รวมทั้งให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่ สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถเข้าชมการออกรางวัลได้ด้วยตนเองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชนแสดงในวันดังกล่าวด้วย และขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

-สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ตั้งแต่เวลา 13.50 น. เป็นต้นไป

-สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

-LINE TODAY ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

-เว็บไซต์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล www.glo.or.th ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

-รับฟังการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

นอกจากการเดินทางมาออกรางวัลสลากสัญจรแล้ว สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังได้จัดกิจกรรมการช่วยเหลือสังคม (CSR) ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 โดยจัดกิจกรรมจัดเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กที่โรงเรียนชุมพรปัญญานุกูล อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร อีกด้วย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจึงขอเชิญประชาชนชาวจังหวัดชุมพรและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมชมการออกรางวัลสลากสัญจรครั้งนี้ได้ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวและภารกิจที่น่าสนใจของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ที่ www.glo.or.th

Advertisement

ผบ.ทบ.สั่งรีเซต “สนามม้า-มวย” ล้างภาพแหล่งพนัน

People Unity News : 31 สิงหาคม 2565 “ผบ.ทบ.” สั่งรีเซต “สนามม้า-มวย” ล้างภาพแหล่งพนัน ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย-กีฬา “แม่ทัพภาค 2” เผยสนามม้าโคราช อยู่ระหว่างกำหนดเงื่อนไข ก่อนจัดแข่งจริง

พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการแข่งขันร่ายรำไหว้ครูมวยไทย และทักษะแม่ไม้มวยไทยกองทัพบก ประจำปี 2565 ที่กรมสวัสดิการทหารบก ร่วมกับศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก (มวยไทยลุมพินี)

ทั้งนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีและให้กำลังใจกับผู้เข้าแข่งขันทุกคน พร้อมทั้งขอบคุณคณะกรรมการที่ร่วมมือกันจัดงานในครั้งนี้ขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ตนขอแสดงความชื่นชมและยินดีกับกลุ่มการแข่งขันและนักกีฬา ที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน ที่มีความทุ่มเท ความพยายาม ความอดทน และความขยันหมั่นเพียร ในการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง จนมีความพร้อมและขีดความสามารถ ส่งผลให้ประสบผลสําเร็จในการแข่งขัน และมีจิตสํานึกที่มีคุณค่ายิ่ง ในการรักษามรดกอันล้ำค่าของชาติไทยไว้เป็นนักมวยไทยร่ายรําไหว้ครูมวยไทย ที่แสดงถึงความกตัญญูรู้คุณ ถือเป็นประเพณีสําคัญของการแสดงความเคารพต่อครูมวญ

สอดคล้องตามนโยบายของกองทัพบกในการเสริมสร้างและพัฒนาขีดความสามารถด้านมวยไทยให้กับกําลังพล ได้อนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า และเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของชาติ โดยอันเกิดจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สร้างความแข็งแกร่งให้ทั้งร่างกายและจิตใจ

ภายหลังการเป็นประธานพิธีมอบรางวัล พล.อ.ณรงค์พันธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดระเบียบสวัสดิการ ทบ. เรื่องสนามม้าและสนามมวยว่า ทุกอย่างยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจัดสวัสดิการภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2543 ซึ่งเราได้หารือกับกรมธนารักษ์ อันไหนที่มีความพร้อมก็ให้ดำเนินการ เนื่องจากที่ผ่านมามีการแพร่ระบาดของโควิด ต้องให้เขาจัดระบบกันใหม่

เมื่อถามว่าสนามมวยลุมพินีจะมีการเปิดแข่งขันหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า เราไม่เปิดให้มีการพนัน ดังนั้น ต้องตัดเรื่องการพนันออกไป ซึ่งสนามมวยลุมพินีดั้งเดิมนั้น เป็นในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมที่อยู่คู่ประเทศไทยมา

เมื่อถามถึงความคืบหน้าสนามม้าโคราช ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า อยู่ในระหว่างการหารือกับภาคเอกชน ซึ่งมีข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆอยู่ ทุกอย่างต้องใช้เวลาร่วมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง

ในขณะที่ พล.ท.สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ภายหลังที่กองทัพบกสนับสนุนกิจกรรมของทางสมาคมกีฬาม้าแข่งในเรื่องการใช้สนามกีฬาทหาร จ.นครราชสีมา จัดแข่งม้ากีฬาชิงแชมป์ประเทศไทย และการจับวิ่งทดสอบลูกม้าใหม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างหารือกับภาคเอชนในการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ โดยที่ผ่านมายังไม่มีการจัดแข่งขันใดๆทั้งสิ้น พร้อมเปิดเผยว่าไม่มีการหาสนามแข่งม้าใหม่ทดแทนแล้ว

