วันที่ 5 พฤษภาคม 2024

สยบข่าวลือ! “ทิม พิธา”ร่วมหาเสียงเลือกซ่อมนครปฐม

People Unity : สยบข่าวลือ! “ทิม พิธา” ร่วมทีม”ส.ส.อนาคตใหม่” หาเสียงเลือกตั้งซ่อม “นครปฐม” – ถ่ายรูปชื่นมื่น

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม 2562 ที่เวทีปราศรัยเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครปฐมเขต 5 ของพรรคอนาคตใหม่ ที่ตลาดธันยา อ.สามพราน จ.นครปฐม ปรากฏว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แกนนำของพรรค ซึ่งมีกรณีข่าวลือจากสำนักข่าวบางสำนักระบุเริ่มมีบรรดา ส.ส.และผู้สมัครพรรคอนาคคตใหม่บางกลุ่ม แยกตัวออกไปก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ ได้ร่วมปราศรัยใหญ่ช่วยหาเสียงให้กับนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัครของพรรคด้วย

ระหว่างที่นายพิธานั่งรอการปราศรัยอยู่ด้านหลังเวที บรรดาเพื่อน ส.ส.ของพรรคต่างเข้ามาแซว หยอกล้ออย่างสนุกสนาน พร้อมกันนี้ได้ถ่ายรูปร่วมกันสยบข่าวลือ และยืนยันว่าไม่มีการแยกตัวออกไปตั้งพรรคการเมืองใหม่อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ในวันเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด รวมถึงนายพิธาจะไปร่วมสังเกตุการณ์การเลือกตั้งในทุกหน่วยเลือกตั้งของ เขต 5 จ.นครปฐม ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศเวทีปราศรัยของพรรคอนาคตใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาร่วมฟังเป็นจำนวนมาก ขณะที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ต่างขึ้นเวทีร่วมแสดงพลัง และปราศรัยเรียกคะแนนให้กับนายไพรัฏฐโชติก์ รวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และน.ส.พรรณิการ์ วาณิช ซึ่งร่วมปรายศรัยในครั้งนี้ด้วย

“อนค.-ชทพ.”บี้กันสุดสูสี! เลือกตั้งซ่อมส.ส.นครปฐมเขต 5

People Unity : บี้กันสุดสูสี! เลือกตั้งซ่อมส.ส.นครปฐมเขต 5 ระหว่าง “อนาคตใหม่-ชาติไทยพัฒนา” ปชป.ตามมาห่างๆ “แกนนำชทพ.”เกาะติดนับคะแนน”นิกร”บอกบางหน่วยชนะขาด

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2562ภายหลังการปิดหีบเลือกตั้งซ่อมเขต 5 จังหวัดนครปฐม โดยใช้อาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา วัดไร่ขิง ต.ไร่ขิง เป็นสถานที่นับคะแนน ท่ามกลางการลุ้นของบรรดากองเชียร์ผู้สมัครแต่ละพรรค ปรากฏว่า หลายหน่วยเลือกตั้งได้นับคะแนนเสร็จแล้ว โดยบางหน่วยนั้น คะแนนของนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ผู้สมัครส.ส.หมายเลข 6 จากพรรคอนาคตใหม่ เป็นฝ่ายนำ และตามมาติดๆด้วยนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครส.ส.จากพรรคชาติไทยพัฒนา ขณะที่บางหน่วยเลือกตั้ง คะแนนของนายเผดิมชัย เป็นฝ่ายออกนำ และตามมาด้วยนายไพรัฏฐโชติก์ ส่วนอันดับสามตามาด้วยนายสุรชัย อนุตธโต ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์

ขณะเดียวกันแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้กระจายกันไปติดตามการนับคะแนนเลือกตั้งตามหน่วยต่างๆ โดยที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 ตำบล/เทศบาลทรงคนอง อำเภอสามพราน ปะรำที่ทำการอดีตกำนัน นายสาธิตปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาติดตามการนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเวลา 17.00 น.

