วันที่ 3 พฤษภาคม 2024

“ดีอีเอส”ผนึกกำลังมหิดลดันร่างหลักการและแนวทางเชิงจริยธรรม AI

People Unity : “ดีอีเอส” ผนึกกำลังมหิดล ผลักดันร่างหลักการและแนวทางเชิงจริยธรรม หวังพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์(AI)ที่ยั่งยืน เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างก้าวหน้า

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES)จับมือนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยมหิดล ผสานมุมมองและประสบการณ์ระดับโลกจากเอกชน โดยไมโครซอฟท์ ร่วมวางรากฐานเพื่ออนาคตของประเทศไทยในยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์ (AI) มุ่งสรรสร้างสังคมไทยและเทคโนโลยีอัจฉริยะ เสริมศักยภาพให้กัน ภายใต้หลักจริยธรรม เป็นก้าวแรกในการสร้างความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และมั่นคงปลอดภัยของระบบ AI

วันที่ 21 ต.ค.2562 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ยุทธศาสตร์ชาติได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทยได้เดินหน้า พัฒนาศักยภาพต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน สำหรับด้านยุทธศาสตร์การสร้างความสามารถทางการแข่งขัน คณะกรรมการฯ ได้บรรจุเป้าหมายยุทธศาสตร์ที่ 2 อันว่าด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมและบริการดิจิทัล ข้อมูลต่างๆ และปัญญาประดิษฐ์ให้เป็นปัจจัยสาคัญที่ขับเคลื่อนความแข็งแกร่งทาง เศรษฐกิจและสังคม ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างศักยภาพและภูมิปัญญาของคนไทยไปพร้อมกัน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นำโดยนางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญในการปูรากฐานเชิงนโยบายและแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เป็นไปในรูปแบบที่คานึงถึงบริบททางสังคมและจริยธรรม รักษาไว้ซึ่งโอกาสในการเติบโตและพัฒนา ของแรงงานคนไทย พร้อมป้องกันไม่ให้เกิดการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ในรูปแบบที่เอนเอียง ไม่เป็นธรรม และยับยั้งการนาเทคโนโลยีนี้มาใช้ในทิศทางที่ผิดต่อจริยธรรมเป็นภัยต่อเพื่อนมนุษย์ จึงได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นผู้ร่างเอกสารหลักการและแนวทางจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ “Digital Thailand – AI Ethics Guideline” ขึ้น เพื่อเป็นแนวทางสาหรับทั้งผู้วิจัย ผู้ออกแบบ ผู้พัฒนา และผู้ให้บริการผู้ปัญญาประดิษฐ์ ทั้งยังเป็น การชี้แจงให้ผู้รับบริการได้ทราบถึงสิทธิและความเสี่ยงในการใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าว จึงถือเป็นก้าวแรกในการสร้าง ความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และมั่นคงปลอดภัยให้ระบบปัญญาประดิษฐ์ได้ ยู่ร่วมกับสังคมไทยอย่างลงตัว

นายพุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับร่างเอกสารหลักการและแนวทางจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือ “Digital Thailand – AI Ethics Guideline” ได้ผ่านการนาเสนอสู่สาธารณชนและสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในวันนี้ (21 ตุลาคม 2562) โดยกระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล และภาคเอกชนในการสร้างร่างเอกสาร ดังกล่าวขึ้น เพื่อวางแนวทางในขั้นแรกเริ่มในด้านหลักการทางจริยธรรมสาหรับปัญญาประดิษฐ์ โดยสามารถแยก แนวทางนี้ออกได้เป็น 6 ประการ ได้แก่

1) ความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะต้องได้รับ การส่งเสริมความการใช้ประโยชน์ในหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างการแข่งขันและ พัฒนานวัตกรรม พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน 2) ความสอดคล้องกับกฎหมาย จริยธรรม และ มาตรฐานสากลกาหนดให้มีแนวทางการปฏิบัติในการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ ให้มีความสอดคล้องกับกฎหมาย จริยธรรม และมาตรฐานสากล โดยเคารพต่อความเป็นส่วนตัว เกียรติ สิทธิเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน

