วันที่ 3 พฤษภาคม 2024

กลับมาอีกแล้ว!! ฝุ่น PM 2.5 บุก กทม. เผยต่อเนื่องถึง 17 ธ.ค.

People Unity News : ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เผย สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะมีต่อเนื่องไปจนถึง 17 ธันวาคม เพราะสภาพอากาศปิด ประสานกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก และ กทม. ตรวจสอบรถควันดำในกรุงเทพ ให้ทำต่อเนื่องจนถึงหน้าแล้ง และประสาน สตช.ดูแลการจราจรบริเวณสี่แยก-จุดกลับรถ เพราะพบ PM 2.5 สูงในบริเวณดังกล่าว

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการสื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลทางอากาศภาพรวม โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า สภาพอากาศค่อนข้างนิ่ง รวมทั้งการยกตัวของมวลอากาศ ทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มขึ้น จึงประสานกรมควบคุมมลพิษ กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานคร ช่วยกันตรวจสอบรถควันดำ โดยเฉพาะรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งจากการสุ่มตรวจ 100 คัน จะพบถึง 46 คันที่ก่อมลพิษ โดยวางแผนให้ทำการตรวจรถทุกวันต่อเนื่องไปจนถึงช่วงหน้าแล้ง และจากการตรวจสอบจุดที่ฝุ่น PM 2.5 สูง คือ บริเวณแยก หรือ สี่แยก รวมทั้งจุดกลับรถ ที่มีปริมาณรถสะสม จึงประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร ช่วยดูแลด้านการจราจร ในจุดดังกล่าวให้เกิดความคล่องตัวขึ้น

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ประสานไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำความเข้าใจเกษตรกร งดการเผาเศษวัชพืชในที่โล่งไปจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม ส่วนประชาชนทั่วไป ขอความร่วมมือใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และช่วยกันตรวจบำรุงรักษารถยนต์ตามวงรอบ ซึ่งสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะมีต่อเนื่องไปจนถึง 17 ธันวาคม เนื่องจากสภาพอากาศปิด

Advertising

เปิดประวัติ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” รองอันดับ 1 Miss Universe 2023

People Unity News : 19 พฤศจิกายน 2566 เปิดประวัติ “แอนโทเนีย โพซิ้ว” ลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก อายุ 26 ปี คว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 Miss Universe 2023

“แอนโทเนีย โพซิ้ว” เป็นลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ปัจจุบันอายุ 26 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก หลักสูตรนานาชาติ สาขาวิชาการตลาดและประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด

แอนโทเนีย เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากการเข้าแข่งขันรายการเดอะเฟซไทยแลนด์ ซีซั่น 1 และผ่านเข้ารอบ 15 คน และจบการประกวดอยู่อันดับที่ 10 ของซีซั่น

จากนั้น แอนโทเนีย เริ่มเข้าสู่เส้นทางการประกวดสาวงาม ในปี 2019 ได้เข้าประกวดเวทีนางงาม มิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ 2019 และสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ และทำให้แอนได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปประกวดเวทีระดับโลกอย่าง มิสซูปราเนชันแนล 2019 และคว้าตำแหน่งมิสซูปราเนชันแนล 2019 มาครองได้สำเร็จ

ปี 2023 แอนโทเนีย ได้ตัดสินใจขึ้นเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ได้เป็นสาวงามตัวแทนของประเทศไทยไปชิงมงกุฎในระดับจักรวาล

ก่อนที่แอนโทเนีย จะเดินทางไปลุ้นมงกุฎที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ โดยมีชื่อติดท็อป 5 ของทั้ง 5 โพล ตัวเต็งมิสยูนิเวิร์ส 2023 ของทุกสำนัก แม้ในวันประกวดรอบตัดสิน แอนโทเนีย จะทำได้แค่รองชนะเลิศอันดับ 1 มาครอง แต่ก็กลายมาเป็นขวัญใจชาวไทยคนใหม่ ชนะใจคนไทยทั้งประเทศ

