วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

“ธณิกานต์”เผยรับสมัคร”เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน”ร่วมออกแบบกรุงเทพฯ

People Unity News : “ธณิกานต์”ประธานอนุฯพัฒนาการเมือง เปิดรัฐสภารับสมัคร “เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน”ร่วมออกแบบกรุงเทพฯ

วันที่ 11 พ.ย.2562 ประเทศชาติไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นความรับผิดชอบของเราทุกคน โครงการ ‘Active Citizenship : เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน’ คือ โอกาสอันดีของเยาวชนในการส่งเสียงเพื่อชาติ เสียงที่จะมีภาครัฐและผู้บริหารประเทศมารับฟัง และนำไปต่อยอดให้เป็นรูปธรรม ด้วยการมา workshop ออก idea ร่วมกับพี่ๆภาครัฐและกลุ่มการเมือง เพื่อสร้างบ้านกรุงเทพของเราร่วมกัน

น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตบางซื่อ-ดุสิต ประธานคณะอนุกรรมาธิการการสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชนฯ สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวว่า คณะอนุฯ เตรียมเปิดรัฐสภาแห่งใหม่ ต้อนรับเยาวชนกว่า 250 คน ที่เข้าร่วมโครงการ ‘Active Citizenship : เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน’ ซึ่งกิจกรรมจะจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของประเทศไทย ชื่อว่า ‘สัปปายะสภาสถาน’ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศ เยาวชนผู้เข้าร่วมทุกทีมจะได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมองกับพี่ๆนักการเมืองรุ่นใหม่ คณะรัฐมนตรีและทีมผู้บริหารประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเข้ามารับฟัง เพื่อกำหนดนโยบายจากเสียงเยาวชนอย่างแท้จริง

โครงการประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก คือ 1) Open House ให้เยาวชนมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรม workshop เปิดโลกทัศน์ใหม่ ในสถานที่ทำงานจริง รัฐสภาแห่งใหม่ 2) On Field การลงพื้นที่ทำงานจริง สำรวจ เลือกพื้นที่ใกล้ตัว จุดประกายการเปลี่ยนแปลง 3) Voice your idea นำเสนอไอเดียกับผู้มีอำนาจตัดสินใจ

สอบถามเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ – 24 พฤศจิกายนนี้ ที่ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ รัฐสภา โทร. 0-2244-2640-41 และ Facebook/เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน LINE : @ActiveCitizenship

“บิ๊กป้อม”แนะน้อมนำศาสตร์พระราชา-ศก.พอเพียง ขับเคลื่อนยกระดับคุณภาพชีวิตประชา

People Unity News :  “ประวิตร”ย้ำทุกส่วนราชการกาญจนบุรี ต้องลงพื้นที่เดินงานให้ตรงความต้องการของประชาชน มุ่งเสมอภาคและเท่าเทียมกัน น้อมนำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

วันที่ 11 พ.ย.2562 เวลา 09.00 น. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมติดตามและมอบนโยบายการปฏิบัติงานในพื้นที่ ณ ศาลากลาง จ.กาญจนบุรี โดยได้กล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับทุกส่วนราชการของ จ.กาญจนบุรี ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมขับเคลื่อนงานตามนโยบายที่ผ่านมาให้มีความคืบหน้าในทุกด้าน โดยได้ย้ำนโยบายสำคัญ ให้ร่วมสร้างความตระหนักรู้กับประชาชน ถึงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่ต้องดำรงรักษาไว้เพื่อสันติสุขของบ้านเมือง และให้น้อมนำศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในการขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งให้ทำความเข้าใจและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน สร้างความปรองดองสมานฉันท์ในสังคม ขณะเดียวกันจำเป็นต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหา แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนม่าในพื้นที่ ให้ครอบคลุมทั้งระบบและต้องไม่ให้มีการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด

สำหรับการพัฒนาระดับพื้นที่ ทุกส่วนราชการต้องลงพื้นที่ ดูปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน โดยจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายในการส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษและการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ชัดเจน เพื่อการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค และเสริมจุดแข็ง กระจายประโยชน์ในพื้นที่ให้ทั่วถึง ในขณะเดียวกัน ต้องเร่งรัดจัดที่ดินทำกินให้ชัดเจนขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านสามารถยืนและตั้งหลักได้บนที่ดินทำกินได้อย่างแท้จริง ควบคู่ไปกับการกระจายน้ำ การปรับปรุงแหล่งเก็บกักน้ำให้เพียงพอเพื่อการเกษตรในพื้นที่อย่างทั่วถึง นอกจากนั้น การดูแลแหล่งต้นน้ำเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องส่งเสริมโครงการป่าชุมชนให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยกันฟื้นฟูรักษาทรัพยากรน้ำและป่าไม้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตรได้กำชับกับทุกส่วนราชการว่า ความสงบและความมั่นคงในพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกส่วนราชการในพื้นที่ จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและทั่วถึง บนพื้นฐานของความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดยยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นหลัก เพื่อมุ่งลดเงื่อนไขความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมให้มากที่สุด ตามนโยบายหลักของรัฐบาล

