วันที่ 27 เมษายน 2024

“ลดาวัลลิ์”ลุ้นได้7กรรมการสิทธิฯก่อนสิ้นปีเป็นของขวัญปีใหม่

People Unity : “ลดาวัลลิ์”ลุ้นได้ 7 กรรมการสิทธิฯก่อนสิ้นปีเป็นของขวัญปีใหม่ วอนวุฒิสภารีบตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติฯแล้วนำเข้าประชุมลับขอความเห็นชอบโดยเร็ว ชี้งานใหญ่ กสม.ต้องจัดทำงบฯปี2564ช่วงมกราคมปีหน้า

วันที่ 26 ต.ค.2562 นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า เป็นที่น่ายินดีที่การสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)ที่ดำเนินการโดยคณะกรรมการสรรหาได้ครบแล้วทั้ง5คน ตามขั้นตอนนับจากนี้วุฒิสภาจะต้องตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ผ่านการสรรหา หากทั้ง5คนได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงเกินครึ่งก็จะนำไปสบทบกับอีก 2 คน ที่ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เมื่อปลายปี 2561 รวมเป็น กสม. 7 คน จากนั้นประธานวุฒิฯจะได้ทูลเกล้าฯรายชื่อต่อพระมหากษัตริย์เพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากมี กสม.เกิดขึ้นครบ7คน ก็ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน หลังจากรอการสรรหามาเกือบ2ปี แต่ทั้งนี้ วุฒิสภาต้องกระชับเวลา แทนที่คณะกรรมาธิการจะตรวจสอบประวัติฯ 60 วัน ก็ย่นเวลาให้เร็วขึ้น เพื่อจะได้นำเข้าประชุมลับในวุฒิสภาก่อนจะลงมติเป็นรายบุคคลต่อไปได้เร็วขึ้น

นางลดาวัลลิ์กล่าวว่างานใหญ่และสำคัญมีหลายเรื่อง เช่น การจัดทำงบประมาณปี2564ของสำนักงาน กสม. ซึ่ง กสม.ชุดใหม่ต้องเร่งจัดทำในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์2563 แล้วเสนอสำนักงบฯ หากยังเสนอไม่ได้จะเกิดปัญหาต่อการบริหารงานของกสม.

“การสรรหา กสม.ชุดใหม่นี้ช่างยากเย็นเหลือเกิน ใช้เวลาถึงปีครึ่งก็ยังไม่แล้วเสร็จ กสม.ชุดปัจจุบันเหลือแค่3คนเท่านั้น ทำให้ขาดองค์กรอิสระที่ครบสมบูรณ์มาคุ้มครองสิทธิฯพี่น้องคนไทย” นางลดาวัลลิ์กล่าวทิ้งท้าย

แก้แรงงานเหลว! “ทรัมป์” ยกเลิกจีเอสพี เพื่อไทยถาม “บิ๊กตู่” จะรับผิดชอบอย่างไร

People Unity : แก้แรงงานเหลว! “ทรัมป์”ยกเลิกจีเอสพีสินค้าไทย 60 รายการ “อนุสรณ์”ถามหาความรับผิดชอบจาก”บิ๊กตู่” ก.พาณิชย์เตรียมแถลงวันจันทร์ ส.อ.ท.โอดไทยเจ้อ 2 เด้ง บาทแข็งสุดของโลกด้วย

วันที่ 26 ต.ค.2562 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในคำสั่งยกเลิกการให้สิทธิจีเอสพีสินค้าไทยเกือบ 60 รายการ เฉียด 40,000 ล้านบาทว่า สาเหตุที่รัฐบาลสหรัฐตัดสิทธิ เนื่องจากรัฐบาลไทยล้มเหลวการยกระดับสิทธิแรงงานให้เท่าเทียมมาตรฐานโลก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลมา 5 ปี จะโยนความผิดไปใส่รัฐบาลไหนคงไม่ได้

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ คุยมาตลอดว่า ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ สามารถออกกฎหมายได้มากที่สุด วันนี้ คงถึงบางอ้อแล้วว่า ประสิทธิภาพของการออกกฎหมาย ขึ้นอยู่กับเนื้อหา รายละเอียด ความเป็นสากล ไม่ใช่ปริมาณ โจทย์ใหญ่ที่ท้าทายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คือเรื่องเศรษฐกิจ ท่ามกลางข้อจำกัดทางการคลัง ความล่าช้าของงบปี 63 อย่างน้อย 3 เดือน การหดตัวของการส่งออก การซบเซาของการท่องเที่ยวที่ต้องเผชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตอบว่าจะรับผิดชอบปมสหรัฐ ตัดสิทธิจีเอสพีสินค้าไทย อย่างไร

“ชิมช้อปใช้ เป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ใดๆ นอกจากการตลาดสร้างภาพรัฐบาลแจกเงิน ขยายภาพรวยกระจุก จนกระจายไม่มีที่สิ้นสุด และไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ต้อนตอของปัญหา” นายอนุสรณ์ กล่าว

ทั้งนี้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ(ยูเอสทีอาร์) ประกาศว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศระงับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือจีเอสพี กับสินค้าไทยคิดเป็นมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 39,650 ล้านบาท โดยระบุว่าไทยล้มเหลวในการจัดสิทธิที่เหมาะสมให้กับแรงงานตามหลักสากลนั้น โดยสินค้าไทยที่อยู่ในรายการที่จะถูกตัดสิทธิจีเอสพีตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2563 มีมากถึง 573 รายการ ครอบคลุมทั้งของกินและของใช้ ตั้งแต่อาหารทะเลหลากชนิด ผักและผลไม้ เมล็ดพันธุ์ น้ำเชื่อมและน้ำตาล ซอสถั่วเหลือง น้ำผักและน้ำผลไม้ ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องครัว ประตูหน้าต่าง ไม้อัดและไม้แปรรูป ตะกร้า ดอกไม้ประดิษฐ์ จานชาม เครื่องประดับ เหล็กแผ่น สแตนเลส ฯลฯ นั้น

