วันที่ 26 เมษายน 2024

กทม.เตรียมเพิ่มจุดผ่อนผันหาบเร่แผงลอย รองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

People Unity News : 20 ธันวาคม 2565 กรุงเทพมหานครเดินหน้าจัดระเบียบจุดผ่อนผันต่อเนื่อง รถพ่วงข้างขึ้นทางเท้าจับปรับเหมือนรถจักรยานยนต์

วานนี้ (19 ธันวาคม 2565) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 27/2565 ว่า ขณะนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในประเทศ ก็จะเห็นหาบเร่แผงลอยเพิ่มมากขึ้นในจุดต่างๆ ช่วงแรกจะดูเรื่องจุดผ่อนผันก่อน ซึ่งในช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ดูทั้งหมด 16 จุด ส่วนเดือน ก.พ. 66 จะเพิ่มอีก 29 จุด และเดือน พ.ค. 66 จะทำอีก 50 จุด โดยเป็นจุดที่มีอยู่แล้วแต่ปรับให้มีระเบียบเข้มข้นขึ้น ซึ่งมีเคสตัวอย่างเป็นต้นแบบ 8 จุด เช่น ถนนข้าวสาร แถวบางนา เป็นต้น

นอกจากนี้จะเห็นรถพ่วงข้างเพิ่มมากขึ้นด้วย ได้กำชับห้ามรถพ่วงข้างขึ้นมาขายของบนทางเท้าเด็ดขาด ถ้ามีให้ปรับสูงสุดตามระเบียบเหมือนนำรถจักรยานยนต์ขึ้นบนทางเท้า รวมถึงใช้กล้อง CCTV เข้ามาช่วยในการจับปรับผู้กระทำผิดภายใน 20 นาที แต่จริงๆ ในเรื่องนี้มี 2 มิติ ด้านหนึ่งเป็นความยากลำบากของคน แต่อีกด้านเป็นความระเบียบเรียบร้อยของเมือง ก็จะหาจุดที่สมดุลให้ได้ แต่ไม่มีนโยบายที่ผ่อนปรนเรื่องนี้ จุดผ่อนผันที่มีอยู่ขณะนี้อยู่ระหว่างทบทวนว่าจะมีจุดไหนเพิ่มขึ้นไหม อาจหาจุดที่เหมาะสมรองรับผู้ละเมิดที่มีจำนวนมาก

Advertisement

พบเด็กอัจฉริยะ! สนใจเรียนบาลีสันสกฤต วอนคณะสงฆ์วางแผนหนุนปั้นเป็นศาสนทายาท

People Unity News : พบเด็กอัจฉริยะ!สนใจเรียนบาลีสันสกฤต รุดพบอดีตนาคหลวงขอคัมภีร์ศึกษาด้วยตัวเองเตรียมสอบเข้าแพทย์ ​ อาจารย์ “มจร” วิทยาเขตบาลีพุทธโฆษเป็นปลื้มบุญของพ่อแม่ วอนคณะสงฆ์วางแผนหนุนปั้นเป็นศาสนทายาท

เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2562 รศ.ดร.เวทย์ บรรณกรกุล อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วิทยาเขตบาลีพุทธโฆษ อดีตสามเณรนาคหลวง ป.ธ.9 เปิดเผยว่า ได้รู้จัก นายภูวพัศ เทียมจรรยา เมื่อ 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา โดยสมัครแข่งขันตอบปัญหาภาษาบาลี PAT7.6 ในนามโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ได้รับรางวัลชนะเลิศ 2 ปี ติดต่อกันโดยคิดว่า “เด็กเก่ง จะเรียน จะแข่งขันอะไร ก็ย่อมชนะเลิศ เป็นธรรมดา” แต่สำหรับนายภูวพัศปัจจุบันเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์นับได้ว่าไม่ธรรมดา หลังจากจัดงานแข่งขันตอบปัญหาภาษาบาลี ปีที่ 2 สิ้นสุดลงไม่นาน ตนได้รับการแอดเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊กและส่งคำทักทายมาทางช่อง Messenger Chats ไม่ใช่ใครอื่น เด็กชายอัจฉริยะภาษาบาลี ทุกคำถาม เป็นเรื่อง “ภาษาบาลีสันสกฤต” ล้วน ๆ เมื่อ 2-3 ปีนั่นเอง

