วันที่ 28 เมษายน 2024

นายกฯระบุร่าง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. ต้องไม่กระทบโรดแมป และต้องไม่มีปัญหาภายหลัง

People unity news online : นายกรัฐมนตรียืนยัน ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย โดยรัฐบาลประสานงานใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กระทบโรดแมป

เมื่อวานนี้ (3 เมษายน 2561) เวลา 13.45 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้ส่งหนังสือตอบกลับไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เกี่ยวกับประเด็นการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ภายหลังมีการประสานงานและหารือระหว่างฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลและ สนช. เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนส่งร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ และเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยไม่เกิดความขัดแย้งในภายหลัง ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ สนช. เป็นผู้ดำเนินการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องพยายามไม่ให้เกิดปัญหาในการเลือกตั้ง โดยมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังดำเนินการไม่ให้กระทบโรดแมป และไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง ส่วนการแก้ไขคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 53/2560 ตามที่พรรคการเมืองทักท้วงว่า มีปัญหาในทางปฏิบัตินั้น ขณะนี้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้หารือกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อนำเสนอประเด็นข้อติดขัดต่างๆมายัง คสช. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องทางธุรการ ดังนั้น คสช. จะพิจารณาแก้ไขในประเด็นที่เป็นปัญหา โดยยังไม่ยกเลิกคำสั่ง คสช. เพื่อลดปัญหาทางธุรการเท่านั้น

People unity news online : post 4 เมษายน 2561 เวลา 07.50 น.

พรุ่งนี้ “ประยุทธ์” ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี เปิดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้

People unity news online : พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เตรียมเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจราชการจังหวัดปัตตานี วันพุธที่ 4 เมษายน 2561 โดยมีกำหนดการดังนี้

เวลา 07.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางโดยเครื่องบิน C – 130 จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานปัตตานี ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี จากนั้น เดินทางต่อไปยังสนามกีฬากลางจังหวัดปัตตานีเพื่อเป็นประธานพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 13 โดยกระทรวงศึกษาธิการร่วมกับศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการของรัฐ เอกชน และท้องถิ่นร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 7 เมษายนนี้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นกิจกรรมแสดงออกถึงความจงรักภักดีของลูกเสือต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เทิดพระเกียรติพระบรมราชจักรีวงศ์ และเพื่อแสดงความพร้อมศักยภาพของลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ประชาคมอาเซียน รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้ลูกเสือทำความดีมีจิตอาสา มีความสามัคคีอยู่ร่วมในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสันติสุข สำหรับการชุมนุมลูกเสือครั้งนี้ มีตัวแทนลูกเสือ – เนตรนารีจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมงานชุมนุม รวมทั้งสิ้นประมาณ 3,548 คน โดยมีตัวแทนลูกเสือจากต่างประเทศเข้าร่วมจำนวน 443 คน ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เนปาล ศรีลังกา และกาตาร์

จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามงานด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมพญาตานี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี

ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบปะพร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้ตัวแทนนักเรียนของโรงเรียนในพื้นที่ จำนวน 5 โรงเรียน ณ วัดทรายขาว ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมชุมชนพหุวัฒนธรรม (ไทยพุทธและไทยมุสลิม) ที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ พร้อมพบปะผู้นำศาสนาและประชาชน เพื่อรับทราบปัญหา ข้อเสนอแนะ รวมถึงสร้างการรับรู้ต่อนโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาล รวมทั้งเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในพื้นที่ ณ อาคารอเนกประสงค์ มัสยิด นัจมุดดีน บ้านควนลังงา จังหวัดปัตตานี เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

People unity news online : post 3 เมษายน 2561 เวลา 07.50 น.

นายกฯเตรียมลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู 22 มีนาคมนี้

People unity news online : นายกรัฐมนตรีเตรียมลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ในวันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561 เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาความยากจนในภาคการเกษตรเชิงบูรณาการตามแนวทางศาสตร์พระราชา

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ มีกำหนดการลงพื้นปฏิบัติราชการ ณ จังหวัดหนองบัวลำภู ในวันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561 เพื่อพบปะประชาชนและติดตามการแก้ไขปัญหาความยากจนในภาคการเกษตรเชิงบูรณาการตามแนวทางศาสตร์พระราชา ได้แก่ การพัฒนาเกษตรปลอดภัยสู่เกษตรอินทรีย์เพื่อลดปัญหาสุขภาพจากสารเคมีตกค้างและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนโดยใช้เทคโนโลยี Solar Cell เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งการบริหารจัดการที่สาธารณประโยชน์แบบมีส่วนร่วม รวมถึงการสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้าพื้นเมือง และพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ่านนวัตกรรมจนได้ผ้าที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยม ไม่มีสารเคมีตกค้างได้รับการยอมรับทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ โดยมีกำหนดการ ดังนี้

เวลา 07.00 น. ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยเครื่องบิน Embraer และเดินทางต่อไปยังจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเดินทางไปยังกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักอินทรีย์ โพธิ์ศรีสำราญ ตำบลหัวนา อำเภอเมือง เพื่อพบปะประชาชน และเป็นสักขีพยานในการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลให้แก่ผู้แทนประชาชน พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย และทำพิธีเปิดป้ายศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงบ้านโพธิ์ศรีสำราญ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ พลังงานทดแทน ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเกษตรกรและแปลงปลูกผักอินทรีย์

ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการดำเนินงานของกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาคำไฮ รับฟังการนำเสนอข้อมูลการดำเนินงานของเครือข่าย เยี่ยมชมร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาคำไฮ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมเวทีประชาคมหมู่บ้านตามโครงการ “ไทยนิยม ยั่งยืน” ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ประมาณ 300 คน ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมกระบวนการผลิตผ้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ด้านหัตถกรรม และสินค้าโอทอป เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ เวลา 17.00 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร

People unity news online : post 20 มีนาคม 2561 เวลา 11.00 น.

คณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกฯเสนอให้สังคมผู้สูงอายุเป็นวาระแห่งชาติ

People unity news online : เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 เวลา 10.00 น. พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษของนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษของนายกรัฐมนตรี ณ ห้องประชุมอาคารรับรองเกษะโกมล บ้านเกษะโกมล

ในที่ประชุม คณะกรรมการฯเห็นว่า โดยที่ในปี พ.ศ.2560 ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงอายุ 11.35  ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 16.8 ของประชากรไทย และมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุนั้นทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงไป จึงต้องกำหนดมาตรการ โดยการร่วมมือของกระทรวง ส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านการดูแลผู้สูงอายุ ด้านแรงงาน ซึ่งผู้สูงอายุต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานเพิ่มเติม รวมทั้งจะต้องเตรียมการรองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศและก้าวไปสู่ THAILAND 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม คณะกรรมการฯจึงสมควรเสนอให้มีการกำหนดเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ ในการเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อันจะทำให้ผู้สูงอายุเข้าถึงสิทธิประโยชน์ ความคุ้มครอง และความเป็นธรรมในการทำงานต่อไป

People unity news online : post 16 มีนาคม 2561 เวลา 14.00 น.

มหาดไทยชี้แจง “ไทยนิยมยั่งยืน” ไม่ใช่โครงการหว่านเงินโดยไม่มีโครงการ

People unity news online : จากกรณีที่ นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย กล่าวในงานเสวนาเรื่อง “มองการณ์ไกลประเทศไทย ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมทางสังคม และการผูกขาดเศรษฐกิจ” ตอนหนึ่งว่า…โครงการไทยนิยมฯที่มีการกำหนดงบประมาณไว้ล่วงหน้า โดยที่ยังไม่แน่ชัดว่า โครงการคืออะไร สอดคล้องกับกลุ่มที่จะต้องช่วยเหลือหรือไม่…

