วันที่ 19 พฤษภาคม 2024

โฆษกรัฐบาลยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม ชี้ยุบสภายิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง

People Unity News : โฆษกรัฐบาลยันรัฐบาลอยู่ครบวาระ แจงยุบสภาฯไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น เผยนายกฯกำชับเร่งคุมการแพร่ระบาดของโควิด ฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด เพื่อเปิดประเทศ ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

12 กันยายน 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาไม่มีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆในรัฐบาล ตนเชื่อว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม และไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องยุบสภาฯ เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอยู่ ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้สนใจเรื่องการเมือง แต่เอาเวลาทั้งหมดไปแก้ปัญหาให้กับบ้านเมืองและประชาชน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 รวมถึงการเยียวยาและฟื้นฟูประเทศ เพราะขณะนี้งานของรัฐบาลคือ การควบคุมการแพร่ระบาด และการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเปิดประเทศได้ ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านนายกฯกำชับว่าเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการก่อนเป็นอันดับแรกหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“วันนี้ถ้ามีการยุบสภาฯ เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สิ่งที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการต่างๆ ก็อาจจะต้องหยุดชะงักไปด้วย ดังนั้น การยุบสภาฯ นอกจากจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ยังอาจจะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปอีกได้ ยืนยันว่า วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคยังคงช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ทางการเมืองนั้นอาจจะมีบ้างเป็นธรรมดา แต่คงไม่ถึงขั้นต้องยุบสภาฯ รัฐบาลอยู่ครบวาระแน่นอน” โฆษกรัฐบาลกล่าว

Advertising

นายกฯแนะนำหนังสือน่าอ่าน ชื่อ “ความรู้เรื่องเมืองไทย”

People Unity News : ประยุทธ์ แนะนำหนังสือน่าอ่าน ชื่อ “ความรู้เรื่องเมืองไทย”

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุมร่วมกับคณะกรรมการและคณะตัวแทนภาคประชาชนเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แนะนำหนังสือน่าอ่านให้แก่คณะที่เข้าพบ มีชื่อว่า “ความรู้เรื่องเมืองไทย” เขียนโดย ดร.วิชิตวงศ์ ณ ป้อมเพชร

ทั้งนี้ เนื้อหาของหนังสือเล่มดังกล่าวเป็นการบรรยายให้มีความรู้จักประเทศไทย เข้าใจสังคมไทย และมีความตระหนักในความเป็นไทย ซึ่งผู้เขียนไม่ได้บรรยายถึงอะไรที่เรียกกันว่า “ฮาร์ดแวร์” ประเภททุ่งนาป่าเขา หรือหาดทรายขาวสะอาดที่มองเห็นสุดสายตา หรือวัดวาอารามและสถาปัตยกรรมที่มีความวิจิตรพิสดารหรือแม้กระทั่งขนบธรรมเนียมประเพณีที่สัมผัสได้ แต่สิ่งที่ผู้เขียนบรรยายเป็นประเภท “ซอฟท์แวร์” คือความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติ ความเชื่อความศรัทธา จิตสำนึก ตลอดจน “สไตล์” อันเป็นลักษณะพื้นฐานของไทยเรา ซึ่งหมายถึง “วิธี” แบบไทยในการคิด การพูดและการทำ แนะนำโครงสร้าง ระบบและกลไกการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจและสังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยหยิบยกเอาประเด็นที่สำคัญและสามารถเข้าใจได้ทันที มาพิจารณาเชิงวิเคราะห์ เช่น เรื่องระบอบการปกครองที่มี “ประชาธิปไตย” เป็นจุดขัดแย้ง เรื่องเศรษฐกิจทุนนิยมที่เข้ามาครอบงำเศรษฐกิจและสังคมไทย เรื่องทัศนะทางสังคมของคนไทยที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและการชี้นำของสื่อโฆษณา ตลอดจนเรื่องที่เกี่ยวกับจิตสำนึกที่ขาดหายไป เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในช่วงเวลาประมาณ 150 กว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นลักษณะของ “วิวัฒนาการสังคม” ที่คนไทยพึงจะต้องมีความรู้และความเข้าใจว่า กว่าที่จะมาถึงวันนี้ สังคมไทยของเราได้ผ่านอะไรมาบ้าง การที่คนไทยมีความรู้สึกนึกคิดที่ผูกพันกับ “วิวัฒนาการสังคมไทย” จะทำให้มีความเข้าใจทั้งปัจจุบันและอนาคต