โดยข้อความที่สื่อสารกันนั้นความว่า “ผมถาม ‘โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ หนูไปเรียนบาลีสันสกฤตที่ไหน?’ คำตอบที่ได้ คือ ‘ผมอ่านเองครับ ศึกษาจากหนังสือตำราต่าง ๆ1 …… ไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ อ่านศึกษาบาลีสันสกฤตด้วยตนเอง แล้วมาแข่งขันตอบปัญหา ชนะเลิศ “PAT7.6 ภาษาบาลี’ เด็กคนนี้ มีบุญบารมีจริง ๆ

วันนี้ (16 พ.ย.) นายภูวพัศได้แวะมาที่บ้าน ขอหนังสือ”วุตโตทัยมัญชรี สุโพธาลังการมัญชรี และคัมภีร์สัททนีติ” โดยสั่งกำชับว่า “มีเวลาค่อยอ่านนะ ให้หนูเตรียมอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยก่อน” คำตอบที่ได้ยิ่งอัศจรรย์ “อาจารย์ไม่ต้องห่วงครับ มีหนังสือจากคณะแพทยศาสตร์ ระบุคุณสมบัติสามารถเข้าศึกษาและสามารถเป็นแพทย์ที่ดีในอนาคตได้ แต่ใจลึก ๆ ผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์”

นายภูวพัศได้เล่าว่า “……ซื้อหนังสือคัมภีร์บาลีสันสกฤตไว้หลายเล่ม อยากแปล อยากอ่าน เช่น สรัสวตีกัณฐาภรณ์ กาวยาทรรศะ กาวยประกาศ ตอนนี้เริ่มแปลคัมภีร์ปาณินิและกาตันตระบางส่วน บ้างแล้ว……” คิดในใจว่า” เป็นบุญของคุณพ่อคุณแม่ตระกูลเทียมจรรยา”

เข้าไปอ่านประวัติย่อ ๆ ของนายภูวพัศ เทียมจรรยา ต้องบอกว่า “นี่คือ อนาคตของชาติ” หากเรียนจบทำงานเป็นหลักฐานตามเจตนารมณ์บิดามารดา บวชทดแทนพระคุณศึกษาพระพุทธศาสนาจริงจัง “นี่คืออุบาสกแก้วกำลังพระศาสนาอย่างสิ้นสงสัย”

“ในบ้านเมืองเรา เด็กอัจฉริยะ มันสมองเป็นเลิศ มีจิตใจโน้มเอียงศึกษาเรื่องศาสนา มีอยู่มิใช่น้อยเลย (ที่คุยทักทายผมทาง Messenger อยู่ขณะนี้ มี 4-5 คน ภูวพัศ อยู่ใกล้สุด) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม่กองบาลี แม่กองธรรม มหาวิทยาลัยสงฆ์ จะมองเห็นหรือ เรามีทรัพยากรบุคคลอัจฉริยะทางศาสนารอการฟูมฟักส่งเสริมอยู่” กล่าวและว่า

หลักสูตรการเรียนบาลีสำหรับเด็กยุวชนของชาติที่จะเป็นกำลังของพระพุทธศาสนายุคนี้ จะเรียนสอนแบบเดิม ๆ ตามประเพณี คงยาก คติตนเรื่องแบบนี้ … ยิ่งช้า ยิ่งสูญเสีย…

ประวัติของนายภูวพัศ เทียมจรรยาดังนี้

การศึกษา

-ประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลนครสวรรค์

-มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนนครสวรรค์

-ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์

รางวัลที่เคยได้รับ

-รางวัลเหรียญทอง การประกวดโครงงานคุณธรรม ระดับชั้นม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือ ครั้งที่ 66

-รางวัลเหรียญเงิน การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นม.1-ม.3 งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนภาคเหนือ ครั้งที่ 67

-รางวัลชมเชย การแข่งขันเขียนตามคำบอก ในการแข่งขันทักษะภาษาไทย ตามโครงการรักษ์ภาษาไทย เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พ.ศ.2560

-รางวัลชมเชย วิชาคณิตศาสตร์ และรางวัลชมเชย วิชาวิทยาศาสตร์ โครงการประเมินและพัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (TEDET) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประจำปี พ.ศ. 2560

-รางวัลเหรียญทองแดง โครงการ “รางวัลนักคิดสิ่งประดิษฐ์รุ่นใหม่” ประจำปี 2561

-รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันตอบปัญหาความถนัดทางภาษาบาลี PAT 7.6 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โครงการ “เผยแพร่ธรรมะและเยาวชนสู่สังคม” ประจำปีงบประมาณ 2561 และ 2562

-รางวัลรองชนะเลิศเหรียญเงิน การแข่งขันภาษาไทยเพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 15 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

-รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันตอบปัญหาวิชาการ “ปุจฉา-วิสัชนา ปัญหาประวัติศาสตร์ ครั้งที่ 2” โครงการอักษราวิชาการ ประจำปี 2561 : 5 ทศวรรษ อักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

-รางวัลชมเชยการแข่งขันหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมเพชรยอดมงกุฎ ครั้งที่ 1 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6

-รางวัล Certificate of high distinction ในการแข่งขัน Australian National Chemistry Quiz 2018 (ANCQ 2018)

-รางวัลเหรียญทอง การแข่งขันเคมีโอลิมปิกระดับชาติ ครั้งที่ 15

Cr.เฟซบุ๊ก Wate Bunnakornkul

“AI กับพุทธธรรม” วิจัยสุดทันสมัย! คณาจารย์ “ม.สงฆ์ มมร”ทำ

People Unity :  “AI กับพุทธธรรม” วิจัยสุดทันสมัย! คณาจารย์ “ม.สงฆ์ มมร”ทำ “อุทิส ศิริวรรณ”เผย “พระพุทธเจ้าเป็นนักทรัพยากรมนุษย์ที่ทันสมัย”

วันที่ 20 ต.ค.2562 ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพุทธศาสนา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว” Uthit Siriwan” ความว่า “ประเด็นวิจัยทันสมัย AI กับพุทธธรรม? โดยคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร) ตลอดสัปดาห์ผมใช้เวลาค่อนข้างมากค้นคว้าและอ่าน “งานวิจัยทันสมัย” AI เป็นต้น เพื่อตอบ “ประเด็น” ที่คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธร สมุทรสาคร ทั้ง 3 ท่าน ช่วยกันทำวิจัย

งานวิจัยชุดโครงการนี้น่าสนใจ เพราะประเด็นวิจัยที่ตั้งขึ้นยกตัวอย่าง “ทฤษฎี 3 สมดุล (สมดุลผลิต สมดุลบริโภค สมดุลผลประโยชน์) ที่ส่งเสริมให้เกิดการสนับสนุนกันระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค” ข้อคำถามคือ “การสร้างและใช้งานหุ่นยนต์ของผู้ผลิตย่อมมีจุดมุ่งหมายอย่างเดียว คือ สนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพของผู้บริโภค” ประเด็นที่ผมต้องตอบคือ ท่านเห็นด้วย หรือมีข้อโต้แย้ง หรือมีข้อสนับสนุนต่อประเด็นเหล่านี้หรือไม่อย่างไร

ยกตัวอย่างคำถามวิจัย เป็นต้นว่า… 1) ในแผนประเทศไทย 4.0 ที่ยึดโยงอยู่กับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่เห็นว่าแรงงานมนุษย์เป็นต้นทุนในการผลิตอย่างหนึ่ง การบริหารจัดการกิจการให้ได้กำไรมากที่สุดวิธีการหนึ่ง ก็คือ การลดต้นทุนการผลิตและบริหารจัดการ การจ้างงานมนุษย์ก็อยู่ในขอบเขตนี้ด้วย 2) เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ยิ่งก้าวหน้ามากขึ้นเท่าใด ก็จะทำให้ผู้ประกอบการใช้หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ แทนแรงงานมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น รออีกสัก 1 ปี คงได้คำตอบจาก “ผู้ทรงคุณวุฒิ” ที่หลากหลายวงการ ผมเองก็มี “ประเด็น” ที่จะอภิปราย….

ผมคิดอะไร? คิดว่าโลกในยุคเปลี่ยนผ่านพุทธศาสนาใช้ “ตอบ” โจทย์วิจัยประเด็นปัญหาชาวโลกในยุคดิจิทัลได้เพราะจะว่าไปแล้ว “พระพุทธเจ้า” เน้นให้ใช้แรงงานคนน้อย แต่ทำแล้วได้ผลงานมากอยู่แล้ว ยกตัวอย่างให้พระจาริกไปรูปเดียว และให้ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า โดยเฉพาะเพื่อ “ประโยชน์” “เกื้อกูล” และ “ความสุข” บอกตรง ผมว่า “พระพุทธเจ้า” เป็น “นักทรัพยากรมนุษย์” ที่ทันสมัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.ดร.อุทิส ศิริวรรณได้ติดตามพัฒนาการของเทคโนโลยีขึ้นสูงและแสดงความเห็นที่สัมพันธ์กับพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นให้คณะสงฆ์เห็นความสำคัญ อย่างเช่นได้นำเสนอล่าสุดเรื่อง “การศึกษา’อุทิส ศิริวรรณ’นักวิชาการด้านพุทธศาสนา แนะใช้ ‘AI-IoT’ต่อยอดบาลีพุทธศาสตร์ศึกษาระดับป.เอก https://www.banmuang.co.th/news/education/163540)