“บิ๊กตู่”สั่งเหล่าทัพร่วมสนับสนุนประชุม”รมว.กห.อาเซียน”สมเกียรติ

People Unity News : “บิ๊กตู่”สั่งเหล่าทัพร่วมสนับสนุนประชุม”รมว.กห.อาเซียน”สมเกียรติ ระหว่าง 16- 19 พ.ย.นี้ ภายใต้หลักคิดความมั่นคงที่ยั่งยืน

วันที่ 11 พ.ย.2562 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม(กห.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ เตรียมความพร้อมสนับสนุนการจัดประชุม รมว.กลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ( ADMM Retreat ) และการประชุม รมว.กห.อาเซียนกับ รมว.กห.ประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 6 ( ADMM – Plus ) ที่ กห.กำหนดเป็นเจ้าภาพจัดให้มีขึ้นระหว่าง 16- 19 พ.ย.62 ณ รร. Avani+ Riverside กรุงเทพฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประสบความสำเร็จ สมเกียรติของ กห.และประเทศไทย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 62

“โดยขอให้ดำรงแนวคิดหลักในการเสริมสร้างความร่วมมือในกรอบ-ADMM-และ-ADMM-Plus-คือ “ความมั่นคงที่ยั่งยืน” พร้อมทั้งมุ่งส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจ และเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างอาเซียนกับประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคให้ครอบคลุมในทุกมิติ ยึดหลักความเป็นแกนกลางของอาเซียน-(ASEAN-Centrality) เป็นหัวใจสำคัญในการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพต่อความท้าทายด้านความมั่นคงที่สำคัญของภูมิภาค”

โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า รมว.กลาโหมประเทศต่างๆ จะเริ่มทยอยเดินทางมาตั้งแต่ 16 พ.ย.62 โดยมีกิจกรรมที่สำคัญดังนี้ 16 พ.ย.62 : – การหารือทวิภาคี 17 พ.ย.62 : – การประชุม รมว.กห.อาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ (ADMM Retreat) – การประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน +1 อย่างไม่เป็นทางการ (ADMM+1 Informal Meeting) 18 พ.ย.62 : – พิธีเปิดงาน Defense & Security 2019 – การประชุม ADMM-Plus ครั้งที่ 6
– การส่งมอบการเป็นประธานการประชุม ADMM ให้กับ กลาโหมเวียดนาม 19 พ.ย. 62 : กิจกรรมสันทนาการ

“ลูกท็อป”แนะ”ปธ.กมธ.ศึกษาแก้รธน.”ต้องมีลูกล่อลูกชน

People Unity News : “วราวุธ”เชื่อปมแก้รธน.ไม่ทำพรรคร่วมแตก ชี้คุณสมบัติ “ปธ.กมธ.” ต้องมีลูกล่อลูกชน-ชำนาญกฎหมาย

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่โรงยิมเนเซี่ยม องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงผู้ที่จะดำรงตำแหน่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในสัดส่วนของพรรคชทพ.นั้น ว่า ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.) พรรคชาติไทยพัฒนา จะมีการหารือกัน โดยพรรคก็คงได้สัดส่วนหนึ่งคน เพราะเรามีส.ส.เพียง 11 เสียง ดังนั้น จึงจะมีการหารือกันว่าใครจะเป็นบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นตัวแทนของพรรค ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถบอกว่าใครเหมาะสม เพราะถ้าพูดตอนนี้ก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว จึงขอให้รอมติพรรคดีกว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าแกนนำของแต่ละพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการหารือกันระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จ.ราชบุรีนั้น ถึงวันนี้ ยังไม่มีใครได้พูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม ก็มีการพูดคุยกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการเปิดวงคุยแบบกิจลักษณะ เป็นแค่ลักษะพูดคุยและกินกาแฟร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เสนอให้ดำรงตำแหน่งประธานกมธ.นั้น ทางพรรคไม่ขัดข้องใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า อย่างที่เคยพูดไว้ว่าเบื้องต้นเราจะต้องฟังก่อน ว่าในที่ประชุมของพรรคร่วมรัฐบาลมีแนวทางและความคิดอย่างไร เพื่อนำผลไปหารือกับทางพรรคอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามอีกว่าคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นประธานกมธ.ควรมีลักษณะอย่างไร อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีความเหมาะสมหรือไม่ หากเทียบเคียงกับ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฏร นายวราวุธ กล่าวว่า บุคคลที่เหมาะสม จะมาทำหน้าที่ตรงนี้มีหลายท่าน แต่ทั้งหมดต้องเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ คร่ำหวอดในวงการการเมือง โดยเฉพาะในเรื่องของกฎหมาย และประการสำคัญจะต้องสามารถยืดหนุ่นในการทำงานได้ เพราะต้องมีการประสานกับทุกฝ่าย เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ข้อดีมีมาก แต่ข้อที่จะต้องปรับปรุงก็มีบางส่วน ดังนั้น ผู้ที่จะมานั่งเป็นประธานกมธ. จะต้องบาลานซ์ความต้องการทุกฝ่ายได้ จึงจำเป็นต้องมีประสบการณ์และลูกล่อลูกชนมากพอสมควร

