วันที่ 5 พฤษภาคม 2024

“นิพนธ์”ชูกระบี่ต้นแบบรักษาความปลอดภัยทางทะเล

People Unity News : “นิพนธ์”ลงพื้นที่ท่องเที่ยวมอบนโยบายเตรียมความพร้อมการช่วยเหลืออุบัติภัยทางทะเล ทางถนนและช่วงไฮซีซันแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านอุบัติภัยทางทะเล เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 เวลา 16.30 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปมอบนโยบายให้กับหน่วยงาน และอาสาสมัครด้านการช่วยเหลืออุบัติภัยทางทะเล ทางถนน และช่วงไฮซีซัน ของจังหวัดกระบี่ ณ บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ โดยมี พันตำรวจโท หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หน่วยอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเข้าร่วมรับมอบนโยบาย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่กล่าวรายงานถึงการเตรียมความพร้อม ด้านการป้องกันและช่วยเหลือด้านอุบัติภัยทางทะเล

นายนิพนธ์ กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และมอบนโยบายมนการที่จะให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิยัติงานมีความพร้อม นั่นคือการอบรมให้ความรู้ ดูแลและแก้ไข ทั้งในเรื่องของวินัย และภัยสาธารณะต่างๆ โดยเฉพาะเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคนที่มาเที่ยวกระบี่ ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติ และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกทางหนึ่ง ผู้ปฏิบัติงานทุกคนจึงต้องมีความพร้อมอยู่เสมอ ในการที่จะดูแล และคอยข่วยเหลือนักท่องเที่ยว

ต่อจากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชมการสาธิตการซ้อม ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวทางทะเล ในกรณีเกิดอุบัติภัยทางทะเล บริเวณหน้าหาดที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ ตำบลอ่าวนาง จังหวัดกระบี่

“วราวุธ” ยันปล่อย “ชัยวัฒน์” ต่อสู้่ตามกระบวนการยุติธรรม

People Unity News : “วราวุธ” รมว.ทส. ยัน “ชัยวัฒน์” โดนหมายจับคดีอุ้มฆ่า “บิลลี่” ให้ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ผลตัดสินออกมาอย่างไร ทส.น้อมรับไม่มีอะไรซับซ้อน

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 จากกรณีศาลออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุบลราชธานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในคดีฆาตกรรม นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นั้น เมื่อเวลา 07.45 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอหมายจับจากศาลอาญา และทราบจากข่าววันนี้ว่า นายชัยวัฒน์ ได้เข้ามอบตัวแล้ว ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และนายชัยวัฒน์ ไม่ได้เข้ามาพูดคุยอะไรกับตน เพราะทุกอย่าง เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินการไปตามการกล่าวหาฟ้องร้องไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ

นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นต่างฝ่ายต่างมีสิทธิ์โดยผู้ถูกกล่าวหา ต้องออกมาชี้แจงขณะที่ผู้ได้รับความเดือดร้อนก็เป็นโจทก์ฟ้อง ดังนั้นทุกอย่างเป็นกระบวนการต่อสู้กันทางชั้นศาล ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม น้อมรับคำตัดสินของศาลเพียงอย่างเดียว ไม่มีอะไรซับซ้อน

“สมศักดิ์”ชี้”ชัยวัฒน์”ถูกระงับหน้าที่หรือไม่แล้วแต่ศาลสั่ง

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะเป็นการดำเนินการไปตามกระบวนยุติธรรม ที่มีการออกหมายจับหมายค้น ซึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ก็ต้องดำเนินการไปตามคำสั่งของศาล ที่ให้ไปตรวจค้นหรือกระทำการใดก็แล้วแต่ ซึ่งจะเป็นการสืบหาประเด็นหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วน

ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อนายชัยวัฒน์ถูกออกหมายจับแล้วต้องระงับการปฎิบัติหน้าที่หรือออกจากราชการก่อนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากถูกออกหมายจับ บุคคลนั้นต้องมอบตัวหรือดีเอสไอเข้าไปจับกุม ส่วนเรื่องการควบคุมตัวนั้นอยู่ที่ศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทั้งนี้ อยู่ที่ศาลจะให้ความเห็นว่านายชัยวัฒน์ควรจะต้องถูกระงับการปฎิบัติหน้าที่หรือควรจะทำอย่างไร ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดของคดีนั้นตนไม่ทราบ แต่เมื่อศาลออกหมายจับก็แสดงว่ามีมูล และพยานหลักฐานต่างๆ ที่ดีเอสไอมีอยู่ก็มีความรัดกุม แต่ที่ต้องไปหาหลักฐานเพิ่มเติมก็เป็นเรื่องของกระบวนการที่ต้องทำให้การดำเนินคดีมีความสมบูรณ์

