วันที่ 18 พฤษภาคม 2024

รัฐบาลสืบสาน อนุรักษ์ “โนรา” สู่ Soft Power ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย

People Unity News : รัฐบาลร่วมสืบสาน อนุรักษ์ “โนรา” หลัง UNESCO ประกาศเป็นมรดกโลกด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ สู่ Soft Power ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย

25 เม.ย. 65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดงานโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านการแสดงโนรา “สืบสานศิลป์แผ่นดินโนรา มรดกโลกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 ส.ค. 65 พร้อมชมการแสดงชุด “กำเนิดมโนราห์” โดยนักเรียน รร.อุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัย พัทลุง

“โนรา” หรือ “มโนราห์” (Nora) เป็นศาสตร์การรำของไทย เป็นศิลปะพื้นบ้านของพี่น้องชาวใต้ ที่ UNESCO ประกาศเป็นมรดกโลกด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่วัฒนธรรมไทยสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ และสามารถดึงดูดให้ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยหันมาสนใจศิลปะวัฒนธรรมไทยมากขึ้น นับเป็นหนึ่ง Soft Power สำคัญของไทย ที่จะช่วยจะส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคใต้ผ่านการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจภาคใต้ต่อไป

Advertisement

เผยรายละเอียดมติ ครม. โครงการบ้านฅนไทย เพื่อผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

People unity news online : ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการบ้านฅนไทย เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบนที่ดินราชพัสดุ

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2561 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งที่ประชุม ครม. ได้มีการพิจารณา “โครงการบ้านฅนไทย” โดยมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้

  1. กรอบการดำเนินโครงการบ้านฅนไทย
  2. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน แยกบัญชีโครงการบ้านฅนไทย เป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) โดยไม่ขอรับการชดเชยจากรัฐบาลและขอนำผลกระทบรายได้และค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการบ้านฅนไทยมาปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงการประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ และขอไม่นับรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loans : NPLs) ที่เกิดจากการดำเนินโครงการฯ เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน (กรณี % NPLs ที่เกิดขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย NPLs  ของธนาคารในภาพรวม) และขอนำผลกระทบต่อรายได้และค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการบวกกลับกำไรสุทธิเพื่อการคำนวณโบนัสพนักงาน (การคำนวณต้นทุนค่าใช้จ่ายของธนาคาร คือ ต้นทุนเงินฝากบวก 0.25% (เงินนำส่งกองทุนฯ) บวกต้นทุนดำเนินงาน)

สาระสำคัญของเรื่อง

โครงการบ้านประชารัฐบนที่ดินราชพัสดุระยะที่ 2 (บ้านฅนไทย)

กระทรวงการคลังได้สำรวจที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศเพื่อนำมารองรับการดำเนินโครงการ “บ้านฅนไทย” โดยในเบื้องต้น กระทรวงการคลังได้คัดเลือกที่ดินราชพัสดุที่มีความเหมาะสม และไม่เป็นที่ดินที่ได้มาจากการเวนคืน จำนวน 8 แปลง ครอบคลุม 4 ภาค เพื่อนำมาดำเนินโครงการฯ  โดยมีวัตถุประสงค์  เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบนที่ดินราชพัสดุ

ประเภทที่อยู่อาศัย : กระทรวงการคลังได้กำหนดรูปแบบการก่อสร้างโครงการบ้านฅนไทยเป็นประเภทที่อยู่อาศัย 3 รูปแบบ ประกอบด้วย (1) บ้านแฝด พื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร (2) บ้านแถว พื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร  และ (3) อาคารชุดพักอาศัย พื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร ในระดับราคา 350,000 – 700,000 บาทต่อหน่วย

กลุ่มเป้าหมาย : 1) ประชาชนที่อยู่ในทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐกับกระทรวงการคลัง 2) ประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อคนต่อเดือน 3) ประชาชนทั่วไป (ธนาคารไม่ต้องสนับสนุนดอกเบี้ย) โดยพิจารณากลุ่มเป้าหมายลำดับที่ 1 ก่อน เมื่อ Supply เหลือจึงพิจารณากลุ่มเป้าหมายที่ 2 และ 3 ตามลำดับต่อไป

คุณสมบัติผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ : ผู้มีสัญชาติไทย

มาตรการสินเชื่อ : กรอบวงเงินโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท

(1) สินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย  (Pre Finance) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสิน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 ร้อยละ 3 ต่อไป หลังจากนั้น MLR – ไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 5 ปี  เพื่อสนับสนุนสินเชื่อให้ผู้ประกอบการและหรือบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด  ที่เข้าร่วมพัฒนาโครงการ

