วันที่ 6 พฤษภาคม 2024

“อลงกรณ์”ยืนยันรัฐบาลห่วงใยชาวประมงเร่งรัดแก้ไขปัญหาประมงคืบหน้า

People Unity News : “อลงกรณ์”ยืนยันรัฐบาลห่วงใยชาวประมงเร่งรัดแก้ไขปัญหาประมงคืบหน้า ทั้งเรื่องสินเชื่อประมงและการซื้อเรือออกนอกระบบใช้งบเกือบ 2 หมื่นล้าน รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายล้าหลังไม่เป็นธรรม

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2562นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนวันนี้ (3 ต.ค. 2562) เกี่ยวกับกรณีนายกสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยระบุว่ารัฐบาลไม่มีมาตรการในการช่วยเหลือและไม่ได้รับการเหลียวแลและมีการดำเนินการที่ล่าช้ามากว่า นายกสมาคมการประมงได้ร่วมประชุมกับทุกสมาคมประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด 3 เดือนถึง 8 ครั้ง และมีการประชุมย่อยอื่นๆ กว่า 10 ครั้ง ย่อมทราบถึงความใส่ใจของรัฐบาลที่มีต่อชาวประมงและความก้าวหน้าในแต่ละข้อเรียกร้องซึ่งมีถึง 34 เรื่อง จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงออกมาพูดราวกับว่ารัฐบาลไม่เหลียวแลจึงต้องชี้แจงว่าปัญหาประมงที่สะสมหมักหมมมานานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการร่วมกับสมาคมประมงทุกสมาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหาและฟื้นฟูศักยภาพประมงเช่นโครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องและฟื้นฟูศักยภาพทั้งประมงพื้นบ้านประมงพาณิชย์และประมงนอกน่านน้ำ1หมื่นล้านโดยรัฐชดเชยดอกเบี้ยกว่า2พันล้านและโครงการซื้อเรือที่ประสงค์จะนำออกนอกระบบกว่า2พันลำวงเงิน7พันล้านเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรที่ยังยืนเป็นวงเงินรวมกันกว่า 17,000 ล้านซึ่งรัฐมนตรีเกษตรฯ ได้ลงนามไปตั้งแต่เดือนที่แล้วขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงบประมาณเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไปโดยเฉพาะโครงการสินเชื่อจากธกส.นั้นถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ธกส.จะให้สินเชื่ออาชีพประมงและไม่เคยมีรัฐบาลใดเคยดำเนินการมาก่อน

สำหรับข้อเรียกร้องเรื่องการแก้ไขกฎระเบียบและกฎหมายประมงนั้นกระทรวงเกษตรฯได้ตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานทั้งยกร่างกฎหมายใหม่เช่นพรบ.กองทุนประมงและพรบ.สภาการประมงแห่งชาติให้แล้วเสร็จใน 90 วัน รวมทั้งแก้ไขกฎระเบียบรวมทั้งกฎหมายที่มีบทบัญญัติโทษรุนแรงเกินมาตรฐานสากลและกฎไอยูยู (IUU) ซึ่งหลายฉบับอยู่ในขั้นตอนกฎษฎีกาและเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ส่วนการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานตามมาตรา 83 ของ พรก.ประมงนั้น กรมประมงได้ส่งเรื่องให้กระทรวงแรงงานแล้วเพื่อนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว เพื่อดำเนินการจัดหาแรงงานประมงต่อไป

“หลังจากประชุมร่วมกับทุกสมาคมประมง 6 ครั้งใน 6 สัปดาห์แรก จนมีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีเกษตรฯ ได้
แต่งตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยและคณะอนุกรรมการ 4 คณะ ได้แก่

1.คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพื้นบ้าน
2.คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพาณิชย์ และการประมงนอกน่านน้าไทย
3คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้า
4.คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประมง

ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาการประมงของไทยแบบยั่งยืนโดยมีการประชุมทันทีหลังมีการแต่งตั้งอย่างน้อย 2 ครั้งในเดือนตุลาคมรวมทั้งสร้างโอกาสให้กับชาวประมงและผู้ประกอบการประมงด้วยการขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนกลุ่มประเทศแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียรวมทั้งองค์การสากลเช่นยูเอ็นและองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)” นายอลงกรณ์กล่าว