โดยนายกีรติ รัชโน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จะแถลงข่าว เรื่อง กรณีสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP ไทย ในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมนี้ ที่กรมการค้าต่างประเทศ ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ส.อ.ท.โอดไทยเจ้อ2เด้ง ถูกตัดจีเอสพี-บาทแข็งสุดของโลก

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ที่ภาครัฐในการกำหนดท่าทีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะจะมีผลวันที่ 25 เมษายน 2563 ยังพอมีเวลารับมือ แต่อย่างไรก็ตามในมุมของเอกชนกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแน่นอน โดยเฉพาะด้านการส่งออก แต่เชื่อว่าสินค้าไทยกลุ่มดังกล่าวยังเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคสหรัฐฯ เพราะเป็นสินค้าในชีวิตประจำวัน และไทยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและหลากหลาย แต่ผลกระทบที่กังวลมากกว่าคือ ตัวผู้ประกอบการส่งออกของไทย ที่ปัจจุบันกำลังเผชิญกับสถานการณ์เงินบาทที่แข็งค่าที่สุดในโลก เท่ากับว่าไทยโดน 2 เด้ง ดังนั้นอยากให้หน่วยงานอย่างธนาคารแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เข้ามาดูแลเรื่องเงินบาทโดยด่วน

พปชร.ซัดพท.ถล่มชิมช้อปใช้เฟส2แจกเงินย้ำกระตุ้นศก.

People Unity : รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐโต้ฝ่ายค้านหยุดปั่นกระแสดิสเครดิต “ชิม ช้อป ใช้”เฟส 2 บัตรสวัสดิการฯ ยันลงพื้นที่ชาวบ้านนิยมและต้องการให้เดินหน้าต่อ ซัดนั่งวิจารณ์แต่ในห้องแอร์

วันที่ 26 ต.ค.2562 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ หรือ “อ้น” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาวิจารณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” เฟส 2 ของรัฐบาลว่าเป็นการแจกเงินแล้วหมดไป ไม่ได้สร้างการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนว่า รู้สึกท้อใจกับการทำงานของฝ่ายค้าน ที่ไม่เข้าใจหรือไม่ยอมเข้าใจหลักการ ว่ามาตรการดังกล่าวไม่ใช่การแจกเงินไปเที่ยวเท่านั้น หากแต่เป็นการอาศัยกลไกให้ประชาชนช่วยกันกระจายเม็ดเงินออกไปเพื่อหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจในชุมชนต่างๆ ผ่านการท่องเที่ยว เพราะการเดินทางไปท่องเที่ยวจะไม่ใช่การเที่ยวอย่างเดียว แต่ต้องกิน ต้องใช้ ซึ่งเงินเหล่านั้นก็จะหมุนไปในชุมชน เข้าสู่กระเป๋าของผู้ค้า ผู้ประกอบการต่างๆ และลงไปยังลูกจ้าง พนักงาน ทำให้ฟันเฟืองต่างๆทางเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ โดยชิมช้อปใช้ รอบนี้ไม่จำกัดจังหวัดที่จะใช้จ่ายแต่จะยกเว้นจังหวัดตามบัตรประชาชนเท่านั้น ซึ่งจะช่วยกระจายเม็ดเงินไปได้ทั่วถึงมากขึ้น

ส่วนการเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ก็เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย รวมทั้งยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น การขยายเวลาช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไปอีก 1 ปีพร้อมทั้งคืนภาษี VAT ให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 5 เปอร์เซ็นต์โดยรัฐจะเก็บภาษี VATจากผู้มีรายได้น้อยเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงกันยายน 2563 เป็นระยะเวลา 10 เดือน มาตรการต่างๆ มีส่วนช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพในครัวเรือนให้กับประชาชน ช่วยแก้ปัญหาปากท้องได้อีกทางหนึ่ง

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากจังหวัดต่างๆสะท้อนความต้องการอยากให้ช่วยแก้ไขปัญหาปากท้อง โดยเฉพาะการจัดเวทีประชาธิปไตยไทยอิ่ม ไม่ต้องแก้ก็กินได้เลย ซึ่งไปมาแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.กำแพงเพชร และจ.ราชบุรี พบว่าประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจกับมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น เรื่องราวของนางหนูพิน มุ่งลา ชาวบ้านวัดบ้านตะบอง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หนึ่งในผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อยากให้รัฐบาลดำเนินนโยบายนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ เนื่องจากไม่มีงานทำ ขณะที่สามีรับจ้างได้วันละ 300 บาท พอมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็นำเงินไปซื้อข้าวสาร กะปิ น้ำปลา และสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นได้ กินและใช้ได้ทั้งเดือน

“พรรคพลังประชารัฐ มีเป้าหมายให้ประชาชนยืนได้ด้วยตนเอง แต่ก่อนอื่นต้องช่วยเหลือคนที่ไม่มีกำลังและประคองให้เขาลุกขึ้นได้ก่อน เราลงพื้นที่ไปสัมผัสกับประชาชนในพื้นที่ รับรู้ปัญหาและนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อสะท้อนไปยังรัฐบาลให้ออกมาตรการและนโยบายออกมาแก้ไขปัญหา ไม่ได้มัวแต่นั่งวิจารณ์อยู่แต่ในห้องแอร์” น.ส.ทิพานัน กล่าว

รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ชุมชนวัดมงคลวราราม และชุมชนใกล้เคียง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. โดยจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนพบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่ทราบรายละเอียดในการลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโครงการ ‘ชิม ช้อป ใช้’ เฟส 2 ขณะที่บางส่วนคิดว่าโครงการ ‘ชิม ช้อป ใช้’ และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคือโครงการเดียวกัน หากจะใช้บัตรสวัสดิการต้องเดินทางไปใช้ที่ต่างจังหวัด ซึ่งตนได้ชี้แจงทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชนแล้วว่าเป็นคนละโครงการกัน พร้อมกันนี้ชาวบ้านแจ้งว่าอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปอำนวยความสะดวกในเรื่องของการทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนี้ยังอยากให้หน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของที่อยู่อาศัยเนื่องจากที่อยู่อาศัยมีลักษณะทรุดโทรม ซึ่งตนยิ่งลงพื้นที่ยิ่งเห็นความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งน่าเห็นใจอย่างมาก ที่น่าเสียดาย คือ ส.ส. ฝ่ายค้าน อาจจะหลงลืมไปว่า ปัญหาเร่งด่วนคือความกินดีอยู่ดีของประชาชน ควรช่วยกันลงมือทำเพื่อประโยชน์ประชาชนมากกว่า

“พรรคพลังประชารัฐ เราพร้อมรับฟังปัญหา ให้การใส่ใจดูและความเป็นอยู่ ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งตนจะได้นำข้อมูลต่างๆที่ได้รับลงพื้นที่สำรวจอยู่เป็นประจำ ไปรายงานพร้อมหารือต่อพรรคและประสานงานไปยังรัฐบาลเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป” รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าว

เหล่ากูรูตัวจริง! ชี้ EEC เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายยกระดับรายได้คนไทย

เหล่ากูรูตัวจริง! ชี้ EEC เป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย ในการพัฒนาประเทศและยกระดับรายได้คนไทย แนะไทยเร่งปรับตัว รองรับโลกเปลี่ยน ก่อนตามไม่ทัน!

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา ทีมเศรษฐกิจพรรคประชธิปัตย์ ร่วมกับคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้จัดงานสัมมนาและระดมสมองโดยเหล่าวิทยากรตัวจริงที่รู้จริงและเข้าใจจริงเรื่อง EEC ในหัวข้อ “แปลง EEC ให้เป็นโอกาส เข้าใจศักยภาพ EEC ในการพัฒนาประเทศและยกระดับรายได้คนไทย” โดยมีคุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก คุณวิกรม กรมดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งและ CEO บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน รวมถึงบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มาในงานที่ได้ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์อีกเป็นจำนวนมาก

โดย ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้กล่าวว่าทุกวันนี้เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ แน่นมาก สนามบินสุวรรณภูมิก็โอเวอร์โหลดเพราะความแออัดมากเกินไป จึงจำเป็นต้องขยายเมืองออกไป ปัจจุบันกำลังจะมีฮับแห่งใหม่คือสนามบินอู่ตะเภาซึ่งมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังก่อสร้างถือเป็นการพัฒนามหานครการบินของภาคตะวันออก และหากสร้างเสร็จจะช่วยให้การเดินทางจากสถานีมักกะสัน (กรุงเทพฯ) ไปยังสถานีอู่ตะเภา (ระยอง) ใช้เวลาเดินทางเพียง 45 นาที นอกจากนี้รัฐบาลยังได้วางนโยบายการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC ซึ่งปัจจุบันได้ผลดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยในช่วงเริ่มต้นมีนักลงทุนสนใจเข้าร่วมลงทุนรวมกันประมาณ 300,000 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นถึง 600,000 ล้านบาท

“ผมเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าถ้ากระบวนการวางแผนในพื้นที่นี้สามารถทำได้ในพื้นที่เป้าหมายอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่น ภูเก็ต พังงา โดยการลงทุนในเขตพื้นที่ EEC มีเม็ดเงินประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท ซึ่งบอกเลยว่าเป็นการใช้เงินลงทุนจากภาครัฐไม่ถึง 20% เพราะส่วนที่เหลือเป็นเม็ดเงินที่มาจากนักลงทุน”

ด้านคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งและ CEO บมจ.อมตะ คอร์เปอเรชัน ได้บรรยายให้หัวข้อ “EEC โอกาสและความท้าทาย วิสัยทัศน์เรื่อง EEC ไทยและจีน” โดยได้กล่าวว่า วันนี้ทวีปเอเชียมีบทบาทการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในเวทีโลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศจีนที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจแซงหน้าสหรัฐอเมริกาเพียงช่วงระยะเวลาไม่กี่ปี ความน่าสนใจของจีนคือการมีเงินคงคลังภายในประเทศมหาศาล ซึ่งเราจะทำอย่างไรเพื่อให้เม็ดเงินเหล่านี้หันกลับมาลงทุนในประเทศไทย ยกตัวอย่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ ที่วันนี้ต้องยอมรับว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่น่าลงทุนที่สุด มั่นคงที่สุด เพราะสิงคโปร์ขายนโยบายเพื่อเชิญชวนให้นักลงทุนหันมาทุนในประเทศของเขา

“สิ่งที่ผมมองว่าจะขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นอย่างมากก็คือนโยบาย “Belt & Road Initiative (BRI)” ของประเทศจีน เพราะมันสามารถเชื่อมโยงการคมนาคม การสื่อสาร และการค้าขายได้ถึงกันหมด ดังนั้น Belt & Road Initiative จึงไม่ใช่ความฝัน ทรัพย์สินของเราคือภูมิศาสตร์ ส่วนจีนก็พร้อมที่จะเอาเงินมาลงทุนถ้านโยบายด้านการลงทุนของเรามีความน่าสนใจ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นวันนี้คือ “รถไฟ” ที่สามารถเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนได้ถึงกัน ซึ่งในอนาคตภูมิภาคแห่งนี้จะมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจในเวทีโลกเป็นอย่างมาก เพราะเรามีทั้งทรัพยากร และแรงงานการผลิตที่ได้เปรียบ น่าเสียดายว่าที่ผ่านมาประเทศเรามีความขัดแย้ง “กีฬาสี” ทำให้ส่งผลกระทบถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง”

