วันที่ 6 พฤษภาคม 2024

“อนุทิน”เปิดคลีนิคกัญชารพ.สุรินทร์ ให้ชาวบ้านร่วมปลูกได้แล้ว

People Unity News : “อนุทิน”เปิดคลีนิคกัญชารพ.สุรินทร์ เผยประชาชนปลูกได้ แต่ต้องร่วมมือกับโรงพยาบาล และใช้เพื่อการแพทย์ เล็งใช้ “หมอออนไลน์” ทำงานร่วม “อสม.” ดูแลสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ ร.พ.สุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายปกครอง คณะผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้ทำพิธีเปิดคลีนิคกัญชาทางการแพทย์ หลังเสร็จพิธี นายอนุทิน กล่าวว่า
เรื่องกัญชาทางการแพทย์ ได้คลายกฎระเบียบไปมากแล้ว ประชาชนสามารถปลูกกัญชาได้ แต่ต้องไปรวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน และปลูกร่วมกับโรงพยาบาล ให้โรงพยาบาลสกัดสารในกัญชามาใช้ประโยชน์

“พันธุ์ที่ปลูกจะต้องได้รับจากภาครัฐ เพราะเป็นพันธุ์ที่ปลูกง่าย ให้สารสำคัญครบ การปลูก และใช้ เป็นไปเพื่อการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะใช้รักษาอาการซึมเศร้า เบื่ออาหาร และผู้ป่วยมะเร็งระยะประคับประคอง ให้กินอิ่ม นอนหลับ แต่ห้ามนำมาใช้เพื่อความบันเทิง เพราะกฎหมายยังไม่อนุญาต สำหรับแพทย์แผนไทย เราเปิดช่องให้ใช้กัญชาเพื่อการรักษาโรคได้ แต่หมอพื้นบ้านต้องมาลงทะเบียนกับทางกระทรวง ขณะที่ยาสูตรกัญชาก็ต้องลงทะเบียนเช่นกัน” นายอนุทิน กล่าว

เล็งใช้ “หมอออนไลน์” ทำงานร่วม “อสม.” ดูแลสุขภาพ
นายอนุทิน ยังกล่าวเรื่องการยกระดับ อสม.ระบุว่า ได้มอบหมายให้นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข หรือ สบส.ดูแลเรื่องการพัฒนาศักยภาพของ อสม.โดยแลกกับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นตัวเงิน หรือสวัสดิการ ที่ต้องหารือกันต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับ อสม.เพราะแพทย์ พยาบาล มีจำกัด จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจาก อสม. โดยหวังเห็น อสม.มีความสามารถดูแลผู้ป่วยชั้นปฐมภูมิได้ ไม่ใช่แค่นำออกกำลังกาย แต่ท่านต้องมีความเข้าใจในเรื่องการดูแลสุขภาพประชาชนขั้นพื้นฐาน ซึ่งด้วยศักยภาพ สามารถทำได้ดีแน่นอน
ขอยกตัวอย่างเมื่อครั้งไปตรวจเยี่ยมกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไปดูการสาธิตวิธีตรวจสอบสารตกค้างในพืชผักผลไม้ และผู้ที่มาสาธิตไม่ใช่หมอ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ แต่เป็น อสม.ซึ่งทำอย่างชำนาญ พร้อมอธิบายข้อมูลทั้งหมดอย่างครบถ้วน นี่คือคุณค่าของ อสม. ที่ต้องนำมาใช้ประโยชน์ ที่อยากเห็นคือ ในเมื่อเรามีเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และมี อสม.กระจายอยู่ทั่วประเทศ หากประชาชนมีอาการเจ็บป่วย ยังไม่ต้องไปหาหมอในตัวเมือง แต่ให้ อสม.คัดกรองก่อน อสม.ต้องสื่อสารกับแพทย์ ให้แพทย์ดูอาการเบื้องต้นให้ หมอ ต้องเป็น “หมอออนไลน์” ดูว่าผู้ป่วยมีแนวทางอย่างไร ต้องไป รพ.สต. ใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลศูนย์ เพื่อลดภาระในการเดินทางของผู้ป่วย และลดความแออัดในโรงพยาบาลศูนย์