“บิ๊กตู่”ยันไม่ให้”สม รังสี”ใช้ไทยเป็นทางผ่านเข้ากัมพูชา

People Unity News : “บิ๊กตู่”ยันไม่ให้”สม รังสี”ใช้ไทยเป็นทางผ่านเข้ากัมพูชา ต้องยึดมติอาเซียนที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกิจการภายในของประเทศอื่น

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ทำจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีขอเดินทางเข้าไทยเพื่อเดินทางไปยังประเทศกัมพูชาจะอนุญาตหรือไม่ว่า รัฐบาลได้ส่งหนังสือยืนยันไปแล้ว ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ทำผิดกฎหมายใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ซึ่งไทยปฏิบัติตามมติอาเซียนที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกิจการภายในของประเทศอื่นและไม่ยอมให้ผู้ต่อต้านรัฐบาลใช้พื้นที่ประเทศไทยเคลื่อนไหว ซึ่งไม่ต้องทำหนังสือแจ้ง นายสม รังสี เพราะเป็นการพูดคุยระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลเท่านั้น

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ว่า ตนไม่ทราบการขอร้องของนายสม รังสี เพราะอยู่ในระหว่างติดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และไม่เห็นตั๋วเที่ยวบิน การบินไทยตามที่ปรากฏเป็นข่าว

ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ขอความร่วมมือในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ไม่ให้ทีมงานของนายสม รังสี เข้าประเทศนั้น นายดอน ยืนยันว่า ไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพูดคุยในที่ประชุม ส่วนจะมีนอกรอบหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะการประชุมนอกรอบเป็นเรื่องของแต่ละประเทศ

“จุรินทร์”เร่งรัดการจ่ายประกันรายได้ชาวสวนยาง

People Unity News : “จุรินทร์”เร่งรัดการจ่ายประกันรายได้ชาวสวนยาง จี้ปรับวิธีทำที่การยางฯแล้วเดินหน้า

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้า โครงการ ประกันรายได้ชาวสวนยาง ว่า ได้มีการกำหนดชัดเจนแล้วว่าให้มีการโอนเงินส่วนต่างตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 แต่ว่าก่อนที่จะโอนเงินส่วนต่างนั้น ต้องมีการไปตรวจสวนก่อน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ายังปลูกยางที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไปจริง และมีจำนวนกี่ไร่แล้ว ได้กรีดยางชนิดไหน เพราะเราประกันยาง 3 ชนิดคือ ยางแผ่น น้ำยาง และยางก้อนถ้วย ซึ่งแต่ละตัวมีราคาแตกต่างกัน ส่วนต่างแตกต่างกัน

จึงเป็นที่มาที่ ผู้มีหน้าที่ตรวจสวน คือ การยางแห่งประเทศไทย และคณะประกอบด้วยคณะกรรมการในแต่ละจังหวัดต้องจัดการ ปรากฏว่าการตรวจสวนยังค่อนข้างล่าช้าเพราะกำลังไม่พอ และกระบวนการในการนัดหมายกรรมการไปตรวจค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร จึงเป็นที่มาได้มีการหารือกันว่าถัดจากนี้ไปจะทำให้กระบวนการตรวจสวนกระชับเข้า เหมือนหลายครั้งที่เราเคยปฏิบัติมาทั้งในเรื่องการให้เจ้าของสวนแจ้งว่าตนได้มีที่กี่ไร่และยางอายุ 7 ปีจำนวนเท่าไหร่ มีทำยางชนิดไหนและให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ให้การรับรองและสามารถนำไปส่งทะเบียนให้ ธ.ก.ส.โอนเงินส่วนต่างได้

การยางฯก็จะไปเร่งดำเนินการในแนวปฏิบัติใหม่นี้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วเพราะตอนนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 15 ได้กำหนดไว้เดิมว่าต้องจบซึ่งก็เลยมาวันที่ 25-26 พย.แล้ว ตนก็เร่งรัดไป โดยรัฐมนตรีเกษตรฯก็จะปรับวิธีการ

“ขอเรียนให้ทราบว่าทำอย่างไรทุกท่านที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องยังได้รับเงินส่วนต่างทุกท่านทุกสวนที่เข้าหลักเกณฑ์ทั้งหมดสำหรับงวดต่อไปอีก 2 เดือนจะจ่ายเงินส่วนต่างปีละ 3 งวด คือสองเดือนครั้งงวดต่อไปวันที่ 1 มกราคม 2563 อันนี้จะง่ายแล้วเพราะว่าการขึ้นทะเบียนการจดแจ้งทั้งหมดจะครบถ้วนจบสิ้น สามารถโอนได้ไม่ต้องตรวจสวนซ้ำอีกจะขลุกขลักหน่อยสำหรับงวดแรกขอนำเรียนให้ทราบ” นายจุรินทร์กล่าว