ส่วนที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 ตำบล/เทศบาล ทรงคนอง อำเภอสามพราน สถานที่เลือกตั้งศูนย์การเรียนรู้ ตำบลทรงคนอง หมู่ 5 นายสุรชัย อนุตธโต ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาติดตามการนับคะแนน พร้อมนายอลงกรณ์พลบุตร แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ สิ่งที่จุดนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้มาติดตามการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งนี้ด้วย ซึ่งผลการนับคะแนนที่หน่วยดังกล่าวเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 18.03 น. นายสุรชัย ชนะการเลือกตั้งในหน่วยนี้

“แกนนำชทพ.”เกาะติดนับคะแนน”นิกร”บอกบางหน่วยชนะขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการเกาะติด ผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในพื้นที่จ.นครปฐม เขต 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ส่ง นายเผดิมชัย สะสมทรัยพ์ ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยภายหลังการปิดหีบลงคะแนนแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค, นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ปรึกษาพรรค, นายอนุรักษ์ จุรีมาศ, นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรค นายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนาและนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะผู้อำนวยการพรรรค เกาะติดการนับคะแนนเลือกตั้งที่ ปั้มน้ำมันประเสริฐชัยปิโตร อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ทั้งนี้เมื่อเวลา 18.20 น. นายนิกร ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคได้ส่งเจ้าหน้าที่เกาะติดการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีบางหน่วยที่ชนะด้วยเสียงที่ขาดลอย แต่มีบางหน่วยที่แพ้ไปอย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตามการประเมินผลแพ้ หรือ ชนะในตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เบื้องต้นคาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการจากการรายงานคะแนนของผู้สังเกตการณ์​เวลา 20.00 น.

ก่อนเที่ยงคืนรู้ผลเลือกตั้งซ่อมนครปฐม

น.ส.บุญเรือน ไทยวัฒนธรรม ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐม ให้สัมภาษณ์ถึงความเรียบร้อยการเปิดหน่วยเลือกตั้งใหม่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่างลงในเขต 5 จังหวัดนครปฐม ว่า หน่วยเลือกตั้งในเขต 5 นครปฐมทั้งหมดจำนวน 193 หน่วย เปิดได้ครบทุกหน่วยแล้วโดยเป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งได้จนถึงเวลา 17.00 น. โดยการเลือกตั้งใหม่แทนตำแหน่งที่ว่างลงครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ซึ่งตั้งเป้าไว้น้อยกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ที่มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 76 เนื่องจากการเลือกตั้งใหม่ครั้งนี้ไม่มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า สำหรับผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดเผยได้ภายในเวลา 24.00 น.

“ชวน”ชี้คุณสมบัติ “ธนาธร” เป็นสิทธิ์ 64 กมธ.งบฯ63ยื่น

People Unity : “ชวน”ชี้คุณสมบัติ “ธนาธร” เป็นสิทธิ์ 64 กมธ.งบฯ63ยื่น พร้อมชงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้ขาด ชี้สามารถสงวนคำแปรญัติติในวาระ 2-3ได้ “ช่อ”ปลื้มจากนี้ได้เห็น”ธนาธร”ในสภาฯเข้มข้นขึ้น

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถูกศาลสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว สามารถนั่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ได้หรือไม่ ว่า นายสุชาติสามารถทำหนังสือมายังตนได้ แต่กรณีดังกล่าวตนมองว่าฝ่ายที่ดูจะมีปัญหา คือ กมธ.ฯ งบประมาณ ทั้ง 64 คน หากพบว่าคุณสมบัติของนายธนาธรขัดต่อการดำรงตำแหน่งต้องยื่นมายังตนเพื่อพิจารณาตามกระบวนการคือส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวินิจฉัย

“กรณีการตั้งกมธ.ผมไม่ใช่ผู้แต่งตั้ง ประธานสภาฯ จึงไม่มีอำนาจวินิจฉัย รวมถึงการลาออกจากส.ส. ของคุณธนาธร เพื่อคงโควต้ากมธ.บุคคลภายนอก ซึ่งกมธ.งบประมาณจะต้องเป็นคนร้องหรือทำเรื่องเข้ามา”นายชวน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าบทบาทของนายธนาธรต่อกมธ.งบประมาณ จะแปรญัตติ และใช้สิทธิอภิปรายวาระ 2-3 ในการประชุมสภาฯ ได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ปรากฎบทบาทของนายธนาธร ว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ดังนั้นหากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญระบุให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ส.ส. นายธนาธรจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. ได้ยกเว้นแต่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการสงวนความเห็นและอภิปรายทำได้ฐานะกมธ.ฯเท่านั้น

“ช่อ”ปลื้มจากนี้ได้เห็น”ธนาธร”ในสภาฯเข้มข้นขึ้น

น.ส.พรรณิการ์ วาณิชโฆษกพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ทวิตเตอร์ @Pannika_FEP ระบุว่า “ชัดเจนนะคะ จากนี้ไปได้เห็นบทบาทธนาธรในสภาเข้มข้นต่อเนื่องแน่นอนในฐานะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณฯ ภาษีประชาชนทุกบาทจะต้องถูกจัดสรรเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด อนาคตใหม่”