ส่วนเรื่องของหัวใจ “แอนโทเนีย” กำลังคบหาดูใจกับ “อิรฟาน ฟานดี” นักฟุตบอลชาวสิงคโปร์ ที่กำลังค้าแข้งในไทยลีก สังกัดสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ลูกชายของนักฟุตบอลระดับตำนานของสิงคโปร์ “ฟานดี้ อาหมัด”

Advertisement

สธ.คุมเข้มร้านขายยา ตั้งแต่ 1 ก.ย. จ่ายยาต้านโควิด ต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น

People Unity News : 1 กันยายน 2565 รองโฆษกรัฐบาล ย้ำตั้งแต่ 1 ก.ย. 65 ร้านขายยาจ่ายยาต้านโควิด-19 ต้องมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น กำชับหน่วยงานติดตามการบันทึกตรวจสอบเคร่งครัด แนะประชาชนซื้อจากช่องทางที่ได้รับอนุญาต

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ได้มีมติให้ร้านขายยาสามารถจ่ายยาต้านโควิด-19 ทั้งฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ หรือแพกซ์โลวิด ได้ ตั้งแต่วันนี้ (1 ก.ย.) เป็นต้นไป นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นย้ำถึงผู้ประกอบการร้านขายยาทุกแห่งว่าจะต้องจ่ายยาเฉพาะกรณีมีใบสั่งแพทย์มาแสดงต่อเภสัชกรเท่านั้น เนื่องจากตามแนวทางการรักษาโควิด-19 ในปัจจุบัน ผู้ป่วยโควิดไม่จำเป็นต้องทานยาต้านไวรัส แต่แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและให้คำแนะนำเพื่อการใช้ยาที่เหมาะสม

น.ส.ไตรศุลี กล่าวอีกว่า นายอนุทิน ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสำนักงานอาหารและยา (อย.) สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ให้ติดตามเรื่องของการบันทึกข้อมูลการจ่ายยาต้านไวรัสของร้านขายยา เพื่อใช้สำหรับตรวจสอบโดยเคร่งครัด  ซึ่งปัจจุบันร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตจะมีการบันทึกข้อมูลการจ่ายยาควบคุมประเภทต่างๆอยู่แล้ว

“การที่ ศบค. ได้อนุญาตให้เพิ่มช่องทางการจ่ายยาโควิด-19 ได้ที่ร้านขายยาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เพื่อเพิ่มช่องทางและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน แต่เนื่องจากยาต้านไวรัสไม่ได้เป็นยาสามัญทั่วไป ยังเป็นยาที่ต้องควบคุมการใช้ และไม่จำเป็นที่ผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนต้องทานยาต้านไวรัส ดังนั้นจึงยังจำเป็นที่ต้องให้ผู้ป่วยได้พบแพทย์เพื่อมีการวินิจฉัยไม่ว่าจะเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลหรือคลินิกเวชกรรม และให้คำแนะนำที่สอดคล้องกับอาการของผู้ป่วยแต่ละคน” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังมีความห่วงใยและมีข้อแนะนำว่า ขอให้ประชาชนจัดหายาต้านไวรัสจากช่องทางที่ได้รับอนุญาต อย่าซื้อยารับประทานเองโดยไม่มีแพทย์แนะนำ เพราะมีทั้งความเสี่ยงที่อาจจะได้ยาปลอม หรืออาจเกิดการใช้ยาไม่สอดคล้องกับอาการ โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัวควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนใช้ยา

Advertisement

ย้ำอีกครั้ง! ภาษีที่ดินปี 65-66 จัดเก็บอัตราเดิม แต่ไม่ลด 90% บ้านและที่ดินเกษตรได้บรรเทา

People Unity News : รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำอีกครั้ง! ภาษีที่ดินปี 65-66 จัดเก็บอัตราคงเดิม แต่ไม่ลด 90% บ้านและพื้นที่เกษตรยังได้บรรเทา

4 มี.ค. 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีการแชร์ข้อมูลคลาดเคลื่อนในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและการจัดเก็บภาษี จึงขอแจ้งให้ทราบอีกครั้งว่า รัฐบาลได้ประกาศคงอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปีภาษี 2565-2566 ในอัตราเช่นเดียวกับปี 2563-2564 แต่ไม่มีการปรับลดการจัดเก็บลง 90% เหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ผู้เสียภาษียังคงได้รับการบรรเทาภาระภาษีในหลายกรณี อาทิ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประกอบเกษตรกรรมจะได้รับยกเว้นภาษี