คลอดแล้ว!งบกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัย-สร้างสรรค์ปี 61 เปิดรับขอทุนรอบแรก ม.ค.61

People unity news online : พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ครั้งที่ 7/2560 ณ ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนงบประมาณประจำปี 2561 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

แผนงบประมาณประจำปี 2561 จำนวน 1,048,738,000 บาท ได้กำหนดกรอบการจัดสรรเพื่อการขับเคลื่อนการทำงานของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การสนับสนุนและการให้ทุนจากกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกองทุน จำนวน 917,440,000 บาท ส่วนที่ 2 การดำเนินโครงการเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ โดยสำนักงานกองทุน (ภายใต้แผนงาน/โครงการ ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กสทช. ในปี พ.ศ.2560 จำนวน 3 แผนงาน 7 โครงการ) จำนวน 26,500,000 บาท และส่วนที่ 3 การดำเนินงานตามภารกิจปกติ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของกองทุน สร้างระบบและความเข้มแข็งขององค์กร (การสื่อสารเพื่อขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์สู่สังคม และการสนับสนุนดำเนินตามภารกิจปกติของกองทุน) จำนวน 104,798,000 บาท

พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า การสนับสนุนและการให้ทุนประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 จะดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนกองทุนฯทั้งสามด้าน ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การส่งเสริมและสนับสนุนภาคีเครือข่ายในการผลิต พัฒนาและเผยแพร่สื่อปลอดภัยและและสร้างสรรค์ ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างองค์ความรู้ให้ประชาชนใช้สื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ และยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาและส่งเสริมกลไกให้เกิดการรู้เท่าทัน และเฝ้าระวังสื่อไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ รวมจำนวน 885,000,000 บาท

ในปีงบประมาณ พ.ศ.2561 จำแนกการให้ทุนเป็น 2 ประเภทคือ แบบเปิดทั่วไป (Open Grant) และแบบให้ทุนสนับสนุนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Grant) โดยจะมีการเปิดให้ทุนจำนวน 2 รอบ รอบที่ 1 จะเปิดให้ทุนประมาณเดือนมกราคม 2561 ส่วนรอบที่ 2 จะเปิดให้ทุนประมาณเดือนมิถุนายน 2561

People unity news online : post 22 พฤศจิกายน 2560 เวลา 17.15 น.

นายกฯชื่นชมแคมเปญ Friend of sacit สร้างกระแส Gen Z ใส่ผ้าไทย

People Unity News : 6 พฤศจิกายน 2565 นายกฯ ชื่นชมแคมเปญ Friend of sacit สร้างกระแสวัยรุ่น Gen Z ใส่ชุดผ้าไทย ด้านศิลปิน ดารา คนดัง ร่วมเป็นต้นแบบใช้งานคราฟต์สร้างมูลค่าเพิ่ม หัตถกรรมไทยให้โกอินเตอร์

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ชื่นชมแคมเปญ Friend of sacit ของสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ที่มีออกกิจกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานหัตถกรรมไทยด้านต่างๆ ให้ทันสมัยเป็นที่สนใจของคนไทยและต่างชาติ เช่น ล่าสุดได้ชวนคนรุ่นใหม่แสดงพลังต้นแบบการใช้ผ้าไทยในกิจกรรม “แปลงโฉมวัยรุ่น Gen Z ด้วยผ้าไทย” ที่ให้วัยรุ่นมาสวมใส่ชุดผ้าไทยที่มีเสน่ห์แตกต่างกันตามภูมิภาค เพื่อสร้างกระแสการสวมใส่ผ้าไทยในหมู่เยาวชน เป็น Soft Power ที่จะส่งผลบวกทั้งด้านวัฒนธรรม สังคมและเศรษฐกิจ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้แคมเปญ Friend of sacit ได้เชิญศิลปิน ดารา นักแสดง เซเลบริตี้คนดัง และผู้ที่อยู่ในแวดวงงานคราฟต์ มาเป็นต้นแบบเพื่อสื่อสารในภาพลักษณ์ของงานหัตถศิลป์ไทยในผลงานต่างๆ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า ของใช้ส่วนตัว ที่มีความสวยงาม ทันสมัย สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไป สะท้อนพลังสร้างสรรค์ของงานศิลปหัตถกรรมที่สามารถออกแบบให้มีความเป็นสากลแต่ยังคงสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้อย่างโดดเด่นได้