3) ความ โปร่งใสและภาระความรับผิดชอบ ควรมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้ พร้อมทั้งจะต้องมีภาระ ความรับผิดชอบ ต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นตามภาระหน้าที่ของตนได้ 4) ความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ควรได้รับการออกแบบให้มีความมั่นคงปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีจากภัยคุกคาม เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูลและระบบ รวมถึงการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล ตามหลักจริยธรรม 5) ความเท่าเทียม หลากหลาย ครอบคลุม และเป็นธรรม ควรมีการออกแบบและพัฒนาโดยคานึงถึง ความเท่าเทียม หลากหลาย ครอบคลุม และความเป็นธรรม หลีกเลี่ยงการผูกขาด ลดการแบ่งแยกและเอนเอียง เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คนจานวนมาก และ 6) ความน่าเชื่อถือ ควรได้รับการสนับสนุนให้มีความน่าเชื่อถือและความมั่นใจในการใช้งานต่อ สาธารณะ โดยมีผลลัพธ์อย่างถูกต้องแม่นยา พร้อมการดาเนินการควบคุมคุณภาพและความครบถ้วนสมบูรณ์ของ ข้อมูลได้

พม.จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี

People Unity News : พม.ร่วมกับสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทยฯ จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี เร่งสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวเพื่อต่อสู้กับความรุนแรง “จุติ” เร่งจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ลั่น!งวดหน้าไม่ต้องรอถึงรอบจ่าย

วันนี้ 11 พ.ย. 62 เวลา 08.30 น. ที่ห้องกรุงธนบอลรูม ชั้น 3 โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ร่วมกับสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ภายใต้แนวคิด “ประสานรัก ประสานใจ ครอบครัวไทยไร้ความรุนแรง”

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “มาตรการการส่งเสริมและป้องกันการเกิดความรุนแรงในครอบครัว” ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย เด็ก และเยาวชน บุคคลในครอบครัวจากชุมชนกรุงเทพมหานคร 50 เขต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ผู้นำชุมชน องค์กรสตรี และประชาชนทั่วไป จำนวน 400 คน

นายจุติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี สำหรับประเทศไทย มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2542 ซึ่งกำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น “เดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี” เพื่อมุ่งเน้นที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ กระทรวงพม. ร่วมกับสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ดำเนินการจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ในครั้งนี้นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งและเป็นการประสานความร่วมมือเพื่อร่วมรณรงค์ ยุติความรุนแรงให้บุคคลในสังคมให้ได้รับความรู้ มีความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ และมีส่วนร่วมในการรณรงค์ยุติความรุนแรงในครอบครัวและสังคม อันจะส่งผลให้บุคคลในสังคมปราศจากความรุนแรงในทุกรูปแบบ สังคมมีความเข้มแข็ง มีครอบครัวที่อบอุ่น และมีสัมพันธภาพที่ดีของครอบครัว

“การจัดงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ภายใต้แนวคิด “ประสานรัก ประสานใจ ครอบครัวไทยไร้ความรุนแรง” ในวันนี้ นับเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่กระทรวง พม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยกระตุ้นให้คนในสังคมมีความรู้ และมีความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา และร่วมกันเป็นพลังในการยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว จนก่อให้เกิดกระแสสังคมในการ ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรง” นายจุติ กล่าว

นายจุติ กล่าวภายหลังด้วยว่า เราจะสร้างครอบครัวให้เข้มแข็งเพื่อต่อสู้กับความรุนแรงในครอบครัว ครอบครัวที่เข้มแข็งจะเป็นพลังสำคัญเพื่อชาติต่อไปในอนาคต สังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องช่วยกันสร้าง เราควรหันมาให้ความรัก ความสนใจความเอาใจใส่กับคนรอบข้าง คนในครอบครัว ถ้าเรามีความรัก ความเมตตา ให้อภัยซึ่งกันและกัน เราก็จะมีความสุขกันถ้วนหน้า ตนมีความตั้งใจจะทำงานร่วมกันกับกระทรวงศึกษา พม.จะจับมือกันกับครูตามโรงเรียนต่างๆ ที่จะไปสำรวจเด็กนักเรียนในห้องไปดูและสังเกตความผิดปกติตั้งแต่เริ่มต้นจะได้แก้ไขได้ทัน ในขณะเดียวกันจะให้ความรู้กับสตรีทั่วประเทศทั้ง 76 จังหวัด หลังจากนั้นเราจะช่วยกันสร้างสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็งต่อไป

“เราจะต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย ความรุนแรงในครอบครัว และยาเสพติด จะช่วยกันทำให้ครอบครัวมีภูมิคุ้มกันมีความรัก ความเมตตาต่อกันและกัน ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ท่านทรงให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ก็จะเป็นพลังผลักดันพวกเราในเรื่องนี้ด้วย ให้เดินหน้าอย่างมั่นคงและมีกำลังใจ” นายจุติ กล่าว

