วันที่ 3 พฤษภาคม 2024

รัฐบาลปลื้มส่งออกมันสำปะหลังครึ่งปีแรก 6.7 ล้านตัน 8.2 หมื่นล้านบาท ลุ้นทั้งปีทำสถิติสูงสุดใหม่

People Unity News : วันนี้ (28 สิงหาคม 2565) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลชื่นชมผลสำเร็จ ตามที่ผลการส่งออกมันสำปะหลังไทยในช่วงครึ่งปีแรก 2565 มีจำนวนกว่า 6.7 ล้านตัน รวมมูลค่า 8.2 หมื่นล้านบาท พร้อมกำชับทุกฝ่ายร่วมพิจารณามาตรการเพิ่มการส่งออกให้บรรลุเป้าหมาย 1.3 แสนล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งดำเนินมาตรการประกันราคาผลผลิต และรายได้เกษตรกรมันสำปะหลังอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งแสวงหาตลาดแก่ผู้ประกอบการค้ามันสำปะหลังทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รายงานการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ได้แก่ มันเส้น มันอัดเม็ด แป้งดิบ แป้งแปรรูป และอื่นๆ (กากมัน และสาคู) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 นี้ มีอัตราการส่งออกแล้วกว่า 6.7 ล้านตัน รวมมูลค่ากว่า 8.2 หมื่นล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 ถือว่ามีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 35.16% ทั้งนี้ เกิดจากปัจจัยด้านสงครามที่ส่งผลต่อวัตถุดิบทางการเกษตรและอาหารทั่วโลก โรงงานอาหารสัตว์ฟื้นตัวจากผลกระทบโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever : ASF) และโดยเฉพาะความต้องการมันเส้นเพื่อผลิตแอลกอฮอล์ของจีนสูง ทำให้ตลาดมันสำปะหลังไทยขยายตัว

โดยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศได้ร่วมประชุมหารือ 4 สมาคมมันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยคาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นในปริมาณ 4.25 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ตลอดทั้งปี 2565 จะมีปริมาณการส่งออกรวม 11 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งหากยอดการส่งออกตรงตามที่คาดการณ์ไว้จริง มูลค่าการส่งออกมันสำปะหลังจะถือเป็นยอดสูงสุดในรอบ 15 ปี

“รัฐบาลโดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้การบูรณาการความร่วมมือร่วมกับภาคเกษตรกร ผู้ประกอบการ และคู่ค้ามันสำปะหลังต่างประเทศ ในการร่วมส่งเสริม และผลักดันการส่งออกสินค้าไทยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้ทุกฝ่ายเร่งดำเนินการอย่างเต็มศักยภาพเพื่อบรรลุเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ พร้อมหาแนวทางการต่อยอดส่งออกสินค้าการเกษตรอื่น ๆ ขยายตลาดผลผลิตไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

สำนักงานสลากฯ เพิ่มสลากดิจิทัลงวด 16 ก.ย. เป็น 11.4 ล้านใบ

People Unity News : วันนี้ (25 สิงหาคม 2565) เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล  พร้อมด้วย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการฯ กล่าวว่า  จากการที่สำนักงานสลากฯ ดำเนินการจำหน่ายสลากดิจิทัล ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565 จนถึงขณะนี้ ผ่านมาแล้ว 6 งวด มีผลตอบรับจากผู้ซื้อมีความพึงพอใจที่สามารถซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการได้จริง ในราคา 80 บาททุกใบ โดยข้อมูลจำนวนผู้ซื้อสะสมตั้งแต่งวดที่ 1-6 มีประมาณ 2,800,000 ราย เป็นผู้ที่ซื้อประจำ 500,000 ราย (17%) ผู้ซื้อที่ไม่ได้ซื้อเป็นประจำ 2,300,000 ราย (83%) โดยส่วนใหญ่ประมาณ 50% จะซื้อสลากงวดละ 2-5 ใบ รองลงมา ซื้อสลากงวดละ 1 ใบ คิดเป็น 19% และซื้อสลากงวดละ 6-10 ใบ คิดเป็นลงมา 17%

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการจำหน่ายสลากดิจิทัล ยังคงหมดลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น เพื่อให้มีระยะเวลาจำหน่ายที่เหมาะสมในแต่ละงวด คือ 7-10 วัน จึงได้เพิ่มปริมาณสลากงวดวันที่ 16 กันยายน 2565 เป็น 11,453,000 ฉบับ โดยสลากทั้งหมดเป็นของตัวแทนจำหน่าย 22,906 ราย โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2565 เวลา 06.00 – 23.00 น. ทุกวัน จนกว่าสลากจะหมด