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอบรรดาสิ่งที่เป็น “จุดแข็ง” ของไทยเรา เช่น สถาบันพระมหากษัตริย์ ความสามัคคีปรองดองระหว่างศาสนาที่ต่างกัน ความเป็นมิตรกับชาวต่างประเทศ ความพร้อมในการรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อความทันสมัย ฯลฯ แม้กระทั่งการให้ความสำคัญต่อผลสำเร็จในเชิงปฏิบัติ และการมีอารมณ์ขันที่คลายความเครียด

Advertising

“ภท.”ยันรัฐบาลไร้รอยร้าวซัดพวกปล่อยข่าวขัดแย้งพรรคร่วม

People Unity News : “ภท.”ยันรัฐบาลไร้รอยร้าวซัดพวกปล่อยข่าวขัดแย้งพรรคร่วม ถ่วงความเจริญบ้านเมือง ชี้หยุดพฤติกรรมหากอยากเห็นประเทศเดินหน้า

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ตอบคำถามถึงประเด็นความขัดแย้งกับพรรคภูมิใจไทยว่า การที่ท่านนายกฯ ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน เพราะในความเป็นจริง พรรคร่วมรัฐบาล ที่มีอยู่เวลานี้ไม่มี รอยร้าว หรือความขัดแย้ง และขอยืนยันตรงนี้พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้ง กับ พรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคการเมืองฝ่ายค้าน รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย รวมถึง ส.ส.ไม่เคยตีรวนให้เกิดรอยร้าว ทุกคนยังคงเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม

“พรรคภูมิใจไทย เป็นสถาบันการเมือง มุ่งมั่นทำงาน เพื่อประชาชน ไม่เคยคิดสร้างความขัดแย้ง ปั่นป่วน ให้ประเทศชาติต้องเสียหาย เวลานี้แม้เราจะถูกป้ายสี ทำลายความเชื่อมั่น เราก็พยายามอดทน ไม่เคยมาเล่นนอกเกมอย่างที่ถูกกระทำ ขอให้ประชาชน ยังคงเชื่อมั่น ในตัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ว่าทั้ง 2 คนจะทำงานโดยยึดประโยชน์ของชาติ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ ยังกล่าวอีกว่า การทำงานที่ผ่านมาในฐานะรัฐบาล ที่มาจากหลายพรรค ทุกฝ่ายทำงานเป็นหนึ่งเดียว มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเพื่อรัฐมนตรีจะได้นำไปดำเนินการ ดังนั้นข่าวความขัดแย้งกันในพรรคร่วมรัฐบาลที่เกิดขึ้นเป็นการพยายามสร้างประเด็นมากกว่า และขอให้หยุดการ
กระทำดังกล่าว เพราะประเทศกำลังจะเดินหน้า หากไม่ช่วยก็อย่าถ่วงความเจริญของบ้านเมือง นอกจากนี้ ตนยังเชื่ออีกว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่เสียสมาธิ กับเรื่องเล็กน้อยเพียงแค่นี้

“ปารีณา”หนาว! “วราวุธ” สั่งสอบที่ดิน 1,700 ไร่ 2 วันรู้ผล

People Unity News : “ปารีณา”หนาว! “วราวุธ” สั่งกรมป่าไม้สอบที่ดิน ภบท. 1,700 ไร่ เป็นของป่าไม้ หรือ สปก.หรือไม่ คาดอีก 2 วันรู้ผล

วันที่ 12 พ.ย.2562 ที่ จ.กาญจนบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยินดีให้ตรวจสอบที่ดิน ภบท.5 กว่า 1,700 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ว่า ตอนนี้ได้ให้กรมป่าไม้ตรวจสอบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร เพราะที่ดิน ภบท.นั้น มีอยู่มากมายเหลือเกิน

