วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

“อนุทิน”เดือดลั่น”หยาบช้าป่าเถื่อน” สั่งฟ้องแก็งค์อันธพาลตีกันใน ร.พ.

People Unity News : “อนุทิน”วอนสังคมจัดหนัก “แก็งค์อันธพาลตีกันใน ร.พ.” ชี้ เป็นการกระทำ “หยาบช้าป่าเถื่อน” พร้อมสั่ง สธ.ลุยดำเนินคดี

วันที่ 11 พ.ย.2562 จากกรณีที่ กลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกันถึงหน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอ่างทอง เมื่อกลางดึกวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์เฟซบุ๊ค “อนุทิน ชาญวีรกูล” ขอให้ทุกภาคส่วน ช่วยกันป้องกันปัญหาการทะเลาะวิวาทภายในโรงพยายาลอย่างเด็ดขาด พร้อมเปิดเผยว่าจะให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้งหมด นายอนุทิน ระบุว่า

“ช่วยกันจัดให้หนัก
……….
เราควรจะทำอย่างไร ?
กับอันธพาลกระจอก ที่ชอบยกพวกมาก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาล

กี่ครั้งแล้ว ที่ห้องฉุกเฉิน และโรงพยาบาล ต้องเสียหาย
แพทย์ เจ้าหน้าที่ ต้องเสี่ยงบาดเจ็บ ทำงานไม่ได้ ทรัพย์สินโรงพยาบาล เครื่องมือแพทย์ เสียหาย ผู้ป่วยคนอื่นๆ เดือดร้อน

ขอแบบเอาให้เข็ดหลาบ ไม่แสดงสันดานหยาบช้าป่าเถื่อนแบบนี้อีก

ในสงคราม ยังเว้นพื้นที่ปลอดภัยให้โรงพยาบาล แพทย์ และ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

แต่ในหัวใจอันธพาลกระจอกพวกนี้ ไม่มีอะไรเลย รวมทั้งคำสอนของพ่อแม่ แย่จริงๆ

กระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างเลวร้าย อีกต่อไป

https://tna.mcot.net/view/5dc8070be3f8e40b313b27b7

#saveโรงพยาบาล
#saveผู้ป่วย”

“วราวุธ”ขอคนไทยร่วมมือ 1 ครอบครัว ลอย 1 กระทงวัสดุธรรมชาติ

People Unity News : “วราวุธ”ปลุกคนไทยร่วมรณรงค์ใช้กระทงวัสดุธรรมชาติ ลดปัญหาขยะในแม่น้ำรักษาสิ่งแวดล้อม

วันที่ 11 พ.ย.2562 เมื่อเวลา 08.30 น. ที่โรงยิมเนเซี่ยม องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงการรณรงค์ใช้กระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติว่า วันนี้ต้องขอความร่วมมือร่วมใจทุกคนให้ใช้กระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ และขอให้ใช้เพียงกระทงเดียวต่อครอบครัว เพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมและทำให้แม่น้ำมีความสะอาด เพราะทุกปีภายหลังจากการลอยกระทงตอนเช้าจะมีขยะเต็มแม่น้ำ จึงต้องขอความเห็นใจจากทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาคุณภาพน้ำในแม่น้ำลำคลอง เพื่อให้ทุกคนได้มีแม่น้ำที่ใสสะอาดสำหรับบุตรหลานในอนาคต

นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า ถึงแม้ว่าหลายคนจะใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติหรือกระทงจากขนมปังที่จะเป็นอาหารให้ปลา แต่อะไรก็แล้วแต่ที่มากจนเกินพอดีแม่น้ำลำคลองก็ไม่สามารถที่จะรับไหว และทำให้แม่น้ำเน่าเสียได้ วันนี้วันลอยกระทงเชื่อว่าทุกคนอยากลอยความทุกข์ออกไป จึงอยากให้นึกถึงเรื่องเหล่านี้ ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมและไม่สร้างภาระให้คนที่จะต้องมาเก็บ

เมื่อถามว่าที่ผ่านมาทำความเข้าใจกับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน นายวราวุธกล่าวว่า ประชาชนตอบรับดีแต่จะได้ผลแค่ไหน โดยดูจากปริมาณขยะของกระทงจะเป็นตัวชี้วัด และหากปีนี้ไม่สำเร็จปีหน้าก็จะรณรงค์กันใหม่เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่หน้าที่ของรัฐมนตรีหรือรัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นบทบาทของประชาชนทั้ง 67 ล้านคนต้องช่วยกัน

เมื่อถามว่าประเมินปีนี้กับปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับการรณรงค์ใช้วัสดุธรรมชาติเป็นอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า เชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นขนมปังหรือต้นกล้วย ใบตอง แต่อย่างที่บอกไปไม่ว่าจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแค่ไหนหากมากเกินไปก็จะเป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมอยู่ดี

