วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

“รมช.พาณิชย์”รุดปลอบขวัญเด็กทำกระทงการ์ตูน เร่งเขี่ยตัวแทนลิขสิทธิ์​เถื่อนออกจากระบบ

People Unity News : รมช.พาณิชย์รุดปลอบขวัญเด็กทำกระทงการ์ตูนโคราช ประกาศ​ลั่นเตรียมจัดระเบียบตัวแทนลิขสิทธิ์​หวังเขี่ยตัวแทนเถื่อนออกจากระบบ ตัดตอนไม่ให้เรียกรับผลประโยชน์​ด้วยวิธีการข่มขู่คนทำมาหากินแบบไม่ถูกต้อง

วันที่ 9 พ.ย.2562 นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังได้รับทราบเหตุการณ์​เยาวชนในจังหวัดนครราชสีมา​ถูกดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์กรณี​ทำกระทงการ์ตูนก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จึงได้เดินทางมาปลอบขวัญและให้กำลังใจ เนื่องจากตนเองก็เป็นคนโคราชเช่นกัน จึงมาให้กำลังใจในฐานะชาวโคราชคนหนึ่งที่ไม่อาจนิ่งดูดายหรือเพิกเผยเมื่อเห็นลูกหลานย่าโมเสียขวัญอย่างหนัก จากการถูกข่มขู่แสวงหาประโยชน์โดยอาศัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กและเยาวชน ในฐานะที่ตนกำกับดูแลกรมทรัพย์สินทางปัญญา​ จะนำเหตุการณ์​ครั้งนี้เป็นกรณีศึกษาเพื่อนำไปสู่การจัดระเบียบไม่ให้ตัวแทนลิขสิทธิ์เถื่อนอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย​ไปข่มขู่คนทำมาหากินแบบไม่ถูกต้องอีกต่อไป โดยตนได้สั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา​ดึงสิ่งที่อยู่​ในมุมมืดออกมาอยู่ในที่สว่าง เพราะประชาชนและเยาวชนทั่วไปที่ต้องการทำมาค้าขายควรจะได้รับรู้ว่าจะสามารถผลิตกระทงหรือสินค้าอื่นใด เป็นรูปการ์ตูน​ลายไหนได้หรือไม่ได้บ้าง ซึ่งกระทรวง​พาณิชย์​อยู่ระหว่างเร่งรัดดำเนินการและจะประกาศ​แนวทางจัดระเบียบตัวแทนลิขสิทธิ์ รวมถึงสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับลิขสิทธิ์การ์ตูน เพื่อป้องกันการล่อให้กระทำความผิด โดยจะจัดให้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562

ทั้งนี้ นายวีร​ศักดิ์​กล่าวว่า เบื้องต้นก็ได้กำชับกรมทรัพย์สินทางปัญญา​ว่าจะต้องขอความร่วมมือและกำหนดมาตรการให้ผู้เกี่ยวข้องยึดแนวทางปฏิบัติโดยผู้รับมอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจช่วงต้องดำเนินการตามกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายและคำนึงถึงความเป็นธรรม รวมทั้งขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะการตรวจสอบหนังสือมอบอำนาจของเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ โดยอาศัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ผลิตหรือผู้ค้า โดยเฉพาะ​รายที่เป็นเด็กหรือเยาวชน

อย่างไรก็ตาม​ นายวีร​ศักดิ์​ย้ำว่า ไม่อยากให้เด็กและเยาวชนหลายรายในหลายจังหวัด​ที่ถูกดำเนินคดีในลักษณะ​เดียวกันนี้หมดกำลังใจที่จะช่วยเหลือครอบครัว​หารายได้พิเศษ อีกทั้งผู้ใหญ่​อย่างเราๆก็มีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันสนับสนุนให้เด็กๆคิดประดิษฐ์กระทงการ์ตูนหรือผลงานสินค้าอื่นๆ ให้สามารถสร้างสรรค์​รูปแบบหรือลวดลายการ์ตูน​ใหม่ๆได้อย่างเต็มที่

“วราวุธ”ยัน 1 ม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป! ตักบาตรพระต้องไม่มีถุงพลาสติก

People Unity News : “วราวุธ”ทอล์คโชว์แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ยัน 1 ม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป ตักบาตรพระสงฆ์ทุกๆเช้าต้องไม่มีถุงพลาสติก

วันที่ 9 พ.ย.2562 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการจัดเสวนา TALK TO TOP GO GREEN TOGETHER Vo 1.1 กับท็อป ที่ Bitterman Restaurant ศาลาแดง ซอย 1 กทม. ว่า เวทีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมจากประชาชนกลุ่มคนรุ่นใหม่ องค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อม ว่า ตนต้องการพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มคนรักษ์สิ่งแวดล้อมในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดและตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในประเด็นพื้นที่สีเขียวกับคุณภาพชีวิตคนเมือง ขยะพลาสติกกับชีวิตประจำวัน สถานการณ์ป่าไม้ไทยและแนวโน้มจัดการภาวะโลกร้อน ทั้งนี้หากรูปแบบการเสวนาได้รับผลตอบรับที่ดีจะขยายไปยังพื้นที่ชุมชนในจังหวัดต่างๆด้วย

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับการรณรงค์หยุดใช้หยุดแจกถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ได้รับความร่วมมือจากร้านสะดวกซื้อ 47 บริษัท อาทิ ซีพีออล. บิ๊กซี โลตัส แมคโคร หยุดแจกถุงพลาสติก ซึ่งขณะนี้เริ่มประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนเริ่มหยุดแจกถุงพลาสติกในเดือนม.ค.63 และก้าวไปสู่การห้ามใช้ถุงพลาสติกเด็ดขาดในเดือน ม.ค.64 ทั้งนี้ขอชี้แจงว่าประเทศไทยไม่ได้ต่อต้านหรือเลิกใช้พลาสติก แต่ยกเลิกใช้ถุงพลาสติกประเภทถุงก๊อบแก๊บในชีวิตประจำวันเพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก ในส่วนของประชาชนต้องสร้างวัฒนธรรมในการพกถุงผ้า หรือถุงพลาสติกไนลอนออกจากบ้าน