ขณะที่ คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การพัฒนาประเทศจำเป็นจะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความต่อเนื่องถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับมหภาค การขับเคลื่อนนโยบายบางเรื่องไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือต้องใช้สิ่งใหม่เสมอไป หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวันนี้คือ ก. หรือ กฎหมายที่ชัดเจน และ ข. คือการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ผมมองว่าการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของจีน ณ เวลานี้ไม่ได้มาแบบธรรมดา เขาพร้อมที่จะขนเม็ดเงินมหาศาลเพื่อกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคที่สำคัญ ๆ ของโลก ดังนั้น ประเทศไทยจะต้องมีการเตรียมความพร้อมและปรับตัวเข้าสู่การแข่งขันทางเศรษฐกิจในเวทีโลกอย่างเต็มตัว เราจะต้องเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ศึกษาองค์ความรู้มาอย่างดีและมีความมั่นใจในการลงสนามอย่างเต็มที่”

ในช่วงท้ายของการสัมมนาได้รับเกียรติจาก ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ขึ้นมาร่วมแชร์ประสบการณ์และความรู้ร่วมกับเหล่าวิทยากรบนเวที โดยได้กล่าวถึงประเด็นการก่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาว่าส่วนตัวเห็นด้วยและสนับสนุน และอยากให้คณะทำงานขับเคลื่อนเรื่องรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินอย่างเต็มที่ เพราะรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC โดยไม่ได้ทำให้เกิดประโยน์เฉพาะต่อประชาชนในพื้นที่ EEC เท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนตลอดเส้นทาง ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์มากมายมหาศาลให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติได้อีกด้วย

ทั้งนี้ วิทยากรทุกคนยังเชื่อว่าวันนี้คนไทยกำลังเฝ้ารอโอกาสอย่างมีความหวังเพื่อที่จะให้การขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เติบโตขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมด้วยนโยบายการบริหารและจัดการของภาครัฐที่ชัดเจน โดยใช้องค์ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญในหลาย ๆ ด้านมาร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ เพื่อให้พื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจจุดนี้เกิดเป็น “แหล่งเงินแหล่งทอง” ในการยกระดับอาชีพและรายได้ของคนไทย นำประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน รวมถึงเรียนรู้จากการพัฒนาในเฟสแรก โดยเฉพาะการจัดการเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการจัดการเรื่องสาธารณูปโภค เพื่อนำมาแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น โดยนายปริญญ์ได้สรุปปิดท้ายว่า EEC จะไม่ใช่เป็นแค่การสร้างรถไฟความเร็วสูง สร้างสมาร์ตซิตี้ สร้างสนามบินหรือท่าเรือใหม่เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นมิติใหม่ของการสร้างคน ยกระดับแรงงานฝีมือ ซึ่งจะเป็นทรัพยากรสำคัญให้กับประเทศได้ในอนาคต

“จุรินทร์”ปลุกสมาชิก”ปชป.”มุ่งหน้าทำงาน ยันแก้ไขรธน.เป็นเงื่อนไขหนึ่งร่วมรัฐบาล

People Unity : “จุรินทร์”ปลุกสมาชิก”ปชป.”มุ่งหน้าทำงาน ยันแก้ไขรธน.เป็นเงื่อนไขหนึ่งร่วมรัฐบาลทำฝันประชาชนสำเร็จ โอนเงินส่วนต่างข้าว-ปาล์มแล้ว พืชอีก 3 ชนิดโอนภายในสิ้นปีนี้ทั้งหมด

วันที่ 26 ต.ค.2562 เวลา 9.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมกรรมการสาขาพรรคและตัวแทนประเทศ ประจำทุกจังหวัดของพรรคประชาธิปัตย์ และได้กล่าวตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์โดยกลไกกรรมการสาขาและตัวแทนประจำจังหวัดจะต้องดำเนินการจัดตั้งตามกฎหมายให้ครบถ้วน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีการเลือกตั้งเร็วๆนี้แต่เป็นหน้าที่ของพรรคที่จะต้องมีความพร้อม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ภายหลังการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา (24มีนาคม2562) อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่เป็นความฝัน ของพรรคที่ว่าอยากเห็นผู้ที่มีศักยภาพไม่ว่าจะเป็นอดีตผู้แทนราษฎร ผู้บริหารของพรรค อดีตผู้สมัครของพรรคได้มีโอกาสทำหน้าที่ขณะนี้ก็เป็นจริง คือ ประมาณไม่ต่ำกว่า 80 คนดังกล่าวได้ถูกคัดสรรค์ให้เข้าไปทำหน้าที่ผู้บริหารระดับต้นของประเทศและตำแหน่งอื่นๆ เช่น ผู้ช่วย ส.ส. ผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญการ และที่ต้องช่วยรัฐมนตรีของพรรค คือ เลขานุการรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นทีมจากพรรคประชาธิปัตย์ นี่เป็นสิ่งแรกที่เราสามารถทำฝันที่คิดกันมานานลงสู่การปฏิบัติได้แม้ว่าไม่ครบถ้วนทุกคนก็ตาม

และในการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ พรรคก็มีเงื่อนไขคือนำนโยบายองพรรคบรรจุไว้ในนโยบายรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นโครงการประกันรายได้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดหัวข้อที่จะต้องแก้ไข ได้หรือการเปิดกุญแจปลดล็อคให้เดินไปสู่การแก้ไขในวันข้างหน้าได้ และการบริหารราชการแผ่นดินจะต้องบริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งหมดก็บรรจุไว้เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้