“เผดิมชัย”เผยสูตรทวงพื้นที่คืนสำเร็จ ปลื้มจนไม่กล้าทรยศชาวนครปฐม

People Unity : “เผดิมชัย”ประกาศทวงคืนพื้นที่คืนสำเร็จ ปลื้มคะแนนที่ได้จนไม่กล้าทรยศชาวนครปฐม เผยสูตรคว้าชัย เคาะประตูบ้าน คอนเซ็ปต์ “ครอบครัวนครปฐม”

วันที่ 23 ต.ค.2562 เวลา 20.45 น. นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคชาติไทยพัฒนา หรือ ชทพ. เขตที่ 5 อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนางสาวกัญจนา ศิลปอาชาหัวหน้าพรรค นายนิกร จำนง เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค แถลงประกาศ ชัยชนะ และรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ได้คะแนน 38,000 คะแนน ทิ้งห่าง คะแนนพรรค อนาคตใหม่ 9,883 คะแนน

นายเผดิมชัย เปิดเผยว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แสดงความยินดี พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ให้ความไว้วางใจจากชาวจังหวัดนครปฐม และในครั้งนี้ได้คะแนนมากจนไม่กล้าที่จะทรยศชาวนครปฐมและจะทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและตั้งใจทำเต็มที่ พร้อมขอบคุณครอบครัวสะสมทรัพย์และพรรคชาติไทยพัฒนา

นายเผดิมชัยเชื่อว่า ที่พลิกกลับมาชนะในครั้งนี้เพราะยุทธวิธีการหาเสียงด้วยตนเองผ่านการเคาะประตูบ้าน โดยคอนเซ็ปต์ “ครอบครัวนครปฐม” ยืนยันจะทำหน้าที่ ส.ส. อย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนทุกคะแนนเสียงยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วอาจจะแพ้ด้วยการหาเสียงผ่านสื่อออนไลน์ ทางนี้ไม่ขอพูดถึงยุทธศาสตร์การปราศรัยของพรรคการเมืองแต่ว่าของตนเองได้วางแผนไว้ว่าจะเปิดเวทีปราศรัย​เช่นกันแต่เปลี่ยนใจภายหลัง เนื่องจากมีกรอบเวลาในการหาเสียงเพียง 3 สัปดาห์ จึงเลือกที่จะพบปะชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยตนเอง และยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความยุติธรรม

ด้านนางสาวกัญจนา กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้สมัครและชาวนครปฐม ที่ทำให้เผดิมชัย พลิกกลับมาชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และดีใจที่ทำเสียงเพิ่มให้รัฐบาลเพิ่มในสภาได้อีก 1 เสียง และย้ำว่าพรรค ชทพ. จะทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เรื่องวันเลือกตั้งที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ (23/10/62)​ เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. เป็นผู้กำหนด และไม่น่าจะเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ และกล่าวขอบคุณ พรรคอนาคตใหม่มาแสดงความยินดีและขอบคุณผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งนายปิยะบุตร ได้ฝากถึงเผดิมชัยว่าจะได้ร่วมกันในสภา

ทั้งนี้ในระหว่างการแถลงข่าว นายเผดิมชัย ได้มีอาการตื้นตันและดีใจ น้ำตาคลออีกด้วย

 

ส.ส.แคนาดาสนใจฝึกสมาธิ เตรียมนิมนต์พระพุทธเปิดคอร์สที่บ้าน

People Unity : ส.ส.แคนาดาสนใจฝึกสมาธิ เตรียมนิมนต์พระพุทธเปิดคอร์สที่บ้าน ขณะที่ผลเลือกตั้งทั่วไปของประเทศแคนาดา “ทรูโด” อดีตนายกฯชนะไม่ขาด เตรียมตั้งรัฐบาลผสม ผลักดันนโยบายปลูกต้นไม้ 2 พันล้านต้นตามที่รับปากไว้กับ “เกรตา ธันเบิร์ก”

วันที่ 22 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานผลการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศแคนาดาที่มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 จนกระทั้งเวลา 02.00 น. วันอังคารที่ 22 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น หลังปิดการเลือกตั้งของหน่วยเลือกตั้งทั้ง 6 โซนเวลาทั่วประเทศ อันดับ 1 คือ พรรคลิเบอรัล ที่หัวหน้าพรรคคือนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด วัย 47 ปี ได้ 156 ที่นั่ง จากเขตเลือกตั้ง 338 เขต อันดับ 2 คือ พรรคคอนเซอร์เวทีฟ ที่หัวหน้าพรรคคือ แอนดรูว์ เชียร์ วัย 40 ปี คู่แข่งสำคัญของทรูโด พรรคของเขาได้ 122 ที่นั่ง มากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาในปี 2558 ที่ได้ 95 ที่นั่ง

เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ทำให้นายทรูโดต้องจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคพันธมิตรที่เป็นพรรคเล็กอย่างน้อย 1 พรรค โดยนายทรูโดกล่าวกับผู้สนับสนุนในนครมอนทรีออลเมื่อวันอังคารว่า ผลการเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่าชาวแคนาดาปฏิเสธการแบ่งแยกและความคิดด้านลบ ปฏิเสธนโยบายตัดงบประมาณและรัดเข็มขัด และลงคะแนนเพื่อสนับสนุนแผนการที่ก้าวหน้าและการลงมือปฏิบัติที่เข้มแข็งในการแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ช่วยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งนายทรูโดได้พบกับนางสาวเกรตา ธันเบิร์ก เยาวชนนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดน โดยรับปากว่าหากได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจะมีนโยบายเพิ่มต้นไม้ให้ได้มากถึง 2 พันล้านต้น

ขณะเดียวกันเพจ “Bhante Saranapala” พระสงฆ์ชาวศรีลังกาที่เดินทางไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่ประเทศแคนาดา ได้โพสต์ภาพขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่ ซึ่งเป็นผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการฝึกสมาธิและมีแผนเปิดฝึกที่บ้านของเขา

“ชวน”พร้อมจับเข่าคุยทุกกลุ่มแก้ รธน.เน้นสร้างสรรค์ ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า

People Unity News : “ชวน”พร้อมจับเข่าคุยทุกกลุ่มแก้ รธน.เน้นสร้างสรรค์ ไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า เพื่อตกผลึกความคิด แนะเชิญฝ่ายที่ได้รับผลกระทบร่วมหารือ เพราะทุกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ

วันที่ 29 ต.ค.2562 นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวถึงที่ภาคประชาสังคมจะมายื่นเรื่องต่อสภาเพื่อให้แก้รัฐธรรมนูญว่า ตนยินดีที่จะหารือกับทุกคณะ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ ซึ่งขณะนี้มี 2-3 คณะ ส่วนคณะของนายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี ยังไม่ได้นัดวันที่จะมาพบ เพียงแต่เป็นข่าวเท่านั้น ส่วนกลุ่มอื่นตนนัดไว้สัปดาห์ก่อน แต่ฝ่ายผู้นัดไม่ว่าง แต่ละคนจะได้มารับรู้รับทราบ และหากมีอะไรที่เป็นประโยชน์ก็ยินดีให้ความร่วมมือและรับฟัง ซึ่งตนคิดว่าแต่ละฝ่ายคงมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันได้ในบางเรื่อง เช่น ความคิดเรื่องประชาธิปไตย ก็คงไม่ต่างกันมากนัก ฉะนั้นความคิดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญก็สามารถทำความเข้าใจกันได้ว่าในสภาไปถึงไหนแล้ว เพราะเมื่อเปิดสมัยประชุมมา ญัตติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเข้าสู่สภาเป็นเรื่องแรก ฉะนั้นก็จะได้คุยกันว่าเบื้องต้นขณะนี้เขาพยายามหาทางที่จะวางแนวว่าทำอย่างไรให้รัฐธรรมนูญนี้สามารถแก้ได้ ส่วนแก้อะไรนั้นยังไม่พูดถึง

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้ทุกอย่างมาอยู่ในระบบของสภาเพราะภาคประชาชนไปเคลื่อนไหวข้างนอก นายชวนกล่าวว่า การรณรงค์ข้างนอกเพื่อให้ความรู้กับประชาชนนั้นไม่เป็นไร แต่ต้องให้ความจริงและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนที่ว่าโครงสร้างที่วางไว้คล้ายกับสสร.นั้น ตนคิดว่าต้องคุยกัน รวมถึงฝ่ายที่จะได้รับผลกระทบ เช่น ส.ว. ก็ต้องเชิญมาคุยว่าหากจะแก้ไขปรับปรุงจะกระทบเขาจริงหรือไม่ หรือควรจะมีเงื่อนเวลาอย่างไร ดังนั้นคิดว่าทุกฝ่ายควรจะพูดคุยกัน ซึ่งก็คงไม่ง่ายนักแต่ดีกว่าไม่คุยกัน แม้กระทั่งรัฐบาลเองเพราะทุกฝ่ายก็เป็นส่วนหนึ่งของประเทศนี้เหมือนกัน