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับนโยบายการสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งประเทศไทยไทยมีจุดเด่นและความพร้อมด้านทุนวัฒนธรรมต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจ ซึ่งการผลักดัน Soft Power ไทยด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรม จะเป็นการต่อยอดสร้างสรรค์สินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง พัฒนาประเทศ ทั้งในมิติสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความมั่นคง และการสร้างเกียรติภูมิ ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในเวทีโลก

Advertisement

เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชปี 2518 พระอาจารย์ฝั้น-หลวงปู่ทิมปลุกเสก

People Unity News : เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชปี 2518 พระอาจารย์ฝั้น-หลวงปู่ทิมปลุกเสก จัดสร้างโดย ค่ายตากสินมหาราช จ.จันทบุรี

เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างโดย ค่ายตากสินมหาราช จ.จันทบุรี มี 4 เนื้อ คือ 1.เนื้อทองคำ 49 เหรียญ ไม่ตอกโค้ดทั้งหน้าและหลัง 2.เนื้อนวโลหะ 1,000 เหรียญ ตอกโค้ด “ตส” ข้างบนด้านซ้ายของพระมาลา ด้านหน้าของเหรียญ 3.เนื้อทองแดงชุบนิเกิ้ล 310 เหรียญ (แจกกรรมการ) ตอกโค้ด “ตส” ด้านหลังของเหรียญ และ 4.เนื้อทองแดงรมดำ 30,000 เหรียญ ตอกโค้ด “ตส” ด้านหน้าของเหรียญ ใต้พระแสงดาบด้านขวาของพระองค์ท่าน

เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปี 2518 เนื้อนวโลหะ มีพิธีปลุกเสก 3 ครั้ง ครั้งแรกโดย พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร ปลุกเสกเดี่ยว 1 ไตรมาส ปี 2518 ครั้งที่ 2 โดย หลวงปู่ทิม อิสริโก ปลุกเสกเดี่ยว 7 วัน ระหว่างวันที่ 1-7 กันยายน 2518

หลวงปู่ทิมบอกว่า “เหรียญนี้ดีทางคุ้มครองป้องกันโจรผู้ร้าย และป้องกันเสนียดจัญไร ไม่ให้เข้ามาทำร้ายได้ และรักษาบ้านเรือนให้อยู่เย็นเป็นสุข”

ครั้งที่ 3 พิธีใหญ่ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2518 ณ ค่ายตากสิน จ.จันทบุรี ช่างแกะแม่พิมพ์ ช่างเกษม มงคลเจริญ ผู้จัดสร้าง น.อ.พิสัย ปานใจ

เมื่อแกะแม่พิมพ์เสร็จแล้ว ได้นำแม่พิมพ์ไปขอบารมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังปลุกเสก ตั้งแต่ภาคเหนือไล่ลงมาถึงภาคกลาง อาทิ หลวงปู่แหวน พระอาจารย์ฝั้นปลุกเสกที่วัด 3 เดือน หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส ปลุกเสกที่วัดอีกเป็นเดือน พิธีใหญ่ วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2518 ได้อัญเชิญ พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่ทั่วเมืองจันทบุรี

หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส เดินนำหน้า ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก จนแน่นเต็มท้องถนน จากนั้นได้มีพิธีสมโภชเป็นพิเศษ ณ ค่ายตากสิน จ.จันทบุรี โดยมี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ร่วมด้วยพระคณาจารย์สายภาคตะวันออก และสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ร่วมพิธีกว่า 50 รูป นั่งปรกปลุกเสกตลอดทั้งคืน

สนนราคาเช่าหา เหรียญทองคำ ไม่มีข้อมูล เนื่องจากไม่เคยมีการซื้อขายมาก่อน เนื้อทองแดง ชุบนิกเกิ้ล (แจกกรรมการ) สนนราคาอยู่ที่ 1.5 แสนบาท แต่ไม่มีเหรียญหมุนเวียน จะมีก็แต่เหรียญทองแดงที่มีผู้เอาไปชุบใหม่ ออกมาซื้อขายกันทั่วไป

ท่านที่สนใจเหรียญเนื้อนี้จึงต้องตรวจสอบให้ดีๆ เสียก่อน ส่วนเหรียญเนื้อนวโลหะ ราคาหลักแสนต้น ขึ้นกับสภาพเหรียญ และเหรียญเนื้อทองแดง แยกออกเป็นหลายพิมพ์ แต่จะพูดถึงเหรียญสภาพสวย บล็อกทองคำ สนนราคาอยู่ที่ 4-5 หมื่นบาทขึ้นไป

