วันที่ 5 พฤษภาคม 2024

23 เม.ย. กรมบัญชีกลางจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุเข้าบัตรสวัสดิการฯ นัดแรก!

People Unity News : 21 เม.ย. 65 กรมบัญชีกลาง เผย 23 เม.ย. 65 จะเริ่มจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย (อัตราเดิม) เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการฯ ใช้จ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น ตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่อนุมัติแนวทางการจ่ายเงินฯ สำหรับปีงบประมาณ 2565

โดยจะจ่ายเงินเป็นจำนวน 10 เดือน เข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการฯ ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ก่อนเดือนที่ได้รับสิทธิ (รายได้ไม่เกิน 30,000 บ./ปี รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บ./เดือน หากรายได้มากกว่า 30,000 – 100,000 บ./ปี รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บ./เดือน) งวดแรกสำหรับเดือน ต.ค. 64 – ก.พ. 65 จะจ่ายในเดือน เม.ย. 65 และงวดถัดไปจะจ่ายเป็นรายเดือนตั้งแต่เดือน พ.ค. – ก.ย. 65

ผู้สูงอายุสามารถใช้วงเงินดังกล่าวชำระค่าสินค้า – บริการได้ที่ร้านธงฟ้าฯ ร้านค้าประชารัฐ หรือถอนเป็นเงินสดได้ที่ตู้ ATM ธ.กรุงไทย…สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 และ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวันและเวลาราชการ

Advertisement

ประยุทธ์ สั่งการผู้ว่าฯ ภูเก็ต ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว ควบคุมการสาดน้ำ ใช้ปืนฉีดน้ำ

People Unity News : 13 เมษายน 2565 กรณีนักท่องเที่ยวบริเวณซอยบางลา ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ร่วมกันสาดน้ำและใช้ปืนฉีดน้ำอย่างสนุกสนานในวันสงกรานต์ นั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กังวลใจต่อการกระทำดังกล่าว สั่งการไปยังผู้ว่าฯภูเก็ต ชี้แจงทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว และเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการทั่วประเทศ กำชับส่วนราชการเฝ้าสังเกตประชาชน ในพื้นที่ที่ห้ามเล่นน้ำวันสงกรานต์ ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ใช้เวลาช่วงวันหยุดทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกับคนในครอบครัว สามารถสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือได้ แต่ขอให้ระมัดระวัง ตรวจสอบตัวเองให้ปลอดภัยก่อนจะใกล้ชิดผู้ใหญ่

Advertisement

ประยุทธ์ ห่วงสุขภาพจิตวัยรุ่น กำชับท้องถิ่นเฝ้าระวัง ผู้ปกครองอย่าปิดบังข้อมูล ปกป้องลูกหลานในทางที่ผิด

People Unity News : โฆษกรัฐบาลเผย “นายกฯ” ห่วงสุขภาพจิตวัยรุ่น กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง ขอผู้ปกครองอย่าปิดบังข้อมูล ปกป้องลูกหลานในทางที่ผิด ชี้ใช้โอกาสปีใหม่ไทยกระชับสัมพันธ์ครอบครัว

12 เมษายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความกังวลเป็นห่วงสุขภาพจิตวัยรุ่น จากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่ามีวัยรุ่นได้ลงมือก่อเหตุกระทำความรุนแรงต่อบุคคลที่ใกล้ชิดในครอบครัว รวมถึงการฆ่าบุพการี ซึ่งเป็นเรื่องที่หดหู่บันทอนความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศเป็นอย่างมาก จึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามปัญหา ตรวจสอบสาเหตุแรงจูงใจการก่อเหตุอย่างใกล้ชิด