ทั้งนี้ การจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2565 เมื่อคำนวณได้เท่าไร จะต้องจ่ายเต็มจำนวน เนื่องจากกระทรวงการคลังมองว่า การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นรายได้หลักที่นำเข้าสู่ท้องถิ่น ซึ่งจากที่มีการลดภาษีที่ดินฯลง 90% ในช่วง 2 ปีก่อนหน้านี้ ทำให้รายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลดลงปีละประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ทำให้ขาดรายได้ไปพัฒนาพื้นที่

นางสาวรัชดา ยังเผยว่า ตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ต้องประกาศอัตราภาษีที่จะใช้จัดเก็บในปี 2565 เนื่องจากอัตราภาษีเดิมที่กำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลกำหนดให้ใช้ได้เฉพาะปี 2563 – 2564 แต่ด้วยความเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลจึงคงอัตราภาษีที่ดินฯแบบเดิมเช่นเดียวกับปีภาษี 2563-2564 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้กับผู้เสียภาษี และเพื่อให้ผู้เสียภาษีได้มีระยะเวลาในการปรับตัวสำหรับการชำระภาษีในอัตราที่แท้จริง

ซึ่งในปี 2565 นี้ ผู้เสียภาษียังคงได้รับการบรรเทาภาระภาษีหลายกรณี ได้แก่ 1) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาและใช้ประกอบเกษตรกรรมได้รับยกเว้นภาษี 2) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดา และมีชื่อในทะเบียนบ้านในวันที่  1 มกราคม จะได้รับยกเว้นมูลค่าฐานภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท 3) กรณีที่เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง ก็จะได้รับยกเว้นมูลค่าฐานภาษีสำหรับสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือไม่เกิน 10 ล้านบาท แล้วแต่กรณี จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่สำหรับบุคคลที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านบาท หรือเกิน 10 ล้านบาท แล้วแต่กรณี จะเสียภาษีเต็มอัตราเฉพาะส่วนที่เกินเท่านั้น 4) การผ่อนปรนภาระภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีกรณีมีภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง สูงกว่าค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่ที่เคยชำระในปี 2562 จะบรรเทาภาระให้โดยเสียภาษีเท่ากับค่าภาษีปี 2562 บวกกับร้อยละ 75 ของส่วนต่างค่าภาษีปี 2565 กับปี 2562

Advertising

องค์การอนามัยโลกเผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งสูงเกือบ 6 ล้านคนแล้ว

People Unity News 6 มี.ค. 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วโลกพุ่งสูงเกือบ 6 ล้านรายแล้ว

กระดานข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกอยู่ที่ 5,978,096 ราย และจำนวนผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 440,807,756 ราย เมื่อนับถึงวันศุกร์ (4 มี.ค.)

ภูมิภาคยุโรปมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมมากที่สุดในโลกด้วยจำนวน 181,275,264 ราย ตามด้วยอเมริกาที่มีผู้ป่วยสะสม 147,655,931 ราย

สหรัฐฯ อินเดีย และบราซิล เป็นประเทศสามอันดับแรกที่มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมมากที่สุดในโลก

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกเสริมว่าทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เกือบ 1.06 หมื่นล้านโดสแล้ว เมื่อนับถึงวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา

Advertising

สำนักพุทธฯร่วมกับวัดทั่วประเทศตั้งโรงทานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

People Unity News : พศ.ร่วมกับวัดทั่วประเทศ ตั้งโรงทานช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ช่วยประชาชนได้กว่า 2.7 แสนคน/วัน เผยเตรียมช่วยเหลือผ่านระบบ Drive Thru ในทุกพื้นที่ชุมชน