ส่วนนโยบายประกันรายได้เกษตรกรที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ โดยเป็นนโยบาย เร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งการประกันรายได้พืช 5 ชิดนั้น คือข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด แต่ไม่ได้หมายความว่าพืชเกษตรตัวอื่นจะไม่ดูแลแต่ใช้ยาคนละขนาน กันเท่านั้น สำหรับพืช 5 ชนิดนี้หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วก็มีความคืบหน้าเป็นอย่างยิ่งมีผลเป็นรูปธรรมโดยปาล์มลงมือปฏิบัติไปแล้วโดยการจ่ายเงินงวดแรกเรียบร้อยถึงมือเกษตรกรแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 เราใช้เวลาเพียงแค่60วันฟังการแถลงนโยบาย หรือ 77 วันหลังเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนเรื่องข้าวได้โอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวงวดแรกไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2562 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตัวที่ 3 คือเรื่องยางพาราได้ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้วกำลังดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการ คือ และวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ที่จะถึงนี้โดย 1- 15 พย.ใช้เวลา 15 วันเราจะโอนเงินส่วนต่างถึงมือเกษตรกรผู้ปลูกยางทุกคน เพราะกระบวนการเรื่องยางพาราจะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนมากกว่า เมื่อมีการตรวจสอบบัญชีเสร็จเรียบร้อยจึงจะเป็นการโอนเงิน ทันที

สำหรับมันสำปะหลัง วันพรุ่งนี้ 27 ตุลาคม 2562 จะเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี เพื่อการประชุม 3 ฝ่ายภาครัฐภาคเอกชนและเกษตรกร จะไปเคาะในวันพรุ่งนี้ว่าจะประกันรายได้ไว้ที่กิโลกรัมละเท่าใดจำนวนเท่าใดต่อครัวเรือน เสร็จแล้วก็จะเข้ากระบวนการคณะรัฐมนตรี ส่วนข้าวโพดจะไปเคาะประกัน 3 ฝ่ายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ก็จะเข้าคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดแล้วไปคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติต่อไป ทั้งหมดนี้คาดว่าจะดูแลส่วนต่างพืช 5 ชนิดได้ครบถ้วนภายในสิ้นปีนี้

นายจุรินทร์ บอกกับสมาชิกพรรคว่า นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจทำเพื่อประชาชนและพิสูจน์ตามที่ประกาศไว้ว่าจะ “ทำได้ไว ทำได้จริง” สุดท้ายนี้เราจะเดินหน้าไปด้วยกัน จับมือร่วมกันเดินหน้าด้วยกลไกล 3 ประสานทำงานไปด้วยกัน ประชาธิปัตย์ยุคนี้ กลไกที่หนึ่งคือกลไกรัฐบาล หน้าที่ความรับผิดชอบในรัฐบาล กลไกที่สองคือกลไกสภา โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคต้องทำหน้าที่แทนประชาชนอย่างเข้มแข็ง กลไกที่สามคือกลไก ของพรรค ต้องเดินหน้าคู่ขนานกิจกรรมของพรรคต้องทำเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้นให้เกิดผลต่อความร่วมมือร่วมใจของสมาชิกทั่วประเทศให้มีความเข้มแข็งและมีความพร้อมที่จะเดินหน้าต่อไปได้

รมต.ดีอีเอสแถลงชี้แจง เว็บชิมช้อปใช้ถูกก่อกวน

People Unity : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงมีผู้ไม่หวังดีก่อกวนเว็บไซต์ ชิมช้อปใช้ ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และพันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมแถลงกรณีที่ระบบเทคโนโลยีของธนาคารกรุงไทย ที่ใช้ลงทะเบียนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชิมช้อปใช้เฟส 2 หลังจากที่มีผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนระบบลงทะเบียนในช่วงเช้าเวลา 06.00 น.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ผิดปกติ ด้วยระบบที่ธนาคารกรุงไทยมีอยู่ สามารถแสดงให้เห็นตัวเลขและความผิดปกติในช่วงเวลาต่างๆที่เข้ามาในระบบตั้งแต่เช้า ซึ่งธนาคารกรุงไทย ได้ส่งคนเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับ บก.ปอท. เพื่อดำเนินการหาผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชนว่า ขอให้ใช้ช่องทางการลงทะเบียนปกติที่เป็นทางการของธนาคารกรุงไทยและอย่าหลงเชื่อผู้ที่ไม่หวังดี สำหรับผู้ที่ได้ลงทะเบียนในช่องทางที่ไม่ถูกต้องดังกล่าว จะถือว่าเป็นโมฆะทั้งหมดเพื่อให้สิทธิ์กับผู้ที่ลงทะเบียนได้อย่างถูกต้องก่อน

 

การเมืองแห่งความหวัง! หนังสือขายดีอันดับหนึ่ง”ปิยบุตร”เขียน

People Unity : “การเมืองแห่งความหวัง” อันดับ 1 หนังสือขายดี – ร้าน “ก็องดิด” เตรียมจัดกิจกรรมพบปะ “ปิยบุตร” คุยหัวข้อ “หนังสือคือความหวัง”

วันที่ 25 ต.ค.2562 ร้านหนังสือก็องดิด( Candide Books) เผยแพร่เชิญชวนร่วมกิจกรรม “หนังสือคือความหวัง” โดยระบุว่า “คุยกันเรื่องหนังสือ การอ่าน และหนังสือเล่มใหม่ การเมืองแห่งความหวัง กับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ นักการเมืองที่เปิดเผยทรัพย์สินว่ามีหนังสือในครอบครอง 2,500 เล่ม ชวนคุยโดยภาณุ ตรัยเวช นักเขียนผู้เป็นหนอนหนังสือตัวฉกาจ และเป็นเจ้าของเพจ Our History เรื่องเล่า เรา โลก”