เร่งจ่ายเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ลั่น!งวดหน้าไม่ต้องรอถึงรอบจ่าย

ที่ สถาบันการพัฒนาความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ต.เกาะพลับพลา  อ.เมือง จ.ราชบุรี นายจุติ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 ระหว่างวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2562 โดยมีกลุ่มผู้สูงอายุ และประชาชนชาวจังหวัดราชบุรี จำนวนกว่า 400 คน ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ มหกรรมการขับเคลื่อนงานสวัสดิการด้านสังคมในพื้นที่ พบปะรับฟังเสียงประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ของ จ.ราชบุรี

นายจุติ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงมาเยี่ยมและรับฟังความคิดเห็นของชาวราชบุรี มีหลายองค์กรที่ทำงานด้านสังคมช่วยและร่วมกันทำงาน รัฐบาลมีความมุ่งมั่นและตั้งใจดีในการทำงานเพื่อทุกคน ในส่วนผู้ที่มีรายได้น้อยก็จะช่วยให้ยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง ในส่วนอาสาสมัครสังคมก็จะต้องได้รับการพัฒนาศักยภาพในทุกมิติ เพื่อเป็นกำลังสำคัญและเป็นพี่เลี้ยงให้กับสังคมราชบุรีให้เดินก้าวหน้าต่อไป

“ผมคิดว่าวันนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการพัฒนาทุนมนุษย์ เพราะทุนมนุษย์เป็นต้นทุนที่สำคัญ ถ้าคุณมีความแข็งแกร่ง ครอบครัวมีความสุขมั่นคง สังคมจะมีความแข็งแกร่ง ประเทศก็จะมีความก้าวหน้าและสามัคคีพร้อมที่จะเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายจุติกล่าว

นายจุติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดที่ยังมีรายชื่อบางส่วนตกหล่น ทำให้ทางกระทรวงเร่งตรวจสอบข้อมูลและทยอยแก้ไขให้เร็วที่สุด ว่า มันมีปัญหาเนื่องจากมีการเปลี่ยนเกณฑ์ จากเดิมผู้ที่ได้รับเงินมีจำนวนน้อยขณะนี้ได้เพิ่มเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นมีความจำเป็นในการที่จะต้องเอาข้อมูลเข้าระบบ เพื่อเงินที่จ่ายจะได้ถึงประชาชนโดยตรง ป้องกันการทุจริต มีความโปร่งใส ดังนั้นจำเป็นต้องกรอกข้อมูลถึง 59 ข้อต่อคน (จากเดิม 79 ข้อ) จึงมีความยากลำบากในการทำงานพอสมควร ทำให้เกิดความล่าช้า แต่ตนเชื่อมั่นว่าเมื่อกรอกข้อมูลเข้าระบบเสร็จแล้ว ทุกอย่างจะเดินหน้าไปโดยไม่ติดขัด

ในส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด นายจุติ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ประชุมกับ พม.ทุกจังหวัด ทุกหน่วยงานระดมเจ้าหน้าที่จากส่วนต่างๆ มาช่วยทำตรงนี้อย่างเดียว เชื่อว่าจะทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้จากปกติเงินจะออกทุกวันที่ 10 แต่ถ้าทำข้อมูลล็อตตกค้างเสร็จ ทาง พม.จะเร่งจ่ายเงินแก่ผู้ปกครองโดยไม่ต้องรอถึงรอบจ่าย

“บิ๊กป้อม”ถก กกท.และสมาคมกีฬาฯ ตั้งเป้าเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์

People Unity : พล.อ.ประวิตรเรียกประชุม มอบนโยบาย กกท.และสมาคมกีฬาฯมุ่งความเป็นเลิศสู่ระดับนานาชาติ ตั้งเป้าเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์

เมื่อ 28 ต.ค.2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าเวลา 11.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงานด้านกีฬาร่วมกันระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทยกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยโดยมี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาเข้าร่วมประชุม ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ

พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายโดยเน้นย้ำให้สมาคมกีฬาฯ ซึ่งมีถึง 84 สมาคม จะต้องนำนโยบายด้านการกีฬาเพื่อไปใช้เป็นแนวทางกำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทยทั้งนี้การกีฬาแห่งประเทศไทยถือเป็นองค์กรหลักในการ บูรณาการขับเคลื่อนเพื่อความเป็นเลิศสู่ระดับนานาชาติ ต่อยอดสู่ความเป็นอาชีพและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ จะต้องมีแผนงานโครงการสอดคล้อง เชื่อมโยงกับแผนระดับชาติมุ่งเน้นด้านโครงสร้างและพัฒนาศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่เป็นมาตรฐาน มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ รวมถึงการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา พัฒนาบุคลากรการจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ให้เพียงพอและทันสมัย

พล.อ.ประวิตร ขอให้รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาฯ กำชับและกำกับดูแล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนงานในความรับผิดชอบไปสู่เป้าหมายที่กำหนดตามนโยบายของรัฐบาล อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวสู่เวทีระดับโลก และตั้งเป้าหมายเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งนี้ให้ได้

ดร.วันดีร่วมทอดกฐินสามัคคี หล่อพระนำไปประดิษฐานวัดวังชิลโลภูฏาน

People Unity News : ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ร่วมงานทอดกฐินสามัคคีและเป็นประธานหล่อพระพุทธรูปปรางค์สะดุ้งมาร หน้าตัก 40 นิ้ว นำไปประดิษฐานวัดวังชิลโล ประเทศภูฏาน

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ร่วมงานทอดกฐินสามัคคี และเป็นประธานหล่อพระพุทธรูป ณ วัดพระศรีอารย์ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปรางค์สะดุ้งมาร ขนาดหน้าตัก 40 นิ้ว เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วัดวังชิลโล ประเทศภูฏาน ด้วยตระหนักว่าสตรีมีบทบาทหลายประการ เป็นแม่ของลูก มีบทบาทในการพัฒนาประเทศ และผู้หญิงมีความสวยงาม ซึ่งตรงกับประเทศภูฏานซึ่งเป็นประเทศที่มีความสวยงาม

ดังนั้นการหล่อพระพุทธรูปในวันนี้และวัดพระศรีอารย์นี้ เพื่อต้องการยกย่องสตรีไทยที่มีความสวยงามทั้งกิริยา มารยาท วาจาไพเราะอ่อนหวาน มีคุณธรรม จริยธรรม และมีความเป็นผู้นำ ซึ่งเข้ากับยุคพระศรีอารย์ แต่ทางวัดไม่สามารถเชิญสตรีทั้งประเทศมาร่วมงานพิธีหล่อพระพุทธรูปได้ ทางวัดจึงได้กำหนดเชิญ ดร.วันดี ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของสตรีทั้งประเทศ เพื่อนำพลังแห่งความงดงามของสตรีไทยร่วมในพิธีดังกล่าว

วัดพระศรีอารย์ ก่อสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2275 ช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา มีอายุกว่า 280 ปีมีโบสถ์ทองคำที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันก่อสร้างใช้เวลากว่า 37 ปี โดยท่านพระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้เยาวชนสามารถแสดงปาฐกถา บรรยายธรรม จัดค่ายพุทธบุตร เพื่อให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด ได้รับพระราชทานรางวัลโล่ห์ ด้านบรรยายธรรม จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นอกจากนี้ยังเป็นผู้อนุรักษ์ว่าวปั๊กเป้า ว่าวจุฬา เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมให้ยั่งยืนสืบไป

“ดร.วันดี กุญชรยงคง จุลเจริญ” รับโล่รางวัลศิษย์เก่าเกียรติยศประจำปี 2562

People Unity News : สมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทาฯ มอบโล่รางวัลให้ “ดร.วันดี กุญชรยงคง จุลเจริญ” ศิษย์เก่าเกียรติยศประจำปี 2562 จากสารพัดผลงานที่เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2562 สมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทา ในพระบรมราชินูปถัมภ์ โดย ดร.ชยภรณ์ ธนาบริบูรณ์ นายกสมาคมฯ ได้จัดพิธิมอบโล่รางวัลให้ศิษย์เก่าเกียรติยศ และศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2562 จำนวน 11 คน โดยมี ดร.วันดี กุญชรยงคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ และประธานชมรมแม่บ้านกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยได้เข้ารับรางวัลในฐานะศิษย์เก่าเกียรติยศ ประจำปี 2562 เพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ ส่วนอีก 10 คนได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2562 ณ สมาคมศิษย์เก่าสวนสุนันทา

