วันที่ 2 พฤษภาคม 2024

“หมอตี๋”โชว์ฟิตวิ่งมินิมาราธอน 10 กม. สสส.จัด”ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019″ครั้งที่ 8

People Unity News : “รมช.สาธิต” เปิดงาน”ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019″ ครั้งที่ 8 โชว์ฟิตวิ่งมินิมาราธอน 10 กม. ร่วมนักวิ่งกว่า 6 พันคน พร้อมประกาศยกระดับมาตรฐานงานวิ่ง สู่ต้นแบบงานวิ่งเพื่อสุขภาพ ยึดหลัก “Safe, Fair, Fun” พัฒนาการจัดงาน-นักวิ่งควบคู่กัน ชวนเริ่มต้นดีชีวิตดี “เดินวิ่ง” เป็นวิถีชีวิต

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 ที่บริเวณสวนหลวงพระราม 8 กรุงเทพมหานคร ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 เป็นประธานเปิดงาน กิจกรรมเดินวิ่ง “ไทยเฮลท์ เดย์ รัน 2019” (Thaihealth Day Run 2019) ครั้งที่ 8 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในวาระครบรอบ 18 ปี สสส.

ดร.สาธิต ร่วมวิ่งมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมี ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากรรมการ สสส., ดร.แดเนียล เคอร์เตซ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก, , นพ. ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส., นายประสาร จิรชัยสกุล ประธานมูลนิธิสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย ร่วมกิจรรมพร้อมกับนักวิ่งเข้ากว่า 6,000 คน

ดร.สาธิต กล่าวว่า สสส.และสมาพันธ์และสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย ถือเป็นผู้ริเริ่มการวางมาตรฐานการจัดงานวิ่ง โดยได้จัดทำคู่มือ 2 ฉบับ คือ 1.คู่มือการจัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนน เพื่อเป็นคำแนะนำให้การจัดการแข่งขันวิ่งประเภทถนนมีมาตรฐานสูงในระดับที่สามารถจัดเกรด หรือติดป้ายรับรองของ IAAF กติกาและคำแนะนำที่เป็นสากลพึงปฎิบัติ เพื่อให้การจัดการแข่งขันมีความปลอดภัยและเกิดความเท่าเทียมกัน และ2.ข้อปฏิบัติที่ดีในการจัดกิจกรรมวิ่งประเภทถนน ที่นำมาใช้กับการจัดงานวิ่งในประเทศไทย โดยเน้นการจัดงานวิ่งเพื่อสุขภาพเป็นไกด์ไลน์สำหรับผู้จัดงานวิ่ง โดยยึดหลัก ‘Safe, Fair, Fun’ ซึ่งได้มีการนำไปใช้กับการจัดงานที่สสส.สนับสนุน เพื่อเป็นต้นแบบของงานวิ่งเพื่อสุขภาพ เกิดการจัดงานวิ่งที่มีมาตรฐานขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้นักวิ่งมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิ่งที่ปลอดภัยมีการเตรียมพร้อมก่อนวิ่งศึกษาและเคารพกฎกติกามารยาทการวิ่งรวมถึงเข้าใจหลักการกินที่ถูกต้องทั้งก่อนและหลังวิ่ง และให้การวิ่งเพื่อสุขภาพ เป็นชีวิตดีๆ ที่เริ่มที่ตัวเราเอง และวิ่งจนเป็นวิถีชีวิต

ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า ภาพรวมของประเทศ สสส.ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ผลักดันให้เกิดแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายชาติ พ.ศ.2561-2573 ฉบับที่ 1 มีเป้าหมายให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงด้วยกิจกรรมทางกาย ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผ่าน 3 ยุทธศาสตร์ คือ 1. การส่งเสริมกิจกรรมทางกายประชาชนทุกกลุ่มวัย 2. การส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย

และ 3. การพัฒนาระบบสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย หากคนไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 5,977 ล้านบาท

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ส่งเสริมให้คนไทยในแต่ละกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ซึ่งผลการสำรวจกิจกรรมทางกายประชากรไทย พ.ศ. 2562 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ปัจจุบันประชากรไทยมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพออยู่ร้อยละ 74.6ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ ถือว่าการส่งเสริมกิจกรรมทางกายให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มวัยได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันการวิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการมีกิจกรรมทางกายที่เพิ่มขึ้น

ธรรมกายมอบข้าวสารอาหารแห้ง 15 ตันช่วยผู้ประสบอสันติภัยนราธิวาส

People Unity News : มูลนิธิธรรมกายมอบข้าวสารอาหารแห้ง 15 ตัน ช่วยผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบนราธิวาส

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกายร่วมกับศูนย์อบรมเยาวชนบ้านร่มเย็น อ.เมือง จ.นราธิวาส มอบข้าวสารอาหารแห้งจำนวน 15 ตัน แก่วัด 12 แห่ง โรงเรียน 9 แห่ง เจ้าหน้าที่ทหาร 4 หน่วย และเทศบาล 1 แห่ง รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจ.นราธิวาส โดยได้รับความเมตตาจากพระปลัดทศพล ขนฺติธโร เจ้าคณะตำบลยี่งอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นประธานสงฆ์

