People Unity News : 26 มี.ค. 65 สำนักงานประกันสังคม แจงสิทธิประโยชน์ หลังผู้ประกันตนเกษียณ หลักประกันดูแลคุณภาพชีวิตในวัยชราภาพ รวมถึงการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ใหม่แก่ทายาท

กองทุนประกันสังคมกรณีชราภาพ (เริ่มจัดเก็บ 31 ธ.ค. 2541) คิดร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือน (หากจ่ายเงินสมทบในอัตราสูงสุดที่ 750 บาท/เดือน จะถูกหักเงินเป็นเงินออมชราภาพ 450 บาท) เงินออมชราภาพที่ได้รับแบ่งออกเป็น 2 แบบ (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม)

💵 เงินบำเหน็จ (เงินที่จ่ายเป็นก้อนใหญ่ครั้งเดียว)

🔘 หากจ่ายเงินสมทบไม่ถึง 180 เดือน หรือ 15 ปี จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ แบ่งเป็น 2

กรณีคือจ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน หรือ 1 ปี จะได้รับเงินก้อนเท่ากับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายสมทบมาทั้งหมดคืนกลับไป

🔘 กรณีจ่ายสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน หรือ 15 ปี จะได้รับเงินเป็นเงินก้อนเท่ากับเงินที่ผู้ประกันจ่ายสมทบ บวกกับเงินที่นายจ้างสมทบให้อีก และบวกกับผลประโยชน์ตอบแทนที่ประกันสังคมกำหนด

💵 เงินบำนาญ (ทยอยจ่ายเป็นรายเดือนไปตลอดชีวิต)

🔘 กรณีผู้ประกันตนจ่ายสมทบมากกว่า 180 เดือน มากกว่าหรือ 15 ปี จะติดต่อกันหรือไม่ก็ได้ ผู้ประกันตนจะได้รับเป็นเงินบำนาญชราภาพ หรือเงินรายเดือน ได้รับไปตลอดชีวิต คำนวนจากค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (ฐานเงินเดือนสูงสุดที่คิดคือ 15,000 บาท) คูณกับร้อยละ 20 แต่หากผู้ประกันอายุ 55 ปี แต่ยังทำงานในระบบต่อเนื่อง จะได้รับเงินบำนาญเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ในทุกปี

*มีการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีผู้ประกันตนรับเงินบำนาญชราภาพไม่ถึง 60 เดือนแต่เสียชีวิตลง

-เดิมทายาทจะได้รับเพียง 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือน

-ปรับใหม่เพื่อเป็นการประกันเงินชราภาพให้สิทธิผู้ประกันตนได้รับเงินเพิ่มขึ้น เช่น หากรับเงินบำนาญชราภาพเพียง 1 เดือน และได้เสียชีวิตลง เงินบำนาญอีก 59 เดือนทายาทได้รับไปทันที

🛑 เงื่อนไขการรับเงินบำเหน็จ หรือบำนาญชราภาพ จะได้รับต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน

Advertising