บล็อกสระ “า” แตก ๓-๔ หมื่นบาทขึ้นไป, บล็อก “น” แตก ๒-๓ หมื่นบาทขึ้นไป และบล็อกแขนแตก ๒ หมื่นบาทบวกลบ

เนื่องจากทุกวันนี้ เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รับความนิยมสูง จึงมี เหรียญปลอม ทำออกมาหลายฝีมือด้วยกัน ผู้สนใจจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ขอบคุณภาพจาก “ตั้มแปดริ้ว” เจ้ากรมพระหลวงปู่ทิมตัวจริง https://www.facebook.com/profile.php?id=100038282315603

เตือนภัยผู้ใช้แอปฯ หาคู่ เสี่ยงตกเป็นเหยื่อหลายรูปแบบ

People Unity News : 14 ตุลาคม 2565 เตือนภัยผู้ใช้แอปฯ หาคู่ ระมัดระวังการคบหาบุคคลบนโลกออนไลน์ เสี่ยงตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ อาชญากรรมหลายรูปแบบ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันได้ปรากฏกรณีการใช้แอปพลิเคชันหาคู่เป็นช่องทางในการก่ออาชญากรรมโดยต่อเนื่อง เช่นล่าสุดได้ปรากฏว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับคดีทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ได้ใช้แอปพลิเคชันหาคู่หลอกลวงเหยื่ออีกรายและมีการกักขัง ทำร้ายร่างกาย แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือออกมาได้และจับกุมผู้กระทำผิดได้

ดังนี้ จึงขอเตือนให้ประชาชนที่มีการใช้แอปพลิเคชัน หรือโซเชียลมีเดียทุกช่องทางในการหาคู่ ให้ใช้ความระมัดระวังในการคบหาผู้ที่พบกันในช่องทางดังกล่าวอย่างรอบคอบ เนื่องจากมีมิจฉาชีพ และอาชญากรรูปหลากหลายรูปแบบแอบแฝงอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงไปทำร้ายร่างกาย หลอกลวงเพื่อมีเพศสัมพันธ์แล้วถ่ายคลิปเพื่อนำไปแบลคเมลเรียกเงินจากเหยื่อ

อย่างไรก็ตาม กรณีที่พบมากคือกลุ่มโรแมนซ์สแกม ทั้งที่เป็นคนไทยและต่างชาติ ที่จะเข้ามาหาเหยื่อในลักษณะตีสนิท พูดคุยคบหาเป็นคนรัก จากนั้นจะสร้างเรื่องราวต่างๆ เพื่อหลอกลวงให้มีการโอนเงินให้กลุ่มคนร้าย หรือบางกรณีหลอกลวงใช้เหยื่อเป็นเครื่องมือในการกระทำผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย

“ปัจจุบันแอปพลิเคชันหรือโซเชียลมีเดียเพื่อการหาคู่ได้รับความนิยมมากของคนทุกวัย เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อหาคู่ได้ทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่ความนิยมดังกล่าวก็เป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพ อาชญากรไซเบอร์เข้ามาใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงเหยื่อด้วยรูปแบบต่างๆ จึงขอเตือนให้ผู้ใช้บริการใช้ความระมัดวัง อย่าหลงเชื่อผู้ที่พบกันในโซเชียลมีเดียโดยง่าย ขอให้ตรวจสอบประวัติบุคคลที่จะคบหาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะที่เข้ามายืมเงินและให้โอนเงินไม่ว่าจะด้วยเหตุใดอย่าโอนเด็ดขาดให้สันนิษฐานก่อนว่าเป็นคนร้ายที่เข้ามาหลอกลวง” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับแจ้งเหตุอาชญากรรมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและมีการออกข่าวสารเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับแนะนำแนวทางป้องกันการถูกหลอกลวงจากใช้แอปพลิเคชันหาคู่ ดังนี้ 1)ระมัดระวังในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ไม่บอกข้อมูลทั้งหมดกับคนที่เพิ่งรู้จัก 2) ไม่หลงเชื่อ หรือไว้ใจบุคคลใดโดยง่าย หากมีความจำเป็นต้องนัดเจอควรมีเพื่อนหรือผู้ปกครองไปด้วย 3) ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หรือโทรศัพท์มือถือเพียงลำพัง ควรพูดคุยทำความเข้าใจถึงขอบเขตการใช้งานว่าแอปพลิเคชันไหนใช้ได้บ้างหรือแอปพลิเคชันใดควรหลีกเลี่ยง 4) อะไรที่ดีเกินไป เร็วเกินไปให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจจะดีเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยง่ายผ่านสื่อสังคมออนไลน์