สำหรับข้าว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นอกจากการจ่ายเงินส่วนต่างแล้วยังมีมาตรการเสริมออกมาทั้งในเรื่องของการให้เงินจ่ายขาด ชะลอการขายข้าวเพราะข้าวออกมากมีผลทำให้ราคาตกลงไปโรงสีก็ไม่ได้รับซื้อตามปริมาณข้าวที่ออกไปทำให้ราคาตกลงมาตรงนี้จึงมีมาตรการเสริมสำหรับการให้ชะลอการขายข้าว ถ้าสถาบันเกษตรกรให้ 1,500 บาทโดยให้สถาบัน 1,000 เกษตรกร 500 รวมทั้งมีมาตรการช่วยเหลือเรื่องของค่าต้นทุนและเรื่องมาตรการค่าเก็บเกี่ยวด้วยโดยทั้งหมดนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุม นบข. วันที่ 6 ธค.2562 และจะไปเข้าครม.ในส่วนของชาวนาผมคิดว่านอกจากโครงการประกันรายได้และยังมีมาตรการเสริมอีก 3-4 ตัว อย่างที่เรียนให้ทราบ และจะเร่งทำให้เร็ว

“ธนกร”ยันพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่นไร้ปัญหากับภท.

People Unity News : “ธนกร”ยันพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่นไร้ปัญหากับภท. ลั่นไม่มีเวลาให้ขัดแย้งโวพร้อมรับมือฝ่ายค้านซักฟอก “อนุทิน”สยบลือ!!ไม่มีเวลาขัดแย้งรัฐบาลบินอุบลฯรับบริจาคหัวใจ รัฐบาลเดินหน้าตามแผนปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลทำงานด้วยความราบรื่นเพื่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ผู้ใหญ่ของพรรคคุยกันอยู่ตลอด ที่สำคัญคือ รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ต้องการขัดแย้งกับใคร เอาเวลาทั้งหมดไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชนดีกว่า เพราะประเทศยังมีหลายสิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้จึงเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้

นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น รัฐบาลพร้อมที่จะชี้แจงในทุกประเด็น ซึ่งทราบข้อมูลมาบ้างว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายในประเด็นรัฐบาลบริหารงานล้มเหลวเป็นหลัก เพราะรัฐบาลนี้ไม่มีปัญหาในเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นเหมือนรัฐบาลในอดีต ดังนั้น ตนมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถชี้แจงได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่เพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ หากพรรคฝ่ายค้านไม่มีอคติมากจนเกินไปจะเข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ทุ่มเททำงานให้ประชาชนด้วยหัวใจจริงๆ ยิ่งตอนที่เห็นเด็กนักเรียนวิ่งไปกอดพล.อ.ประยุทธ์แล้วส่งเสียงบอกรักลุงตู่นั้น เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์จะมีกำลังใจทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

“อนุทิน”สยบลือ!!ไม่มีเวลาขัดแย้งรัฐบาลบินอุบลฯรับบริจาคหัวใจ

ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ (23 พ.ย.62) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง รมน.และ รมว.สธ. นำคณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บินไปรับ อวัยวะหัวใจ จากผู้บริจาคที่เสียชีวิต ที่จังหวัดอุบลราชธานี

รัฐบาลเดินหน้าตามแผนปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย

ขณะที่นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการปฏิรูปประเทศด้านกฏหมาย ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 77 ได้บัญญัติแนวทางในการจัดทำและตรากฏหมายขึ้นใหม่โดยให้มีเท่าที่จำเป็น และต้องมีการประเมินผลสัมฤทธิ์เพื่อยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมถึงต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากกฎหมายอย่างรอบด้าน และประชาชนต้องได้รับทราบและเข้าใจถึงเหตุผลในการตรากฎหมาย

เพื่อรองรับการดำเนินการตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.2562 ได้ถูกตราขึ้นและจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 พ.ย. นี้  อีกทั้ง ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่ออังคารที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติร่างกฎกระทรวง ร่างคำแนะนำ และร่างหลักเกณฑ์ รวม 11 ฉบับ ตามที่คณะกรรมการพัฒนากฎหมายเสนอ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐเข้าใจโดยละเอียดและสามารถปฏิบัติตามพ.ร.บ.หลักเกณฑ์ฯได้อย่างถูกต้อง ประเด็นหลักๆที่หน่วยงานรัฐต้องปฏิบัติในการจัดทำร่างกฏหมาย อาทิ 1) วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย 2) ประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย โดยกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินและระยะเวลาที่ต้องทำให้เสร็จ 3) ยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็น ล้าสมัย หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือประกอบอาชีพของประชาชน 4) กฎหมายใดที่มีผลบังคับใช้ก่อนวันที่ 27 พ.ย. 2562 ให้ทำการประเมินผลสัมฤทธิ์ครั้งแรกไม่ช้ากว่าห้าปีนับจากวันที่ 1 ม.ค. 2563 และประเมินครั้งต่อไปทุกๆห้าปี ซึ่งต้องทำให้แล้วเสร็จภายในหนี่งปีหลังเริ่มดำเนินการ 5) รับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องโดยรับฟังจากทั้งผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านอย่างเท่าเทียมกัน และต้องเปิดกว้างหลายช่องทาง ทั้งเว็บไซด์ การสัมภาษณ์ การเชิญมาให้ข้อมูล และอื่นๆ 6) เผยแพร่กฎหมาย/กฎกระทรวง/ข้อบังคับ/ประกาศ/คำสั่งการในเว็บไซด์กลางที่รับผิดชอบโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์กรมหาชน) (สพร.) 7) จัดทำคำอธิบายโดยสรุปสาระสำคัญของกฎหมายด้วยภาษาที่ประชาชนสามารถเข้าใจได้ 7) กฎหมายต้องได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ขาวต่างชาติเข้าใจกฎหมายไทย

นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านกฎหมายนี้ รัฐบาลได้ยึดแนวทางที่สากลปฏิบัติ และมีความเหมาะสมสอดคล้องกับความพร้อมของหน่วยงานของรัฐและและบริบทประเทศไทย ซึ่งการดำเนินงานของคณะกรรมการพัฒนากฎหมายและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์และมาตรฐานของการดำเนินการในเรื่องนี้ของต่างประเทศ รวมทั้งได้รับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมากำหนดแนวทางปฏิบัติ และจัดให้มีการอบรมเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าวแล้ว

อาเซียน-เกาหลีหนุนภาคเอกชนสร้างความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ

People Unity News : “บิ๊กตู่”ร่วมประชุม ASEAN-ROK CEO Summit ที่เกาหลี พร้อมหารือทวิภาคี ปธน.เกาหลีใต้ทำ MOU เทคโนโลยี แรงงาน หนุนลงทุนใน EEC เผย “อาเซียน-เกาหลี” พร้อมสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นนครปูซาน ที่อาคารนิทรรศการ 2 ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนครปูซาน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมพิธีเปิดและกล่าวถ้อยแถลงแสดงความยินดีในการประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN-ROK CEO Summit) สรุปสาระสำคัญดังนี้

การประชุม ASEAN-ROK CEO Summit เป็นเวทีสำคัญให้ผู้นำ และภาคเอกชนอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีหารือเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจในภูมิภาค โดยมีผู้นำอาเซียน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ผู้แทนภาคธุรกิจสำคัญ อาทิ ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และเมียนมา ฯลฯ โดยมีนายไพรัช บูรพชัยศรี รองประธานหอการค้า เข้าร่วมในฐานะผู้แทนไทย

ไทยในฐานะประธานอาเซียน ให้ความสำคัญกับการสร้างความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ การส่งเสริมความยั่งยืนในทุกมิติ โดยสาธารณรัฐเกาหลีถือเป็นหนึ่งในคู่เจรจาสำคัญของอาเซียน การอำนวยความสะดวกทางการค้าเป็นสิ่งที่อาเซียนไม่เคยมองข้ามและให้ความสำคัญ ซึ่งในอนาคตสามารถขยายความเชื่อมโยงไปยังประเทศคู่เจรจาได้ โดยอาเซียนพร้อมสนับสนุนการสร้างความเชื่อมโยงทางการค้าดิจิทัล รวมทั้งผลักดันให้เกิดความเชื่อมโยงภายในภูมิภาคผ่านการลดอุปสรรคทางการค้า นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญกับการบรรลุความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้กับภาคธุรกิจ เกิดการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน

อาเซียนตระหนักดีถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ที่ถือเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยอาเซียนเห็นพ้องให้มีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดตามที่ระบุในแผนปฏิบัติการ ภาคเอกชนอาเซียนได้วางเป้าหมายการพัฒนา ดังนี้

หนึ่ง การพัฒนาแรงงานทักษะฝีมือ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและเทคโนโลยี

สอง การเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางดิจิทัล ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล และการสร้างความเชื่อมโยงทางดิจิทัลในอาเซียน