Advertisement

ประยุทธ์ สั่งการผู้ว่าฯ ภูเก็ต ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว ควบคุมการสาดน้ำ ใช้ปืนฉีดน้ำ

People Unity News : 13 เมษายน 2565 กรณีนักท่องเที่ยวบริเวณซอยบางลา ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ร่วมกันสาดน้ำและใช้ปืนฉีดน้ำอย่างสนุกสนานในวันสงกรานต์ นั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กังวลใจต่อการกระทำดังกล่าว สั่งการไปยังผู้ว่าฯภูเก็ต ชี้แจงทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว และเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการทั่วประเทศ กำชับส่วนราชการเฝ้าสังเกตประชาชน ในพื้นที่ที่ห้ามเล่นน้ำวันสงกรานต์ ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ใช้เวลาช่วงวันหยุดทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกับคนในครอบครัว สามารถสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือได้ แต่ขอให้ระมัดระวัง ตรวจสอบตัวเองให้ปลอดภัยก่อนจะใกล้ชิดผู้ใหญ่

Advertisement

กองทัพบก ตั้งจุดบริการประชาชนหน้าค่ายทหาร อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทาง

People Unity News : กองทัพบก ตั้งจุดบริการประชาชนหน้าค่ายทหาร อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางช่วงวันหยุดยาว

22 ตุลาคม 2564 พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบก มอบค่ายทหารที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางหลัก ที่ประชาชนใช้สัญจรเป็นจำนวนมากในหลายจังหวัด ตั้งจุดบริการประชาชนหน้าค่ายทหาร “พักคน พักรถ หน้าค่าย” รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ที่เดินทางในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ทั้งสถานที่พักรถ พักคน บริการน้ำดื่ม แนะนำเส้นทาง รับแจ้งเหตุด่วน ชุดแพทย์จากโรงพยาบาลค่ายเตรียมการปฐมพยาบาล แจกแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ให้คำแนะนำการป้องกันโควิด-19 มีเจ้าหน้าที่ทหารจิตอาสา สารวัตรทหาร คอยดูแลประชาชนให้ใช้เส้นทางได้อย่างปลอดภัย

พร้อมทั้งจัดตู้ปันสุขไว้บริการให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิค-19 ด้วย อาทิ จุดบริการประชาชน บนถนนสายเอเซีย ช่วงจังหวัดนครสวรรค์ หน้าค่ายจิระประวัติ โดยมณฑลทหารบกที่ 31 บริการผู้สัญจรขึ้นล่องภาคเหนือ จุดบริการบริเวณลานอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ (หน้าค่ายกาวิละ) จังหวัดเชียงใหม่ โดยมณฑลทหารบกที่ 33

Advertising

“บิ๊กตู่” กำชับดูแลฝุ่นละออง PM 2.5 ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน

People Unity News : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับดูแลฝุ่นละออง PM 2.5 ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมดูแลความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่

เมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.62) เวลา 13.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงแก่สื่อมวลชนถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองว่า รัฐบาลดำเนินการทุกอย่างเต็มที่ โดยสั่งการให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดการแก้ไขปัญหา วัสดุที่เหลือจากการเกษตรเช่น อ้อย ข้าวโพด ฯลฯ ก็ให้นำมาทำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าเกิดประโยชน์มากขึ้น หรือนำไปเป็นวัสดุเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานในโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กในชุมชน แทนการเผาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ใช้มาตรการและวิธีการใหม่ๆที่เหมาะสมในการดูแลจุดความร้อนหรือฮอตสปอตในพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงการขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีปัญหาเรื่องดังกล่าวเช่นกัน

สำหรับการใช้รถขนส่งสาธารณะ ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รวมทั้งการก่อสร้างก็มีความก้าวหน้าโดยลำดับ หลายเส้นทางก็ได้มีการเปิดใช้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการใช้รถส่วนตัวลงได้บ้าง เพื่อผลดีต่อการจราจร นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความเข้าใจว่า บางกรณีก็มีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวในการรับส่งลูกหลานไปโรงเรียน แต่ขอความร่วมมือในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ หากไม่มีความจำเป็นมากนัก ก็ให้หันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะบ้าง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลพยายามดูแลและส่งเสริมรถบริการสาธารณะให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น พร้อมๆไปกับการเร่งดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน ถนน เส้นทางต่างๆ ทั้งเส้นทางถนนปกติและทางด่วนพิเศษที่ต้องจ่ายเงิน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าถึงบริการและรับความสะดวกอย่างทั่วถึงตามศักยภาพของแต่ละบุคคล