(2) สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนปีที่ 1 ถึงปีที่ 4      ร้อยละ 2.75 ต่อปี หลังจากนั้น กรณีรายย่อย MRR – ร้อยละ 0.75 ต่อปี หรือกรณีสวัสดิการหักเงินเดือน MRR – ร้อยละ1.00 ต่อปี ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี และผ่อนปรนการกำหนดอัตราส่วนรายจ่ายในการชำระหนี้ต่อรายได้ต่อเดือน (Debt Service Ratio : DSR) หรืออัตราส่วนภาระผ่อนชำระหนี้รวมต่อรายได้สุทธิรวม (Debt to Income Ratio : DTI) ตามที่ธนาคารกำหนด โดยมีวงเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัยบนที่ดินราชพัสดุในระดับราคา 350,000-700,000 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้  ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารออมสินพิจารณาขยายวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม

รูปแบบ : โครงการการผ่อนชำระสู่การเช่าระยะยาว (Rent to Lease) กรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเป็นของผู้ได้รับสิทธิอยู่อาศัย และผู้ได้รับสิทธิพัฒนาโครงการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1) พื้นที่โครงการ ที่ราชพัสดุครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศ

2) ราคาที่อยู่อาศัยในระดับราคา 350,000 – 700,000 บาท ต่อหน่วย

3) บ้านแฝด/บ้านแถว/อาคารชุดพักอาศัยมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตรต่อหน่วย

4) กำหนดให้มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางไม่เกินร้อยละ 30 ของพื้นที่โครงการฯ เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น  และ/หรือเป็นประโยชน์ต่อโครงการฯ

5) การคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิพัฒนาโครงการจะพิจารณาผู้ที่เสนอเงื่อนไขที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการมากที่สุด

ทั้งนี้  การดำเนินโครงการในแต่ละพื้นที่จะมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมพัฒนาโครงการฯ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และจัดทำแผนบริหารโครงการฯตลอดอายุโครงการ  ส่วนกระทรวงการคลังจะพิจารณาผ่อนปรนอัตราค่าเช่า ค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขต่างๆในการดำเนินโครงการ “บ้านฅนไทย” โดยพิจารณาความเป็นไปได้ภายใต้หลักกฎหมายและระเบียบกระทรวงการคลังที่กำหนด

People unity news online : post 5 มกราคม 2561 เวลา 10.40 น.

 

“ศรีสุวรรณ” พาชาวบ้านร้องศาลปกครองยักษ์ใหญ่อสังหาฯสร้างคอนโดไม่ชอบด้วย กม.

People Unity News : 3 กุมภาพันธ์ 2566 ชาวบ้านร้องศาลปกครอง เทศบาลเมืองบางแก้วอนุมัติก่อสร้างคอนโดหรูไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านเศรษฐสิริ ถ.บางนาตราด ซอย 66 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จำนวนหนึ่ง เดินทางมายื่นฟ้องนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว สมุทรปราการ และคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร  การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรณีใช้อำนาจโดยมิชอบให้ความเห็นชอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ( อีไอเอ) และอนุมัติให้บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยขนาดใหญ่ความสูงจำนวน 34 ชั้น โดยไม่เป็นไปตามกฎหมายควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง  สร้างความเดือดร้อนและเสียหายต่อชาวบ้านในชุมชนหลังโครงการก่อสร้างดังกล่าวอย่างมาก ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมจนทนอยู่ในพื้นที่ไม่ได้

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ของบริษัทชื่อดังในตลาดหลักทรัพย์ มีพื้นที่อาคารรวมทั้งสิ้น 56,375.79 ตร.ม. ตั้งอยู่บนถนนเมกาอเวนิว ซึ่งมีความกว้างของเขตทางไม่เป็นดามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ.2535) แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 50 (พ.ศ.2540) ออกตามความ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ที่กำหนดไว้ว่าที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของอาคารขนาดใหญ่พิเศษที่มีพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นมากกว่า 30,000 ตร.ม. ต้องมีด้านหนึ่งด้านใดของที่ดินนั้นยาวไม่น้อยกว่า 12 เมตร ติดถนนสาธารณะที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร นอกจากนั้น อาคารดังกล่าวตั้งอยู่ในแนวเขตบริเวณใกล้เคียงสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ 2551 แต่กลับพบข้อพิรุธจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยว่า อาคารดังกล่าวไม่ได้อยู่ในแนวเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ทั้งๆที่หลักฐานในราชกิจจานุเบกษาปรากฏชัดแจ้งว่าอยู่ในแนวเขต ซึ่งเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งต่อหลักฐานของทางราชการเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านเคยร้องเรียนไปยังเทศบาลเมืองบางแก้ว รวมทั้ง คณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร และอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ไม่ได้รับการเยียวยาแก้ไขจึงมาร้องเรียนสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนให้ช่วยเป็นธุระและนำความมายื่นฟ้องต่อศาลในวันนี้เพื่อขอให้ศาลพิพากษาระงับและเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างและเพิกถอนรายงาน EIA ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไปด้วย