“ในเรื่องการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ผมพูดมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่เป็นหนึ่งในรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด หรือแม้แต่รัฐธรรมนูญปี 2550 รวมทั้งฉบับปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าทุกฉบับมีบางเรื่องที่ควรจะมีการแก้ไข เพราะช่วงที่ร่างกับช่วงที่นำมาปฏิบัติใช้มีความยากง่ายแตกต่างกันไป เพราะห้วงเวลาต่างกัน มีทั้งข้อจำกัด และบริบทของสังคมที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละฉบับมีข้อดี ข้อด้อยที่แตกต่างกัน จะต้องมานั่งคุยกันว่ามีประเด็นใดบ้างที่ควรจะแก้ไข” นายวราวุธ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าการชิงเก้าอี้ตำแหน่งประธานกมธ. จะเกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมานั่งคุยกัน แต่คิดว่าไม่มีความขัดแข้งใดๆ

“ปารีณา”สุดปลื้ม! “บิ๊กตู่”เตรียมขนครม.สัญจร”ราชบุรี-กาญจนบุรี”

People Unity News : “บิ๊กตู่” เตรียมขนคณะรัฐมนตรี เยือน”ราชบุรี-กาญจนบุรี” ประชุมครม.สัญจร ครั้งแรก ขณะที่ 3 สาว ส.ส.ราชบุรี พลังประชารัฐ ยินดีนายกฯลงพื้นที่ หวังพัฒนาภาคตะวันตก

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 11 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม จะนำคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ ที่จังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมจะประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ เป็นครั้งแรก หลังมีรัฐบาลใหม่ โดยบรรยากาศ การเตรียมความพร้อมตามสถานที่ต่างๆ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จะลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่ ได้เตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว รวมถึงได้มีการกระจายกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรด้วย หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องให้โรงเรียนหยุด เพื่อลดปัญหาการจราจร

ขณะที่กำหนดการ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาถึงจังหวัดราชบุรี ตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยจะเริ่มด้วยการ นั่งเฮลิคอปเตอร์ ตรวจระบบโลจิสติกส์ โครงการทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อ ที่สามแยกวังมะนาว ก่อนมาถึงโรงยิมเนเซี่ยม องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เพื่อเป็นประธานสักขีพยาน มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรือ อยู่อาศัย ในพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน พร้อมพบปะประชาชน

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางต่อไปยังอำเภอดำเนินสะดวก เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาคูคลอง โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำ ซึ่งจุดนี้ จะมีการลงเรือด้วยส่วนช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จะตรวจเยี่ยมโครงการจัดระเบียบแพ ที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี ก่อนพบปะประชาชน ที่โรงงานกระดาษไทย และช่วงค่ำ พล.อ.ประยุทธ์ จะร่วมลอยกระทงกับชาวกาญจนบุรีด้วย

โดยนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บอกว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มาประชุมแถบภาคตะวันตก ซึ่งในแถบภาคตะวันตก ที่ผ่านมา ยังมีการพัฒนาที่ไม่มากพอ ทำให้ประชาชนบางส่วน ต้องไปทำงานในภาคตะวันออก โดยการประชุมคณะรัฐมนตรี ภาคตะวันตก ก็หวังว่า ภาคตะวันตก จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี เพราะพญามาเหยียบเมืองภาคตะวันตก ทุกอย่างต้องดีขึ้น นอกจากนี้ เชื่อว่า ความเจริญที่ครม.ลงมา ถ้าสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทุกอย่างจะเปลี่ยนและดีขึ้น

ขณะที่ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บอกว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และคณะที่เดินทางมา โดยถือว่า เป็นโอกาสที่ดีที่นายกฯมารับรู้ และรับฟังปัญหา ในสิ่งที่ชาวราชบุรี อยากให้เกิดขึ้น อาทิ ถนน แหล่งน้ำ ความเป็นอยู่ การพัฒนาภาคตะวันตก รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะศึกษาโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันตก จึงขอฝากนายกฯมาร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาภาคตะวันตก

ส่วน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่า พวกเราส.ส.ราชบุรี รู้สึกดีใจ ที่นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี เดินทางมาเยืิอนจังหวัดราชบุรี ซึ่งการเดินทางมาเยือนครั้งนี้ ก็มีประชาชน รอต้อนรับ และเตรียมที่จะพบปะพูดคุย

“ธนาธร”ร่วมจัดกิจกรรม “ฟิวเจอร์ แคมป์” รณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก

People Unity News : “ธนาธร”ร่วมเปิดศูนย์”อนาคตใหม่ฝั่งธนบุรี” จัดกิจกรรม “ฟิวเจอร์ แคมป์” เชื่อมโยงพรรค-สมาชิก ชี้ “พรรคการเมือง” เป็นเพียงยานพาหนะที่ทำให้ฝันเป็นจริง ด้าน “ไพบูลย์” ว่าที่ผู้สมัคร อบจ.นนท์ เปิดเวทีระดมความคิดผลิตนโยบาย สู้ศึกเลือกตั้งท้องถิ่น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ที่ศูนย์​ประสานงานพรรคอนาคต​ใหม่ ฝั่ง​ธนบุรี​ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อม ส.ส.ของพรรคคับคั่ง อาทิ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ร่วมเปิดศูนย์ประสานงาน​พรรคอนาคตใหม่ฝั่งธนบุรี​ เพื่อกระจายอำนาจการบริหารและขยายงานจากสำนักงานใหญ่​ อีกทั้งเป็นศูนย์รับเรื่องร้องเรียน และพบปะกับ ส.ส.​ของพรรค โดย บรรยากาศในงานมีประชาชนมาร่วมอย่างคับคั่ง​ มีร้านอาหารของดีจากฝั่งธนบุรีเปิดบูธขายภายในงาน อาทิ ผัดไทย​โบราณ ข้าวคลุกกะปิ​เจ้าดัง เป็นต้น  โดยนายธนาธรได้แจกถุงผ้าให้กับสื่อมวลชนและสาธิตการใช้จานจากใบสักและกาบต้นตาล เพื่อช่วยรณรงค์ลดการใช้พลาสติก

นายธนาธร กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการตั้งศูนย์ฯ เนื่องจากต้องการให้ประชาชนเข้าถึงพรรค และเชื่อมโยงกับพรรคได้โดยง่าย เพราะกรุงเทพฯ เป็นจังหวัดที่ใช้ระยะเวลาการเดินทางนาน ชาวฝั่งธนบุรีจะเดินทางไปสำนักงานใหญ่ของพรรค ถนนเพชรบุรีตัดใหม่อาจใช้เวลาหลายชั่วโมง ดังนั้น การเปิดศูนย์ฯครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนฝั่งธนบุรี ได้มีพื้นที่ในการเชื่อมโยงกับพรรคและพบปะกับ ส.ส.ของพรรคได้โดยง่าย

เป็นพื้นที่สำหรับทุกคน – เดินหน้าสร้างพรรคมวลชน

นายธนาธร กล่าวว่า การที่เราตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา สิ่งที่อยากเห็นคือ เป็นพรรคการเมืองที่ยึดโยงกับประชาชน เข้มแข็งจากรากฐาน จากสมาชิกพรรค แต่เนื่องด้วยมรสุมต่างๆ ที่ตนเองและพรรคเจอ ทำให้เราลงทุนในเวลาเรื่องนี้ไม่เพียงพอที่จะสร้างพรรคแบบที่เราอยากเห็น ดังนั้น ในปีหน้า เราจะกลับมาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคของมวลชนอย่างแท้จริง ให้เป็นพรรคที่เสียงของสมาชิกสามารถกำหนดทิศทาง ส่วนพรรคการเมืองเป็นเพียงยานพาหนะ เป็นเพียงกลไล ที่จะทำให้ความฝันของสมาชิกเป็นจริงได้ จึงหวังว่าที่ศูนย์ฯ ฝั่งธนบุรี จะเป็นชุมชนของผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้น่าอยู่และอยู่ร่วมกันได้โดยสันติ

“ศูนย์ฯ ฝั่งธนบุรี เกิดขึ้นจาก ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ฝั่งธนบุรี ผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะต้องการให้ประชาชนเข้ามาใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ สามารถจัดกิจกรรมต่างๆ เสนอแนะ ผลักดันเรื่องต่างๆทางการเมือง เหมือนที่จะได้มีการจัดกิจกรรมฟิวเจอร์แคมป์ ในงานวันนี้ด้วย ผมยืนยันว่าศูนย์ฯ ฝั่งธนบุรี รวมถึงศูนย์หรือสาขาพรรคทั่วประเทศ เป็นพื้นที่เปิดรับสำหรับประชาชนทุกคน” นายธนาธร กล่าว

ถกเข้มเรื่องท้องถิ่น – 6 ส.ส.ฝั่งธนบุรีโชว์วิสัยทัศน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันในการจัดกิจกรรมเปิดศูนย์ฯ ฝั่งธนบุรี มีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมงานโดยตลอดทั้งวัน ร่วมสมัครสมาชิกพรรค และเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก ทั้งนี้กิจกรรมหลักของพรรคที่ 3 เรื่องที่จัดขึ้นในวันเดียวกันนี้คือ 1.ฟิวเจอร์แคมป์ การร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบายสำหรับการพัฒนาฝั่งธนบุรี 2.ฟิวเจอร์ริสต้า การรับสมัครอาสาสมัครช่วยงาน และ 3.ฟู้ดธน หรือการรวบรวมอาหารดี ของดี ฝั่งธนบุรีมาเปิดร้านจำหน่ายระดมทุน