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2561 นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า โครงการไทยนิยมยั่งยืน เป็นการบูรณาการทุกหน่วยงานในระดับพื้นที่ เพื่อจัดทำเวทีประชาคมในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชนจะร่วมกันระบุปัญหาที่แท้จริงของชุมชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา หรือนำความต้องการของประชาชน/ชุมชนนำมาจัดทำแผนงาน/โครงการ เช่น โครงการเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ หมู่บ้าน/ชุมชน (พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก) หมู่บ้าน/ชุมชนละ 200,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการที่จะถูกเสนอโดยประชาชนในหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานอันประกอบด้วย ถนน น้ำเพื่อการบริโภค/อุปโภค ระบบไฟฟ้า จึงเป็นการสนองตอบความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ในการบริหารงบประมาณการลงเวทีประชาคมได้คำนึงถึงความคุ้มค่าและความถูกต้องตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำถึงการดำเนินงาน “โครงการไทยนิยมยั่งยืน” ให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด

ภาพ : บ้านเมือง

People unity news online : post 13 มีนาคม 2561 เวลา 02.10 น.

“บิ๊กตู่” ชื่นชมเจ้าหน้าที่จับกุมผู้กระทำผิดล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

People unity news online : นายกรัฐมนตรีให้กำลังใจเจ้าหน้าที่รัฐ ยึดมั่นในความดี ไม่ท้อถอย ย้ำรัฐบาลต่อต้านการทุจริตและทำลายธรรมชาติทุกรูปแบบ วอนประชาชนเชื่อมั่น กระตุ้นข้าราชการสำนึกในหน้าที่ของตนเอง

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อตรง ถูกต้อง และคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ โดยขอให้ยึดมั่นในคุณงามความดี ไม่ท้อถอย และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่นและคนรุ่นหลังต่อไป

“ยกตัวอย่างกรมราชทัณฑ์ที่ได้ลงโทษข้าราชการที่กระทำผิดต่อหน้าที่ เช่น เรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องขัง นำโทรศัพท์มือถือเข้าไปให้ผู้ต้องขัง และมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ฯลฯ อย่างเด็ดขาด โดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง รวมทั้งกรณีของหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่นำกำลังเข้าจับกุมผู้กระทำผิดร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองอย่างตรงไปตรงมา”

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ โดยหากพิสูจน์ได้ว่ามีการกระทำผิดจริง ผู้กระทำผิดจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและถูกลงโทษตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น เช่นเดียวกับการปกป้องและฟื้นฟูพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งเห็นได้จากนโยบายทวงคืนผืนป่า การแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐส่งเสริมให้คนอยู่ร่วมกับป่า การจัดเก็บรายได้เข้าชมอุทยานเพื่อนำไปดูแลทรัพยากรธรรมชาติได้มากขึ้น หรือแม้แต่การเพิ่มจำนวนสัตว์ป่า เช่น ช้าง และเสือโคร่ง ในธรรมชาติมากขึ้น

“อยากให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์โดยยึดหลักกฎหมายเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งขอให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนสำนึกในหน้าที่ ยึดถือแบบอย่างของการทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ และเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้อย่างเต็มภาคภูมิ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

People unity news online : post 12 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 10.00 น.

นายกฯเดินสายตรวจราชการและประชุม ครม.นอกสถานที่ จ.ตราด-จันทบุรี 5-6 ก.พ.61

People unity news online : นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ที่จังหวัดตราด-จันทบุรี ระหว่างวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ 2561

พันเอก หญิง ทักษดา สังขจันทร์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการ รวมถึงร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ นอกสถานที่ ที่จังหวัดตราด-จันทบุรี ระหว่างวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 1 ประจำปี 2561

สำหรับกำหนดการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 07.00 น. โดยออกเดินทางจากกองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อไปยังท่าอากาศยาน จังหวัดตราด และจะเริ่มกิจกรรม เวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางไปดูศูนย์การเรียนรู้พิพิธภัณฑ์บริหารจัดการน้ำและป่าชายเลน ชุมชนบ้านเปร็ดใน หลังจากนั้นเดินทางไปยังศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะในการพัฒนาเกาะช้าง รวมถึงพบปะนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวบริเวณหาดคลองพร้าว อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเดินทางไปจังหวัดจันทบุรี เพื่อดูวิสาหกิจชุมชน เยี่ยมชมวิถีชุมชนริมน้ำจันทบูร และวิสาหกิจเพื่อสังคมตลาดเก่าริมน้ำจันทบูร บ้านเรียนรู้ บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรี และชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สำหรับช่วงเย็น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปร่วมประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออก ซึ่งในช่วงเย็นจะมี Working Dinner ณ ห้องประชุมแกรนด์ บอลรูม โรงแรม มณีจันทร์ รีสอร์ท

วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 ช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีเข้าประชุม ครม. นอกจากสถานที่ ณ อาคารคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี และช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยี่ยมชมสหกรณ์การเกษตรมะขาม เพื่อดูกระบวนการบริหารจัดการผลไม้อย่างครบวงจร เพื่อมุ่งสู่การเป็นมหานครผลไม้โลก และพบกลุ่มเกษตรกรผู้ประกอบการแปรรูปผลไม้ และนายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับถึง กทม. เวลาประมาณ 18.15 น.

People unity news online : post 1 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 21.00 น.

 

“บิ๊กตู่” บอกสื่อ ปีนี้ปีจอ ต้องอยู่อย่างสุนัขที่สงบเงียบ ใจดี เพราะสุนัขเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์

People unity news online : นายกรัฐมนตรีพบปะและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสปีใหม่ พ.ศ.2561

วานนี้ (4 มกราคม 2560) เวลา 11.40 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบปะสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสปีใหม่ พ.ศ.2561 พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายวิษณุ เครืองาม พลเอก ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมงานนายกรัฐมนตรีกล่าวกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตอนหนึ่งว่า รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศไม่ได้มุ่งหวังอำนาจ แต่มุ่งหวังทำงานเพื่อประเทศชาติ และเพื่อแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับคนยากจน ซึ่งรัฐบาลเป็นฝ่ายให้ทุกอย่างกับประชาชน กับสื่อมวลชน และให้ทุกคนที่มีความคาดหวังต่อการทำงานของรัฐบาล เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัยมีเสถียรภาพ และสิ่งที่สำคัญต้องปฏิรูปประเทศให้เดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะในปี 2561 จะเป็นปีแห่งการปฏิรูปประเทศไทย รัฐบาลมีนโยบายทำทุกอย่างให้เกิดผลโดยเร็ว แต่ปัญหาหลายอย่างมีความซับซ้อนจำเป็นต้องใช้เวลาในการทำงาน ซึ่งทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า เนื่องในโอกาสปีใหม่ขอให้สื่อแปรเจตนาคำพูดของนายกรัฐมนตรีให้ถูกต้อง ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเคารพสิทธิและเสรีภาพสื่อมาโดยตลอด และขอให้สื่อช่วยกันขยายในสิ่งที่ดีๆที่รัฐบาลทำให้สังคมเข้าใจ พร้อมกล่าวยืนยันว่า ไม่เคยเป็นศัตรูกับสื่อ ขอให้ทุกคนช่วยกันทำในสิ่งที่ถูกต้อง ในสิ่งที่ดี ในเรื่องของการทำงานรัฐบาลไม่เคยก้าวล่วงการทำงานของส่วนราชการต่างๆ จึงขอให้ช่วยกันทำวันนี้ให้ดี เพื่อให้วันข้างหน้าที่ดียิ่งขึ้น

