วันที่ 20 เมษายน 2024

“บิ๊กตู่”พร้อมครม.ส่งผู้แทนแสดงความเสียใจห่วงใยครอบครัวชรบ.ยะลา

People Unity News : นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจและห่วงใยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุณ์ยิงถล่มจากป้อม ชรบ. จังหวัดยะลา และส่งผู้แทนนายกรัฐมนตรี เร่งทำงานอย่างเต็มที่

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในนามของรัฐบาลได้มอบหมายให้ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจและความห่วงใยต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์บุกยิงโจมตีป้อมยามจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ประจำหมู่บ้านทุ่งสะเดา และชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) หมู่ที่ 4 ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้มีราษฎร, ชรบ. อรบ. และตำรวจ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย โดยที่ 13 ราย เป็นชาวไทยผู้นับถือศาสนาพุทธ และอีก 2 ราย เป็นเป็นชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลาม เมื่อคืนวันอังคาร ที่ 5 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา นั้น

พลโทพรศักดิ์ฯ กล่าวพลเอกประยุทธ์พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ทุกท่าน ได้ส่งพวงหรีดเพื่อเป็นแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานก่อน โดยประชาชนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเหล่านี้ล้วนเป็นผู้กล้าหาญ ทำหน้าที่ปกป้องชาติบ้านเมืองจากผู้ไม่ประสงค์ดีให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดความสุขสงบและสันติ

พร้อมนี้ได้กำชับและสั่งการให้ทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาในส่วนของตนเองอย่างเต็มกำลังและสุดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งค้นหาผู้กระทำผิด การวางมาตราการที่เข้มข้นในการปกป้องชีวิตผู้บริสุทธิ์ทุกเชื้อชาติและศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวและชุมชน การฟื้นฟูและเสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้านและชุมชนให้สามารถทำหน้าที่ได้เช่นที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังขอร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความรักและความสามัคคีให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากวันนี้ทุกฝ่ายได้ตระหนักแล้วว่าประชาชนไม่ว่าจะเชื้อชาติไหน ศาสนาใด ล้วนมีภัยจากผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ซึ่งมิใช่ความขัดแย้งทางศาสนาของคนในพื้นที่ เป็นภัยร่วมกันของคนในพื้นที่และคนในประเทศไทยที่เฝ้าห่วงใยพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น การแสดงความรักและความสามัคคีของพี่น้องประชาชน จะเป็นปราการสำคัญในผนึกกำลังปกป้องและดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด

วันเดียวกันนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ศอ.บต. ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บตามอำนาจหน้าที่ของ ศอ.บต. ให้เร็วที่สุด โดยวันนี้ทั้งวัน ตนเองได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพจากทุกกระทรวงเพื่อจัดทำข้อมูลการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่เกิดเหตุแบบเฉพาะราย การกำหนดแนวทาง การเยียวยาและให้ความช่วยเหลือครอบครัว เพื่อให้ครอบครัวสามารถเป็นพลังในการดูแลสมาชิกในครอบครัวต่อไปได้ทำให้ครอบครัวยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสมบูรณ์

นอกจากนี้จะได้เพิ่มมาตรการการเยียวยาและให้ความช่วยเหลือชุมชน โดยเฉพาะในชุมชนที่เกิดเหตุครั้งนี้ จะเป็นตัวอย่างของการดำเนินการที่ทำแล้วจะประสบความสำเร็จนั่นคือการสร้างพลังและความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถฟื้นฟูความเข้มแข็ง ที่จะกลับมาดูแลและช่วยเหลือกันเองได้ ในส่วนนี้ ศอ.บต. จะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระบบการสนับสนุนการทำงานที่เกี่ยวข้องทุกมิติลงไปในพื้นที่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนได้เป็นแกนหลักการทำงานในเชิงพื้นที่ ซึ่งเป็นแนวทางตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มอบหมายและสั่งการไว้แล้ว