วันนี้ (13 พ.ค.63) เวลา 12.00 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อํานวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงการจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้น คณะสงฆ์ไทยได้นำพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชฯ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบความยากลำบากจากสถานการณ์ฯ โดยมีพระบัญชาให้จัดตั้งโรงทาน โดยให้สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ประสานงานกับวัดทั่วราชอาณาจักรที่มีศักยภาพเพียงพอในการจัดตั้งโรงทานช่วยเหลือผู้ประสบความยากลำบากจากสถานการณ์ฯ โดยกำหนดแนวทางประสานความร่วมมือที่คำนึงถึงความพร้อมเป็นปัจจัยสำคัญ ร่วมกับการสนับสนุนจากภาครัฐ เอกชน และประชาชนในชุมชนนั้นๆ และให้ปฏิบัติตามคำสั่งมาตรการ คำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด

ปัจจุบันมีการดำเนินการจัดตั้งโรงทานไปแล้ว 77 จังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร รวมเป็น 914 ศูนย์ ซึ่งมีพี่น้องประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือกว่า 274,000 คนต่อวัน สำหรับวัดขนาดเล็กที่ยังมีศักยภาพไม่มากแต่ต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ให้มีการจัดตั้งโรงทานในลักษณะตู้แบ่งปันความสุข ผู้ที่ต้องการรับความช่วยเหลือต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ทั้งการเข้ารับการตรวจ ณ จุดคัดกรอง ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง 1.5 – 2 เมตร ไม่ให้เกิดความแออัด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ขณะที่ผู้ให้ความร่วมมือในการเป็นแม่ครัวจิตอาสาต้องวัดอุณหภูมิก่อนเข้าไปประกอบอาหาร สวมผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม และล้างมือก่อนการประกอบอาหาร ถือเป็นมาตรการหลักที่ต้องปฏิบัติตาม ขณะเดียวกันมีโรงทานที่เปิดทำการแล้วคือ โรงทานวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นโรงทานต้นแบบ ที่ได้เปิดตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลามากกว่า 1 เดือน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งผู้ได้รับผลกระทบที่อาศัยอยู่ในชุมชน รวมทั้งผู้ประกอบอาชีพต่างๆที่ได้รับผลกระทบด้วย สำหรับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือ การช่วยเหลือผ่านระบบ Drive Thru เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทุกพื้นที่ชุมชน

นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดตั้งโรงทานเคลื่อนที่สำหรับประชาชนที่ไม่ได้อยู่ใกล้บริเวณพื้นที่วัด โดยการสื่อสารผ่านผู้นำชุมชน เพื่อจัดทำอาหารที่ปรุงสดใหม่ส่งไปยังชุมชนนั้นๆ โดยผู้ที่ต้องการรับความช่วยเหลือให้รออยู่ที่บ้านเพื่อเป็นการแก้ปัญหาความแออัด ขณะเดียวกันได้มีแนวทางการต่อยอดในการใช้วัดเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ปลูกผักปลอดสารพิษ “สวนวิถีพุทธ วิถีเกษตร” ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วในบางพื้นที่ เช่น วัดทรงเสวย วัดพรหมมหาจุฬามณี วัดประดู่ วัดอินทาราม รวมถึงการเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่ยังไม่ได้กลับไปประกอบอาชีพ ช่วยกันปลูกผักและนำมาจำหน่ายให้แก่วัดเพื่อนำมาปรุงอาหารแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป นอกจากจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนแล้ว ยังสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อีกด้วย

สำหรับโครงการจัดตั้งโรงทานได้มีการต่อยอดดำเนินการไปยังพื้นที่วัดไทยในต่างประเทศ ทั้งทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมถึงโอเชียเนีย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ตัวอย่างเช่น วัดอรุณสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังมีการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ด้วย ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการใช้วัดเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนอย่างแท้จริง เพื่อเป็นการเปลี่ยนแนวคิดทัศนคติของคนในประเทศในเรื่องของการช่วยเหลือเผื่อแผ่ ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจคำว่าพอเพียงและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ในสังคม ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงทาน สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ประสานงานไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ ผ่านสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด เพื่อประชาสัมพันธ์จุดจัดตั้งโรงทานของแต่ละพื้นที่จังหวัดนั้นๆ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง

โฆษณา

ช่วยได้แล้ว 75 ตามหาอีก 31 นาย!!