ทั้งนี้ หากผู้ใช้แอปพลิเคชันหาคู่หรือโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ พบเบาะแสการกระทำผิดไม่ว่าจะรูปแบบใด ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือ และดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามขั้นตอนกฎหมาย โดยสามารถแจ้งได้ทั้งสายด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 หรือ สายด่วน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

ขีดเส้น 31 มี.ค. หน่วยงานรัฐ-เอกชนต้องจ้างคนพิการทำงาน

People unity news online : เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยเฉพาะเรื่องการจ้างงานให้คนพิการมีโอกาสประกอบอาชีพสร้างรายได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกับคนอื่น ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

“ในปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าส่งเสริมให้คนพิการได้ประกอบอาชีพเพิ่มขึ้นอีก 10,000 คน จากเมื่อปีที่แล้วคนพิการวัยทำงานมีงานทำแล้ว 192,393 คน จากทั้งหมด 799,342 คน โดยจะรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายการจ้างงานคนพิการอย่างจริงจัง เพื่อให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันสนับสนุนการสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ

ทั้งนี้ แต่ละหน่วยงานมี 3 ทางเลือก ได้แก่ 1) จ้างงานคนพิการในสัดส่วนลูกจ้างคนพิการ 1 คน ต่อลูกจ้าง 100 คน หรือ 2) ส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ หรือ 3) ให้สัมปทานแก่คนพิการเข้าไปขายสินค้าและบริการในพื้นที่ของหน่วยงานได้ โดยทางเลือกที่ 3 นี้ ขอให้หน่วยงานหรือองค์กรแจ้งความจำนงกับทางราชการเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลไว้ โดยหากอยู่ในเขต กทม.ให้แจ้งต่อกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ส่วนในภูมิภาคแจ้งที่ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ภายใน 31 มี.ค.60 นี้”

สำหรับคนพิการที่กำลังมองหางานสามารถดูข้อมูลหน่วยงานที่เปิดรับสมัครงาน หรือหน่วยงานที่เปิดพื้นที่ให้คนพิการเข้าไปประกอบอาชีพได้ที่ www.ตลาดงานคนพิการ.com และหากต้องการร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือเรื่องการจ้างงานสามารถติดต่อศูนย์บริการคนพิการ โทร.0 2354 4542 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694

“ท่านนายกฯ เน้นย้ำให้หน่วยงานของรัฐไปสำรวจว่าพื้นที่ของตนได้ปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่คนพิการเพียงพอแล้วหรือยัง เช่น ทางเดิน ทางขึ้นอาคาร ห้องน้ำ ลานจอดรถ ฯลฯ ส่วนสถานที่สาธารณะ แหล่งท่องเที่ยวให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการในลักษณะเดียวกัน เพื่อส่งเสริมให้คนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีเช่นเดียวกับคนปกติทั่วไป”

People unity news online : post 27 มีนาคม 2560 เวลา 09.55 น.

“ชาญกฤช” เผย จะเปิดลงทะเบียนขายสลากดิจิทัล เพิ่มเร็วๆนี้ แย้ม! เตรียมคลอดหวย 2 ตัว 3 ตัว ขายบนมือถือ!!!  

People Unity News : 7 มิถุนายน 2565 นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาที่กำหนด กล่าวขอบคุณประชาชนที่ให้การตอบรับสลากดิจิทัล 80 บาทเป็นอย่างดี จนทำให้สลากฯ กว่า 5 ล้านใบสามารถจำหน่ายหมดได้ภายใน 4 วัน  ส่วนกระแสเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลให้เกิน 5 ล้านใบนั้น เบื้องต้นการจำหน่ายสลากงวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 และวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ยังคงยอดเปิดขายในจำนวนเท่าเดิมก่อน จากนั้นจะนำผลการจัดจำหน่ายในแต่ละงวดมาวิเคราะห์หาจำนวนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจำนวนสลากฯ ที่จำหน่ายในแต่ละงวดว่าสามารถจำหน่ายออกไปได้หมดหรือไม่ เพื่อไม่ให้ตัวแทนจำหน่ายขาดทุน เพราะแม้กระแสตอบรับจะดี แต่เห็นว่างวดแรกยังไม่สามารถประเมินอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องปกติของพฤติกรรมผู้ซื้อที่มักจะตื่นเต้นกับสินค้าใหม่  นอกจากนี้ ยังจะพิจารณาการพัฒนาระบบด้วยการปรับเพิ่มฟีเจอร์กว่า 10 รายการ อาทิ ระบบการลดราคาของตัวแทนให้กับลูกค้า, การค้นหาตัวแทนเฉพาะกลุ่ม เช่น คนพิการ สมาคม รวมถึงฟีเจอร์เลขชุดที่จะค้นหาได้ง่ายขึ้น ตลอดจนเพิ่มทางเลือกการผูกบัญชีกับธนาคารอื่นนอกเหนือจากธนาคารกรุงไทย