นายธนกร กล่าวว่า วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่สำคัญของชีวิต การเปลี่ยนแปลงของสังคม และสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัววัยรุ่น ทำให้วัยรุ่นมีความเครียด และบางครั้งไม่สามารถปรับตัวให้เผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ หากวัยรุ่นมีความเครียดสะสมในระดับที่มากเกินไปจะส่งผลกระทบทางด้านลบต่อปัญหาสุขภาพกาย ทำให้รู้สึกเครียด กังวล ซึมเศร้า ท้อแท้ หมดหวัง สับสนฟุ้งซ่าน เซ็ง กลัว ระแวง หงุดหงิดหรือครึกครื้น อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย รู้สึกไร้คุณค่าในตนเอง หรือคิดว่าตนเองเป็นภาระของผู้อื่น มองเห็นแต่ความผิดพลาดของตนเอง ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการควบคุมตัวเอง ขาดการยับยั้งชั่งใจ ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ลงมือกระทำใดลงไปเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ นอกจากนี้ การคบเพื่อน รวมถึงการใช้สารเสพติด ก็มีผลต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่นด้วย

“นายกรัฐมนตรีฝากเตือนไปยังเยาวชน อย่าเก็บความรู้สึกไว้คนเดียว พยายามปรึกษาพูดคุยกับคนที่ไว้ใจ หรือบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือสามารถแนะนำได้อย่างถูกต้อง ขอให้คิดไตร่ตรองอย่างมีสติ อย่าให้อารมณ์ครอบงำ จนนำไปสู่การก่อเหตุเกิดการสูญเสียชีวิต พรากบุคคลอันเป็นที่รักให้จากไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีก พร้อมกับกำชับให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะส่วนท้องถิ่นซึ่งใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่คอยสอดส่อง เฝ้าระวังดูแลพฤติกรรมเยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะก่อเหตุรุนแรง และฝากเตือนไปยังผู้ปกครอง หากลูกหลานมีอาการไม่ปกติ ส่อไปในทิศทางที่รุนแรง ชอบทำร้ายบุคคลในครอบครัว ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าของรัฐที่ท่านสะดวก อย่าปกปิดข้อมูล ปกป้องลูกหลานในทางที่ผิด และใช้โอกาสเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทยวันหยุดยาวที่ครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกันกระชับความสัมพันธ์ตามวิถีไทยซึ่งตรงกับวันครอบครัว 14 เมษายน ด้วย” นายธนกรกล่าว

Advertisement

ประยุทธ์ กำชับเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด หวังลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์

People Unity News : 11 เมษายน 65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ห่วงการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคาดว่าประชาชนจะเริ่มทยอยออกเดินทางกลับภูมิลำเนามากที่สุดในวันพรุ่งนี้ (12 เม.ย.) จึงกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวดขันวินัยการจราจรทุกรูปแบบ เปิดช่องทางพิเศษเป็นระยะๆ เพื่อเร่งระบายปริมาณรถที่หนาแน่นในบางช่วง

รวมถึงกำชับให้ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ต้องผ่านการตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และมีส่วนช่วยร่วมกันรับผิดชอบต่อชีวิตผู้โดยสารเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน

ขณะเดียวกันขอทุกคนร่วมกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในช่วงวันหยุดยาวนี้ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเอง Universal Prevention สูงสุด ทุกพื้นที่ที่มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ต้องปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting อย่างเข้มข้น ทั้งนี้ ได้มอบหมายกระทรวงสาธารณสุขให้เตรียมประเมินสถานการณ์โดยหวังว่า หลังเทศกาลยอดผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถควบคุมได้

Advertisement

สปสช. เพิ่มสายด่วนเป็น 3,000 คู่สาย รับผู้ป่วยโควิดหลังสงกรานต์

People Unity News : สปสช. เพิ่มสายด่วนเป็น 3,000 คู่สาย รับผู้ป่วยโควิดหลังสงกรานต์ กลุ่มเสี่ยง โทร. 1330 กด 18 ผู้ป่วยทั่วไป กด 14

4 เมษายน 2565 จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง และคาดว่าช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงเพิ่มคู่สายของสายด่วน 1330 เป็น 3,000 คู่สาย โดยเจ้าหน้าที่ของ สปสช. และอาสาสมัครจะเป็นผู้รับเรื่อง รวมถึงระบบแชทใน LINE สปสช. @nhso, เฟซบุ๊ก สปสช. ฯลฯ