“สำหรับเป้าหมายในปีนี้ คือ ตั้งเป้าจำหน่ายสลากราคา 80 บาท ประมาณ 20 ล้านใบ ดังนั้น การเพิ่มทางเลือกให้ร้านค้าสามารถลดราคาสลากดิจิทัลได้จะมีประโยชน์ หากปริมาณสลากมีมากกว่า 15 ล้านใบ ในส่วนของเลขที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมและขายออกช้า ผู้ขายสามารถเลือกได้ว่า จะลดราคาลงเพื่อให้ขายง่ายขึ้น หรือจะเก็บสลากไว้ลุ้นรางวัล หากขายไม่ได้จนถึงวันสุดท้าย คนขายจะค่อยๆปรับตัวและเรียนรู้ ในส่วนของคนซื้อก็มีโอกาสได้ซื้อสลากราคาต่ำกว่า 80 บาท เราอยากเห็นประชาชนเป็นผู้ตั้งราคาสลาก อยากเห็นการปฏิเสธการซื้อสลากเกินราคา โดยจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้สลากในตลาดราคาถูกลงด้วย ” นายลวรณกล่าว

ในส่วนของการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และศึกษาผลกระทบทางสังคมเกี่ยวกับการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล และ L6 และ N 3 กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมและสรุปผลโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น คาดว่าจะสามารถส่งผลสรุปให้สำนักงานสลากฯ ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ และหลังจากนั้น สำนักงานสลากฯ จะรวบรวมความคิดเห็น รวมทั้งผลการศึกษาผลกระทบทางสังคมในทุกมิติ ตลอดจนมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณานำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับการดำเนินงานของสำนักงานสลากฯ อีกภารกิจหนึ่งคือการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งในงวด 1 กันยายน 2565 จะเดินทางไปออกรางวัลสลากสัญจร ณ ห้องราชพฤกษ์ ชลพฤกษ์ รีสอร์ท จังหวัดนครนายก เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในต่างจังหวัดได้เห็นขั้นตอนและวิธีการตลอดจนอุปกรณ์ที่ใช้ในการออกรางวัลด้วยตนเอง จะได้ไม่หลงเชื่อข่าวลือเรื่องเลขเด็ดจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ทำการหลอกลวงต้มตุ๋น ผ่านทางสังคมออนไลน์และการส่งจดหมายแอบอ้างว่าสามารถให้ตัวเลขที่จะออกรางวัลได้ สำหรับการออกรางวัลครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ให้เกียรติเป็นประธานกรรมการออกรางวัล จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครนายกและพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมพิสูจน์ความโปร่งใสไปพร้อมๆ กัน หรือรับชมการถ่ายทอดสดได้ผ่านสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ไทยรัฐทีวี LINE TODAY และเว็บไซต์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

Advertisement

พาณิชย์อนุมัติบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นราคาแล้ว เริ่ม 25 ส.ค.65

People Unity News : 24 สิงหาคม 65 อธิบดีกรมการค้าภายใน แถลงข่าวร่วมกับผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรายใหญ่ อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาซองละ 1 บาท ทำให้ตั้งแต่พรุ่งนี้ (25 ส.ค.) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปราคาจะอยู่ที่ซองละ 7 บาท หลังไม่ได้ขึ้นมานานหลายปี ระบุกรมฯจะเฝ้าติดตามหากต้นทุนลดลงราคาก็ควรลดลงตามด้วยเช่นกัน