ขณะเดียวกัน ได้เปิดเผยถึง 10 อันดับขายดีประจำวันที่ 15 – 21 ตุลาคม ที่ผ่านมาของร้าน ทั้งผ่านทางหน้าร้านและทางระบบออนไลน์ ออนไลน์ www.candidebooks.com ซึ่งปรากฏว่าหนังสือ “การเมืองแห่งความหวัง” ผลงานล่าสุดของนายปิยบุตรติดในลำดับที่ 1 หนังสือขายดี โดยเป็นหนังสือรวมบทสัมภาษณ์ทุกแง่มุมชีวิต การปราศรัยทั้งการเปิดตัวพรรค นโยบายต่างๆ การหาเสียง ตลอดจนการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะ ส.ส.ที่มีบทบาทเด่นเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่อันดับ 2 และ 3 ได้แก่วรรณกรรมแปลจากญี่ปุ่น คือ “วันที่เหมาะกับขนมปัง ซุป และแมว”, “อันตัวข้าพเจ้านี้คือแมว” ตามลำดับ ส่วน “ลงเรือแป๊ะ” ผลงานของ วิษณุ เครืองาม ติดอยู่ในหนังสือขายดีลำดับที่ 4 ด้วย ทั้งนี้ กิจกรรมหนังสือคือความหวัง จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ เวลา 17.00 -18.30 น. ที่ร้านหนังสือก็องดิด เดอะ แจมแฟคทอรี ( The Jam Factory) คลองสาน

ส.ส.-ส.ว.แห่รับ! “ธรรมนัส”ลุยหาแหล่งน้ำ แก้หนี้เกษตรกร มอบส.ป.ก.” พิจิตร-ขอนแก่น”

People Unity : “ธรรมนัส”ลุยแก้ปัญหาแหล่งน้ำขาดแคลน หนี้สินเกษตรกร จ.พิจิตร ก่อนมอบ ส.ป.ก. 4-01 จ.ขอนแก่น ลั่นเดินหน้ายึดคืนที่ดินแปลงใหญ่จากนายทุนทำผิดวัตถุประสงค์ เพื่อแจกให้เกษตรกรไร้ที่ทำกิน

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 เวลา 09.30 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ตรวจราชการและพบปะประชาชนจังหวัดพิจิตร โดยมีนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมส่วนราชการในสังกัด และ ส.ส. ส.ว. ในพื้นที่ ให้การต้อนรับ ณ บริเวณห้องประชุมแฮปปี้พลาซ่า อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โอกาสนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้เป็นประธานพิธีมอบสินเชื่อการแก้ไขหนี้นอกระบบ และพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) โครงการตลาดน้ำ การผลิตข้าวพันธุ์ กข 79 ระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ชุมชนผู้ผลิต 15 ชุมชน และบริษัท ทีบีเอสไรซ์มิลล์ จำกัด

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวช่วงหนึ่งว่า ชาวจังหวัดพิจิตร โชคดีที่มีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)และ และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวม 5 คน ซึ่งหลังการเลือกตั้งทุกคนก็พร้อมร่วมกันทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่งการลงพื้นที่ของตนในวันนี้ ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอดจน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้มารับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตกรร ทั้งปัญหาหนี้สิน และปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาแหล่งน้ำ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ จังหวัดพิจิตร อาจจะเป็นพื้นที่หนึ่ง ที่จะเป็นเป้าหมายในการประชุม ครม.สัญจรในเร็ว ๆ นี้

จากนั้น เวลาประมาณ 14.20 น. ร.อ.ธรรมนัส พร้อมคณะทำงาน ได้เดินทางไปที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นประธานพิธีมอบหนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) แก่เกษตรกร จำนวน 150 ราย พร้อมมอบปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธุ์ปอเทือง และสระน้ำในไร่นา ณ วัดสะอาดหนองไห ตำบลหนองแปน อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะมอบปัจจัยการผลิต ทั้งเมล็ดพันธุ์ปอเทือง สารเร่ง พด.1 และพด.2 รวมทั้งสระน้ำในไร่นาให้แก่เกษตรกร 119 ราย ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล ตำบลโนนทอง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น โดยนายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมนายเอกราช ช่างเหลา สส. ในพื้นที่และตัวแทนส่วนราชการในสังกัด หน่วยราชการส่วนท้องถิ่น และและประชาชนในพื้นที่คอยให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงผลการลงพื้นที่ตรวจราชการในวันนี้ ว่า ในส่วนของจังหวัดพิจิตร ได้พบว่า ปัญหาหลักคือ ปัญหาแหล่งน้ำขาดแคลน ซึ่งต้นน้ำน่านกับต้นน้ำยม เวลานี้มีปัญหาตั้งแต่ นครสวรรค์ กำแพงเพชร จนถึงจังหวัดพิจิตร ซึ่งต้องรีบบริหารจัดการแบ่งน้ำให้เกษตรกรให้ทั่วถึง ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดพิจิตร ต้องรีบจัดการเรื่องน้ำใต้ดิน โดยเจาะบ่อบาดาล ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เข้าไปช่วย เช่นเดียวกับจังหวัดขอนแก่น ที่พบว่าลำน้ำชี มีปริมาณน้ำเหลือน้อย ทั้งที่เพิ่งเกิดเหตุอุทกภัยผ่านมาไม่กี่วัน ต้องแก้โดยสร้างประตูกักน้ำ ในลำน้ำชี จึงต้องปะสานไปทางสำนักจัดการบริหารน้ำแห่งชาติ ขอให้กรมชลประทาน บรรจุแผนให้เร่งดำเนินการเร็วที่สุด นอกจากนี้ คือปัญหาที่ทำกิน ที่วันนี้ได้มามอบ หนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) และที่อยู่อาศัย แก่เกษตรกร 2 อำเภอ คือ มัญจาคีรี และ หนองเรือ ส่วนอื่นๆ ทางกรมพัฒนาที่ดิน ยังได้มามอบเมล็ดพันธุ์พืช ปุ๋ยสด ปอเทือง การช่วยปรับคุณภาพดิน ส่วนนอกเขตชลประทาน ก็มามอบแหล่งน้ำขนาดเล็ก ให้เกษตรกรหลายราย ด้วย ร.อ.ธรรมนัส ยังย้ำว่า มีนโยบายเรื่องการมอบ ส.ป.ก. 4-01 แก่เกษตรกร ไร้ที่ทำกิน โดยกำชับให้ ส.ป.ก.มอบสิทธิทำกินให้เกษตรกรจริงๆ โดยเฉพาะที่ดินแปลงใหญ่ที่กลุ่มนายทุนนำไปประกอบธุรกิจที่ผิดระเบียบผิดวัตถุประสงค์ จำเป็นต้องยึดคืน เพื่อนำมามอบให้เกษตรกรที่ไร้ที่ทำกิน จริงๆ ต่อไป

