วันที่ 17 กรกฎาคม 2025

เยอะไปแล้วเลือกปฏิบัติ! “ปารีณา” โวย”ชวน”ปิดไมค์

People Unity News :เยอะไปแล้วเลือกปฏิบัติ! “ปารีณา” โวย”ชวน”ปิดไมค์ ไม่ให้หารือขอตั้งกรรมการสอบจริยธรรม “เสรีพิศุทธ์”

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงกรณีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ให้หารือ ในที่ประชุมซึ่งตนเองจะขอให้ ตั้งกรรมการสอบจริยธรรมพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพฤติกรรมดูหมิ่นเหยียดหยามในที่ประชุมกรรมาธิการ ซึ่งเป็นอำนาจโดยตรงของประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่จะตั้งกรรมการสอบจริยธรรม แต่กลับไม่ให้หารือในที่ประชุม ทั้งที ส.ส.คนอื่นก็สามารถหารือเรื่องทั่วไปได้ตามปกติ จึงรู้สึกน้อยใจที่ถูกเลือกปฏิบัติ เพราะนายชวนตัดไมค์มาหลายครั้งแล้ว พร้อมระบุว่า “ท่านช่วนเยอะไปแล้ว”

ส่วนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรวินิจฉัยว่าเป็นเรื่องเฉพาะตัว นางสาวปารีณา ยืนยันว่า เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับประธานสภาผู้แทนราษฎรโดยตรงที่มีอำนาจตั้งกรรมการสอบจริยธรรม แต่ก็พร้อมยอมรับคำวินิจฉัยของประธานสภาผู้แทนราษฎร และขออย่าเลือกปฏิบัติ หากตนเองไม่สามารถหารือเรื่องทั่วไปได้ คนอื่นก็ต้องไม่สามารถหารือเรื่องทั่วไปได้เช่นกัน

สดุดี”สุวัจน์”! หนุนวิจัย”ไดโนเสาร์โคราชกินเนื้อสายพันธ์ใหม่ของโลก”

People Unity News : สดุดี”สุวัจน์”! หนุนวิจัย”ไดโนเสาร์โคราชกินเนื้อสายพันธ์ใหม่ของโลก” งานแถลงข่าวสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562 เวลา 9.30 น. ที่อาคารสิรินธร สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหิน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้รับการสดุดีในงานแถลงข่าวไดโนเสาร์กินเนื้อสายพันธ์ใหม่ของโลก ในฐานะผู้นำกิติมศักดิ์ทางด้านบรรพชีวินที่ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานอนุรักษ์และวิจัยฟอสซิลของสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯมาถึง 25 ปี กล่าวเปิดงานแถลงข่าว “ไดโนเสาร์โคราชกินเนื้อสายพันธ์ใหม่ของโลก : นักล่าแห่งสยาม” ร่วมกับ นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี, นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในฐานะประธานร่วมกันของงานแถลงข่าว

นายสุวัจน์ได้กล่าวขอบคุณที่ท่านอธิการบดีและคณะผู้วิจัยไทยและญี่ปุ่นได้ตั้งของตน เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ของชื่อไดโนเสาร์ที่พบใหม่และเป็นพันธ์ใหม่ ลำดับที่ 12 ของไทย ในชื่อ “สยามแรพเตอร์ สุวัจน์ติ” (Siamrapter Suwati) และนายสุวัจน์ยังแสดงความคิดเห็นถึงความสนใจที่จะพัฒนาในด้านของบรรพชีวินวิทยา เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดนครราชสีมาที่มีความพร้อม โดยเฉพาะด้านฟอสซิล ที่อาจกล่าวได้ว่า โคราชเป็น Fossil City เพราะพบเป็นจำนวนมาก หลากหลายอายุและหลายชนิดในบริเวณชานเมืองจังหวัดนครราชสีมา ที่สามารถจะพัฒนาไปจนถึงเป็นระดับผู้นำของโลกได้ เพราะศักยภาพโคราชพร้อมและโดดเด่น โดยสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯเป็นเสาหลักในเรื่องนี้ รวมทั้งนำเรื่องนี้เป็นเหตุผลหลักในการขอรับรองการจัดตั้งพื้นที่ 5 อำเภอ ของโคราชจีโอพาร์ค ให้เป็นจีโอพาร์คโลกที่รับรองโดยยูเนสโก ซึ่งจะมีการประเมิณในอีก 6-7 เดือนที่จะถึงนี้ โดยหวังในความอนุเคราะห์สนับสนุนจากทางกรมทรัพยากรธรณี จังหวัดนครราชสีมา กรรมการบริหารมหาวิทยาลัย ประการสำคัญคือ ชาวโคราชทั้งหมดที่จะมีส่วนร่วมผลักดันขับเคลื่อน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ของโลกต่อจากเกาหลีใต้และจีน ที่จะได้ชื่อว่า “ดินแดน 3 มงกุฎของยูเนสโก” หรือ “The UNESCO Triple Crown”