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่ากรมฯได้ประชุมร่วมกับผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 3 ราย ได้แก่ บริษัท ไทยเพรซิเด้นท์ฟู้ด จำกัด (มหาชน) ตรามาม่า บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ตราไวไว และบริษัท วันไทย อุตสาหกรรม อาหาร จำกัด ตรายำยำ เพื่อพิจารณากรณีที่ผู้ผลิตยื่นขอปรับขึ้นราคาแบบซองจาก 6 บาทเป็น 8 บาท โดยหลังจากพิจารณาต้นทุนร่วมกันอย่างละเอียดแล้ว ทั้งต้นทุนวัตถุดิบ เช่น ข้าวสาลี น้ำมันปาล์ม แพกเกจจิ้ง รวมถึงต้นทุนพลังงานและแรงงาน เห็นว่าต้นทุนปรับเพิ่มขึ้นจริง จึงได้อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาทั้ง 3 ราย ไม่เกิน 1 บาทต่อซองสำหรับขนาดปกติ ส่วนรายการอื่น ไม่อนุมัติให้ปรับขึ้น มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ราคาที่ผู้ผลิตที่ยื่นขอมา 8 บาท ถือว่าสูงไป จึงอนุมัติให้ขึ้นได้ไม่เกิน 1 บาทต่อซอง หรือสูงสุดไม่เกินซองละ 7 บาท เพราะต้องคำนึงถึงพี่น้องประชาชนภายใต้นโยบาย วิน-วิน โมเดล ที่ผู้ผลิตอยู่ได้ ผลิตต่อได้ และประชาชนต้องไม่ได้รับผลกระทบมากจนเกินไป จึงออกมาอย่างที่ได้ตกลงกัน โดยกรมฯ ยังได้เพิ่มเงื่อนไขให้ผู้ผลิตปฏิบัติ คือ ถ้าต้นทุนวัตถุดิบลดลง ต้นทุนพลังงานลดลง ก็ต้องปรับลดราคาลงมา โดยกรมฯ จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด และจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ผลิตปรับลดราคาต่อไป หากมีกรณีเกิดขึ้น และกรมฯ ได้แจ้งผู้ผลิตไปแล้ว แต่ผู้ผลิตไม่ปรับลดราคาลง จะเป็นการเข้าข่ายขายสินค้าแพงเกินสมควร มีโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ม.26 และ 29

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตอีก 2 รายที่เหลือ คือ บริษัท นิชชิน ฟูดส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ตรานิชชิน และบริษัท โชคชัยพิบูล จำกัด ตราซื่อสัตย์ จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์เดียวกันนี้ โดยล่าสุดนิชชิน ได้ยื่นรายละเอียดต้นทุนเข้ามาครบถ้วนแล้ว กรมฯ จะพิจารณาต่อไป ส่วนซื่อสัตย์ ยังไม่ได้ยื่นรายละเอียดเข้ามา

นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า กล่าวว่า หากมองในจุดที่ผู้ผลิตขอปรับขึ้นราคาไป 8 บาทต่อซอง ได้ปรับไม่เกิน 1 บาท หรือไม่เกิน 7 บาทต่อซอง ก็ถือว่าแย่ แต่ถ้ามองจากจุดที่ผู้ผลิตขอปรับขึ้นราคามา 18 เดือน ก็ถือว่าดี และเข้าใจว่าภาครัฐ ต้องดูแลพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากภาระค่าครองชีพที่จะเพิ่มขึ้น ถือว่าต่างคนต่างทำหน้าที่ ซึ่งผู้ผลิต ก็ยอมรับได้ เพราะยังดีกว่าไม่ได้ปรับขึ้นราคาเลย เพราะที่ผ่านมา มาม่าขายเกือบขาดทุน บางรายต้องขาดทุนไปแล้ว

Advertisement

ประยุทธ์ พอใจส่งออกยางพารา ครองแชมป์โลก

People Unity News : 13 สิงหาคม 65 นายกฯ พอใจผลงานส่งออกยางพารา ครองแชมป์โลก ก.เกษตร ออก 6 มาตรการเสริม เจาะตลาดใหม่ ดันราคายางเพิ่ม

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายใต้แนวทาง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ของรัฐบาล ทำให้ยอดการส่งออกยางพาราครึ่งปีแรกปี 2565 ของไทย ครองตำแหน่งผู้ส่งออกยางอันดับ 1 ของโลก โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานว่า ช่วง ม.ค.-มิ.ย. ปีนี้ มีปริมาณการส่งออกยางธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยาง 2.19 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 2.4 แสนล้านบาท จีนนำเข้ายางไทยเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 49% ของการส่งออกทั้งหมด รองลงมาได้แก่ มาเลเซีย 10% สหรัฐอเมริกา 7% ญี่ปุ่น 6% เกาหลีใต้ 4%

สำหรับแผนการขยายตลาดสู่ตลาดใหม่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรี ว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการติดตามและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางและรักษาเสถียรภาพราคายาง ทำการระดมสมองจากทูตเกษตรทุกภูมิภาคทั่วโลก เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลและออกมาตรการเชิงรุก ซึ่งได้ข้อสรุป 6 มาตรการ ดังนี้