Advertisement

กองสลากขอรับฟังความคิดเห็น เตรียมออกหวยบนดิน 3 ตัว

People Unity News : 2 กรกฎาคม 2565 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะดำเนินการออกสลากรูปแบบใหม่ เพื่อใช้แก้ปัญหาสลากเกินราคาให้หมดไป และสามารถนำเงินจากการดำเนินการผิดกฎหมาย เช่น หวยใต้ดิน กลับมาเป็นรายได้นำส่งรัฐไปใช้ประโยชน์กับประชาชนคนไทย

โดยจะขอรับฟังความคิดเห็นสำหรับ ปี 2565 จำนวน 2 รูปแบบ ได้แก่

1.สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ 6 หลัก  https://www.youtube.com/watch?v=S5pzD_uyz1o

ขั้นตอนการซื้อ https://youtu.be/iPtDCvsm9Bg

2.สลากกินแบ่งรัฐบาลแบบตัวเลข 3 หลัก https://www.youtube.com/watch?v=_IxP6b07ROw

ขั้นตอนการซื้อ https://youtu.be/-Poki7kkEtA

ทั้งนี้สามารถรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  https://newlottery.glo.or.th และจะเปิดให้แสดงความคิดเห็นได้ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฏาคม 2565 – 10 สิงหาคม 2565

Advertisement

ประสานวัดเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์

People Unity News : 13 เมษายน 2566 “อนุชา” สั่งการสำนักพุทธประสานวัดเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวเข้าวัดหนาแน่นช่วงสงกรานต์ ขอประชาชนขับขี่ปลอดภัย เมาไม่ขับ ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนเดินทางเข้าวัดทำบุญ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างคึกคัก เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว ซึ่งถือเป็นประเพณีดีงามที่ชาวพุทธถือปฏิบัติมาเป็นระยะเวลานาน ตนในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนา สั่งการให้มีการเตรียมความพร้อมรองรับประชาชน และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาทำบุญ ซึ่งคาดว่าปีนี้วัดจะเป็นสถานที่ที่พุทธศาสนิกชนจำนวนมากนิยมเดินทางภายหลังจากสถานการณ์แพร่พระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ผ่อนคลายลง ส่งผลให้การท่องเที่ยวทั่วประเทศกลับมาคึกคัก โดยเฉพาะการท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม โดยปีนี้หลายจังหวัดได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น ในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้เปิดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดภัยปลอดเครื่องดื่มแอลกอลฮอล์ จำนวน 40 แห่ง ในพื้นที่ 29 เขต ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ มีชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวร่วมเข้าวัดทำบุญ และเล่นน้ำสงกรานต์อย่างคึกคักหลังจากที่ไม่ได้จัดงานมาเป็นระยะเวลา 3 ปี จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา

“เทศกาลสงกรานต์ เป็นวันหยุดยาว มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ขอให้ใช้เวลาวันหยุดพักผ่อนอยู่กับครอบครัว ร่วมเข้าวัดทำบุญ ทำกิจกรรมตามประเพณี ในช่วง 7 วันอันตรายนี้ รัฐบาลขอให้ประชาชนเคารพ ปฏิบัติตามกฎจราจร และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง เพื่อลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุทางถนน ขอให้ประชาชนระลึกไว้เสมอว่า “เมาไม่ขับ” ในนามของรัฐบาลขออำนวยพรให้ทุกท่านเดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ และประสบแต่ความสุขในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

อย. เข้มฉลากสินค้าผสมกัญชากัญชง ต้องมีข้อความเตือน

People Unity News : 17 กรกฎาคม 2565 รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย อย.เข้มฉลากสินค้าผสมกัญชากัญชง ต้องมีข้อความเตือน ย้ำ! งดจำหน่ายอายุต่ำกว่า 20 ปี

