วันที่ 3 พฤษภาคม 2024

“ธนกร”มั่นใจเก้าอี้ปธ.กมธ.แก้รธน.พรรคร่วมทำความเข้าใจกันได้

People Unity News : “ธนกร”มั่นใจเก้าอี้ปธ.กมธ.แก้รธน.พรรคร่วมทำความเข้าใจกันได้ ลั่นยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก วอนอย่าใช้วิธีปลุกม็อบลงถนนบ้านเมืองสงบดีแล้ว “เทพไท”ลั่น”สิระ”ไม่จำเป็นต้องมาสอนมารยาททางการเมืองเพราะเป็นส.ส.มาก่อนรู้ดี ส.ว.วันชัยบอก”อย่าดัดจริตทางการเมือง”

วันที่ 9 พ.ย.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเลือกประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จริงๆ แล้วตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ อยู่ที่การโหวตเลือกของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งต้องให้เกียรติทุกท่าน รายชื่อที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ส่วนจะเหมาะสมกับตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ หรือไม่นั้นก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน สำหรับตนแล้วนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนฯมีความเหมาะสม นอกจากนั้นตนมองว่าเนื้อหาสาระในการศึกษารัฐธรรมนูญมีความสำคัญกว่าใครจะมานั่งเป็นประธานกรรมาธิการฯ และที่สำคัญคือ ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรบ้างกับเรื่องนี้ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงประชาชน16.7 ล้านเสียงที่เห็นชอบกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม วิปรัฐบาลจะต้องมีการหารือกัน ซึ่งตนเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะสามารถทำความเข้าใจกันได้

“แกนนำพรรคพลังประชารัฐได้มีการหารือกันบ้างแล้วแต่จะต้องมีการหารือในที่ประชุมพรรคอีกครั้ง แต่อยากจะฝากไปยังทุกพรรคการเมืองให้ระมัดระวังสิ่งที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีกด้วย เพราะเท่าที่ทราบ กำลังมีความพยายามจากบางกลุ่มการเมืองที่จะออกมาเคลื่อนไหวบนถนนอีก มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขอให้เลิกเถอะ เพราะบ้านเมืองมาไกลแล้ว ขอบอกไว้เลยว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่หัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งตกที่นั่งลำบากนั้นไม่ได้เกิดจากใคร แต่เกิดจากตัวของท่านเอง กรรมใครกรรมมัน ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับกรรมที่ก่อไว้ อย่าโยนให้ใครเลย อย่าไปโทษใครเลย”นายธนกรกล่าว

“เทพไท”ลั่น”สิระ”ไม่จำเป็นต้องมาสอนมารยาททางการเมืองเพราะเป็นส.ส.มาก่อนรู้ดี

นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ระบุพาดพิงถึงตนและพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้รับความเสียหาย ว่า การที่ตนต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมส่งสัญญาณถึงพรรคพลังประชารัฐเพื่อไม่ให้ขัดขวางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตน์ในการเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ก็เพราะพล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ให้เป็นเรื่องของรัฐสภา

ดังนั้นการที่นายสิระ ออกมาปฏิเสธว่า พรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวข้องกับพล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะพล.อ.ประยุทธ์คือหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคพลังประชารัฐ แม้แต่ชื่อพรรคพลังประชารัฐก็มาจากโครงการประชารัฐของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และที่พรรคพลังประชารัฐได้รับเลือกตั้ง สส.เข้ามาจำนวนมาก ก็เพราะการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ซึ่งเปรียบเสมือนการซื้อเสียงล่วงหน้าของรัฐบาล และที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ในตอนนี้ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้เสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคพลังประชารัฐ เพราะฉะนั้นพล.อ.ประยุทธ์คือหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคพลังประชารัฐ การที่ตนสัมภาษณ์ถึงพล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นการแสดงความเห็นทางการเมือง เป็นเรื่องของผู้ใหญ่คุยกัน เด็กๆอย่างนายสิระก็ไม่ควรมายุ่งเกี่ยว เหมือนกับการที่แม่ทัพ นายกองเขาเจรจากัน ทหารเลวหน้าค่ายไม่ควรมาสอดรู้สอดเห็นหรือจัดการงานนอกสั่ง

“นายสิระไม่จำเป็นต้องมาสอนมารยาททางการเมืองกับผม เพราะผมเป็น สส.มาหลายสมัย ซึ่งต่างกับนายสิระที่เป็น สส.สมัยแรกและไม่แน่ใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้เข้ามาในสภาฯอีกหรือไม่ คุณก็เป็นได้แค่ สส.แดดเดียว ที่อาศัยใบบุญของพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาในสภาฯ อยากจะบอกให้นายสิระว่าเอาเวลาไปเตรียมตัวแก้ข้อกล่าวหาที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นต่อ ป.ป.ช.กรณีที่ไปมีพฤฒิกรรมกร่างใส่ตำรวจที่ภูเก็ต และเตรียมตัวขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะดีกว่า

พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ได้คืบจะเอาศอกตามที่ถูกกล่าวหา การเป็นประธานสภาฯ ของนายชวน หลีกภัย ก็เพราะความเห็นพ้องของทุกฝ่าย และเป็นการทำหน้าที่ได้ดีที่สุด หากดูองค์ประกอบของ สส.ในสภาชุดนี้ที่มีความหลากหลายเช่นนี้ ถ้าประธานสภาฯไม่ใช่คนที่ชื่อชวน หลีกภัย ไม่รู้ว่าสภาฯชุดนี้จะวุ่นวายขนาดไหน การที่พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อนายวีรกร คำประกอบ นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ นายวิเชียร เชาวลิต จนถึงนายสุชาติ ตันเจริญ ให้เป็นประธานกรรมาธิการฯชุดดังกล่าวก็ยังไม่มีเสียงการตอบรับจากสังคมเลย จนวันนี้มีการนำชื่อของนายบวรศักดิ์ อุวรรโณ อดีตกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ มาเพื่อโยนหินถามทางนั้น ก็ต้องรอดูว่ามีการตอบรับ หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์มากน้อยแค่ไหน เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เสนอนายอภิสิทธิ์นั่งตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ก็เพราะเห็นว่า เป็นผู้มีศักยภาพสูง มีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนาน เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ถ้าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อใครขึ้นมา ก็อยากได้สังคมพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างบุคคลเหล่านั้นกับนายอภิสิทธิ์ ว่าใครมีความเหมาะสมในการทำหน้าที่นี้มากกว่ากัน ถ้าพรรคพลังประชารัฐจะอ้างสิทธิ์การเป็นพรรคการเมืองใหญ่ ต้องการให้คนของตัวเองเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานกรรมการประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้จริง ก็อยากจะถามถึงเจตนาว่า มีความจริงใจในการศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญมากน้อยแค่ไหน หรือจะขอให้เป็นเพียงแค่พิธีกรรม หรือเพื่อซื้อเวลา ไม่ให้ถูกโจมตีว่าไม่ได้ทำตามนโยบายเร่งด่วนที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเท่านั้น” นายเทพไท กล่าว

ส.ว.วันชัยบอก”อย่าดัดจริตทางการเมือง”

นายวันชัย ศรีสิริ ส.ว.กล่าวว่า ถ้าจะว่ากันแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้เอาการเมืองเข้ามายุ่ง จะเห็นได้ว่าไม่มีประชาชนส่วนใหญ่ที่ไหนมาเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญ เห็นมีแต่นักการเมืองบางกลุ่มบางพวกเท่านั้น เพราะตั้งแต่มีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาประมาณ 6 เดือนกว่า ยังไม่เห็นมีประเด็นใดๆทางรัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรคปัญหาของประเทศและประชาชน พูดได้เลยว่าถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้บ้านเมืองจะวุ่นวาย การเมืองจะสับสน แก่งแย่งอำนาจกันจนเกิดวิกฤต จะไม่มีใครยอมใคร แต่เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยแท้จึงทำให้การเมืองเดินมาได้อย่างที่เห็น เป็นนวัตกรรมใหม่ของรัฐธรรมนูญที่สอดรับกับสถานการณ์ของบ้านเมืองเรา เป็นการผสมผสานอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งและอำนาจที่มาจากความมั่นคงให้ช่วยกันประคับประคองในระยะเปลี่ยนผ่านใน 5 ปีนี้เท่านั้น เป็นการออกแบบมาอย่างลงตัวเพื่อบ้านเมืองและประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อให้นักการเมืองบางกลุ่มบางพวกมาแย่งอำนาจกันเหมือนอย่างที่เคยเป็น

ดังนั้นคนที่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ เป็นพวกที่ดัดจริตทางการเมืองคือ 1. พวกที่แพ้การเลือกตั้ง อยากแก้ตัวแก้มือ 2. พวกที่กระสันอำนาจ อยากมีอำนาจ  สองพวกนี้ทำอะไรก็ได้ที่จะเป็นการสั่นคลอนสถานการณ์ของบ้านเมือง ทนไม่ได้ รอไม่ไหวกับการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะขืนรอต่อไปและที่เป็นมาแล้วก็เป็นอานิสงส์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงเกิด disruption ทางการเมือง

นายวันชัยกล่าวต่ออีกว่า จะลองใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปอีกสักระยะหนึ่งแล้วให้เห็นเป็นประจักษ์ว่ามันมีปัญหาอันเกิดจากรัฐธรรมนูญจริงๆแล้วค่อยเอามาพิจารณาหาทางแก้ไข รอไปก็ไม่มีใครจะเป็นจะตายเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้นอกจากพวกที่กระสันกับอำนาจเท่านั้น และที่สำคัญการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องเป็นความเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่ายการเมืองและฝ่ายประชาชน ควรที่จะปรึกษาหารือกันในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาไม่ใช่เกิดขึ้นจากสภาผู้แทนราษฎรโดยฝ่ายเดียวแล้วดึงส.ว.ไปเป็นกรรมาธิการ เป็นเรื่องแปลกประหลาดมากเพราะโดยปกติแต่ละสภาก็เป็นเรื่องของแต่ละสภาไม่ดึงคนของแต่ละสภามาเป็นกรรมาธิการ เกิดส.ว.ตั้งคณะกรรมาธิการมาแล้วไปดึงคนจากส.ส.มาเป็นกรรมาธิการ แปลกไหม… แต่จะมีได้ก็ในรัฐสภาเท่านั้น จากข่าวที่เกิดขึ้นจึงแปลกใจว่ามีใครกำลังทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่

