People Unity News : “จุรินทร์”เป็นประธานเปิดการรณรงค์ยุติความรุนแรง ดันประชาธิปัตย์ ขับเคลื่อน 3 ข้อ ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ LGBT

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา 15.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดการรณรงค์ยุติความรุนแรง โดยกล่าวว่า มีความยินดีที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ ช่วยกันคิดถึงทางออกไปทางแก้ไข และในการเสวนาวันนี้ขอฝากการบ้านให้ทุกฝ่ายและทุกคน คิดทำการบ้านให้ 3 ประเด็นเพื่อช่วยหาคำตอบในเรื่องของการที่จะทำอย่างไรให้เราที่จะส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศให้เกิดขึ้นได้ในโลกของความเป็นจริงและเป็นรูปธรรม คือ

1.ช่วยหาคำตอบอย่างเป็นรูปธรรมว่าเราจะขจัดการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร เพราะต้องยอมรับความจริงว่าสังคมเราปัจจุบันยังมีการเลือกปฏิบัติอยู่มากมายหลายรูปแบบทั้งในเรื่องของการจ้างงานซึ่งได้มีการพูดคุยในคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศที่ผมเป็นประธานกรรมการระดับประเทศอยู่ อย่างไรก็ตามตนเพิ่งประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลมาเมื่อไม่กี่วันมานี้เกี่ยวกับงานเชิงนโยบาย และที่อยากได้คำตอบเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และพรรคประชาธิปัตย์อยากได้คำตอบเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม คือ จะขจัดการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศได้อย่างไรเรื่องการจ้างงาน ค่าตอบแทนที่ยังไม่เท่าเทียมในเรื่องของตำแหน่ง ในเรื่องของความก้าวหน้าในงาน ทั้งในส่วนของภาคราชการ ภาคเอกชนและการเข้าถึงบริการสาธารณะ หรือการหาคำตอบในเรื่องของการถ้าจะอุปสรรคในการเข้ารับบริการสาธารณะด้วยเหตุแห่งความแตกต่างทางเพศที่ทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติ เหล่านี้เป็นประเด็นที่พวกผมอยากได้รับคำตอบที่เป็นรูปธรรมเพื่อพลักดันร่วมกับพวกเราต่อไป

2.เราจะร่วมด้วยช่วยกันในการสร้างหลักคิดที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นในสังคมได้อย่างไร ทุกเพศมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และเราจะช่วยกันดำเนินการอย่างไรที่จะเปลี่ยนความคิดบรรทัดฐานของสังคม ที่ยังมีความรู้สึกบางประการในทางลบกับเพศสภาพบางเพศสภาพซึ่งผมคิดว่านี่คือสิ่งที่เราต้องช่วยกันเปลี่ยนหลักคิดของสังคมให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง และในประการที่สามที่เป็นหัวใจสำคัญที่ตนคิดว่าเป็นที่มาของการรณรงค์ของเราในช่วงเดือนพฤศจิกายน ของ UN ดังนี้เราจะช่วยกันลดหรือขจัดความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศได้อย่างไร

“เพราะตัวเลขเท่าที่ผมมีอยู่น่าเป็นห่วงมากตัวเลขสถิติของการใช้ความรุนแรงโดยเฉพาะต่อสตรีมีความน่าเป็นห่วงและผมคิดว่าจะลามไปถึง LGBT ด้วย ซึ่งกำลังเป็นปัญหาเช่นเดียวกันแต่ยังไม่มีการรวบรวมตัวเลขเรื่อง LGBT แต่อย่างน้อยกับสตรีก็เป็นตัวสะท้อนที่น่าห่วงก็คือสถิติของ UN Human Rights ปีที่แล้ว 2018 ที่สำรวจมาทั่วโลกพบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อสตรีไม่ได้ลดลง แปลว่าอย่างน้อยก็เท่าเดิมเท่าเดิมก็แย่แล้วหรือว่าอาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำนี่คือสิ่งที่น่าเป็นห่วงตัวเลขนอกจากนั้นก็คือว่าถึงร้อยละ 83 ของสตรีเพศที่ถูกทำร้ายมาจากคนใกล้ตัวอันนี้ยิ่งน่าเป็นห่วงเพราะเราไม่รู้ว่าคนข้างๆ เราจะก่อความรุนแรงกับเราเมื่อไหร่” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ประการที่ 3 ตัวเลขถัดมาก็คือว่าคนใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็นคนรักคู่สมรส คนในครอบครัวหรือญาติพี่น้องก็ตาม ได้ก่อเหตุแห่งความรุนแรงจนกระทั่งทำร้ายให้เกิดการเสียชีวิตตัวเลขเฉลี่ยถึง 157 คนต่อวันคือตัวเลขที่ผมคิดว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งและเราต้องช่วยกันหาทางแก้ปัญหาเหล่านี้ และสำหรับด้านกฎหมายที่ได้มีการดำเนินการกันมาอย่างต่อเนื่องนั้นทางพรรคประชาธิปัตย์โดยตนจะได้นำเข้าที่ประชุมพรรคเพื่อหารือและดำเนินการต่อไป