พช.ดึงนวดแผนไทยวัดโพธิ์ติวสตรีฯเสริมแกร่ง OTOP นวัตวิถี

People Unity News : อธิบดี พช.ไอเดียกระฉูด จับมือโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ ติวเข้มหลักสูตรนวดตำหรับวัดโพธิ์กว่า 230 ปีให้กลุ่มสตรีในชุมชน เสริมความเข้มแข็ง OTOP นวัตวิถีทั่วประเทศ มุ่งนำความรู้ไปสร้างงานสร้างอาชีพครอบครัว สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยว

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับนายปรีดา ตั้งตรงจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) โดยมี พระราชรัตนสุนทร รองเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ นายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตามที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้สตรีไทยในชุมชนได้มีอาชีพ มีรายได้ สามารถทำงานอยู่ในหมู่บ้าน ตลอดจนสามารถดูแลตนเองและครอบครัวได้ จึงทำให้เกิดการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมการนวดแผนไทยในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีครั้งนี้ขึ้น ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน กับ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ เพื่อจะสร้างความเข้มแข็งให้สตรี โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มสตรีในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ได้รับการฝึกอาชีพนวดแผนไทยต้นตำรับจากวัดโพธิ์ จะช่วยให้สตรีที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว สามารถนำความรู้ไปดูแลตนเอง ครอบครัว และคนในชุมชนสามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นทั้งในครัวเรือน และในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี รวมถึงสามารถขยายผลการประกอบอาชีพออกไปในพื้นที่ระดับจังหวัด ระดับประเทศ และต่างประเทศ

ทั้งนี้ ขอบเขตของความร่วมมือจะเป็นการสนับสนุน ส่งเสริมศักยภาพของชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ผ่านภูมิปัญญาการนวดแผนโบราณ มีการจัดทำหลักสูตรการนวดแผนโบราณ ประกอบไปด้วยหลักสูตรระยะยาว เช่น หลักสูตรสปาผิวกาย หลักสูตรวิชาชีพนวดไทยเพื่อสุขภาพ หลักสูตรระยะสั้น เช่น หลักสูตรนวดน้ำมัน หลักสูตรนวดฝ่าเท้า หลักสูตรนวดประคบและอบสมุนไพร หลักสูตรฤาษีดัดตน หลักสูตรนวดหน้า เป็นต้น โดยจะการจัดส่งหมอนวดวัดโพธิ์มือดีไปสอนกลุ่มสตรีถึงในชุมชนทั่วประเทศ กลุ่มสตรีใดสนใจติดต่อผ่านพัฒนากรของกรมพัฒนาชุมชนได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

นอกจากนั้น มีการฝึกอบรมให้ความรู้ การจัดนิทรรศการแสดงสินค้าและผลงาน ตลอดจนร่วมกันพัฒนา แลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ และพัฒนาฐานข้อมูล การนวดแผนโบราณของวัดโพธิ์ที่จะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมและยกระดับชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี อีกทั้งร่วมกันประชาสัมพันธ์การพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ยกระดับการท่องเที่ยวตามกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ผ่านภูมิปัญญาการนวดแผนโบราณ ให้เป็นที่รู้จัก ผ่านช่องทางและเครือข่ายความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย โดยร่วมกันส่งเสริมการตลาดและกระตุ้นการขายสินค้าและบริการ และการเข้าไปจัดกิจกรรมการนวดแผนโบราณ ในพื้นที่ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 3 ส่วนหลัก

“การบูรณาการความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การสร้างสรรค์องค์ความรู้สำหรับการพัฒนาและประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งได้รับการยกระดับมาตรฐานด้วยนวัตกรรม เน้นสร้างความยั่งยืน และมุ่งให้ชุมชนพึ่งพาตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชนในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ได้อย่างแท้จริง” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว

พระราชรัตนสุทร กล่าวว่า โครงการความร่วมมือในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแน่นอน เพราะว่ากรมการพัฒนาชุมชนมีเครือข่ายซึ่งต้องคลุกคลีอยู่กับชุมชน จึงรู้ความต้องการของแต่ละพื้นที่ การเข้ามาดำเนินการจะขับเคลื่อนงานให้เดินไปข้างหน้าได้แน่นอน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก

ด้านนายปรีดา ตั้งตรงจิตร ผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) เปิดเผยว่า การเข้ามาทำงานครั้งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ได้ถ่ายทอดศาสตร์การนวดแผนไทยให้กับคนรุ่นหลัง เพื่อให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยต่อไป การมีหน่วยงานเข้ามาสานต่อและเผยแพร่ศาสตร์การนวดแผนไทยอย่างจริงจังถือเป็นความหวังที่ตั้งใจมา 30 กว่าปี การที่กรมการพัฒนาชุมชนเข้ามาให้ความสำคัญในครั้งนี้ ถือว่าความฝันที่ตั้งใจมา 30 ปีเริ่มจะประสบความสำเร็จเนื่องจากกรมการพัฒนาชุมชนมีเครือข่ายและทำงานอยู่กับชาวบ้าน การถ่ายทอดศาสตร์การนวดแผนไทยให้ถึงกลุ่มสตรีหรือผู้ที่สนใจจริงๆในชุมชนต่างๆทั่วประเทศก็จะทำได้ง่ายขึ้น หวังว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม เพื่อจะได้จะมีโอกาสถ่ายทอดวิชาให้คนได้มีโอกาสดูแลสุขภาพและสร้างอาชีพมีรายได้อย่างแท้จริง

“อนุทิน”ชี้รธน.60 แก้ยาก เอาเวลาไปทำงานดีกว่า

People Unity News : “อนุทิน”ชี้รธน.60 แก้ยาก เอาเวลาไปทำงานดีกว่า เชื่อ พปชร.-ปชป.คุยกันได้ใครนั่งประธานกมธ.ศึกษา ส่วน ภท.จะไม่โยนฟืนเข้ากองไฟ

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ชิงตำแหน่งนี้ด้วย ว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะพรรคร่วมรัฐบาลคงจะต้องนัดพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาลจะมีความขัดแย้งกับเรื่องอย่างนี้ได้อย่างไร เพราะมารยาททางการเมืองก็มีอยู่ เดี๋ยวก็หาทางออกกันได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามล็อบบี้บรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลให้สนับสนุนชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นประธาน กมธ.วิสามัญชุดนี้ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า “ผมบอกแล้วว่าผมยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรจากใคร ในรัฐบาลก็มีพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมารยาททางการเมืองในการปฏิบัติร่วมกัน ย่อมมีแนวทางอยู่แล้ว ส่วนพรรคภูมิใจไทยไม่เสนอชื่อใคร เราปล่อยเพราะเราไม่ใช่ตัวตั้งตัวตี ไม่โยนฟืนเข้ากองไฟ”

เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าแค่การตั้งกรรมาธิการวิสามัญมาทำหน้าที่ศึกษาก็เริ่มมีปัญหา แล้วอย่างนี้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือ นายอนุทิน กล่าวว่า “ก็รู้อยู่แล้วว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ กว่าจะแก้ได้เอาเวลาไปทำงานไม่ดีกว่าหรือ แก้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่เล่า ขั้นตอนการขั้นตอนแต่ละอย่างมีมาก หากจะตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาก่อนก็ได้ ไม่ว่าอะไรกัน แต่สำหรับผมช่วงนี้ขอทำงานก่อนดีกว่า”

เมื่อถามย้ำว่ามองว่าถึงเวลาที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มาถามตนไม่ได้ เพราะพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีปัญหากับรัฐธรรมนูญฉบับนี้

“พุทธิพงษ์”รับถก”วิษณุ” หลังครม.ฐานะแกนนำรบ.หาทางออกร่วมกัน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) ศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า กมธ.ชุดนี้ตั้งขึ้นเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ถึงขั้นแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งหลายพรรคการเมืองมีความเห็นที่แตกต่างกันในหลายประเด็น เช่น มีการพูดคุยกันว่าหากมีการศึกษาแก้ไขควรจะมีกรอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใด และแนวทางการแก้ไขจะนำไปสู่การแก้ไขได้จริง ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ ซึ่งแนวคิดของแต่ละพรรคที่จะมาอยู่ในกมธ.ชุดนี้มีความแตกต่างกันมาก จึงมีการพูดคุยกันว่าควรจะมีประธานและกมธ.ที่สามารถควบคุมการประชุมได้ดีอยู่ในประเด็น หลีกเลี่ยงการต่อว่าต่อขานกัน ให้เป็นเรื่องของการศึกษาเท่านั้น

