วันที่ 18 พฤษภาคม 2024

“พีระพันธุ์” ชูนโยบายดูแลผู้สูงอายุครบวงจร

People Unity News : 14 เมษายน 2566 “พีระพันธุ์” ชี้ รทสช.ให้ความสำคัญกับผู้สูงวัย มีนโยบายดูแลแบบครบวงจร พร้อมอวยพรผู้สูงวัยและคนไทยเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติและวันสงกรานต์ ให้มีสุขภาพแข็งแรง มีพลังกายพลังใจฟ่าฟันอุปสรรค และประสบความสำเร็จทุกประการ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่าเนื่องในวันนี้เป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากในขณะนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติเห็นความสำคัญและมีนโยบายในการดูแลกลุ่มผู้สูงวัยไว้อย่างครบวงจร ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เคยทำไว้และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้สูงอายุ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มีนโยบายที่จะต่อยอดในการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุเพิ่มเติม โดยนโยบายอันดับแรกได้แก่การปรับหลักเกณฑ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้เท่ากันหมดคืออยู่ที่ 1,000 บาท ตามที่ได้มีการประชาสัมพันธุ์ชี้แจงไปแล้ว นอกจากนี้ยังจะมีการตั้งศูนย์สุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ หนึ่งเขต หรือ หนึ่งอำเภอ หนึ่งศูนย์สุขภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้ป่วยต่างๆ ที่จะมีโอกาสได้เข้าถึงระบบการดูแลสุขภาพได้อย่างทั่วถึงมากขึ้นด้วย

“พรรครวมไทยสร้างชาติให้ความสำคัญกับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่ตอนนี้มีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นพรรคจึงมีนโนยบายเพื่อเตรียมการดูแลไว้อย่างครบถ้วน โดยจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน” นายพีระพันธุ์กล่าว

นอกจากนี้นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวอวยพรประชาชนเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ประจำปี 2566 ด้วยว่า ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกที่พี่น้องประชาชนแต่ละท่านเคารพนับถือดลบันดาลและอำนวยพรให้พี่น้องประชาชนทุกท่านและครอบครัวมีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีพลังกายพลังใจที่จะฝ่าฟันปัญหาและก็ขอให้ทุกท่านประสบจากความสำเร็จในทุกสิ่งทุกประการที่ตั้งใจและมุ่งหวังไว้ และสำหรับพี่น้องประชาชนที่เดินทางไปท่องเที่ยวหรือกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องกับต่างจังหวัดก็ขอให้เดินทางทั้งไปและกลับโดยสวัสดิภาพปลอดภัยทุกคน

Advertisement

“ประยุทธ์” บินเบลเยียม วอนอยู่กันดีๆ ลดขัดแย้ง

People Unity News : 12 ธันวาคม 2565 “พล.อ.ประยุทธ์” เผยไปราชการต่างประเทศ ขอสื่อลดเสนอข่าวสร้างความขัดแย้ง ไม่สนผลโพลความนิยมนายกฯ ร่วงไปอันดับ 6 ไม่มีผลต่อการตัดสินใจทางการเมือง ชี้ไม่รู้ใครทำ-ใครตอบ

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน – สหภาพยุโรป (ASEAN – EU Commemorative Summit) ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม ระหว่างวันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2565

โดยก่อนเดินทางไปประชุม พลเอกประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า ตนเองไปฏิบัติภารกิจหลายวันขอให้อยู่กันดีๆ ส่วนเรื่องงานได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีได้ปฏิบัติหน้าที่แทน ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็ทำงานกันอยู่ทุกวัน เพราะนายกฯได้สั่งการแต่ละนโยบายไปหมดแล้ว กรรมการแต่ละระดับก็ทำงานกันไป ผลสำเร็จก็จะตามมา แต่เรื่องเดียวที่นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงคือความขัดแย้งก็ขอให้ลดลงบ้าง ในการนำเสนอข่าวให้เบาๆ กันหน่อย รู้ว่าเป็นสิทธิที่พูดได้แต่ต้องพูดให้อยู่ในขอบเขตไม่เช่นนั้นจะมีผลต่อการทำงาน เพราะในเวลานี้หลายอย่างต้องดำเนินต่อไปตามขั้นตอน ถ้าพูดกันแล้วก็จะขัดแย้งกันไปทุกเรื่องจะไปได้อย่างไร

พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า เวลาทำงานของรัฐบาลมีเหลืออยู่ไม่มากแล้ว ทุกอย่างก็ว่าไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลที่ความนิยมของ พลเอกประยุทธ์ ลดลงอยู่อันดับ 6 นั้น พลเอกประยุทธ์ได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “โพลของใครทำอยู่ก็ไม่รู้กัน ใครตอบก็ไม่รู้เหมือนกัน” ยืนยันว่าผลสำรวจที่ออกมานั้นไม่ได้กระทบกับความรู้สึก โดยระหว่างตอบคำถาม พลเอกประยุทธ์ ได้ทำท่าแบมือทั้งสองข้างพร้อมยักไหล่ ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าหลังจากเสร็จภารกิจต่างประเทศจะตัดสินใจเปิดตัวทางการเมืองหรือไม่นั้น พลเอกประยุทธ์ ตอบสั้นๆ ว่า “รอกลับมาก่อน”

Advertisement

“ทักษิณ” ขอความเห็นใจคนแก่วัย 75 บอกใครไม่ชอบให้ต่างคนต่างอยู่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 มีนาคม 2567 เชียงใหม่ – “ทักษิณ” บอกอบอุ่น ได้กลับบ้านเกิดเชียงใหม่ในรอบ 17 ปี ขอความเห็นใจคนแก่วัย 75 บอกใครไม่ชอบให้ต่างคนต่างอยู่ พร้อมให้กำลังใจ นายกฯ เศรษฐา ฝ่าวิกฤติปัจจุบันที่หนักกว่ายุคต้มยำกุ้ง เชื่อเศรษฐกิจดีทุกอย่างดีตาม เปรียบกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ชี้ห่วงปัญหาฝุ่น PM 2.5 เร่งแก้และสร้างพื้นที่สีเขียว

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ว่า รู้สึกอบอุ่นดีใจ 17 ปีที่หายไปกลับมาก็คิดถึงบ้านเกิด เมืองนอน คิดถึงอาหาร วัฒนธรรม คนเก่าๆ ว่าเป็นธรรมชาติที่ทำให้เรากระชุ่มกระชวยขึ้น

ส่วนช่วงสงกรานต์จะปีนี้ มีความตั้งใจว่าจะกลับมาจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง เพราะรักในวัฒนธรรม จึงอยากกลับมา ร่วมประเพณีรดน้ำดำหัวด้วย

นายทักษิณ กล่าวว่าการกลับมาเชียงใหม่ครั้งนี้สิ่งที่อยากพัฒนาแก้ไข คือเรื่องฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาหนักที่สุด เป็นห่วงอยู่ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ทราบปัญหาและได้รีบแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ยังมองว่าปัญหาส่วนหนึ่งคือความแห้งแล้ง อยากให้ฟื้นโดยการไม่ต้องใช้น้ำมาก จะทำให้สภาพแวดล้อมชุ่มชื้นเขียวได้ ซึ่งจะทำให้อากาศกลับมาสภาพดี ซึ่งตนเป็นห่วงเพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตามเรื่องเศรษฐกิจก็ต้องดีด้วย ซึ่งตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ได้วางแผนที่จะฟื้นเศรษฐกิจอยู่ เพราะถ้าเศรษฐกิจดีทุกอย่างก็จะดีตาม เปรียบกับกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าท้องไม่อิ่มก็ลำบาก