วันนี้ (17 ก.ค.65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเรื่องการสื่อสารทำความเข้าใจและการออกมาตรการเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคอาหารผสมกัญชา กัญชง ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รายงานว่า ได้ออกมาตรการในการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด โดยมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำกับดูแลอาหารที่มีส่วนผสมกัญชา กัญชง ให้มีคุณภาพมาตรฐาน โดยคำนึงถึงข้อมูลความปลอดภัยตามหลักวิชาการ อาทิ

1) การกำกับดูแลให้ผลิตภัณฑ์อาหารใส่กัญชา กัญชง ได้รับ อย. ถูกต้อง

2) กำหนดให้ฉลากผลิตภัณฑ์แสดง ข้อแนะนำการบริโภคเพื่อความปลอดภัย “ไม่ควรบริโภคเกินวันละ 2 หน่วยบรรจุ”

3) แสดงข้อความคำเตือนที่เห็นได้ชัดเจนบนฉลากผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง ได้แก่ “เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทาน” “หากมีอาการผิดปกติ ควรหยุดรับประทานทันที” “ผู้ที่แพ้หรือไวต่อสารTHC หรือ CBD ควรระวังในการรับประทาน” และ “อาจทำให้ง่วงซึมได้ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักรกล”

4) ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตต้องมีความปลอดภัย และมีผลวิเคราะห์ยืนยันปริมาณ THC ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด และมีมาตรการกำกับดูแลสถานที่ผลิต และคุณภาพมาตรฐานอาหาร

มากไปกว่านั้นทาง อย. ได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชากัญชงในท้องตลาดทุกช่องทางการจำหน่าย และเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารส่งตรวจวิเคราะห์ปริมาณ THC/CBD และคุณภาพมาตรฐานอื่นที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หากพบไม่ได้คุณภาพมาตรฐานก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด

ขณะเดียวกัน อย. ได้ขอความร่วมมือ ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ในการจัดวางอาหารและขนมที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง ให้เหมาะสมโดยแยกอาหารผสมกัญชา กัญชง จัดวางเป็นกลุ่มเฉพาะ จัดวางให้ลดการหยิบสินค้าเอง และมีป้ายชัดเจนว่า “งดจำหน่ายกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี” และได้กำชับขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ให้จำหน่ายให้กับผู้บริโภคที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

“จึงขอย้ำว่า การปลดล็อกกัญชา กัญชงออกจากบัญชียาเสพติดนั้น เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ส่วนการนำมาเป็นส่วนผสมของอาหาร ขอให้ผู้บริโภคพิจารณาด้วยความรอบคอบ เลือกซื้ออาหารที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ปฏิบัติตามคำแนะนำในการบริโภคและข้อความคำเตือนที่แสดงบนฉลาก ที่สำคัญผู้ปกครอง ไม่ควรซื้ออาหารใส่กัญชา กัญชง ให้บุตรหลานอายุต่ำกว่า 20 ปี รับประทาน” นางสาวรัชดา กล่าว

Advertisement

“ภาณุรัตน์”กราบศพ”ร.ต.อ.พยุง” เหยื่อโจรโต้ยิงถล่มชรบ.ยะลา

People Unity News : “จักรทิพย์” ห่วงใยครอบครัว “ร.ต.อ.พยุง” เหยื่อโจรโต้ยิงถล่ม ชรบ. เสียชีวิต ส่ง “ภาณุรัตน์” เยี่ยมบำรุงขวัญ กราบศพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ

วันที่ 9 พ.ย.2562 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 เวลาประมาณ 00.10 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายลอบโจมตีป้อมยามจุดตรวจ ชรบ.ประจำหมู่บ้านทุ่งสะเดา ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้ร.ต.อ.พยุง คิดขุนทด รอง สว.กก.ซถ.2 บก.สส.จชต. และชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา เสียชีวิต รวม 15 นายนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยครอบครัวของ ร.ต.อ.พยุง ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่สูญเสียจากเหตุดังกล่าว จึงมอบหมาย พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จตช. ให้ไปตรวจเยี่ยมและบำรุงขวัญกำลังใจให้กับทางครอบครัวผู้สูญเสีย

ขณะที่พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จตช. จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จตร.(สบ 8) ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปตรวจเยี่ยม