ด้านปัญหาราคาสัตว์น้ำตกต่ำอันเป็นผลเนื่องมาจากการนำเข้าสัตว์น้ำ จากต่างประเทศนั้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดการบังคับใช้กฎหมายและมีมาตรการในการควบคุมการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานการแก้ไขการทำการประมงผิดกฎหมายรวมถึงสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างเข้มข้นและจับกุมไปแล้วหลายกรณีเพื่อป้องกันการทะลักเข้ามาของสินค้าสัตว์น้ำที่ผิดสุขอนามัยสัตว์น้ำและได้จากการทำการประมงผิดกฎหมาย

“บิ๊กป้อม”เรียกถกกก.นโยบายป่าไม้แห่งชาติเตรียมรับมือควันภาคเหนือ

People Unity News : พล.อ.ประวิตรเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติเตรียมรับมือสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ เพื่อลดความเดือดร้อนประชาชน สั่งใช้เทคโนโลยีช่วยงานป่าไม้ทุกมิติ ทส. รับปฏิบัติทันที

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าวันนี้เวลา 1000 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติครั้งที่3/ 2562 ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2516 ถึง 2557 พบว่า แนวโน้มโดยเฉลี่ยของพื้นที่ป่าไม้ลดลง แต่ภายหลังปี 2558 ถึง 2561 พื้นที่ป่าไม้ของประเทศไทยกลับมีแนวโน้มโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นโดยปี 2561 มีพื้นที่ป่าไม้ร้อยละ 31.68 ของพื้นที่ประเทศ แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่กำหนดคือร้อยละ 40 ดังนั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงได้พยายามขับเคลื่อนและผลักดันยุทธศาสตร์เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์ คุ้มครอง ฟื้นฟูมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างเหมาะสม ยั่งยืนโดยมีการดำเนินการด้านต่างๆ

ได้แก่ด้านการป้องกันรักษาป่า,ด้านการฟื้นฟูป่าและพื้นที่สีเขียว,ด้านการสร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า,ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในงานป่าไม้ ได้แก่ การนำระบบพิทักษ์ไพร มาใช้ในการปฏิบัติภารกิจ,การใช้อากาศยานไร้คนขับเพื่องานป่าไม้,การใช้กล้องตรวจจับความร้อนในเวลากลางคืนและการใช้กล้องดักจับถ่ายภาพ
เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกันเรื่องสำคัญ ได้แก่ นโยบายการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือปี 2563ซึ่งมีการกำหนดหน้าที่ของแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องไว้อย่างชัดเจนแล้ว สำหรับการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมาย รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ความสำคัญและมีแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบกลุ่มต่างๆเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแล้ว

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์หมอกควัน ตามที่ได้สั่งการแล้วให้เป็นรูปธรรม ขอให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งภาคประชาชน จิตอาสา และให้ ทส. เร่งรัดจัดทำอนุบัญญัติหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายทรัพยากรป่าไม้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อีกทั้งต้องนำเทคโนโลยีมาช่วยงานด้านป่าไม้ในทุกมิติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้นและสร้างการรับรู้ความเข้าใจประชาชนทราบควบคู่กันไปด้วย

ยิงกันในศาลจันทบุรี! “บิ๊กตู่” ไม่กำชับอะไรเป็นเรื่องกม.

People Unity News : ยิงกันในศาลจันทบุรี! “บิ๊กตู่”ไม่กำชับอะไรเป็นเรื่องกม. ส่วน “สมศักดิ์” บอกเป็นหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องสังคายนาความปลอดภัยในศาลใหม่

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.สัญจร ถึงกรณีเหตุการณ์ยิงกันภายในศาลจันทบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ว่า มีการจับกุมคนร้ายแล้วก็ว่าไปตามเรื่อง ไม่ต้องกำชับอะไร เป็นเรื่องของกฎหมายที่มีอยู่แล้ว ให้กำชับอยู่นั้นแหละ ให้กำชับอะไรในเมื่อกฎหมายมีทุกตัวอยู่แล้ว ใครผิดก็ติดคุกไป ศาลตัดสินเอง ศาลดูแล