ขอย้ำว่า หากเป็นผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง (กลุ่ม 608, เด็ก 0 – 5 ปี, คนพิการ, ผู้ป่วยติดเตียง) โทร. 1330 กด 18 ซึ่งจะเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ก่อนประสานหาเตียงเพื่อเข้ารักษาใน รพ. ต่อไป ส่วนประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ทุกสิทธิการรักษาที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง โทร. 1330 กด 14 หรือลงทะเบียนได้ที่ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI หรือ LINE สปสช. @nhso เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาต่อไป

นอกจากสายด่วน 1330 แล้ว ประชาชนสามารถติดต่อสายด่วนของแต่ละจังหวัดได้เช่นกัน ผ่านเฟซบุ๊ก สนง.สาธารณสุขจังหวัด หรือหากเป็นผู้ติดเชื้อที่เข้ากลุ่มสีเหลือง – แดง (ดูหลักเกณฑ์ได้ที่ www.nhso.go.th/news/3527) สามารถใช้สิทธิ UCEP Plus รักษาใน รพ.รัฐ – เอกชน ที่อยู่ใกล้ได้ทุกแห่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือโทร. 1669

Advertisement

9 ร้านอาหารไทยติดโผ 50 สุดยอดร้านในเอเชีย

People Unity News : 2 เมษายน 2565 ในรายงานผลสำรวจ 50 สุดยอดร้านอาหารในเอเชียครั้งล่าสุด จุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารหลายแห่งในประเทศไทยได้รับเลือกเข้าไปอยู่ในรายชื่อนี้ จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ theworls50best.com

การประกาศผลการจัดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย 50 แห่งครั้งล่าสุดที่มีออกมาเมื่อวันที่ 29 มีนาคม มีร้านจากไทยถึง 9 แห่งที่ได้เข้าไปร่วมในการจัดอันดับครั้งนี้ จนทำให้สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า “ญี่ปุ่น และ ไทย คือ ผู้ชนะรายใหญ่ในภูมิภาค” เลยทีเดียว

ในปีนี้ ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งของเอเชียคือ ร้าน เด็น (Den) ของเชฟ ไซยุ ฮาเซกาวา ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากการนำเสนออาหารชุดที่ประกอบไปด้วยส่วนประกอบที่คัดสรรมาอย่างดี และได้รับการปรุงด้วยทักษะและเทคนิคชั้นสูงจากผู้ปรุง หรือ Kaiseki โดยชุดเมนูที่ทำให้ Den เป็นที่รู้จักไปทั่วคือ ไก่ทอดที่เสิร์ฟมาในกล่อง เลียนแบบอารมณ์การรับประทานไก่ทอด เคเอฟซี (KFC) ซึ่งเชฟตั้งชื่อใหม่เป็น Dentucky Fried Chicken ตามรายงานของบลูมเบิร์ก

การก้าวขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 ในรายชื่อร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียของ Den ในปีนี้ ถือเป็นพัฒนาการที่น่าดี หลังจากเมื่อปีที่แล้ว ได้รับการจัดให้อยู่ที่อันดับที่ 3 และปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ร้านอาหารจากญี่ปุ่นได้ครอบครองตำแหน่งสูงสุดด้วย

ส่วนอันดับที่ 2 ในรายชื่อปีนี้ ได้แก่ ร้านศรณ์ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ และนำเสนอเมนูอาหารที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจากภาคใต้ มาประยุกต์เข้บกับเทคนิคการปรุงสมัยใหม่ จนทำให้ได้รางวัลดาวมิชลินทั้ง 1 ดาว และ 2 ดาวมาแล้ว