เมื่อถามว่าให้กำลังใจนายกเศรษฐาเรื่องอะไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า ให้กำลังใจทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง มีความซับซ้อนมากกว่า ส่วนจะให้ข้อคิดนายเศรษฐาอย่างไรในฐานะที่เคยแก้วิกฤติต้มยำกุ้งมามาก่อน นายทักษิณบอกว่าบางอย่างก็ใช้ได้บางอย่างก็ต้องเปลี่ยนเพราะโลกมันเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม นักการเมืองก็ต้องร่วมมือกับข้าราชการฝ่ายประจำ ต้องให้กำลังใจกัน

เมื่อถาม ถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น ว่า ดราม่าก็คือดราม่า นั่นหมายความว่าเป็นเรื่องไม่จริง ส่วนกระแสป่วยจริงหรือไม่จริงในการลงพื้นที่นั้น นายทักษิณกล่าวว่าภาวะจิตใจคนเป็นเรื่องที่สำคัญ หากภาวะจิตใจแย่มันก็แย่ ทำให้บางอย่างมันรวนได้ ตอนนี้กำลังใจดีมีลูกสาว อยู่ใกล้หลาน 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่วัย 75 ยังไงก็ขอให้โปรดเข้าใจคนแก่ในวัยนี้ ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานด้วย ใครไม่ชอบหน้าตนก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวแล้วก็กำลังใจดีขึ้น แต่ถามว่าอาการป่วยทุกวันนี้ก็ยังมีอาการกดกระดูกประสาทของคอและหลัง และมีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ตนเป็นโควิด อาการหนักมากตอนนั้นเข้าไอซียูถึง 9 วัน ข้างในร่างกายก็มีผลบ้าง ทำให้ตอนนี้ปอดยังมีอาการอยู่หลายจุด จากนั้นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้พูดเสริมระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่าคุณพ่อไม่ชอบยอมรับว่าป่วย จนกระทั่งได้เข้าไอซียูออกมาถึงจะรับ เมื่อถามว่าใครดื้อกว่ากัน นางสาวแพทองธาร จึงได้ชี้ไปที่นายทักษิณ และบอกว่าพ่อเป็นต้นตำรับ นายทักษิณจึงบอกว่า ยอมรับตัวเลข 75ได้ แต่ไม่อยากยอมรับว่าแก่ ทั้งที่มันคือธรรมชาติ ฝืนมันไม่อยากแก่

จากนั้น นายทักษิณ และครอบครัว ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินส่วนตัวทันที

Advertisement

“แพทองธาร” ทำสารคดีเส้นทางการเมือง ชูมีทีมงาน ‘พ่อ’ และ ‘อา’ ช่วย

People Unity News : 6 พฤษภาคม 2566 “แพทองธาร” ปล่อยสารคดี ‘The Candidate Paetongtarn’ การเดินทางบนเส้นทางการเมืองสู้ศึกเลือกตั้ง 2566

6 พฤษภาคม 2566 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย โพสต์คลิปสารคดี ‘The Candidate Paetongtarn’ เล่าการเดินทางบนเส้นทางการเมืองตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน ในยูทูบแชนแนลส่วนตัว (https://www.youtube.com/@ingshinawatra)

โดยเนื้อหานั้น ผู้ร่วมเล่าเรื่องราวคือทีมที่ปรึกษาที่เคยทำงานร่วมกับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในรัฐบาลไทยรักไทย คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทีมที่เคยทำงานกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในรัฐบาลเพื่อไทย ที่ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าทีมงานทั้ง ‘พ่อ’ และ ‘อา’ กลับมาร่วมงานการเมืองกับนางสาวแพทองธารทั้งสิ้น ผนึกกำลังสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้

โดยเนื้อหาสารคดีกล่าวถึงนางสาวแพทองธารในฐานะลูกสาวอดีตนายกรัฐมนตรี และผู้นำพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ว่านางสาวแพทองธารไม่ได้เพิ่งเดินบนเส้นทางการเมืองในช่วงเกือบ 2 ปีนี้เท่านั้น แต่อยู่บนเส้นทางการเมืองมาแล้วตั้งแต่สมัยไทยรักไทย ผ่านทั้งวันคืนที่ดีและร้าย

