วันที่ 11 พฤษภาคม 2024

“ทักษิณ” ขอความเห็นใจคนแก่วัย 75 บอกใครไม่ชอบให้ต่างคนต่างอยู่

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 มีนาคม 2567 เชียงใหม่ – “ทักษิณ” บอกอบอุ่น ได้กลับบ้านเกิดเชียงใหม่ในรอบ 17 ปี ขอความเห็นใจคนแก่วัย 75 บอกใครไม่ชอบให้ต่างคนต่างอยู่ พร้อมให้กำลังใจ นายกฯ เศรษฐา ฝ่าวิกฤติปัจจุบันที่หนักกว่ายุคต้มยำกุ้ง เชื่อเศรษฐกิจดีทุกอย่างดีตาม เปรียบกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ชี้ห่วงปัญหาฝุ่น PM 2.5 เร่งแก้และสร้างพื้นที่สีเขียว

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ว่า รู้สึกอบอุ่นดีใจ 17 ปีที่หายไปกลับมาก็คิดถึงบ้านเกิด เมืองนอน คิดถึงอาหาร วัฒนธรรม คนเก่าๆ ว่าเป็นธรรมชาติที่ทำให้เรากระชุ่มกระชวยขึ้น

ส่วนช่วงสงกรานต์จะปีนี้ มีความตั้งใจว่าจะกลับมาจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง เพราะรักในวัฒนธรรม จึงอยากกลับมา ร่วมประเพณีรดน้ำดำหัวด้วย

นายทักษิณ กล่าวว่าการกลับมาเชียงใหม่ครั้งนี้สิ่งที่อยากพัฒนาแก้ไข คือเรื่องฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาหนักที่สุด เป็นห่วงอยู่ และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ทราบปัญหาและได้รีบแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ยังมองว่าปัญหาส่วนหนึ่งคือความแห้งแล้ง อยากให้ฟื้นโดยการไม่ต้องใช้น้ำมาก จะทำให้สภาพแวดล้อมชุ่มชื้นเขียวได้ ซึ่งจะทำให้อากาศกลับมาสภาพดี ซึ่งตนเป็นห่วงเพียงเท่านี้ อย่างไรก็ตามเรื่องเศรษฐกิจก็ต้องดีด้วย ซึ่งตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ได้วางแผนที่จะฟื้นเศรษฐกิจอยู่ เพราะถ้าเศรษฐกิจดีทุกอย่างก็จะดีตาม เปรียบกับกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าท้องไม่อิ่มก็ลำบาก

เมื่อถามว่าให้กำลังใจนายกเศรษฐาเรื่องอะไรบ้าง นายทักษิณกล่าวว่า ให้กำลังใจทุกเรื่อง เพราะงานวันนี้มันยากกว่าสมัยช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง มีความซับซ้อนมากกว่า ส่วนจะให้ข้อคิดนายเศรษฐาอย่างไรในฐานะที่เคยแก้วิกฤติต้มยำกุ้งมามาก่อน นายทักษิณบอกว่าบางอย่างก็ใช้ได้บางอย่างก็ต้องเปลี่ยนเพราะโลกมันเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม นักการเมืองก็ต้องร่วมมือกับข้าราชการฝ่ายประจำ ต้องให้กำลังใจกัน

เมื่อถาม ถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้น ว่า ดราม่าก็คือดราม่า นั่นหมายความว่าเป็นเรื่องไม่จริง ส่วนกระแสป่วยจริงหรือไม่จริงในการลงพื้นที่นั้น นายทักษิณกล่าวว่าภาวะจิตใจคนเป็นเรื่องที่สำคัญ หากภาวะจิตใจแย่มันก็แย่ ทำให้บางอย่างมันรวนได้ ตอนนี้กำลังใจดีมีลูกสาว อยู่ใกล้หลาน 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่วัย 75 ยังไงก็ขอให้โปรดเข้าใจคนแก่ในวัยนี้ ที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานด้วย ใครไม่ชอบหน้าตนก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวแล้วก็กำลังใจดีขึ้น แต่ถามว่าอาการป่วยทุกวันนี้ก็ยังมีอาการกดกระดูกประสาทของคอและหลัง และมีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ตนเป็นโควิด อาการหนักมากตอนนั้นเข้าไอซียูถึง 9 วัน ข้างในร่างกายก็มีผลบ้าง ทำให้ตอนนี้ปอดยังมีอาการอยู่หลายจุด จากนั้นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้พูดเสริมระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่าคุณพ่อไม่ชอบยอมรับว่าป่วย จนกระทั่งได้เข้าไอซียูออกมาถึงจะรับ เมื่อถามว่าใครดื้อกว่ากัน นางสาวแพทองธาร จึงได้ชี้ไปที่นายทักษิณ และบอกว่าพ่อเป็นต้นตำรับ นายทักษิณจึงบอกว่า ยอมรับตัวเลข 75ได้ แต่ไม่อยากยอมรับว่าแก่ ทั้งที่มันคือธรรมชาติ ฝืนมันไม่อยากแก่