เมื่อถามว่าหากเป็นเช่นนี้ใครควรที่จะเป็นแม่งานในการนัดหมายทั้งหมดมาพูดคุยกัน นายชวนกล่าวว่าต้องรอดูคณะกรรมาธิการที่สภาจะตั้งขึ้นมา โดยญัตติที่จะเข้าสภาวาระแรกนั้นจะเป็นแนวทางว่าทำอย่างไรถึงจะสามารถกำหนดแนวทางในการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นไปได้หรือมีประเด็นว่าจะต้องแก้ ส.ส.หรือ ส.ว.อย่างไร

“ผมคิดว่าการคิดอย่างนี้เป็นการคิดในเชิงสร้างสรรค์ แบบไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า เช่น ยกเลิกรัฐธรรมนูญไม่เอานั่นเอานี่ ซึ่งไม่ถึงขนาดนั้นแต่โดยบทรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันทำได้ยาก จึงต้องหาทางว่าจะทำอย่างไรให้สามารถเป็นได้”

เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมาพูดถึง ม.256 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่าย นายชวนกล่าวว่า แล้วแต่คณะกรรมาธิการฯจะหารือกัน ส่วนความเป็นไปได้ที่จะให้ภาคประชาชนเช่นนายโคทมเข้ามาเป็นกรรมาธิการด้วย นายชวนกล่าวว่าแล้วแต่เขาจะตั้งเพราะกรรมาธิการชุดนี้สามารถตั้งคนนอกได้

ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชน ที่ยึดแนวทาง วิชาการนำการเมือง โดยให้กลุ่มนักวิชาการเป็นหัวหอกในการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด เพราะกลุ่มนักวิชาการเป็นกลุ่มที่ไม่มีผลประโยชน์ทางการเมืองแอบแฝง สังคมจะได้ไม่หวาดระแวงว่ามีวาระซ่อนเร้นเพื่อกลุ่มของตัวเอง ซึ่งผิดกับการเคลื่อนไหวของนักการเมือง หรือพรรคการเมือง ที่จะตกเป็นเป้าโจมตีของฝ่ายไม่เห็นด้วยว่าทำเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองเท่านั้น ทำให้ขาดการยอมรับและเสียงสนับสนุนจากสังคมโดยทั่วไป ที่มองภาพนักการเมืองในทางลบ ดังนั้นอยากให้นักการเมืองเคลื่อนไหวเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในเวทีรัฐสภาจะเป็นการเหมาะสมที่สุด โดยการขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กำลังจะตั้งขึ้นในสมัยประชุมสมัยที่จะถึงนี้ เพราะมีสัดส่วน ส.ส.จากทุกพรรคการเมืองเข้าร่วมเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ด้วย ส่วนการเคลื่อนไหวภายนอกสภา ก็ให้เป็นบทบาทของกลุ่มเครือข่ายภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ที่จะต้องเคลื่อนไหวคู่ขนานกับการเคลื่อนไหวในรัฐสภาไปจนประสบผลสำเร็จ

ถ้าให้นักการเมืองหรือพรรคการเมืองตั้งเวทีเคลื่อนไหวในภูมิภาคต่างๆ เหมือนที่ผ่านมา ก็สุ่มเสี่ยงกับการถูกฝ่ายต่อต้านหยิบยกเอาประเด็นบางเรื่องมาเป็นเหยื่อทางการเมือง และขยายผลสร้างแรงต่อต้านขึ้นมาได้ เช่น กรณีวาทกรรม รัฐธรรมนูญเฮงซวยทุกมาตรา หรือการพูดถึงมาตรา1สามารถแก้ไขได้ เหล่านี้เป็นต้น ดังนั้นเพื่อขจัดความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นในสังคม แต่ละฝ่ายควรจะแบ่งบทบาทการเคลื่อนไหวให้สอดคล้องกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนจะดีกว่า เพื่อเป้าหมายที่สูงสุดคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

“จุรินทร์”โชว์ศก.ไทยสร้างสรรค์ เวทีPIMผู้แทนจากม.ชั้นนำทั่วโลก

People Unity : “จุรินทร์” เป็นประธานเปิดงานสัมนา PIM Annual Conference 2019 on Creative Economy เชื่อมั่นเศรษฐกิจสร้างสรรค์จะขยายตัวต่อเนื่องในตลาดโลก พร้อมการแข่งขันที่รุนแรงและไทยคือผู้เล่นสำคัญ