“ดร.วันดี กุญชรยงคง จุลเจริญ” รับโล่รางวัลศิษย์เก่าเกียรติยศประจำปี 2562

People Unity News : สมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทาฯ มอบโล่รางวัลให้ “ดร.วันดี กุญชรยงคง จุลเจริญ” ศิษย์เก่าเกียรติยศประจำปี 2562 จากสารพัดผลงานที่เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 สมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดย ดร.ชยภรณ์ ธนาบริบูรณ์ นายกสมาคมฯ ได้จัดพิธิมอบโล่รางวัลให้ศิษย์เก่าเกียรติยศ และศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2562 จำนวน 11 คน โดยมี ดร.วันดี กุญชรยงคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และประธานชมรมแม่บ้านกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยได้เข้ารับรางวัลในฐานะศิษย์เก่าเกียรติยศ ประจำปี 2562 เพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ ส่วนอีก 10 คนได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2562 ณ สมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทา

ดร.ชยภรณ์ ธนาบริบูรณ์ นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในรอบปีที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมจำนวนมากโดยได้รับความร่วมมือร่วมใจจากศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันเป็นอย่างดี สำหรับ การจัดพิธิมอบโล่รางวัลให้ศิษย์เก่าเกียรติยศ และศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2562 ในครั้งนี้ก็เพื่อเชิดชูศิษย์เก่าที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคมจนเป็นที่ประจักษ์ และต้องการให้มีกำลังใจในการทำงานเพื่อสังคมและเพื่อชื่อเสียงของสมาคมฯ ต่อไป

สำหรับ ดร.วันดี กุญชรยงคง จุลเจริญ ถือเป็นบุคคลที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ทางสังคมและสาธารณะประโยชน์ โดยเฉพาะบทบาทในฐานะประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมรมราชินูปถัมภ์ ได้มีผลการดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและสนองพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ การส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรสตรีทั่วประเทศ การเชิดชู ส่งเสริม สนับสนุน วันสตรีไทยในทุกปี มีการคัดเลือกสตรีไทยดีเด่น และเยาวสตรีไทยดีเด่น

นอกจากนั้น ยังร่วมมือและประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อสตรีและสังคม โดยเฉพาะร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการขับเคลื่อนงานสตรี การจัดกิจกรรมยกระดับความเป็นอยู่ สถานภาพและสมรรถภาพของสตรีไทย เช่น โครงการตามรอยผ้าไทยลมหายใจแม่ของแผ่นดินสัญจร 4 ภาค

สำหรับ บทบาทที่สำคัญอีกประการคือ เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายรณรงค์หาทุนการศึกษามูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดหารายได้พัฒนาเยาวชนโดยให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนผู้ด้อยโอกาสทุกอำเภอ ทุกสังกัดทุกระดับการศึกษาทั่วประเทศปละละประมาณ 3,000 ทุน เป็นเงินปีละประมาณ 10 ล้านบาท ด้วยคุณสมบัติที่แสดงถึงความรู้ ความสามารถและคุณธรรม ตลอดจนประสบความสำเร็จในการประกอบสัมมาอาชีพ และปฎิบัติตนเป็นแบบอย่างแก่เยาวชนของชาติและบุคคลทั่วไป จึงถือเป็นศิษย์เก่าเกียรติยศที่ทำประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติเป็นที่ประจักษ์

MOUประวัติศาสตร์! “มจร-ม.พุทธรามัญรัฐ” ร่วมมือจัดการศึกษาพุทธ”ไทย-มอญ”

People Unity News : MOUประวัติศาสตร์! “มจร-ม.พุทธรามัญรัฐ” ร่วมมือจัดการศึกษาพุทธ”ไทย-มอญ” หวังพัฒนาให้สอดรับกับโลกสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยเทคโนโลยีทางการศึกษา ชาวพุทธมอญกว่า 1,000 ร่วมเป็นสักขีพยาน

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนารามัญรัฐ เมืองเมาะลำเลิง รัฐมอญ ประเทศเมียนมา ชาวพุทธมอญทั้งพระสงฆ์และญาติโยมกว่า 1,000 รูปคน นำโดยพระภัททันตะวันนามหาเถระ ประมุขสงฆ์มอญ ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือระหว่างวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร และมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนารามัญรัฐ

พระมหาหรรษา กล่าวว่า สาระสำคัญหลักในการลงนามความมือครั้งนี้เน้นจับมือสืบสาน รักษา และต่อยอดการศึกษา และวิจัยเชิงลึกเกี่ยวพระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ การร่วมมือพัฒนาการศึกษาพระพุทธศาสนาที่สอดรับกับโลกสมัยใหม่ที่เปลี้ยนแปลงไป การร่วมมือพัฒนาพระภิกษุสามเณรและเยาวชนรุ่นใหม่ รวมถึงผู้สูงอายุ อีกทั้งการแลกเปลี่ยนคณาจารย์ นิสิต และเทคโนโลยีทางการศึกษา

ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร กล่าวอีกว่า รัฐมอญหรือเมืองหงสาวดี เคยเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา ศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรมที่ดีงามมาก่อน ชนชั้นนำในพื้นต่างๆ ทั้งเชียงใหม่ และเมืองใกล้เคียงมักจะส่งบุญหลานมาศึกษาหาความรู้แล้วนำกลับไปพัฒนาบ้านเมืองของตนเอง แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไป แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย ยังคงปรากฏให้เห็นในพื้นที่ต่างๆ การกระตุ้นและส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนารามัญรัฐใช้ระบบการศึกษายุคใหม่เข้ามาช่วยพัฒนา จะทำให้พระพุทธศาสนาเข้มแข็ง และสังคมสันติสุข ประชาชนมีสัมมาชีพพึ่งพาตัวเองได้อย้างยั่งยืน

พระภัททันตะวันนามหาเถระ กล่าวสัมโมทนียกถาว่า การลงนามความร่วมมือกันครั้งนี้มีพุทธศาสนิกชนชาวมอญตื่นตัว และให้ความสนใจเป็นอย่างมาก นับเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่มีการลงนามความร่วมมืออย่างเป็นทางการเช่นนี้ ไทยและมอญอาจจะต่างกันทางภาษาและวัฒนธรรม แต่สิ่งหนึ่งที่เรามีเหมือนกัน คือ เราเป็นลูกหลานของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน การจับมือกันนำพระพุทธศาสนามาเป็นรากฐานในการพัฒนาจะยิ่งช่วยให้พระพุทธศาสนาตอบโจทย์ชีวิตและสังคมในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงนามครั้งนี้ ได้มีการจัดสัมมนาทางวิชาการระดับนานาชาติ เรื่อง “พระพุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ” โดยมีนักวิชาการจากประเทศต่างๆ มาร่วมสัมมนา และนำเสนอประวัติ ความเป็นมา และเสนอแนะแนวทางในการสืบสาน รักษา และต่อยอดการพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานร่วมกันด้วย

ไม่ลืมกัน! “อนุทิน”เร่งเครื่องลุยเดินหน้าบรรจุ ขรก.สธ.

People Unity News : ไม่ลืมกัน! “อนุทิน”เร่งเครื่องลุยเดินหน้าบรรจุ ขรก.สธ. วอนเสียงบ่นรอนาน ขอวิงวอนให้ย้อนมองภาครัฐให้บริการอย่างมีมาตรฐานหรือไม่ จะพบทำตามมาตรฐานสากล

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 ที่การประชุมวิชาการแพทยสภา ประจำปี 2562 พิธีมอบเกียรติบัตร เข็มเกียรติคุณ โล่เกียรติคุณ นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 7 (ปธพ.7) ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวปาฐกถาใจความตอนหนึ่งว่า ระบบการให้บริการด้านสาธารณสุขของไทย นับว่ามีคุณภาพเป็นที่เชิดหน้าชูตา เพราะมีการวางรากฐานมาอย่างดี มีประเทศไหนในโลกที่องค์พระประมุข สละทรัพย์ส่วนพระองค์มาดูแลระบบการให้บริการด้านสาธารณสุข นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราก้าวหน้าในเรื่องนี้ ไม่ต้องอายชาติไหน

และต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่ไม่ใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลของรัฐ แต่เลือกจ่ายค่าบริการส่วนตัว เพราะการเสียสละของท่าน ทำให้รัฐมีเงิน ไปใช้จ่ายกับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ ซึ่งถ้าหากทุกคนในประเทศ ใช้สวัสดิการรัฐกันหมด รับรองว่างบแค่ไหน ก็ไม่มีทางพอ

ที่ผ่านมามีเสียงบ่น รอนาน โรงพยาบาลแออัด ตนเข้าใจทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ขอวิงวอนให้ย้อนมองว่าภาครัฐให้บริการอย่างมีมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งคำตอบคือ เราทำตามมาตรฐานสากล และไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะเป็นชาวต่างชาติ เราก็รักษา แม้จะยอมขาดทุนบ้างก็ตาม วันนี้รัฐมนตรีกับกระทรวงสาธารณสุขลงเรือลำเดียวกัน และเราไม่ก้าวก่ายการทำงาน กลับกันยังพร้อมช่วยเหลือกันและกัน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า องค์การเภสัชกรรมถูกตั้งคำถามเยอะ ว่าไปวิจัยยา ผลิตยาทำไม ซื้อของเอกชน ถูกกว่า ง่ายกว่า แต่อยากให้มองว่า ถ้าเกิดมีวิกฤติโรคระบาดจนขาดแคลนยา หากประเทศไทย สามารถผลิตยาเพื่อดูแลตัวเองได้จะดีกว่าหรือไม่ การทำงานขององค์การเภสัชกรรมเป็นเรื่องของความมั่นคงในระยะยาว