จากนั้น นายทักษิณ และครอบครัว ได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินส่วนตัวทันที

Advertisement

มั่นใจ พท. แลนด์สไลด์ อุบลฯ-อำนาจเจริญ-ยโสธร

People Unity News : 24 ตุลาคม 2565 “ชลน่าน” มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยแลนด์สไลด์ยกจังหวัดทั้งอุบลฯ-อำนาจเจริญ-ยโสธร แจงเงื่อนไขจับมือจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ดีล พปชร. หรือพรรคใดไว้ บอกตอนนี้เร็วไปที่จะตอบ พร้อมเผยพอใจผลโพลความนิยมพรรคในภาคใต้สูงขึ้น

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตั้งเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีบางเงื่อนไขเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐว่า ในเบื้องต้นด้วยความเคารพประชาชน พรรคจะไม่ประกาศจับมือกับพรรคการเมืองใดก่อนการเลือกตั้ง เพราะการประกาศจับมือกับพรรคการเมืองใดก่อนถือเป็นการที่ไม่เคารพประชาชน

ส่วนหลังเลือกตั้งหากประชาชนมอบความไว้วางใจให้พรรคเพื่อไทยตามยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์ มากกว่า 250 เสียงขึ้นไป” พรรคก็มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล แต่ 250 ยังไม่สามารถทำงานได้ ต้องหาพรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเงื่อนไขดังกล่าวเป็นเงื่อนไขที่พรรคได้กล่าวย้ำมาโดยตลอด

เงื่อนไขที่ว่า คือ 1. พรรคที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยเดียวกัน ไม่สนับสนุนเผด็จการ 2. เป็นพรรคที่ชูพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคไม่ขอร่วมด้วย และ 3. การเป็นรัฐบาลของประชาชนต้องทำนโยบายให้ประชาชนยอมรับ

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่การจัดตั้งรัฐบาลกับพรรรคพลังประชารัฐ หากพรรคมีเฉพาะพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า จะเป็นไปได้หรือไม่นั้น ตอนนี้จะเป็นตอบเร็วเกินไปว่า พลังประชารัฐจะมีเฉพาะพลเอกประวิตรหรือไม่ เพราะต้องดูข้อเท็จจริงในการเลือก ซึ่งจะเป็นสารตั้งต้นทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล

ส่วนกระแสนิยมผลสำรวจโพลพรรคเพื่อไทยสูงขึ้นในพื้นที่จังหวัดภาคใต้นั้น นายแพทย์ชลน่านพอใจผลโพลที่คะแนนพรรคอยู่ที่ 15 และคะแนน ส.ส.เขตได้ 14 ส่วนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร คะแนนนิยมอยู่ที่ 13 ถือเป็นการตอบรับที่ดีจากชาวใต้ เชื่อว่าหากได้ทำงานร่วมกันกับพื้นที่ภาคใต้อย่างจริงจัง เชื่อว่าความนิยมจะมากกว่านี้ และส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกของประชาชน

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มั่นใจว่าเพื่อไทยปักธงในพื้นทีภาคใต้ได้แน่นอน หากได้ที่นั่ง ส.ส.ในภาคใต้ 1 ที่นั่ง ก็ถือว่าชนะ เพราะเพื่อไทยไม่เคยมี ส.ส. ภาคใต้ แต่ขณะนี้ประเมินว่าอาจได้ที่สั่ง ส.ส. มากกว่า 1 ซึ่งตอนนี้คัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร เพราะความทุกข์ยากของประชาชนจะเป็นปัจจัยให้ประชาชนเลือกเพื่อไทย

สอดรับกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ระบุว่า เร็วๆนี้ พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ และเชื่อว่าจากกระแสนิยมที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ได้ ส.ส.เขต จำนวนหนึ่ง และในเดือนพฤศจิกายน จะลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชหรือภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ที่พรรคจะเสนอนโยบาบสร้างรายได้ สร้างความหวังในการสร้างกระแสนิยมเพื่อไทย

ทั้งนี้พื้นที่เลือกตั้งในจังหวัดอุบลราชธานี กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ได้คัดเลือกว่าที่ผู้สมัครครบทั้ง 11 เขตแล้ว มั่นใจจะได้ ส.ส. ยกจังหวัด ไม่เพียงอุบลราชธานี แต่รวมถึงอำนาจเจริญ และยโสธรด้วย

Advertisement

ขยายเวลาแรงงานต่างด้าวทำงานถึง 30 ก.ย.