สำหรับวัดและหน่วยงานที่ได้รับสิ่งของช่วยเหลือได้แก่ 1.วัดชลภูผาวนาราม 2.วัดสุคีรินประชาราม 3.สำนักสงฆ์ สว.อำเภอสุคิริน 4.วัดบุณณาราม อำเภอตากใบ 5.วัดตันหยงมัส 6.วัดตันติการาม 7.วัดชลธาราวาส อำเภอระแงะ 8.วัดเขานาคา 9.วัดประชาภิรมย์ อำเภอเมืองนราธิวาส 10.วัดศรีสาคร อำเภอศรีสาคร 11.วัดอุไรรัตนาราม 12.วัดโคกเคียน อำเภอยี่งอ-บาเจาะ 13.โรงเรียนเทศบาล5 14.โรงเรียนราชพัฒนา 15.โรงเรียนวัดพระพุทธ 16.โรงเรียนเกษมทรัพย์ 17.โรงเรียนสุไหงโกลก 18.โรงเรียนนิคมพัฒนา 6 19. โรงเรียนสุคิริน 20.โรงเรียนรักไทย 21.โรงเรียนสุคิรินวิทยา 22.ร้อย.ปืนเล็กที่ 1 ฉก.นย.33 23.หมวดปืนเล็กที่ 2 ฉก.นย.33 24.หมวดปืนเล็กที่ 3 ฉก.นย. 33 25.กองร้อยทหารพรานที่ 4607 ฉก.ทพ.46 และ 26.เทศบาลเมืองนราธิวาส

“ม.สงฆ์มจร”ร่วมถกผู้นำจัดการศึกษาที่จีนไต้หวัน หวั่นจำนวนผู้เรียนลดแนะหาวิธีแก้ด่วน

People Unity News :  จีนไต้หวันจัดใหญ่ผู้นำด้านการจัดการศึกษากลุ่มมหาวิทยาลัย “Fo Gaung Shan” ประจำปี 2562 ผู้แทนจาก 23 มหาวิทยาลัยร่วมถึง “ม.สงฆ์มจร” เข้าร่วม หวั่นจำนวนผู้เรียนพุทธลดแนะหาวิธีแก้ด่วน ทั้งปรับหลักสูตรรับไม่รับใบปริญญา วิจัยควบคู่กับการทำงาน

วันที่ 9 พ.ย.2562 พระปลัดสรวิชญ์ อภิปญฺโญ,ผศ.ดร.หัวหน้าภาควิชาและผู้อำนวยการหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนว คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5-8 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจากพระโสภณวชิราภรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มจร พร้อมด้วยพระครูวินัยธรสมุทร ถาวรธมโม, ผศ.ดร รองผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต ให้เข้าร่วมการประชุมผู้นำด้านการจัดการศึกษากลุ่มของมหาวิทยาลัย Fo Gaung Shan ปี 2562 “2019 Fo Guang Shan University Forum” จัดขึ้นที่เมืองไทเปและเมืองเกาสง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ไต้หวัน

พระปลัดสรวิชญ์ กล่าวต่อว่า สำหรับกิจกรรมการประชุมพอสรุปได้ดังนี้ มีดังนี้ วันที่ 5 พ.ย.2562 พิธีเปิดการประชุม 2019 Fo Guang Shan UniversityPresident Forum III ณ เมืองYilan, Taiwan(R.O.C) โดยที่ประชุมได้พูดถึงความท้าทายของสถาบันอุดมศึกษาในยุคของการเปลี่ยนแปลง การออกแบบหลักสูตรที่มีการบูรณาการกับวิถีทางพระพุทธศาสนา รูปแบบและสื่ออุปกรณ์การจัดการเรียนการสอน และการใช้ทรัพยากรร่วมกันในการจัดการศึกษา

ทั้งนี้เวลา16.30 น ได้มีพิธีลงนามความร่วมมือด้านการจัดการศึกษา นิสิต อาจารย์ การวิจัยแบะการจัดกิจกรรมระหว่างมหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวน 23 มหาวิทยาลัย ในส่วนวิทยาลัยพระธรรมทูตได้หารือและลงนามกับภาควิชาพระพุทธศาสนามหาวิทยาลัยโกกาต้า ประเทศอินเดีย ภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนวกับสถาบันหนานเทียน(สาขาของวัด Fo Guang Shan)

สำหรับสถาบันน่านเทียน เป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงทางพระพุทธศาสนา ได้จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวพุทธศาสนามุ่งมั่นที่จะพัฒนามนุษย์ให้มีความเข้าใจทั้งตนเองและผู้อื่นจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตเชิงพุทธ เช่นหลักสูตร Appilied Buddhist Studies, Health and Social Wellbeing, Humanistic Buddhism, Mental Health and Mindfulness : Theory and.Practice for Schools เป็นต้น โดยได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานรับรองคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของรัฐบาลออสเตรเลีย (ดูเว็บไซต์เพิ่มเติมที่ https://www.nantien.edu.au และดูภาพกิจกรรม ที่https://drive.google.com/drive/folders/1yMxfyP9uWRpD1edWr7TZS_6M-gAjb0Rv?usp=sharing