ทั้งนี้ ในช่วงเย็นยังมีเวทีเสวนาเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น โดย นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค รวมถึงกิจกรรมส่งท้ายนั่นคือการพูดคุยถึงวิสัยทัศน์ฝั่งธนบุรี โดย ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ฝั่งธนบุรีทั้ง 6 คน ได้แก่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ , นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร, นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์, นายทศพร ทองศิริ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และนายโชติพัฒน์ เตชะโสภณมณี

“ไพบูลย์” ว่าที่ผู้สมัคร อบจ.นนท์ เปิดเวทีระดมสมอง

เวลา 13.00 น. ที่ลานเอนกประสงค์ ตลาดน้ำวัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงาน นายไพบูลย์ กิจวรวุฒิ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นนทบุรี และศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ จ.นนทบุรี จัดกิจกรรม “เวิร์คช็อปนโยบายนนทบุรี” โดยเป็นการะดมความคิดเห็นในด้านต่างๆ จากประชาชนในในจังหวัด เพื่อเตรียมนำไปกำหนดเป็นนโยบายสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งต่อไป โดยมีประชาชนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, นายไกลก้อง ไวทยการ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมรับฟังการนำเสนอของประชาชนชาว จ.นนทบุรีด้วย

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเองและทีมงานเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อรับฟังปัญหาครบทุก 6 อำเภอ แต่อาจยังไม่ครบทุกตำบลและหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นได้สรุปปัญหาที่ประชาชนสะท้อนให้ฟังได้ 8 หัวข้อ ได้แก่ 1.การท่องเที่ยว 2.แม่น้ำลำคลอง 3.แอพลิเคชั่นสำหรับนนทบุรี 4.สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 5.รถติด 6.อากาศเสีย 7.เศรษฐกิจ และ 8.การศึกษา ทั้งหมดนี้ถูกนำมาพูดคุยในกิจกรรมเวิร์คช็อปครั้งนี้

“ธนาธร” ลั่นไม่ใช่หวังตำแหน่ง แต่คือสร้างความเปลี่ยนแปลง

นายไพบูลย์ กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ เราได้ประกาศเชิญชวนชาวนนทบุรีที่สนใจ มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนในหัวข้อที่ตนเองสนใจทั้ง 8 กลุ่มหัวข้อ เปิดอกพูดคุยกันว่าปัญหาแต่ละเรื่องนั้นเป็นอย่างไร เกิดขึ้นเพราะอะไร แนวทางการแก้ไขควรเป็นอย่างไร โดยทั้งหมดได้ถูกนำมาสรุปและเตรียมนำไปวิเคราะห์ และพัฒนาเป็นนโยบายสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ในนามพรรคอนาคตใหม่ ต่อไป ทั้งนี้ ตนมองว่าการที่จะมีนโยบายที่ดีที่ตอบสนองกับประชาชน สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพี่น้องประชาชน ให้กับ จ.นนทบุรีได้ นโยบายต่างๆ ต้องออกมาจากประชาชน พวกเขารู้ว่าตนเองประสบปัญหาอะไร รู้วิธีการแก้ปัญหา เราในฐานะผู้ที่จะนำนโยบายเหล่านั้นไปปฏิบัติ ไปผลักดันต้องมารับฟัง

ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า นี่คือการเดินทางเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง คุณไพบูลย์ไม่ได้มีความฝันเพียงเพื่อแค่ได้ตำแหน่งนายก อบจ.นนทบุรี แต่คุณไพบูลย์มีความฝันที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง จ.นนทบุรี ทำให้ประเทศไทยดีขึ้น ทำให้คนไทยทุกคนเสมอภาคเท่าเทียมกัน ประเทศไทยเท่าทันกับโลก ทำให้คนมีงานทำในจังหวัด ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอย่างเปี่ยมความหมายได้ที่บ้านเกิดของตนเอง ไม่ต้องไปทำงานในต่างประเทศ นี่คือสิ่งที่ผมอยากเห็น และอยากขอให้ทุกท่านในที่นี้ร่วมเดินไปข้างหน้าพร้อมกับคุณไพบูลย์ พร้อมกับพรรคอนาคตใหม่

“นรินท์พงศ์”ยื่นขอยุติคดี “พิชัย” ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. เหตุมีการประกาศยกเลิกตัวคำสั่งเเล้ว

People Unity News : “นรินท์พงศ์”ยื่นขอยุติคดี “พิชัย” ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. เหตุมีการประกาศยกเลิกตัวคำสั่งเเล้ว ด้าน อดีต รมว.พลังงาน จวก “ประยุทธ์-สมคิด” อย่าหลอกว่าเศรษฐกิจดีทั้งที่จริงสวนทาง