สาม ความร่วมมือทางด้านวัฒนธรรม

สี่ การส่งเสริมกลไกความร่วมมือทางการค้า โดยเฉพาะความร่วมมือภาคเอกชน

ภาครัฐสนับสนุนให้ภาคเอกชนใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้กรอบ FTA อาเซียน-เกาหลี โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ที่สาธารณรัฐเกาหลีมีความโดดเด่น อาทิ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่อาเซียนสามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

หารือทวิภาคี ปธน.เกาหลีใต้ทำ MOU เทคโนโลยี แรงงาน หนุนลงทุนใน EEC

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @DrNarumonP ว่า หลังเสร็จสิ้นการหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย และนายมุน แช อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ 3 ฉบับ ได้แก่

1.บันทึกความเข้าใจระหว่าง กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ไทยกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เกาหลีใต้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านการวิจัยพัฒนาการดำเนินโครงการร่วมกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ไทยในการได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ของเกาหลีใต้

2.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลีกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อเป็นโอกาสในการสนับสนุนการพัฒนาภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ ส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจพื้นที่ EEC และส่งเสริมความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

3.บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานไทยผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ กำหนดให้มีการประชุมระหว่างผู้ปฏิบัติของทั้งสองหน่วยงานอย่างสม่ำเสมอ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้แรงงานไทยเดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย

“จุรินทร์”กระทบไหล่”สี จิ้น ผิง”ร่วมงาน Expo จีน โชว์สินค้านเอสเอ็มอีขึ้นห้างออนไลน์ใหญ่

People Unity News : “จุรินทร์”กระทบไหล่”สี จิ้น ผิง”ร่วมงาน Expo จีน นำผู้ประกอบการจัดแสดงสินค้า พร้อมนำสินค้าเอสเอ็มอีขึ้นห้างออนไลน์ใหญ่ คาดการณ์ยอดสั่งซื้อรวมกัน 4,200 ล้าน

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2562 เวลา 9.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และ คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เยือนนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2562 เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดงาน CIIE 2019 หรือ China International Import Expo 2019 ตามคำเชิญของทางการประเทศจีน โดยกำหนดการนายจุรินทร์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนประเทศไทยในนามคณะผู้แทนนานาชาติร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด CIIE 2019 โดยมีประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง เป็นประธานในพิธี

นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า งานนี้เพื่อส่งเสริมการนําเข้าสินค้าตาม นโยบายเปิดกว้างทางเศรษฐกิจของจีน ผลการจัดงานปีแรกงานนี้ของประเทศจีนนั้นมีการจัดแสดงสินค้า 3,617 ราย บนพื้นที่จัดงาน 2.7 แสนตารางเมตร ผู้เข้าชมงานกว่า 8 แสนคน ยอดขาย 5,783 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ1.73 แสนล้านบาท ในส่วนของผลการเข้าร่วมงานนี้ในปีที่ผ่านมาของไทยเรามีการออกบูธ Exhibitor 63 ราย ยอดการซื้อขาย 64 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,921 ล้านบาท และปีนี้ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประสานงานร่วมจัดแสดงสินค้าเช่นกัน

กำหนดการจากนั้นจะเข้าเยี่ยมชมซูเปอร์มาเก็ตเหอหม่า Hema Fresh ที่เป็นซูเปอร์มาเก็ตซึ่งได้รับเงินลงทุนจากอาลีบาบาเพื่อทดลองการเข้าสู่ตลาดค้าปลีก จุดเด่นของเหอหม่าคือ การให้บริการทั้งรูปแบบ Offline และ Online เน้นจําหน่ายสินค้าอาหารสด ซึ่งสินค้าสดคิดเป็นสัดส่วนราว 20% ของสินค้าทั้งหมด การจัดส่งสินค้าภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ระบบบริหารจัดการทั้งหมดเป็นระบบดิจิทัล สินค้ากว่า 20,000 ชนิด จากกว่า 2,000 แบรนด์ มีระบบ Traceability สืบค้นหาสินค้าได้ละเอียด

ประเด็นการเข้าเยี่ยมชมก็เพื่อการผลักดันให้สินค้าไทยเข้าไปวางจําหน่ายในห้างฯให้มากขึ้นโดยเชิญฝ่ายจัดซื้อมาร่วมงานแสดงสินค้าในไทยของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (THAIFEX STYLE) หรืองานจับคู่เจรจาการค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการจําหน่ายสินค้าไทยทั้ง Offline และ Online ศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นตัวขับเคลื่อน ในการจัดวางกลยุทธ์ธุรกิจค้าปลีก อาทิ การเลือกสถานที่ในการจัดตั้ง ร้านค้าปลีก ออฟไลน์ของ Hema กับจํานวนผู้ซื้อสินค้าออนไลน์การ จัดการคลังสินค้าเพื่อลดต้นทุนและรักษาความสดใหม่ของคุณภาพ สินค้า เป็นต้น ซึ่งจะเป็นโอกาสอย่างมากของสินค้าไทย