ในเรื่องนี้กรรมาธิการการพัฒนาทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ทำเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว โดยได้ทำการติดตามศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญมาตลอดแบบไม่มีอคติ ทั้งได้ไปดูการเลือกตั้ง ดูการปฏิบัติงานในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญต้องนำไปใช้บังคับทำกันเป็นหลักการด้วยเหตุด้วยผลและต้องการเป็นข้อสรุปถึงผลดีผลเสียของรัฐธรรมนูญอย่างเป็นวิชาการ ไม่ใช่เป็นเรื่องดัดจริตทางการเมือง กรรมาธิการชุดนี้ซุ่มทำแบบเงียบๆมานาน ไม่ต้องการสร้างข่าวสร้างประเด็น ทำมาก่อนส.ส.ที่จะทำเรื่องนี้เสียอีก และรุดหน้าไปมากแล้ว บอกได้เลยว่าทำเพื่อบ้านเมืองมากกว่าเล่นการเมือง

“ศักดิ์สยาม”ทำบุญวันคล้ายวันเกิด พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด

People Unity News : “ศักดิ์สยาม”ทำบุญวันคล้ายวันเกิดที่บ้านพ่อชัย รมต.-ส.ส. ร่วมอวยพรคึกคัก “เนวิน”พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด ยอด 4.59 ล้านเช่นทุกปี

วันที่ 9 พ.ย.2562 ที่ทำการสาขาพรรคภูมิใจไทย หน้าโรงโม่หินศิลาชัย อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ทำบุญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ช่วงเที่ยงได้มีการตั้งโต๊ะเลี้ยงอาหารกลางวันหลายร้อยโต๊ะ ทั้งนี้มีนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ มาร่วมอวยพรนายศักดิ์สยามด้วย

“เนวิน”พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด ยอด 4.59 ล้าน

ที่วัดกลางพระอารามหลวง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเตด นายศักดิ์สยาม ร่วมทอดกฐินโจร 306 วัด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ส.ส. และแกนนำพรรคภูมิใจไทย มาร่วมทำบุญโดยพร้อมเพรียง โดยมีประชาชนร่วมทำบุญนับพันคน

นายเนวินกล่าวว่า การทอดกฐินโจร คือการเก็บตกวัดที่ตกค้าง ไม่มีใครเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน เพื่อให้ทุกวัด ได้รับกฐิน และเป็นการทำให้ครบตามที่พระพุทธศาสนาบัญญัติ เพื่อให้พระที่บวชจำพรรษา ได้รับกฐิน ครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักศาสนา อย่างไรก็ตาม การทอดกฐินโจรในแต่ละปี จะเป็นตัวชีวัดสภาวเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ถ้าปีไหนเศรษฐกิจดี ก็จะเหลือวัดตกค้างน้อย แต่ในปีนี้มีวัดตกค้างถึง 306 วัด

นายเนวินกล่าวว่า การทอดกฐินในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ไม่มีรัฐมนตรี ไม่มี ส.ส. ไม่มีอธิบดี ไม่มีผู้ว่าฯ มีแต่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมกันทำบุญ
สำหรับการทำบุญครั้งนี้ ทั้ง 306 วัด ได้รับเงินกองกฐิน วัดละ 15,000 บาท รวมเป็นเงิน 4,590,000 บาท โดยมีหางกฐินที่ประชาชนร่วมทำบุญอีกเกือบ 4 แสนบาท

โฆษกปชป. แนะทุกฝ่ายยึดหลักศึกษาแก้ไข รธน. ให้เป็นปชต.เต็มรูปแบบ

People Unity News : โฆษก ปชป. แนะ ทุกฝ่ายยึดหลักศึกษาแก้ไข รธน. ให้เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ เพื่อประโยชน์ “ประชาชน-ประเทศชาติ” เตือนอย่าโต้เถียงจนขัดแย้งทางการเมือง