เมื่อถามว่า ข้อสรุปพรรคพลังประชารัฐจะเสนอนายสุชาติหรือสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นประธานกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าพรรคก็อยากให้เป็นคนของพลังประชารัฐ ซึ่งนายสุชาติเป็นคนหนึ่งที่ถูกพูดถึง และหากเปลี่ยนแปลงได้ แต่ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐถือเป็นแกนนำและอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ดังนั้น การนำไปสู่การแก้ไขต้องมีแนวคิด แนวทาง และอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการทำประชามติแล้ว จากนี้ไปหากจะมีการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญในอนาคต ต้องเคารพเสียงประชาชนที่ให้ฉันทามติรัฐธรรมนูญฉบับนี้

“หลายพรรคการเมืองก็ได้รับโอกาสจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่ใช่หมายถึงว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาแล้วต้องแก้เสมอไป หลายๆเรื่องก็เป็นประโยชน์” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวหลังประชุมครม. เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนมีหารือกันของรัฐมนตรีพลังประชารัฐกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญและตัวบุคคลจะมาเป็นประธานกมธ.แก้รัฐธรรมนูญ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเวลาเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายอะไรที่มีความสำคัญ ไม่แปลกอะไรที่แกนนำรัฐบาลจะพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ ทิศทางที่ออกไปสู่พี่น้องประชาชนก็จะเป็นทิศทางเดียวกันและจะไม่เกิดปัญหา ไม่ใช่ต่างคนต่างพูด ต่างคนต่างคิด

“ธนกร”ผงาดนั่งโฆษกพปชร.เต็มตัว เน้นสาระ-สร้างสรรค์ลุยโลกโซเชียล

People Unity News : “ธนกร”ผงาด นั่งโฆษกพปชร.เต็มตัว ขอบคุณ”อุตตม-กก.บห.”ไว้วางใจ ลั่นพร้อมทำงานเต็มที่ เน้นสาระ-สร้างสรรค์ เล็งลุยโลกโซเชียล จัดทัพรับการเมืองเข้มข้น

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงนามในหนังสือแต่งตั้งให้นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ แทนนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ที่ลาออกไปก่อนหน้านั้น

นายธนกร กล่าวว่า ขอขอบคุณนายอุตตม รวมถึงกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่ไว้วางใจและให้โอกาสตนเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ตนจะขอทำหน้าที่อย่างดีที่สุดให้สมกับความไว้วางใจ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนก็ทำหน้าที่ชี้แจงและให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพรรค คอยป้องกันส่วนได้ส่วนเสียของพรรคมาโดยตลอด ซึ่งจะเน้นการชี้แจงข้อเท็จจริง เนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ไม่เน้นการตอบโต้รายวัน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มมีความเข้มข้นขึ้น ดังนั้น ตนจะปรับยุทธศาสตร์การทำงานของทีมโฆษกพรรคใหม่ โดยเฉพาะการทำงานเป็นทีม เป็นระบบ และการทำงานในเชิงรุกอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียในการให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งที่ผ่านมาก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนทุกคนด้วย ที่ช่วยนำเสนอข่าวสารต่างๆ ของพรรคด้วยดีตลอดมา และหวังว่าสื่อมวลชนจะช่วยนำเสนอข้อมูลข่าวสารของพรรคต่อไป

“บิ๊กป้อม”เสียใจ! เหตุยิงถล่มชรบ.ยะลาดับ 15 ราย “บิ๊กตู่”ถก กอ.รมน.จับตาทิศทางแก้ปัญหาแดนใต้