1.มาตรการสื่อสารประชาสัมพันธ์เชิงรุก เช่น การผลิตสื่อดิจิทัลเผยแพร่ในตลาดต่างประเทศ

2.มาตรการการตลาดเชิงรุก เน้นความต้องการผลิตภัณฑ์ยางรายตัวสินค้าและรายประเทศคู่ค้า (product based &country based) เช่น ความต้องการยางจักรยานและยางรถบัสเพิ่มขึ้นในประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปและผลิตภัณฑ์ยางที่อียูแบนสินค้าจากรัสเซีย หรือผลิตภัณฑ์ยางที่รัสเซียระงับการนำเข้าจากอียู

3.มาตรการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ใช้แนวทางเกษตรกรรมยั่งยืน สวนยางยั่งยืนและระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) เพื่อตอบโจทย์ ประเด็นสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะเป็นเรื่องที่หลายประเทศในยุโรปให้ความสำคัญ

4.มาตรการระยะสั้นรายไตรมาส เพื่อการบริหารจัดการตามปฏิทินฤดูการผลิตประจำปี โดยมอบ กยท. ภาคเอกชน และภาคเกษตรกรหารือกันเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน

5.มาตรการพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ยางมูลค่าสูง เน้นการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เช่น วัสดุภัณฑ์ก่อสร้างบ้านและอาคาร ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อเพิ่มรายได้ชาวสวนยาง สถาบันยางและผู้ประกอบการ ผ่านการทำงานร่วมระหว่าง กยท. และศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (ศูนย์AIC) นำงานวิจัยมาประยุกต์ใช้จริง

6.มาตรการเชิงกลไกการตลาด เช่น การบริหารซัพพลายและดีมานด์ กลไกตลาดซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบจริง และระบบการประมูลยางออนไลน์เป็นระบบที่เปิดกว้างเพิ่มผู้ซื้อทั้งลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาการกำหนดราคาโดยผู้ซื้อน้อยราย หรือการฮั้วหรือการผูกขาด

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจต่อเกษตรกรชาวสวนยาง ในแนวทางการรักษาเสถียรภาพราคายาง และพอใจผลงานกระทรวงเกษตรฯ ที่สามารถผลักดันให้ประเทศไทยครองแชมป์ส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งหมายถึงรายได้ที่จะมาสู่เกษตรกรเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ นายกฯได้เน้นย้ำเรื่องการใช้นวัตกรรมพัฒนาสินค้ายางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่า และเจาะตลาดประเทศใหม่ๆ

Advertisement

SME D Bank ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุดช่วยเอสเอ็มอี

People Unity News : 12 สิงหาคม 65 ธพว. ขานรับนโยบายภาครัฐ ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุด ช่วยเอสเอ็มอีไทยบริหารต้นทุนการเงิน เพื่อเดินหน้าธุรกิจเต็มกำลัง

นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า จากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 0.50% เป็น 0.75% ต่อปี เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา แม้ ธพว. จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น แต่เนื่องจาก ธพว. เป็นสถาบันการเงินของรัฐเพื่อการพัฒนาเอสเอ็มอีไทย ที่มีความใกล้ชิดและเข้าใจสถานการณ์ของเอสเอ็มอีเป็นอย่างดี รวมถึงเป็นการขานรับนโยบายรัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ที่มอบหมายให้สถาบันการเงินช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจ ดังนั้น ธพว. พร้อมจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ให้นานที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และสามารถบริหารต้นทุนการเงินได้

โดยก่อนหน้านี้ ธพว. ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้ามาแล้วอย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการแก้ไขหนี้อย่างยั่งยืนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ลูกค้าได้รับผลกระทบไม่มาก ขณะเดียวกัน ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและคงที่ ช่วยเสริมสภาพคล่องและบริหารจัดต้นทุนทางการเงิน เช่น “สินเชื่อ 3D” อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.5% ต่อปี ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ และ “สินเชื่อธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” (BCG Loan) อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.99% ต่อปี เป็นต้น ประกอบกับสนับสนุนด้าน “การพัฒนา” ควบคู่ไปด้วย ภายใต้โครงการ “SME D Coach” ที่ปรึกษาธุรกิจครบวงจร ช่วยประคับประคองให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปรับตัวและเดินหน้าธุรกิจได้ต่อเนื่อง