รายงานข่าวกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า สำหรับวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2562 รองนายกฯ และคณะ เข้าร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูง Alibaba โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และอาลีบาบา Letter of Intend เพื่อพัฒนา SMEs ไทยให้เข้าสู่แพลตฟอร์ม การค้าออนไลน์ระดับนานาชาติ MOU ข้อตกลง เพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีไทย และบุคลากรด้านดิจิทัล การตั้ง TOPTHAI Flagship Store บน Tmall Global จําหน่ายสินค้าแฟชั่น Personal Care อาหาร ซึ่งทราบว่าเป้าหมายผู้ประกอบการ ไทยที่เข้าร่วม 100 บริษัท คาดการณ์มูลค่าสั่งซื้อ 1,200 ล้านบาท ใน 3 ปี

ส่วนประเด็นหารือ คือ ร่วมมือการส่งเสริมการตลาดและส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ยางพารา มันสําปะหลัง ปาล์มน้ํามัน ข้าว ผลไม้ และสินค้าศักยภาพ อื่นๆ ของไทย ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ การจัดกิจกรรมมหกรรมออนไลน์วันประเทศไทย(Thailand Day) เพื่อส่งเสริมภาพ ลักษณ์ กิจกรรมทางการตลาด และการท่องเที่ยวของ ประเทศไปสู่ผู้บริโภคชาวจีน ถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่และความรู้ที่สามารถช่วย อํานวยความสะดวกในการทําธุรกิจและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

จากนั้น รองนายกฯ และคณะจะเข้าเยี่ยมชมงาน CIIE 2019 โดยประเทศไทยเข้าร่วม 2 ส่วน คือ Thailand Pavilion ที่เป็น 1 ใน 15 ประเทศ Country of Honor พื้นที่ 256 ตารางเมตร จัดแสดงศักยภาพด้านการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวนวัตกรรม และ Enterprise & Business Exhibition มี ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 46 รายโดยมีหน่วยงาน GIT การท่องเที่ยว และ การยาง ฯ เข้าร่วมด้วยโดยการคาดการณ์ยอดการซื้อขายของผู้ประกอบการ ไทยในงาน CIIE 2019 เท่ากับ 2,000 ล้านบาท ดังนั้นสรุปยอดรวมรวมประมาณการสั่งซื้อสินค้าในการเดินทางครั้งนี้ ร่วม 4,200 ล้านบาท

“ประยุทธ์” ตั้งเป้าปี 64-65 จะเร่งดำเนินการ 13 เป้าหมายตามแผนของสภาพัฒน์

People Unity News : รัฐบาลเดินหน้า 13 ด้านตามแผนสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สร้างเศรษฐกิจมูลค่าสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แก้ไขปัญหาความยากจน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และมุ่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาครัฐ

วานนี้ (30 มีนาคม 2564) เวลา 14.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้หารือหลักการสำคัญ ในการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่รัฐบาลได้เดินหน้าขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายสำคัญคือ การหารายได้เพิ่ม โดยให้ประชาชนได้เข้าถึงประโยชน์ให้เกิดเศรษฐกิจต่อเนื่องทั้งภาคการเกษตร การค้าการลงทุน รวมทั้งยังได้พิจารณาถึงความเสี่ยงของสถานการณ์ทางการเงินในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามการค้าด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกด้วยว่า ได้ถือโอกาสแนะนำรัฐมนตรีใหม่ 2 ท่าน คือ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย

นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายปี 2564 และ 2565 จะเร่งดำเนินการ 13 เป้าหมาย ตามแผนของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แบ่งเป็น 4 ด้านประกอบไปด้วย ด้านที่ 1 เศรษฐกิจ อาทิ เศรษฐกิจมูลค่าสูงที่ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การบริการดิจิทัล ประตูการค้า การลงทุนและโลจิสติกส์ การแพทย์และสุขภาพครบวงจร ฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์พวงมาลัยขวา การท่องเที่ยวเชิงคุณค่า เกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง ด้านที่ 2 วิถีชีวิตที่ยั่งยืน อาทิ การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน ลด PM 2.5 ลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การผลิตที่ทำลายสิ่งแวดล้อมจะต้องปรับเปลี่ยนให้วิถีชีวิตมีความปลอดภัยและยั่งยืน ด้านที่ 3 ขยายโอกาสสำหรับทุกกลุ่มคนและทุกพื้นที่ อาทิ SMEs วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจสังคม ให้มีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พัฒนาพื้นที่และเมืองให้มีความทันสมัย น่าอยู่ ความยากจนข้ามรุ่นลดลง และมีความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอและเหมาะสม และด้านที่ 4 ปัจจัยสนับสนุนการพลิกโฉมประเทศ การสร้างทรัพยากรมนุษย์ เพิ่มกำลังคนที่มีสมรรถนะสูง เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศจากภาคการศึกษา ผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ เพิ่มความเข้มแข็งให้ภาครัฐด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้การบริการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการเร่งแก้ปัญหากำลังคนที่มีทักษะต่ำและภาครัฐที่ล้าสมัย ไปสู่กำลังคนและภาครัฐที่มีสมรรถนะสูง ควบคู่ไปกับการปฏิรูปเศรษฐกิจ ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปสังคม และปฏิรูปกฎหมาย เพื่อเดินหน้าประเทศต่อไปได้ด้วยดี