และในตอนสุดท้ายเป็นคำถามสำคัญที่ว่า ‘ถ้าประเทศไทยมีแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นอย่างไร’ นางสาวแพทองธารตอบพร้อมรอยยิ้มว่าประเทศไทยจะมีสีสัน ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรี ที่จริงใจ รักประชาชน และมีทีมที่ดี เพราะแพทองธารทำคนเดียวไม่ได้ แต่แพทองธารมีทีมมาช่วยทำงานเพื่อประเทศไทย

โดยหลังสารคดีจบ นางสาวแพทองธารได้ไลฟ์พูดคุยสดๆ กับพี่น้องประชาชนผ่านทางไลฟ์อินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก

ติดตามสารคดีพร้อมกันได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=S-zj0yUs3bE

Advertisement

นายกฯตอบเอง “หม่อมอุ๋ย” หน.ทีมเศรษฐกิจ พปชร.??

People Unity News : 21 ตุลาคม 65 ตามที่มีกระแสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเตรียมผลักดัน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐนั้น

ในวันนี้ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเสร็จ ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงกรณีที่ล่าสุดมีชื่อ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ โดยนายกรัฐมนตรีส่ายหน้าและตอบว่า ไม่มี

Advertisement

นายกฯ ตั้งเป้าใช้มวยไทยเป็นจุดดึงดูดนักมวยทั่วโลก

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 6 กุมภาพันธ์ 2567 “เศรษฐา” ตั้งเป้าใช้มวยไทยเป็นจุดดึงดูดนักมวยจากทั่วทุกมุมโลก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความถึงการไปร่วมงานวันมวยไทยโลก ประจำปี 2567 “Amazing MuayThai World Festival 2024” ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เห็นพลังของแม่ไม้มวยไทย ผ่านการแสดงของคนรักมวยไทยทั่วโลกกว่า 5,000 คน ซึ่งทางกองทัพบกจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อบันทึก Guinness World Records ทุกปี

มวยไทย คือ มรดกของไทย ที่เราคนไทยได้ร่วมกันรักษาและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น มากว่า 300 ปี วันนี้เรากำลังทำให้มวยไทยเป็นมรดกของโลก ซึ่งต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เรามีงาน WBC Amazing Muay Thai ที่รวมนักมวยกว่า 60 ประเทศ

“ความยิ่งใหญ่ที่เราร่วมกันถ่ายทอด และความงดงามของการไหว้ครูมวย ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักมวยจากทุกมุมโลก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องเดินทางมาร่วมไหว้ครูมวยที่นี่ครับ” นายเศรษฐา กล่าว

Advertisement

ยื่นศาล รธน.ชะลอโหวตนายกฯ 27 ก.ค.นี้

People Unity News : 24 กรกฎาคม 2566 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน- ที่ประชุมด่วนผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติให้ส่งศาล รธน. ออกคำสั่งชะลอการโหวตนายกฯ 27 ก.ค.นี้ หลังเกิดปมใช้ข้อบังคับ 41 ห้ามเสนอชื่อซ้ำในการลงมติเลือกนายกฯ เตรียมส่งคำร้อง 1-2 วันนี้

พ.ต.ท.กีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาชิกรัฐสภาและประชาชน จำนวน 17 คำร้องเรียน โดยผู้ร้องเรียนขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 25610 มาตรา 213 จากกรณีที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ลงมติวินิจฉัยว่า การเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็น “ญัตติ” ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 41 ซึ่งกำหนดว่า “ญัตติใดที่ตกไปแล้ว ห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักการเช่นเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน” เป็นการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียน จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

“ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ประชุมปรึกษาหารือและเห็นชอบร่วมกัน โดยพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนว่าเข้าองค์ประกอบ เงื่อนไข และหลักเกณฑ์ ในการเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 หรือไม่ โดยเห็นว่า รัฐสภาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นหนึ่งในสามของอำนาจอธิปไตย รัฐสภาจึงถือเป็นหน่วยงานซึ่งใช้อำนาจรัฐ หากการกระทำของรัฐสภาละเมิดสิทธิเสรีภาพ ย่อมถูกตรวจสอบได้โดยศาลรัฐธรรมนูญ และการกระทำของ “รัฐสภา” ในการลงมติวินิจฉัยว่า การเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็น “ญัตติ” ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อ 41 นั้น เป็นการนำข้อบังคับการประชุมไปทำให้กระบวนการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้กำหนดเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้เป็นการเฉพาะแล้ว มาตรา 159 ประกอบ มาตรา 272 การกระทำของรัฐสภาดังกล่าวจึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ การกระทำของรัฐสภาที่ลงมติวินิจฉัยดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้ร้องเรียนโดยตรง” เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าว

พ.ต.ท.กีรป กล่าวว่า ผู้ร้องเรียนเป็นสมาชิกรัฐสภาและประชาชนผู้ทรงสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ตามหมวด 3 ว่า สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย หากการกระทำของรัฐสภาดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นอันใช้ไม่ได้ และมีผลเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียน นอกจากนี้ ปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของการกระทำของรัฐสภาดังกล่าวยังคงมีอยู่และมิได้รับการวินิจฉัยให้เป็นที่ยุติ ย่อมส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งสิทธิและเสรีภาพของผู้ร้องเรียนและประชาชนทั่วไป ซึ่งอยู่ภายใต้การใช้อำนาจของรัฐโดยรัฐสภา ผู้ร้องเรียนรวมถึงประชาชนทั่วไปจึงได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ คำร้องเรียนส่วนหนึ่งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีข้อวินิจฉัย ซึ่งเป็นคำขอเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดมาตรการหรือวิธีการใด ๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย

“ผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อป้องกันความเสียหายที่ยากแก่การเยียวยาในภายหลัง และเป็นคำขอที่อยู่ในหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่จะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ จึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รัฐสภารอการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาเห็นชอบเพื่อแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีข้อวินิจฉัย ซึ่งเป็นดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมกับข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่อไป ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงวินิจฉัยให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช  2560 ประกอบ มาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 โดยจะส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน1-2 วันนี้ เพื่อให้ทันศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อนการนัดประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 ก.ค.นี้” เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าว

Advertisement

ผบ.ทบ. เตรียมมอบอีก 3 พื้นที่ทหารให้ ปชช.ใช้ประโยชน์

People Unity News : 31 ตุลาคม 2566 กอ.รมน. – ผบ.ทบ. ขอบคุณรัฐบาลแก้ไขระเบียบคืนที่ดินให้กรมธนารักษ์ หลัง ทบ. เคยขอคืนเองแล้วแต่ไม่สำเร็จ เผย เตรียมจัดสรรอีก 3 พื้นที่ทหาร “แก่งปะลอม-แหลมฟ้าผ่า-สนามบินนครพนม” ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ เสนอ นายกฯ เป็นประธานมอบคืน 25 ธ.ค.นี้

พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องการใช้ประโยชน์จากที่ดินของทหาร ซึ่งหมายรวมถึง หน่วยที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหมทั้งหมด โดยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับมาให้เร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว พร้อมมอบให้กองทัพบกเป็นเจ้าภาพ จึงได้เรียนเชิญนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่มาหารือกับผู้นำเหล่าทัพที่กองทัพบกในวันนั้นได้รายละเอียดพอสมควร ว่า ที่ดินของกองทัพต่างๆ นั้น มีพื้นที่ที่เรายังไม่ใช้ประโยชน์และมีพี่น้องประชาชนต้องการประกอบสัมมาอาชีพจำนวนเท่าไหร่