โดยภายในงานแถลงข่าวได้รับเกียรติจาก นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายประเสริฐ บุญชัยสุข อีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และประชาชนมาร่วมงานอย่างอบอุ่น

พล.อ.ประวิตรเรียกถกบริหารจัดการน้ำและถนน

People Unity News : พล.อ.ประวิตรเรียกประชุมคณะทำงาน มอบนโยบาย การปฏิบัติราชการในภูมิภาค มุ่งเน้นประสิทธิภาพ การจัดการน้ำและถนน เพื่อยกระดับ วิถีชีวิตชาวบ้านที่อยู่ห่างไกล

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม.เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.ได้เป็นประธานการประชุม คณะทำงานเพื่อมอบนโยบายในการกำกับ และติดตาม การปฏิบัติราชการในภูมิภาค ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร ได้รับทราบความคืบหน้าการปฎิบัติราชการในเขตตรวจราชการ จำนวน 4 เขต (เขต1,7,13,16) รวม 17 จังหวัด พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณในการปฏิบัติงานที่ผ่านมาเป็นอย่างดี และได้มอบนโยบายให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการดังนี้ ประการแรกให้เร่งรัดติดตามความก้าวหน้าผลการปฎิบัติงาน ตามนโยบายรัฐบาล โดยมุ่งเน้นยุทธศาสตร์ชาติ และยุทธศาสตร์การพัฒนาภาค ประการที่สองให้จังหวัดดำเนินการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ประการที่สามให้จังหวัด รายงานผลความก้าวหน้า การเบิกจ่ายงบประมาณในระบบฐานข้อมูลสาระสนเทศ ประการที่สี่ให้พิจารณาโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามบริบทของพื้นที่ และประการที่ห้าให้รักษา วินัย การเงิน การคลัง อย่างเคร่งครัด โดยต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่รัฐและประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ

พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำขอให้คณะทำงาน และผู้ตรวจราชการ ทุกคนที่ได้รับการแต่งตั้งจะต้องทุ่มเทในการปฎิบัติหน้าที่ อย่างจริงจัง ด้วยความรับผิดชอบ คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่สำคัญเร่งด่วนได้แก่ปัญหาน้ำแล้งและถนนหนทาง ต้องให้ความสำคัญ โดยมีการประสานงาน กำกับและติดตาม การปฏิบัติราชการในภูมิภาคให้ครอบคลุมทุกมิติ สำหรับจังหวัดต่างๆถึงระดับอำเภอ ขอให้จัดทำถนนคนเดิน เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้เป็นแหล่งค้าขายเพื่อ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งรัดการปฏิบัติงานตามแผนงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรมต่อไป ทั้งนี้จังหวัดจะต้องสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนเพื่อการมีส่วนร่วมและเห็นประโยชน์ร่วมกันควบคู่กันไปด้วย

“อนุสรณ์”ชี้เครื่องจักรเศรษฐกิจวิกฤตหมดทั้ง 5 ด้าน

People Unity News : “อนุสรณ์” โฆษกพรรคเพื่อไทย ชี้เครื่องจักรเศรษฐกิจวิกฤตหมดทั้ง 5 ด้าน ส่งออกติดลบ บริโภค ชะลอตัว ลงทุนภาครัฐหด ลงทุนภาคเอกชนลด นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี เครื่องจักรเศรษฐกิจวิกฤตหมดทั้ง 5 ด้าน ว่า สิ่งที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ ชะลอตัวลงทุกรายการเครื่องจักรที่เคยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 5 ด้าน ได้แก่ การส่งออก, การบริโภคภายในประเทศ,การใช้จ่ายภาครัฐ, การลงทุนภาคเอกชน, การท่องเที่ยว พร้อมใจกันมีปัญหา ทั้งหมด

1.การส่งออกติดลบ จากภาคอุตสาหกรรมหดตัว ยอดคำสั่งซื้อลดลง โรงงานลดจำนวนเวลาทำงาน ลดโอที ปลดพนักงาน เลิกกิจการ เหตุจากเศรษฐกิจใน-ต่างประเทศ ชะลอตัว เงินบาทแข็งค่า รวมถึงราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ที่กระทบเกษตรกร ทำให้ผลผลิตล้นตลาด ราคาตกต่ำ

2.การบริโภคภายในประเทศชะลอตัว คนจับจ่ายใช้สอยน้อยลง เงินเฟ้อหดตัว เงินเดือนไม่ปรับขึ้น เงินออมไม่กล้านำออกมาใช้

3.การลงทุนภาครัฐหดตัว การลงทุนเมกะโปรเจคหลายโครงการเลื่อนออกไป หรือตัวโครงการดำเนินการล่าช้า ไม่มีการลงทุนใหม่ๆ มีแต่โครงการต่อเนื่องจากปีงบฯปีก่อน รายได้รัฐจากการจัดเก็บรายได้กรมเก็บภาษีบางกรม เก็บได้น้อยลง