Advertising

พาดพิง 2 อดีตนายกฯ! พ่อ “ปารีณา” โอดลูกโดนเล่นแรงเรื่องที่ดิน

People Unity News : “ทวี”พ่อ”ปารีณา” ขอความเป็นธรรม ยันลูกสาวไม่บุกรุกป่าแต่ซื้อต่อจากเกษตรกร โอดลูกโดนเล่นแรงเหตุพูดถึง 2 อดีตนายกฯ

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และบิดาของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีน.ส.ปารีณาถูกร้องเรียนบุกรุกที่ดินป่าสงวน 1,700 ไร่ว่า ความจริงลูกสาวอยากให้อยู่เฉยๆ แต่เห็นว่าข่าวดังกล่าวสร้างความเสียหายให้ลูกสาวและวงศ์ตระกูล ในฐานะที่ตนเป็นพ่อและรู้เรื่องนี้ดี จึงขอความเป็นธรรม ขอเรียนว่าน.ส.ปรีณาไม่ได้บุกรุกป่าสงวนตามที่ปรากฏเป็นข่าว เขาถือครองที่ดินแปลงดังกล่าวและทำประโยชน์เป็นเวลานานมาก

“สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้เพราะเอ๋เล่นแรง พูดถึงสองนายกฯหนีคดี ติดคุก เสวยสุขต่างประเทศ ลูกน้องติดคุกหัวโต เขากล้าพูด จึงสะท้อนว่าที่โดนร้องเรียนเป็นเกมการเมือง ทำให้เอ๋เสียหาย เป็นการดิสเครดิตกัน จึงขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวด้วย และ คนที่ร้องก็รู้กันอยู่ว่าเป็นแกนนำของพรรคการเมืองใด เขาไม่ได้บุกรุก เขาเป็นเกษตรกร และไม่ใช่เกษตรกรเถื่อน” นายทวี กล่าวและว่า

เขาได้มาจากการซื้อต่อเกษตรกรที่ทำประโยชน์อยู่แล้ว เป็นที่ดินปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง ปลูกสับปะรด จึงไม่ใช่ผู้บุกรุกใดๆทั้งสิ้น แต่ซื้อตามประมวลกฏหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 แต่มีการอ้างพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2482 ซึ่งเขาไม่ได้นำกฏหมายที่ดินดังกล่าวมาประกอบ จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นในขณะนี้ และที่บอกว่าน.ส.ปารีณาไม่ใช่เกษตรกร และไม่มีคุณสมบัติเป็นเกษตรกรถือว่าทำให้เสียหาย เพราะความจริงเขามีฟาร์มไก่ ฟาร์มวัวมานานแล้ว ถือว่าเป็นปศุสัตว์ ก็คือเกษตรกร จึงไม่เป็นธรรมที่กล่าวหากันแบบนี้

นายทวี กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าที่ดินครอบครองมานาน ได้มาโดยสุจริต ไม่ได้บุกรุก แต่ตอนออกประกาศเป็นที่ดินสปก.เมื่อปี 2537 พื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่เขตสปก.เพราะเขาเห็นว่ามีการครอบครองและทำประโยชน์อยู่แล้ว จึงไม่ประกาศให้เป็นสปก. ต่อมาปี 2554 ซึ่งกรมป่าไม้ยกที่ดินบริเวณดังกล่าวให้เป็นสปก. และทางสปก.ก็ประกาศเป็นเขตปฏิรูปในปีเดียวกัน แต่เราได้ทักท้วงไปแล้ว เพราะในพื้นที่ดังกล่าวได้ทำประโยชน์ทางปศุสัตว์ก่อนปี 2554 อยู่แล้ว จึงถือว่าเราครอบครองตามสิทธิ์ เราไม่ได้หัวหมอ เพราะทำปศุสัตว์ตั้งนานแล้ววไม่ใช่สร้างรีสอร์ทเหมือนวังน้ำเขียวที่เป็นการขัดวัตถุประสงค์ในการถือครองที่ดิน หากเห็นว่าน.ส.ปารีณาทำผิด ทำไมไม่แจ้งจับตั้งแต่ตอนนั้น แต่กลับเพิ่งมาเป็นประเด็นตอนนี้ ถือเป็นเกมการเมืองเล่นงานน.ส.ปารีณา นี่คือฤทธิ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งที่ร้องเรียนเรื่องนี้รู้กันอยู่ว่าเป็นแกนนำพรรคการเมืองใด ไม่ใช่ชาวบ้านเป็นผู้ร้อง เพราะเขารู้มานานแล้วว่า น.ส.ปารีณาเป็นเกษตรกร