“ทุกวันนี้ผมมีส่วนร่วมในการรณรงค์ดูแลสิ่งแวดล้อมและปฏิบัติตัวให้เป็นตัวอย่างในการลดภาวะก๊าซเรือนกระจก ในการเดินทางไปร่วมประชุมต่างๆในกรุงเทพฯจะใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งยอมรับว่าเป็นการสร้างภาพ เพราะคนระดับรัฐมนตรีต้องสร้างภาพและทำให้ประชาชนเห็นเป็นตัวอย่าง ปัจจุบันเราถูกถามถึงปัญหาฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 พูดกันมากเพราะก่อนหน้านี้ไม่มีเครื่องวัด เราค่อยๆหายใจเข้าไปนานแล้ว แต่เพิ่งมีเครื่องวัด ปัญหาเกิดจากเครื่องยนต์ กรมควบคุมมลพิษก็สั่งให้หยุดใช้รถยนต์ไม่ได้ ทำได้เพียงสร้างจิตสำนึกให้รับรู้ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมหนักข้ออย่างไร นโยบายดีอย่างไรหากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือก็ไปไม่ได้ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง เปรียบเทียบกับการปลูกป่า 1 คนปลูก 100 คนตัด ไปไม่รอดแน่” นายวราวุธกล่าวและว่า

ส่วนของปัญหาขยะนั้นสาหัสขึ้นทุกวัน 80%ของขยะในทะเลมาจากบนบก โดยเฉพาะขยะพลาสติก ที่ผ่านมาตนจึงร่วมรณรงค์ว่า นับจากวันที่ 1 ม.ค.นี้ ทุกคนต้องพกถุงผ้า แม้กระทั่งการจับจ่ายซื้อของในตลาดสดก็ควรย้อนกลับไปใช้ใบตองและเชือกกล้วย แม้แต่การตักบาตรพระสงฆ์ทุกๆเช้า ซึ่งใช้ปริมาณขยะจำนวนมาก สำหรับประเพณีลอยกระทงขอขมาแม่น้ำลำคลองในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ตนรณรงค์ให้ลอยกระทงครอบครัวละ 1 กระทง รวมกันหลายๆคนลอยกระทงใบเดียวกัน แม้จะใช้กระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแต่ถ้า 67 ล้านคนลอยกระทงทั้งหมด เช้าวันรุ่งขึ้นหลังลอยกระทงจะเป็นทุกข์ของคนเก็บขยะ

ในช่วงของการตอบข้อซักถามนายวราวุธชี้แจงถึงนโยบายป่าเศรษฐกิจว่า มาจากแนวคิดที่ว่าป่าไม้จะยั่งยืนต้องอนุญาตให้คนตัด เช่น ไม้พะยุงรัฐบาลปลดล็อกให้ตัดขายได้ เพื่อให้เกษตรกรร่วมกันปลูกและรักษาพืชเศรษฐกิจ ได้ประโยชน์ทั้งการขยายพื้นที่ป่าและสร้างรายได้ที่ดีกว่าเอาเงินไปฝากธนาคาร รวมถึงการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ว่างเปล่าใต้ทางด่วน ใต้รางรถไฟฟ้า เกาะกลางถนน หรือตอม่อสีเขียว เพื่อช่วยดูดซับฝุ่นควัน โดยจะเร่งหารือกับกรุงเทพมหานคร เพื่อริเริ่มโครงการ และเปิดให้ภาคเอกชนร่วมมือดูแลตอม่อสีเขียวเพื่อสานต่อพื้นที่สีเขียวให้ยั่งยืนไม่ต้องพึ่งพิงงบประมาณของรัฐ

สำหรับบรรยากาศในการพูดคุยจัดขึ้นในรูปแบบของการทอล์คโชว์อย่างเป็นกันเองภายในร้านกาแฟ หลังจบการเสวนายังได้แจกกล้าไม้ให้ผู้ร่วมงานนำกลับไปปลูกเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่า นอกจากนี้นายวราวุธยังเปิดกว้างให้ผู้ร่วมงานซักถามในประเด็นปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ข้อพิพาทเรื่องที่ดินทำกินทับเขตอุทยาน การจัดหาพื้นที่ป่าชุมชน ป่าเศรษฐกิจ การปลดล็อกอนุญาตให้ตัดไม้มีค่า และปัญหาภัยแล้งในปี 63 ซึ่งนายวราวุธยอมรับว่ากระทรวงทรัพย์ถูกตัดลดงบประมาณเจาะน้ำบาดาล ประเทศไทยไม่มีแผนที่น้ำบาดาล โดยกระทรวงเสนอของบประมาณสำรวจและจัดทำแผนที่น้ำบาดาลแล้ว

อดีตเลขาฯสมช.แนะออกประกาศความมั่นคงพื้นที่แดนใต้ต้องแคบที่สุด

People Unity News :  พล.ท.ภราดรระบุการออกประกาศความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้ ต้องจำกัดให้แคบที่สุด สื่อสารกับประชาชน ที่รับผลกระทบล่วงหน้า ป้องกันเหตุเข้าใจผิด กระทบความเชื่อมั่น

วันที่ 9 พ.ย.2562 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี การออกประกาศ ข้อกำหนดแห่งพระราชบัญญัติ การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งสาระสำคัญให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการระงับ ปราบปราม ยับยั้งการกระทำต่างๆรวมถึงการห้ามบุคคลออกนอกพื้นที่ อาคารสถานที่ ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่า

คำสั่งดังกล่าว ถือเป็นเครื่องมือที่ให้เจ้าหน้าที่ ใช้ปฏิบัติการในพื้นที่ แต่ยังไม่ลงรายละเอียด ซึ่งในการปฏิบัติงานจะต้องมีประกาศออกมาอีกครั้ง ซึ่งประกาศดังกล่าวจะเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์

พลโทภราดร เห็นว่าการใช้อำนาจดังกล่าวเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องตระหนัก ว่าพี่น้องประชาชนจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในแง่ของสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ไม่เช่นนั้นในภาพรวม อาจกลายเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศนี้ กำลังเกิดปัญหาเรื่องความมั่นคงหรือไม่ และจะมีผลต่อความเชื่อมั่น ทั้งด้านสังคม ต่างประเทศ หรือการท่องเที่ยว อาจทำให้พี่น้องประชาชนตื่นตระหนก และจะต้อง ตระหนักว่าการออกประกาศ จะต้องทำให้พื้นที่แคบที่สุด พร้อมทำความเข้าใจล่วงหน้า กับพี่น้องประชาชน ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั้งประเทศ และออกไปยังต่างประเทศ