ทางด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ดูเหมือนว่าคู่กรณีไม่พอใจกันเป็นการส่วนตัวอย่างมากอยู่แล้ว อาวุธที่ใช้ก็เป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนในศาล อันนี้ก็เป็นเรื่องของมาตรการป้องกัน ทำให้มองไปถึงเหตุการณ์ที่ศาลจังหวัดชลบุรี ที่ผู้ต้องขังหลบหนี ซึ่งก็คือมาตรการในการควบคุมดูแล ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องช่วยกันทบทวนดูมาตรการหาความปลอดภัย ไม่ใช่ว่าพอเกิดการแย่งปืนแล้วไปยิงบุคคลสำคัญในศาลขึ้นมาจะเสียหายหนักขึ้นไปอีก ดังนั้นเรื่องของการทบทวนมาตรการดูแลความปลอดภัยต่างๆ ต้องสังคายนาทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศาล และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน

เมื่อถามว่าการสังคายนาจะทำอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เขาคงทำกันอยู่แล้ว ซึ่งกระทรวงยุติธรรมไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย แต่ต้องทบทวนเพราะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงใกล้เคียงกัน และที่เขาทำอยู่ยังไม่ทันเรียบร้อยแล้วเกิดเหตุการณ์ใหม่ขึ้นมาอีก

“บิ๊กตู่” อวยพรขอให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความสุข เนื่องในวาระปีใหม่ไทย

People Unity News : นายกรัฐมนตรีอวยพรขอให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง ประชาชนไทยมีความสุข เป็นคนดีของสังคม พร้อมเชิญชวนร่วมงาน “สงกรานต์ ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ Amazing ยิ่งกว่าเดิม” และกิจกรรม “สงกรานต์วิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย”

วันนี้ (30 มีนาคม 2564) เวลา 08.45 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมประเพณีสงกรานต์ พ.ศ. 2564 “สงกรานต์ ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ Amazing ยิ่งกว่าเดิม” โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ “สงกรานต์วิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย” โดยกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าไทย โดยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมชมนิทรรศการในครั้งนี้ด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะผู้บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรม “สงกรานต์ ริน รด พรม ใส่หน้ากาก ไม่สาดน้ำ Amazing ยิ่งกว่าเดิม” แด่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ซึ่งเน้นการจัดกิจกรรมในรูปแบบ New Normal ดำเนินการตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข  รณรงค์การท่องเที่ยววิถีใหม่ในกิจกรรมสงกรานต์ประจำปี 2564 ภายใต้แนวคิดปลอดภัย ประเพณี ประหยัด และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางด้านการท่องเที่ยวต่อนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (Expat) และสร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน 2564  ณ บริเวณพื้นที่ลานกิจกรรม รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์ (สถานีมักกะสัน)

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้สรงน้ำพระพุทธมหานาค ปฏิมากร นาคปรก 9 เศียร ซึ่งมีความหมายสิริมงคลหมายถึงการปกป้องดูแลประเทศชาติ พร้อมกล่าวขอพรให้ประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรือง และอวยพรให้ประชาชนคนไทยมีความสุข เป็นคนดีของสังคม ขณะเดียวกันก็อวยพรให้แก่คณะรัฐมนตรีและตัวแทนเด็กเยาวชนที่ได้รดน้ำดำหัว ขอให้ทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหา นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำนายกรัฐมนตรีร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2564 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์วิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย” เพื่อรณรงค์การจัดกิจกรรมสงกรานต์ให้สอดคล้องกับแนวทางมาตรการสงกรานต์ 2564 โดย ศบค. ที่ยึดหลัก DMHT เน้นจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่โล่งแจ้ง งดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของคนหมู่มากและสัมผัสใกล้ชิดกัน อาทิ งดการรวมกลุ่มเล่นสาดน้ำ งดประแป้ง งดการเล่นปาร์ตี้โฟม สนับสนุนการจัดพิธีรดน้ำดำหัวแบบเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัยเสมอ

จากนั้น  นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ผ้าไทย โดยได้ร่วมพูดคุยกับ ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตผ้าไทย ที่นำผ้าไทยมาจัดจำหน่ายก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แนะนำไว้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนใช้และสวมใส่ผ้าไทย ให้หลากหลายยิ่งขึ้น  พร้อมเลือกซื้อสินค้าที่นำมาจัดจำหน่ายโดยคณะกรรมการสวัสดิการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อให้กำลังใจกิจกรรมของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้วย

Advertising

“จุรินทร์”เตรียมช่วยชาวนาราคาตก ชง”นบข.” ชะลอขายช่วยตันละ 1,500 บาท

People Unity News : “จุรินทร์”เตรียมช่วยชาวนาราคาตก ชง”นบข.” ชะลอขายช่วยตันละ 1,500 บาท วอนสหกรณ์ สถาบันเกษตรกรอื่นๆ ช่วยเก็บข้าวไว้ก่อน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึง มาตรกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเน้นให้ความช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร ในเรื่องมาตรการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวนาปี ปีการผลิต 62-63 ว่า ตรงนี้จะเป็นการช่วยเหลือในเรื่องของเงินกู้ และการช่วยเหลือในส่วนของเงินจ่ายขาด เพราะตอนนี้ข้าวออกมากและมีผลต่อราคา จึงต้องใช้มาตรการในการชะลอการปล่อยข้าวออกสู่ตลาดด้วยวิธีการช่วยเงินจ่ายขาดตันละ 1,500 บาท ให้กับเกษตรกรที่ต้องการเก็บข้าวไว้และยังไม่ขาย ขณะที่ในส่วนของสถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์ หรืออื่นๆ ถ้าจะช่วยรับซื้อข้าวหรือช่วยเก็บข้าวของชาวนาไว้ จะได้เงินชดเชยตันละ 1,500 บาท โดย 1,000 บาทจะเป็นของสถาบัน และ 500 บาทเป็นของเกษตรกรที่ขายข้าวให้ ซึ่งเรื่องนี้จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยจะประชุมวันที่ 6 ธ.ค.ซึ่งต้องรอยืนยันวันประชุมอีกครั้ง

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือชาวนา ที่นอกจากมาตรการประกันรายได้ที่มีการโอนเงินงวดแรกและทยอยโอนจนกว่าจะหมดฤดูกาลผลิต ตรงนี้มีส่วนในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป็นการช่วยชาวนาจากที่มีเงินกระเป๋าซ้ายจากการขายข้าวตามราคาตลาดและคุณภาพที่ชาวนาผลิตเพียงกระเป๋าเดียว ก็มีกระเป๋าขวาที่เป็นเงินส่วนต่างช่วยเหลือให้มีรายได้ในปริมาณที่เพียงพอแก่การเลี้ยงชีพ และยังมีมาตรการเสริมอื่นๆ เช่น การช่วยเหลือต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นมามาตรการที่จะเสนอควบคู่กันไปด้วย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นเจ้าของเรื่อง

“บิ๊กตู่”พร้อมครม.ส่งผู้แทนแสดงความเสียใจห่วงใยครอบครัวชรบ.ยะลา

People Unity News : นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจและห่วงใยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุณ์ยิงถล่มจากป้อม ชรบ. จังหวัดยะลา และส่งผู้แทนนายกรัฐมนตรี เร่งทำงานอย่างเต็มที่

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในนามของรัฐบาลได้มอบหมายให้ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจและความห่วงใยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์บุกยิงโจมตีป้อมยามจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ประจำหมู่บ้านทุ่งสะเดา และชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) หมู่ที่ 4 ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้มีราษฎร, ชรบ. อรบ. และตำรวจ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย โดยที่ 13 ราย เป็นชาวไทยผู้นับถือศาสนาพุทธ และอีก 2 ราย เป็นเป็นชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลาม เมื่อคืนวันอังคาร ที่ 5 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา นั้น

พลโทพรศักดิ์ฯ กล่าวพลเอกประยุทธ์พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ทุกท่าน ได้ส่งพวงหรีดเพื่อเป็นแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานก่อน โดยประชาชนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเหล่านี้ล้วนเป็นผู้กล้าหาญ ทำหน้าที่ปกป้องชาติบ้านเมืองจากผู้ไม่ประสงค์ดีให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความสุขสงบและสันติ

พร้อมนี้ได้กำชับและสั่งการให้ทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาในส่วนของตนเองอย่างเต็มกำลังและสุดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งค้นหาผู้กระทำผิด การวางมาตราการที่เข้มข้นในการปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์ทุกเชื้อชาติและศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวและชุมชน การฟื้นฟูและเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้านและชุมชนให้สามารถทำหน้าที่ได้เช่นที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความรักและความสามัคคีให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากวันนี้ทุกฝ่ายได้ตระหนักแล้วว่าประชาชนไม่ว่าจะเชื้อชาติไหน ศาสนาใด ล้วนมีภัยจากผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ซึ่งมิใช่ความขัดแย้งทางศาสนาของคนในพื้นที่ เป็นภัยร่วมกันของคนในพื้นที่และคนในประเทศไทยที่เฝ้าห่วงใยพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น การแสดงความรักและความสามัคคีของพี่น้องประชาชน จะเป็นปราการสำคัญในผนึกกำลังปกป้องและดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด

วันเดียวกันนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต. ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บตามอำนาจหน้าที่ของ ศอ.บต. ให้เร็วที่สุด โดยวันนี้ทั้งวัน ตนเองได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพจากทุกกระทรวงเพื่อจัดทำข้อมูลการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เกิดเหตุแบบเฉพาะราย การกำหนดแนวทาง การเยียวยาและให้ความช่วยเหลือครอบครัว เพื่อให้ครอบครัวสามารถเป็นพลังในการดูแลสมาชิกในครอบครัวต่อไปได้ทำให้ครอบครัวยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสมบูรณ์

นอกจากนี้จะได้เพิ่มมาตรการการเยียวยาและให้ความช่วยเหลือชุมชน โดยเฉพาะในชุมชนที่เกิดเหตุครั้งนี้ จะเป็นตัวอย่างของการดำเนินการที่ทำแล้วจะประสบความสำเร็จนั่นคือการสร้างพลังและความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถฟื้นฟูความเข้มแข็ง ที่จะกลับมาดูแลและช่วยเหลือกันเองได้ ในส่วนนี้ ศอ.บต. จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระบบการสนับสนุนการทำงานที่เกี่ยวข้องทุกมิติลงไปในพื้นที่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนได้เป็นแกนหลักการทำงานในเชิงพื้นที่ ซึ่งเป็นแนวทางตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มอบหมายและสั่งการไว้แล้ว

สยบข่าวเกาเหลา! “อนุทิน” ยันไม่มีปัญหา “บิ๊กตู่-พรรคร่วม”

People Unity News : สยบข่าวเกาเหลา! “อนุทิน” ยันไม่มีปัญหา “บิ๊กตู่-พรรคร่วม” แจง สมาชิก ภท.แจ้งความสื่อ เป็นเรื่องสิทธิ์ส่วนตัว เพื่อปกป้องชื่อเสียง

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรคภูมิใจไทยมีความขัดแย้งกับพรรคร่วมว่า เป็นการตีความกันไปเอง เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องช่วยเหลือกัน ถ้าทำงานอย่างสุจริต พรรคภูมิใจไทย พร้อมสนับสนุนเต็มที่

ภาพที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั่งในเรือร่วมกับตนเองนั้น เกิดจากว่ามีรูปพอดี และตนก็มีความสัมพันธ์ที่ดี ทำงานร่วมกัน มีความสุข ที่ผ่านมาเวลาทำงานรายงานนายกฯตลอด ทางนั้น ตอบรับเป็นอย่างดี มีทั้งคำขอบคุณ และคำชมเชย

“แต่กับสื่อบางสำนัก ขอชี้แจงว่าเป็นเรื่องของสมาชิกพรรคแต่ละคนที่ไปฟ้องร้องดำเนินคดี เพื่อปกป้องชื่อเสียงของเขา เพราะเขาต้องใช้ชื่อพรรคหาเสียง สำหรับตนเอง ยังไม่ฟ้อง เพราะมีประเด็นจำนวนมาก ขอเวลาปรึกษานักกฎหมายก่อน ต้องยอมรับว่าที่สื่อสำนักนั้นนำเสนอ ได้สร้างความเสียหายให้กับพรรค คนของพรรคก็ต้องปกป้องตัวเอง สำหรับสื่อ มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์แต่ต้องรับผิดชอบ และทำงานอย่างสร้างสรรค์”