ดร.ชยภรณ์ ธนาบริบูรณ์ นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในรอบปีที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมจำนวนมากโดยได้รับความร่วมมือร่วมใจจากศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันเป็นอย่างดี สำหรับ การจัดพิธิมอบโล่รางวัลให้ศิษย์เก่าเกียรติยศ และศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2562 ในครั้งนี้ก็เพื่อเชิดชูศิษย์เก่าที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคมจนเป็นที่ประจักษ์ และต้องการให้มีกำลังใจในการทำงานเพื่อสังคมและเพื่อชื่อเสียงของสมาคมฯ ต่อไป

สำหรับ ดร.วันดี กุญชรยงคง จุลเจริญ ถือเป็นบุคคลที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ทางสังคมและสาธารณะประโยชน์ โดยเฉพาะบทบาทในฐานะประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมรมราชินูปถัมภ์ ได้มีผลการดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและสนองพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ การส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรสตรีทั่วประเทศ การเชิดชู ส่งเสริม สนับสนุน วันสตรีไทยในทุกปี มีการคัดเลือกสตรีไทยดีเด่น และเยาวสตรีไทยดีเด่น

นอกจากนั้น ยังร่วมมือและประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อสตรีและสังคม โดยเฉพาะร่วมมือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการขับเคลื่อนงานสตรี การจัดกิจกรรมยกระดับความเป็นอยู่ สถานภาพและสมรรถภาพของสตรีไทย เช่น โครงการตามรอยผ้าไทยลมหายใจแม่ของแผ่นดินสัญจร 4 ภาค

สำหรับ บทบาทที่สำคัญอีกประการคือ เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายรณรงค์หาทุนการศึกษามูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดหารายได้พัฒนาเยาวชนโดยให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนผู้ด้อยโอกาสทุกอำเภอ ทุกสังกัดทุกระดับการศึกษาทั่วประเทศปละละประมาณ 3,000 ทุน เป็นเงินปีละประมาณ 10 ล้านบาท ด้วยคุณสมบัติที่แสดงถึงความรู้ ความสามารถและคุณธรรม ตลอดจนประสบความสำเร็จในการประกอบสัมมาอาชีพ และปฎิบัติตนเป็นแบบอย่างแก่เยาวชนของชาติและบุคคลทั่วไป จึงถือเป็นศิษย์เก่าเกียรติยศที่ทำประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติเป็นที่ประจักษ์

“พม.”อบรมจิตอาสาพร้อมเป็น “อพม.ที่มีหัวใจ ผู้ให้”

People Unity News : “พม.”อบรมจิตอาสาพร้อมเป็น “อพม.ที่มีหัวใจ ผู้ให้” ตั้งเป้า 5 แสนคน หวังเพิ่มทักษะความชำนาญเฉพาะด้าน

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดโครงการอบรม “อพม.ใหม่” เชี่ยวชาญด้านคนพิการและผู้สูงอายุ และเป็นเครือข่ายต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ” ประจำปีงบประมาณ 2563 เพื่อเป็นการอบรมให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปที่มีจิตอาสา และสนใจเข้าร่วมเป็นอพม. ซึ่งในระยะแรกมีการดำเนินการอบรม 6 รุ่นๆ ละ 150 คน รวมทั้งสิ้น 900 คน โดยอบรมรุ่นละ 2 วัน

นายจุติ กล่าวว่า กระทรวง พม. จะมีการขับเคลื่อนนโยบายการบูรณาการงานอาสาสมัครให้เป็นหนึ่งเดียว ภายใต้นโยบาย “อ. เดียว” ที่ให้อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ช่วยเหลือคนพิการ (อพมก.) และอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (อผส.) เป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเป็นพลังสำคัญในการให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาทางสังคม และเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานจิตอาสา เพื่อการช่วยเหลือสังคม อีกทั้งร่วมกันสืบสาน รักษา ต่อยอด และสร้างสุขให้กับประชาชนในสังคมภายใต้แนวคิด “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” และเป็น “อพม. ที่มีหัวใจ ผู้ให้” โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ “สังคม ปันความสุข”

นายจุติ กล่าวด้วยว่า โครงการนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหลายกรมในกระทรวงพม. ทุกกรมได้เข้ามาร่วมกันทำงาน เพราะเราต้องการอาสาสมัครพัฒนาสังคมเป็นจำนวนมาก โดยเราจะเป็นวันโฮมคือมีหนึ่งเดียวที่เป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมไม่ได้เป็นของกรมใด แต่อยู่ที่แต่ละคนที่อยากจะทำว่ามีความชำนาญเฉพาะในด้านไหน เช่น ในเรื่องคนพิการ ผู้สูงอายุ เด็ก หรือเรื่องสตรี และเราได้มีการประเมินเพื่อเตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