4.การลงทุนภาคเอกชนลด อันเกิดจากความไม่ชัดเจนของรัฐบาลในการเจรจาการลงทุนจากต่างประเทศ และความล่าช้าของงบประมาณ ทำให้ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน ดูได้จากตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ของสภาอุตสาหกรรม เทียบปีต่อปี หรือไตรมาสต่อไตรมาส รวมถึงตัวเลขคาดการณ์ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า

5.การท่องเที่ยว เมื่อดูรายประเทศ รายภูมิภาค นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง เหตุจากภาครัฐไม่มีมาตการระยะยาวในการทำโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวรองรับ ปัญหาเงินบาทแข็งค่า จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

“ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ จะไปหาความมั่นใจหรือความเชื่อมั่นจากที่ไหน เพราะขนาดในทีมเศรษฐกิจทีมเดียวกันเอง ยังโบ้ยความรับผิดชอบ ส่งสัญญาณคายฟันยาง ตัวใครตัวมัน สุดท้ายปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนก็ถูกทิ้งไว้ โดยไม่สามารถแก้ไขอะไรได้” นายอนุสรณ์ กล่าว

 

“อนุทิน”เชื่อ”ธนาธร”ไม่พาม็อบลงถนน เหตุไม่อยากทำบ้านเมืองเสียหาย

People Unity News : โนคอมเม้นท์! “อนุทิน” ไม่มีความเห็นต่อคำตัดสิน “ธนาธร” ย้ำกฎหมายห้ามวิจารณ์ศาล เชื่อไร้ม็อบลงถนน มั่นใจ “ธนาธร” ไม่อยากทำบ้านเมืองเสียหาย

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ หลุดพ้นจากสถานะ ส.ส.ด้วยความผิดเรื่องถือหุ้นสื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กฎหมายห้ามวิพากษ์บิจารณ์คำตัดสินใช่หรือไม่ ดังนั้น ตัดสินอย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าคำตัดสินนี้ จะเป็นเหตุให้เกิดการชุมนุมตามมา นายอนุทิน ตอบว่า ผู้ที่อาสามารับใช้บ้านเมือง เป็นผู้แทนประชาชน ถึงขั้นทุ่มเทตั้งพรรคขึ้นมา คงไม่มีความคิดทำให้บ้านเมืองเสียหาย นอกจากนั้น บ้านเมืองยังปกติ ไม่มีเงื่อนไขให้ประชาชนออกมาชุมนุม ที่สุดแล้ว หากทำอะไรก็ตาม ถ้าคำนึงถึงบ้านเมือง รับรองว่าไม่มีปัญหา

“ในความเป็นจริง ถ้าต้องการมาทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ สำหรับตนเอง เคยโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองมา 10 ปี ทั้งจากการถูกตัดสิทธิ์ตามกฎหมาย และจากการยึดอำนาจ แต่ระหว่างนั้น สามารถช่วยเหลือบ้านเมืองทางอื่นได้ อยากให้ทุกคนมาช่วยกัน ไม่ว่าจะมีตำแหน่ง หรือไม่มีตำแหน่งก็ตาม”

มั่นใจภัยแล้ง ไม่กระทบ รพ. ย้ำ ให้บริการได้ตามปกติ

จากสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ ซึ่งมีความกังวลว่าอาจกระทบกับการให้บริการของสถานพยาบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมรับมือกับปัญหาข้างต้นแล้ว อาทิ หลายโรงพยาบาล ได้เตรียมบ่อบาดาล และระบบกักเก็บน้ำ เชื่อว่า จะจัดการปัญหาได้

ที่สำคัญปัญหาภัยแล้ง มักจะกระทบกับพื้นที่รอบนอก มากกว่าลามมากระทบกับโรงพยาบาล ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุข มีแผนแก้ไขปัญหา เพื่อให้การบริการเดินหน้าได้อย่างปกติ

เชื่อนานาชาติพร้อมเที่ยวไทย แนะ ทุกภาคส่วน ดูแลเรื่องความสงบ

นายอนุทิน กล่าวภายหลังจากการเยือนประเทศสเปน ในภารกิจเข้าร่วมประชุม IBTM World 2019 หรือการประชุมกลุ่มผู้ประกอบการ “ไมซ์” นานาชาติ ว่า
เป็นการเดินทางไปร่วมประชุม ในกิจกรรมของสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็ป” ทำให้พบว่าต่างชาติ ยังชื่นชอบการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย

จุดนี้ ประเทศไทยมีความโดดเด่นในเรื่องของสภาพอากาศ ไม่ร้อนเกินไป ไม่หนาวเกินไป ไม่มีการชุมนุม ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลเรื่องคามสงบเรียบร้อย ตรงนี้ จะกลายเป็นแรงหนุน ช่วยดึงดูดนานาชาติให้มาพักผ่อน ท่องเที่ยว และจัดอีเว้นท์ในประเทศไทย โดยเฉพาะลูกค้าที่มาเป็นองค์กร มั่นใจว่าธุรกิจ “ไมซ์” จะทำเงินให้ประเทศมหาศาล

ส่วนตัวเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการด้านสุขภาพ ให้มาจัดกิจกรรมที่ประเทศไทย และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี

สยบข่าวเกาเหลา! “อนุทิน” ยันไม่มีปัญหา “บิ๊กตู่-พรรคร่วม”

People Unity News : สยบข่าวเกาเหลา! “อนุทิน” ยันไม่มีปัญหา “บิ๊กตู่-พรรคร่วม” แจง สมาชิก ภท.แจ้งความสื่อ เป็นเรื่องสิทธิ์ส่วนตัว เพื่อปกป้องชื่อเสียง

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวว่าพรคภูมิใจไทยมีความขัดแย้งกับพรรคร่วมว่า เป็นการตีความกันไปเอง เมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ต้องช่วยเหลือกัน ถ้าทำงานอย่างสุจริต พรรคภูมิใจไทย พร้อมสนับสนุนเต็มที่

ภาพที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั่งในเรือร่วมกับตนเองนั้น เกิดจากว่ามีรูปพอดี และตนก็มีความสัมพันธ์ที่ดี ทำงานร่วมกัน มีความสุข ที่ผ่านมาเวลาทำงานรายงานนายกฯตลอด ทางนั้น ตอบรับเป็นอย่างดี มีทั้งคำขอบคุณ และคำชมเชย

“แต่กับสื่อบางสำนัก ขอชี้แจงว่าเป็นเรื่องของสมาชิกพรรคแต่ละคนที่ไปฟ้องร้องดำเนินคดี เพื่อปกป้องชื่อเสียงของเขา เพราะเขาต้องใช้ชื่อพรรคหาเสียง สำหรับตนเอง ยังไม่ฟ้อง เพราะมีประเด็นจำนวนมาก ขอเวลาปรึกษานักกฎหมายก่อน ต้องยอมรับว่าที่สื่อสำนักนั้นนำเสนอ ได้สร้างความเสียหายให้กับพรรค คนของพรรคก็ต้องปกป้องตัวเอง สำหรับสื่อ มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์แต่ต้องรับผิดชอบ และทำงานอย่างสร้างสรรค์”

เมื่อถามถึงความพร้อมของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยมีความพร้อม เพราะทำงานเพื่อชาติ ด้วยใจสุจริต แต่ถ้ารู้ว่ามีการคอร์รัปชั่น หัวหน้าพรรคจะลุยจัดการอย่างแน่นอน สำหรับพรรคร่วม เชื่อว่าทุกท่านทำงาน และมีข้อมูลไปตอบฝ่ายค้าน ทั้งนี้ ถ้าทำงานอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่มีการโกง พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนเต็มที่

“เสรีพิศุทธ์”เมิน”พปชร.”ส่ง”ไพบูลย์”นั่งกมธ.ป.ป.ช.

People Unity News : “เสรีพิศุทธ์”เมิน”พปชร.”ส่ง”ไพบูลย์”นั่งกมธ.ป.ป.ช. แทน “ดล” แจงยกเลิกคำสั่งลักไก่แต่งตั้งที่ปรึกษาประธาน กมธ.แล้ว

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ กล่าวถึงกรณีที่นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา ลาออกจากการเป็นรองประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยพรรคพลังประชารัฐ จะส่งนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มาทำหน้าที่แทนว่า ยังไม่ได้รับการหนังสือลาออกจากนายดล และไม่กังวลที่พรรคพลังประชารัฐ จะส่งนายไพบูลย์มาทำหน้าที่แทน เพราะเชื่อว่า เป็นการกดดันจากฝั่ง ส.ส.รัฐบาล เพราะเมื่อมีการเปลี่ยนตัวให้นายสิระ เจนจาคะ และนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.พลังประชารัฐ กรรมาธิการก็มีแต่ป่วน

ส่วนกรณีที่นางสาวปารีณาไปแจ้งความเอาผิดพลตำรวจเอกเสรีศุทธ์ กรณีฝืนมติที่ประชุมธรรมาธิการที่ให้ออกหนังสือเรียกนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีแบบธรรมดา แต่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กลับสั่งการให้ออกเป็นหนังสือคำสั่งเรียกนั้น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ชี้แจงว่า เป็นความไม่เข้าใจของนางสาวปารีณา พร้อมยืนยันได้ดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญที่ในเชิญนากยรัฐมนตรี แต่รูปแบบการออกหนังสือนั้นไม่มีการกำหนดรูปแบบ จึงต้องใช้รูปแบบของหนังสือคำสั่งเรียก

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยังชี้แจงถึงการออกประกาศแต่งตั้งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการฯ ที่ระบุมติที่ประชุมในวันที่ 20 พฤศจิกายน แต่กลับมีการเผยแพร่ก่อนเมื่อ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ได้ยกเลิกหนังสือดังกล่าวไปแล้ว เพื่อเปลี่ยนหนังสือใหม่ เป็นเพื่อให้ทราบ