วันที่ 24 ตุลาคม 2562 เวลา 9.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมนา PIM Annual Conference 2019 on Creative Economy โดยหัวข้อสัมมนาเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์นี้มีผู้เข้าร่วมงานสัมมนาจากมหาวิทยาลัยชั้นนําจากทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 23 ถึง 25 ตุลาคม 2562 โดยนายจุรินทร์กล่าวเปิดในเวลา 9.00 น. วันนี้ ที่โรงแรมเพนนินซูล่า

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นสาขาเศรษฐกิจที่มีส่วนในการสร้างเสริมการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในระยะยาว หลอมรวมความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเทคโนโลยี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มที่สูงขึ้นของสินค้าและบริการ ยกระดับค่าจ้าง พัฒนาทักษะแรงงาน เพิ่มเวลาว่างสำหรับพักผ่อน และที่สำคัญที่สุดคือ การขยายตัวและความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากจินตนาการและนวัตกรรมเป็นสิ่งเสริมสร้างเอกลักษณ์และความแปลกใหม่ให้กับสินค้าและบริการ

ในขณะที่เทคโนโลยีช่วยส่งเสริมการเข้าถึงองค์ความรู้ การมีส่วนร่วมทางสังคม และวัฒนธรรม นอกจากนี้ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ในเศรษฐกิจสร้างสรรค์เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์จึงมีส่วนช่วยในการสร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างมากมายให้กับ SMEs ได้อย่างอัตโนมัติ แนวโน้มนี้เป็นที่รับรู้กันทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากการที่ประเทศสำคัญหลายประเทศได้ประกาศตนเองว่าจะเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของโลก

และจากรายงานล่าสุดของ UNCTAD ขนาดตลาดสินค้าเชิงสร้างสรรค์ของโลกขยายตัวขึ้นกว่าเท่าตัว จาก 2.08 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในปี ค.ศ. 2002 เป็น 5.09 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2015 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่สูงกว่าร้อยละ 7 ถึงแม้ว่าโลกจะประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจหลายครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากนี้ ในขณะที่ทวีปยุโรปเป็นผู้ส่งออกสินค้าเชิงสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุด แต่กลุ่มประเทศในเอเชียกำลังมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นโดยแค่จีนประเทศเดียวก็มีอัตราการขยายตัวของการส่งออกสินค้าและบริการเชิงสร้างสรรค์สูงถึงร้อยละ 14 ระหว่างปี พ.ศ. 2002 ถึง 2015 ปรากฏการณ์นี้เครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนว่ากลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของโลกตั้งอยู่ที่เอเชีย

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นในตลาดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของโลก ด้วยมูลค่าถึง 6.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณเกือบสองแสนล้านบาท มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ของไทยสูงเป็นอันดับที่ 8 ของโลก เมื่อเทียบกับประเทศกำลังพัฒนาด้วยกัน และเป็นอันดับที่ 17 เมื่อเทียบกับทุกประเทศในโลก และได้ขยายตัวด้วยอัตราที่ก้าวกระโดดที่ร้อยละ 6.6 ต่อปี ระหว่างปี 2005 และ 2014 และเศรษฐกิจสร้างสรรค์มีสัดส่วนถึงร้อยละ 10-12 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของไทย ที่สำคัญไปกว่านั้น ประเทศไทยของเราเป็นที่รู้จักดีในเวทีโลกถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม

ดังนั้น เศรษฐกิจสร้างสรรค์จึงถือเป็นสาขาเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสำหรับประเทศเป็นอย่างยิ่ง และในการส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประเทศไทยจึงใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาและมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ อาทิ อาหารไทย และหัตถกรรมไทย รวมทั้ง งานศิลปะ สื่อสร้างสรรค์ และงานออกแบบ ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศ โดยสำหรับไทย สินค้าส่งออกเชิงสร้างสรรค์ที่สำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ตกแต่งภายใน และสินค้าแฟชั่น เป็นต้น

“ผมมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดโลกที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ที่การทำให้สินค้าและบริการมีความแปลกใหม่และโดดเด่น ได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดและขยายตัวของธุรกิจ” นายจุรินทร์ กล่าว

“ภท.”ชู”มนัญญา”หญิงแกร่งแบน 3 สารพิษจนสำเร็จ

People Unity : “ภท.”ชู”มนัญญา”หญิงแกร่ง ผนึกกำลัง “กษ.-สธ.” แบน 3 สารพิษจนสำเร็จ “อนุทิน” ขอบคุณทุกฝ่ายให้ความร่วมมือช่วยผลักดันนโยบาย “เศรษฐพงค์” ลั่น “ภูมิใจไทย”จะเดินหน้าทำงานหนักต่อไปเพื่อประโยชน์ปชช.