เมื่อถามถึงความพร้อมของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยมีความพร้อม เพราะทำงานเพื่อชาติ ด้วยใจสุจริต แต่ถ้ารู้ว่ามีการคอร์รัปชั่น หัวหน้าพรรคจะลุยจัดการอย่างแน่นอน สำหรับพรรคร่วม เชื่อว่าทุกท่านทำงาน และมีข้อมูลไปตอบฝ่ายค้าน ทั้งนี้ ถ้าทำงานอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่มีการโกง พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนเต็มที่

“ลดาวัลลิ์”ร่วมขบวนรณรงค์ ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี

People Unity News : “ลดาวัลลิ์”ร่วมขบวนรณรงค์ ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ประกาศถึงเวลาชายไทยไม่ทุบตีทำร้ายภรรยาลดคดีอาชญากรรมทางเพศ จี้รัฐใช้กฏหมายจริงจัง

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า เนื่องด้วยวันที่ 25 พฤศจิกายนเป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล ออกมติรับรองโดยองค์การสหประชาชาติ ตนขอเข้าร่วมในกิจกรรมรณรงค์ในวันสำคัญนี้ด้วยในฐานะที่เป็นสตรีคนหนึ่ง จากการสังเกตการทางสังคมพบว่าในรอบหลายปีที่ผ่านมาจนกระทั่งปัจจุบัน ความรุนแรงที่เกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งในครอบครัวทั้งต่อร่างกาย วาจาและจิตใจ สถิติความรุนแรงจากการทุบตีทำร้าย การคุกคาม การล่วงละเมิด การแสวงหาประโยชน์ทางเพศไม่ได้ลดน้อยลง ตรงกันข้ามกลับเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ในโรงเรียนผู้ได้ชื่อเป็นครูอาจารย์ก็กระทำรุนแรงต่อลูกศิษย์อย่างไร้ความปราณีและมโนธรรม เป็นสภาวะที่น่าวิตกอย่างยิ่ง

นางลดาวัลลิ์กล่าวว่า จาก ข่าวสารที่ปรากฏผ่านสื่อต่างๆพบว่า ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและผู้ที่กระทำความรุนแรงคือผู้ชาย ทั้งนี้ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ขาดสตินำไปสู่การใช้ความรุนแรงผู้ที่เป็นพ่อแม่จริงหรือพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงก็ทำร้ายลูก จนกระทั่งลูกซึ่งยังไร้เดียงสาได้รับอันตรายบาดเจ็บอย่างน่าสงสาร

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อไปว่า ในการป้องกันและแก้ไขนั้น นอกจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาครัฐจะต้องเป็นหลัก ในการที่จะ สร้างความรู้ความเข้าใจความตระหนัก ด้วยการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ให้ผู้ที่อยู่ในสภาพกลุ่มเสี่ยงที่จะใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเด็กและสตรี และตนเองที่เป็นผู้กระทำ ขณะเดียวกันหน่วยงานรัฐก็ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังด้วย พ.ร.บ.คุ้ม ครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว กำหนดว่าผู้ใดกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัวผู้นั้นกระทำความผิดฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน6,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“สำหรับองค์กรพัฒนาเอกชนทางด้านเด็กและสตรีซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปฏิบัติงานของ หน่วยงานรัฐอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเปิดใจกว้าง ที่จะยอมรับให้องค์กรพัฒนาเอกชนเหล่านี้เข้ามาร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีด้วยหรือไม่ เพื่อจะได้ลบล้างสถิติองค์การสหประชาชาติที่ระบุว่าไทยมีสถิติคดีความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกอย่างต่อเนื่อง” นางลดาวัลลิ์กล่าว

ส.ส.ภูมิใจไทยทั่วประเทศ ทยอยแจ้งความสื่อเนชั่นแล้ว

People Unity News : “ศุภชัย”เผย ส.ส.ภูมิใจไทยทั่วประเทศ ทยอยแจ้งความสื่อเนชั่นแล้ว ในฐานะเป็นผู้เสียหาย คาดสัปดาห์นี้ครบทุกเขต