วันที่ 9 พ.ย.2562 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประเด็นดังกล่าวขอให้ทุกฝ่ายอย่าโต้เถียงกันจนเป็นประเด็นขัดแย้งในทางการเมือง แต่ควรยึดหลักให้ได้ว่าหลักที่สำคัญที่จะเดินไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบมากขึ้น ประชาชนประเทศชาติได้ประโยชน์เราจะมาช่วยกันอย่างไรให้ไปถึงจุดนั้น แน่นอนว่าพรรคการเมือง รัฐบาล รัฐสภา ก็จะเป็นหลักในการขับเคลื่อน เมื่อขณะนี้มีญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้เข้าสู่การแก้ไข แต่เป็นการตั้งคณะกรรมาธิการมาเพื่อศึกษา อย่าให้เสียหลักตั้งแต่เริ่มตั้งต้น มีส่วนไหนที่ควรนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อกำหนดทิศทาง ส่วนไหนของรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนไหนที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ ส่วนไหนที่ควรกำหนดไว้ให้เป็นสิทธิของประชาชนกลับคืนมา การแก้ไขที่กำหนดให้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขยากทำอย่างไรที่จะทำเป็นการแก้ไขโดยใช้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ก็จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี คนที่มีความสามารถ คิดดี ทำดี มีแง่มุม มีประสบการณ์ ปราศจากอคติทั้ง 4 คิดโดยยึดหลักเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศ ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้โดยผ่านกลไกการเสนอของพรรคการเมือง หรือ รัฐบาล

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองแรกที่ชูธงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล จนนำไปสู่การกำหนดไว้เป็นนโยบายของรัฐบาล มีหลักการคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศเพื่อระบบประชาธิปไตยที่ดีขึ้นมีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น และล่าสุดมติที่ประชุม ส.ส. ก็ชัดเจนว่าสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ และพร้อมสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมติที่ประชุม ส.ส.ก็ให้วิปของพรรคไปพูดคุยกับวิปรัฐบาล พรรคร่วม และพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อได้ข้อหารือความเห็นพ้องต้องกันว่าทุกพรรคการเมืองจะมีแนวทางอย่างไร ผลเป็นเช่นใด วันอังคารที่จะถึงนี้ก็จะมีการกลับมารายงานก็ว่ากันไป ตามมติที่ประชุม ส.ส.พรรค มีกลไกเหล่านี้อยู่ ท้ายที่สุดก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภา

“อนุสรณ์”สอน”ประยุทธ์”หยุดลงพื้นที่ถ้าเป็นภาระประชาชน

People Unity News : “อนุสรณ์”โฆษกพรรคเพื่อไทย สอน “ประยุทธ์” ถ้าภารกิจเป็นภาระประชาชนต้องหยุดลงพื้นที่ รบ. แจงไม่ได้สั่งปิดร.ร.เบญจมราชูทิศราชบุรี วันที่ 11 พย. เผย ผอ.สั่งเปิดเรียนตามปกติแล้ว ขณะที่ “สุทิน” มองคนนั่งประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ต้องเป็นคนที่สังคมยอมรับ

วันที่ 9 พ.ย.2562 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปลี่ยนจุดลงจอดเฮลิคอปเตอร์หนีม็อบสมัชชาคนจนในการลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า ตั้งแต่ยุคคสช. ถึงยุคหลังคสช. ภารกิจในการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ แต่ละครั้งสร้างภาระให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ไปไหนมาไหนแทบจะสั่งปิดเมือง หยุดทุกภารกิจชีวิตของประชาชนมาดำเนินการต้อนรับ ยกระดับคุมเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ทั้งตัวพล.อ.ประยุทธ์ ครม. ข้าราชการส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง เกณฑ์ประชาชนมาต้อนรับ วุ่นวายไปหมดทั้งเมือง เดือดร้อนไปถึงโรงเรียนที่ต้องสั่งปิดเพื่อเกณฑ์เด็กนักเรียนมารับพล.อ.ประยุทธ์ จะมีกุนซือบอก หรือคิดเองว่า ต้องมีการสร้างภาพให้ใกล้ชิดประชาชน แต่การลงพื้นที่แต่ละครั้ง ถ้ามันเพิ่มภาระให้กับประชาชน ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือสร้างภาพ ไม่จริงใจต่อการรับฟังและแก้ไขปัญหา กลัวประชาชนจะร้องเรียนหรือสร้างปัญหาให้ ต้องหยุดลงพื้นที่

“พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไม่ติดยึดกับรูปแบบ แต่ต้องเน้นที่สาระและผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลัก จะลงพื้นที่รับฟังปัญหา ก็ต้องลงรับฟังด้วยความจริงใจ เข้าถึงสภาพปัญหาที่แท้จริง ไม่มองประชาชนผู้เดือดร้อนเป็นภาระหรือสร้างความยุ่งยากวุ่นวายให้กับตัวพล.อ.ประยุทธ์ เอง” นายอนุสรณ์ กล่าว

รบ. แจงไม่ได้สั่งปิดร.ร.เบญจมราชูทิศราชบุรี วันที่ 11 พย. เผย ผอ.สั่งเปิดเรียนตามปกติแล้ว

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงรัฐบาลไม่ได้สั่งการให้มีการปิดการเรียนการสอนโรงเรียนเบญจมราชูทิศราชบุรี ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะลงพื้นที่ราชการในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ก็ไม่ได้สั่งการเช่นกัน แต่ทางโรงเรียนได้ประกาศปิดเอง ซึ่งทางจังหวัดได้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมราชูทิศฯ มาหารือร่วมกันแล้ว ทางผู้อำนวยการโรงเรียนฯ จะยกเลิกการปิดเรียน แต่ผ่อนผันให้นักเรียนที่จะมาเรียนช้ากว่าเวลาเข้าเรียน โดยไม่ถือว่ามาสายหรือขาดเรียนเพราะคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการจราจรที่น่าจะตัดขัดมากในช่วงเช้า