“มีข่าวออกมาตลอดว่าพนักงานราชการของกระทรวงสาธารณสุข ต้องการบรรจุเป็นข้าราชการ ตอบแทนความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานเป็นระยะเวลายาวนาน ผมไม่เคยมองข้าม และได้คุยกับรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม มาหลายครั้ง ถ้าได้เจอกันก็จะคุยแต่เรื่องนี้ ซึ่งท่านได้รับไปพิจารณา แต่ผมก็จะถามต่อไป ข้อเท็จจริงคือเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับงบ แต่มันอยู่ที่กระบวนการทางราชการมากกว่า”

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงนโยบายยกระดับ อสม. ว่า เรามี อสม.กว่าล้านคนกระจายทำงานอยู่ทั่วประเทศ ถ้าเปลี่ยน อสม.เป็นหมอครบอครัว ดูแลคนป่วยชั้นปฐมภูมิในพื้นที่ได้ ย่อมจะลดภาระแพทย์ พยาบาล และช่วยลดภาระการเดินทางของผู้ป่วย และเราได้ยกระดับสถานีอนามัยเป็น รพ.สต.แล้ว จึงมีความมุ่มมั่นให้สถานพยาบาลข้างต้น ช่วยคัดกรองผู้ป่วยก่อนถึงโรงพยาบาลศูนย์

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ล่าสุด ตนได้ให้นโยบายกับกระทรวงสาธารณสุข คือ ต้องทำให้ประชนรู้จักดูแลสุขภาพตัวเอง ต้องให้ประชาชนทราบว่า 1. ยาดีแค่ไหน ก็สู้ไม่กินยาไม่ได้ 2. เตียงโรงพยาบาลนุ่มแค่ไหน ก็สู้เตียงไม้กระดานไม่ได้ 3.ขยันแล้วท่านจะแข็งแรง ส่วนขี้เกียจ มักจะจบลงที่หาหมอ ดังนั้น ต้องหมั่นออกกำลังกายให้มากเข้า

“หมอตี๋”โชว์ฟิตวิ่งมินิมาราธอน 10 กม. สสส.จัด”ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019″ครั้งที่ 8

People Unity News : “รมช.สาธิต” เปิดงาน”ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019″ ครั้งที่ 8 โชว์ฟิตวิ่งมินิมาราธอน 10 กม. ร่วมนักวิ่งกว่า 6 พันคน พร้อมประกาศยกระดับมาตรฐานงานวิ่ง สู่ต้นแบบงานวิ่งเพื่อสุขภาพ ยึดหลัก “Safe, Fair, Fun” พัฒนาการจัดงาน-นักวิ่งควบคู่กัน ชวนเริ่มต้นดีชีวิตดี “เดินวิ่ง” เป็นวิถีชีวิต

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 ที่บริเวณสวนหลวงพระราม 8 กรุงเทพมหานคร ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 เป็นประธานเปิดงาน กิจกรรมเดินวิ่ง “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019” (Thaihealth Day Run 2019) ครั้งที่ 8 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในวาระครบรอบ 18 ปี สสส.

ดร.สาธิต ร่วมวิ่งมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมี ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากรรมการ สสส., ดร.แดเนียล เคอร์เตซ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก, , นพ. ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส., นายประสาร จิรชัยสกุล ประธานมูลนิธิสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย ร่วมกิจรรมพร้อมกับนักวิ่งเข้ากว่า 6,000 คน

ดร.สาธิต กล่าวว่า สสส.และสมาพันธ์และสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย ถือเป็นผู้ริเริ่มการวางมาตรฐานการจัดงานวิ่ง โดยได้จัดทำคู่มือ 2 ฉบับ คือ 1.คู่มือการจัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนน เพื่อเป็นคำแนะนำให้การจัดการแข่งขันวิ่งประเภทถนนมีมาตรฐานสูงในระดับที่สามารถจัดเกรด หรือติดป้ายรับรองของ IAAF กติกาและคำแนะนำที่เป็นสากลพึงปฎิบัติ เพื่อให้การจัดการแข่งขันมีความปลอดภัยและเกิดความเท่าเทียมกัน และ2.ข้อปฏิบัติที่ดีในการจัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนน ที่นำมาใช้กับการจัดงานวิ่งในประเทศไทย โดยเน้นการจัดงานวิ่งเพื่อสุขภาพเป็นไกด์ไลน์สำหรับผู้จัดงานวิ่ง โดยยึดหลัก ‘Safe, Fair, Fun’ ซึ่งได้มีการนำไปใช้กับการจัดงานที่สสส.สนับสนุน เพื่อเป็นต้นแบบของงานวิ่งเพื่อสุขภาพ เกิดการจัดงานวิ่งที่มีมาตรฐานขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้นักวิ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิ่งที่ปลอดภัยมีการเตรียมพร้อมก่อนวิ่งศึกษาและเคารพกฎกติกามารยาทการวิ่งรวมถึงเข้าใจหลักการกินที่ถูกต้องทั้งก่อนและหลังวิ่ง และให้การวิ่งเพื่อสุขภาพ เป็นชีวิตดีๆ ที่เริ่มที่ตัวเราเอง และวิ่งจนเป็นวิถีชีวิต

ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า ภาพรวมของประเทศ สสส.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ผลักดันให้เกิดแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายชาติ พ.ศ.2561-2573 ฉบับที่ 1 มีเป้าหมายให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงด้วยกิจกรรมทางกาย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์ คือ 1. การส่งเสริมกิจกรรมทางกายประชาชนทุกกลุ่มวัย 2. การส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย

และ 3. การพัฒนาระบบสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย หากคนไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 5,977 ล้านบาท

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ส่งเสริมให้คนไทยในแต่ละกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ซึ่งผลการสำรวจกิจกรรมทางกายประชากรไทย พ.ศ. 2562 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ปัจจุบันประชากรไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพออยู่ร้อยละ 74.6ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ ถือว่าการส่งเสริมกิจกรรมทางกายให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มวัยได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันการวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการมีกิจกรรมทางกายที่เพิ่มขึ้น

ธรรมกายมอบข้าวสารอาหารแห้ง 15 ตันช่วยผู้ประสบอสันติภัยนราธิวาส

People Unity News : มูลนิธิธรรมกายมอบข้าวสารอาหารแห้ง 15 ตัน ช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบนราธิวาส

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกายร่วมกับศูนย์อบรมเยาวชนบ้านร่มเย็น อ.เมือง จ.นราธิวาส มอบข้าวสารอาหารแห้งจำนวน 15 ตัน แก่วัด 12 แห่ง โรงเรียน 9 แห่ง เจ้าหน้าที่ทหาร 4 หน่วย และเทศบาล 1 แห่ง รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจ.นราธิวาส โดยได้รับความเมตตาจากพระปลัดทศพล ขนฺติธโร เจ้าคณะตำบลยี่งอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นประธานสงฆ์

สำหรับวัดและหน่วยงานที่ได้รับสิ่งของช่วยเหลือได้แก่ 1.วัดชลภูผาวนาราม 2.วัดสุคีรินประชาราม 3.สำนักสงฆ์ สว.อำเภอสุคิริน 4.วัดบุณณาราม อำเภอตากใบ 5.วัดตันหยงมัส 6.วัดตันติการาม 7.วัดชลธาราวาส อำเภอระแงะ 8.วัดเขานาคา 9.วัดประชาภิรมย์ อำเภอเมืองนราธิวาส 10.วัดศรีสาคร อำเภอศรีสาคร 11.วัดอุไรรัตนาราม 12.วัดโคกเคียน อำเภอยี่งอ-บาเจาะ 13.โรงเรียนเทศบาล5 14.โรงเรียนราชพัฒนา 15.โรงเรียนวัดพระพุทธ 16.โรงเรียนเกษมทรัพย์ 17.โรงเรียนสุไหงโกลก 18.โรงเรียนนิคมพัฒนา 6 19. โรงเรียนสุคิริน 20.โรงเรียนรักไทย 21.โรงเรียนสุคิรินวิทยา 22.ร้อย.ปืนเล็กที่ 1 ฉก.นย.33 23.หมวดปืนเล็กที่ 2 ฉก.นย.33 24.หมวดปืนเล็กที่ 3 ฉก.นย. 33 25.กองร้อยทหารพรานที่ 4607 ฉก.ทพ.46 และ 26.เทศบาลเมืองนราธิวาส

“ม.สงฆ์มจร”ร่วมถกผู้นำจัดการศึกษาที่จีนไต้หวัน หวั่นจำนวนผู้เรียนลดแนะหาวิธีแก้ด่วน

People Unity News :  จีนไต้หวันจัดใหญ่ผู้นำด้านการจัดการศึกษากลุ่มมหาวิทยาลัย “Fo Gaung Shan” ประจำปี 2562 ผู้แทนจาก 23 มหาวิทยาลัยร่วมถึง “ม.สงฆ์มจร” เข้าร่วม หวั่นจำนวนผู้เรียนพุทธลดแนะหาวิธีแก้ด่วน ทั้งปรับหลักสูตรรับไม่รับใบปริญญา วิจัยควบคู่กับการทำงาน