“ที่ผ่านมาบางเรื่องกองทัพพร้อมให้การสนับสนุนแต่ก็ติดขัดเรื่องกฎระเบียบบางอย่าง รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี ได้ขจัดปัดเป่าและได้แก้ไขปัญหา จนทำให้ที่ดินเหล่านั้นสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งกองทัพบกเคยทำเรื่องที่จะส่งคืนพื้นที่ประมาณ 50,000 ไร่ในปี 2552 แต่ด้วยระเบียบทำให้ไม่พร้อมในการที่เราจะส่งคืนปีนั้นได้ ในปัจจุบันแนวทางที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางไว้ภายใต้ชื่อหนองวัวซอโมเดลอยู่ในขั้นตอนกรมธนารักษ์สอบสวนสิทธิ์การครอบครองใช้ประโยชน์ และรับคำร้องขอเช่าจากประชาชน โดยกำหนดว่ากระบวนการทั้งหมดนี้จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 25 ธ.ค. ตามที่นายกฯระบุว่าจะมอบเป็นของขวัญให้กับประชาชน โดยในวันนั้นจะเรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี” พล.อ.เจริญชัย กล่าว

พล.อ.เจริญชัย กล่าวอีกว่า โครงการนี้จะใช้เป็นแนวทางในการจัดสรรประโยชน์จากที่ดินของกระทรวงกลาโหมในเบื้องต้นอีก 3 พื้นที่ ได้แก่ 1.กองบัญชาการกองทัพไทย อยู่ที่แก่งปะลอม บ้านพุราด อ. ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จำนวน 2,300 ไร่เศษ 2. พื้นที่ของกองทัพเรือใน ต.แหลมฟ้าผ่า อ.เมือง จ. สมุทรปราการ จำนวน 300 ไร่เศษ 3.พื้นที่กองทัพอากาศ สนามบินนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม จำนวน 500 ไร่เศษ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลจะเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอันเนื่องมาจากการขาดแคลนที่ดินทำกินเพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมกันนั้นจะเปลี่ยนสถานะของประชาชนในการครอบครองที่ดินโดยไม่รับอนุญาตมาเป็นผู้เช่าใช้ที่ดินอย่างถูกกฎหมายลดปัญหาการสร้างความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับหน่วยงานของรัฐได้ด้วย ทั้งนี้ขอขอบคุณรัฐบาลที่ทำให้พื้นที่ทั้งหลายในการครอบครองและไม่ได้ใช้ประโยชน์คืนให้กับพี่น้องประชาชนได้ในที่สุด

Advertisement

“พิธา” ย้ำสู้ไม่ถอย ยังมีสิทธิเป็นรัฐมนตรี

People Unity News : 23 กรกฎาคม 2566 ระยอง – “พิธา” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปยังตลาดดิโอโซน จ.ระยอง วานนี้ (22 ก.ค.) ระบุพรรคก้าวไกลขอสู้ไม่ถอย ไม่ได้เป็นนายกฯ ยังมีสิทธิเป็นรัฐมนตรีได้

เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปยังบริเวณตลาดดิโอโซน จังหวัดระยอง เพื่อร่วมงานสุราก้าวหน้า เฟสติวัล นายพิธา ได้ใช้เวลาปราศรัยทั้งเรื่องสุราก้าวหน้าและประเด็นการเมืองนานประมาณครึ่งชั่วโมง โดยพูดถึงประเด็นเรื่องการเมืองว่า พรรคก้าวไกลจะขอสู้ไม่ถอย ถึงแม้จะส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นอกจากนี้ยังบอกว่าไม่ได้เป็นนายกฯ ยังมีสิทธิเป็นรัฐมนตรีได้ ขณะเดียวกันยังมีบางช่วงบางตอนที่นายพิธา กล่าวว่าเมื่อมาเมืองระยอง ต้องหวนคิดถึงบทกลอนของกวีเอกสุนทรภู่ ที่แต่งไว้เพื่อสอนคนถึงจิตใจของคน ที่ว่า “อย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน” เพราะบทกลอนนี้น่าจะใช้ได้ในสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ได้เป็นอย่างดีเพื่อเป็นคติไว้สอนใจ