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 จากการที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยได้มีการประชุม เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 และมีประเด็นผู้ดำเนินรายการ”เนชั่นสุดสัปดาห์” 3 คน ได้ดำเนินรายการ กล่าวหาและสร้างความเสียหายต่อพรรคภูมิใจไทย ซึ่งที่ประชุมพรรค มีมติเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อ พรรค ทั้งยังมีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกทั้งในที่ประชุมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับความเสียหาย จึงมีการไปดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ในเขตเลือกตั้งของตนเอง รวมทั้งส.ส.สปาร์ตี้ลิสต์ด้วย เช่นเดียวกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ก็จะมีการไปดำเนินคดีเช่นกัน

นายศุภชัย ใจสมุทร ในฐานะประธานคณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับแจ้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคภท.จากทั่วทุกภาคของประเทศว่า ได้มีการทยอยไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนแล้วกว่า 20 ท่าน ในช่วงตั้งแต่ 5 วันที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือจะมีการทยอยเข้าไปร้องทุกข์ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งแต่ละคดีเป็นเรื่องของผู้เสียหายแต่ละคน พรรคภูมิใจไทยก็ดี นายศักดิ์สยาม ก็ดี เป็นผู้เสียหาย โดยแต่ละคนเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย

นอกจากนี้นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ความเป็นผู้เสียหายในคดี ในการที่จะเข้าไปดำเนินคดีของผู้เสียหายทำได้ 2 กรณีคือ 1 มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดี กับอีกรูปแบบหนึ่งคือผู้เสียหายฟ้องเองซึ่งเรื่องนี้ การที่ผู้เสียหายได้เข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ก็เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าจริงๆแล้วเราต้องการที่จะให้เกิดความเป็นธรรม แบบตรงไปตรงมา เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของอำนาจของพนักงานสอบสวน คิดว่าไม่มีเหตุจำเป็น ที่จะต้องไปฟ้องคดีด้วยตนเอง เพราะจะทำให้เกิดความยุ่งยากต่อจำเลยที่จะต้องไปสู้คดีหลายที่ ซึ่งในวันนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนให้ว่าเป็นตามกระบวนการของกฎหมาย

“เรื่องการดำเนินคดีของผู้เสียหายมันไม่มีความล้าหลังหรือไม่มีความเป็นไดโนเสาร์อะไร ถ้าหากสื่อทำงานโดยสุจริตตามหน้าที่ของตนเอง ไม่มีการนำความเท็จมาใส่ร้ายคนอื่นหรือนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่เป็นการออกอากาศ แล้วใครจะไปกล้าฟ้องร้องหรือดำเนินคดี ทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราดำเนินคดี ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร เป็นเพียงการปกป้องสิทธิและเกียรติภูมิของพรรคภูมิใจไทย โดยสุจริต ถ้าท่านไม่เห็นว่าผิดก็ไปหาทางก็ไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งย่อมปกป้องผู้สุจริตอย่างแน่นอน” นายศุภชัย กล่าว

“หญิงหน่อย”แนะแนว! “การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง”

People Unity News : “หญิงหน่อย”เข้าวัดบรรยายนิสิตป.เอก “มจร” แนะแนว”การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง” ขอทุกพรรคการเมืองจริงใจ ทำกติกาให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ หวังเห็นการแก้ รธน.เป็นวาระแห่งชาติ ส่วนประธาน กมธ.ควรแสดงวิสัยทัศน์ ให้สัญญาประชาคม จะแก้รธน.โดยไม่มีวาระแอบแฝง

วันที่ 9 พ.ย.2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรพิเศษ บรรยายแก่นิสิตดุษฎีบัณฑิต คณะบัญฑิตวิทยาลัย สาขาพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ในหัวข้อ “การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง” ทั้งนี้ดร.คุณหญิงสุดารัตน์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาพระพุทธศาสนา มจร ด้วยดุษฎีนิพนธ์ภายใต้หัวข้อ “พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งการเมืองไทยในปัจจุบัน”

หลังการบรรยาย ดรคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่ สังคมให้ความสนใจในเวลานี้ว่าบุคคลใด จะมาทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการฯ โดยระบุไว้รวม 6 ประเด็น