Advertisement

ธ.ก.ส. ชวนเกษตรกรร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี – ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 65

People Unity News : 7 สิงหาคม 2565 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยความคืบหน้าการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในโครงการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2564 แล้วกว่า 1.5 พันล้านบาท ช่วยบรรเทาความเสียหายและลดความเสี่ยงด้านการผลิตแก่เกษตรกร 1.1 แสนราย คิดเป็นพื้นที่การเกษตรกว่า 1.2 ล้านไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย. 65)

เป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการผลิตและได้รับความคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ (น้ำท่วม/ฝนตกหนัก ภัยแล้ง/ฝนแล้ง/ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ/พายุไต้ฝุ่น อากาศหนาว/น้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ ช้างป่า ศัตรูพืช/โรคระบาด) ประกอบด้วย

🌾โครงการประกันภัยข้าวนาปี วงเงินคุ้มครอง 1,260 บ./ไร่ (กรณีภัยศัตรูพืช/โรคระบาด คุ้มครอง 630 บ./ไร่)

🌽โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ วงเงินคุ้มครอง 1,500 บ./ไร่ (กรณีเกิดภัยศัตรูพืช/โรคระบาด คุ้มครอง 750 บ./ไร่)

จึงขอเชิญชวนเกษตรกรเข้าร่วมโครงการประกันภัยฯ ปีการผลิต 2565 เพื่อลดความเสี่ยงด้านการผลิตในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศโลกที่มีแนวโน้มรุนแรงและมีความถี่มากขึ้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือ โทร. 02 555 0555

Advertisement

มาแล้ว! พาณิชย์ลดราคา! คาราวานสินค้าราคาถูก ลดสูงสุด 62% กว่า 700 จุดทั่วประเทศ วันนี้ถึง 5 ต.ค.

People Unity News : 6 สิงหาคม 2565 กระทรวงพาณิชย์ คิกออฟโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 20” ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดคาราวานสินค้าราคาถูก 80 – 100 รายการ ออกจำหน่ายในทุกจังหวัดทั่วประเทศรวมกว่า 700 จุด/วัน ครบครันทั้งอาหาร – สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ลดสูงสุดถึง 62% เริ่มแล้ววันนี้ – 5 ต.ค. 65

ตัวอย่างสินค้าลดราคา ได้แก่ หมูเนื้อแดง ขายเฉลี่ย 160 บ./กก. น่องไก่ติดสะโพก 65 บ./กก. ไข่ไก่ 95 บ./แผง ซอสปรุงรส ลดสูงสุด 36% ผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย ลดสูงสุด 62% ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ลดสูงสุด 55% หมวดรักษาโรค ยาแก้ไข้ หน้ากากอนามัย ลดสูงสุด 60% ฯลฯ

ที่ผ่านมา โครงการฯ ได้ดำเนินการมาแล้วถึง 19 Lot ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนรวมกว่า 11,728 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถติดตามจุดจำหน่าย (มีการแจ้งล่วงหน้า) ได้ที่ www.dit.go.th หรือ LINE @mobilepanich หรือเว็บไซต์พาณิชย์จังหวัด

Advertisement

เปิดช่องทาง “ขึ้นทะเบียนเกษตรกร” ผ่านระบบออนไลน์ e-Form เริ่มแล้ววันนี้!

People Unity News : 30 กรกฎาคม 2565 กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดช่องทางการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านระบบออนไลน์ด้วยเครื่องมือ e-Form สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ประเภทโฉนด น.ส.4 เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการส่งเสริมการเกษตรและให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามมาตรการต่างๆของภาครัฐ เช่น กรณีประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรโครงการประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น

สามารถลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ทะเบียนเกษตรกร efarmer.doae.go.th หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลบุคคลภายใน 5 วันแล้ว เกษตรกรสามารถขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทันที โดยระบบ e-Form จะเริ่มให้ใช้งานได้ตั้งแต่ 25 ก.ค. 65 เป็นต้นไป

ส่วนช่องทางการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเดิม ที่ให้บริการ คือ สำนักงานเกษตรอำเภอ และแอปพลิเคชั่น Farmbook ยังใช้งานได้เช่นเดิม สามารถตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรและสมาชิกครัวเรือนได้ที่ http://farmer.doae.go.th/ หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2579-5519