“ผมมั่นใจว่าปีหน้าเรื่องการยกระดับ อสม. เราจะเห็นความเป็นรูปธรรมแน่นอน พี่น้อง อสม.ต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวเอง อย่าท้อถอย ผมเป็นกำลังใจให้”

“สมศักดิ์” เปิดงานลอยกระทงสุโขทัย จัดยิ่งใหญ่ 10 วัน 10 คืน

People Unity News : 18 พฤศจิกายน 2566 สุโขทัย  – “สมศักดิ์” เปิดงานลอยกระทงสุโขทัยยิ่งใหญ่ สอดรับโครงการ “Thailand Winter Festival” จัดงานยาว 10 วัน 10 คืน กระตุ้นท่องเที่ยว ก่อนนายกฯ ร่วมลอยกระทง 27 พ.ย.นี้

เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (18 พ.ย.66) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2566 พร้อมด้วย ส.ส.สุโขทัย สังกัดพรรคเพื่อไทย ข้าราชการจากภาคส่วนต่างๆ และประชาชน เข้าร่วม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อร่วมชมขบวนแห่นางนพมาศ และขบวนแห่ประเพณีวัฒนธรรม จาก 9 อำเภอของจังหวัดสุโขทัย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2566 ในวันนี้ และเป็นที่น่ายินดีที่การจัดงานในครั้งนี้ เน้นการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของชาวสุโขทัยและของชนชาติไทย รวมทั้งการให้ความสำคัญต่อกิจกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนสอดคล้องและรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชาวสุโขทัยที่เคยมีมาในอดีต ให้ดำรงไว้และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะเยาวชนรุ่นหลัง ให้เกิดความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์และศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชนชาวไทย รวมทั้งสืบสานให้ดำรงคงอยู่ตลอดไป โดยการจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือร่วมใจ ความเสียสละ ทั้งกำลังกาย กำลังใจ กำลังความคิด และความสามัคคีจากทุกภาคส่วน ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดสุโขทัยทุกท่าน ทำให้การจัดงานสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด จึงขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไว้ ณ โอกาสนี้

“ในงานยังมีกิจกรรมที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวสุโขทัย ที่ได้กล่าวขานในหลักศิลาจารึก เช่น พิธีรับรุ่งอรุณแห่งความสุข พิธีบวงสรวงบูรพกษัตริย์สุโขทัยทุกพระองค์ การประกวดกระทงใหญ่ กระทงเล็ก โคมชัก โคมแขวน พนมหมาก และพนมดอกไม้ การประกวดนางนพมาศ การแสดงแสง เสียง พิธีเผาเทียน ขบวนแห่ประเพณีวัฒนธรรม 9 อำเภอ ขบวนแห่นางนพมาศ พิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์และพระประทีปพระราชทาน การแสดงตำนานท้าวศรีจุฬาลักษณ์ การแสดงพลุ ตะไล ไฟพะเนียง รวมถึงมีการจัดตลาดชุมชน จำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นถิ่นจังหวัดสุโขทัย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเปิดงาน นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้นั่งชมขบวนแห่นางนพมาศ และขบวนแห่ประเพณีวัฒนธรรม จาก 9 อำเภอของจังหวัดสุโขทัย ซึ่งได้มีการจัดขบวนอย่างยิ่งใหญ่ ตามเอกลักษณ์ของแต่ละอำเภอ นอกจากนี้ ยังได้เดินเยี่ยมชมตลาดชุมชนจำหน่ายสินค้าและอาหารพื้นถิ่นจังหวัดสุโขทัยด้วย

Advertisement

เสนอชื่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ

People unity news online :  เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2560 พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ 2/2560 ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งสรุปสาระสำคัญของการประชุมดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการสรรหาผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม มี นายบรรลุ ศิริพานิช เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งมีหน้าที่ในการกำหนดหลักเกณฑ์ในการสรรหา และพิจารณาคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และได้เสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกต่อคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อให้ความเห็นชอบในการประกาศสดุดีเกียรติคุณยกย่องเป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2560 ซึ่งได้มีการคัดเลือกผู้สูงอายุที่เป็นแบบอย่างดีในสังคม เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา และได้มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ ให้เสนอชื่อสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ประยุทธ์ ปยุตโต (ป.อ. ปยุต.โต) เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติประจำปี 2560