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้เข้าทำงานมากว่า 4 เดือน เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลเดินหน้าทำงานอย่างหนัก เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ต่างเดินหน้าทำงานในหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับดูแลกรมวิชาการเกษตร ก็ได้ผนึกกำลังร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในการผลักดันแบนด์ 3 สารพิษได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งน.ส.มนัญญา ถือเป็นรัฐมนตรีผู้หญิงเพียงคนเดียวของพรรคภูมิใจไทย ที่ทำงานเดินหน้าต่อสู้ในสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่เรียกได้ว่าเป็นหญิงแกร่งแห่งพรรคภูมิใจไทย สู้ไม่ทอยในเรื่องที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าของพี่น้องประชาชน

พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีในส่วนของกระทรวงคมนาคมที่พรรคภูมิใจไทยกำกับดูแล โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ก็ได้มีการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้า 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ซึ่งเป็นโครงการสำคัญและมีผลต่ออนาคตการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เป็นโครงการที่จะนำการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนมาก และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ประเทศไทย ก้าวไปข้างหน้าได้ ตนจึงอยากให้พี่น้องประชาชาชนได้เห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของพรรคภูมิใจไทย เราสัญญาว่าบุคลากรของพรรคภูมิใจไทยทุกคน จะเดินทำงานหนัก อย่างไม่ย่อท้อ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนต่อไป

“ท่านอนุทิน ฝากขอบคุณทุกคน ทุกหน่วยงาน รวมถึงรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ที่ให้ความร่วมมือในการทำงานผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมและประสบความสำเร็จอย่างดี ซึ่งผลงานที่ออกมา ไม่ใช่เป็นของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แต่ถือเป็นผลงานของรัฐบาลด้วย เพราะทุกนโยบายที่จะสำเร็จได้ ลำพังเพียงพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียวไม่อาจทำให้สำเร็จได้ ต้องได้แรงสนับสนุนจากรัฐบาลด้วย ดังนั้นผลงานที่ออกมาต้องให้เครดิตกับทุกคนในรัฐบาล” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

รมต.ดีอีเอสแถลงชี้แจง เว็บชิมช้อปใช้ถูกก่อกวน

People Unity : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงมีผู้ไม่หวังดีก่อกวนเว็บไซต์ ชิมช้อปใช้ ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และพันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมแถลงกรณีที่ระบบเทคโนโลยีของธนาคารกรุงไทย ที่ใช้ลงทะเบียนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชิมช้อปใช้เฟส 2 หลังจากที่มีผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนระบบลงทะเบียนในช่วงเช้าเวลา 06.00 น.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ผิดปกติ ด้วยระบบที่ธนาคารกรุงไทยมีอยู่ สามารถแสดงให้เห็นตัวเลขและความผิดปกติในช่วงเวลาต่างๆที่เข้ามาในระบบตั้งแต่เช้า ซึ่งธนาคารกรุงไทย ได้ส่งคนเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับ บก.ปอท. เพื่อดำเนินการหาผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชนว่า ขอให้ใช้ช่องทางการลงทะเบียนปกติที่เป็นทางการของธนาคารกรุงไทยและอย่าหลงเชื่อผู้ที่ไม่หวังดี สำหรับผู้ที่ได้ลงทะเบียนในช่องทางที่ไม่ถูกต้องดังกล่าว จะถือว่าเป็นโมฆะทั้งหมดเพื่อให้สิทธิ์กับผู้ที่ลงทะเบียนได้อย่างถูกต้องก่อน

 

“อนุทิน”ปลื้ม! ปิดจ็อบเซ็นสัญญารถไฟ 3 สนามบินสำเร็จ

People Unity : “อนุทิน”ปลื้ม! ปิดจ็อบเซ็นสัญญารถไฟ 3 สนามบินสำเร็จ ช่วยรักษาผลประโยชน์รัฐ ก่อนปล่อยมุก สบายใจไม่ต้องควักค่าทุบโฮปเวลล์เอง ขณะที่ “รฟท.-กลุ่มซีพี” พร้อมพันธมิตรลงนามสัญญาร่วมลงทุนเรียบร้อย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำกับดูแลงานด้านคมนาคม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” ระบุว่า
วันนี้ (24 ต.ค.62) จะมีการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้า 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ซึ่งเป็นโครงการสำคัญและมีผลต่ออนาคตการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี โครงการที่จะนำการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทย จำนวนมาก และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ประเทศไทย ก้าวไปข้างหน้าได้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อครั้งโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด เมื่อ 30 ปีที่แล้ว