“สุทิน”มองคนนั่งประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ต้องเป็นคนที่สังคมยอมรับ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการเสนอชื่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ว่า บุคคลที่มีการเสนอชื่อออกมาถือว่าเหมาะสมทั้งคู่ แต่ นายสุชาติ จะมีความแปลกและสับสนในหลักการที่รองประธานสภาฯ จะมาเป็นประธานกรรมาธิการ ไม่ค่อยเห็นใครทำกัน และส่วนตัวคิดว่าถึงวันที่จะเลือกประธานคณะกรรมาธิการจริงๆ น่าจะมีทางเลือกได้มากกว่า 2 คนที่มีชื่อออกมา จะเป็นคนนอกก็ได้คนในก็ดี

เมื่อถามว่าประธานคณะกรรมาธิการชุดนี้ควรเป็นคนจากพรรคแกนนำหลักรัฐบาลหรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนของพรรคแกนนำรัฐบาล แต่ต้องเป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญต้องอาศัยความร่วมมืออย่างกว้างขวาง ขณะที่กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีการพูดคุยในสัปดาห์หน้าก่อนญัตติดังกล่าวเข้าที่ประชุมสภาฯ รวมถึงประเด็นว่าเราจะเสนอบุคคลไปชิงตำแหน่งประธานด้วยหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ถ้าพรรคประพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ส่งบุคคลชิงประธานพรรคฝ่ายค้านจะสนับสนุนใครนั้นนายสุทิน ระบุว่า เรื่องดังกล่าวยังไปไม่ถึง ดังนั้นในสัปดาห์หน้าก็คงหยิบยกมุมมองต่างๆ ขึ้นมาหารือในหลักการ

ทางด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการวิสามัญในสภาฯ ว่า กรณีตั้งกรรมาธิการวิสามัญตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ 92 เขียนไว้ว่า ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งกรรมาธิการได้ 1 ใน 4 ของกรรมาธิการทั้งหมด ที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนของพรรคการเมืองตามจำนวนสมาชิก ถ้าตั้งกรรมาธิการ 49 มาหาร 4 ครม. จะได้ 12 คน ที่เหลือ 37 คน เป็นไปตามสัดส่วนพรรคการเมือง เมื่อคำนวณแล้วพรรคฝ่ายค้านจะได้ 19 เสียง รัฐบาลได้ 18 เสียง ใน 19 เสียง พรรคเพื่อไทยจะได้ประมาณ 10-11 เสียง ซึ่งตอนนี้กำลังพิจารณากันอยู่ จะเป็นทั้ง ส.ส. และสมาชิกพรรคที่ไม่ได้เป็น ส.ส.

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ว่า สำหรับกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคเพื่อไทย จะเป็นมือกฎหมายที่มีความรู้ความสามารถและทำงานร่วมกับพรรคมานาน รวมถึง ส.ส. ที่คอยประสานงานกับพรรคร่วมในสภาฯ อาทิ นายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาฯ นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม

“บิ๊กป้อม”กำชับฝ่ายปกครองทำงานร่วมทุกฝ่ายดูแลปชช.ช่วงเทศกาลลอยกระทง

People Unity News : “บิ๊กป้อม”กำชับฝ่ายปกครองทำงานร่วมกับตำรวจ ทหารและภาคจิตอาสา รับมือและดูแลความปลอดภัยประชาชน ช่วงเทศกาลลอยกระทง

วันที่ 9 พ.ย.2562 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับ กระทรวงมหาดไทย โดยขอให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่ระดับต่างๆ ประสานการทำงานร่วมกับ ตำรวจ ทหารและภาคจิตอาสา ร่วมกันดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่กำลังมีขึ้น ซึ่งคาดว่ามีประชาชนจำนวนมาก เดินทางร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกัน โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงาน

โดยย้ำขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่จัดงาน ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ร่วมกันตรวจสอบความแข็งแรงของท่าน้ำและพื้นที่จัดงาน จัดให้มีแสงสว่างเพียงพอและมีมาตรการต่างๆรองรับ ทั้งการเฝ้าระวังและป้องกัน พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆที่อาจมีขึ้น ทั้งอุบัติเหตุจากทางน้ำและท้องถนน อัคคีภัย และปัญหาอาชญากรรม หรือกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง

ขณะเดียวกัน ขอให้เข้มงวดกวดขันกับการล่อลวงเด็ก การจำหน่ายพลุดอกไม้ไฟ รวมทั้งสุรา ยาเสพติดหรือสิ่งมึนเมา ซึ่งเป็นเหตุสำคัญของปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนและปัญหาอาชญากรรม พร้อมทั้งขอให้ร่วมกันรณรงค์สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามของไทยและรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการขอความร่วมมือกันรักษาความสะอาดพื้นที่จัดงานและแม่น้ำลำคลอง ใช้กระทงที่ประดิษฐ์ด้วยวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความสวยงามของประเพณีไทยโบราณนี้ด้วยกัน