และวันนี้ (9พ.ย.) เวลาประมาณ 14.00 น. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จตร.(สบ 8) พร้อมด้วย พ.ต.อ.รังษี มั่นจิตร ผกก.ซถ.2 และ พ.ต.ท.อับดุลฮาลีม ดือเร๊ะ สว.กก.ซถ.2 บก.สส.จชต. ผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.พยุง จึงได้เดินทางมาที่วัดลำใหม่ อ เมือง จว.ยะลา เพื่อกราบศพ ร.ต.อ.พยุง คิมขุนทด และมาเยี่ยมบำรุงขวัญนางพนิตนารถ คินขุนทด ภรรยาของ ร.ต.อ.พยุง และครอบครัวเพื่อให้กำลังใจ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวยืนยันว่า ผู้บังคับบัญชาของ ตร. มีความห่วงใยครอบครัวของข้าราชการตำรวจที่สูญเสียและจะดูแลสวัสดิการให้เป็นไปตามสิทธิ พร้อมนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งด้วย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

อธิบดีกรมสุขภาพจิต วิเคราะห์เหตุพ่อฆ่าลูก 5 ศพ จิตใจด้านชาต่อความรุนเเรง

People Unity News : 23 กันยายน 2566 อธิบดีกรมสุขภาพจิต วิเคราะห์เหตุพ่อฆ่าลูก 5 ศพ จิตใจด้านชาต่อความรุนเเรง เเนะสังคมร่วมใส่ใจกันเเละกัน

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยกับทีมข่าวกองบรรณาธิการข่าววิทยุสำนักข่าวไทย วิเคราะห์พฤติกรรม จากคดีพ่อแท้ๆ ฆ่าลูกตัวเองต่อเนื่อง 5 ศพ ซึ่งกำลังเป็นคดีสะเทือนใจ ว่า จากการวิเคราะห์สาเหตุจากนักจิตวิทยา จิตแพทย์ นักอาชญวิทยานั้น พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความโหดร้ายอย่างมาก ในแง่ของผู้กระทำต่อคนในสายเลือดเดียวกัน สะท้อนสภาพจิตใจที่ด้านชาต่อความรุนแรง มีแนวโน้มใช้ความสุข ความต้องการตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เห็นใจใครเลย และเกือบ 100% มักเคยเป็นเหยื่อ หรือคลุกคลีกับความรุนแรงตั้งแต่อายุยังน้อย และเรียนรู้การกลบความรุนแรง เพื่อปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้ และปิดซ่อนเพื่อให้เหยื่อถูกทำร้ายไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ข่าวนี้จะน่าสนใจ น่าติดตาม รับฟังข่าวด้วยความเป็นห่วง แต่ผลกระทบทางอ้อม จากการติดตามข่าวคือ เกิดความกดดันความรู้สึกอย่างมาก ช่วงแรกจะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อรับรู้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทางอ้อม และน่าเป็นห่วงคือ ความชาชินต่อความรุนแรง หรือการชี้นำทิศทางให้เห็นความรุนแรง หากผู้ที่รับรู้ข่าวนี้มีภาวะจิตใจที่เอื้อต่อการก่อปัญหาได้

สำหรับการแก้ไขปัญหา ตั้งแต่ระดับเล็กที่สุด คือครอบครัว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ต้องดูแลกันและกันโดยไม่ใช้ความรุนแรง รวมถึงการเป็นต้นแบบที่ดีในครอบครัว

นอกจากนี้ พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงเกินกว่าปกติ อาจเกิดจากเด็กบางคนมีปัญหาสุขภาพกายเข้ามาเกี่ยวข้อง มีข้อมูลว่า บางคนมีปัญหาทางสมองบางเรื่อง อาจมีสมองบางจุดไม่พัฒนาเท่าที่ควร สติปัญญาบางด้านไม่สมบูรณ์

การเเก้ไขปัญหาระดับสังคม ต้องร่วมกันใส่ใจกันและกันอย่างถูกวิธี ไม่ปล่อยให้ผู้ใหญ่ใช้เด็กที่พิการ หรือน่าสงสาร น่าเห็นใจ กลายเป็นแหล่งเรียกร้องความช่วยเหลือแบบผิดๆ ซึ่งในคดีนี้ยังต้องรอการพิสูจน์จากตำรวจ แต่ที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีแบบนี้ โดยการทำให้เด็กเกิดความพิการและนำไปขอทาน ดังนั้นสังคมต้องฉุกคิดว่ากำลังช่วยเหลือ หรือทำให้เด็กตกเป็นเหยื่อมากขึ้น และสังคมต้องช่วยกันสอดส่องเหยื่อที่กำลังถูกคุกคาม ว่ามีมากแค่ไหน ช่วยเหลืออย่างไร ยืนยันว่าทุกคนมีสิทธิในการช่วย และปกป้องเด็กตามกฎหมาย หากพบเห็นความรุนแรงสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเข้าช่วยเหลือได้ และสังคมต้องรีบปรับตัว อย่าเกรงกลัวต่อการต้องเผชิญกับเรื่องยุ่งยาก