วันที่ 9 พ.ย.2562 พระปลัดสรวิชญ์ อภิปญฺโญ,ผศ.ดร.หัวหน้าภาควิชาและผู้อำนวยการหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5-8 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากพระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มจร พร้อมด้วยพระครูวินัยธรสมุทร ถาวรธมโม, ผศ.ดร รองผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต ให้เข้าร่วมการประชุมผู้นำด้านการจัดการศึกษากลุ่มของมหาวิทยาลัย Fo Gaung Shan ปี 2562 “2019 Fo Guang Shan University Forum” จัดขึ้นที่เมืองไทเปและเมืองเกาสง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ไต้หวัน

พระปลัดสรวิชญ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมการประชุมพอสรุปได้ดังนี้ มีดังนี้ วันที่ 5 พ.ย.2562 พิธีเปิดการประชุม 2019 Fo Guang Shan UniversityPresident Forum III ณ เมืองYilan, Taiwan(R.O.C) โดยที่ประชุมได้พูดถึงความท้าทายของสถาบันอุดมศึกษาในยุคของการเปลี่ยนแปลง การออกแบบหลักสูตรที่มีการบูรณาการกับวิถีทางพระพุทธศาสนา รูปแบบและสื่ออุปกรณ์การจัดการเรียนการสอน และการใช้ทรัพยากรร่วมกันในการจัดการศึกษา

ทั้งนี้เวลา16.30 น ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือด้านการจัดการศึกษา นิสิต อาจารย์ การวิจัยแบะการจัดกิจกรรมระหว่างมหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวน 23 มหาวิทยาลัย ในส่วนวิทยาลัยพระธรรมทูตได้หารือและลงนามกับภาควิชาพระพุทธศาสนามหาวิทยาลัยโกกาต้า ประเทศอินเดีย ภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนวกับสถาบันหนานเทียน(สาขาของวัด Fo Guang Shan)

สำหรับสถาบันน่านเทียน เป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงทางพระพุทธศาสนา ได้จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวพุทธศาสนามุ่งมั่นที่จะพัฒนามนุษย์ให้มีความเข้าใจทั้งตนเองและผู้อื่นจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตเชิงพุทธ เช่นหลักสูตร Appilied Buddhist Studies, Health and Social Wellbeing, Humanistic Buddhism, Mental Health and Mindfulness : Theory and.Practice for Schools เป็นต้น โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานรับรองคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของรัฐบาลออสเตรเลีย (ดูเว็บไซต์เพิ่มเติมที่ https://www.nantien.edu.au และดูภาพกิจกรรม ที่https://drive.google.com/drive/folders/1yMxfyP9uWRpD1edWr7TZS_6M-gAjb0Rv?usp=sharing

วันที่ 6 พ.ย 2562 เป็นการสัมนาทางวิชาการเรื่อง ” Buddhism: Corriculum, teaching materil, and educational approaches for professional of.modern Buddhism” เวลา10.00 น.เรื่อง ” University.managemet.: Student recruitment, academic research and resource sharing among Buddhist Universities” ณ ห้อง Yun Qi Builing Confereance Room 301, Fo GuangUniversity (ดูเว็บไซต์เพิ่มเติม https://website.fgu.edu.tw/)

พระปลัดสรวิชญ์ กล่าวต่อว่า ได้สอบถามและแสดวความเห็นว่า “ในยุคของการเปลี่ยนแปลงมหาวิทยาลัยจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างเร่งด่วน เพราะว่าปัจจุบันนี้ สถาบันอุดมศึกษาทั่วโลกกำลังพบกับปัญหาเดียวกันคือจำนวนนักเรียนน้อย ขณะที่มีจำนวนประชากรเกิดน้อย เด็กรุ่นใหม่ไม่สนใจเรียนในระบบมากขึ้นเพราะช่องทางของการแสวงหาปัญญาหรือความรู้มีมากขึ้น เช่น ทางสื่ออินเตอร์เน็ต และการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เป็นต้น สถาบันการศึกษาต้องหาแนวทางร่วมกันในการพัฒนาหลักสูตรให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงการบริการจัดการศึกษาได้ง่ายมากขึ้น ทั้งส่วนที่เรียนจบแล้วได้รับใบปริญญาบัตรและไม่ต้องการรับใบปริญญา เช่นหลักสูตรระยะสั้นที่เป็นความต้องการของสังคมจริงๆ โดยเฉพราะการบริการวิชาการแก่สังคมชึ่งหลายมหาวิทยาลัยเริ่มที่จะหารือจัดการศึกษาร่วมกันมากขึ้นแล้ว”