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ภายใต้แนวคิด “สูงวัย สูงคุณค่า ร่วมพัฒนาประเทศไทยสู่ประชารัฐ” ในวันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2560  ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันผลักดัน ส่งเสริม และยกย่องเชิดชูผู้สูงอายุผู้มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม

People unity news online : post 30 มีนาคม 2560 เวลา 00.18 น.

รพ.ตำรวจ ยืนยันมีการดูแลสุขภาพจิตข้าราชการตำรวจ-เฝ้าระวังต่อเนื่อง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 24 พฤศจิกายน 2566 หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวชฯ โรงพยาบาลตำรวจ ยืนยันมีการดูแลสุขภาพจิตของข้าราชการตำรวจ เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ปรึกษาสายด่วนซึมเศร้าเราใส่ใจ ได้ตลอด 24 ชม.

พ.ต.อ.เกริกกมล แย้มประยูร นายแพทย์ (สบ 5) หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลตำรวจมีการดูแลสุขภาพจิตของข้าราชการตำรวจ โดยมีการประเมินสุขภาพจิตในการคัดเลือกก่อนบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ นักเรียนเตรียมทหารสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนักเรียนนายสิบตำรวจ และในการตรวจสุขภาพประจำปีของตำรวจจะมีการประเมินสุขภาพจิตควบคู่ไปด้วย อาทิ หน่วยที่ใช้กำลังหรือยุทธวิธี อย่างผู้ทำลายวัตถุระเบิด นักบิน ผู้ปฏิบัติการใต้น้ำ อาจารย์ฝ่ายปกครอง จะใช้แบบประเมินแบบละเอียด หากพบบุคคลใดมีปัญหาหรือมีความเสี่ยงก่อเหตุรุนแรงต่อตัวเองหรือผู้อื่นจะได้รับความช่วยเหลือประคับประคองทางจิตใจและสังคม แนะนำให้เข้าตรวจวินิจฉัยและรักษากับจิตแพทย์ต่อไป สำหรับหน่วยงานในกรุงเทพฯ จะมีช่องทางด่วนให้เข้ารับบริการที่ห้องตรวจโรคจิตเวชฯ โรงพยาบาลตำรวจ

นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลตำรวจยังมีการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจการดูแลสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบออนไลน์และการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการในแต่ละภาคอีกด้วย รวมถึงการใส่เนื้อหาดูแลสุขภาพจิตไว้ในหลักสูตรการฝึกอบรมต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย

ทั้งนี้ โรงพยาบาลตำรวจมีการให้คำปรึกษาและข้อแนะนำด้านสุขภาพจิต ทั้งข้าราชการตำรวจ ครอบครัว และประชาชน ผ่านทางสายด่วน ซึมเศร้าเราใส่ใจ 08 1932 0000 หรือเพจเฟซบุ๊ก ซึมเศร้าเราใส่ใจ มีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม.

Advertisement

ตั้มแปดริ้วแจกฟรี! พระหลวงพ่อพุทธโสธร 3,000 องค์ พิธีต้อนรับขบวนแห่หลวงพ่อพุทธโสธรทางน้ำ

People Unity News : ตั้มแปดริ้วแจกฟรี! พระหลวงพ่อพุทธโสธร 3,000 องค์ พิธีต้อนรับขบวนแห่หลวงพ่อพุทธโสธรทางน้ำ วันที่ 10 พ.ย.2562

หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ซึ่งด้วยบุญญาภินิหารของท่านได้คุ้มครองชาวจังหวัดฉะเชิงเทราให้อยู่เย็น เป็นสุขมาช้านาน

การจัดงานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธรจึงได้จัดต่อเนื่องกันมานับร้อยปี จนกลายเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ภายในงาน ชมขบวนแห่องค์พระพุทธโสธรอย่างยิ่งใหญ่ทั้งทางบกและทางน้ำ พร้อมร่วมนมัสการหลวงพ่อโสธร เพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น การแข่งเรือยาวประเพณี การออกร้านกาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา การออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก ของดีเมืองแปดริ้ว การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง โดยกำหนดวันจัดงานดังนี้

วันที่ 8 พ.ย. 2562 เวลา 05.19 น. เป็นต้นไป พิธีการบวงสรวงสถานที่สำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ องค์หลวงพ่อพุทธโสธร, ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5, กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลปราจีนบุรี เวลา 07.00 เป็นต้นไป ชมขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางบก

วันที่ 9 พ.ย. 2562 เวลา 14.00 น. รับกฐินพระราชทาน ณ พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร

วันที่ 10 พ.ย. 2562 เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ เริ่มจากท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร สู่อำเภอบางปะกง เวลา 17.30 น. ชมมหกรรมดนตรีไทย เวลา 18.00 น. ชมมหรสพสมโภช ลิเก งิ้ว งานประจำปีหลวงพ่อโสธร

วันที่ 11 พ.ย. 2562 เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ เริ่มจากท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร สู่อำเภอบางคล้า เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ชมการแข่งขันเรือพาย ณ ริมแม่น้ำบางปะกง วัดโสธรวรารามวรวิหาร เวลา 18.00 น. ลอยกระทง และชมมหรสพสมโภช ลิเก งิ้ว งานประจำปีหลวงพ่อโสธร

วันที่ 12 พ.ย. 2562 เวลา 18.00 น. ชมมหรสพสมโภช ลิเก งิ้ว งานประจำปีหลวงพ่อโสธร

ในงานนมัสการหลวงพ่อโสธรปี 2562 นี้ นายกิตติ พจนานุภาพ หรือ ตั้ม 8 ริ้ว นายกสมาคมจิตรางค์คนางค์อนุรักษ์พระเครื่องไทย ได้เคยบอกไว้ว่า ไม่สามารถแจกพระของหลวงปู่ทิมให้กับคนทั้งประเทศได้ แต่ท่านสามารถสร้างพระที่มีมวลสารจากวัตถุมงคล ของหลวงปู่ทิม เพื่อแจกให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้บูชาได้ ดังนั้นจึงมีการรวมบุญร่วมสร้าง หล่อพระหลวงพ่อโสธร เพื่อให้ประชาชนได้นำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ในพิธีการหล่อ “พระหลวงพ่อพุทธโสธร รุ่น อยู่ ดี มี สุข” นายอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ให้เกียรตอมาเป็นประธานในพิธี ในการเททองหล่อพระ โดยมีนายสินชัย แทนศร นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้จัดสร้าง เพื่อแจกให้ประชาชนผู้ที่มาร่วมงานพิธี ต้อนรับขบวนแห่ หลวงพ่อพุทธโสธรทางน้ำ

ในวันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2562 จะมีการแจก หลวงพ่อพุทธโสธร รุ่น อยู่ ดี มี สุข สร้างทั้งหมดเพียง 3,000 องค์ เท่านั้น

พระที่มาสวดในพิธีนำโดยเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส หรือวัดบางขุนพรม

“พระหลวงพ่อพุทธโสธร รุ่น อยู่ ดี มี สุข” ที่ตั้มแปดริ้ว ได้นำเป็นชนวนมวลสารในการหล่อพระ มีดังนี้

– พระกริ่งชินบัญชรก้นอุดผงพรายกุมาร

– เหรียญเสมา 8 รอบ หลวงปู่ทิม อิสริโก

– พระนาคปรกไตรมาสหลวงปู่ทิม 2518

– เหรียญเสมาหลวงพ่อโสธร 2509

ชนวนมวลสาร หลวงพ่อ ณโอ่งหลวงพ่อณะโอ่ง สำนักปฎิบัติธรรมบ้านยุบพริก ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่านได้เมตตา ให้แผ่นยันต์ชนวน ปลุกเสกมานานหลายพรรษา จำนวน 7 แผ่น โดยแต่ล่ะแผ่นจะมีพุทธคุณพิเศษที่แตกต่างกันไป 1. ยันต์คู่ชีวิต เอาไว้เพื่อส่งเสริมฤทธิ์อำนาจ และเพื่อเสริมดวงชะตา 2.ยันต์พระเจ้า 16 พระองค์เป็นยันต์คงกระพันชาตรี 3. ยันต์เกราะเพชร 4.ยันต์ จตุโลก รวมถึงหลวงพ่อณะโอ่งท่านได้เมตตาที่จะมาร่วมปลุกเสก พระร่วมกับเกจิ ท่านอื่นๆ ในวันงานพิธี

