วันที่ 24 เมษายน 2024

ทั่วไทยร้อนถึงร้อนจัด แนะเลี่ยงอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 เมษายน 2567 กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อน

พยากรณ์อากาศรายภาค

กทม.-ปริมณฑล : อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคเหนือ : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคกลาง : อากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 40-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก : อากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

Advertisement

เตือนทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด-ฝนตกบางแห่ง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 31 มีนาคม 2567 กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน ส่วนอีสานตอนล่าง-ตะวันออก ฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยาเผย ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ไว้ด้วย ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าวมีกำลังอ่อนลง

Advertisement

ราชกิจจาฯผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติ กลับประเทศร่วมประเพณีสงกรานต์ 67

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 มีนาคม 2567 โฆษก มท. เผย ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงมหาดไทยผ่อนผันแรงงาน 3 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา เดินทางกลับประเทศเพื่อร่วมประเพณีสงกรานต์ 67 และเดินทางกลับไทยได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใหม่ เริ่ม 1 เม.ย.-15 พ.ค.

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ (29 มี.ค.67) ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ซึ่งเข้ามาเพื่อทำงานในราชอาณาจักรตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงานหรือได้รับอนุญาตทำงานในเรือประมงและมีหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง หรือได้รับการอนุญาตให้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษ สามารถเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ พ.ศ. 2567

โดยสาระสำคัญของประกาศ ได้ผ่อนผันให้กับคนต่างด้าว 3 สัญชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติตามกำหนดสามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมประเพณีสงกรานต์และเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องดำเนินการยื่นคำขออนุญาตอีกในระหว่างวันที่ 1 เม.ย.-15 พ.ค. 67 แต่หากเดินทางกลับเข้ามาไทยหลังช่วงเวลาที่กำหนด จะถือว่าการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวผู้นั้นเป็นอันสิ้นสุดลง หากประสงค์เดินทางเข้าจะต้องยื่นคำขออนุญาตเพื่อกลับเข้ามาในราชอาณาจักรอีก (Re-Entry Permit) ตามปกติ

“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามในประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ โดยการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 67 หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันนี้ (29 มี.ค.) แล้ว ประกาศจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกับประเทศไทยได้มีโอกาสเดินทางกลับบ้านไปร่วมงานประเพณีสงกรานต์ เยี่ยมเยียนครอบครัว รวมทั้งได้ช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับแรงงานต่างด้าวซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้ไม่สูงมากนักให้เดินทางได้โดยสะดวก และเป็นการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า คนต่างด้าว 3 สัญชาติ ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาที่ได้รับการผ่อนผันตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯนี้ มี 3 กลุ่ม ได้แก่

1.ผู้ซึ่งเข้ามาทำงานในประเทศไทยตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการจัดการจ้างแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาล สปป.ลาว รัฐบาลเมียนมา ซึ่งถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางซึ่งได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส L-A และระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยยังเหลืออยู่ไม่น้อยกว่าวันที่ 15 พ.ค. 67

2.ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานในเรือประมงและมีหนังสือคนประจำเรือตามกฎหมายว่าด้วยการประมง ซึ่งถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส L-A และระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในไทยยังเหลือไม่น้อยกว่าวันที่ 15 พ.ค. 67

3.ผู้ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยอนุมัติของ ครม. อนุญาตให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตามมาตรา 17 (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) ที่ผ่านการตรวจสัญชาติและมีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง ซึ่งได้รับการการตรวจลงตามประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส L-A รวมถึงผู้ติดตามซึ่งเป็นบุตรของคนต่างด้าวดังกล่าวที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี ได้รับการตรวจลงตราประเภทผู้ติดตามและระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยเหลืออยู่ไม่น้อยกว่าวันที่ 15 พ.ค.67

Advertisement

ไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 มีนาคม 2567 กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ ส่วนภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ไว้ด้วย

ขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 28-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส

Advertisement

อุตุฯ เผยภาคเหนือ-กลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 27 มีนาคม 2567 กรมอุตุฯ เผยมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ในขณะที่ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมด้านตะวันตกของประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส

Advertisement

ด่วน!!เชียงใหม่เกิดไฟป่า 71 จุด-ค่าฝุ่นพุ่งติดอันดับโลกอีกครั้ง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 25 มีนาคม 2567 จ.เชียงใหม่ เกิดไฟป่ามากถึง 71 จุด ทำให้ค่า PM 2.5 กลับมาสูงอีก บางพื้นที่แบบรายชั่วโมงสูงถึง 346 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้คุณภาพอากาศกลับมาแย่อันดับ 5 ของโลก

เช้าวันนี้ (25 มี.ค.) จ.เชียงใหม่ ยังพบไฟป่ามากถึง 71 จุด กระจายใน 14 อำเภอ พื้นที่ อ.ฮอด มากที่สุด 21 จุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในป่าอนุรักษ์ ต.บ้านตาล รองลงมาที่ อ.เชียงดาว 11 จุด อ.อมก๋อย 9 จุด ที่เหลือกระจายในอีก 9 อำเภอ ส่งผลให้ค่ามลพิษ หรือ PM 2.5 กลับมาสูงขึ้นอีกระลอก ทัศนวิสัยการมองเห็นขุ่นมัว ประชาชนเริ่มมีอาการแสบตา ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงระดมเร่งดับไฟ