ดังนั้นในเบื้องต้นต้องดูก่อนว่าพื้นที่ที่ดินดังกล่าว1,700 ไร่นั้น เป็นของหน่วยราชการใดที่เป็นคนรับผิดชอบ ป่าไม้ หรือสปก. ซึ่งถ้าเป็นของกรมป่าไม้ก็ต้องมาพิจารณากันว่าหลักเกณฑ์การได้มาได้มาตั้งแต่เมื่อไหร่อย่างไร แล้วถึงว่ากันตามระเบียบเพราะทุกอย่างเขียนไว้ชัดเจนไม่มีอะไรซับซ้อนเช่นกัน ซึ่งคงต้องใช้เวลาตรวจสอบ อีก 1-2วัน เนื่องจากขณะนี้ ประชุมคณะรัฐมนตรีกันอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี

“ธรรมนัส”รับไม่หนักใจสั่งเลขาฯสปก.สอบแล้ว

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เลขา สปก.ดำเนินการตรวจสอบที่มาที่ไปของที่ดินดังกล่าว และรายงานกลับมาภายในบ่ายวันนี้ ว่าที่ดินดังกล่าวได้เข้าสู่กระบวนการการปฏิรูปที่ดินหรือไม่ ซึ่งหากเข้าสู่การปฏิรูปแล้วต้องดูวัตถุประสงค์การถือครองที่ดินด้วย พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่หนักใจ แม้เป็นคนในพรรค โดยจะยึดกฎหมายเป็นหลัก

ขณะที่กรณีการครองครองที่ดิน ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นั้น ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ สปก.แต่เป็นป่าชุมชน

เผยผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลมาก-มากที่สุด

People Unity News : เผยผลสำรวจ ประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจ และเชื่อมั่นต่อการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ในระดับมาก-มากที่สุด

วันที่ 20 ม.ค.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบผลการสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ.2564 พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาต่างๆของประเทศในระดับมากถึงมากที่สุดที่ร้อยละ 45.5 และประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของรัฐบาลในระดับมากถึงมากที่สุดที่ ร้อยละ 47.2 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์สมาชิกในครัวเรือนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 46,600 คน ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน – 8 ธันวาคม 2563

ผลการสำรวจความต้องการของประชาชน พ.ศ. 2564 ได้แก่

-ของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาลในปี 2564 ใน 5 อันดับแรก คือ ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค-บริโภค ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา (ร้อยละ 79.4)  เพิ่มมาตรการ/สวัสดิการต่างๆ เช่น โครงการคนละครึ่ง เบี้ยยังชีพคนชรา  (ร้อยละ 27.1) แก้ปัญหาด้านการเกษตร เช่น จัดหาตลาดรองรับผลผลิต  แก้ปัญหาราคาพืชตกต่ำ (ร้อยละ 19.7) แก้ปัญหาการว่างงาน (ร้อยละ 15.1) ชดเชยรายได้ที่สูญเสียจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 (ร้อยละ 12.9)

-ความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับในปี 2563 ใน 5 อันดับแรก คือ ค่าครองชีพสูง เช่น สินค้าอุปโภค บริโภค ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง (ร้อยละ 75.2) ปัญหาจากการทำการเกษตร เช่น ต้นทุนสูง ผลผลิตราคาตกต่ำ (ร้อยละ 40.4) ไม่มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ (ร้อยละ 27.8) รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย / รายได้ลดลง (ร้อยละ 19.8)  และหนี้สินในระบบ/นอกระบบ (ร้อยละ 15.0)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี 17 มิถุนายน 2545 ที่ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจความต้องการของประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมสะท้อนปัญหาความเดือดร้อน ความต้องการที่จะให้รัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ รวมทั้งจะเป็นข้อมูลให้รัฐบาล หน่วยงานท้องถิ่น นำไปเป็นแนวทางในการติดตาม วางแผนกำหนดนโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนต่อไป

Advertising

“เพื่อไทย”ผุดโมเดลซอยลงทุนภาครัฐสร้างงานให้ประชาชน

People Unity News : “เพื่อไทย”จี้รัฐบาลเร่งสร้างงานให้ประชาชน ผุดโมเดลซอยลงทุนภาครัฐเป็นโครงการย่อย