People Unity News : 19 ธันวาคม 2565 นายกฯ บอกกำลังช่วยกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ด้านโฆษก ทร. บอกช่วยได้แล้ว 75 กำลังตามหาอีก 31 นาย ส่วน ผบ.ทร. เตรียมบินจากสัตหีบไปบางสะพาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 3/2565 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆ ถึงการให้ความช่วยเหลือ กำลังพลของกองทัพเรือหลังเรือหลวงสุโขทัย ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้อัปปางจมลงใต้ทะเลเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า “กำลังช่วยอยู่”

ด้าน พล.ร.อ.ปกครอง มณธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถช่วยเหลือกำลังพลได้แล้ว จำนวน 75 นาย ปลอดภัยดี และอยู่ระหว่างการติดตามช่วยเหลืออีก 31 นาย ทั้งนี้ กำลังพลบนเรือมีจำนวนทั้งสิ้น 106 นาย ไม่ใช่ 110 นายตามที่เป็นข่าว ส่วนที่บอกว่าปลอดภัยทั้งหมด หมายถึงในระหว่างให้การช่วยเหลือ ทั้ง 106 นายขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าเรือแล้ว ไม่มีใครติดอยู่ตามห้องต่างๆในเรือ

“ขณะนั้นคลื่นลมแรงมาก การลำเลียงจาก ร.ล.สุโขทัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก เมื่อเรือจมลงแล้ว สามารถลำเลียงมาลง ร.ล.กระบี่ได้จำนวน 75 นาย ซึ่งมี 1 นายที่ขาหักและอีก 1 ราย นิ้วหัก ส่วนอีก 31 นายยังไม่พบ ซึ่งวันนี้ (19 ธ.ค.) เราออกลาดตระเวณค้นหาตั้งแต่เช้า ก็หวังว่าจะได้พบทุกคนปลอดภัย” โฆษกกองทัพเรือ กล่าว

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เวลาประมาณ 11.00 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากสัตหีบ จ.ชลบุรี ไป อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง

Advertisement

ป.ป.ช.เปิดสถิติเรื่องร้องเรียน อปท.ถูกร้องเรียนกล่าวหามากสุด

People Unity News : 27 กรกฎาคม 2566 ป.ป.ช.เปิดสถิติเรื่องร้องเรียน อปท.ถูกร้องเรียนกล่าวหามากสุด

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ทุจริตคอร์รัปชันประเทศไทยว่า สถานการณ์ทรงตัว ซึ่งสาเหตุหลักของการทุจริตคือ ความคิด ค่านิยม พฤติกรรมและผลประโยชน์ โดยเฉพาะเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ทั้งนี้สถิติการรับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาในปีงบประมาณ 2566 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2565 -19 กรกฎาคม 2566 ประมาณ 4,475 เรื่อง โดยเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช.รับไว้พิจารณา 2,748 เรื่อง และเรื่องที่มอบหมายให้หน่วยงานต้นสังกัดที่รับผิดชอบดำเนินการ 1,727 เรื่อง ขณะที่หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 1,548 เรื่อง กระทรวงมหาดไทยจำนวน 507 เรื่อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 409 เรื่องส่วนราชการอื่นๆ รวม 2,011 เรื่อง และคำกล่าวหาที่มีการร้องเรียนมากสุดคือ การปฏิบัติหน้าที่หรือละเม้นตามปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 และกล่าวหาประเภทการจัดซื้อจัดจ้าง สำหรับวงเงินงบประมาณที่มีการกล่าวหามายัง ป.ป.ช. จำนวน 2,784 เรื่อง มูลค่ารวมของโครงการต่างๆ 13,430,226,237 ล้านบาท

Advertisement

เตือน 6-8 ม.ค. ภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนัก

People Unity News : 5 มกราคม 2566 กรมอุตุฯ เตือน 6-8 ม.ค.65 ภาคใต้ตอนล่างฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ขณะที่อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 2-4 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อนลงแต่ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และหนาวเย็นไว้ด้วย รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่เกิดจากสภาพอากาศแห้งในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม อ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ทำให้อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 มกราคม 2566 รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 6-8 มกราคม 2566 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงใกล้เกาะบอร์เนียวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ปลายแหลมญวณ ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

กทม.-ปริมณฑล : มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง : มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