ด้านศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานคุณภาพอากาศแบบรายชั่วโมง บริเวณ รพ.สต.บ้านปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว ค่า PM 2.5 เวลา 07.00 น. สูงถึง 346 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ ส่วนโรงพยาบาล อ.สันป่าตอง อยู่ที่ 187 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ชุมชนหมื่นสาร ในตัวเมืองเชียงใหม่ อยู่ที่ 125 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สำหรับบริเวณประตูท่าแพ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ. นำเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเคลื่อนที่มาติดตั้งเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทราบคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์

จากคุณภาพที่แย่ลงในวันนี้ ทำให้เชียงใหม่กลับมาติดอันดับ 5 เมืองใหญ่ที่มีมลพิษมากที่สุดของโลกอีกครั้ง จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ IQAir ณ เวลา 10.00 น. ค่าดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 162 AQI

Advertisement

ระวัง 5 บัญชีโซเชียล อย่ารับแชท ไม่แอด ไม่คุย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 24 มีนาคม 2567 รองโฆษกรัฐบาล ย้ำเตือน ปชช. ระวัง 5 บัญชีโซเชียลอันตราย แนะอย่ารับแชท ไม่แอด ไม่คุย ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพยังคงมีการพัฒนารูปแบบในการหลอกลวงประชาชนปรับเปลี่ยนรูปแบบอย่างแยบยลมีการนำหลักจิตวิทยามาปรับใช้ในการหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มิจฉาชีพมักสร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงเหยื่อ รูปแบบของบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ต้องระวังเพราะอาจเป็นมิจฉาชีพมี 5 รูปแบบดังต่อไปนี้

1.หนุ่มหล่อสาวสวยแอดเป็นเพื่อน โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อนพยายามสานสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว ซึ่งจะนำไปสู่การหลอกลวงเอาทรัพย์สิน หรือหลอกให้ส่งภาพลามก

2.อวดร่ำอวดรวย โดยมักจะมีการโพสต์ในทำนองว่า ได้เงินจากการลงทุน หรือทำธุรกิจบางอย่าง ซึ่งได้ผลตอบแทนสูงจะนำไปสู่การหลอกลวงชวนลงทุนหรือ Hybrid Scam

3.ต่างชาติวัยเกษียณส่งข้อความมาหา หรือแอดเป็นเพื่อนเพื่อสานสัมพันธ์เชิงชู้สาว อ้างว่า จะย้ายมาอยู่ไทยและจะส่งทรัพย์สินมาให้ แต่ติดอยู่ที่ศุลกากรหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้มิจฉาชีพ

4.หน่วยงานรัฐรับช่วยเหลือ โดยลงโฆษณาผ่านช่องทางต่าง ๆ อ้างหน่วยงานของรัฐเปิดบริการรับแจ้งความ หรือให้ความช่วยเหลือในการติดตามทรัพย์สินจากคนร้าย จากนั้นจะหลอกลวงให้โอนเงินอ้างว่า เป็นขั้นตอนในการติดตามเงินคืนหรือค่าใช้จ่ายในการติดตามคดี

5.แอคหลุมแอคปลอม แชร์แต่ข่าวร้านอร่อย ที่เที่ยวสวย ๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครแอดมาเป็นเพื่อน ต้องระวังเพราะอาจเป็นมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสเข้ามาส่องบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของท่าน หรือนำภาพของท่านไปใช้ในการสร้างบัญชีปลอม

“แนะนำประชาชนไม่รับแอด ไม่คุยแชท ไม่โอนเงินให้บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่มีลักษณะดังกล่าว เพื่อลดโอกาสที่ท่านจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่สร้างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นมาเพื่อใช้หลอกลวง” นายคารม ระบุ

Advertisement

อุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อน ฉ.7 ฝนถล่ม-ลมแรง-ลูกเห็บตก

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 20 มีนาคม 2567 กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อน ฉบับที่ 7 ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง-ลูกเห็บตก มีผลกระทบหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน กลาง และภาคใต้

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะแรก โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 20 มีนาคม 2567

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 05.00 น.

Advertisement

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อน-ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 13 มีนาคม 2567 กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส

Advertisement

กกต.มีมติเอกฉันท์ เสนอศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 มีนาคม 2567 กกต.มีมติเอกฉันท์ส่งศาล รธน.ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ปมแก้ ม.112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

มีรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค จากกรณีก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้วใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยก่อนที่ที่ประชุมจะมีมติดังกล่าวได้มีการพิจารณาผลการศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่

ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และความเห็นที่สำนักงาน กกต.เสนอว่าการกระทำของพรรคก้าวไกลเข้าข่ายเป็นความผิดมาตรา 92(1) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

Advertisement

Verified by ExactMetrics