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การจ้างงาน ปัญหากำลังซื้อของประชาชน และแนวทางการลงทุนภาครัฐช่วงเศรษฐกิจขาลงว่า ปัญหาปัจจุบันเหมือนห่วงโซ่ ประชาชนขาดกำลังซื้อ ภาคเอกชนจึงไม่ลงทุน เพราะลงทุนไปก็ไม่มีคนซื้อ เมื่อเอกชนไม่ลงทุน ก็ไม่เกิดการจ้างงาน ประชาชนก็ยิ่งไม่มีงานทำ ก็ยิ่งไม่มีกำลังซื้อหนักเข้าไปอีก เป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถามว่าแก้วงจรนี้อย่างไร จะหวังให้เอกชนลงทุนในภาวะแบบนี้ก็คงยาก

การลงทุนภาครัฐจึงต้องเป็นคำตอบในการสร้างงานให้ประชาชนในระยะเริ่มแรก แต่การลงทุนภาครัฐอย่างที่ทำๆกันมา มันยังไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ ต้องมาคิดกันใหม่ ปัจจุบันการลงทุนภาครัฐ ส่วนมากเป็นเมกะโปรเจกต์ ทุนใหญ่ไม่กี่บริษัทที่ได้รับประโยชน์ ห่วงโซ่การผลิตจึงแคบมาก การจ้างงานจึงเกิดในวงแคบ ประชาชนเลยรู้สึกว่าไม่มีงานทำ ผลต่อระบบเศรษฐกิจเกิดขึ้นช้า กว่าเม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบใช้เวลา 1-2 ปี เป็นอย่างน้อย

ในสภาวะเช่นนี้ เราต้องการ “ความรวดเร็ว” ของเม็ดเงินพุ่งสู่มือประชาชนผ่านการจ้างงาน เราต้องการเห็นผู้ได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐให้มากรายที่สุด รัฐบาลควรขับเคลื่อนด้วย “การลงทุนภาครัฐขนาดเล็ก แต่มากโครงการ” แทนโครงการขนาดใหญ่ไม่กี่โครงการ ซอยผู้ได้ประโยชน์ให้แก่บริษัทให้มากรายที่สุด สร้างห่วงโซ่การผลิตที่กว้างขึ้น.. SMEs อุตสาหกรรมกลางน้ำจะเกิดขึ้นเป็นทวีคูณ และจะเกิด “การจ้างงานในวงกว้างและทั่วถึงให้กับประชาชน” เกิดกำลังซื้อขึ้นรวดเร็ว และเงินเข้าสู่ระบบเร็วกว่า

การลงทุนภาครัฐเป็นเครื่องสำคัญ แต่ต้องใช้ให้เหมาะกับสภาวการณ์ ซึ่งถ้ารัฐบาลยังคงทำแบบเดิมอยู่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ กำลังซื้อจะไม่ฟื้น ประชาชนอดตายก่อน ภาคเอกชนรายเล็กอดตายตาม และในที่สุดภาคเอกชนขนาดใหญ่ก็จะไม่รอด ถ้าถึงขั้นนั้นแล้ว ก็พยุงเศรษฐกิจจะยิ่งยากเป็นทวีคูณ

ครม.อนุมัติงบเงินกู้ 3.59 หมื่นล้าน ซื้อวัคซีนไฟเซอร์-แอสตร้าฯ 90 ล้านโดส

People Unity News : ครม. ไฟเขียว 3.59 หมื่นล้าน ซื้อวัคซีนไฟเซอร์ – แอสตร้าฯ 90 ล้านโดส เยียวยาผู้ประกันตนสถานบันเทิง และกระตุ้นท่องเที่ยว

22 ธ.ค.64 ที่ประชุม ครม. (21 ธ.ค.) เห็นชอบการใช้เงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคโควิด-19 กรอบวงเงิน 35,967 ล้านบาท ใน 3 โครงการ ดังนี้

1.โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประจำปี 2565 รวม 90 ล้านโดส กรอบวงเงิน 35,060 ล้านบาท แบ่งเป็นวัคซีน  Pfizer 30 ล้านโดส และวัคซีน AstraZeneca 60 ล้านโดส

2.โครงการเยียวยาผู้ประกันตน ผู้ประกอบอาชีพอิสระในกิจการสถานบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการรัฐ กรอบวงเงิน 607.15 ล้านบาท โดยเยียวยารายละ 5,000 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 121,431 คน

3.โครงการ Thailand Festival Experience กรอบวงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ และสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว – บริการกว่า 2,347 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่ โครงการ Amazing Sports & Extreme Month, โครงการ Dazzling of the Andaman และโครงการ Music Festival & Rhythm in Memory