“สุชาติ”ชี้รัฐบาลไม่ควรแตะต้อง”กองทุนประกันสังคม”

People Unity News : “สุชาติ ธาดาธำรงเวช” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​รัฐบาลทักษิณ ชี้รัฐบาลไม่ควรแตะต้อง”กองทุนประกันสังคม”

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ศ.ดร.สุชาติ​ ธาดาธำรงเวช​ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง​ เปิดเผยว่า รัฐบาลที่ไม่เข้าใจเรื่อง​เศรษฐกิจ​และไม่ควรแตะ​ต้อง กองทุนประกันสังคม​ กองทุนบำเหน็จบำนาญ​ รวมถึง กองทุนอื่นๆและการที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีส่งหนังสือข้อสั่งการ​ของนายกรัฐมนตรี ถึงสำนักประกันสังคม​ เพื่อให้บริหารจัดการ​กองทุนประกันสังคมให้เกิดประโยชน์​ ตอบสนองแก่ความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น​ เช่น​ การกู้ยืมเพื่อการลงทุน​ หรือการกู้ยืมเพื่อรายจ่ายจำเป็นอื่นๆ
แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เข้าใจเรื่องเศรษฐกิจ​ เงินประกันสังคมเป็นเงินออมของลูกจ้าง​ ของกรรมกร​ ทั้งประเทศ เพื่อใช้ดูแลชีวิตลูกจ้างและกรรมกร​ ให้ดีขึ้น​ รัฐบาลทั่วโลกมีกฎหมายให้หักเงินรายได้ของลูกจ้างและกรรมกร​ เพื่อไว้ใช้จ่าย เมื่อต้องหยุดงาน​ อันเนื่องมาจาก ว่างงาน​ เจ็บไข้ได้ป่วย​ ทุพพลภาพ​ คลอดบุตร​ สงเคราะห์บุตร ชรา​ภาพ และเสียชีวิต​

“เงินประกันสังคมเหล่านี้​ ไม่ใช่เงินของรัฐบาล​ที่จะสั่งการได้ และเงินเหล่านี้ก็มีการใช้ให้เกิดประโยชน์เต็มที่อยู่แล้ว​​ โดยมีการลงทุนในรูปเงินฝาก​ ซื้อพันธบัตรฯ ซื้อกองทุน​ ซื้อหลักทรัพย์​ ฯลฯ​ สถาบันที่กองทุนประกันสังคม​ นำเงินไปลงทุน​ ก็ได้ไปใช้จ่ายไปลงทุนแล้ว​ ไม่มีเม็ดเงินประกันสังคมเหลืออยู่เลย​ นอกจากเงินที่เตรียมไว้จ่ายให้ลูกจ้างและกรรมกรแต่ละท่าน​ ที่ได้รับสิทธิประโยชน์”

นอกจากนี้ ศ.ดร.สุชาติ ยังย้ำว่า เป็นความเข้าใจผิด​ของรัฐบาลที่คิดว่า​ มีเงินประกันสังคมกว่า​ 2.1 ล้านล้าน​บาท​ เก็บไว้ทำไม​ ทำไมไม่ไปให้กู้เพื่อเป็นประโยชน์​ต่อประเทศและที่สำคัญการบริหารระบบเศรษฐกิจ​ เป็นเรื่องที่ต้องใช้สติปัญญา บวกกับความรู้ในระดับปรัชญา​ รวมถึง ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลที่ไม่รู้เศรษฐกิจที่จะคิดๆ​เอา​แบบง่าย ๆ เพราะการคิดง่ายๆ​ ได้ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยเจริญเติบโตต่ำ​มาก ผลผลิตขายไม่ได้​ คนตกงานมาก​มายและ กำลังเหี่ยวแห้งตาย…ในทุกวันนี้..

Verified by ExactMetrics