People Unity News : 8 สิงหาคม 2566 นายกฯ เผย ครม.ตามความคืบหน้างานด้านต่างๆ พร้อมเห็นชอบขยายเวลาแรงงานต่างด้าวทำงานต่อถึง 30 ก.ย. ป้องกันผู้ประกอบการขาดแรงงาน บอกเรื่องดีๆ มีอีกมาก ขอให้ ปชช.เข้าใจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า  ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีมี 5 กลุ่มงานนำเสนอผลงานตัวเอง ซึ่งมีความก้าวหน้า ทั้งในส่วนของกองทุนหมู่บ้าน ด้านเอไอ ด้านสาธารณสุข ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าที่ได้นำนโยบายของรัฐบาลไปดำเนินการและประสบผลสำเร็จนระยะหนึ่งแล้ว ขณะเดียวกันขอชื่นชมเด็กและเยาวชนของไทยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันประกวดร้องเพลง นอกจากนั้นยังมีซอฟพาวเวอร์ของไทย ทั้งการผลิตแปรรูปสินค้า เสื้อผ้าทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าเหล่านี้ ล้วนเป็นซอปพาวเวอร์ที่ไทยได้ส่งต่อ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ติดตามความคืบหน้าการจัดสรรที่ดินของ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ซึ่งผมย้ำให้ดูแลที่ทำกินของประชาชนภายใต้กฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าที่ดินทำกิน ซึ่งสามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้ ทุกอย่างต้องยึดหลักการ ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาในอนาคต เรื่องดี ๆ ในประเทศมีอีกมากมาย  ขอให้ประชาชนเข้าใจ ขณะเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาขยายมาตรการแรงงานต่างด้าวให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ถึง 30 กันยายน จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้แรงงานต่างด้าวทำงานได้ต่อ ไม่เช่นนั้นกลุ่มผู้ประกอบการจะขาดแคลนแรงงาน

ส่วนความคืบหน้าเหมืองทองอัครา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้จบไปนานแล้ว ซึ่งเรื่องที่จบไปแล้วไม่อยากให้นำขึ้นมาใหม่ โดยทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตทองคำอย่างครบวงจร และมีคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามอนุญาโตตุลาการ ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วย

Advertisement

ครม. อนุมัติงบ 4,019 ลบ. บริหารจัดการน้ำปี 65 – กักเก็บน้ำฤดูแล้งปี 65/66 มีพื้นที่รับประโยชน์กว่า 3 หมื่นไร่

People Unity News : 9 สิงหาคม 2565 ที่ประชุม ครม. (9 ส.ค. 65) อนุมัติงบกลางวงเงิน 4,019.80 ล้านบาท เพื่อให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และกระทรวงมหาดไทย นำไปเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 65 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้งปี 65/66 จำนวน 1,361 รายการ

สำหรับพื้นที่เป้าหมายนั้น จะเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย/ภัยแล้ง ตามที่ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด รวมถึงพื้นที่เสี่ยงที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไข บรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งโดยเร่งด่วน

ทั้งนี้ สทนช. ประเมินว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 35,723 ไร่ เพิ่มปริมาณน้ำได้ราว 34.02 ล้าน ลบ.ม. มีประชาชนได้รับประโยชน์ 36,735 ครัวเรือน และยังช่วยกำจัดผักตบชวาและวัชพืชน้ำได้ถึง 4.74 ล้านตัน นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มการลงทุนภาครัฐ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการซื้อวัสดุและจ้างแรงงานคนในท้องถิ่นอีกด้วย

Advertisement

โฆษกรัฐบาล เผยฝรั่งเศสเตือนเพิ่มความระมัดระวังการเดินทาง-ท่องเที่ยว

People Unity News : 16 ตุลาคม 2566 โฆษกรัฐบาล เผยทางการฝรั่งเศสประกาศเตือนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง-ท่องเที่ยว ภายหลังยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายเป็นระดับสูงสุด

นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชาสัมพันธ์ข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประกาศเตือนคนไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง-ท่องเที่ยว ภายหลังทางการฝรั่งเศสประกาศยกระดับการเฝ้าระวังสถานการณ์การก่อการร้ายเป็นระดับสูงสุด

จากกรณีเกิดเหตุร้ายเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งทางการฝรั่งเศสคาดว่าอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง อีกทั้งต่อมาในวันที่ 14 ตุลาคม 2566 ทางการฝรั่งเศสได้มีการอพยพผู้คนโดยด่วนออกจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และพระราชวังแวร์ซาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ เนื่องจากทางการฝรั่งเศสได้รับแจ้งเตือนว่าอาจมีการวางระเบิดในพื้นที่ดังกล่าว

ทางสถานเอกอัครราชทูตฯ จึงได้ประกาศเตือนคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวไทยในฝรั่งเศสให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนและสถานที่ท่องเที่ยว ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง และการเปิดทำการของสถานที่ต่างๆ รวมทั้งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากมีเหตุด่วนและฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ กรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +33 6 03 59 97 05 และ +33 6 46 71 96 94

“รัฐบาลห่วงใยสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนไทยทุกคนด้วย ขอให้ติดตามข่าวสารจากช่องทางหลักของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการเดินทาง หรือก่อนวางแผนการเดินทางทุกครั้ง” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว

Advertisement

ครม.อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว.

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 23 เมษายน 2567 ​ครม.อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) คาดมีผลบังคับใช้ 11 พ.ค ประกาศกำหนดวันเลือกและวันรับสมัคร 13 พ.ค. ประกาศผลการเลือก สว. 2 ก.ค 67

วันที่ 23 เมษายน 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการให้ดำเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากอายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลง

นายคารม กล่าวว่า รัฐธรรมนูฐแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 269 (4) บัญญัติให้อายุของวุฒิสภาตามมาตรานี้ มีกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งและได้มีพระบรมราชโองการประกาศแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2562 อายุของวุฒิสภาจึงครบกำหนด 5 ปี และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 แต่ยังอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีสมาชิกวุฒิสภาขึ้นใหม่ ดังนั้น เมื่ออายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลง ให้ดำเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภาโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 107 วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งบัญญัติให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และภายใน 5 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเริ่มดำเนินการเพื่อเลือกไม่ช้ากว่า 30 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับ

“เพื่อให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 107 วรรคห้า และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 21 จึงได้จัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. …. ขึ้น โดยมีสาระสำคัญเป็นการให้ดำเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภา โดยมีสาระสำคัญเป็นการให้ดำเนินการเลือก สว. และจัดทำร่างแผนการจัดการเลือก สว. ทั้งนี้ ภายใน 5 วันนับตั้งแต่ที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. ใช้บังคับ กกต.จะกำหนดวันเริ่มดำเนินการเพื่อเลือกไม่ช้ากว่า 30 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ซึ่ง กกต.คาดว่า พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ประกาศกำหนดวันเลือกและวันรับสมัครในวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 กำหนดวันเลือก สว.ระดับอำเภอในวันที่ 9 มิถุนายน 2567 กำหนดวันเลือก สว.ระดับจังหวัดในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 กำหนดวันเลือก สว. ระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 และกำหนดวันที่จะประกาศผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 2 กรกฎาคม 2567” นายคารม กล่าว

Advertisement

กกต. แจ้ง ผู้ประสงค์สมัคร สว. ขอรับใบสมัครได้ตั้งแต่ 10 พ.ค.นี้

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 9 พฤษภาคม 2567 กกต. แจ้งผู้ประสงค์สมัครรับเลือกเป็น สว. ขอรับใบสมัครได้ตั้งแต่ 10 พ.ค.นี้ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แจ้งว่าผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา สามารถขอรับใบสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.2567 เป็นต้นไป โดยต้องไปติดต่อขอรับใบสมัคร หรือ ใบ สว. 2 พร้อมแบบข้อมูลแนะนำตัว หรือ ใบ สว. 3 และแบบหนังสือรับรองความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในกลุ่มที่สมัครด้วยตนเอง จากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต โดยต้องแสดงหลักฐานแสดงตนอย่างใดอย่างหนึ่ง ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรหรือหลักฐานอื่นใดของทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชนของผู้ถือบัตร หรือ หลักฐานภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์