พลโทภราดรย้ำว่า รัฐจะต้องระมัดระวังอย่างยิ่งและจะต้องสื่อสารล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในแง่ของความจำเป็น

ส่วนกรณีที่เกิดเหตุความไม่สงบจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น พลโทภราดรเห็นว่า แนวทางที่จะระงับยับยั้งความรุนแรงในพื้นที่ จะต้องใช้วิธีการ เชิงสันติวิธี และกลไกที่ดีที่สุดคือการพูดคุยสันติภาพ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วเพื่อให้ ความไม่สงบในพื้นที่เบาบางลง

“หญิงหน่อย”แนะแนว! “การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง”

People Unity News : “หญิงหน่อย”เข้าวัดบรรยายนิสิตป.เอก “มจร” แนะแนว”การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง” ขอทุกพรรคการเมืองจริงใจ ทำกติกาให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ หวังเห็นการแก้ รธน.เป็นวาระแห่งชาติ ส่วนประธาน กมธ.ควรแสดงวิสัยทัศน์ ให้สัญญาประชาคม จะแก้รธน.โดยไม่มีวาระแอบแฝง

วันที่ 9 พ.ย.2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรพิเศษ บรรยายแก่นิสิตดุษฎีบัณฑิต คณะบัญฑิตวิทยาลัย สาขาพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ในหัวข้อ “การนำหลักพุทธธรรม มาใช้กับอาชีพนักการเมือง” ทั้งนี้ดร.คุณหญิงสุดารัตน์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาพระพุทธศาสนา มจร ด้วยดุษฎีนิพนธ์ภายใต้หัวข้อ “พุทธวิธีเชิงบูรณาการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งการเมืองไทยในปัจจุบัน”

หลังการบรรยาย ดรคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะประเด็นที่ สังคมให้ความสนใจในเวลานี้ว่าบุคคลใด จะมาทำหน้าที่เป็นประธานกรรมาธิการฯ โดยระบุไว้รวม 6 ประเด็น

1.รัฐธรรมนูญฉบับนี้ สร้างปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง แม้แต่รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้สั่งให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อสืบทอดอำนาจ ก็ไม่สามารถปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของตนเองได้ และนับแต่เป็นรัฐบาลคสช.ต้องออก ม.44 ยกเว้นการใช้บังคับรัฐธรรมนูญหลายครั้ง จนถึงเป็นรัฐบาลปัจจุบัน ก็ยังทำตามรัฐธรรมนูญของตัวเองไม่ได้

2. การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ทำโดยวิธีง่ายๆ คือการแก้ ม.256 เพียงมาตราเดียว เพื่อปลดล็อกให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ โดยจัดให้มีการเลือกตั้ง สสร. ที่มาจากสาขาอาชีพ จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นตัวแทนของประชาชน ในการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้

3. ถ้าทุกพรรคการเมืองจริงใจ ต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ ตั้งใจทำกฎกติกาของประเทศ ให้เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประเทศ เพื่อประชาชนส่วนใหญ่ มิใช่ทำเพื่อคนบางกลุ่มอย่างในปัจจุบัน ก็สามารถใช้วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ทุกคน ทุกพรรค รวมทั้งภาคประชาชน ภาคเอกชน คณาจารย์ผู้รอบรู้ทั้งหลาย มาร่วมมือกันหาทางออกจากปัญหาความขัดแย้งของประเทศ สร้างความสมานฉันท์ ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยได้ “รัฐธรรมนูญเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ” สร้างกลไกการแก้ไขปัญหาประเทศที่มีประสิทธิภาพ ในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจ และพัฒนาประเทศให้ทันโลกได้

4.รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างความมั่นคงและอนาคตให้คนไทย กระจายโอกาสกระจายรายได้ ให้ประชาชนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ลดการใช้อำนาจและทุนผูกขาดประเทศ จนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำที่สูงมากอย่างในปัจจุบัน

5. สำหรับตำแหน่งประธานกรรมาธิการ ทุกคนมีสิทธิ์เสนอตัวมามาทำหน้าที่ แต่ผู้เสนอตัวมาทำหน้าที่ประธาน ควรแสดงวิสัยทัศน์ และให้ “สัญญาประชาคม” กับประชาชน ว่าจะมาทำหน้าที่ แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจัง จริงใจ ด้วยวิธีการและขั้นตอนอย่างไร ให้ได้มาซึ่งการแก้ มาตรา 256 จนถึงการจัดเลือกตั้งสสร. จากประชาชนได้

6. การทำหน้าที่ประธาน จะต้องไม่มีวาระแอบแฝง ไม่เป็นประธานเพื่อมาป่วนและขัดขวางการแก้ไข “รัฐธรรมนูญ เพื่อ ความก้าวหน้าของประเทศ” ในครั้งนี้

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนช่วยกันจับตาดูพฤติกรรมของแต่ละพรรคการเมือง ในการตั้งกรรมาธิการฯเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ดีเพื่อส่งเสียงเรียกร้องความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ให้สำเร็จ

นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังย้ำถึง ท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะสื่อสารถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องมีการแก้ไข โดยมีเจตนารมณ์ ให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ในสองเรื่องใหญ่ ประกอบด้วยปัญหาความไม่ปรองดอง จากโครงสร้างที่เขียนในรัฐธรรมนูญ และไม่ยึดโยงกับประชาชนแต่ไปยึดโยงกับกลุ่มอำนาจ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และเป็นไปเพื่อให้คนกลุ่มเล็ก สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ ขณะที่คนกลุ่มใหญ่ของประเทศกับไม่มีสิทธิ์มีเสียง ซึ่งนำไปสู่ปัญหา เศรษฐกิจ เพราะเมื่อมีการผูกขาดอำนาจ นโยบายต่างๆจึงเอื้อแค่กลุ่มทุนใหญ่ สิทธิของประชาชน คนตัวเล็ก ที่จะเกิดโอกาสในการทำมาหากิน จึงถูกปิดกั้น การกระจายอำนาจลดน้อยลง ซึ่งการรวมศูนย์อำนาจในลักษณะเช่นนี้เป็นเสมือนการรวมศูนย์ทุน จึงทำให้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำอย่างที่เห็น