ผมมีความสุขที่เป็นฟันเฟืองหนึ่งให้เกิดการลงนามในสัญญาวันนี้ได้ 1.สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั่วโลก ที่เฝ้ารอดูการการเกิดขึ้นของโครงการนี้ 2.รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ได้ ไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท 3.จะมีการลงทุนและการจ้างงานในโครงการนี้ มูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านบาท และ การพัฒนาที่ดิน การก่อสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนการจัดทำโครงการ โรงงานต่างๆ อีกมาก ซึ่งคาดว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ เป็นการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของประชาชน และประเทศไทย 4.โครงการนี้ จะเป็นการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศไทย ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ถ้าจำกันได้ ผมเคยพูดว่าผมจะสนับสนุนให้มีการลงนามในสัญญาโครงการนี้ให้ได้ โดยให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด หากผู้ที่ชนะการประมูล คือ CPH มีปัญหาอุปสรรคตรงไหน อย่างไร ผมจะพยายามแก้ไข และ เคลียร์ให้ได้มากที่สุด ภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งผมได้ทำตามที่พูดไว้แล้ว คือ จะมีการลงนามในสัญญาฉบับนี้ ในวันนี้แล้ว และมั่นใจว่าผมได้รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ไว้ สำคัญที่สุด ทำทุกอย่างให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย

ผมขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี ที่ริเริ่มโครงการนี้ และผู้ปฏิบัติทุกท่านที่ช่วยกันคิดหาแนวทางที่จะทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น และ ขอบคุณ CPH ที่มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาประเทศไทยของเรา

สุดท้าย ที่สบายใจ คือ การลงนามสัญญาวันนี้ ผมไม่ต้องจ่ายเงินส่วนตัวทุบเสาตอม่อโฮปเวลล์ เพราะคู่สัญญาคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย กับ CPH ตกลงกันได้แล้ว ขอบคุณที่สุดคือ ประชาชน และ สื่อมวลชน ที่ช่วยกันตรวจสอบ และสนับสนุน การทำงานของรัฐบาล

รฟท.-กลุ่มซีพีพร้อมพันธมิตรลงนามสัญญาร่วมลงทุนเรียบร้อย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสาม สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) และพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า การลงนามสัญญาครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลอย่างรัดกุมของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และนับเป็นครั้งแรกของรัฐบาลที่ได้ผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP Net Cost) ที่มีมูลค่าสูงถึง 224,544 ล้านบาท โดยที่ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากข้อตกลงสัญญาสัมปทานโดยมีกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 119,425 ล้านบาท (มูลค่าปัจจุบัน) ปรากฎว่ากลุ่มเอกชนเสนอกรอบวงเงินที่รัฐร่วมลงทุน 117,226 ล้านบาท (มูลค่าปัจจุบัน) ส่งผลให้รัฐประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 2,200 ล้านบาท ภายใต้สัญญาร่วมลงทุน 50 ปี อีกทั้งทรัพย์สินทั้งหมดจะเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐเมื่อสิ้นสุดสัญญา

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มีแนวเส้นทางเชื่อมโยงท่าอากาศยานสำคัญของประเทศ โดยเริ่มต้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง วิ่งตรงเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ผ่านสถานีมักกะสัน เลี้ยวเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าต่อไปตามแนวทางรถไฟสายตะวันออก ผ่านแม่น้ำบางปะกง เข้าสู่สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และเข้าสู่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นสถานีสุดท้าย ระยะทางรวม 220 กิโลเมตร (กม.) โดยขบวนรถสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็งสูงเชื่อมสามสนามบิน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2566 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะทำให้เกิดการพัฒนาเมืองโดยรอบสถานี นำความเจริญสู่ชุมชน เกิดการกระจายรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีที่ค้าขาย มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 650,000 ล้านบาท ถือเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทยตามนโยบาย Thailand 4.0 นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดการจ้างงานในช่วงก่อสร้างมากถึง 16,000 อัตรา และการจ้างงานในธุรกิจเกี่ยวเนื่องมากกว่า 100,000 อัตรา ใน 5 ปีข้างหน้า รวมทั้งเปิดโอกาสให้คนไทยได้เรียนรู้วิธีการทำงานในโครงการด้วยเทคโนโลยีสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาสู่การเป็นบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูงและมีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้

Verified by ExactMetrics