Advertising

โฆษกปชป. แนะทุกฝ่ายยึดหลักศึกษาแก้ไข รธน. ให้เป็นปชต.เต็มรูปแบบ

People Unity News : โฆษก ปชป. แนะ ทุกฝ่ายยึดหลักศึกษาแก้ไข รธน. ให้เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ เพื่อประโยชน์ “ประชาชน-ประเทศชาติ” เตือนอย่าโต้เถียงจนขัดแย้งทางการเมือง

วันที่ 9 พ.ย.2562 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประเด็นดังกล่าวขอให้ทุกฝ่ายอย่าโต้เถียงกันจนเป็นประเด็นขัดแย้งในทางการเมือง แต่ควรยึดหลักให้ได้ว่าหลักที่สำคัญที่จะเดินไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบมากขึ้น ประชาชนประเทศชาติได้ประโยชน์เราจะมาช่วยกันอย่างไรให้ไปถึงจุดนั้น แน่นอนว่าพรรคการเมือง รัฐบาล รัฐสภา ก็จะเป็นหลักในการขับเคลื่อน เมื่อขณะนี้มีญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้เข้าสู่การแก้ไข แต่เป็นการตั้งคณะกรรมาธิการมาเพื่อศึกษา อย่าให้เสียหลักตั้งแต่เริ่มตั้งต้น มีส่วนไหนที่ควรนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อกำหนดทิศทาง ส่วนไหนของรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนไหนที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ ส่วนไหนที่ควรกำหนดไว้ให้เป็นสิทธิของประชาชนกลับคืนมา การแก้ไขที่กำหนดให้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขยากทำอย่างไรที่จะทำเป็นการแก้ไขโดยใช้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ก็จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี คนที่มีความสามารถ คิดดี ทำดี มีแง่มุม มีประสบการณ์ ปราศจากอคติทั้ง 4 คิดโดยยึดหลักเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศ ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้โดยผ่านกลไกการเสนอของพรรคการเมือง หรือ รัฐบาล

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองแรกที่ชูธงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล จนนำไปสู่การกำหนดไว้เป็นนโยบายของรัฐบาล มีหลักการคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศเพื่อระบบประชาธิปไตยที่ดีขึ้นมีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น และล่าสุดมติที่ประชุม ส.ส. ก็ชัดเจนว่าสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ และพร้อมสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมติที่ประชุม ส.ส.ก็ให้วิปของพรรคไปพูดคุยกับวิปรัฐบาล พรรคร่วม และพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อได้ข้อหารือความเห็นพ้องต้องกันว่าทุกพรรคการเมืองจะมีแนวทางอย่างไร ผลเป็นเช่นใด วันอังคารที่จะถึงนี้ก็จะมีการกลับมารายงานก็ว่ากันไป ตามมติที่ประชุม ส.ส.พรรค มีกลไกเหล่านี้อยู่ ท้ายที่สุดก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภา

นายกฯมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่

People Unity News : นายกฯ รับมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานฯ ย้ำรัฐบาลไม่เคยท้อ พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่

วันนี้ (11 พฤษภาคม 2564 ) เวลา  09.00  น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ให้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงาน คปภ. สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้าพบเพื่อมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อส่งมอบแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 274,000 ราย วงเงินความคุ้มครอง 275,410 ล้านบาท เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรดังกล่าว

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณสำนักงาน คปภ. สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ได้มอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความเสียสละ และเสี่ยงภัยตลอดเวลา ในส่วนของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนก็พยายามทำอย่างเต็มที่และให้ดีที่สุด ขอยืนยันนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไม่ท้อแท้ แม้ที่ผ่านมาจะมีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนต่างๆ แต่เชื่อมั่นภายในระยะเวลาไม่นานทุกอย่างจะดีขึ้น ขณะนี้ได้สั่งการให้เร่งรัดฉีดวัคซีนให้มากขึ้นตามปริมาณวัคซีนที่กำลังจะเข้ามาเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนระมัดวังดูแลตัวเองให้ดีที่สุดและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พัฒนาแบบกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด -19 ซึ่งคุ้มครองการเสียชีวิต ภาวะโคม่าเนื่องมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และผลประโยชน์กรณีตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 โดยสำนักงาน คปภ. สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จะร่วมกันสนับสนุนค่าเบี้ยประกันภัยเต็มจำนวนครอบคลุมบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด -19 จำนวน 274,000 ราย เบี้ยประกันภัยรวมกว่า 38,000,000 บาท และวงเงินความคุ้มครองรวมกว่า 275,410 ล้านบาท โดยแต่ละรายจะได้รับ ความคุ้มครองจาก 3 กรมธรรม์ ดังนี้