ฝรั่งในไทยส่งจม.ชม”วราวุธ”! ยกเลิกถุงพลาสติกหูหิ้วในห้าง

People Unity : ฝรั่งในไทยส่งจม.ชม”วราวุธ”! ยกเลิกถุงพลาสติกหูหิ้วในห้าง พร้อมแนะส่งเสริมช่องทางการรีไซเคิลขยะพลาสติกให้แพร่หลายมากขึ้น

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “Top Varawut ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา” ถึงจดหมายที่ได้รับจากชายชาวต่างชาติรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย พร้อมพัสดุกล่องใหญ่ เป็นขยะถุงพลาสติกหูหิ้ว ที่ชายคนนี้ได้รับจากร้านค้าในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยจดหมายที่ส่งถึงรัฐมนตรีฯ ความว่า

“ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ ว่าในอีกระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือนนี้ ประเทศไทยจะยกเลิกใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศแล้ว ถือเป็นก้าวที่ดีในการลดปัญหาขยะพลาสติกในเมืองไทย อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าการจะป้องกันขยะพลาสติกไม่ให้หลุดลอดไปสู่สิ่งแวดล้อม นอกจากวิธีลดการใช้พลาสติกแล้ว การรีไซเคิลก็สำคัญไม่แพ้กัน อยากขอให้กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมช่องทางการรีไซเคิลขยะพลาสติกให้แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะถุงพลาสติกหูหิ้ว ที่ร้านรับซื้อของเก่าในละแวกบ้านและชุมชนไม่รับซื้อ วันนี้ตนจึงนำถุงพลาสติกหูหิ้วที่ได้รับในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้ผ่านการทำความสะอาดเรัยบร้อยแล้ว ส่งมาให้ท่านนำไปรีไซเคิลต่อไป”

ด้วยความนับถือ
โรเบิร์ต แมคเกรเกอร์

ด้านนาย วราวุธ หลังได้รับจดหมายและพัสดุจากนายโรเบิร์ต ก็ลงมือเขียนจดหมายตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษด้วยลายมือตนเองทันที ความว่า

“25 ตุลาคม 2562
ถึง โรเบิร์ต

ขอบคุณสำหรับจดหมายลงวันที่ 11 ตุลาคม พร้อมถุงพลาสติกหูหิ้วกล่องใหญ่ ที่ส่งมาให้ เป็นวิธีการที่ฉลาดมากในการย้ำเตือนพวกเรา โดยเฉพาะภาครัฐให้เดินหน้าแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โปรดวางใจว่าผมจะทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่ในการผลักดันการรีไซเคิลให้แพร่หลายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมการยกเลิกใช้พลาสติกประเภทครั้งเดียวทิ้งให้เป็นจริงทั่วประเทศ ไม่แค่เฉพาะในร้านสะดวกซื้ออย่างแน่นอน

เพราะเราไม่ได้รับมรดกโลกใบนี้มาจากคนรุ่นก่อน แต่กำลังยืมโลกใบนี้มาใช้จากคนรุ่นต่อไปในอนาคต มาร่วมกันรับผิดชอบ รักษา และส่งต่อโลกใบนี้ให้เจ้าของตัวจริงกันครับ”

ด้วยความปรารถนาดี
วราวุธ ศิลปอาชา

โดยนายวราวุธ ได้เขียนบนแฟนเพจว่า การรีไซเคิล เป็นอีกประเด็นที่ตนให้ความสำคัญ และตั้งใจเดินหน้าผลักดัน เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถร่วมกันรีไซเคิลขยะพลาสติกได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุด พร้อมทั้งขอบคุณจดหมายของนายโรเบิร์ต ที่มองเห็นความพยายามในการทำงานของตน

ทั้งนี้ หลังจาก 3 เดือนที่ผ่านมา นายวราวุธ ได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และดำเนินโครงการ”ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก” โดยจับมือกับ 46 ห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ทั่วประเทศ ยกเลิกแจกถุงพลาสติกหูหิ้วให้ลูกค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป และจ่อผ่านกฏหมายแบนพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง 4 ประเภท ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้ว หลอดพลาสติก แก้วน้ำพลาสติก กล่องโฟม ภายในปี 2564

ที่มา – https://www.facebook.com/674202746364334/posts/791495854635022/

“มนัญญา”วอน! สหรัฐฯเคารพกม.ไทย ปมแบน 3 สารพิษเกษตร

People Unity : “มนัญญา”ออกโรงวอน! สหรัฐฯอย่ายัดเยียดในสิ่งที่เราไม่ต้องการ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ยืนยันสารเคมีพิษทำลายสุขภาพคนไทย เดินเครื่อง อุทัยธานีโมเดล เมืองปลอดสารพิษ สะอาดทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ

วันที่ 25 ต.ค.2562 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตร ณ ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เพื่อรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ภายหลังการแบน 3 สารเคมี พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ให้ทุกหน่วยงาน ช่วยเหลือ ดูแล เกษตรกรในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะนำร่องที่จังหวัดอุทัยธานี โดยมีเกษตรกร สมาชิกสหกรณ์การเกษตรในจังหวัดอุทัยธานี รวมไปถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล มาชูป้ายสนับสนุนนโยบายการแบนสารเคมีพิษภาคการเกษตร และ มอบดอกกุหลายสีแดง เพื่อให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมตะโกนว่า “มนัญญา สู้สู้”