“หญิงหน่อย”ปลุกนศ.ร่วมแก้ไข รธน.อาสาตัวเป็นนั่งร้านให้คนรุ่นใหม่ต่อยอด

People Unity News : “หญิงหน่อย”ลั่นต้องเลิกโครงสร้างรัฐราชการ เปลี่ยนปชช. เป็นศูนย์กลาง ปลุกนศ. ร่วมแก้ไข รธน. พร้อมอาสาตัวเป็นนั่งร้าน ให้คนรุ่นใหม่ต่อยอด ยันเพื่อไทยพร้อมสู้เลือกตั้งขอนแก่นเขต 7

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14.00 น. ที่ห้องออดิทอร์เรียม พิพิธภัณฑ์ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อไทยจัดโครงการ เพื่อไทยพลัสยุคใหม่ แข็งแกร่งกว่าเดิม โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ปาฐกถา“เพื่อไทยยุคใหม่ ประชาชนคิด เพื่อไทยทำ” ตอนหนึ่งว่า การจัดงานวันนี้ไม่ใช่เพื่อความแข็งแกร่งของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เราอยากให้มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น โดยใช้ช่องทางพรรคการเมืองนำไปสู่การทำงาน การทำนโยบาย เพราะวันนี้โลกเปลี่ยน การเมืองบริบทเดิมไม่ตอบโจทย์ประเทศ วันนี้เป็นโลกยุคดิจิทัล ถ้าผู้นำ ผู้บริหารคว้าเป็นจะเกิดโอกาส แต่ถ้าผู้นำไม่ปรับตัวจะตกยุกต์แบบตามไม่ทัน อย่างไรก็ตามวันนี้ผู้นำประเทศต่างๆ เด็กลงทุกวัน เพราะการมีเทคโนโลยีสมัยใหม่บีบให้ทุกองค์กร แสวงหาคนที่คิดใหม่ ไม่ใช่เพราะคนเบื่อการเมือง แต่ตอนนี้ต้องการคนมีความรู้ที่ทันต่อโลกยุคใหม่ การที่ได้คนดี คนซื่อสัตย์ มีวิสัยทัศน์ มาเป็นผู้นำวันนี้อาจไม่พอแล้ว แต่ผู้นำจึงต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เพื่อจะได้คว้าโอกาสเหล่านี้เป็นเครื่องมือทำมาหากินให้กับประชาชน แต่ถ้าไม่เข้าใจมันก็ไปต่อไม่ได้

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ต่อไปนี้สิ่งที่จะออกแบบให้ประเทศไทย คือจะต้องเลิกโครงสร้างรัฐราชการที่เป็นศูนย์กลาง ให้กลายเป็นประชาชนเป็นศูนย์กลาง กระจายอำนาจ กระจายโอกาส จะรวยกระจุกจนกระจายไม่ได้ สังคมประเทศต้องถูกปรับเพราะไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน เช่น งบประมาณปี 63 ที่ รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ใช้เงินมากสุดเท่าที่มีรัฐบาลมา และจัดงบขาดดุลมาทุกปีต่อเนื่องมาแล้ว 5-6 ปี แต่เศรษฐกิจก็ยังไปไม่ได้ เพราะเงินที่ใช้ลงไปไม่ตอบโจทย์เนื่องจากรัฐส่วนกลางคิด เช่น การทำงานของกระทรวงดีอี จะเปลี่ยนเป็นกระทรวงแห่งออแกไนซ์เซอร์ จัดงานอย่างเดียว หรืองบการลงทุนหลายหมื่นล้าน ที่มีแต่จะสร้างตึก ไม่กระจายลงท้องถิ่น หรือแม้แต่โครงการประชานิยมที่รัฐบาลแจกเงิน ซึ่งเพื่อไทยไม่เคยแจกเงินมีแต่ตั้งกองทุน เช่น กองทุนหมู่บ้าน ทั้งนี้วันนี้เรามีปัญหาคือ 1.การกระจายอำนาจ 2. ประเทศไทยจะไปทางไหนกับโลกในปัจจุบัน ที่กำลังเผชิญกับสงครามการค้า และสงความเทคโนโลยี เรื่องเหล่านี้เราจะไม่สามารถเอาชนะด้วยเรือดำน้ำ หรือรถถังที่ประโคมซื้อ นอกจากนี้ในช่วง5 ปีที่ผ่านมา เราไม่เตรียมความพร้อมติดอาวุธ ซึ่งคือปัญญาให้เด็กไทยให้พร้อมเข้าสู่การแข่งขัน รวมถึงไม่สนับสนุนคนรุ่นใหม่มากพอ อย่างไรก็ตามปี 2563 เด็กจบใหม่จะหางานยากขึ้น และคาดว่าจะตกงานมากถึง 5 แสนคน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี รวมถึงเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงเรา

“นอกจากนี้ในเรื่องของรัฐธรรมนูญที่มีความบิดเบี้ยว ที่เราเห็นผลจากการเลือกตั้ง พรรคที่ได้ส.ส. อันดับหนึ่งก็ไม่มีสิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาล และถ้าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกนาน ทั้งยังขัดขวางการพัฒนาประเทศ เพราะเขียนล็อคประเทศไว้ทั้งหมด ดังนั้นน้องๆ ต้องสนใจในเรื่องนี้ เนื่องจากจะต้องอยู่ในประเทศนี้ เราต้องการคนรุ่นใหม่มาดูแลประเทศต่อ โดยเราจะเป็นนั่งร้านที่คลุกกับดินให้คนรุ่นใหม่มาเหยียบต่อยอด เราจะนิ่งเฉยให้เขาปู้ยี่ปู้ยำอนาคตแบบนี้ไม่ได้ และประเทศนี้จะไปต่อไม่ได้ถ้าเราไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกิจกรรมโฟกัสกรุ๊ป “เพื่อไทยพลัส เพื่อไทยยุคใหม่ แข็งแกร่งกว่าเดิม” เป็นกิจกรรมที่พรรคเพื่อไทยได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาสถาบันการเมือง โดยกิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นสร้างการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ในรูปแบบของกิจกรรมระดมความคิดเห็นผ่านตัวอักษรและภาพ โดยกำหนดจัดกิจกรรม 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ

เพื่อไทยพร้อมสู้เลือกตั้งขอนแก่นเขต 7

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงการเตรียมส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น แทนนายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า ขณะนี้หัวหน้าพรรคอยู่ระหว่างดำเนินการ ขอยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องสู้กันอย่างหนัก เพราะการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา มีการใช้อำนาจเงินและอำนาจรัฐมาก ซึ่งการเลือกตั้งเพียงเขตเดียว แต่คาดว่าจะระดมทุกสรรพกำลังลงไป ต้องฝากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ช่วยตรวจสอบและทำให้การเลือกสุจริต

“ยืนยันว่าพร้อมจะสู้ เนื่องจากอีสาน เป็นที่เกิดของพรรคไทยรักไทยและเพื่อไทยในปัจจุบัน และมีความผูกพันกัน ที่ผ่านมาในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คนอีสานก็ถูกทอดทิ้ง ดังนั้นการเลือกตั้งเขต 7 จะเป็นนัยเตือนรัฐบาล ที่ต้องเร่งทำงานให้กับคนจน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวและว่า ส่วนจะมีชื่อของนายอดิศร เพียงเกษ เป็นผู้สมัครของพรรคหรือไม่ ยังไม่ชัดเจน

“ธนาธร”ยันพร้อมสู้คดีอาญาแม้จะจบชีวิตในคุก ชี้อนาคตใหม่กู้เงินไม่ผิด

People Unity News :  “ธนาธร”อัดอภิสิทธิ์ชนทำชาติล้าหลัง ยันพร้อมสู้คดีอาญาแม้จะจบชีวิตในคุก ชี้อนาคตใหม่กู้เงินไม่ผิด

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 ในการอบรมนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 10 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้จัดการเสวนาในหัวข้อ “ผู้นำการเมืองกับอนาคตประเทศไทย” โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเป็นวิทยากรด้วย และได้กล่าวว่า ตนเป็นคนที่มั่งคั่ง ภูมิใจในความรวยมากเพราะไม่เคยรวยจากเงินภาษีของประเทศ เนื่องจากบริษัทของตนไม่เคยเป็นคู่สัญญากับรัฐ แต่รวยจากการสร้างนวัตกรรม สร้างเทคโนโลยีที่ทำให้มีการจ้างงานกว่า 20,000 อัตรา วันนี้คนบางกลุ่มมีอำนาจทางการเมืองโดยไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง โครงสร้างที่ค้ำยันกลุ่มอภิสิทธิ์ชน คือทหาร ทุนผูกขาด ระบบราชการที่ใหญ่โตเทอะทะ และกระบวนการยุติธรรม ประเทศไทยมีทรัพยากรเพียงพอที่จะสร้างรัฐสวัสดิการที่ดีกว่านี้ แต่กลับถูกฉุดรั้งโดยกลุ่มคนที่ต้องการให้เห็นวันนี้ในทุกๆวันเป็นเมื่อวาน เพื่อให้เขามีฐานอำนาจ กว่า 10 ปีที่ผ่านมา เราเถียงกันอำนาจประเทศเป็นของประชาชน ผู้นำจากการเลือกตั้ง หรือมาจากกลุ่มที่มีอำนาจโดยไม่ได้มาจากประชาชน ซึ่งตนเชื่อว่าอำนาจเป็นของประชาชน ไมว่าจะไทยเจ๊ก ไทยลาว ไทยใต้ นามสกุลสูงศักดิ์ หรือชาวนา ทุกคนควรมีสิทธิเท่ากัน ต้องได้รับการบริการจากรัฐที่ดีเท่าเทียมกัน ได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน แต่ประชาชนภายใต้รัฐธรรมนูญ 60 ถูกทำให้ไม่มีความหมาย