“กระทรวงพม. จะเริ่มอบรมให้ทักษะความรู้กับอาสาสมัครพัฒนาสังคมทั้งประเทศ โดยตั้งเป้าไว้ ประมาณ 5 แสนคน และต้องให้เขาได้รับรู้ความเปลี่ยนแปลงของโลก รับรู้เรื่องผลกระทบจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ว่าสังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เขาจะได้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายว่า มีผลกระทบอย่างนี้จะต้องมีการจัดการกับปัญหาอย่างไร หลักที่เราพยายามให้คือให้ทุกคนมีทักษะ และสร้างอาชีพให้ทุกคนพึ่งพาตนเอง อย่าไปพึ่งระบบสงเคราะห์” นายจุติ กล่าว

นายจุติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน อพม. ที่ทำงานอยู่ขณะนี้มีประมาณ 9 หมื่นคน เรามีข้อตกลงกับ อพม. ว่าในปลายปีนี้ ขอให้ประธาน อพม. จังหวัดช่วยขยายคน โดยจะสอดคล้องกับตัวเลขของกรมกิจการผู้สูงอายุ และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการที่วิเคราะห์ไว้ว่า ถ้าจะดูแลให้ทั่วถึงได้อย่างมีคุณภาพน่าจะมีอาสาสมัครไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ซึ่งทุกอย่างเป็นจิตอาสาไม่มีค่าตอบแทน ไม่มีเงินเดือน ทุกคนที่เข้ามาร่วมมีต้นทุนที่เหมือนกันคือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ โดยหวังว่าจะเป็นสังคมที่ดีขึ้นในอนาคต

“อธิบดี พช.”ลงพื้นที่ติดตามโครงการ”หมู่บ้านคนรักษ์ช้าง”

People Unity News : “อธิบดี พช.”ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ติดตามโครงการ”หมู่บ้านคนรักษ์ช้าง” หวังลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในพี้นที่ โอกาสนี้ได้ร่วมพบปะผู้นำชุมชน และชาวบ้านเพื่อสอบถามข้อมูลและรับทราบผลกระทบจากช้างกับชาวบ้าน ณ พื้นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาว จังหวัดจันทบุรี ทั้งนี้ปัญหาระหว่างคนกับช้างในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีมีมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากจังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ข้าวโพด และพืชอื่นๆ ที่เป็นอาหารช้าง โดยช้างจะออกจากป่ามากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเกิดความเสียหายมูลค่าหลายล้านบาท

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ตามคำสั่งคณะกรรมการดำเนินงานการจัดการปัญหาเพื่อการร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้าง โดยมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานที่มีบุคลากรทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนในหมู่บ้าน ตำบล ได้ร่วมเป็นคณะทำงานในการจัดการปัญหาคนกับช้างเพื่อให้เกิดความสมดุล และอยู่ร่วมกันอย่างไม่มีปัญหา เช่น ปลูกพืชที่ช้างไม่กิน การปลูกต้นไม้เป็นแนวกันช้าง เพื่อป้องกันช้างเข้ามาทำลายพืชผักสวนครัวของชาวบ้าน โดยมอบหมายให้พัฒนาการจังหวัด และทีมงาน พช. ร่วมดำเนินการในพื้นที่ ด้วยการจัดกิจกรรมรณรงค์ และแนะนำชาวบ้านทำอาชีพเสริมนอกจากการปลูกพืช ผัก ผลไม้ เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกช่องทางหนึ่ง เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลไม้ การจักสาน และอาชีพอื่นๆ ที่สามารใช้วัสดุในพื้นที่ โดยเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป

อธิบดี พช.กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ “หมู่บ้านคนรักษ์ช้าง” มุ่งหวังที่จะป้องกัน แก้ไขปัญหาช้างป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 183 หมู่บ้าน ในพื้นที่ 5 จังหวัดป่ารอยต่อภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี และจังหวัดสระแก้ว เพื่อตอบสนองการขับเคลื่อนภารกิจตามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือโครงการฟื้นฟูแหล่งอาหารช้างป่าพื้นที่ป่าตะวันออก โดยการสร้างองค์ความรู้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนและช้างในระดับหมู่บ้าน ท่านจะได้เข้าใจพฤติกรรมของช้าง การปฏิบัติต่อช้าง การลดปัญหาความขัดแย้งกับช้าง ซึ่งผู้นำหมู่บ้านที่ประสบปัญหาจากช้างป่า จะได้นำองค์ความรู้นั้นไปขยายผลต่อในระดับหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาตามที่คณะทำงานพัฒนาชุมชนมุ่งหวังให้ชาวบ้านในพื้นที่รู้จักช้าง เข้าใจช้าง รักษ์ช้าง และสามารถอยู่ร่วมกันกับช้างได้อย่างสมดุลโดยแท้จริง

พิษยุบรวมเริ่มแล้ว! โรงเรียนตชด.อุดรฯถูกตัดน้ำไฟ

People Unity News : พิษยุบรวมเริ่มแล้ว! โรงเรียนตชด.อุดรฯถูกตัดน้ำไฟ พระมาโปรดติดโซลาร์เซลล์บรรเทาทุกข์

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 เพจพระครูวิมลปัญญาคุณ ศรีแสงธรรม ได้โพสต์ข้อความว่า โรงเรียนตชด.ห้วยหมากหล่ำ อยู่ในบ้านห้วยหมากหล่ำ ต.ทมนนางาม อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี มีนักเรียน 40 คน จากอนุบาลถึง ป.6 ตั้งมาหนึ่งปี ได้รับผลกระทบนโยบายยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก แต่ชาวบ้านไม่มีกำลังที่จะส่งลูกไปโรงเรียนรวมได้ มีปัญหามากมายพอๆ กับโรงเรียนศรีแสงธรรม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ระยะเริ่มต้นเลย อีกทั้งชุมชนไม่มีที่ทำกิน มีรายได้จากการรับจ้างไปวันๆ มีน้ำประปาก็ไม่มีค่าไฟฟ้าจ่ายโดนตัด ต้องซื้อน้ำใช้เพราะบ่อน้ำที่มีก็ใช้ไม่ได้ ทางรัฐไปสร้างเขื่อนเก็บน้ำให้ใช้ก็ยังมีกลิ่นเน่าเหม็น กรองไม่ได้ นึ่งข้าวกินไม่ได้ โรงเรียนก็ได้รับผลกระทบอันเดียวกัน กรองน้ำหลายรอบกว่าจะให้ดื่มกินได้

วันนี้จึงได้มาติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์สูบน้ำจากบ่อท้ายบ้านขึ้นไปยังหอประปาหมู่บ้านเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาด ช่วยเรื่องน้ำทำสวนเล็กๆ น้อยในแปลงอาหารกลางวันของเด็กๆ และแบ่งเบาภาระค่าน้ำค่าไฟของคนในชุมชน ระยะทางประมาณ 700 เมตร นับเป็นงานยากพอสมควรที่สูบน้ำไกลขนาดนี้ เป็นโครงการของคนบันดาลไฟที่จะได้ช่วยเหลือชุมชน โดยทีมงานช่างขอข้าวจากโรงเรียนศรีแสงธรรมมาช่วยดูแลงานระบบที่บ้านห้วยหมากหล่ำ วันนี้ข้ามมาหลายจังหวัดจากอิสานใต้ มาอิสานเหนือ อุบลราชธานีถึงอุดรธานี มาติดตั้งโซล่าร์เซลล์

“พิพัฒน์”เป็นสักขีพยาน”ททท.-อพท.” เซ็น MOU ส่งเสริมท่องเที่ยวยั่งยืน

People Unity News : รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ระหว่าง ททท. กับ อพท.

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เรื่องการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยังยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) โดยนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการ อพท. ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

มุ่งมั่นประเด็นสำคัญ ได้แก่ ยกระดับความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว (Safe) ส่งเสริมความสะอาดในแหล่งท่องเที่ยว (Clean) ส่งเสริมความเป็นธรรมในการท่องเที่ยว(Fair) และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและรักษ์สิ่งแวดล้อม (Sustainability) ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community Based Tourism) เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนดังนั้น ททท. และ อพท.จึงเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อมให้กับสินค้าการท่องเที่ยวและพัฒนาสินค้าท่องเที่ยวชุมชนให้มีศักยภาพอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

โดยชุมชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจในมิติการท่องเที่ยวมากขึ้น ในการนี้ ททท. และ อพท.จึงได้บูรณาการดำเนินงานส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม โดยมีระยะเวลาผูกพันตามข้อตกลง เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งมีขอบเขตความร่วมมือในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านส่งเสริมองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพให้ชุมชน โดยร่วมมือส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพชุมชนด้านการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ Block chain เพื่อการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขันและพัฒนาสินค้าสินค้าท่องเที่ยวชุมชนให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ด้านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ททท. ส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวพร้อมขายในโครงการทัศนศึกษาของบริษัทนำเที่ยวหรือสมาคมท่องเที่ยวทั้งในกลุ่มตลาดในประเทศและต่างประเทศ (Agent Familiarization Trip) ตามความต้องการของกลุ่มตลาด อาทิ Consumer Fair, Travel Fair และ อพท. ส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวพร้อมขายและบริษัทนำเที่ยวเพื่อสังคม เข้าร่วมงานที่ ททท.จัดขึ้นทั้งในและต่างประเทศด้านการประชาสัมพันธ์ ร่วมส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยวผ่านสื่อทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยวพร้อมขายให้อยู่ในโครงการทัศนศึกษาของสื่อมวลชน (Media Familiarization Trip)ที่ตรงตามความต้องการของตลาด

ทั้งนี้ ในปี 2563 ททท. จะดำเนินแผนงานสร้างสรรค์ พัฒนา สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่สะท้อนวิถีไทยผ่านภูมิปัญญา วิถีชีวิต กิจกรรม ประเพณี ผลิตภัณฑ์ โดยสร้างสรรค์เรื่องราวให้ประสบการณ์ที่มีคุณคำของสินค้าและบริการท่องเที่ยวในพื้นที่ 5 แห่งได้แก่ ทะเลน้อย จ.พัทลุง, ชุมชนตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี,ชุมชนบนแหลม จ.สุพรรณบุรี ชุมชนบ้านสนวนนอก จ.บรีรัมย์ และ ชุมชนบ้านสันลมจอย จ.เชียงใหม่ ททท. คาดว่าการดำเนินงานแบบบูรณาการ่วมกันนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ กระจายรายได้สู่ชุมชน ตลอดจนขับเคลื่อนอุสาหกรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

“อนุชา” เป็นประธานลงนาม MOU ช่วยผู้บริโภคได้คืนเงินจอง กรณีสินเชื่อบ้านไม่ได้รับอนุมัติ

People Unity News : อนุชา เป็นสักขีพยานร่วมลงนาม MOU ช่วยเหลือผู้บริโภคได้คืนเงินจอง กรณีสินเชื่อบ้านไม่ได้รับการอนุมัติ

วันนี้ (30 กันยายน 2563) เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) แนวทางการช่วยเหลือผู้บริโภค กรณีสถาบันการเงินไม่อนุมัติสินเชื่อเพื่อชำระค่าอสังหาริมทรัพย์ จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อผนึกกำลังของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้บริโภคด้านอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ร่วมลงนาม MOU เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะปฏิบัติตามกรอบแนวทางของ สคบ. กรณีที่ผู้บริโภคประสบปัญหาที่ทางสถาบันการเงินไม่อนุมัติสินเชื่อเพื่อชำระค่าอสังหาริมทรัพย์ เป็นผลให้เกิดการริบเงินจอง เงินทำสัญญา และเงินดาวน์สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้บริโภค โดยมี ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชนกว่า 300 คน เข้าร่วม

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีที่ภาครัฐบาลและภาคเอกชนได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม โดยเฉพาะการค้าด้านอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นผู้นำทางธุรกิจ เพราะเป็นการค้าที่มีมูลค่าสูง นับว่าเป็นธุรกิจชั้นนำที่เป็นปัจจัย 4 ที่ประชาชนต้องมี โดยความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อคุ้มครองประชาชนไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ขณะเดียวกันการช่วยเหลือเยียวยาจากผู้ค้าด้วยความเห็นอกเห็นใจ จะเป็นต้นแบบในการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบการ พร้อมกล่าวแสดงความขอบคุณภาคีเครือข่าย และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ทั้ง 13 แห่ง ที่ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นลำดับแรก แม้ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวไม่ได้มีการบังคับใช้ในรูปแบบกฎหมาย แต่ถือว่าเป็นสัญญาประชาคมที่ภาคเอกชนได้ร่วมมือกับรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง

Advertising 

Verified by ExactMetrics