Advertisement

โฆษก ศบค. เผยคลินิกเสริมความงาม ผับ บาร์ ยังคงปิดบริการต่อไป

People Unity News : โฆษก ศบค. เผยคลินิกเสริมความงาม ผับ บาร์ ยังคงปิดบริการ เนื่องจากใช้เวลาทำกิจกรรมในสถานที่ดังกล่าวนาน วอนประชาชนยังคงเน้นการควบคุมโรคเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย

4 พ.ค. 63 เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ตอบคำถามสื่อมวลชนผ่านโซเซียลมีเดียช่วงการแถลงข่าวของศูนย์ข่าวโควิด-19 ดังนี้

โฆษก ศบค. ย้ำการให้บริการของสถานเสริมความงาม แม้บางแห่งได้มีการจดทะเบียนเวชรกรรมถูกต้อง ตามราชกิจจานุเบกษา ข้อกำหนดฉบับที่ 5 (6) ซึ่งประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 63 ว่า คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม เป็นหนึ่งในกิจการที่ต้องมีคำสั่งปิดสถานที่เพราะมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากอธิบดีกรมควบคุมโรคมีความเห็นว่า กิจการ/กิจกรรมที่ทำในคลินิกเวชกรรมเสริมความงามนั้นใช้เวลานาน และถือว่ามีความจำเป็นน้อย จึงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ โรงมหรสพ สถานบริการ ผับ บาร์ เป็นต้น ยืนยันว่ายังไม่สามารถให้กลับมาให้บริการได้

โฆษก ศบค. ยังชี้แจงถึงข้อมูลและความแม่นยำผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 18 รายที่จังหวัดสงขลาว่า หลักการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น หากมีการตรวจในคนหมู่มาก ย่อมมีโอกาสพบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงเพิ่มศักยภาพในการตรวจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับทุกคนจะเป็นการใช้ทรัพยากรจำนวนมาก เช่น กรณีจังหวัดยะลาที่ตรวจไป 3,000 กว่าคน แต่บางอำเภอไม่พบผู้ป่วยเลย โฆษก ศบค. ยืนยันการใช้ชุดข้อมูล สถิติ เพื่อระบุกลุ่มเสี่ยงในการตรวจเป็นวิธีที่ยอมรับระดับประเทศและนานาชาติ ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อดำเนินการในส่วนนี้

โฆษก ศบค. ยังแสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ได้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีความแออัด ขอให้เข้าใจว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวัน จะต้องสร้างความปลอดภัยได้ เช่นเดียวกับการปฏิบัติตนตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา  หากร่วมมือกัน ยึดหลักมาตรการป้องกันโรคตามประกาศ ทั้งการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค การเว้นระยะห่าง และลดความแออัด มาตรการดังกล่าวเหล่านี้จะทำให้ประสบสำเร็จได้  ซึ่งยังต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ได้ร้อยละ 100 เพื่อทำให้จำนวนตัวเลขของผู้ติดเชื้อกลายเป็นศูนย์ ติดต่อกันอย่างน้อย 14 วัน จึงจะมั่นใจว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศ เพื่อเราจะเข้าสู่ระยะต่อไปได้และมีอิสระในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น

โฆษก ศบค. ยังตอบหากพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จะมีมาตรการเข้มงวดขึ้นหรือไม่นั้น โดยชี้แจงว่า ศบค. มีการจัดเก็บชุดข้อมูลในรูปแบบของสถิติ ข้อมูลชุดพฤติกรรมที่มีการผ่อนปรนจะสอดคล้องกับชุดข้อมูลยืนยันผู้ติดเชื้อจากห้องปฏิบัติการ เมื่อปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนแล้ว หากพบจำนวนตัวเลขของผู้ติดเชื้อลดลง ก็สามารถขยับมาตรการผ่อนปรนต่อไปได้ แต่หากจำนวนตัวเลขของผู้ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้น จะต้องทบทวนมาตรการต่างๆอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ประกอบการ ผู้รับบริการและผู้กำกับติดตามของภาครัฐ ช่วยเหลือดูแลซึ่งกันและกัน จะสร้างความปลอดภัยให้แก่เราได้

โฆษณา

Verified by ExactMetrics