วันที่ 7พ.ย.2562 เป็นการสัมนาทางวิชาการเรื่อง ” How to Cultivate Character and Ability with Buddhist Characteristics ณ ห้อง Internation ConfereanceHall, Nanhua University, Chiayi County, Taiwan ที่ประชุมได้มีการนำเสนอผลการวิจัยที่ใช้กิจกรรมเป็นฐาน โดยนักวิชาการจากประเทศออสเตเรียการพัฒนาค่านิยมและคุณลักษณะแบบพุทธของนักศึกษาผ่านการจัดกิจกรรมและหลักสูตรจัดการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมและคุณลักษณะสอดคล้องวิถีทางของพระพุทธศาสนา และการเรียนรู้ในศตวรรษที่21คือ Learning to Know Leaning to do leaning live to gether และleaning.to be (ดูเว็บไซต์เพิ่มเติม https://www.nhu.edu.tw)

วันที่ 8 พ.ย.2562 เวลา 09.30 น.เป็นการสัมนาทางวิชาการเรื่อง ” Buddhist in terms of its modernity, humanity, and Universality” Cultivate Character and Ability with Buddhist Characteristics ณ ห้อง Fo GuangBuilding 5F, Fo Guang Shan Temples, Kaohsiung County, Taiwan

สำหรับการสัมมนาเรื่องนี้มีนักวิชาการจากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 2 คน ได้นำเสนอบทความและอภิปรายเกี่ยวกับความท้าทายเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในยุคการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการที่มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเกี่ยวกับด้านวิชาการและด้านอื่นๆ ของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา

พระปลัดสรวิชญ์ กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าว ในฐานะที่อาตมาอยู่ในภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนวเห็นด้วยกับประเด็นนี้ พร้อมกันนี้ได้นำเสนอตัวอย่างการทำวิจัยเรื่อง”ผลของการฝึึกปฏิบัติสมาธิแบบอานาปาณสติที่มีผลต่อความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียน” ในที่ประชุมด้วย และได้ให้ข้อเสนอแนะว่า อาจจะต้องมีการทำการวิจัยในลักษณะนี้แต่ใช้แนวทางการปฏิบัติของแต่ละสถาบันแล้วนำผลการวิจัยมานำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้

ต่อมเวลา 14.00 น. เป็นพิธีปิดการประชุม 2019 Fo Guang Shan University Presidents Forum” ณ ห้อง Fo GuangBuilding 5F, Fo Guang Shan Temples, Kaohsiung County, Taiwan

จากการเข้าร่วมประชุมและสังเกตุการจัดประชุมครั้งนี้ พระปลัดสรวิชญ์ เห็นว่า Fo Guang Shan เป็นการพัฒนาองค์กรด้วย Design Thinking” การพัฒนาองค์กรเกิดจากการเรียนรู้จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งอย่างมียุทธศาสตร์และมีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ มีการทำงานอย่างเป็นระบบ Fo Guang Shan จัดได้ว่าเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ดีมากอีกองค์กรหนึ่งมีการทบทวนการทำงานแบบต่อยอดองค์ความรู้นำมาสู่การวางแผนการทำงานเชิงกลยุทธ์ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทของสังคมการเปลี่ยนแปลงค้นหาประเด็นที่เป็นความท้าท้ายขององค์กรในอนาคต มีค่านิยมและเป้าหมายร่วมกันผ่านการวางแผนและออกแบบการทำงานโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนในองค์กร

“การทบทวนความรู้เดิมแล้วต่อเติมความรู้ใหม่อย่างมีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรมีการพัฒนาอย้่งต่อเนื่องอันเกิดจากการ Design Thinking ทำไห้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมองค์กร จากการทำงานที่อยู่บนพื้นฐานของการวิจับสถาบันหรือการทำงานประจำให้เป็นงานวิจัยและการทำงานวิจัยให้อยู่ในงานประจำแบบนี้ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) หรือ นวัตกรรม (Innovation) เกิดการระดมความคิดเห็นว่าจะทำอย่างไร ให้องค์กรขนาดใหญ่สามารถสร้างบรรยากาศที่เสริมความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้แนวคิดปรัชญญาคำสอนทางพระพุทธศาสนามหายานเป็นฐานที่มั่นคงในการขับเคลื่อนภายใต้แนวคิดเดียวกันแต่แยกการบริหารจัดการ” พระปลัดสรวิชญ์ กล่าว (ดูรูปเพิ่มเติมที่ https://drive.google.com/drive/folders/1yMxfyP9uWRpD1edWr7TZS_6M-gAjb0Rv?usp=sharing)

ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯเป็นประธานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ปี 2562 วัดโสธรวรารามวรวิหาร

People Unity News : พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2562 ไปถวายวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อน้อมนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส

วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14.00 น. ดร.วันดี กุญชร ยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ปี 2562 โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร นางยุวดี นิ่มสมบุญ ที่ปรึกษาสภาสตรีฯ นายประสงค์​ คงเคารพธรรม​ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีฯนางมลสุดา ชำนิประศาสน์ รองประธานสภาสตรีฯ นายโชคชัย​ แก้วป่อง​ รองอธิบดี​กรมการพัฒนาชุมชน คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ นายกองค์กร สมาชิกองค์กร สภาสตรีแห่งชาติ สโมสรวัฒนธรรมหญิงฉะเชิงเทราและ หัวหน้าส่วนราชการข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ณ พระอารามหลวง วัดโสธรวรารามวรวิหา จ.ฉะเชิงเทรา

โดยในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานสภาสตรีแห่งชาติฯประจำปี 2562 พระธรรมมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร พระราชปริยัติสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ พระราชภาวนาพิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ พระครูโสภณสรกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ 86 รูป สามเณร 211 รูป แม่ชี 10 คน มีผู้บริจาคร่วมถวายพระราชกุศล ในการถวายผ้ากฐินพระราชทาน เป็นจำนวนเงิน..3,099,999….บาท

วัดโสธรวรารามวรวิหารเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เดิมชื่อว่า วัดหงษ์ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง

ตามตำนานเล่าว่า หลวงพ่อพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ มีรูปทรงสวยงามมาก ได้แสดงปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะที่เห็นในปัจจุบัน

แต่เดิมหลวงพ่อพุทธโสธรประทับอยู่ในโบสถ์หลังเก่าที่มีขนาดเล็ก รวมกับพระพุทธรูปอื่นๆ 18 องค์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯเสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดแห่งนี้ มีพระราชปรารภเรื่องความคับแคบของพระอุโบสถเดิม พระพรหมคุณาภรณ์ (จริปุณโญ ด. เจียม กุลละวณิชย์) อดีตเจ้าอาวาสจึงได้รวบรวมเงินบริจาคเพื่อจัดซื้อที่ดินสำหรับสร้างพระอุโบสถหลังใหม่

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานการสร้าง และทรงเป็นผู้กำกับดูแลงานสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ พ.ศ. 2531 และทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ น้ำหนัก 77 กิโลกรัม ประดิษฐานเหนือยอดมณฑป เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงตัดหวายลูกนิมิต เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2549
การก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ สร้างขึ้นครอบพระอุโบสถหลังเดิม โดยใช้เทคนิควิศวกรรมสมัยใหม่ โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อพุทธโสธร และพระพุทธรูปทั้ง 18 องค์

ศิลปะภายในพระอุโบสถหลวงพ่อพุทธโสธร ประกอบด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดานจะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์ เป็นเรื่องราวของสีทันดรมหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาล โดยตำแหน่งของดวงดาวบนเพดาน กำหนดตำแหน่งตรงกับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 ณ เวลาที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ

“ภาณุรัตน์”กราบศพ”ร.ต.อ.พยุง” เหยื่อโจรโต้ยิงถล่มชรบ.ยะลา

People Unity News : “จักรทิพย์” ห่วงใยครอบครัว “ร.ต.อ.พยุง” เหยื่อโจรโต้ยิงถล่ม ชรบ. เสียชีวิต ส่ง “ภาณุรัตน์” เยี่ยมบำรุงขวัญ กราบศพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ

วันที่ 9 พ.ย.2562 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 เวลาประมาณ 00.10 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายลอบโจมตีป้อมยามจุดตรวจ ชรบ.ประจำหมู่บ้านทุ่งสะเดา ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้ร.ต.อ.พยุง คิดขุนทด รอง สว.กก.ซถ.2 บก.สส.จชต. และชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา เสียชีวิต รวม 15 นายนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยครอบครัวของ ร.ต.อ.พยุง ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่สูญเสียจากเหตุดังกล่าว จึงมอบหมาย พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จตช. ให้ไปตรวจเยี่ยมและบำรุงขวัญกำลังใจให้กับทางครอบครัวผู้สูญเสีย

ขณะที่พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จตช. จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จตร.(สบ 8) ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปตรวจเยี่ยม

และวันนี้ (9พ.ย.) เวลาประมาณ 14.00 น. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จตร.(สบ 8) พร้อมด้วย พ.ต.อ.รังษี มั่นจิตร ผกก.ซถ.2 และ พ.ต.ท.อับดุลฮาลีม ดือเร๊ะ สว.กก.ซถ.2 บก.สส.จชต. ผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.พยุง จึงได้เดินทางมาที่วัดลำใหม่ อ เมือง จว.ยะลา เพื่อกราบศพ ร.ต.อ.พยุง คิมขุนทด และมาเยี่ยมบำรุงขวัญนางพนิตนารถ คินขุนทด ภรรยาของ ร.ต.อ.พยุง และครอบครัวเพื่อให้กำลังใจ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวยืนยันว่า ผู้บังคับบัญชาของ ตร. มีความห่วงใยครอบครัวของข้าราชการตำรวจที่สูญเสียและจะดูแลสวัสดิการให้เป็นไปตามสิทธิ พร้อมนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งด้วย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

Verified by ExactMetrics