จากนั้น นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่บางพื้นที่ไม่มีน้ำทำนาปลังว่า จะต้องหาวิธีการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่ออุปโภคบริโภคของประชาชน โดยขอความร่วมมือประชาชนทุกคนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะต้องลดปริมาณการใช้น้ำสำหรับการทำการเกษตรลงให้ได้มากที่สุด เพราะมีบางประเทศมีการใช้น้ำทำการเกษตรน้อยกว่าประเทศไทย ซึ่งได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาวิธีการและแนวทางดังกล่าวเพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เตรียมบริหารจัดการการให้ใช้น้ำบาดาลมากขึ้น เพื่อเตรียมรองรับแก้ไขปัญหากรณีน้ำอุปโภคบริโภคขาดแคลนน้ำที่และบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน

ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงมาตรดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการประชุมและออกมาตรการและสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งการกวดขันบังคับใช้กฎหมาย การอำนวยความสะดวก การจารจร อาชญากรรม ฯลฯ ส่วนการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ขณะนี้ได้มีการเพิ่มมาตรการเชิงรุกมากขึ้น โดยดำเนินการเป็นไปตามกติกาสากล ในการปฏิบัติหน้าที่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐระมัดระวังดูแลตนเองให้ดี รวมถึงการดูแลประชาชนให้ได้รับปลอดภัย พร้อมขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย

โฆษณา

กองสลากเผยสลากดิจิทัลงวดวันที่ 16 ก.ค. จำนวน 5.146 ล้านฉบับ จำหน่ายหมดแล้ว

People Unity News : 3 กรกฎาคม 2565 สำนักงานสลาก เผยการจำหน่ายสลากดิจิทัล งวดวันที่ 16 ก.ค.65 จำนวน 5.146 ล้านฉบับ จำหน่ายหมดแล้ว มีผู้ซื้อ 8.8 แสนราย

วันนี้ (3 กรกฎาคม 2565) เวลา 11.00 น. นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การจำหน่ายสลากผ่านแอปเป๋าตัง หรือ สลากดิจิทัลงวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นการจำหน่ายงวดที่สาม จำนวน 5,146,000 ฉบับ ขณะนี้ได้จำหน่ายหมดแล้ว มีผู้ซื้อจำนวน 888,637 ราย การจำหน่ายสลากหมดลงอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี เนื่องจากสามารถซื้อสลากตัวเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้จริง และสลากที่ซื้อก็มีการบันทึกข้อมูลไว้แสดงสิทธิในตัวสลาก ทำให้ไม่ต้องกังวลหากสลากหาย หรือการเรียกร้องสิทธิในตัวสลาก และเมื่อถูกรางวัลจะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปเป๋าตัง ประกอบกับขั้นตอนการรับรางวัลที่สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก และงวดที่ผ่านมา มีรางวัลที่ 1 ถึง 6 รางวัล เงินรางวัลรวม 36 ล้านบาท ที่สำคัญมีคนถูกรางวัลที่ 1 คนเดียวถึง  3 ใบ ได้รางวัล 18 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมีการกระจายถูกรางวัลคนละ 1 ใบ รางวัลละ 6 ล้านบาท

ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มสลากจำหน่ายผ่านระบบดิจิทัลอีก 2 ล้านฉบับ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ล้านฉบับ เพื่อให้ผู้ซื้อมีเวลาในการเลือกซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้นานขึ้น สำหรับการพิจารณาเพิ่มปริมาณสลากในระบบแต่ละครั้ง จะต้องเป็นไปตามความต้องการของตลาด และรักษาสมดุลระหว่างผู้ค้าในระบบเก่าและระบบดิจิทัลด้วย ส่วนสลากที่จะนำมาเพิ่มในระบบดิจิทัลนั้น จะมาจากสลากในระบบซื้อจอง  ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสลากของตัวแทนจำหน่ายที่ถูกยกเลิกสัญญาเนื่องจากนำสลากไปขายต่อ

นอกจากสลากที่จำหน่ายผ่านแอปเป๋าตังในระบบแพลตฟอร์มได้แล้ว ยังมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ที่สำนักงานสลากฯ เริ่มดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว เป็นการจำหน่ายผ่านแอปเป๋าตังเช่นกัน ขณะนี้ มีจุดจำหน่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งหมด 754 จุด ทั่วประเทศ และตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั่วประเทศ 1077 จุด และภายในปีนี้ สำนักงานฯจะนำร่องขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 ไปที่สถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ อีกไม่น้อยกว่า  2,000 จุด

Advertisement

Verified by ExactMetrics