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะทนายความของนายพิชัยได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดี ฝ่าฝืนเงื่อนไข ท้ายคำสั่ง คสช.ที่ 39/2557 ที่ คสช. โดย พ.อ.วิจารณ์ จดแตง เป็นผู้รับมอบอำนาจ เเจ้งความดำเนินคดี กับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน กรณี เคลื่อนไหวทางการเมือง โดยให้สัมภาษณ์สื่อและแสดงความเห็นทาง facebook ในช่วงปี 2558 ว่าเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมาตนพร้อมคณะทำงาน นายยอดชาย ศีลนำสุข ทนายความ ได้เดินทางไป สน.ดุสิต เข้าพบ ร.ต.อ.ชวะฤทธิ์ จันทร์เกิ้น พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนเพื่อ หารือชี้แจงข้อกฎหมายกับพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับข้อกล่าวหาของนายพิชัยว่า เนื่องจากภายหลัง คสช.ได้มีคำสั่ง ที่ 22/2561 (ปลดล็อคทางการเมือง) ให้ประชาชนและการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ซึ่งยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่39/2557 ตามข้อกล่าวหาในคดีนี้แล้ว จึงเป็นกรณีที่บทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง ให้การกระทำตามข้อกล่าวหาไม่เป็นความผิดอีกต่อไปขอให้พนักงานสอบสวนยุติการดำเนินคดี ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนรับทราบและจะสรุปสำนวนเพื่อมีคำสั่งทางคดีต่อไป

ด้าน นายพิชัย กล่าวว่า การการปิดกั้นความเห็น และพยายามใช้คดีความเพื่อปิดปากผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลด้วยข้อมูลความจริง โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์ทางเศรษฐกิจ จะต้องหมดไปและจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่หวังจะพัฒนาจะต้องเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็น การที่สภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อย่างมากในปัจจุบัน แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจกลับพยายามบอกประชาชนว่าเศรษฐกิจยังดีสวนทางกับความเป็นจริง จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง เพราะดูเหมือนรัฐบาลจะหลงทางและไม่ยอมรับความจริง ภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะถดถอยจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจไทย

แต่นายสมคิด กลับบอกว่าเศรษฐกิจไทยกำลังจะฟื้น ซึ่งสวนกับตรรกะของความเป็นจริงที่เศรษฐกิจไทยต้องพึ่งเศรษฐกิจโลก แต่ 5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกดีแต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์และนายสมคิดกลับไม่สามารถบริหารเศรษฐกิจให้ดีได้ เศรษฐกิจไทยโตต่ำเตี้ยเฉลี่ยเพียงปีละ 3% เท่านั้น พอเศรษฐกิจแย่หนักก็คิดได้แค่แจกเงินเพื่อปิดปากคนยากจน แต่ประเทศไม่ได้พัฒนาขึ้น ขนาดไอเอ็มเอฟยังเตือนไทยเรื่องการแจกเงินสะเปะสะปะแต่ไม่ได้พัฒนาความสามารถในการแข่งขันนี้ พล.อ.ประยุทธ์และนายสมคิดต้องหันกลับมาพิจารณาว่าสาเหตุใดที่การบริหารเศรษฐกิจที่ผ่านมาถึงได้ล้มเหลวอย่างมาก ต่างกับการบริหารเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดของประเทศเวียดนามอย่างสิ้นเชิง

หลายปัจจัยน่าจะมาจากวิสัยทัศน์ของผู้นำ และการยอมรับของประชาคมโลกต่อรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ที่สื่อหลักของโลกยังคงวิจารณ์รัฐบาลในด้านลบมาโดยตลอด ซึ่งหากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ รัฐบาลก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ประชาชนจำนวนมากที่เชื่อคำพูดของพลเอกประยุทธ์และนายสมคิดที่บอกว่าเศรษฐกิจไทยยังดีมาตลอดหลายปี และไม่ได้เตรียมรับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ต่างพากันประสพปัญหาทางเศรษฐกิจกันอย่างมาก ในขณะที่มีหลายคนได้มาขอบคุณตนที่ได้เตือนให้ระวังภาวะเศรษฐกิจที่จะย่ำแย่เลยทำให้สามารถประคองตัวอยู่ได้ในปัจจุบัน

“สุเทพ”มาแล้ว! ชูรธน.60ไร้มลทิน คนนั่งปธ.กมธ.ศึกษาต้องเป็นกลาง

People Unity News : “สุเทพ”มาแล้ว! ชูรธน.60ไร้มลทิน คนนั่งปธ.กมธ.ศึกษาต้องเป็นกลาง เลี่ยงตอบ”อภิสิทธิ์”เหมาะ

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยได้เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

แต่สิ่งสำคัญคือเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญที่จะพยายามแก้ไขซึ่งก่อนที่จะไปถึงประเด็นนั้นส่วนตัวมีจุดยืนที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตั้งแต่ตอนที่มีการรณรงค์เพื่อเชิญชวนประชาชนไปลงประชามติรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนเป็นหนึ่งในประชาชน 16 ล้านคนที่เห็นชอบให้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยมองว่าเป็นหนทางในการที่จะสามารถปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงประเทศได้

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ตนยังไม่เห็นข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่เห็นข้อบกพร่องของตัวบุคคลมากกว่าซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องสามารถบอกได้ว่ามาตราไหนที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาประเทศหรือการดูแลประชาชน แต่บางประเด็นที่ไปพูดกันในภาคใต้ก็ไม่เห็นด้วย เช่น ประเทศไทยสามารถแบ่งแยกเป็นมลรัฐได้ ด้านคุณสมบัติของการเป็นประธานกรรมาธิการฯ ตนเห็นว่าควรจะเป็นบุคคลที่เป็นกลาง ไม่ใช่คนที่ต่อต้านรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้นหรือสนับสนุนมาตั้งแต่แรก