นายพิธา ยังปราศรัยกรณีหุ้นไอทีวีด้วย โดยถามผู้คนที่มาต้อนรับว่าเคยเห็นพิธา ออกข่าวช่องไอทีวีหรือไม่และเคยเปิดทีวีดูข่าวช่องไอทีวีหรือไม่ ขณะที่เรื่องสุราก้าวหน้า ถือเป็นหนึ่งในนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะผลักดัน เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นกับชุมชน หากเป็นรัฐบาลและในวันนี้ นายพิธา จะเดินทางไปยังจังหวัดจันทบุรี เพื่อขอบคุณชาวจันทบุรี

Advertisement

“สว.สมชาย” แนะเลื่อนโหวตนายกฯ 27 ก.ค. ถ้ายังไม่พร้อม

People Unity News : 23 กรกฎาคม 2566 “สว.สมชาย” เสนอเลื่อนเลือกนายกฯ 27 ก.ค. หากยังไม่พร้อม ขอเจ้าบ่าว “เพื่อไทย” บอกเลิกเจ้าสาว “ก้าวไกล” อย่าโยน สว. เป็นแพะบอกเลิกแทน ระบุแบบนี้ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ปัดเพื่อไทยประสานคุยกับวิปวุฒิสภา วันพรุ่งนี้

นายสมชาย แสวงการ สว. ในฐานะเลขานุการวิปวุฒิสภา ปฏิเสธได้รับการประสานเพื่อพูดคุยจากพรรคเพื่อไทย ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) และเห็นว่าไม่จำเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะต้องติดต่อมาเพื่อพูดคุยกับ สว. เพราะหากเปรียบเป็นงานแต่งงาน สว. เป็นเพียงแขกรับเชิญ ดังนั้น ขอให้เจ้าบ่าว พรรคเพื่อไทย ไปตกลงให้ได้ว่าจะแต่งงานกับใคร แต่ หากดูจากการเชิญพรรคการเมืองไปพูดคุย พบว่าเสียงน่าจะเกิน 400 เสียงแล้ว ไม่น่าจะต้องอาศัยเสียงของ สว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ส่วนหลายพรรคการเมืองที่มาพูดคุยตั้งเงื่อนไขว่าต้องไม่มีพรรคก้าวไกล จึงต้องพึ่งเสียง สว.นั้น นายสมชาย เสนอว่า หากยังไม่พร้อม ก็สามารถขอเลื่อนการประชุม จากวันที่ 27 ก.ค. ออกไปก่อนก็ได้ โดยช่วงต้นเดือน ส.ค. น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะหากไม่พร้อมเสนอเข้ามา งานแต่งงานก็ต้องล่มอีก อย่ามาใช้ สว. เพราะที่ผ่านมา สว. ก็เหนื่อยที่เป็นเหยื่อ ที่ให้ไปโหวตคว่ำแทน อีกทั้ง สว. กลายเป็นแพะ ถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ คุณจะไม่แต่งกับเจ้าสาวชื่อก้าวไกลนั้นแล้ว เจ้าบ่าวเพื่อไทยก็บอกไป แต่กลับมาให้ สว. บอกเลิกแทน บอกว่าไม่เหมาะสม ถ้าไม่พร้อมอย่าแต่ง ไปตกลงกันให้เรียบร้อย จะได้ม้วนเดียวจบ เพราะการเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่การซื้อของตามห้างสรรพสินค้า

ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากพรรคเพื่อไทยที่จะเข้าพูดคุย วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) นอกเหนือจากทราบผ่านสื่อที่ขอความร่วมมือจาก สว. มา แต่ส่วนตัวขอย้ำจุดยืนเดิมว่า จะไม่สนับสนุนพรรคที่มีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 ดังนั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยกล้าสลัดทิ้งพรรคก้าวไกล ก็ยินดีที่จะโหวตสนับสนุน

Advertisement

Verified by ExactMetrics