ใน 10 อันดับแรกของทั้งหมด 50 อันดับสุดยอดร้านอาหารในปีนี้ มีร้านจากประเทศไทยอยู่มากที่สุดถึง 4 แห่ง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับร้านจากประเทศอื่นๆ โดยทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพมหานคร อันได้แก่ ร้านศรณ์ (2) ร้านอาหารไทย Le Du หรือ ฤดู (4) ร้านอาหารเยอรมัน Sühring (7) และร้านอาหารไทยนุสรา (10)

อย่างไรก็ตาม วิลเลียม ดรูว์ ผู้อำนวยการด้านเนื้อหาของ 50 Best ยอมรับว่า ผลการสำรวจในปีนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ไม่น้อย เนื่องจากวิกฤตนี้ที่ดำเนินมากว่า 2 ปี ทำให้การเดินทางในเอเชียหยุดชะงัก เช่นเดียวกับการเดินทางทั่วโลก

ดรูว์ บอกกับ บลูมเบิร์กว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผลการสำรวจล่าสุดนั้นสะท้อนภาพความคิดเห็นของคนในพื้นที่เป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

และนอกจาก 4 ร้านอาหารไทยที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีร้านอีก 5 แห่งจากประเทศไทยที่อยู่ในการจัด 50 อันดับสุดยอดร้านอาหารในเอเชียด้วย ได้แก่ ร้านอาหารหรูสัญชาติฝรั่งเศส Blue by Alain Ducasse (25) ร้าน Sushi Masato (29) ร้านสำรับสำหรับไทย (31) ร้าน Gaa (33) และ ร้านเจ๊ไฝ (46)

นอกจากร้านอาหารในไทยและญี่ปุ่นแล้ว ร้านที่ได้รับเลือกเข้าร่วมอันดับในปีนี้ยังมีมาจาก ฮ่องกง สิงคโปร์ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย ศรีลังกา ไต้หวัน มาเก๊าและมาเลเซียด้วย

ในการจัดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุด 50 อันดับของเอเชียซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2013 โดยบริษัท William Reed Business Media เจ้าของเว็บไซต์ World’s 50 Best Restaurants นี้ ทางทีมงานรวบรวมข้อมูลและผลการลงคะแนนจากคณะกรรมการที่ประกอบไปด้วย นักเขียนด้านอาหาร นักวิจารณ์อาหาร เชฟ ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร และผู้ที่มีความคลั่งไคล้ชื่นชมอาหารเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งหมดกว่า 350 คน

และในปีนี้ ทางผู้จัดได้กลับมาจัดพิธีมอบรางวัลแบบตัวต่อตัวอีกครั้งที่กรุงเทพฯ โตเกียว และมาเก๊า รวมทั้งแบบผ่านระบบวิดีโอคอลล์ด้วย หลังจากปีที่แล้วต้องจัดแบบเสมือนจริง เพราะแผนการจัดงานแบบปกติถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19

ที่มา: บลูมเบิร์ก และ www.theworld50best.com

Advertisement

กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม แนะเคล็ดลับ ”เลี้ยงลูกอย่างไรให้สนุก”

People Unity News ลูกดื้อจังเลย ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ นอนก็ดึก ตื่นก็สาย ให้กินข้าวก็ไม่ยอมกิน คุณพ่อคุณแม่หลายท่านเคยประสบปัญหาแบบนี้ และทำให้ต้องเสียอารมณ์หรือไม่ บางท่านอาจบอกว่าทุกวัน และบางท่านอาจบอกว่านานๆลูกถึงจะออกฤทธิ์ จะมีวิธีรับมืออย่างไรดี