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรเนื่องในโอกาสปีใหม่ให้กับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า ในนามของคณะรัฐมนตรี มีความตั้งใจที่จะมาพบกับสื่อมวลชนในวันนี้ จึงขอเป็นตัวแทนรัฐบาลอวยพรให้สื่อมวลชนและครอบครัวตลอดคนที่รัก สำเร็จในสิ่งที่ดีและสิ่งที่คาดหวัง โดยปีนี้เป็นปีจอ จะต้องมีชีวิตอยู่อย่างสุนัขที่สงบเงียบ และใจดี เพราะสุนัขเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ ขอให้อยู่ร่วมกันด้วยความดี ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา ด้วยความรักประเทศและผืนแผ่นดินไทย ขออย่าทำลายศักดิ์ศรีของประเทศไทย และขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมร้องเพลง อยากอยู่เงียบๆคนเดียว เพลงคนดีไม่มีวันตาย และเพลงสายโลหิต ก่อนจะร่วมถ่ายภาพ พร้อมแจกของรางวัลให้กับสื่อมวลชน

People unity news online : post 5 มกราคม 2560 เวลา 08.20 น.

ก.กลาโหมมอบของขวัญปีใหม่ “เติมความสุขให้คนไทย จากใจทหาร” แก่ประชาชน

People unity news online : กระทรวงกลาโหม มอบของขวัญปีใหม่ “ เติมความสุขให้คนไทย จากใจทหาร” ให้กับประชาชน

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลังการประชุมสภากลาโหม เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.60 ณ ศาลาว่าการกลาโหม ว่า กระทรวงกลาโหมขอมอบความปรารถนาดีให้กับประชาชน โดยได้จัดเตรียมของขวัญปีใหม่ ด้วยการ “เติมความสุขให้คนไทย จากใจทหาร” มอบให้พี่น้องประชาชนใน 3 เรื่องหลัก คือ

1.งานสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยกำลังพลของกองทัพจะทำหน้าที่เสมือนเป็น รั้ว กล้องวงจรปิดหรือแม้กระทั่งยาม ที่คอยดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่มีความสำคัญด้านความมั่นคง เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศและดูแลความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ในระหว่างห้วงเวลาเทศกาลแห่งความสุขในปีใหม่ที่พี่น้องประชาชนร่วมเฉลิมฉลองกัน

2.งานการช่วยเหลือประชาชน ได้จัดเตรียมกำลังพลเตรียมพร้อม ร่วมเฝ้าระวังและให้การช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน กรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ขณะเดียวกันได้ร่วมรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยจัดจุดพักรถ จุดบริการ ชุดแพทย์พยาบาล ชุดตรวจและซ่อมรถยนต์ ตามถนนสายหลักบริเวณหน้าที่ตั้งหน่วยทหาร รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวทางทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน

3.งานบริการประชาชน โดยเปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ในเขตทหารทั่วประเทศ ให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขณะเดียวกันได้อำนวยความสะดวกจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคราคาถูกร่วมกับการจัดแสดงดนตรีโดยวงดุริยางค์ทหารภายในพื้นที่ของหน่วยทหารทั่วประเทศ เพื่อลดภาระค่าครองชีพครัวเรือนและเติมเต็มความสุขของพี่น้องประชาชนไปด้วยกัน

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมโดยกำลังพลทุกเหล่าทัพ ขอให้ความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่า เราจะร่วมกันทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังในการเป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติเคียงข้างกับประชาชน เพื่อร่วมเสริมสร้างเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศและดูแลความปลอดภัยของประชาชน บนผลประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติร่วมกัน พร้อมกันนี้ กระทรวงกลาโหมขอถือโอกาสนี้ ส่งความสุข สวัสดีปีใหม่ 2561 และเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกคนในการใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท บนพื้นฐานของความพอเพียง

People unity news online : post 28 ธันวาคม 2560 เวลา 10.20 น.