“อยากฝากเชิญชวนไปยังตัวแทนจำหน่ายที่ยังไม่เข้าร่วมโครงการสลากดิจิทัลได้ติดตามข่าวสารจากกองสลากฯ อย่างต่อเนื่อง เพราะคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีการเปิดรับลงทะเบียนเพิ่มเติม” นายชาญกฤชกล่าว

นายชาญกฤช ย้ำว่า โครงการจำหน่ายสลากดิจิทัลเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำนักงานสลากฯ นำมาแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาในระยะสั้น โดยที่ประชาชนยังสามารถซื้อสลากใบละ 80 จากจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ที่กระจายอยู่ 362 จุดได้ด้วย และภายในเดือนกรกฎาคมนี้ จะเพิ่มจุดจำหน่าย ถึง 1,000 จุดทั่วประเทศไทย รวมถึงโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อจองล่วงหน้า ที่จะเพิ่มจำนวนจาก 130,000 ราย เป็น 200,000 ราย ยืนยันว่าสลากใบยังคงมีอยู่ ไม่ได้หายไป แต่การเปิดขายสลากดิจิทัลราคา 80 บาท เพื่อแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ทำให้ประชาชนสามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้จริง และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ซื้อสลาก

นายชาญกฤช ยังเปิดเผยถึงมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะกลางถึงระยะยาวด้วยว่า ภายในปีนี้จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาจำหน่ายในรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก ซึ่งจะคล้ายกันกับสลากปัจจุบัน  และสลากตัวเลข 3 หลัก ซึ่งจะคล้ายกันกับหวยใต้ดิน 2 ตัว 3 ตัว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเซ็นสัญญากับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

“การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ประเภทของสลากที่จำหน่ายมีความหลากหลาย ไม่ใช่การมอมเมาประชาชน แต่เป็นการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ปัญหาหวยเถื่อน ซึ่งดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการจำกัดอายุของผู้ซื้อต้องไม่เกิน 20 ปี เพื่อป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน การห้ามจำหน่ายในโรงเรียน” นายชาญกฤชกล่าว

Advertisement

ปตท. ร่วมแก้วิกฤตฝุ่น PM 2.5 ให้พนักงาน Work from Home ลดการสัญจร

People Unity News : 3 กุมภาพันธ์ 2566 ปตท. ให้พนักงานที่ปฏิบัติงานในกรุงเทพฯ และอีก 6 จังหวัดปฏิบัติงานในที่พักระหว่างวันที่ 3 – 5 กุมภาพันธ์เพื่อร่วมลดฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดจากการสัญจร

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)  กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด ทำให้ฝุ่นละอองสะสมตัวมากขึ้น และส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานของคนไทย เราตระหนักถึงปัญหาจึงมีนโยบายให้พนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา ระยอง ราชบุรี และขอนแก่น ปฏิบัติงานในที่พัก (Work from Home) ระหว่างวันที่ 3 – 5 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อร่วมลดผลกระทบที่เกิดจากการสัญจร

ทั้งนี้ ปตท. ยึดมั่นดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชม และสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) ซึ่งเร็วกว่าที่ประเทศกำหนด ด้วยกลยุทธ์เชิงรุก “ปรับ เปลี่ยน ปลูก” ปรับกระบวนการผลิต ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการให้ได้สูงสุด เปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มสัดส่วนการลงทุนโดยมุ่งธุรกิจพลังงานสะอาด อาทิ พลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงาน และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ปลูกป่าเพิ่ม 2 ล้านไร่ โดย ปตท. เป็นแกนหลักในการปลูก 1 ล้านไร่ ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) และกลุ่ม ปตท. อีก 1 ล้านไร่ เพื่อเพิ่มปริมาณการดูดซับก๊าซเรือนกระจกจากชั้นบรรยากาศด้วยวิธีทางธรรมชาติ

ปตท. พร้อมดำเนินการในทุกมิติเพื่อเป็นส่วนหนี่งในการช่วยลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ และจะอยู่เคียงข้างคนไทยเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างมั่นคงและยั่งยืน

Advertisement

Verified by ExactMetrics