1.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ สร้างปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง แม้แต่รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้สั่งให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อสืบทอดอำนาจ ก็ไม่สามารถปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของตนเองได้ และนับแต่เป็นรัฐบาลคสช.ต้องออก ม.44 ยกเว้นการใช้บังคับรัฐธรรมนูญหลายครั้ง จนถึงเป็นรัฐบาลปัจจุบัน ก็ยังทำตามรัฐธรรมนูญของตัวเองไม่ได้

2. การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ทำโดยวิธีง่ายๆ คือการแก้ ม.256 เพียงมาตราเดียว เพื่อปลดล็อกให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ โดยจัดให้มีการเลือกตั้ง สสร. ที่มาจากสาขาอาชีพ จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นตัวแทนของประชาชน ในการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้

3. ถ้าทุกพรรคการเมืองจริงใจ ต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ ตั้งใจทำกฎกติกาของประเทศ ให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประเทศ เพื่อประชาชนส่วนใหญ่ มิใช่ทำเพื่อคนบางกลุ่มอย่างในปัจจุบัน ก็สามารถใช้วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ทุกคน ทุกพรรค รวมทั้งภาคประชาชน ภาคเอกชน คณาจารย์ผู้รอบรู้ทั้งหลาย มาร่วมมือกันหาทางออกจากปัญหาความขัดแย้งของประเทศ สร้างความสมานฉันท์ ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยได้ “รัฐธรรมนูญเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ” สร้างกลไกการแก้ไขปัญหาประเทศที่มีประสิทธิภาพ ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศให้ทันโลกได้

4.รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างความมั่นคงและอนาคตให้คนไทย กระจายโอกาสกระจายรายได้ ให้ประชาชนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ลดการใช้อำนาจและทุนผูกขาดประเทศ จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำที่สูงมากอย่างในปัจจุบัน

5. สำหรับตำแหน่งประธานกรรมาธิการ ทุกคนมีสิทธิ์เสนอตัวมามาทำหน้าที่ แต่ผู้เสนอตัวมาทำหน้าที่ประธาน ควรแสดงวิสัยทัศน์ และให้ “สัญญาประชาคม” กับประชาชน ว่าจะมาทำหน้าที่ แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง จริงใจ ด้วยวิธีการและขั้นตอนอย่างไร ให้ได้มาซึ่งการแก้ มาตรา 256 จนถึงการจัดเลือกตั้งสสร. จากประชาชนได้

6. การทำหน้าที่ประธาน จะต้องไม่มีวาระแอบแฝง ไม่เป็นประธานเพื่อมาป่วนและขัดขวางการแก้ไข “รัฐธรรมนูญ เพื่อ ความก้าวหน้าของประเทศ” ในครั้งนี้

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนช่วยกันจับตาดูพฤติกรรมของแต่ละพรรคการเมือง ในการตั้งกรรมาธิการฯเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ดีเพื่อส่งเสียงเรียกร้องความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ให้สำเร็จ

นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังย้ำถึง ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะสื่อสารถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องมีการแก้ไข โดยมีเจตนารมณ์ ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ในสองเรื่องใหญ่ ประกอบด้วยปัญหาความไม่ปรองดอง จากโครงสร้างที่เขียนในรัฐธรรมนูญ และไม่ยึดโยงกับประชาชนแต่ไปยึดโยงกับกลุ่มอำนาจ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นไปเพื่อให้คนกลุ่มเล็ก สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ของประเทศกับไม่มีสิทธิ์มีเสียง ซึ่งนำไปสู่ปัญหา เศรษฐกิจ เพราะเมื่อมีการผูกขาดอำนาจ นโยบายต่างๆจึงเอื้อแค่กลุ่มทุนใหญ่ สิทธิของประชาชน คนตัวเล็ก ที่จะเกิดโอกาสในการทำมาหากิน จึงถูกปิดกั้น การกระจายอำนาจลดน้อยลง ซึ่งการรวมศูนย์อำนาจในลักษณะเช่นนี้เป็นเสมือนการรวมศูนย์ทุน จึงทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอย่างที่เห็น

Verified by ExactMetrics