การที่กำหนดให้ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็น สว. ต้องติดต่อรับเอกสารการสมัครจากนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นสำหรับกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ข้อมูลผู้สมัคร โดยเฉพาะข้อมูลในส่วนที่สำคัญมีความถูกต้อง ตลอดจนเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรับสมัคร เนื่องจากต้องมีการจัดเก็บข้อมูลของผู้สมัครไว้ในระบบบริหารจัดการเลือก โดยเอกสารที่นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น มอบให้ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือก ได้แก่ 1. แบบใบสมัคร (สว. 2) 2. แบบข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว. 3) 3. แบบหนังสือรับรองความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในกลุ่มที่สมัคร (สว. 4) และ4. คู่มือสำหรับผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา

Advertisement

นายกฯ บอก ปรับ ครม. เป็นข่าวลือ ระบุทำให้ รมต.มีชื่อถูกปรับออกกังวล เสียโฟกัสการทำงาน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 2 เมษายน 2567 ทำเนียบ – นายกฯ ยันปรับ ครม. เป็นข่าวลือ หวั่น รมต. มีชื่อตามข่าวกังวล ย้ำ 314 เสียง แข็งแกร่งพอ หลังมีข่าวดึง ปชป. ร่วม บอกเกณฑ์ใครขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องพิจารณา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวลือเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า “ข่าวลือ ก็พูดถูกว่าข่าวลือ ข่าวลือ มันก็จบที่ข่าวลือ”

ส่วนกรณีกระแสข่าวว่าจะมีการดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เคยมีการพูดคุย อย่างที่ตนเคยบอกว่า 314 เสียงก็แข็งแกร่งพอแล้วตรงนี้ เรามีความสมัครสมานสามัคคีกันดี พูดจากันรู้เรื่องอยู่แล้ว ร่วมกันทำงานอยู่แล้ว งบประมาณยังไม่ออก วันนี้พูดถึงเรื่องของงบประมาณเรื่องการขับเคลื่อนประเทศโดยการใช้งบประมาณ ซึ่งวันนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาสภาฯ ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  2567 ก็ต้องมีการทำงานกันอย่างจริงจังในตอนนี้

ทั้งนี้ สมมุติว่าโควตาของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เหลืออีกหนึ่งตำแหน่ง จะขยับเขยื้อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้อนคำถามสื่อว่า “สมมุติ ท่านบอกว่าสมมุติ เราอยู่กับความเป็นจริงดีกว่าวันนี้”

เมื่อถามย้ำว่า ยังคงโควตารัฐมนตรีของพรรคร่วมใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ เป็นข้อตกลงที่ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ยังเหลือ โควตา 1 ตำแหน่งให้กับนายไผ่ ลิกค์ นั้น ก็เป็นโควตาที่เหลือมานานแล้ว และพรรคเพื่อไทยก็ยังเหลืออีกหนึ่งโควตาเช่นเดียวกัน

ส่วนนายกรัฐมนตรี ตั้งใจหลังงบประมาณ ปี 67 ผ่าน จะให้รัฐมนตรีชุดเดิมแต่ละกระทรวงได้ใช้งบประมาณขับเคลื่อนงานก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้เราเน้นย้ำและโฟกัสเรื่องการใช้งบประมาณในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดูแลประชาชนให้ดีที่สุด

สำหรับเมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) ช่วงสาย ที่ได้เชิญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ขึ้นไปพูดคุยบนตึกไทยคู่ฟ้า ได้หารือวาระใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี นิ่งคิด ก่อนจะระบุว่า เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.) มีหลายหมาย หลังจากนั้นทีมงานของนายกรัฐมนตรี จึงได้กระซิบบอกว่ามีการพูดคุยถึงเรื่อง FTA  ซึ่งได้เชิญนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายปานปรีย์ พหิทธานุกรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พูดคุยเรื่องของ FTA และ IUU

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำอีกว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องโควตาของพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ เพราะมีการออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ให้รอความชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่มีการพูดกันเรื่องนี้ ยืนยันไม่มีเฉี่ยวมาเลย

ส่วนที่มีกระแสปรับ ครม.ออกมาในช่วงนี้นั้นมองอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ให้ความสำคัญ