นายธนาธร กล่าวอีกว่า อำนาจของรัฐถูกแบ่งเป็น 3 ขา ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ เพื่อให้มีการตรวจสอบและถ่วงดุล โดยรัฐบาลไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือเผด็จการ เมื่อมีนโยบายสาธารณะที่อาจตัดสินใจถูกหรือผิดก็ได้ แต่ รธน.60 คณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งแต่งตั้งโดยคสช. ไม่ได้มาจากประชาชน อยู่เหนือรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ชี้เป็นชี้ตายให้รัฐบาลที่มาจากประชาชนได้ นี่คือดุลอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน ฝ่าย นิติบัญญัติ ส.ว .250 คนไม่มาจากประชาชน เขากลัวประชาชนจะออกกฎหมายลดอภิสิทธิ์ทางการปกครอง การดำรงอยู่ของส.ว.เพื่อนำคนที่ประชาชนไม่ได้เลือกมาเป็นนายกฯ หากเอาคะแนนปอบปูล่าโหวตมาดู จะพบว่า 75% เป็นคะแนนรวมจากพรรคที่ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ พรรคที่สนับสนุนมีคะแนนเพียง 25% เท่านั้น ขณะที่อำนาจตุลการ และองค์กรอิสระก็ได้รับการแต่งตั้งหรือยืดอายุโดย คสช. อำนาจ 3 ฝ่ายถูกควบคุมไว้ทั้งหมด ตนเชื่อมั่นแรงกล้าว่า ประชาธิปไตยจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราได้ดีกว่าเผด็จการ ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยแล้วจะย้อนกลับมายอมรับอำนาจเผด็จการไม่ได้ เรามาไกลเกินกว่าที่จะย้อนประเทศไทยกลับไปดั้งเดิม ประชาชนทุกคนเป็นประธานของประโยค ไม่ได้เป็นกรรม

“ผมชื่นชมทกคนที่ออกมาต่อต้านคอรัปชั่น แต่ถ้าคนเหล่านั้นไม่พูดถึงกองทัพ สัมปทานช่อง 7 กี่ปี และช่อง 5 หายไปไหนไม่มีอยู่ในงบประมาณ หรือแม้แต่เงินภาษีที่ใช้จ้างพลทหาร แต่ถูกเอาไปดูแลบ้านนายพล เป็นการคอรัปชั่นหรือไม่ เราพูดถึงแต่นักการเมือง ไม่แตะคนที่ตรวจสอบไม่ได้ การแสดงทรัพย์สิน นายพล ในสนช.รวยเป็นพันล้านบาทเป็นไปได้อย่างไร คนที่ไม่กล้าตรวจสอบคนเหล่านี้ ผมถือว่าเฟคทั้งหมด วันนี้ผมไม่ได้เป็นส.ส. ไม่มีอภิสิทธิ์ แต่ถ้าจะเดินหน้าประเทศต่อไป ก็ขอเสนอแนวทางไทยแลนด์ 3D ทำให้ประเทศกับมาเป็นประชาธิปไตย, ลดบทบาทกองทัพ ,และยุติอำนาจรวมศูนย์ในกรุงเทพกระจายอำนาจให้ท้องถิ่น มีคนบางคนบอกว่าถ้าคุณทำดีจะมีอายุอยู่ถึง 90 หรือ 100 ปี แต่ผมไม่สนใจอายุขัย ไม่สนใจว่าจะจบสวยหรือไม่ ถ้าผมพูดความจริง ยืนหยัดต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะต้องจบชีวิตในคุกในตะรางก็ภูมิใจที่ได้สร้างสังคมที่เท่าเทียมส่งต่อให้ลูกหลาน และภูมิใจที่ชีวิตอาจจะจบไม่สวย แต่ไม่เลียท็อปบู๊ททหารแน่ๆ” นายธนาธร กล่าว

ลั่นพร้อมสู้คดีอาญาชี้อนาคตใหม่กู้เงินไม่ผิด

นายธนาธร กล่าวถึงกรณีอาจจะถูกดำเนินคดีภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ว่า ไม่ว่าจะเป็นคดีที่ใครเป็นผู้ฟ้อง พร้อมจะสู้อย่างเต็มที่ และที่เดินทางมาร่วมอภิปรายที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) วันนี้(21 พ.ย.) ไม่ได้คุยนอกรอบเกี่ยวกับกรณีกกต.จะดำเนินคดีอาญาเรื่องสมาชิกภาพ ส่วนคดีที่ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน ถ้าถามนักบัญชีหรือนักกฎหมายจะได้คำตอบว่าเงินกู้เป็นหนี้สิน อยู่ในงบดุลไม่ใช่รายได้และไม่อยู่ในงบกำไรขาดทุน จึงไม่ได้รู้สึกกังวล และมองไม่ออกว่าจะขัดกฎหมายหรือขัดรัฐธรรมนูญอย่างไร