“ธนกร”มั่นใจเก้าอี้ปธ.กมธ.แก้รธน.พรรคร่วมทำความเข้าใจกันได้

People Unity News : “ธนกร”มั่นใจเก้าอี้ปธ.กมธ.แก้รธน.พรรคร่วมทำความเข้าใจกันได้ ลั่นยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก วอนอย่าใช้วิธีปลุกม็อบลงถนนบ้านเมืองสงบดีแล้ว “เทพไท”ลั่น”สิระ”ไม่จำเป็นต้องมาสอนมารยาททางการเมืองเพราะเป็นส.ส.มาก่อนรู้ดี ส.ว.วันชัยบอก”อย่าดัดจริตทางการเมือง”

วันที่ 9 พ.ย.2562 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเลือกประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จริงๆ แล้วตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ อยู่ที่การโหวตเลือกของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งต้องให้เกียรติทุกท่าน รายชื่อที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ส่วนจะเหมาะสมกับตำแหน่งประธานกรรมาธิการฯ หรือไม่นั้นก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน สำหรับตนแล้วนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนฯมีความเหมาะสม นอกจากนั้นตนมองว่าเนื้อหาสาระในการศึกษารัฐธรรมนูญมีความสำคัญกว่าใครจะมานั่งเป็นประธานกรรมาธิการฯ และที่สำคัญคือ ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรบ้างกับเรื่องนี้ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงประชาชน16.7 ล้านเสียงที่เห็นชอบกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม วิปรัฐบาลจะต้องมีการหารือกัน ซึ่งตนเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะสามารถทำความเข้าใจกันได้

“แกนนำพรรคพลังประชารัฐได้มีการหารือกันบ้างแล้วแต่จะต้องมีการหารือในที่ประชุมพรรคอีกครั้ง แต่อยากจะฝากไปยังทุกพรรคการเมืองให้ระมัดระวังสิ่งที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีกด้วย เพราะเท่าที่ทราบ กำลังมีความพยายามจากบางกลุ่มการเมืองที่จะออกมาเคลื่อนไหวบนถนนอีก มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ขอให้เลิกเถอะ เพราะบ้านเมืองมาไกลแล้ว ขอบอกไว้เลยว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่หัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งตกที่นั่งลำบากนั้นไม่ได้เกิดจากใคร แต่เกิดจากตัวของท่านเอง กรรมใครกรรมมัน ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับกรรมที่ก่อไว้ อย่าโยนให้ใครเลย อย่าไปโทษใครเลย”นายธนกรกล่าว

“เทพไท”ลั่น”สิระ”ไม่จำเป็นต้องมาสอนมารยาททางการเมืองเพราะเป็นส.ส.มาก่อนรู้ดี

นายเทพไท เสนพงศ์ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ระบุพาดพิงถึงตนและพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้รับความเสียหาย ว่า การที่ตนต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมส่งสัญญาณถึงพรรคพลังประชารัฐเพื่อไม่ให้ขัดขวางนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตน์ในการเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ก็เพราะพล.อ.ประยุทธ์ได้แสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ให้เป็นเรื่องของรัฐสภา

ดังนั้นการที่นายสิระ ออกมาปฏิเสธว่า พรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวข้องกับพล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะพล.อ.ประยุทธ์คือหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคพลังประชารัฐ แม้แต่ชื่อพรรคพลังประชารัฐก็มาจากโครงการประชารัฐของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ และที่พรรคพลังประชารัฐได้รับเลือกตั้ง สส.เข้ามาจำนวนมาก ก็เพราะการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ซึ่งเปรียบเสมือนการซื้อเสียงล่วงหน้าของรัฐบาล และที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ในตอนนี้ก็เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้เสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคพลังประชารัฐ เพราะฉะนั้นพล.อ.ประยุทธ์คือหัวหน้าพรรคตัวจริงของพรรคพลังประชารัฐ การที่ตนสัมภาษณ์ถึงพล.อ.ประยุทธ์ก็เป็นการแสดงความเห็นทางการเมือง เป็นเรื่องของผู้ใหญ่คุยกัน เด็กๆอย่างนายสิระก็ไม่ควรมายุ่งเกี่ยว เหมือนกับการที่แม่ทัพ นายกองเขาเจรจากัน ทหารเลวหน้าค่ายไม่ควรมาสอดรู้สอดเห็นหรือจัดการงานนอกสั่ง

“นายสิระไม่จำเป็นต้องมาสอนมารยาททางการเมืองกับผม เพราะผมเป็น สส.มาหลายสมัย ซึ่งต่างกับนายสิระที่เป็น สส.สมัยแรกและไม่แน่ใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้เข้ามาในสภาฯอีกหรือไม่ คุณก็เป็นได้แค่ สส.แดดเดียว ที่อาศัยใบบุญของพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาในสภาฯ อยากจะบอกให้นายสิระว่าเอาเวลาไปเตรียมตัวแก้ข้อกล่าวหาที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นต่อ ป.ป.ช.กรณีที่ไปมีพฤฒิกรรมกร่างใส่ตำรวจที่ภูเก็ต และเตรียมตัวขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะดีกว่า

พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองที่ได้คืบจะเอาศอกตามที่ถูกกล่าวหา การเป็นประธานสภาฯ ของนายชวน หลีกภัย ก็เพราะความเห็นพ้องของทุกฝ่าย และเป็นการทำหน้าที่ได้ดีที่สุด หากดูองค์ประกอบของ สส.ในสภาชุดนี้ที่มีความหลากหลายเช่นนี้ ถ้าประธานสภาฯไม่ใช่คนที่ชื่อชวน หลีกภัย ไม่รู้ว่าสภาฯชุดนี้จะวุ่นวายขนาดไหน การที่พรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อนายวีรกร คำประกอบ นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ นายวิเชียร เชาวลิต จนถึงนายสุชาติ ตันเจริญ ให้เป็นประธานกรรมาธิการฯชุดดังกล่าวก็ยังไม่มีเสียงการตอบรับจากสังคมเลย จนวันนี้มีการนำชื่อของนายบวรศักดิ์ อุวรรโณ อดีตกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ มาเพื่อโยนหินถามทางนั้น ก็ต้องรอดูว่ามีการตอบรับ หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์มากน้อยแค่ไหน เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เสนอนายอภิสิทธิ์นั่งตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ก็เพราะเห็นว่า เป็นผู้มีศักยภาพสูง มีประสบการณ์ทางการเมืองมายาวนาน เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ถ้าพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อใครขึ้นมา ก็อยากได้สังคมพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างบุคคลเหล่านั้นกับนายอภิสิทธิ์ ว่าใครมีความเหมาะสมในการทำหน้าที่นี้มากกว่ากัน ถ้าพรรคพลังประชารัฐจะอ้างสิทธิ์การเป็นพรรคการเมืองใหญ่ ต้องการให้คนของตัวเองเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานกรรมการประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้จริง ก็อยากจะถามถึงเจตนาว่า มีความจริงใจในการศึกษาปัญหารัฐธรรมนูญมากน้อยแค่ไหน หรือจะขอให้เป็นเพียงแค่พิธีกรรม หรือเพื่อซื้อเวลา ไม่ให้ถูกโจมตีว่าไม่ได้ทำตามนโยบายเร่งด่วนที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเท่านั้น” นายเทพไท กล่าว