เช้านี้นายกฯลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก ประชาชนเชียร์สู้ๆ นายกฯตอบกลับ “ต้องสู้อยู่แล้ว”

People unity news online : นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมชุมชนต้นแบบขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน จ.พิษณุโลก ในรูปแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ

วันนี้ (‪25 ธันวาคม 2560) ‪เวลา 10.00 น. ณ บ้านวังส้มซ่า หมู่ที่ 1 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมการดำเนินงานของบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ในรูปแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) โดยชุมชนท้องถิ่นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทรัพยากรชีวภาพ เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพความงาม และการหนุนเสริมโดยบริษัทประชารัฐรักสามัคคีพิษณุโลก (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ในการสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านการเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยวชุมชน ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางนำไปสู่การสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับชุมชน และเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชุมชนท้องถิ่น รวมถึงเพื่อเป็นตัวอย่างให้ชุมชนท้องถิ่นอื่นๆต่อไป

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ปลูกต้นส้มซ่า พร้อมเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และสินค้าจากต้นส้มซ่า รวมถึงสอบถามถึงกระบวนการผลิตและแนวทางการยกระดับจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชน ที่ต้องการให้มียอดขายและรายได้เพิ่มมากขึ้น  จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทดลองใช้บริการนวดแผนโบราณ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มาจากส้มซ่า

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชมการพัฒนาพันธุ์ไก่ชนนเรศวร หรือ ไก่เหลืองหางขาว ซึ่งเป็นไก่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพิษณุโลก สามารถพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร จากนั้นได้ชมการพัฒนาพันธุ์ปลากัดสวยงามพิษณุโลกและการพัฒนาสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นการสร้างรายได้ให้ชุมชน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบผ้าห่มให้กับผู้สูงอายุในชุมชน พร้อมกล่าวพบปะกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับตอนหนึ่งว่า ดีใจที่ได้มาพบกับประชาชนในพื้นที่ และถือเป็นความสุขที่จะกลับไปคิดว่า จะทำสิ่งใดให้กับประชาชน ซึ่งผลิตภัณฑ์ส้มซ่าของพื้นที่นี้ ถือเป็นภูมิปัญญาของชุมชนที่สามารถสร้างรายได้หลายล้านบาท และมองว่าผลิตภัณฑ์ส้มซ่ามีความเข้มแข็งและจะสามารถเพิ่มยอดขายจาก 5 ล้านบาท ไปได้ถึงเป้าหมาย 50 ล้านบาท ทั้งนี้มองว่าควรจะพัฒนาช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ขายได้ดีขึ้นและกว้างขวางมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่า ที่ผ่านมารัฐบาลดูแลช่วยเหลือสินค้าการเกษตรให้ดีขึ้น แต่ที่ปัญหาราคาข้าวตกต่ำนั้น เพราะมีหลายปัจจัย โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพ  ดังนั้น ต่อไปขอให้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่การเพาะปลูกให้เหมาะสม ส่วนเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ รัฐบาลพยายามจะผลักดันโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง แต่ในเรื่องของเขื่อนนั้น คงยังไม่สามารถสร้างได้ เพราะยังติดปัญหาเรื่องของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงคนบางกลุ่มในพื้นที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้ คือการสร้างอ่างเก็บน้ำและแก้มลิง

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย 34 ล้านคน ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่จะต้องเร่งพัฒนาเรื่องของการท่องเที่ยวและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจะสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลได้เร่งพัฒนาอาชีพ สร้างสาธารณูปโภค และระบบการศึกษาให้มีคุณภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีหลักคิดให้ถูกต้อง และในช่วงใกล้ปีใหม่ ในนามของคณะรัฐมนตรี ขอนำความสุข ความห่วงใยมามอบให้กับประชาชน และขออวยพรให้ประชาชนมีความสุข มีความปลอดภัย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและร่วมกันทำความดี ขอให้ทุกคนนำอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของชุมชนมาขับเคลื่อนประเทศจากภายในสู่ภายนอก เพื่อให้มีเศรษฐกิจที่ดีต่อไป

สำหรับการลงพื้นที่ในจุดนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายภาพกับประชาชนอย่างเป็นกันเองและยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งมีประชาชนได้บอกว่ารักนายกฯ พร้อมให้กำลังใจและขอให้นายกรัฐมนตรีสู้ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณ และตอบกลับว่า ต้องสู้อยู่แล้ว

People unity news online : post 25 ธันวาคม 2560 เวลา 12.20 น.

Verified by ExactMetrics