นายธนาธร กล่าวว่า อยากทำงานการเมืองโปร่งใส อยากให้สาธารณชนรับทราบ จึงไม่แน่ใจว่าการทำอย่างนี้จะผิดกฎหมายได้อย่างไร ขณะนี้ได้รับหนังสือแจ้งจากกกต.ให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมแล้ว แต่ได้ตอบกลับด้วยวาจาไปก่อนว่าขณะนี้พรรคอนาคตใหม่งานเยอะมาก ทำให้ไม่ทัน จึงจะขอขยายระยะเวลาส่งเอกสารออกไปก่อน ยืนยันพรรคจะทำหน้าที่ของเราต่อไป เพราะยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก ทั้งการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ การทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่เสนอต่อสภา ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และปัญหาความเหลื่อมล้ำ

ส่วนการแก้ไขปัญหาโครงสร้างอำนาจต้องกระทบกับผู้มีอำนาจรัฐจะทำอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ต้องเจรจาต่อรองกัน ถ้าจริงใจต่อการปฏิรูปประเทศเพียงพอ ต้องกลับมาพูดเรื่องอำนาจว่าใครมีอำนาจมากน้อยเพียงใด ที่ผ่านมายิ่งปฏิรูปคนกลุ่มเดิมยิ่งมีอำนาจมากขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ไม่เรียกว่าปฏิรูป ถ้าอยากปฏิรูปให้สังคมไทยกลับมาเท่าเทียมกัน ต้องให้อำนาจกลับคืนสู่ประชาชน เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข เพื่อให้บ้านเมืองไปต่อได้

เมื่อถามถึงการอภิปรายเรื่อง “ผู้นำการเมืองกับอนาคตประเทศไทย” โดยระบุว่า จะไม่เลียท็อปบู๊ททหาร ถือเป็นความอึดอัดส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นจากคดีหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ใช่แต่ถามว่าใครไม่อึดอัดบ้าง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมากับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดว่าประชาชนคงเห็นกับความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่พร้อมยืนหยัดต่อสู้ เพื่อทวงคืนความเป็นธรรมความถูกต้อง เรายังคงยืนยันเรื่องการต้องลดอำนาจของกองทัพลง ต้องปฏิรูปกองทัพให้อยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน เป็นทางเดียวที่จะทำให้สังคมเดินต่อไปข้างหน้าได้ ไม่มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีกในอนาคต

เมื่อถามย้ำว่าหากมีส.ส.เขตลาออกเพื่อเปิดทางให้ จะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่หรอก เราตั้งพรรคการเมืองนี้มา ไม่ใช่เพื่อให้พวกเราเป็นรัฐมนตรีหรือส.ส. ไม่เคยคิดว่าตำแหน่งส.ส. รัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี คือเป้าหมายสุดท้าย สิ่งที่ต้องการคือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ดังนั้น การเป็น ส.ส.หรือไม่เป็น ส.ส.ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ซึ่งตนพร้อมทำงานต่อไป

“ธนกร”แนะ”ธนาธร”ตั้งสติ อย่ายึดติดเคารพคำตัดสินศาลรธน.

People Unity News :  “ธนกร”แนะ”ธนาธร”เคารพคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ อย่าวิพากษ์จนกลายเป็นละเมิดอำนาจศาล จี้ตั้งสติ อย่ายึดติด เพราะยังมีสิ่งที่ทำเพื่อประเทศได้อีกมาก

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นจากสมาชิกภาพส.ส.ว่า ตนเข้าใจความรู้สึกของนายธนาธร แต่อยากให้นายธนาธรเคารพคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ อย่าพยายามวิพากษ์วิจารณ์คำตัดสินของศาลเหมือนที่กระทำอยู่ ระวังจะละเมิดอำนาจศาล ทั้งนี้ จากการฟังคำวินิจฉัยของศาลนั้น มีความชัดเจนทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย ตนเชื่อว่าพี่น้องคนไทยทั่วประเทศที่ดูการถ่ายทอดอยู่ก็เข้าใจเหมือนที่ตนเข้าใจ จึงไม่อยากให้นายธนาธรและนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ วิพากษ์วิจารณ์แล้วยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีใครไปกลั่นแกล้งได้

นายธนกร กล่าวอีกว่า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยนั้น ตนรู้สึกแปลกใจมากที่นายธนาธรมีการเชิญชวนมวลชนไปที่สยามเพื่อรณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหารทันที เหมือนต้องการทำอะไรบางอย่าง ซึ่งตนพูดมาตลอดว่า หากมีอะไรขอให้นำเข้าสู่กลไกรัฐสภาจะดีกว่า ไม่อยากให้ใครปลุกระดมมวลชนลงถนนอีก อย่างไรก็ตาม ตนยังดีใจที่นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เคยออกมาบอกว่า จะไม่นำมวลชนลงถนนเด็ดขาด ดังนั้น แม้ตนจะเห็นใจนายธนาธร แต่นายธนาธรจะโทษใครคงไม่ได้ เพราะทุกอย่างมาจากการกระทำของนายธนาธรเอง อย่าโทษรัฐบาลหรือโทษใคร เพราะกรรมของใครก็ต้องรับไป ขอให้นายธนาธรมีสติ ยังมีงานอีกมากมายที่นายธนาธรสามารถทำให้กับประเทศชาติและประชาชนได้ อย่ายึดติด

Verified by ExactMetrics