ส.ว.วันชัยบอก”อย่าดัดจริตทางการเมือง”

นายวันชัย ศรีสิริ ส.ว.กล่าวว่า ถ้าจะว่ากันแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้เอาการเมืองเข้ามายุ่ง จะเห็นได้ว่าไม่มีประชาชนส่วนใหญ่ที่ไหนมาเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญ เห็นมีแต่นักการเมืองบางกลุ่มบางพวกเท่านั้น เพราะตั้งแต่มีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาประมาณ 6 เดือนกว่า ยังไม่เห็นมีประเด็นใดๆทางรัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรคปัญหาของประเทศและประชาชน พูดได้เลยว่าถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้บ้านเมืองจะวุ่นวาย การเมืองจะสับสน แก่งแย่งอำนาจกันจนเกิดวิกฤต จะไม่มีใครยอมใคร แต่เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยแท้จึงทำให้การเมืองเดินมาได้อย่างที่เห็น เป็นนวัตกรรมใหม่ของรัฐธรรมนูญที่สอดรับกับสถานการณ์ของบ้านเมืองเรา เป็นการผสมผสานอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งและอำนาจที่มาจากความมั่นคงให้ช่วยกันประคับประคองในระยะเปลี่ยนผ่านใน 5 ปีนี้เท่านั้น เป็นการออกแบบมาอย่างลงตัวเพื่อบ้านเมืองและประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อให้นักการเมืองบางกลุ่มบางพวกมาแย่งอำนาจกันเหมือนอย่างที่เคยเป็น

ดังนั้นคนที่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ เป็นพวกที่ดัดจริตทางการเมืองคือ 1. พวกที่แพ้การเลือกตั้ง อยากแก้ตัวแก้มือ 2. พวกที่กระสันอำนาจ อยากมีอำนาจ  สองพวกนี้ทำอะไรก็ได้ที่จะเป็นการสั่นคลอนสถานการณ์ของบ้านเมือง ทนไม่ได้ รอไม่ไหวกับการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะขืนรอต่อไปและที่เป็นมาแล้วก็เป็นอานิสงส์ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงเกิด disruption ทางการเมือง

นายวันชัยกล่าวต่ออีกว่า จะลองใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปอีกสักระยะหนึ่งแล้วให้เห็นเป็นประจักษ์ว่ามันมีปัญหาอันเกิดจากรัฐธรรมนูญจริงๆแล้วค่อยเอามาพิจารณาหาทางแก้ไข รอไปก็ไม่มีใครจะเป็นจะตายเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้นอกจากพวกที่กระสันกับอำนาจเท่านั้น และที่สำคัญการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องเป็นความเห็นพ้องต้องกันของทุกฝ่ายการเมืองและฝ่ายประชาชน ควรที่จะปรึกษาหารือกันในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาไม่ใช่เกิดขึ้นจากสภาผู้แทนราษฎรโดยฝ่ายเดียวแล้วดึงส.ว.ไปเป็นกรรมาธิการ เป็นเรื่องแปลกประหลาดมากเพราะโดยปกติแต่ละสภาก็เป็นเรื่องของแต่ละสภาไม่ดึงคนของแต่ละสภามาเป็นกรรมาธิการ เกิดส.ว.ตั้งคณะกรรมาธิการมาแล้วไปดึงคนจากส.ส.มาเป็นกรรมาธิการ แปลกไหม… แต่จะมีได้ก็ในรัฐสภาเท่านั้น จากข่าวที่เกิดขึ้นจึงแปลกใจว่ามีใครกำลังทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่

ในเรื่องนี้กรรมาธิการการพัฒนาทางการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ได้ทำเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว โดยได้ทำการติดตามศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญมาตลอดแบบไม่มีอคติ ทั้งได้ไปดูการเลือกตั้ง ดูการปฏิบัติงานในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญต้องนำไปใช้บังคับทำกันเป็นหลักการด้วยเหตุด้วยผลและต้องการเป็นข้อสรุปถึงผลดีผลเสียของรัฐธรรมนูญอย่างเป็นวิชาการ ไม่ใช่เป็นเรื่องดัดจริตทางการเมือง กรรมาธิการชุดนี้ซุ่มทำแบบเงียบๆมานาน ไม่ต้องการสร้างข่าวสร้างประเด็น ทำมาก่อนส.ส.ที่จะทำเรื่องนี้เสียอีก และรุดหน้าไปมากแล้ว บอกได้เลยว่าทำเพื่อบ้านเมืองมากกว่าเล่นการเมือง

“ศักดิ์สยาม”ทำบุญวันคล้ายวันเกิด พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด

People Unity News : “ศักดิ์สยาม”ทำบุญวันคล้ายวันเกิดที่บ้านพ่อชัย รมต.-ส.ส. ร่วมอวยพรคึกคัก “เนวิน”พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด ยอด 4.59 ล้านเช่นทุกปี

วันที่ 9 พ.ย.2562 ที่ทำการสาขาพรรคภูมิใจไทย หน้าโรงโม่หินศิลาชัย อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ทำบุญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ช่วงเที่ยงได้มีการตั้งโต๊ะเลี้ยงอาหารกลางวันหลายร้อยโต๊ะ ทั้งนี้มีนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ มาร่วมอวยพรนายศักดิ์สยามด้วย