นอกจากนี้แล้วนายเทศมนตรี ตำบลท่าสะอ้านได้นำเสือหลวงพ่อแก่ วัดบางผึ้ง แผ่นทองแดงเกจิอาจารย์ รวมถึงชนวนมวลสารในพิธี ยอดเกศพระอมตมงคลรังสีบางขุนพรมหน้าตัก 69นิ้ว ปี 57 ชนวนพระหลายรุ่น วัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรม) เหรียญรุ่นแรกวัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรม)

ในการจัดสร้าง “พระหลวงพ่อพุทธโสธร รุ่น อยู่ ดี มี สุข” เป็นความตั้งใจที่ตรงกันของตั้มแปดริ้ว นายกเทศมนตรี นายกเทศบาลทำบลท่าสะอ้าน ที่จะทำวัตถุมงคลเพื่อแจกจ่ายประชาชน

ขอเรียนเชิญแฟนเพจทุกท่าน มาร่วมงานในครั้งนี้อเข้าดูรายละเอียดได้ที่….

กราบสวัสดีแฟนเพจทุกท่านตามเจตนา ที่ท่านนายกกิตติได้เคยบอกกับแอดมินไว้ว่าท่านนายยกกิตติ…

โพสต์โดย เจ้ากรมหลวงปู่ทิม – นายกกิตติ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2019

ชาวบ้านเรียกร้องต่ออายุราชการ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” แต่เจ้าตัวขอเดินหน้าทำงานภาคประชาชน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 มีนาคม 2567 นครราชสีมา – ชาวบ้านเสียดาย “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ จะเกษียณในอีก 7 เดือน อยากให้ต่ออายุราชการอีก 1 ปี ด้านเจ้าตัวฝากขอบคุณ แต่ขอเดินหน้าทำงานในบทบาทภาคประชาชน

กลุ่มเพื่อนชาวจังหวัดมหาสารคาม และขอนแก่น ที่นำรถจักรยานมาปั่นออกกำลังกายบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และพื้นที่โดยรอบ เกาะติดข่าวสารเกี่ยวกับพื้นที่พิพาทระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และ ส.ป.ก. จนมีอารมณ์ร่วม ได้แสดงความคิดเห็นหลังทราบข่าว นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ จะเกษียณอายุราชการในอีก 7 เดือนว่า รู้สึกเสียดายข้าราชการที่มีความกล้าหาญ ปกป้องผืนป่า โดยไม่หวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ จึงอยากให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต่ออายุราชการให้อีกสัก 1 ปี เหมือนที่กรมอุทยานฯ ทำให้กับนายสุทธิพร สินค้า ผู้พิทักษ์ช้างป่าเขาใหญ่ ในปีที่ผ่านมา ซึ่ง ผอ.ชัยวัฒน์ ก็มีคุณสมบัติพิเศษของข้าราชการที่หาได้ยากเช่นกัน

ด้าน ผอ.ชัยวัฒน์ เปิดใจทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ฝากขอบคุณกำลังใจจากพี่น้องประชาชน ทั้งที่มีให้ตนและเจ้าหน้าที่ทุกคนของกรมอุทยานฯ ตั้งแต่ตนได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตั้งแต่ปี 2533 ก็ทำงานอนุรักษ์ป่ามาอย่างเต็มที่ ไม่เฉพาะความต้องการของประชาชน แต่อธิบดีกรมอุทยานฯเอง ก็เห็นความตั้งใจของตน บอกว่า จะตั้งเป็นที่ปรึกษาหลังเกษียณอายุราชการ แต่ตนปฏิเสธ เพราะถือว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่แล้ว บทบาทในภาคประชาชนน่าจะทำงานคล่องตัวกว่า