“สุวัจน์”มองอีอีซีโอกาสประเทศไทยและเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจ

People Unity News : “สุวัจน์”มองอีอีซีโอกาสประเทศไทยและเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจ พร้อมฝากอารยะสถาปัตย์กับเหตุสามารถสร้างความเท่าเทียมในการดำรงชีวิตของคนทุกกลุ่ม แนะพรรคร่วมรัฐบาลเร่งเคลียร์ให้จบใครนั่ง ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถา ในงาน ASA Real Estate Forum 2019 ณ พารากอน ฮอลล์ 3 ศูนย์การค้า สยามพารากอน กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ นายวีรพล จงเจริญใจ ประธานการจัดงานฯ และนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคม อสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมเปิดงาน

ภายหลังจากการเปิดงาน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ประเทศไทย : เมืองแห่งโอกาส และความเท่าเทียม โดยนายสุวัจน์ได้กล่าวถึง วิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่มีผลมาจากการถดถอยของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้าของประเทศมหาอำนาจ ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และ Disruptive Technology ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 มีเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนทางไลฟ์สไตล์ เกิดการผันผวนในการทำธุรกิจ

และนายสุวัจน์ได้แสดงวิสัยทัศน์ เรื่องเมืองแห่งโอกาส ที่จะสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนทั้งประเทศ โดยกล่าวถึง เมกะโปรเจคใหญ่ๆ อย่าง EEC (Eastern Economic Corridor) ที่เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก(Eastern Seaboad)​ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนทางอุตสาหกรรม ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก  โดยเป้าหมายของ EEC ​ คือ 1.การทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง 2.บรรยากาศการลงทุนของประเทศไทยต้องเติบโตไม่น้อยกว่า 10 % 3. GDP ประเทศไทยต้องโต 5 % 4.จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 100,000 คน 5.ภาคโลจิสติกส์​ ซึ่งเป็นตัวดึงนักลงทุน จะมีราคาถูกลง 6.จะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น และสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ

นอกจากโครงการ EEC แล้ว โครการใหญ่ๆที่เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ก็ถือเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟความเร็วสูง ที่จะสามารถดึงดูดนักลงทุน รองรับนักท่องเที่ยวๆได้ 150 ล้านคนต่อปี จะมีการจ้างงาน และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล การสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพ ก่อให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจในเรื่องของ อสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้า ทำให้ที่ดินมีมูลค่าเพิ่ม รถไฟรางคู่ที่ออกไปสู่ต่างจังหวัด จะเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวไปให้เกษตรกร และ ท้องถิ่น ลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึง มอเตอร์เวย์สายต่างๆที่จะกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ

การใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ Technology 5g มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านธุรกิจ ด้านการแพทย์ ด้านการศึกษา องค์ความรู้ต่างๆจะหลั่งไหลสู่ชุมชนที่ห่างไกล และนอกเหนือจากเรื่องของเทคโนโลยี นายสุวัจน์ได้กล่าวถึงการสร้างพันธมิตร เช่น การเป็นประธานจัดงานประชุมอาเซียน ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ การรวมกลุ่มทางการค้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งและข้อต่อรองทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดโอกาสทางการลงทุนทีามากขึ้น และสุดท้าย นายสุวัจน์ได้กล่าวถึงจุดแข็งของประเทศไทย 2 ประการ นั่นก็คือ 1.การเกษตร ต้องใช้เทคโนโลยี และ อุตสาหกรรมมาใช้ในการเกษตรเพื่อแปรรูป และเพิ่มมูลค่า วัตุดิบคุณภาพของประเทศ 2.การท่องเที่ยว เพราะประเทศไทยมีความสวยงาม และมีความหลายหลายในแต่ละท้องถิ่น การส่งเสริมการท่องเที่ยว จะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวจะกระจายไปในทุกๆที่ โดยมีโครงสร้างพื้นฐานมารองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว

และก่อนที่จะปิดการปาฐกถา นายสุวัจน์ได้ฝากถึงสถาปนิก ว่าต้องให้ความสำคัญกับ Universal Design (อารยะสถาปัตย์)​เพราะสามารถสร้างความเท่าเทียมในการดำรงชีวิตของคนทุกกลุ่มผ่านการออกแบบที่คำนึงถึงทุกๆคน เพื่อสร้างความเสมอภาคในสังคม และการใช้งานของคนทุกกลุ่ม

แนะพรรคร่วมรัฐบาลเร่งเคลียร์ให้จบใครนั่ง ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ

นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ส่วนตัวขอเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลโดยหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการประสานงานของแต่ละพรรคควรพูดคุยทำความเข้าใจ และหาข้อยุติเรื่องประธานคณะกรรมาธิการ จะได้ไม่กระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล

ทั้งนี้ นายสุวัจน์ เห็นว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคประชาธิปัตย์จะเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไปพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก่อน แต่ส่วนตนเองในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้รับการติดต่อหรือประสานงานมา อย่างไรก็ตาม ขอไม่แสดงความเห็นในเรื่องตัวบุคคลว่าใครเหมาะสม ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ กับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่มองว่าบุคคลที่จะมาเป็นประธานกรรมาธิการชุดนี้จะต้องมีบารมี เป็นที่ยอมรับ และสามารถควบคุมการประชุมเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดี

“เรื่องนี้ต้องพูดคุยกันเพื่อให้ได้ข้อยุติในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะความเห็นที่แตกต่างกันทำให้เกิดกระทบกับเสถียรภาพ และเกิดความไม่เข้าใจในสังคม”

“ศักดิ์สยาม”ลุยเองฟ้องรายการดัง ชวนปชช.สอบเฉพาะภูมิใจไทย

People Unity News : “ศักดิ์สยาม”ลุยเองฟ้องรายการดัง ชวนปชช.สอบเฉพาะภูมิใจไทย ลั่น ส.ส.ทุกคนต้องถูกปชช.ตรวจสอบ หากพบพฤติกรรมทำผิด แต่ต้องทำทุกพรรค

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่รายการหนึ่ง ประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนและข้าราชการทั่วประเทศ ที่พบเห็นพฤติกรรมของผู้แทนพรรคภูมิใจไทย เข้าข่ายแทรกแซงหรือสั่งการโดยไม่ชอบ ให้ร้องเรียนมายังรายการโดยตรงนั้น ถือเป็นเรื่องที่ ส.ส.ทุกคนจะต้องถูกตรวจสอบโดยประชาชน แต่ควรจะทำทุกพรรคการเมือง ทั้งนี้ ยืนยันว่า การดำเนินการฟ้องร้องนั้นยังคงมีอยู่ และจะเริ่มในสัปดาห์หน้า โดยในกรณีที่พาดพิงพรรคภูมิใจไทย สมาชิกพรรค และ ส.ส.จะดำเนินการฟ้องร้อง ขณะที่ในส่วนของกระทรวงคมนาคม ตนจะเป็นผู้ฟ้องร้องด้วยตนเอง

กรม สบส.จ่อเอาผิดสถานค้ากามย่านสาทร แอบอ้างใช้ชื่อนวดสปาบังหน้า

People Unity News : อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรม สบส.) เร่งสั่งการพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ตรวจสอบสถานค้ากาม เปิดนวดและสปาบังหน้า ย่านสาทร หลังมีข่าวตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบุกทลายและจับกุมหมอนวดทั้งไทยและต่างด้าว จ่อเอาผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับร้านนวดสปา อย่างน้อย 2 กระทง

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) บุกทลายสถานบริการ “เดอะ ปริ้นซ์” ย่านซอยสวนพลู 6 เขตสาทร ซึ่งเปิดเป็นร้านนวดและสปาบังหน้า พบว่าร้านดังกล่าวมีการแอบแฝงบริการทางเพศ มีหมอนวดชายทั้งคนไทยและต่างด้าวให้บริการบรรดาเครือข่ายรักร่วมเพศนั้น

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อได้รับทราบข้อมูลก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่จากกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพประสานตำรวจในท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ซึ่งในเบื้องต้นเมื่อตรวจสอบรายชื่อร้านดังกล่าวในฐานระบบแล้ว ไม่พบว่ามีการขออนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพกับกรม สบส. แต่กลับแอบอ้าง แขวนป้ายว่าเป็นร้านนวดและสปา ลักลอบให้บริการทางเพศ และหากดูรายละเอียดตามข่าวที่บอกว่าพนักงานมีการแต่งกายโดยสวมเพียงกางเกงในตัวเดียวนั่งในตู้กระจกเพื่อรอให้ลูกค้าเรียกไปให้บริการ คงไม่สามารถขอใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพได้อย่างแน่นอน เพราะไม่เข้าข่ายองค์ประกอบการเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เป็นเพียงการแอบอ้าง แขวนป้ายว่าเป็นร้านนวดและสปา บังหน้า เพื่อค้าบริการหรือให้บริการทางเพศเท่านั้น จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอย่างน้อย 2 กระทง ตามมาตรา 41 ใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจเพื่อสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชนว่าเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท และมาตรา 42 ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการที่ทางร้านจ้างผู้ให้บริการเป็นชาวต่างด้าว เพื่อให้บริการนวดนั้น ไม่สามารถทำได้

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า จากข้อมูลของศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรม สบส. ในปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 – กันยายน 2562) พบว่ามีผู้ร้องเรียนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทั้งสิ้น 51 เรื่อง แบ่งเป็นผู้ให้บริการเถื่อน 7 เรื่อง สปาเถื่อน 18 เรื่อง โฆษณาไม่เหมาะสม 4 เรื่อง การให้บริการ 7 เรื่อง และบริการแอบแฝง 15 เรื่อง ซึ่งได้เร่งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ กิจการที่เข้าข่ายเป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกแห่ง ต้องได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข โดยต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดตามมาตรา 26 ประกอบด้วยมาตรฐานด้านสถานที่ ด้านการให้บริการ และด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสของร้านสปาเถื่อน นวดเถื่อน หรือการแอบแฝงบริการที่ไม่เหมาะสมโดยใช้ชื่อว่านวดหรือสปาบังหน้า โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือแจ้งมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรม สบส. ทางโทรศัพท์ 02 193 7057 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์(E-Mail) crmhss.moph@gmail.com หรือทาง Facebook ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กรม สบส. เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