“เนวิน”พี่ชายนำทอดกฐินโจร 306 วัด ยอด 4.59 ล้าน

ที่วัดกลางพระอารามหลวง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเตด นายศักดิ์สยาม ร่วมทอดกฐินโจร 306 วัด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ส.ส. และแกนนำพรรคภูมิใจไทย มาร่วมทำบุญโดยพร้อมเพรียง โดยมีประชาชนร่วมทำบุญนับพันคน

นายเนวินกล่าวว่า การทอดกฐินโจร คือการเก็บตกวัดที่ตกค้าง ไม่มีใครเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน เพื่อให้ทุกวัด ได้รับกฐิน และเป็นการทำให้ครบตามที่พระพุทธศาสนาบัญญัติ เพื่อให้พระที่บวชจำพรรษา ได้รับกฐิน ครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักศาสนา อย่างไรก็ตาม การทอดกฐินโจรในแต่ละปี จะเป็นตัวชีวัดสภาวเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ถ้าปีไหนเศรษฐกิจดี ก็จะเหลือวัดตกค้างน้อย แต่ในปีนี้มีวัดตกค้างถึง 306 วัด

นายเนวินกล่าวว่า การทอดกฐินในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ไม่มีรัฐมนตรี ไม่มี ส.ส. ไม่มีอธิบดี ไม่มีผู้ว่าฯ มีแต่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาที่มาร่วมกันทำบุญ
สำหรับการทำบุญครั้งนี้ ทั้ง 306 วัด ได้รับเงินกองกฐิน วัดละ 15,000 บาท รวมเป็นเงิน 4,590,000 บาท โดยมีหางกฐินที่ประชาชนร่วมทำบุญอีกเกือบ 4 แสนบาท

โฆษกปชป. แนะทุกฝ่ายยึดหลักศึกษาแก้ไข รธน. ให้เป็นปชต.เต็มรูปแบบ

People Unity News : โฆษก ปชป. แนะ ทุกฝ่ายยึดหลักศึกษาแก้ไข รธน. ให้เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ เพื่อประโยชน์ “ประชาชน-ประเทศชาติ” เตือนอย่าโต้เถียงจนขัดแย้งทางการเมือง

วันที่ 9 พ.ย.2562 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาแนวทางทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ประเด็นดังกล่าวขอให้ทุกฝ่ายอย่าโต้เถียงกันจนเป็นประเด็นขัดแย้งในทางการเมือง แต่ควรยึดหลักให้ได้ว่าหลักที่สำคัญที่จะเดินไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบมากขึ้น ประชาชนประเทศชาติได้ประโยชน์เราจะมาช่วยกันอย่างไรให้ไปถึงจุดนั้น แน่นอนว่าพรรคการเมือง รัฐบาล รัฐสภา ก็จะเป็นหลักในการขับเคลื่อน เมื่อขณะนี้มีญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้เข้าสู่การแก้ไข แต่เป็นการตั้งคณะกรรมาธิการมาเพื่อศึกษา อย่าให้เสียหลักตั้งแต่เริ่มตั้งต้น มีส่วนไหนที่ควรนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อกำหนดทิศทาง ส่วนไหนของรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ส่วนไหนที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ ส่วนไหนที่ควรกำหนดไว้ให้เป็นสิทธิของประชาชนกลับคืนมา การแก้ไขที่กำหนดให้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขยากทำอย่างไรที่จะทำเป็นการแก้ไขโดยใช้เสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภา ก็จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี คนที่มีความสามารถ คิดดี ทำดี มีแง่มุม มีประสบการณ์ ปราศจากอคติทั้ง 4 คิดโดยยึดหลักเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศ ทุกคนมีสิทธิที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้โดยผ่านกลไกการเสนอของพรรคการเมือง หรือ รัฐบาล

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองแรกที่ชูธงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำหนดเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล จนนำไปสู่การกำหนดไว้เป็นนโยบายของรัฐบาล มีหลักการคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศเพื่อระบบประชาธิปไตยที่ดีขึ้นมีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น และล่าสุดมติที่ประชุม ส.ส. ก็ชัดเจนว่าสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ และพร้อมสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ เป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมติที่ประชุม ส.ส.ก็ให้วิปของพรรคไปพูดคุยกับวิปรัฐบาล พรรคร่วม และพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อได้ข้อหารือความเห็นพ้องต้องกันว่าทุกพรรคการเมืองจะมีแนวทางอย่างไร ผลเป็นเช่นใด วันอังคารที่จะถึงนี้ก็จะมีการกลับมารายงานก็ว่ากันไป ตามมติที่ประชุม ส.ส.พรรค มีกลไกเหล่านี้อยู่ ท้ายที่สุดก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภา

“อนุสรณ์”สอน”ประยุทธ์”หยุดลงพื้นที่ถ้าเป็นภาระประชาชน

People Unity News : “อนุสรณ์”โฆษกพรรคเพื่อไทย สอน “ประยุทธ์” ถ้าภารกิจเป็นภาระประชาชนต้องหยุดลงพื้นที่ รบ. แจงไม่ได้สั่งปิดร.ร.เบญจมราชูทิศราชบุรี วันที่ 11 พย. เผย ผอ.สั่งเปิดเรียนตามปกติแล้ว ขณะที่ “สุทิน” มองคนนั่งประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ต้องเป็นคนที่สังคมยอมรับ

วันที่ 9 พ.ย.2562 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปลี่ยนจุดลงจอดเฮลิคอปเตอร์หนีม็อบสมัชชาคนจนในการลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า ตั้งแต่ยุคคสช. ถึงยุคหลังคสช. ภารกิจในการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ แต่ละครั้งสร้างภาระให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ไปไหนมาไหนแทบจะสั่งปิดเมือง หยุดทุกภารกิจชีวิตของประชาชนมาดำเนินการต้อนรับ ยกระดับคุมเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง ทั้งตัวพล.อ.ประยุทธ์ ครม. ข้าราชการส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง เกณฑ์ประชาชนมาต้อนรับ วุ่นวายไปหมดทั้งเมือง เดือดร้อนไปถึงโรงเรียนที่ต้องสั่งปิดเพื่อเกณฑ์เด็กนักเรียนมารับพล.อ.ประยุทธ์ จะมีกุนซือบอก หรือคิดเองว่า ต้องมีการสร้างภาพให้ใกล้ชิดประชาชน แต่การลงพื้นที่แต่ละครั้ง ถ้ามันเพิ่มภาระให้กับประชาชน ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือสร้างภาพ ไม่จริงใจต่อการรับฟังและแก้ไขปัญหา กลัวประชาชนจะร้องเรียนหรือสร้างปัญหาให้ ต้องหยุดลงพื้นที่

“พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไม่ติดยึดกับรูปแบบ แต่ต้องเน้นที่สาระและผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลัก จะลงพื้นที่รับฟังปัญหา ก็ต้องลงรับฟังด้วยความจริงใจ เข้าถึงสภาพปัญหาที่แท้จริง ไม่มองประชาชนผู้เดือดร้อนเป็นภาระหรือสร้างความยุ่งยากวุ่นวายให้กับตัวพล.อ.ประยุทธ์ เอง” นายอนุสรณ์ กล่าว

รบ. แจงไม่ได้สั่งปิดร.ร.เบญจมราชูทิศราชบุรี วันที่ 11 พย. เผย ผอ.สั่งเปิดเรียนตามปกติแล้ว

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงรัฐบาลไม่ได้สั่งการให้มีการปิดการเรียนการสอนโรงเรียนเบญจมราชูทิศราชบุรี ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะลงพื้นที่ราชการในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ก็ไม่ได้สั่งการเช่นกัน แต่ทางโรงเรียนได้ประกาศปิดเอง ซึ่งทางจังหวัดได้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนเบญจมราชูทิศฯ มาหารือร่วมกันแล้ว ทางผู้อำนวยการโรงเรียนฯ จะยกเลิกการปิดเรียน แต่ผ่อนผันให้นักเรียนที่จะมาเรียนช้ากว่าเวลาเข้าเรียน โดยไม่ถือว่ามาสายหรือขาดเรียนเพราะคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการจราจรที่น่าจะตัดขัดมากในช่วงเช้า

“สุทิน”มองคนนั่งประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ต้องเป็นคนที่สังคมยอมรับ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการเสนอชื่อประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ว่า บุคคลที่มีการเสนอชื่อออกมาถือว่าเหมาะสมทั้งคู่ แต่ นายสุชาติ จะมีความแปลกและสับสนในหลักการที่รองประธานสภาฯ จะมาเป็นประธานกรรมาธิการ ไม่ค่อยเห็นใครทำกัน และส่วนตัวคิดว่าถึงวันที่จะเลือกประธานคณะกรรมาธิการจริงๆ น่าจะมีทางเลือกได้มากกว่า 2 คนที่มีชื่อออกมา จะเป็นคนนอกก็ได้คนในก็ดี

เมื่อถามว่าประธานคณะกรรมาธิการชุดนี้ควรเป็นคนจากพรรคแกนนำหลักรัฐบาลหรือไม่ นายสุทิน ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนของพรรคแกนนำรัฐบาล แต่ต้องเป็นบุคคลที่สังคมยอมรับ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญต้องอาศัยความร่วมมืออย่างกว้างขวาง ขณะที่กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีการพูดคุยในสัปดาห์หน้าก่อนญัตติดังกล่าวเข้าที่ประชุมสภาฯ รวมถึงประเด็นว่าเราจะเสนอบุคคลไปชิงตำแหน่งประธานด้วยหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ถ้าพรรคประพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ส่งบุคคลชิงประธานพรรคฝ่ายค้านจะสนับสนุนใครนั้นนายสุทิน ระบุว่า เรื่องดังกล่าวยังไปไม่ถึง ดังนั้นในสัปดาห์หน้าก็คงหยิบยกมุมมองต่างๆ ขึ้นมาหารือในหลักการ

ทางด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตั้งกรรมาธิการวิสามัญในสภาฯ ว่า กรณีตั้งกรรมาธิการวิสามัญตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อ 92 เขียนไว้ว่า ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งกรรมาธิการได้ 1 ใน 4 ของกรรมาธิการทั้งหมด ที่เหลือให้เป็นไปตามสัดส่วนของพรรคการเมืองตามจำนวนสมาชิก ถ้าตั้งกรรมาธิการ 49 มาหาร 4 ครม. จะได้ 12 คน ที่เหลือ 37 คน เป็นไปตามสัดส่วนพรรคการเมือง เมื่อคำนวณแล้วพรรคฝ่ายค้านจะได้ 19 เสียง รัฐบาลได้ 18 เสียง ใน 19 เสียง พรรคเพื่อไทยจะได้ประมาณ 10-11 เสียง ซึ่งตอนนี้กำลังพิจารณากันอยู่ จะเป็นทั้ง ส.ส. และสมาชิกพรรคที่ไม่ได้เป็น ส.ส.

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย ว่า สำหรับกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคเพื่อไทย จะเป็นมือกฎหมายที่มีความรู้ความสามารถและทำงานร่วมกับพรรคมานาน รวมถึง ส.ส. ที่คอยประสานงานกับพรรคร่วมในสภาฯ อาทิ นายโภคิน พลกุล อดีตประธานสภาฯ นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม

“บิ๊กป้อม”กำชับฝ่ายปกครองทำงานร่วมทุกฝ่ายดูแลปชช.ช่วงเทศกาลลอยกระทง

People Unity News : “บิ๊กป้อม”กำชับฝ่ายปกครองทำงานร่วมกับตำรวจ ทหารและภาคจิตอาสา รับมือและดูแลความปลอดภัยประชาชน ช่วงเทศกาลลอยกระทง

วันที่ 9 พ.ย.2562 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับ กระทรวงมหาดไทย โดยขอให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่ระดับต่างๆ ประสานการทำงานร่วมกับ ตำรวจ ทหารและภาคจิตอาสา ร่วมกันดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลลอยกระทง ที่กำลังมีขึ้น ซึ่งคาดว่ามีประชาชนจำนวนมาก เดินทางร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกัน โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงาน

โดยย้ำขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่จัดงาน ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ร่วมกันตรวจสอบความแข็งแรงของท่าน้ำและพื้นที่จัดงาน จัดให้มีแสงสว่างเพียงพอและมีมาตรการต่างๆรองรับ ทั้งการเฝ้าระวังและป้องกัน พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆที่อาจมีขึ้น ทั้งอุบัติเหตุจากทางน้ำและท้องถนน อัคคีภัย และปัญหาอาชญากรรม หรือกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง

ขณะเดียวกัน ขอให้เข้มงวดกวดขันกับการล่อลวงเด็ก การจำหน่ายพลุดอกไม้ไฟ รวมทั้งสุรา ยาเสพติดหรือสิ่งมึนเมา ซึ่งเป็นเหตุสำคัญของปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนและปัญหาอาชญากรรม พร้อมทั้งขอให้ร่วมกันรณรงค์สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามของไทยและรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการขอความร่วมมือกันรักษาความสะอาดพื้นที่จัดงานและแม่น้ำลำคลอง ใช้กระทงที่ประดิษฐ์ด้วยวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความสวยงามของประเพณีไทยโบราณนี้ด้วยกัน

“สุวัจน์”มองอีอีซีโอกาสประเทศไทยและเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจ

People Unity News : “สุวัจน์”มองอีอีซีโอกาสประเทศไทยและเกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจ พร้อมฝากอารยะสถาปัตย์กับเหตุสามารถสร้างความเท่าเทียมในการดำรงชีวิตของคนทุกกลุ่ม แนะพรรคร่วมรัฐบาลเร่งเคลียร์ให้จบใครนั่ง ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถา ในงาน ASA Real Estate Forum 2019 ณ พารากอน ฮอลล์ 3 ศูนย์การค้า สยามพารากอน กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ นายวีรพล จงเจริญใจ ประธานการจัดงานฯ และนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคม อสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมเปิดงาน

ภายหลังจากการเปิดงาน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ประเทศไทย : เมืองแห่งโอกาส และความเท่าเทียม โดยนายสุวัจน์ได้กล่าวถึง วิกฤติทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่มีผลมาจากการถดถอยของเศรษฐกิจโลก และสงครามการค้าของประเทศมหาอำนาจ ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และ Disruptive Technology ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 มีเทคโนโลยีใหม่ๆเกิดขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความผันผวนทางไลฟ์สไตล์ เกิดการผันผวนในการทำธุรกิจ

และนายสุวัจน์ได้แสดงวิสัยทัศน์ เรื่องเมืองแห่งโอกาส ที่จะสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนทั้งประเทศ โดยกล่าวถึง เมกะโปรเจคใหญ่ๆ อย่าง EEC (Eastern Economic Corridor) ที่เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก(Eastern Seaboad)​ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนทางอุตสาหกรรม ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก  โดยเป้าหมายของ EEC ​ คือ 1.การทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง 2.บรรยากาศการลงทุนของประเทศไทยต้องเติบโตไม่น้อยกว่า 10 % 3. GDP ประเทศไทยต้องโต 5 % 4.จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 100,000 คน 5.ภาคโลจิสติกส์​ ซึ่งเป็นตัวดึงนักลงทุน จะมีราคาถูกลง 6.จะมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น และสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ

นอกจากโครงการ EEC แล้ว โครการใหญ่ๆที่เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ก็ถือเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟความเร็วสูง ที่จะสามารถดึงดูดนักลงทุน รองรับนักท่องเที่ยวๆได้ 150 ล้านคนต่อปี จะมีการจ้างงาน และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล การสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพ ก่อให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจในเรื่องของ อสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้า ทำให้ที่ดินมีมูลค่าเพิ่ม รถไฟรางคู่ที่ออกไปสู่ต่างจังหวัด จะเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวไปให้เกษตรกร และ ท้องถิ่น ลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึง มอเตอร์เวย์สายต่างๆที่จะกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ

การใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ Technology 5g มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านธุรกิจ ด้านการแพทย์ ด้านการศึกษา องค์ความรู้ต่างๆจะหลั่งไหลสู่ชุมชนที่ห่างไกล และนอกเหนือจากเรื่องของเทคโนโลยี นายสุวัจน์ได้กล่าวถึงการสร้างพันธมิตร เช่น การเป็นประธานจัดงานประชุมอาเซียน ที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ การรวมกลุ่มทางการค้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งและข้อต่อรองทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดโอกาสทางการลงทุนทีามากขึ้น และสุดท้าย นายสุวัจน์ได้กล่าวถึงจุดแข็งของประเทศไทย 2 ประการ นั่นก็คือ 1.การเกษตร ต้องใช้เทคโนโลยี และ อุตสาหกรรมมาใช้ในการเกษตรเพื่อแปรรูป และเพิ่มมูลค่า วัตุดิบคุณภาพของประเทศ 2.การท่องเที่ยว เพราะประเทศไทยมีความสวยงาม และมีความหลายหลายในแต่ละท้องถิ่น การส่งเสริมการท่องเที่ยว จะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวจะกระจายไปในทุกๆที่ โดยมีโครงสร้างพื้นฐานมารองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว

และก่อนที่จะปิดการปาฐกถา นายสุวัจน์ได้ฝากถึงสถาปนิก ว่าต้องให้ความสำคัญกับ Universal Design (อารยะสถาปัตย์)​เพราะสามารถสร้างความเท่าเทียมในการดำรงชีวิตของคนทุกกลุ่มผ่านการออกแบบที่คำนึงถึงทุกๆคน เพื่อสร้างความเสมอภาคในสังคม และการใช้งานของคนทุกกลุ่ม

แนะพรรคร่วมรัฐบาลเร่งเคลียร์ให้จบใครนั่ง ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ

นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ส่วนตัวขอเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลโดยหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการประสานงานของแต่ละพรรคควรพูดคุยทำความเข้าใจ และหาข้อยุติเรื่องประธานคณะกรรมาธิการ จะได้ไม่กระทบกับเสถียรภาพของรัฐบาล

ทั้งนี้ นายสุวัจน์ เห็นว่าเป็นเรื่องดีที่พรรคประชาธิปัตย์จะเสนอชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะไปพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก่อน แต่ส่วนตนเองในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้รับการติดต่อหรือประสานงานมา อย่างไรก็ตาม ขอไม่แสดงความเห็นในเรื่องตัวบุคคลว่าใครเหมาะสม ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ กับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่มองว่าบุคคลที่จะมาเป็นประธานกรรมาธิการชุดนี้จะต้องมีบารมี เป็นที่ยอมรับ และสามารถควบคุมการประชุมเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดี

“เรื่องนี้ต้องพูดคุยกันเพื่อให้ได้ข้อยุติในพรรคร่วมรัฐบาล เพราะความเห็นที่แตกต่างกันทำให้เกิดกระทบกับเสถียรภาพ และเกิดความไม่เข้าใจในสังคม”

Verified by ExactMetrics