1 เมษายน 2565 นายแพทย์ไพโรจน์  สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การได้เลี้ยงลูกง่ายก็อาจบอกว่าโชคดีมีบุญที่ทำมาแต่ปางก่อน แต่จริงๆแล้วถ้าเข้าใจพัฒนาการเด็กก็อาจจะเลี้ยงได้แบบสนุกและทำตามอย่างที่ต้องการได้ไม่ยากเลย เด็กแต่ละวัยมีความเข้าใจและความต้องการแตกต่างกัน วัยที่มีความสำคัญมากต่ออนาคตของเด็ก และมักประสบปัญหาเรื่องพฤติกรรมบ่อยๆ คือช่วงปฐมวัย หรืออายุก่อน 6 ปี โดยเฉพาะช่วง 2-3 ขวบ เด็กจะมีอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและยึดเอาตัวเองเป็นสำคัญ ถ้าบอกว่าไม่ หรืออย่า จะทำทันที หรือแอบทำให้ได้ แต่ถ้าบอกให้ทำจะไม่ยอมทำเด็ดขาด ฉะนั้น คำเหล่านี้จะเป็นคำต้องห้าม ที่จะพูดกับเด็กเวลาอยากจะให้เข้าทำอะไรหรือห้ามทำอะไร

นายแพทย์อภิชัย  สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มว่า เด็กๆจะรู้สึกมีความสุข มีความภูมิใจและอยากทำ ถ้าเขาได้เป็นคนจัดการเองหรือเป็นคนที่ตัดสินใจทำด้วยตัวเอง นอกจากนี้เด็กๆจะชอบเลียนแบบสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำ เช่น เห็นผู้ใหญ่นั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ เขาก็จะอยากกดคอมพิวเตอร์ด้วย เห็นผู้ใหญ่ถูบ้าน เขาก็อยากถูบ้านด้วย ฉะนั้นวิธีการสอนลูกที่ดีที่สุดก็คือเป็นตัวอย่างให้ลูกดู ไม่ใช่สอนโดยการบ่น หรือสั่ง เช่น สอนให้ลูกพูดจาไพเราะ แต่พ่อแม่เวลาลืมตัวโมโหเสียงดังแล้วพูดหยาบคาย ลูกก็คงไม่มีวันพูดจาสุภาพอ่อนหวานได้

แพทย์หญิงอินท์สุดา แก้วกาญจน์ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม กล่าวเสริมว่า สิ่งสำคัญอย่าเอาชนะคะคานกับลูก แต่ก็ไม่ใช่ยอมลูกไปเสียทุกอย่าง เช่น ต้องพาลูกไปธุระที่ต้องแต่งตัวเรียบร้อย แต่ลูกไม่ยอม จะใส่แต่เสื้อตัวเก่งที่สีสะดุดตาลายการ์ตูนตัวโปรดไม่เหมาะกับกาลเทศะ ควรหาวิธีที่จะทำให้เหมือนลูกเป็นคนเลือกเอง แต่ตัวเลือกที่ผู้ปกครองหยิบมาให้ลูกเลือก เป็นเสื้อที่ดูแล้วเหมาะกับงานทุกตัวเลือก ลูกก็จะรู้สึกว่าลูกเป็นคนจัดการเองไม่ใช่โดนบังคับ แนะนำเคล็ดลับสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง 3 ข้อให้ดูแลเลี้ยงลูกในวัยนี้

1) พ่อแม่และทุกคนในครอบครัวต้องคิดไว้เสมอว่าสิ่งที่เราแสดงออกนั้นเด็กๆจะมองเห็นและเรียนรู้ที่จะทำตามตลอดเวลา อย่าคิดว่าเขาเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่รู้เรื่องเด็ดขาด

2) ควรมีความสม่ำเสมอในกิจวัตรประจำวัน เช่น กินป็นเวลา นอนเป็นเวลา ระยะเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการดูหน้าจอต่างๆไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน การจะทำกิจวัตรเหล่านี้ให้ได้เป็นเวลาส่ำเสมอต้องอาศัยความแน่วแน่และความเข้มแข็งทางใจของพ่อแม่ ไม่ใช่เจอลูกอ้อน ร้องไห้หรือลูกดื้อหน่อยก็ยอมลูก แต่ก็ไม่ควรใช้อารมณ์กับลูก