People Unity News : “บิ๊กป้อม”เสียใจ! เหตุยิงถล่มชรบ.ยะลาดับ 15 ราย เผยสั่งลงพื้นที่ตรวจสอบปัดตอบเป็นก่อการร้าย “บิ๊กตู่” ประชุมกอ.รมน.จับตาทิศทางแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดยะลา ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เสียชีวิตถึง 15 ราย เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปหมดแล้ว ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. และแม่ทัพภาค 4 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว”

เมื่อถามว่าเหตุการณ์ความไม่สงบดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตถึง 15 ราย ถือเป็นการก่อการร้ายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามเกี่ยวกับปรับแผนจัดกำลังชรบ.หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร โดยพล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนเดินเข้าไปในตึกสันติไมตรีทันที เพื่อร่วมงานสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี 2562 และแถลงแผนการปฏิบัติงานประจำปี 2563 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

การประชุมครั้งนี้มีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ รอง ผอ.รมน. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ผู้ช่วย ผอ.รมน. พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ จับตาดูถึงประเด็นการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังเกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มป้อม ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านทางลุ่ม หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 15 นาย ซึ่งเป็นประชาชนอาสา รวมทั้งการเดินหน้าพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เข้า ไปสังเกตการณ์ภายในตึก สันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลได้อย่างไร

โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง “พล.อ.อ.มานัต-อภิชาติ” เป็น ส.ว. คนใหม่

People Unity News : เว็บไชต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ “อภิชาติ โตดิลกเวชช์” เป็นสมาชิกวุฒิสภาคนใหม่ แทนพลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน และ “ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์”

วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ เว็บไชต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา ความว่า

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา จำนวน ๒๕๐ คน ตั้งแต่วันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒เนื่องด้วย นายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ สมาชิกวุฒิสภา ได้ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาและ พลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน สมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง ได้พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ เนื่องจากเกษียณอายุราชการ เป็นเหตุให้ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาว่างลง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๖๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาแทนตำแหน่งที่ว่าง ดังต่อไปนี้ ๑.พลอากาศเอกมานัต วงษ์วาทย์ ๒. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พรเพชร วิชิตชลชัย
ประธานวุฒิสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.มานัตนั้นปัจจุบันดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารอากาศ ขณะที่นายอภิชาติเป็นอดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

“พุทธิพงษ์”ย้ำคนไทยพร้อมปรับตัวรับยุคดิจิทัล งานสัมมนา Krungsri Business Forum 2019

People Unity News : “พุทธิพงษ์” ย้ำคนไทยมีความพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับการพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัล ในงานสัมมนา Krungsri Business Forum 2019 – “Platform Economy: The New Business Revolution”

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บรรยายพิเศษในงานสัมมนา Krungsri Business Forum 2019 – “Platform Economy: The New Business Revolution” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้บริการ Krungsri Business Empowerment ที่จัดขึ้นสำหรับลูกค้าธุรกิจร่วม 800 รายของกรุงศรีเพื่อแบ่งปันมุมมองในการทำธุรกิจ รวมถึงแนวทางการเสริมศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจจากแนวคิด Platform Economy เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต

โดยมีนายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และนายพรสนอง ตู้จินดา (ขวาสุด) ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้าธุรกิจ กรุงศรี ให้การต้อนรับ และมีนายนายทิม ไซแนน ผู้อำนวยการ กูเกิล คลาวด์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนายแจ็ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด เป็นวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิร่วมบรรยายด้วย

นายพุทธิพงษ์ว่า ประเทศไทยมีประชากร 66.4 ล้านคน มีคนเข้าถึงการใช้โทรศัพท์มือถือ 187% แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนคนใช้เครือข่ายโทรศัพท์มือถือมากกว่าจำนวนประชากร คนหนึ่งคนมีอุปกรณ์หลายเครื่อง มีคนที่ใช้เครือข่าย mobile broadband 108%