Advertisement

ครม. หนุนการใช้รถ EV เคาะ 2 มาตรการ “ลดภาษีประจำปี – เว้นอากรศุลกากร”

People Unity News : 28 กรกฎาคม 2565 ที่ประชุม ครม. (26 ก.ค. 65) เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ที่ประกอบหรือผลิตในเขตปลอดอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร หรือเขตประกอบการเสรีตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นการสนับสนุนแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า โดยส่งเสริมการผลิตหรือประกอบรถยนต์ไฟฟ้า (ประเภท Battery Electric Vehicle หรือ BEV) ในเขตปลอดอากรหรือเขตประกอบการเสรีในปี 65 – 68

สาระสำคัญ คือ ยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับ (1) รถยนต์นั่ง (2) รถยนต์โดยสาร ที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน และ (3) รถยนต์กระบะ แบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (BEV) ที่ประกอบหรือผลิตในเขตปลอดอากร ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรหรือเขตประกอบการเสรีตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ร่างประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 68

โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ที่กำหนด เช่น ให้นับมูลค่าของเซลล์แบตเตอรี่จากต่างประเทศ สำหรับการนำมาผลิตเป็นแบตเตอรี่ และนำไปผลิตหรือประกอบเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในเขตปลอดอากร (Free Zone) หรือเขตประกอบการเสรี รวมเป็นต้นทุนการผลิตที่เกิดขึ้นในประเทศสำหรับการคำนวณมูลค่าเพิ่ม ในประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของราคายานยนต์ไฟฟ้า (BEV) หน้าโรงงาน และการยกเว้นอากรสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ดังกล่าว ต้องมีผลรวมของมูลค่าวัตถุดิบ ที่ได้ถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มูลค่าวัตถุดิบที่ได้ถิ่นกำเนิดจากประเทศสมาชิก ASEAN มูลค่าของเซลล์แบตเตอรี่ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ต้นทุนค่าแรง ต้นทุนการผลิตอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยเพื่อให้ได้มาซึ่งของนั้น และกำไรไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของราคาหน้าโรงงาน โดยผู้ขอใช้สิทธิต้องเป็นผู้ประกอบการในเขตปลอดอากร ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรหรือเขตประกอบการเสรีตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่ประกอบหรือผลิตในเขตปลอดอากรหรือในเขตประกอบการเสรี ในปี พ.ศ. 65 – 68 คาดว่าจะมีการสูญเสียรายได้ประมาณ 36,128 ล้านบาท และอาจจะเพิ่มสูงขึ้นตามปริมาณความต้องการภายในประเทศ แต่จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในประเทศ และช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (BEV)

Advertisement

ก.เกษตร เร่งแก้ “ปุ๋ยแพง” พัฒนาศูนย์ดินปุ๋ยชุมชน พร้อมผลักดันธนาคารปุ๋ยอินทรีย์

People Unity News : 23 กรกฎาคม 2565 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งแก้ปัญหาราคาปุ๋ยแพงและขาดแคลน ซึ่งเป็นผลกระทบจากการชะลอการส่งออกปุ๋ยของจีนและรัสเซียทำให้ราคาปุ๋ยในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระยะเร่งด่วน ทำโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน ชดเชยราคาปุ๋ยแก่เกษตรกร ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 0.01 เพื่อเสริมสภาพคล่องสถาบันเกษตรกร สนับสนุนงานวิจัยการใช้ปุ๋ยตามการวิเคราะห์ค่าดิน และเจรจาขอซื้อปุ๋ยไนโตรเจนราคาพิเศษจากมาเลเซียตามข้อตกลงว่าด้วยการแบ่งผลิตอุตสาหกรรมอาเซียน

ในระยะกลางและระยะยาว ได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตปุ๋ยภายในประเทศ ตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคา และเจรจากับประเทศอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนแม่ปุ๋ย หรือกำหนดราคาแม่ปุ๋ยให้เกิดเสถียรภาพทั้งด้านปริมาณและราคา นอกจากนี้ ยังได้ขับเคลื่อนการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี โดยมีหมอดินอาสาถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร เช่น การใช้ปุ๋ยและพัฒนาดินตามผลวิเคราะห์ค่าดินรายแปลง ส่งเสริมการไถกลบตอซัง ใช้น้ำหมักชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร รวมถึงผลักดันการตั้งธนาคารปุ๋ยอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้ ให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง

Advertisement

Verified by ExactMetrics