วันที่ 6 พ.ย 2562 เป็นการสัมนาทางวิชาการเรื่อง ” Buddhism: Corriculum, teaching materil, and educational approaches for professional of.modern Buddhism” เวลา10.00 น.เรื่อง ” University.managemet.: Student recruitment, academic research and resource sharing among Buddhist Universities” ณ ห้อง Yun Qi Builing Confereance Room 301, Fo GuangUniversity (ดูเว็บไซต์เพิ่มเติม https://website.fgu.edu.tw/)

พระปลัดสรวิชญ์ กล่าวต่อว่า ได้สอบถามและแสดวความเห็นว่า “ในยุคของการเปลี่ยนแปลงมหาวิทยาลัยจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างเร่งด่วน เพราะว่าปัจจุบันนี้ สถาบันอุดมศึกษาทั่วโลกกำลังพบกับปัญหาเดียวกันคือจำนวนนักเรียนน้อย ขณะที่มีจำนวนประชากรเกิดน้อย เด็กรุ่นใหม่ไม่สนใจเรียนในระบบมากขึ้นเพราะช่องทางของการแสวงหาปัญญาหรือความรู้มีมากขึ้น เช่น ทางสื่ออินเตอร์เน็ต และการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เป็นต้น สถาบันการศึกษาต้องหาแนวทางร่วมกันในการพัฒนาหลักสูตรให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงการบริการจัดการศึกษาได้ง่ายมากขึ้น ทั้งส่วนที่เรียนจบแล้วได้รับใบปริญญาบัตรและไม่ต้องการรับใบปริญญา เช่นหลักสูตรระยะสั้นที่เป็นความต้องการของสังคมจริงๆ โดยเฉพราะการบริการวิชาการแก่สังคมชึ่งหลายมหาวิทยาลัยเริ่มที่จะหารือจัดการศึกษาร่วมกันมากขึ้นแล้ว”

วันที่ 7พ.ย.2562 เป็นการสัมนาทางวิชาการเรื่อง ” How to Cultivate Character and Ability with Buddhist Characteristics ณ ห้อง Internation ConfereanceHall, Nanhua University, Chiayi County, Taiwan ที่ประชุมได้มีการนำเสนอผลการวิจัยที่ใช้กิจกรรมเป็นฐาน โดยนักวิชาการจากประเทศออสเตเรียการพัฒนาค่านิยมและคุณลักษณะแบบพุทธของนักศึกษาผ่านการจัดกิจกรรมและหลักสูตรจัดการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมและคุณลักษณะสอดคล้องวิถีทางของพระพุทธศาสนา และการเรียนรู้ในศตวรรษที่21คือ Learning to Know Leaning to do leaning live to gether และleaning.to be (ดูเว็บไซต์เพิ่มเติม https://www.nhu.edu.tw)

วันที่ 8 พ.ย.2562 เวลา 09.30 น.เป็นการสัมนาทางวิชาการเรื่อง ” Buddhist in terms of its modernity, humanity, and Universality” Cultivate Character and Ability with Buddhist Characteristics ณ ห้อง Fo GuangBuilding 5F, Fo Guang Shan Temples, Kaohsiung County, Taiwan

สำหรับการสัมมนาเรื่องนี้มีนักวิชาการจากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 2 คน ได้นำเสนอบทความและอภิปรายเกี่ยวกับความท้าทายเกี่ยวกับการจัดการศึกษาในยุคการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการที่มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเกี่ยวกับด้านวิชาการและด้านอื่นๆ ของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา

พระปลัดสรวิชญ์ กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าว ในฐานะที่อาตมาอยู่ในภาควิชาจิตวิทยาการศึกษาและการแนะแนวเห็นด้วยกับประเด็นนี้ พร้อมกันนี้ได้นำเสนอตัวอย่างการทำวิจัยเรื่อง”ผลของการฝึึกปฏิบัติสมาธิแบบอานาปาณสติที่มีผลต่อความฉลาดทางอารมณ์ของนักเรียน” ในที่ประชุมด้วย และได้ให้ข้อเสนอแนะว่า อาจจะต้องมีการทำการวิจัยในลักษณะนี้แต่ใช้แนวทางการปฏิบัติของแต่ละสถาบันแล้วนำผลการวิจัยมานำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้

ต่อมเวลา 14.00 น. เป็นพิธีปิดการประชุม 2019 Fo Guang Shan University Presidents Forum” ณ ห้อง Fo GuangBuilding 5F, Fo Guang Shan Temples, Kaohsiung County, Taiwan

จากการเข้าร่วมประชุมและสังเกตุการจัดประชุมครั้งนี้ พระปลัดสรวิชญ์ เห็นว่า Fo Guang Shan เป็นการพัฒนาองค์กรด้วย Design Thinking” การพัฒนาองค์กรเกิดจากการเรียนรู้จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งอย่างมียุทธศาสตร์และมีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ มีการทำงานอย่างเป็นระบบ Fo Guang Shan จัดได้ว่าเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ดีมากอีกองค์กรหนึ่งมีการทบทวนการทำงานแบบต่อยอดองค์ความรู้นำมาสู่การวางแผนการทำงานเชิงกลยุทธ์ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทของสังคมการเปลี่ยนแปลงค้นหาประเด็นที่เป็นความท้าท้ายขององค์กรในอนาคต มีค่านิยมและเป้าหมายร่วมกันผ่านการวางแผนและออกแบบการทำงานโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของคนในองค์กร