นายสาโรจน์ ประพันธ์ อดีตผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ซึ่งทำงานปกป้องป่า ในช่วงปี 2535 – 2551 รวม 16 ปีเต็ม กำลังร่างจดหมายเปิดผนึกถึงประชาชน ในชื่อ “ส.ป.ก.รุกป่าเขาใหญ่ อะไรเท็จ อะไรจริง ความเป็นไป อนาคตที่สุ่มเสี่ยงของป่าผืนนี้ โดยราคาที่ดินเขาใหญ่ จากไร่ละไม่ถึงหมื่น มาเป็นไร่ละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท จึงเป็นต้นตอให้กลุ่มทุนการเมืองอยู่เบื้องหลังการรุกป่าเขาใหญ่

โดยบริเวณเขาใหญ่ เกิดความทับซ้อนกันของหน่วยงานราชการถึง 5 พื้นที่ ได้แก่

เป็นพื้นที่ของป่าเขาใหญ่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและสงวนป่า พ.ศ.2481

เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2505

เป็นพื้นที่สวนป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำลำตะคอง

เป็นพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง พ.ศ.2515

เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. พ.ศ.2530

สำหรับข้อเสนอบางส่วน ระบุว่า ต้องผลักดันให้มีการออกพระราชกฤษฎีกาผนวกพื้นที่สวนป่า และพื้นที่อื่นๆ ที่เหมาะสมเข้าเป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่โดยเร็ว ส่วนความเห็นที่เสนอให้ทำเป็นพื้นที่กันชน กำหนดให้เป็นป่าชุมชนนั้น นายสาโรจน์ มองว่า ยังมีความสุ่มเสี่ยงสูงที่จะถูกบุกรุกทำลาย แล้วถ่ายโอนไปสู่กลุ่มทุนการเมืองได้ในที่สุด เนื่องจากการจัดการป่าชุมชนส่วนใหญ่ มักจะล้มเหลว มีน้อยมากที่ประสบความสำเร็จ โดยพื้นที่สำเร็จมักเป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีวิถีชีวิตผูกพัน พึ่งพิงป่าอย่างใกล้ชิด ทำให้เกิดความรัก ความหวงแหน ช่วยกันดูแลรักษาป่าโดยชุมชน ผิดกับป่าชุมชนที่เกิดจากการจัดตั้งโดยหน่วยงานราชการ

Advertisement

โฆษก รบ.เผย ประยุทธ์ มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านเป็นของตนเอง

People Unity News : โฆษกรัฐบาลเผย “นายกฯ” มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนผ่าน “โครงการบ้านล้านหลัง ธอส.” เผยมีผู้ลงทะเบียนแล้ว 60,752 ราย วงเงินยื่น 72,902 ล้านบาท เชิญชวนผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนขอสินเชื่อเพื่อโอกาสมีบ้านเป็นของตนเอง

27 ตุลาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐบาล มีความมุ่งมั่นที่ต้องการดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้ได้มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ราคาไม่แพง โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบสถาบันการเงิน ผู้ที่เริ่มต้นทำงานเพื่อสร้างครอบครัว และผู้สูงอายุ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 ก.ย.64 มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินการโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งรัฐ หรือ โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 โดยปรับเพิ่มกรอบวงเงินโครงการอีกจำนวน 20,000 ล้านบาท และปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในระดับราคาที่เหมาะสมกับศักยภาพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง ในอัตราดอกเบี้ยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความคืบหน้าของผลการดำเนินงานโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ล่าสุด ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2564 ได้มีผู้ลงทะเบียนกับ ธอส. แล้วจำนวน 60,752 ราย วงเงินยื่นกู้ 72,902 ล้านบาท และได้ยื่นกู้สะสมจำนวน 2,479 ราย ซึ่ง ธอส. ได้มีการอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 1,845 ราย คิดเป็นมูลค่า 1,509 ล้านบาท โดย ธอส. กำลังเร่งพิจารณาตามขั้นตอนเพื่อการอนุมัติสินเชื่อให้กับประชาชนผู้ที่มีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไขของโครงการฯ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้กำกับให้ ธอส. พิจารณาการอนุมัติสินเชื่อด้วยความละเอียดรอบคอบ เหมาะสม โดยคำนึงถึงการให้สินเชื่อแก่ผู้กู้ที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยมาก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อสร้างโอกาสและสนับสนุนประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่มีที่อยู่อาศัยได้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยได้อย่างทั่วถึง  จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการขอสินเชื่อ ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เพื่อโอกาสในการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองตั้งแต่บัดนี้ เพื่อให้สามารถทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธ.ค.66 หรือก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ

“โครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 เป็นการดำเนินการสานต่อความสำเร็จของโครงการบ้านล้านหลังระยะแรก ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรีที่มีความมุ่งมั่นช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อย ให้ประชาชนได้มีบ้านเป็นของตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ที่มุ่งเน้นสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าว จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่ทำให้ประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อย สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อให้สามารถมีบ้านเป็นของตนเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

สำหรับรายละเอียดสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ที่สำคัญ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก 1.99% ต่อปี ให้กู้ซื้อที่อยู่อาศัยราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. เงินงวดคงที่นานถึง 84 งวดแรก ฟรีค่าธรรมเนียม 4 ประเภท คือ 1. ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้) 2. ค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) 3. ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาท ต่อราย) และ 4. ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง) ระยะเวลาผ่อนไม่น้อยกว่า 7 ปี และผ่อนสูงสุดไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น ข้าราชการตุลาการ อัยการ หรืออื่นๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี

ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจและผู้ที่มีคุณสมบัติและต้องการขอสินเชื่อ สามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ได้ เพียงดาวน์โหลด Mobile Application : GHB ALL และกดลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ 9 ตัวทาง GHB Buddy บน Application Line (ตัวอักษร 3 ตัว และตัวเลข 6 ตัว) เพื่อนำมาแสดงในการยื่นขอสินเชื่อ และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธ.ค.66 หรือ ก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ ทั้งนี้ เงื่อนไขอื่นๆเป็นไปตามที่ ธอส. กำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ www.ghbank.co.th

Advertising

จัดสัมมนาบริการเพร็พเทิดพระเกียรติพระองค์เจ้าโสมสวลี

People Unity : กรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสภากาชาดไทย จัดสัมมนาเพื่อติดตามความคืบหน้าของการให้บริการเพร็พในประเทศไทย เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เนื่องในโอกาสทรงดำรงตำแหน่ง UNAIDS Goodwill Ambassador for HIV Prevention for Asia and the Pacific ระหว่างวันที่ 28-29 ตุลาคม 2562 ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

วันที่ 28 ต.ค.2562 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อติดตามความคืบหน้าของการให้บริการเพร็พในประเทศไทย เพื่อเทิดพระเกียรติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ซึ่งประเทศไทยมีประสบการณ์และพัฒนาการต่อสู้กับปัญหาเอดส์มายาวนานกว่า 30 ปี ทำให้ได้รับการยกย่องจากนานาประเทศ ว่าสามารถลดการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มลดลงมาอย่างต่อเนื่อง

นายแพทย์ปรีชา กล่าวว่า เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จของโครงการในพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทูตสันถวไมตรีของโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติในการป้องกันเอชไอวีในภูมิภาคเอเซียและแปซิฟิค ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการ “เพร็พพระองค์โสมฯ” ซึ่งประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์อย่างมุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ ภายในปี 2573 ซึ่งมีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ปีละไม่เกิน 1,000 ราย ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีปีละไม่เกิน 4,000 ราย และลดการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศสภาวะลง ร้อยละ 90 โดยมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินมาตรการที่สำคัญ คือ ขยายและจัดชุดบริการป้องกันแบบผสมผสาน พัฒนารูปแบบบริการใหม่ที่มีประสิทธิภาพ เช่น Pre-exposure prophylaxis (PrEP) หรือยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวีมาเสริมในชุดบริการ จัดระบบบริการให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงบริการป้องกันและดูแลรักษา รวมทั้งเสริมสร้างทัศนคติเชิงบวกให้แก่สังคม ในการอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อ