ส่วนประเด็นที่มองว่าจะเป็นชนวนความขัดแย้งหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่าไม่น่าเป็นประเด็นความขัดแย้ง ประเทศไทยเดินหน้าและก้าวข้ามผ่านความขัดแย้งมาแล้ว และยังทิ้งท้ายด้วยว่า ส่วนตัวเป็นคนมองโลกในแง่ดี และเชื่อว่าประเทศไทยจะร่วมกันผนึกกำลังทำให้ประเทศพัฒนาก้าวต่อไปได้

ชวนสัมผัส”หนาวสุดกลางสยาม” ความสวยงามใกล้กรุง ณ บ้านไร่ อุทัยธานี

People Unity News : กรมการพัฒนาชุมชน จัดเตรียมพื้นที่ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ไว้รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ หวังสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้แก่ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีอย่างต่อเนื่อง สนองรับนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่ชุมชน

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่อากาศหนาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งในหลายพื้นที่ได้จัดเตรียมกิจกรรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไปเยี่ยมชม โดยเฉพาะการได้สูดกลิ่นไอของธรรมชาติที่มาพร้อมกับสายลมช่วงฤดูหนาว เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวรอคอย ซึ่งหากมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาเดินทางไม่มากนัก ขอแนะนำชุมชนลาวครั่ง บ้านสะนำ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี สัมผัสเสน่ห์ศรัทธาแห่งแบบแผนวิถีชีวิตชุมชนชนชาติพันธุ์ลาวครั่ง 200 ปี ซึ่งคนในชุมชนแห่งนี้ เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันด้วยความจริงใจ ตลอดจนการมีกิจกรรมร่วมกันระหว่างคนในชุมชน ทั้งผู้สูงอายุ วัยทำงาน วัยเด็ก แม้จะต่างวัยในความหลากหลายแต่ก็ลงตัว

ชุมชนบ้านสะนำ ถือเป็นพื้นที่ที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ เนื่องจากที่นี่มีต้นไม้ยักษ์ อายุ 300 กว่าปี ความอัศจรรย์อย่างงดงาม เป็นไม้ที่มีขนาดใหญ่ มีระบบรากที่แผ่กว้างค้ำยันต้นและรายล้อมไปด้วยต้นหมากจำนวนมาก ซึ่งต้นหมากเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่ทำให้คนในชุมชนมีรายได้เสริม นอกเหนือจากรายได้ที่มาจากการทำไร่ทำนา ทำสวน อีกทั้ง การได้ชื่นชมศิลปะการแสดงพื้นบ้าน การทอผ้าพื้นเมืองลายโบราณทุนทางวัฒนธรรมการแต่งกาย ภาษา ภูมิปัญญาการจักสาน การละเล่น ที่สืบทอดและอนุรักษ์วัฒนธรรม มาสู่รุ่นลูกหลานจนถึงทุกวันนี้ เชิญมาร่วมค้นหาความภูมิใจของชาติพันธุ์ลาวครั่งบนแผ่นดินสยามแล้วท่านจะประทับใจไม่รู้ลืม ซึ่งที่นี่มีเมนูอาหารพื้นถิ่น อาทิ ข้าวต้มเล่ แจ่วร้อยสำรับ ที่เสิร์ฟร้อน รสชาติอร่อยโดดเด่นไม่เหมือนใคร อีกทั้งการบริการที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ รองรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความเป็นวิถีชีวิตชุมชนอย่างแท้จริง

และอีกหนึ่งชุมชนสวรรค์บ้านไร่ของจังหวัดอุทัยธานี ที่จะขอแนะนำ นั่นคือ บ้านอีมาด อีทราย ตั้งอยู่ที่ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ชุมชนเผ่ากระเหรี่ยง บรรยากาศของชุมชนที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ทำให้ผู้คนที่นี่มีวิถีชีวิตที่เงียบสงบเรียบง่าย มีความร่วมมือร่วมใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สร้างวินัยรักษ์ต้นไม้ รักษาความสะอาดในชุมชน เพื่อการอาศัยอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับธรรมชาติอย่างสมดุล รวมถึงความเชื่อและความศรัทธาในต้นพระเจ้าห้าพระองค์ ที่เชื่อกันว่า มีพระ 5 รูปจำศีลอยู่ใต้ต้นไม้นี้และผลของต้นไม้ได้ร่วงลงมา จึงคิดว่า เทวดาประทานพรให้ ซึ่งผลของต้นไม้ จะมีลักษณะเป็นวงกลมมีร่องขรุขระ ผิวเปลือกนูน ลักษณะคล้ายองค์พระพุทธรูป เป็นผลไม้ที่มีดีทางธรรมชาติ มีเทวดาคุ้มครอง จึงเรียกว่า “พระเจ้าห้าพระองค์”ตามความเชื่อถือศรัทธาของชาวบ้านในชุมชน