“การทบทวนความรู้เดิมแล้วต่อเติมความรู้ใหม่อย่างมีเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรมีการพัฒนาอย้่งต่อเนื่องอันเกิดจากการ Design Thinking ทำไห้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมองค์กร จากการทำงานที่อยู่บนพื้นฐานของการวิจับสถาบันหรือการทำงานประจำให้เป็นงานวิจัยและการทำงานวิจัยให้อยู่ในงานประจำแบบนี้ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) หรือ นวัตกรรม (Innovation) เกิดการระดมความคิดเห็นว่าจะทำอย่างไร ให้องค์กรขนาดใหญ่สามารถสร้างบรรยากาศที่เสริมความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้แนวคิดปรัชญญาคำสอนทางพระพุทธศาสนามหายานเป็นฐานที่มั่นคงในการขับเคลื่อนภายใต้แนวคิดเดียวกันแต่แยกการบริหารจัดการ” พระปลัดสรวิชญ์ กล่าว (ดูรูปเพิ่มเติมที่ https://drive.google.com/drive/folders/1yMxfyP9uWRpD1edWr7TZS_6M-gAjb0Rv?usp=sharing)

ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯเป็นประธานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ปี 2562 วัดโสธรวรารามวรวิหาร

People Unity News : พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปี 2562 ไปถวายวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อน้อมนำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษากาลถ้วนไตรมาส

วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14.00 น. ดร.วันดี กุญชร ยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ปี 2562 โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหาร นางยุวดี นิ่มสมบุญ ที่ปรึกษาสภาสตรีฯ นายประสงค์​ คงเคารพธรรม​ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ดร.ลาลีวรรณ กาญจนจารี รองประธานสภาสตรีฯนางมลสุดา ชำนิประศาสน์ รองประธานสภาสตรีฯ นายโชคชัย​ แก้วป่อง​ รองอธิบดี​กรมการพัฒนาชุมชน คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติฯ นายกองค์กร สมาชิกองค์กร สภาสตรีแห่งชาติ สโมสรวัฒนธรรมหญิงฉะเชิงเทราและ หัวหน้าส่วนราชการข้าราชการ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ณ พระอารามหลวง วัดโสธรวรารามวรวิหา จ.ฉะเชิงเทรา

โดยในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานสภาสตรีแห่งชาติฯประจำปี 2562 พระธรรมมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร พระราชปริยัติสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ พระราชภาวนาพิธาน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ พระครูโสภณสรกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ 86 รูป สามเณร 211 รูป แม่ชี 10 คน มีผู้บริจาคร่วมถวายพระราชกุศล ในการถวายผ้ากฐินพระราชทาน เป็นจำนวนเงิน..3,099,999….บาท

วัดโสธรวรารามวรวิหารเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เดิมชื่อว่า วัดหงษ์ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของฉะเชิงเทรา เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร ฝีมือช่างล้านช้าง

ตามตำนานเล่าว่า หลวงพ่อพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดปางสมาธิหน้าตักกว้างศอกเศษ มีรูปทรงสวยงามมาก ได้แสดงปาฏิหาริย์ลอยน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอกเสริมหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะที่เห็นในปัจจุบัน

แต่เดิมหลวงพ่อพุทธโสธรประทับอยู่ในโบสถ์หลังเก่าที่มีขนาดเล็ก รวมกับพระพุทธรูปอื่นๆ 18 องค์ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2509 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯเสด็จพระราชดำเนินมาที่วัดแห่งนี้ มีพระราชปรารภเรื่องความคับแคบของพระอุโบสถเดิม พระพรหมคุณาภรณ์ (จริปุณโญ ด. เจียม กุลละวณิชย์) อดีตเจ้าอาวาสจึงได้รวบรวมเงินบริจาคเพื่อจัดซื้อที่ดินสำหรับสร้างพระอุโบสถหลังใหม่

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานการสร้าง และทรงเป็นผู้กำกับดูแลงานสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ พ.ศ. 2531 และทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ น้ำหนัก 77 กิโลกรัม ประดิษฐานเหนือยอดมณฑป เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จมาทรงตัดหวายลูกนิมิต เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2549
การก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ สร้างขึ้นครอบพระอุโบสถหลังเดิม โดยใช้เทคนิควิศวกรรมสมัยใหม่ โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อพุทธโสธร และพระพุทธรูปทั้ง 18 องค์

ศิลปะภายในพระอุโบสถหลวงพ่อพุทธโสธร ประกอบด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบนับตั้งแต่พื้นพระอุโบสถ เสา ผนัง และเพดานจะบรรจุเรื่องราวให้เป็นแดนแห่งทิพย์ เป็นเรื่องราวของสีทันดรมหาสมุทร จตุโลกบาล สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พรหมโลก ดวงดาว และจักรวาล โดยตำแหน่งของดวงดาวบนเพดาน กำหนดตำแหน่งตรงกับวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2539 ณ เวลาที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธียกยอดฉัตรทองคำ

“ภาณุรัตน์”กราบศพ”ร.ต.อ.พยุง” เหยื่อโจรโต้ยิงถล่มชรบ.ยะลา

People Unity News : “จักรทิพย์” ห่วงใยครอบครัว “ร.ต.อ.พยุง” เหยื่อโจรโต้ยิงถล่ม ชรบ. เสียชีวิต ส่ง “ภาณุรัตน์” เยี่ยมบำรุงขวัญ กราบศพ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ

วันที่ 9 พ.ย.2562 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 เวลาประมาณ 00.10 น. ได้เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายลอบโจมตีป้อมยามจุดตรวจ ชรบ.ประจำหมู่บ้านทุ่งสะเดา ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้ร.ต.อ.พยุง คิดขุนทด รอง สว.กก.ซถ.2 บก.สส.จชต. และชุดคุ้มครองตำบลลำพะยา เสียชีวิต รวม 15 นายนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยครอบครัวของ ร.ต.อ.พยุง ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่สูญเสียจากเหตุดังกล่าว จึงมอบหมาย พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จตช. ให้ไปตรวจเยี่ยมและบำรุงขวัญกำลังใจให้กับทางครอบครัวผู้สูญเสีย

ขณะที่พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จตช. จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จตร.(สบ 8) ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปตรวจเยี่ยม

และวันนี้ (9พ.ย.) เวลาประมาณ 14.00 น. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ จตร.(สบ 8) พร้อมด้วย พ.ต.อ.รังษี มั่นจิตร ผกก.ซถ.2 และ พ.ต.ท.อับดุลฮาลีม ดือเร๊ะ สว.กก.ซถ.2 บก.สส.จชต. ผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.พยุง จึงได้เดินทางมาที่วัดลำใหม่ อ เมือง จว.ยะลา เพื่อกราบศพ ร.ต.อ.พยุง คิมขุนทด และมาเยี่ยมบำรุงขวัญนางพนิตนารถ คินขุนทด ภรรยาของ ร.ต.อ.พยุง และครอบครัวเพื่อให้กำลังใจ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวยืนยันว่า ผู้บังคับบัญชาของ ตร. มีความห่วงใยครอบครัวของข้าราชการตำรวจที่สูญเสียและจะดูแลสวัสดิการให้เป็นไปตามสิทธิ พร้อมนี้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่งด้วย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

“พุทธิพงษ์”เตรียมนำระบบ 5G-AI หนุนส่งยาถึงบ้านประชาชน

People Unity News :  “พุทธิพงษ์”เตรียมนำระบบ 5G-AI หนุนงานสาธารณสุข ส่งยาถึงบ้านประชาชน

วันที่ 9 พ.ย.2562 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยก่อนบรรยายในงานประชุมเภสัชกรรมแห่งชาติ ครั้งที่10 ว่า ช่วงนี้เป็นยุคเปลี่ยนที่เรียกว่านวัตกรรมที่เปลี่ยนไปของเทคโนโลยี ซึ่งคนที่ทำงานในเครือข่ายสายงานเภสัชต้องมีความตื่นตัวในเรื่องที่จะรับรู้และนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับสายอาชีพ และต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิตอล

“ทางกระทรวงจะนำเอาทั้ง 5 จี และระบบ AI ดิจิตอลต่างๆแพลตฟอร์ม บิ๊กดาต้า ของกระทรวงสาธารณสุขมาประสานงานและเดินหน้าไปด้วยกัน เช่น เรื่องการรับยาของหมอในกรณีที่ประชาชนต่างจังหวัดจะต้องรับยาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาลเพื่อรับยา ถ้ามีระบบที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันได้ โรงพยาบาล เภสัช คลีนิคต่างๆสามารถจ่ายยาให้กับประชาชนได้เลยโดยไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาล ลดค่าใช้จ่าย ลดเวลา ซึ่งต้องบูรณาการร่วมกับคมนาคมและการสื่อสารที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ห่างไกล ซึ่งประชาชนที่อยู่ห่างไกล”

 

ตั้มแปดริ้วแจกฟรี! พระหลวงพ่อพุทธโสธร 3,000 องค์ พิธีต้อนรับขบวนแห่หลวงพ่อพุทธโสธรทางน้ำ

People Unity News : ตั้มแปดริ้วแจกฟรี! พระหลวงพ่อพุทธโสธร 3,000 องค์ พิธีต้อนรับขบวนแห่หลวงพ่อพุทธโสธรทางน้ำ วันที่ 10 พ.ย.2562

หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ซึ่งด้วยบุญญาภินิหารของท่านได้คุ้มครองชาวจังหวัดฉะเชิงเทราให้อยู่เย็น เป็นสุขมาช้านาน

การจัดงานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธรจึงได้จัดต่อเนื่องกันมานับร้อยปี จนกลายเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา ภายในงาน ชมขบวนแห่องค์พระพุทธโสธรอย่างยิ่งใหญ่ทั้งทางบกและทางน้ำ พร้อมร่วมนมัสการหลวงพ่อโสธร เพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น การแข่งเรือยาวประเพณี การออกร้านกาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา การออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก ของดีเมืองแปดริ้ว การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง โดยกำหนดวันจัดงานดังนี้

วันที่ 8 พ.ย. 2562 เวลา 05.19 น. เป็นต้นไป พิธีการบวงสรวงสถานที่สำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ องค์หลวงพ่อพุทธโสธร, ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง, พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5, กรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลปราจีนบุรี เวลา 07.00 เป็นต้นไป ชมขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางบก

วันที่ 9 พ.ย. 2562 เวลา 14.00 น. รับกฐินพระราชทาน ณ พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร

วันที่ 10 พ.ย. 2562 เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ เริ่มจากท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร สู่อำเภอบางปะกง เวลา 17.30 น. ชมมหกรรมดนตรีไทย เวลา 18.00 น. ชมมหรสพสมโภช ลิเก งิ้ว งานประจำปีหลวงพ่อโสธร

วันที่ 11 พ.ย. 2562 เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป ขบวนแห่หลวงพ่อโสธรทางน้ำ เริ่มจากท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร สู่อำเภอบางคล้า เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ชมการแข่งขันเรือพาย ณ ริมแม่น้ำบางปะกง วัดโสธรวรารามวรวิหาร เวลา 18.00 น. ลอยกระทง และชมมหรสพสมโภช ลิเก งิ้ว งานประจำปีหลวงพ่อโสธร

วันที่ 12 พ.ย. 2562 เวลา 18.00 น. ชมมหรสพสมโภช ลิเก งิ้ว งานประจำปีหลวงพ่อโสธร

ในงานนมัสการหลวงพ่อโสธรปี 2562 นี้ นายกิตติ พจนานุภาพ หรือ ตั้ม 8 ริ้ว นายกสมาคมจิตรางค์คนางค์อนุรักษ์พระเครื่องไทย ได้เคยบอกไว้ว่า ไม่สามารถแจกพระของหลวงปู่ทิมให้กับคนทั้งประเทศได้ แต่ท่านสามารถสร้างพระที่มีมวลสารจากวัตถุมงคล ของหลวงปู่ทิม เพื่อแจกให้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้บูชาได้ ดังนั้นจึงมีการรวมบุญร่วมสร้าง หล่อพระหลวงพ่อโสธร เพื่อให้ประชาชนได้นำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ในพิธีการหล่อ “พระหลวงพ่อพุทธโสธร รุ่น อยู่ ดี มี สุข” นายอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ให้เกียรตอมาเป็นประธานในพิธี ในการเททองหล่อพระ โดยมีนายสินชัย แทนศร นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้จัดสร้าง เพื่อแจกให้ประชาชนผู้ที่มาร่วมงานพิธี ต้อนรับขบวนแห่ หลวงพ่อพุทธโสธรทางน้ำ

ในวันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2562 จะมีการแจก หลวงพ่อพุทธโสธร รุ่น อยู่ ดี มี สุข สร้างทั้งหมดเพียง 3,000 องค์ เท่านั้น

พระที่มาสวดในพิธีนำโดยเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส หรือวัดบางขุนพรม

“พระหลวงพ่อพุทธโสธร รุ่น อยู่ ดี มี สุข” ที่ตั้มแปดริ้ว ได้นำเป็นชนวนมวลสารในการหล่อพระ มีดังนี้

– พระกริ่งชินบัญชรก้นอุดผงพรายกุมาร

– เหรียญเสมา 8 รอบ หลวงปู่ทิม อิสริโก

– พระนาคปรกไตรมาสหลวงปู่ทิม 2518

– เหรียญเสมาหลวงพ่อโสธร 2509

ชนวนมวลสาร หลวงพ่อ ณโอ่งหลวงพ่อณะโอ่ง สำนักปฎิบัติธรรมบ้านยุบพริก ต.บ่อนอก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่านได้เมตตา ให้แผ่นยันต์ชนวน ปลุกเสกมานานหลายพรรษา จำนวน 7 แผ่น โดยแต่ล่ะแผ่นจะมีพุทธคุณพิเศษที่แตกต่างกันไป 1. ยันต์คู่ชีวิต เอาไว้เพื่อส่งเสริมฤทธิ์อำนาจ และเพื่อเสริมดวงชะตา 2.ยันต์พระเจ้า 16 พระองค์เป็นยันต์คงกระพันชาตรี 3. ยันต์เกราะเพชร 4.ยันต์ จตุโลก รวมถึงหลวงพ่อณะโอ่งท่านได้เมตตาที่จะมาร่วมปลุกเสก พระร่วมกับเกจิ ท่านอื่นๆ ในวันงานพิธี