3) ปรับพฤติกรรมเด็กด้วยกันเป็นทีมเวิร์คโดยทุกคนในบ้านต้องร่วมมือกันมีความเห็นตกลงไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่พ่อห้ามทำพฤติกรรมแบบนี้แต่ปู่กับย่าบอกไม่เป็นไร เด็กจะสับสนและคิดว่าเราทำอะไรก็ได้มีคนเข้าข้างแน่นอน เขาจะไม่เรียนรู้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ท้ายนี้พ่อแม่ไม่ต้องเครียด ทำอารมณ์ให้สดชื่นเสมอ มองโลกในแง่ดีคิดเสียว่าลูกดื้อ หมายความว่าลูกเราเก่งพอที่จะมีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว ก้าวไปสู่วัยที่โตขึ้นไปอีกก้าว

Advertisement

ครม. มีมติเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต เพศเดียวกันแต่งงานกันได้ เข้าสภาฯ คาด เม.ย.แล้วเสร็จ

People Unity News : 31 มีนาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้เห็นชอบให้ ครม. พิจารณาก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณารับหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ป.พ.พ. (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … โดยเป็นร่างที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอ ซึ่งมีสาระเป็นการกำหนดให้ชาย หญิง หรือบุคคล 2 คน ซึ่งเป็นเพศเดียวกันสามารถหมั้นหรือสมรสกันได้ตามกฎหมาย

ครม.เห็นว่า มีหลักการใกล้เคียงกับร่างพระราชบัญญัติ คู่ชีวิต พ.ศ. …. และ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.พ.พ.ฯ ที่ ครม.เห็นชอบไปแล้ว และครอบคลุมหลายมิติ โดยขณะนี้ ทางมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้ดำเนินการศึกษาเพิ่มเติมตามที่คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้

ครม.จึงมีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ร่วมกันพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ของรัฐบาลประกอบผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยสุโขทัยฯ แล้วเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อผลักดันเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็ว

Advertisement

ประยุทธ์ สั่งการเด็ดขาด จัดการ ”เว็บพนันออนไลน์” – “แก๊งคอลเซ็นเตอร์”

People Unity News : ประยุทธ์ สั่งการเด็ดขาดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการ ”เว็บพนันออนไลน์” และ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เตือนสติประชาชนรู้เท่าทัน “อย่าโอน”

วันนี้ (30 มีนาคม 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยความคืบหน้าการปราบปรามการพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามข้อสั่งการของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ห่วงใยพี่น้องประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการลักลอบเปิดเว็บการพนันออนไลน์จำนวนมาก และการระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือปราบปรามมิจฉาชีพและอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจังและเด็ดขาด สืบสวนให้ถึงต้นตอของขบวนการ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากการสูญเสียทรัพย์สิน พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชนให้รู้เท่าทัน

ทั้งนี้ ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) สามารถบุกจับฐานปฏิบัติการของเว็บไซต์พนันออนไลน์ขนาดใหญ่ในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีเว็บไซต์ในเครือข่าย 4 เว็บไซต์ มีผู้ใช้บริการกว่า 2 แสนคน มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 200 ล้านบาท และสามารถขยายผลเชื่อมโยงไปยังพื้นที่อื่นซึ่งมีการกระทำในรูปแบบเดียวกัน พร้อมประสานหน่วยงานต่างประเทศซึ่งเป็นที่ตั้งของเซิฟเวอร์ เพื่อดำเนินการปิดเว็บไซต์ต่อไป นอกจากนี้ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้ประสานความร่วมมือกับทางการของประเทศกัมพูชาในการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยได้ นำไปสู่การขยายความร่วมมือในการประสานงานแก้ไขปัญหาและปราบปรามมิจฉาชีพออนไลน์ข้ามเขตแดนไทยและกัมพูชา โดยรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการหารือเพื่อจัดทำร่างข้อตกลง (MOU) เกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านดิจิทัลระหว่างกัน โดยเฉพาะการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์