“นพดล”เสนอให้ถกเถียงประเด็นใหญ่ว่าต้องการแก้ รธน. เพื่ออะไร

People Unity News : “นพดล”เสนอให้ถกเถียงประเด็นใหญ่ว่าต้องการแก้ รธน. เพื่ออะไร ในประเด็นใด ส่วนใครจะเป็นประธานกรรมาธิการฯเป็นเรื่องรอง

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว ต่างประเทศกล่าวถึงการที่สภาผู้แทนฯจะพิจารณาเรื่องการตั้งคณะกรรมาธิการฯศึกษาแก้ไข รธน. และขณะนี้มีการเสนอตัวผู้ที่จะมาเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯหลายคน ในเรื่องนี้ตนเห็นว่าประเด็นเรื่องตัวประธานนั้นไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนและสำคัญที่สุด เพราะการทำงานในรูปแบบคณะกรรมาธิการนั้นตัวกรรมาธิการทุกคนมีความสำคัญ และถ้าต้องตัดสินในเรื่องใดก็ใช้เสียงข้างมากของคณะกรรมาธิการฯและแต่ละคนมีหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงเท่ากัน

ตนเห็นว่าประเด็นสำคัญกว่าใครจะมานั่งเป็นประธานคือเป้าประสงค์ในการแก้ รธน. นั้นเพื่ออะไร ประชาชนจะได้อะไร และจะแก้ในเรื่องใด ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องได้รับความเห็นพ้องต้องกันทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และสว. จำนวนหนึ่ง เพราะขาดฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็เดินหน้ายาก ดังนั้นเราควรปรึกษาหารือเพื่อหาทางออกและฉันทานุมัติร่วมกัน และถ้าจะถกเถียงกันก็ยกเหตุผลและโต้แย้งบนพื้นฐานของความปรารถนาดีต่อกัน “ถ้าเราตั้งโจทย์ว่าทำอย่างไรจะให้การเลือกตั้งเสรี เป็นธรรม มีความหมาย ไม่ซับซ้อนและสะท้อนเจตจำนงของประชาชน ทำอย่างไรจะได้รัฐบาลที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพ ทำอย่างไรสิทธิและเสรีภาพของประชาชนจะได้รับความคุ้มครอง โดยยึดประโยชน์ส่วนรวม เชื่อว่าทุกฝ่ายจะหาจุดร่วมและนำพาประเทศไปข้างหน้าได้

“สิระ” สวน “เทพไท” เสียมารยาท สอดเรื่องภายใน พปชร.

People Unity News : “สิระ” สวน “เทพไท” เสียมารยาท สอดเรื่องภายใน พปชร. ยันพรรคมีสิทธิเสนอใครเป็น ปธ.กมธ.ศึกษาแก้ รธน.ก็ได้ แนะ อยากปรองดอง เริ่มที่หุบปากตัวเองก่อน

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณถึงพรรคพลังประชารัฐ ไม่ให้ส่งคนลงแข่งตำแหน่งประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า นายเทพไทไม่ควรเสียมารยาทมายุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมของพรรคการเมืองอื่น เพราะไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอใครลงชิงตำแหน่งนี้หรือไม่ก็เป็นเรื่องภายในที่พรรคจะจัดการเอง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมีความชอบธรรมที่จะได้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการชุดนี้ด้วย เนื่องจากเป็นพรรคแกนนำของรัฐบาล

“ใครจะเป็นประธานกรรมาธิการฯชุดนี้ เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการฯเขาจะไปเลือกกันเอง ถ้านายเทพไท อยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น มีความปรองดองอย่างปากว่า ก็ควรหยุดให้ความเห็นที่จะนำไปสู่ความแตกแยก เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง เมื่อประชาธิปัตย์มีมติเสนอชื่ออดีตนายกอภิสิทธิ์ ก็เดินไปตามขั้นตอนให้วิปของประชาธิปัตย์ไปหารืกับวิปรัฐบาล เพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมกัน และเมื่อได้ข้อยุติแล้วก็ต้องจบ นี่คือมารยาทการอยู่ร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลที่นายเทพไทต้องพึงสังวรณ์ไว้ด้วย อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ ก็ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวใด ๆ กับการบริหารภายในพรรค จึงไม่ควรดึงนายกรัฐมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” นายสิระ กล่าว

ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐก็ถอยมามากแล้ว ที่ยอมสนับสนุนให้นายชวน หลีภภัย เป็นประธานสภา โดยไม่คิดเป็นโควต้าในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นนายเทพไทก็ไม่ควรได้คืบเอาศอก ต้องให้เกียรติพรรคพลังประชารัฐที่เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลด้วย

Verified by ExactMetrics