นอกจากนี้แล้วนายเทศมนตรี ตำบลท่าสะอ้านได้นำเสือหลวงพ่อแก่ วัดบางผึ้ง แผ่นทองแดงเกจิอาจารย์ รวมถึงชนวนมวลสารในพิธี ยอดเกศพระอมตมงคลรังสีบางขุนพรมหน้าตัก 69นิ้ว ปี 57 ชนวนพระหลายรุ่น วัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรม) เหรียญรุ่นแรกวัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรม)

ในการจัดสร้าง “พระหลวงพ่อพุทธโสธร รุ่น อยู่ ดี มี สุข” เป็นความตั้งใจที่ตรงกันของตั้มแปดริ้ว นายกเทศมนตรี นายกเทศบาลทำบลท่าสะอ้าน ที่จะทำวัตถุมงคลเพื่อแจกจ่ายประชาชน

ขอเรียนเชิญแฟนเพจทุกท่าน มาร่วมงานในครั้งนี้อเข้าดูรายละเอียดได้ที่….

กราบสวัสดีแฟนเพจทุกท่านตามเจตนา ที่ท่านนายกกิตติได้เคยบอกกับแอดมินไว้ว่าท่านนายยกกิตติ…

โพสต์โดย เจ้ากรมหลวงปู่ทิม – นายกกิตติ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2019

วันลอยกระทง!กรมควบคุมโรคแนะนำวัยรุ่นคู่รักให้รู้จักป้องกันการมีเพศสัมพันธ์

People Unity News : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ให้ระมัดระวังอุบัติเหตุจากการจมน้ำ ผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กลงไปเก็บกระทงหรือปล่อยเด็กเล็กอยู่ตามลำพัง เพราะอาจเสี่ยงจมน้ำเสียชีวิตได้แม้ระดับน้ำลึกเพียง 2-3 นิ้ว และอุบัติเหตุจากการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ พลุ พร้อมแนะวัยรุ่นคู่รักให้รู้จักป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ในค่ำคืนวันลอยกระทง

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันลอยกระทงปีนี้ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งในแต่ละพื้นที่จะมีการจัดกิจกรรมตามประเพณี และจะมีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน โดยทุกปีจะพบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในค่ำคืนวันลอยกระทง จากข้อมูลของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เฉพาะช่วงลอยกระทง 3 วัน (ก่อนวันลอยกระทง วันลอยกระทง และหลังวันลอยกระทง) ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (ปี 2557-2561) พบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำรวม 166 ราย (เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 29 ราย) โดยในปี 2561 เพียงปีเดียว พบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 26 ราย (เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จำนวน 5 ราย) และบางรายอาจได้รับอุบัติเหตุจากการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ พลุ ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย ดังนั้น กรมควบคุมโรค จึงขอเตือนประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ ขอให้ระมัดระวังอุบัติเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ ขอแนะนำวัยรุ่นคู่รักที่มักควงคู่กันออกมาลอยกระทงให้รู้จักป้องกันการมีเพศสัมพันธ์

คำแนะนำในการป้องกันการจมน้ำ ให้ยึดหลัก 3 อย่า คือ 1.อย่าใกล้: อย่ายืนใกล้ขอบบ่อ 2.อย่าเก็บ: อย่าลงน้ำไปเก็บเงินในกระทง 3.อย่าก้ม: อย่าก้มไปลอยกระทง โดยผู้ปกครองควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดไม่ให้คลาดสายตา และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อนำเด็กเข้าใกล้แหล่งน้ำ โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ต้องอยู่ในระยะที่แขนเอื้อมถึง ไม่ปล่อยให้เด็กไปลอยกระทงกันเองตามลำพังแม้จะอยู่บนฝั่งเพราะอาจพลัดตกหรือลื่นได้ รวมถึงในกะละมังหรือถังน้ำด้วย และไม่ควรให้เด็กลงเก็บกระทงหรือเก็บเงินในกระทงเด็ดขาด เพราะเด็กอาจเสี่ยงจมน้ำและเสียชีวิตได้ ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และลงน้ำ หากมีการโดยสารเรือให้สวมเสื้อชูชีพทุกครั้งทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

นายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับคำแนะนำในการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ เพื่อความปลอดภัย ควรปฏิบัติดังนี้ 1.ไม่จุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ใกล้วัตถุไวไฟหรืออาคารบ้านเรือน ไม่เล่นผาดโผน อาจเสี่ยงเกิดการระเบิดได้ 2.ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กนำประทัด ดอกไม้ไฟมาจุด 3.หากจำเป็นต้องใช้ในงานพิธี ควรอ่านคำแนะนำก่อน และควรจุดให้ห่างจากตัวประมาณ 1 ช่วงแขน 4.ห้ามพยายามจุดประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุที่จุดแล้วไม่ติดอย่างเด็ดขาด 5.ไม่เก็บประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุไว้ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง หรือที่มีอากาศร้อน แดดส่องถึง เพราะอาจเกิดการเสียดสีและระเบิดได้ 6.ควรเตรียมภาชนะบรรจุน้ำไว้ใกล้ๆ ไว้ใช้กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน 7.ห้ามประกอบหรือดัดแปลงประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุไว้จุดเองเด็ดขาด 8.ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 อย่างเคร่งครัด และ 9.หากเกิดอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อนิ้วหรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งขาดจากแรงระเบิด ให้รีบห้ามเลือดบริเวณที่อวัยวะขาด โดยใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผล และพันบาดแผลให้แน่นเพื่อป้องกันเลือดออก ไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัดเหนือแผลเพราะจะทำให้เส้นประสาทหรือหลอดเลือดเสียหายได้ และรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร. 1669