รวมทั้ง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากมิจฉาชีพและอาชญากรรมออนไลน์ โดยจากผลการดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ในรอบปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจำนวนทั้งสิ้นถึง 5,517 คดี ผู้ต้องหา 6,348 คน และจับกุมผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารแล้วนำไปใช้ในการกระทำผิดผ่านทางออนไลน์ (บัญชีม้า) แล้วจำนวน 344 ราย (บัญชี) มูลค่าความเสียหายกว่า 869 ล้านบาท โดยความเสียหายอันดับ 1 มาจากการหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน รวมถึงการหลอกลวงโอนเงินผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มูลค่าความเสียหายกว่า 693 ล้านบาท อันดับ 2 การพนันออนไลน์ มูลค่าความเสียหาย 154 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 ได้มีคำสั่งศาลปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์แล้ว 742 ยูอาร์แอล (ข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565)

ทั้งนี้ ประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย หรือพบเบาะแสอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความออนไลน์ได้ทาง เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ผ่านทางคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และทางโทรศัพท์ผ่านหมายเลข 1441 หรือ 081 – 866 – 3000 ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

รู้ไว้!! ประกันสังคม แจ้งสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน “เกษียณ” และเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่แก่ทายาท

People Unity News : 26 มี.ค. 65 สำนักงานประกันสังคม แจงสิทธิประโยชน์ หลังผู้ประกันตนเกษียณ หลักประกันดูแลคุณภาพชีวิตในวัยชราภาพ รวมถึงการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่แก่ทายาท

กองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพ (เริ่มจัดเก็บ 31 ธ.ค. 2541) คิดร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือน (หากจ่ายเงินสมทบในอัตราสูงสุดที่ 750 บาท/เดือน จะถูกหักเงินเป็นเงินออมชราภาพ 450 บาท) เงินออมชราภาพที่ได้รับแบ่งออกเป็น 2 แบบ (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม)

💵 เงินบำเหน็จ (เงินที่จ่ายเป็นก้อนใหญ่ครั้งเดียว)

🔘 หากจ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน หรือ 15 ปี จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ แบ่งเป็น 2

กรณีคือจ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน หรือ 1 ปี จะได้รับเงินก้อนเท่ากับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายสมทบมาทั้งหมดคืนกลับไป

🔘 กรณีจ่ายสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน หรือ 15 ปี จะได้รับเงินเป็นเงินก้อนเท่ากับเงินที่ผู้ประกันจ่ายสมทบ บวกกับเงินที่นายจ้างสมทบให้อีก และบวกกับผลประโยชน์ตอบแทนที่ประกันสังคมกำหนด

💵 เงินบำนาญ (ทยอยจ่ายเป็นรายเดือนไปตลอดชีวิต)

🔘 กรณีผู้ประกันตนจ่ายสมทบมากกว่า 180 เดือน มากกว่าหรือ 15 ปี จะติดต่อกันหรือไม่ก็ได้ ผู้ประกันตนจะได้รับเป็นเงินบำนาญชราภาพ หรือเงินรายเดือน ได้รับไปตลอดชีวิต คำนวนจากค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (ฐานเงินเดือนสูงสุดที่คิดคือ 15,000 บาท) คูณกับร้อยละ 20 แต่หากผู้ประกันอายุ 55 ปี แต่ยังทำงานในระบบต่อเนื่อง จะได้รับเงินบำนาญเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ในทุกปี

*มีการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีผู้ประกันตนรับเงินบำนาญชราภาพไม่ถึง 60 เดือนแต่เสียชีวิตลง

-เดิมทายาทจะได้รับเพียง 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือน

-ปรับใหม่เพื่อเป็นการประกันเงินชราภาพให้สิทธิผู้ประกันตนได้รับเงินเพิ่มขึ้น เช่น หากรับเงินบำนาญชราภาพเพียง 1 เดือน และได้เสียชีวิตลง เงินบำนาญอีก 59 เดือนทายาทได้รับไปทันที

🛑 เงื่อนไขการรับเงินบำเหน็จ หรือบำนาญชราภาพ จะได้รับต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน

Advertising

Verified by ExactMetrics