1.กรมธรรม์คุ้มครองการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะเวลาคุ้มครอง 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ จำนวนเงินความคุ้มครอง 1,000,000 บาท ต่อราย

2.กรมธรรม์คุ้มครองภาวะโคม่าอันเนื่องมาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ จำนวนเงินความคุ้มครอง 1,000,000 บาท ต่อราย

3.กรมธรรม์คุ้มครองผลประโยชน์กรณีพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่แจ้งรายชื่อ จำนวนเงินความคุ้มครอง 10,000 บาท ต่อราย

4.กรณีที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จำนวนเงินความคุ้มครอง 10,000 บาท ต่อราย

นอกจากนี้สมาคมประกันวินาศภัยไทยยังจะบริจาคมอบเครื่องช่วยหายใจให้แก่โรงพยาบาลบุษราคัม (โรงพยาบาลสนาม) ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อ COVID-19 ให้สามารถดูแลรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที จำนวน 50 เครื่อง รวมมูลค่า10,500,000 บาทด้วย

Advertising

“บิ๊กป้อม”แนะน้อมนำศาสตร์พระราชา-ศก.พอเพียง ขับเคลื่อนยกระดับคุณภาพชีวิตประชา

People Unity News :  “ประวิตร”ย้ำทุกส่วนราชการกาญจนบุรี ต้องลงพื้นที่เดินงานให้ตรงความต้องการของประชาชน มุ่งเสมอภาคและเท่าเทียมกัน น้อมนำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

วันที่ 11 พ.ย.2562 เวลา 09.00 น. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมติดตามและมอบนโยบายการปฏิบัติงานในพื้นที่ ณ ศาลากลาง จ.กาญจนบุรี โดยได้กล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับทุกส่วนราชการของ จ.กาญจนบุรี ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมขับเคลื่อนงานตามนโยบายที่ผ่านมาให้มีความคืบหน้าในทุกด้าน โดยได้ย้ำนโยบายสำคัญ ให้ร่วมสร้างความตระหนักรู้กับประชาชน ถึงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่ต้องดำรงรักษาไว้เพื่อสันติสุขของบ้านเมือง และให้น้อมนำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งให้ทำความเข้าใจและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน สร้างความปรองดองสมานฉันท์ในสังคม ขณะเดียวกันจำเป็นต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหา แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนม่าในพื้นที่ ให้ครอบคลุมทั้งระบบและต้องไม่ให้มีการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด

สำหรับการพัฒนาระดับพื้นที่ ทุกส่วนราชการต้องลงพื้นที่ ดูปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน โดยจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายในการส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษและการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ชัดเจน เพื่อการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค และเสริมจุดแข็ง กระจายประโยชน์ในพื้นที่ให้ทั่วถึง ในขณะเดียวกัน ต้องเร่งรัดจัดที่ดินทำกินให้ชัดเจนขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านสามารถยืนและตั้งหลักได้บนที่ดินทำกินได้อย่างแท้จริง ควบคู่ไปกับการกระจายน้ำ การปรับปรุงแหล่งเก็บกักน้ำให้เพียงพอเพื่อการเกษตรในพื้นที่อย่างทั่วถึง นอกจากนั้น การดูแลแหล่งต้นน้ำเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องส่งเสริมโครงการป่าชุมชนให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยกันฟื้นฟูรักษาทรัพยากรน้ำและป่าไม้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตรได้กำชับกับทุกส่วนราชการว่า ความสงบและความมั่นคงในพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกส่วนราชการในพื้นที่ จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและทั่วถึง บนพื้นฐานของความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดยยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อมุ่งลดเงื่อนไขความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้มากที่สุด ตามนโยบายหลักของรัฐบาล

Verified by ExactMetrics