นอกจากนี้ ขอแนะนำกลุ่มวัยรุ่นให้มีสติ รู้จักป้องกันการมีเพศสัมพันธ์อย่างถูกวิธี ดังนี้ 1.ควรหาวิธีปฏิเสธหรือต่อรอง เมื่ออยู่ในสภาวะที่ไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์หรือเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย 2.หากหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดโรค หรือการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อม 3.ระมัดระวังและไม่ควรไว้ใจผู้อื่นง่ายๆ ควรไปลอยกระทงเป็นกลุ่มไม่ไปในพื้นที่ล่อแหลมสุ่มเสี่ยง อย่าเปิดโอกาสที่จะอยู่ด้วยกันสองต่อสอง 4.ไม่ควรพิสูจน์ความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ เพราะการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวนี้ อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้อเอชไอวี การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์อันจะนำไปสู่ปัญหาการทำแท้ง ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมและสังคมตามมา

“รมว.พม.”เร่งแก้ปัญหาค้ามนุษย์หวังไทยถึงเทียร์ 1 ย้ำต้องทำงานให้หนัก

People Unity News : “จุติ ไกรฤกษ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  เร่งแก้ปัญหาค้ามนุษย์หวังไทยถึงเทียร์ 1 ย้ำต้องทำงานให้หนัก 

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับและติดตามการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามค้ามนุษย์ ว่า หน่วยราชการของไทยทำได้ดีกว่าที่เราคาดไว้ ซึ่งในเรื่องสถานการณ์การค้ามนุษย์ หรือ ทิปรีพอร์ต ที่สหรัฐอเมริกามีความกังวล เราสามารถตอบคำถามได้โดยมีหลักฐานชัดเจนและอธิบายได้ ส่วนในที่ประชุมวันนี้ได้เร่งรัดคดีที่ยังค้างอยู่และขอรับทราบความคืบหน้าจากองค์กรเอกชนและภาคประชาชน โดยที่ประชุมได้รวบรวมประเด็นและข้อห่วงใยส่งให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามค้ามนุษย์แห่งชาติ และสั่งการให้ในที่ประชุมรายงานขั้นต้นให้เสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค. 62 ส่วนในข้อกังวลประเด็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐก็ดีกว่าที่คิดไว้

“เราตั้งใจจะทำให้สถานะประเทศไทยดีกว่านี้ และมีอีกหลายอย่างที่เราต้องปรับปรุง สำหรับผมนั้นพยายามฟังองค์กรภาคประชาชนและภาคเอกชน เสมือนกับเขาเป็นกระจกเงา อะไรที่เราคิดว่าควรต้องปรับปรุงแก้ไข เราก็จะจัดลำดับความสำคัญและจะรีบทำก่อน คาดหวังว่าจะถึงเทียร์ 1 เราจะไม่ฝันแต่ต้องทำงานให้หนัก” นายจุติ กล่าว

“อนุทิน”เผยนานาชาติชื่นชมระบบ สธ.ไทย

People Unity News : “อนุทิน”รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้อนรับผอ.องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน เผยนานาชาติชื่นชมระบบ สธ.ไทย

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ให้การต้อนรับนายแอนโตนิโอ วิตอรีโน (Antonio Vitorino)ผอ.องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน และคณะ เนื่องในโอกาสมาเยือนประเทศไทย โดยใช้เวลาหารือประมาณ 20 นาที

นายอนุทิน กล่าวว่า ผอ.องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ได้แสดงความชื่นชมประเทศไทย ซึ่งให้การดูแลแรงงานต่างชาติ และชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะด้านการดูแลสุขภาพ และการรักษาพยาบาล ซึ่งทางยูนีเซฟ ก็เคยชื่นชมในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ ระบบบริการสุขภาพของไทย ไม่เป็น 2 รองใคร ต้องขอบคุณ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลเรื่องการต่างประเทศ วันนี้ การสาธารณสุขของไทยมีชื่อเสียง และเป็นแบบอย่างให้หลายประเทศ

เมื่อถามถึงความคืบหน้าเรื่องการหาสารทดแทน 3 สารพิษที่ถูกแบน นายอนุทิน กล่าวว่า จะเป็นสารอะไรก็ได้ ขออย่ามีปัญหากับสุขภาพของประชาชน ใช้แล้วไม่เกิดโรค เกิดแผล เพราะถ้ามีผลกระทบแบบเดิมอีก ก็ต้องแบน กระทรวงสาธารณสุขมีแลบของกรมการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ คณะกรรมการอาหารและยา ดังนั้น อะไรที่เป็นอันตราย รับรองว่าตรวจพบแน่ และถ้าพบ ก็ต้องเจอดี

Verified by ExactMetrics