“อยากให้รัฐมนตรีทุกท่านตั้งใจทำงาน ดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด เรื่องนี้เป็นเรื่องใจเขาใจเรา เมื่อมีกระแสข่าวออกไป เมื่อท่านรู้ว่าจะถูกปรับออกไป ก็อาจจะมีความกังวล จุดโฟกัสก็จะเปลี่ยนไป ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ที่เราทำอยู่ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เราควรจะทำงานให้เต็มที่” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนเกณฑ์การปรับคณะรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไรนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า หากทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลไม่ได้ ก็ต้องพิจารณา ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า แปลว่าตอนนี้ยังได้อยู่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ยังทำกันอยู่

Advertisement

หนุนสร้างสะพานไปเกาะสมุย

People Unity News : 14 สิงหาคม 65 รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยถึงเวลาสร้างสะพานข้ามเกาะสมุยแล้ว เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสทางการท่องเที่ยวให้ไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุมหารือกับส่วนราชการ เอกชน จ.สุราษฎร์ธานี และเกาะสมุย เพื่อหารือถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวบนเกาะสมุย รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ การสร้างสะพานข้ามมายังเกาะสมุย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว อันจะช่วยเพิ่มรายได้เข้าประเทศ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วันนี้ได้มารับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเกาะสมุย ซึ่งมีหลายเรื่องที่น่าสนใจ เช่น เกาะสมุยจะพัฒนาให้เป็น Wellness Destination หรือเป็น Green Destination ซึ่งตนเองจะส่งเรื่องให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มาเก็บข้อมูล นำไปพัฒนาการท่องเที่ยวของไทย

ส่วนการพัฒนาการท่องเที่ยวของเกาะสมุยจะไปถึงการสร้างสะพานข้ามไปยังเกาะสมุย ไม่ว่าจะเป็นจากอำเภอดอนสัก หรืออำเภอขนอม เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม เบื้องต้นได้มีการศึกษาเรื่องนี้แล้ว และพบว่ามีความคุ้มค่าต่อการลงทุน ซึ่งในอดีตอาจไม่คุ้มค่า แต่ปัจจุบันจากการศึกษาพบว่ามีความคุ้มค่า เพราะสมุยมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จนสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า หากมีสะพานข้ามเกาะสมุยก็จะส่งผลดีถึงบนฝั่งแผ่นดินใหญ่ด้วย

อนึ่ง ท่าเรือฝั่งเกาะสมุยห่างจากท่าเรือฝั่งดอนสักประมาณ 30 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง

Advertisement

นายกฯ ห่วงภัยอันตรายจากสภาพอากาศร้อน กำชับหน่วยงานแนะนำประชาชน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 24 เมษายน 2567 ​โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ห่วงภัยอันตรายจากสภาพอากาศร้อน กำชับหน่วยงานภาครัฐพร้อมแนะนำประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือป้องกัน และเฝ้าระวังความปลอดภัยเหตุอัคคีภัย

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ห่วงใยความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชนในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนมากขึ้นในช่วงนี้ โดยเฉพาะความเสี่ยงในการเผชิญกับเหตุอัคคีภัย ซึ่งเป็นสาธารณภัยที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในทุกสถานที่ และสามารถทำให้เกิดความสูญเสียต่อทรัพย์สินและชีวิต พร้อมกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ และแนะนำให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือป้องกัน และเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัย เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยได้แนะนำแนวทางการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัยในสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและบ่อขยะ โดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเผากำจัดขยะและการเผาพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและบ่อขยะ รวมถึงดูแลรักษาสถานที่เก็บรวบรวมวัสดุที่มีความเสียงต่อการเกิดอัคคีภัย ซึ่งรวมถึงโรงงาน พร้อมทั้งแนะนำให้กำหนดแนวทางการแจ้งเตือน การประสานงาน การอพยพ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอัคคีภัย ตลอดจนเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบทันทีหากพบควันไฟ กลิ่นเหม็นไหม้ หรืออัคคีภัยในบริเวณสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยและบ่อขยะ

“นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยในช่วงที่อากาศร้อนจัด แนะนำประชาชนเฝ้าระมัดระวังและป้องกันอัคคีภัยเชิงรุก ทั้งภัยที่อาจเกิดในบ้าน หรือ โรงงาน สถานประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่เก็บรวบรวมวัสดุที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย พร้อมกำชับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสร้างความตระหนักรู้ถึงการป้องกันเหตุอัคคีภัย ให้แก่ประชาชน เตรียมพร้อมรับมือเหตุอัคคีภัยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที” นายชัย กล่าว

Advertisement

Verified by ExactMetrics