Advertisement

ขีดเส้น 31 มี.ค. หน่วยงานรัฐ-เอกชนต้องจ้างคนพิการทำงาน

People unity news online : เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยเฉพาะเรื่องการจ้างงานให้คนพิการมีโอกาสประกอบอาชีพสร้างรายได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกับคนอื่น ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

“ในปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าส่งเสริมให้คนพิการได้ประกอบอาชีพเพิ่มขึ้นอีก 10,000 คน จากเมื่อปีที่แล้วคนพิการวัยทำงานมีงานทำแล้ว 192,393 คน จากทั้งหมด 799,342 คน โดยจะรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายการจ้างงานคนพิการอย่างจริงจัง เพื่อให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันสนับสนุนการสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ

ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานมี 3 ทางเลือก ได้แก่ 1) จ้างงานคนพิการในสัดส่วนลูกจ้างคนพิการ 1 คน ต่อลูกจ้าง 100 คน หรือ 2) ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือ 3) ให้สัมปทานแก่คนพิการเข้าไปขายสินค้าและบริการในพื้นที่ของหน่วยงานได้ โดยทางเลือกที่ 3 นี้ ขอให้หน่วยงานหรือองค์กรแจ้งความจำนงกับทางราชการเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลไว้ โดยหากอยู่ในเขต กทม.ให้แจ้งต่อกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ส่วนในภูมิภาคแจ้งที่ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ภายใน 31 มี.ค.60 นี้”

สำหรับคนพิการที่กำลังมองหางานสามารถดูข้อมูลหน่วยงานที่เปิดรับสมัครงาน หรือหน่วยงานที่เปิดพื้นที่ให้คนพิการเข้าไปประกอบอาชีพได้ที่ www.ตลาดงานคนพิการ.com และหากต้องการร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือเรื่องการจ้างงานสามารถติดต่อศูนย์บริการคนพิการ โทร.0 2354 4542 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694

“ท่านนายกฯ เน้นย้ำให้หน่วยงานของรัฐไปสำรวจว่าพื้นที่ของตนได้ปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการเพียงพอแล้วหรือยัง เช่น ทางเดิน ทางขึ้นอาคาร ห้องน้ำ ลานจอดรถ ฯลฯ ส่วนสถานที่สาธารณะ แหล่งท่องเที่ยวให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการในลักษณะเดียวกัน เพื่อส่งเสริมให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป”

People unity news online : post 27 มีนาคม 2560 เวลา 09.55 น.

ด่วน ครม. เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สูงสุด 250 บ./เดือน เป็นเวลา 6 เดือน (เม.ย. – ก.ย. 65)

People Unity News : เฮ! ครม. อนุมัติเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุที่ได้เบี้ยยังชีพฯ สูงสุด 250 บ./เดือน เป็นเวลา 6 เดือน บรรเทาผลกระทบเศรษฐกิจ

26 เมษายน 2565 ที่ประชุม ครม. (26 เม.ย. 65) อนุมัติหลักการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษแก่ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิสวัสดิการเบี้ยยังชีพ จำนวน 10,896,444 ล้านคน เฉลี่ย 100 – 250 บ./เดือน/ราย ตามช่วงอายุ เป็นเวลา 6 เดือน (เม.ย. – ก.ย. 65) เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในขณะนี้

การจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษฯ ครั้งนี้ เป็นการจ่ายเพิ่มจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามช่วงอายุ ดังนี้

1.อายุ 60 – 69 ปี ที่รับเบี้ยยังชีพ 600 บ./เดือน จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 100 บ./เดือน รวมเป็น 700 บ./เดือน/คน

2.อายุ 70 – 79 ปี ที่รับเบี้ยยังชีพ 700 บ./เดือน จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 150 บ./เดือน รวมเป็น 850 บ./เดือน/คน

3.อายุ 80 – 89 ปี ที่รับเบี้ยยังชีพ 800 บ./เดือน จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 200 บ./เดือน รวมเป็น 1,000 บ./เดือน/คน

4.อายุ 90 ปีขึ้นไป ที่รับเบี้ยยังชีพ 1,000 บ./เดือน จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่ม 250 บ./เดือน รวมเป็น 1,250 บ./เดือน/คน

Advertisement

Verified by ExactMetrics