นางสาวมนัญญา กล่าวว่า ต้องการทราบความต้องการของเกษตรกรหลังจากที่เราละ ลด เลิก ใช้สารเคมีต่างๆ ไปแล้ว ซึ่งประเทศไทยเราไม่ต้องการให้มีสารเคมี หรือสารพิษที่ทำลายพี่น้องประชาชน แต่ทุกวันนี้เราต้องอยู่กับมัน เพื่ออะไร แล้วเราจะต้องทำอย่างไรต่อไป อากาศ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นของพี่น้องประชาชน ชาวไทยทุกคน ไม่มีใครมาบั่นทอนสุขภาพเราได้

ส่วนที่สถานทูตอเมริกาจะไม่ยอมให้แบนสารพิษนั้น นางมนัญญา กล่าวว่า “สถานทูตอเมริกา ต้องการให้เราใช้ต่อใช่ไหม เราต้องถามพี่น้องประชาชนคนไทย ว่าเราต้องการใช้หรือไม่ เพราะที่จริงแล้ว ระบบกฎหมายใครกฎหมายมันความต้องการของใครก็ความต้องการของมันอยู่แล้ว ถ้าเราต้องการจะให้อะไรกับใครสักคน เราต้องถามประเทศนั้น ๆ ว่าเขายอมรับหรือไม่ การยัดเยียดในสิ่งที่เราไม่ต้องการ มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น”

ส่วนที่สหรัฐอเมริกากดดันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมติของ คณะกรรมการวัตถุอันตรายหรือไม่นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “มันอยู่ที่เรา ว่าเราจะยอมรับตรงนั้น หรือ ปฏิเสธตรงนั้น เราเดินหน้าในการแบนสาร 3 ตัว เราทำมานานแล้ว ต้องเข้าใจว่าเราทำมาหลายปีแล้ว และเมื่อหลายปีที่ผ่านมาต้องเข้าใจว่าทำไมถึงไม่ประสบความสำเร็จ และตัวดิฉันเอง ใช้เวลาทำ 3 เดือน ณ วันนี้ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ ว่าตัวดิฉันเจออะไรบ้าง ณ วันนี้ ทุกอย่างจะเริ่มเปิดเผยออกมาว่าที่ผ่านมาตัวดิฉันเอง ต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทย แต่ตัวดิฉันเองต้องสู้กับอะไร”

ส่วนที่ว่าจะมีการพิจารณาสารทดแทน หรือไม่นั้น นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “คือมันเป็นการพูดเฉย ๆ นะคะ ว่าสารทางเลือกหรือสารทดแทน หรือสารอะไรก็แล้วแต่ เป็นราคาที่สูง จริงๆ แล้วสารพวกนี้อยู่ในท้องตลาดที่เกษตรกรจับต้องได้อยู่แล้ว แต่ทางเลือกของเราต้องการให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพ สรรพสิ่งในประเทศไทย สามารถนำมาทำปุ๋ยได้มากมาย นะคะ”

ส่วนจะทำหนังสือชี้แจงทางสหรัฐฯ หรือไม่นั้น นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “ถ้าทางสหรัฐอเมริกา ทำหนังสือมาที่กระทรวงเกษตร เราจะทำหนังสือตอบกลับไป แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นหนังสืออะไรมา เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือตามไลน์ต่างๆ แต่ที่ส่งหนังสือเป็นทางการ ที่จะส่งมาที่กระทรวงเกษตร ยังไม่เห็น เรามีเหตุผลอยู่แล้วว่าทำไมต้องแบน”

เป็นที่คาดหมายหรือไม่ที่สหรัฐอเมริกา อาจจะลดการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทย นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “อันนี้ก็ต้องดูต่อไปว่าหลังจากนี้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น การจะไปคาดการณ์ล่วงหน้าในสิ่งที่ยังไม่เกิด จะกลายเป็นการสร้างให้เกษตรกรตื่นกลัว หรือจะเป็นการเข้าทาง คือทุกวันนี้เราไม่ได้สู้กับเกษตรกร เกษตรกรทุกคนพร้อมแล้วที่จะ ลด ละ เลิก สารเคมี ซึ่งสารพวกนี้ไม่ได้เป็นผลดีทั้งผู้บริโภค และผู้ที่ฉีดหรือเกษตรกรอยู่แล้ว จริงๆ เรามุ่งหวังจะรักษาสุขภาพชาวไทย เราต้องการมีเกษตรกรที่น่ารักและมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ในประเทศไทยเรามากกว่า เราจะใช้การตลาดนำผลผลิตอยู่แล้ว”

สำหรับการมาประชุมที่ จ.อุทัยธานี หลังจากการแบน 3 สารเคมี นี้จะดำเนินการอะไรบ้าง นางสาวมนัญญา กล่าวว่า “เราจะให้จังหวัดอุทัยธานี เป็นเมืองปลอดสารพิษ เป็นจังหวัดแรก ๆ ที่ปลอดภัย และปลอดสารเคมี เราจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใครมาอุทัยธานี ดิน น้ำ ลม ไฟ ต้องดี ต้องสะอาด ไม่ใช่แค่จังหวัดอุทัยธานี ตัวดิฉันเองจะไปให้ทุกจังหวัดเพื่อจะสร้างโมเดลแบบนี้ให้กับทุกจังหวัด เพียงแต่ว่าจังหวัดนี้เป็นจังหวัดบ้านเกิด เราก็อยากทำอะไรให้กับบ้านเกิดเมืองนอนของเรา เราเติบโตมาจากที่นี่ และเราก็เติบโตมาจากประเทศไทย เพราะเราก็นเป็นคนไทย”

Verified by ExactMetrics