ทั้งหมดนี้ บ่งบอกว่าคนไทยมีความพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับการพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งนี้ ตนไม่แปลกใจว่าธุรกิจด้านการเงินการธนาคารสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างดี เนื่องจากมีการเตรียมการมาเป็นเวลานาน ประเทศอย่างสิงคโปร์มีการเตรียมการเพื่อปรับตัวเพื่อรับ Digital Disruption มา 5 ปี ในประเทศไทยเอง โดยเฉพาะภาคเอกชน ก็ได้มีการเรียนรู้และปรับตัวไม่ต่ำกว่า 5 ปี เช่นกัน แม้กระทั่งในปัจจุบัน รัฐบาลสิงคโปร์ ก็ยังต้องเรียนรู้ด้านดิจิทัลภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ไม่ต่างจากในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าไม่คำว่าสายเกินไปในการเรียนรู้ด้านดิจิทัล และประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นรองใครในด้านการพัฒนาปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล โดยรัฐบาลมีความตั้งใจผลักดันให้ประเทศไทยเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ ซึ่งรัฐบาลมีบทบาทเป็นฝ่ายที่วางโครงสร้างพื้นฐานและสนับสนุน แต่รัฐบาลโดยลำพังไม่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยประชาชนและภาคเอกชนที่ต้องเข้มแข็งและเดินไปในทิศทางเดียวกัน

ทั้งนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพยายามผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของอาเซียน โดยการพยายามผลักดัน Digital Valley ในประเทศไทย ในพื้นที่ 700 กว่าไร่ ที่อำเภอศรีราชา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยจะมีรถไฟความเร็วสูงเข้าถึง และจะดึงดูดบริษัทด้านดิจิทัลชั้นนำของโลกมารวมในเมืองดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงฯ ตั้งเป้าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายใน 900 วัน

“อนุทิน”ส่งปลัด สธ.เยี่ยมผู้บาดเจ็บ-จนท.เหตุยิงถล่มป้อม ชรบ.ยะลา

People Unity News : “อนุทิน”เสียใจเหตุคนร้ายยิงถล่มป้อม ชรบ.ยะลา ส่งปลัด สธ.เยี่ยมผู้บาดเจ็บ-จนท.

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ลอบโจมตีป้อมยามชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านในพื้นที่ จ.ยะลา พร้อมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บรวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยระบุว่า ขอบคุณ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เป็นผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยม และให้กำลังใจ ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มป้อมชรบ.จังหวัดยะลา ที่โรงพยาบาลยะลา และ ให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และ บุคลากรสาธารณสุข พร้อมทั้งรับฟังปัญหาการปฏิบัติงาน ในสถานการณ์พิเศษ

ในนามกระทรวงสาธารณสุข ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย และ ขอให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่าน ทุกหน่วยงาน กระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้ความร่วมมือ และ สนับสนุนทุกวิธี เพื่อนำความสงบ สันติ สามัคคี กลับคืนสู่ประชาชนคนไทย ทุกคน

“เศรษฐพงค์” จี้”กสทช.”ในสภาฯ ประมูล 5G ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ ปชช.