นอกจากนี้ การแสดงออกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพชน อาทิ การรำต่ง เป็นการรำให้พรต้อนรับแก่ผู้มาเยือน รำอวยพรให้ผู้มาเยือนมีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง การสืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าที่มีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน หาชมได้ยาก ที่นี่จึงมีถ่ายทอดภูมิปัญญาการทอผ้าให้ลูกหลานทำหน้าที่ในการอนุรักษ์ผ้าทอให้คงอยู่กับชุมชนต่อไป และการต้อนรับผู้มาเยือนด้วยอาหารที่มีรสชาติอร่อยขึ้นชื่อของชุมชน ข้าวเหนียวหัวหงอก ซึ่งใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชน หากท่านใดสนใจสามารถแวะชิม แวะชม แวะพักกันได้ใกล้กรุงเทพฯ มีบริการที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ อิงแอบแนบชิดธรรมชาติอย่างที่สุด

เมื่อเดินทางเที่ยวชมทั้ง 2 ชุมชนแล้ว ก็ยังสามารถมุ่งหน้าต่อไปได้ที่ “แก่นมะกรูด” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงฤดูหนาวที่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แวะมาเที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาวบานสะพรั่ง สูดกลิ่นไอลมหนาวกันอย่างคับคั่ง จนถูกขานนามว่า “หนาวสุดกลางสยาม” ห้ามพลาดนะครับ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ให้นักท่องเที่ยวทุกท่าน กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้มอบหมายให้ข้าราชการของกรมฯ อำนวยความสะดวกในด้านข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวที่สนใจจะไปสัมผัสบรรยากาศหนาวสุดกลางสยาม จ.อุทัยธานี คือ คุณกิตติพงษ์ สิงห์คำ 08 2758 9307 หรือที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี 0 5651 1337 หรือสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบ้านไร่ 0 5653 9126

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวด้วยว่า มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการค้นหามนต์เสน่ห์ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ใกล้กรุงฯ เพื่อการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในเชิงสร้างสรรค์ ช่วยให้คนในชุมชนมีงานทำ มีอาชีพ สร้างรายได้ ให้แก่เกิดขึ้นได้อย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ส.ส.ราชบุรี”พปชร.”พาผู้ถูกจับลิขสิทธิ์ 9 รายแจ้งความขอความชัดเจน

People Unity News : ส.ส.ราชบุรี”พปชร.”พาผู้ถูกจับลิขสิทธิ์ 9 ราย แจ้งความขอความชัดเจน ที่ สภ.เมืองราชบุรี

วันที่ 9 พ.ย.2562 เวลา 15.00 น. ( 9 พ.ย. 62 ) ที่ สภ.เมืองราชบุรี นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 และ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ได้นำผู้ถูกจับลิขสิทธิ์ 9 ราย เดินทางมาแจ้งความ กับ ร.ต.อ. หญิง ศิริวรรณ ธรรมมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี หลังถูกเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์จับกุมจนเสียเงินไปจำนวนมาก โดยนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.เขต 3 นำมา 1 ราย และ นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรีเขต 1 นำมา 8 ราย

นางสาวปารีณา และนางสาวกุลวลี เปิดเผยว่า มีชาวบ้านมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือเรื่องคดีละเมิดลิขสิทธิ์ที่กำลังเป็นข่าว วันนี้ทางส.ส.กุลวลีก็ได้พาลูกบ้านมาด้วย วันนี้ ประมาณ 10 ราย เป็นคนในพื้นที่ของ ส.ส.กุลวลี 9 ราย และคนในพื้นที่ ส.ส.ปารีณา 1 ราย เลยพากันมาแจ้งความวันนี้เพื่อมาดูความชัดเจนว่ามีกระบวนการล่อให้กระทำความผิดแล้วใช้ช่องโหว่กฎหมายที่จะล่อซื้อ หรือมีพฤติกรรมกับเด็กที่โดนเรื่องกระทงอายุ 15 ปี จึงมาขอความชัดเจนของตำรวจถึงการสืบสวนสวน เพราะตัวแทนของลิขสิทธิ์เป็นคนที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนใหญ่ที่มาวันนี้จะถูกนคนเดิมในข่าวมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน

พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมือง กล่าวว่า ทาง ส.ส.ได้ประสานมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะนำตัวคนที่เคยถูกจับเรื่องลิขสิทธิ์ในห้วงที่ผ่านมา เพื่ออยากให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์จริงหรือไม่ หรือได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของลิขสิทธิ์มาดำเนินการ เบื้องต้นทางส.ส.ได้แจ้งมา 9 ราย ที่สะดวกมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนวันนี้ ในส่วนของรองผู้กำกับ หัวหน้างานสอบสวนได้ตั้งทีมพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำและอำนวยความสะดวกและจะดำเนินการทำหนังสือสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ที่แท้จริงและจะสอบถามถึงการได้มอบอำนาจให้แก่ผู้ใดดำเนินการเรื่องลิขสิทธิ์เป็นไปตามกระบวนการตามขั้นตอน

Verified by ExactMetrics