ในปี 2561-2562 กรมควบคุมโรค ได้เตรียมความพร้อมให้กับหน่วยบริการเพร็พทั่วประเทศ โดยดำเนินงาน ดังนี้ จัดทำแนวทางการจัดบริการยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวีในประชากรที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ประเทศไทย ปี 2561 รวมถึงพัฒนาศักยภาพหน่วยบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เตรียมระบบบริการ เชื่อมโยงระบบภายในโรงพยาบาล โดยการอบรมแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ ในการจัดบริการเพร็พ ให้กับประชากรกลุ่มเสี่ยง และสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้กลุ่มผู้รับบริการทราบข้อมูลและหน่วยบริการที่จัดบริการเพร็พ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

นายแพทย์ปรีชา กล่าวอีกว่า เพร็พ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันดูแลสุขภาพตนเองและคนใกล้ตัว เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้ติดเชื้อเอชไอวี เช่น มีคู่นอนหลายคน และไม่สามารถใส่ถุงยางอนามัยได้ทุกครั้ง โดยกรมควบคุมโรค มีเป้าหมายให้คนไทย สามารถเข้ารับบริการเพร็พ ได้ฟรี ในหน่วยบริการสาธารณสุข ที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 21 จังหวัด 51 หน่วยบริการทั่วประเทศ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โทร 02-590-3215 หรือที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

โรคใหม่!! “อนุทิน” สั่งเฝ้าระวังไข้หวัดมะเขือเทศ เตรียมแนวทางคัดกรอง

People Unity News : 27 สิงหาคม 65 รองโฆษกรัฐบาล เผย “อนุทิน” กำชับติดตามสถานการณ์ “ไข้หวัดมะเขือเทศ” แม้ขณะนี้ยังแพร่ระบาดเฉพาะในต่างประเทศ ชี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กอาการไม่รุนแรง และไม่ใช่ไวรัสตัวใหม่แต่อย่างใด

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุข ประเทศอินเดียได้มีคำเตือนชาวอินเดียให้ระมัดระวังการระบาดของโรคไข้หวัดมะเขือเทศ (Tomato Flu) เนื่องจากได้พบผู้ป่วยเป็นเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ขวบ ในรัฐเกรละ รัฐทมิฬนาฑู รัฐโอริสสา และรัฐหรยาณา ของอินเดีย รวมเกือบ 100 ราย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การระบาดดังกล่าว แม้จะยังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วยในไทย เป็นการป่วยจากไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคมือ เท้า ปาก ซึ่งไม่ใช่ไวรัสใหม่ และอาการไม่รุนแรง แต่ก็ต้องเฝ้าระวังเนื่องจากขณะนี้ไทยได้เปิดประเทศรับผู้เดินทางจากทั่วโลก รวมถึงประเทศที่มีการระบาดของโรค จึงต้องประเมินสถานการณ์ เตรียมแนวทางการคัดกรองและรักษากรณีพบผู้ป่วย

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเบื้องต้นที่มีขณะนี้สถานการณ์ของโรคไม่น่ากังวล เนื่องจากเป็นการแพร่ระบาดยังอยู่ในวงจำกัด ขณะที่กระบวนการคัดครองและรักษาในประเทศก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันกับการรักษาโรคมือเท้าปากในเด็ก ซึ่งปัจจุบันทั้งชุดตรวจคัดกรอง และยารักษา มีอยู่ในสถานพยาบาลในประเทศทุกระดับ เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นเป็นประจำในเด็กเล็ก และมักเกิดขึ้นมากในช่วงฤดูฝน อากาศเย็น และชื้น ดังนั้นในช่วงฤดูฝนนี้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองต้องให้ความระมัดระวังดูแลบุตรหลาน เนื่องจากเชื้อไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมือเท้าปาก กระจายได้ง่ายจากการสัมผัส โดยเฉพาะการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด หรือนำสิ่งของไม่สะอาดเข้าปาก

Advertisement

Verified by ExactMetrics