People Unity News : “เศรษฐพงค์” จี้”กสทช.”ในสภาฯ ประมูล 5G ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ ปชช. แนะเรียกคืนคลื่น 3.5GHz รองรับอุตสาหกรรม 4.0-เศรษฐกิจดิจิทัล เร่งจัดระเบียบนำสายสื่อสารลงใต้ดิน กำชับใช้เงินกองทุนวิจัยฯแบบแอคทีฟ “ฐากร” ชี้เคาะประมูล 5G ก.พ.63 เร่งจัดระเบียบสายสื่อสารลงดิน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร รับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินสำหรับปี 2559 ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ โดย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า กสทช. ประกาศเรื่องการประมูล 5G ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทบต่อประชาชอย่างมาก ทั้งนี้จะต้องไม่ใช่การประมูลเพื่อนำเงินเข้ากระทรวงการคลังเท่านั้น แต่จะต้องเป็นการสร้างงานให้เกิดขึ้น จึงจะเป็นความสำเร็จในการสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ เป็นเศรษฐกิจดิจิทัล ดังนั้นจะต้องใช้คลื่นความถี่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ทำให้เกิดการจ้างงาน และเกิดระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ เพราะ 5G กำลังจะเปลี่ยนอุตสาหกรรมการผลิตไปเป็นระบบโรโบติก ดังนั้นกสทช. จะต้องพยายามเรียกคืนคลื่น 3.5 GHz จากไทยคม5 โดยต้องใช้งบประมาณเพื่อเป็นการให้ความรู้กับประชาชนด้วย ในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการนำสายสื่อสารลงดิน ขอให้มีการดำเนินการต่อไปในเมื่องใหญ่ๆด้วย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน นอกจากนี้กสทช. จะต้องเตรียมงบประมาณเพื่อไปจัดหาอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยจะต้องมองการณ์ไกลไป 3-5 ปีข้างหน้า ทั้งเรื่องการควบคุมคลื่นความถี่ และการตรวจสอบความแรงของคลื่นความถี่ที่มีความแรงเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชน เนื่องจากในอนาคตการตรวจสอบความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมถึงการโจมตีไซเบอร์จะเปลี่ยนรูปแบบไปอย่างมาเพราะการมารของ 5G ขณะที่การคุมครองผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพของกสทช. เนื่องจากเทคโนโลยีกำลังมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อาจทำให้กสทช.มีความโบราณไปทันที หากไม่การกำกับดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ ตนขอเสอนแนะให้กสทช.ได้เตรียมกองทุนที่นำไปจัดหาอุปกรณ์ในการตรวจสอบความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน ซึ่งต้องการอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและมีความทันสมัยมากกว่าที่กสทช.มีในวันนี้

พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า อีกเรื่องคือการใช้เงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ที่ผ่านมาอาจมีปัญหาจากคนที่มองเข้ามาว่าการเงินกองทุนนี้อาจเกิดประโยชน์แต่กสทช.เอง ซึ่งวัตถุประสงค์ของกองทุนฯดังกล่าวมีความชัดเจน คือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ความมั่นคงของประเทศ ซึ่งกองทุนนี้ได้เงินจากค่าธรรมเนียมของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม เราควรนำเอาค่าธรรมเนียมที่เก็บมาได้คืนประโยชน์กับประชาชนในเรื่องความปลอดภัย เรื่องประโยชน์สาธารณะ โดยกสทช. ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้การใช้งบประมาณมีความอ่อนตัวมากกว่าที่เป็นอยู่ เนื่องจากเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การที่กสทช. อนุมัติโครงการล่าช้าไป1-2 ปี ก็ทำให้โครงการนั้นๆ มีความโบราณแล้ว ไม่ทันสมัยที่จะตอบสนองความต้องการของประชาชน

“กสทช. ต้องบริการจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ให้เป็นกองทุนลักษณะแอคทีฟ เพื่อนำออกไปสร้างเทคโนโลยีให้เกิดการจ้างงาน คุ้มครองความปลอดภัยของประชาชน สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เชื่อว่ากสทช.ทราบดีทั้งหมด และทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่อนาคตเปลี่ยนแปลงเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0แน่นอน กสทช.จึงไม่สามารถดำเนินการแบบเดิมได้อีกต่อไป ผลขอแสดงความห่วงใยไว้ ณ ที่นี้ เพื่อกสทช. ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เท่าทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด” พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว

ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ชี้แจงว่า เรื่องการประมูล 5G จะได้มีการนำเข้าที่ประชุมกสทช. และจะมีการเคาะประมูลในวันที่ 16 ก.พ. 63 จากนั้นเดือนมีนาคม 63 จะมีการติดตั้งสถานี ในเดือนสิงหาคมจะเปิดให้บริการในพื้นที่EEC ก่อน และจะพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ต่อไป สำหรับเรื่องการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน ยืนยันว่ากสทช.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยพื้นที่ที่มีท่อใต้ดินของทีโอทีอยู่แล้ว เราได้นำลงดินหมดแล้ว เห็นได้จากถนนพหลโยธินที่เราได้ทำเสร็จแล้ว แต่ปัญหาที่พบคือเวลาจะนำสายสื่อสารลงดินจะต้องให้ผู้ประกอบการมาชี้สายของตัวเอง เพราะถ้าหากมีการตัดสายผิดอาจจะกระทบต่อการใช้บริการของประชาชนได้ เราได้ประสายไปยังกทม. สตช. และผู้ประกอบการให้มาชี้จุดสายสื่อสารของตัวเอง อย่างไรก็ตามกระทรวงดีอีเอส ได้อนุมัติให้กทม. ดำเนินการสร้างท่อร้อยสายในกรุงเทพฯทั้งหมด ต่อจากทีโอที ดังนั้นต่อจากนี้ไปจะเป็นระยะที่กสทช.จะเป็นผู้ดำเนินการ โดยกทม.กำหนดว่าดำเนินการทั้งหมด 2,400 กิโลเมตร ได้เสร็จสิ้นใน2ปี แต่ในตรอกซอกซอยนั้น เนื่องจากพื้นที่แคบ ไม่สามารถขุดเจาะเพื่อนำสายลงดินได้ เราจะดำเนินการจัดระเบียบสายเพื่อให้เกิดความสวยงามแทน ส่วนการคุ้มครองผู้บริโภคนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าบริการมือถือ หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ต สิ่งที่กสทช.กังวลคือ การขยายโครงข่างออกไปในขณะนี้ ที่คลื่นความถี่ขยับเข้าไปใกล้บ้านเรือนประชาชนมากขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชแน่นอน เบื้องต้นเราจะติดตามว่าคลื่นที่ปล่อยออกมานั้นสอดคล้องกับมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้หรือไม่

“เทวัญ”พร้อมคณะลงพื้นที่ปัตตานีสักการะหลวงปู่ทวดวัดช้างให้

People Unity News : “เทวัญ”พร้อมคณะลงพื้นที่ปัตตานีสักการะหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ประชุมสัมมนาพระสังฆาธิการพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายณรงค์ ทรงอารมณ์ รองผู้อำนวยการรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อพบปะพระสังฆาธิการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา และให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ พร้อมรับเรื่องการจัดตั้งศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่พระพุทธศาสนาในพื้นที่

ในช่วงบ่ายรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปสักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ศาลเจ้าเล่งจูเกียง จากนั้นได้เดินทางไปยังวัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง จ.ปัตตานี เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขเพื่อให้เกิดความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากพระสังฆาธิการระดับอำเภอ ระดับตำบล และพระเลขานุการ ผู้รับผิดชอบงานคณะสงฆ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอจังหวัดสงขลา

ทั้งนี้ คณะสงฆ์เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้  จดทะเบียนรูปแบบของสมาคม เพื่อสร้างความมั่นคงแก่พระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย คณะสงฆ์ ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาชน ร่วมเป็นกรรมการ มีหน้าที่ในการหนุนเสริมคณะสงฆ์ ในด้านการปกครอง การศาสนศึกษา การศึกษาสงเคราะห์การเผยแผ่ การสาธารณูปการ และการสาธาณสงเคราะห์ อย่างมีประสิทธิภาพ และสัมฤทธิ์ผลทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในพื้นที่ พร้อมกันนี้ จากเหตุรุนแรงคนร้ายยิง ชรบ.เสียชีวิต ผู้ร่วมเวที ขอให้ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนให้มีประสิทธิภาพ และเร่งสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในพื้นที่

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับฟัง ว่าจะรวบรวมข้อเสนอต่างๆ จากพระภิกษุสงฆ์และประชาชนในพื้นที่ที่ได้สะท้อนความต้องการ นำเรียนนายกรัฐมนตรี และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยเฉพาะความปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมการเรียนธรรมะของเยาวชนให้เพิ่มมากขึ้น การพัฒนาวัดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อพัฒนาพระพุทธศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความมั่งคง แข็งแกร่ง เป็นศูนย์รวมจิตของประชาชน และจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดสันติสุขในพื้นที่

Verified by ExactMetrics