วันที่ 31 กรกฎาคม 2025

“สิระ”วิจิกิจฉา!”ธนาธร”นั่ง กมธ.ฐานะคนนอกแต่ลงมติไม่ได้

People Unity : “สิระ”ข้องใจปม”ธนาธร”นั่ง กมธ.ฐานะคนนอกแต่ลงมติไม่ได้ ถือว่าได้ปฎิบัติหน้าที่ กมธ.หรือไม่ หวั่น ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2563 เป็นโฆษะ พร้อมแนะสภาฯสร้างบรรทัดฐาน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ต.ค.2562 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเป็นหนึ่งใน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ในสัดส่วนของพรรคอนาคตใหม่ว่า ตนเข้าใจว่ากรรมาธิการวิสามัญอนุญาตให้เป็นได้ทั้งส.ส. และคนนอก แต่ในกรณีนี้นายธนาธร ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ส.แต่ไปเป็นกรรมาธิการในสัดส่วนคนนอก แต่ลงมติไม่ได้ สามารถเป็นไปได้ทำจริงหรือไม่ เพราะถือว่าการลงมติเป็นหน้าที่ของกรรมาธิการทุกคน

“หากยังให้นายธนาธรปฏิบัติหน้าที่กรรมาธิการในฐานะคนนอก อะไรคือเครื่องมือยืนยันว่านายธนาธรจะไม่ลงมติในที่ประชุม ใครจะมีอำนาจสั่งห้ามนายธนาธรไม่ให้ลงมติได้ และคำถามต่อว่าหากนายธนาธรลงมติดังกล่าว ผลการทำงานของกรรมาธิการชุดนี้จะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 เป็นโฆษะในอนาคตหรือไม่ กรรมาธิการควรหาข้อสรุปในเรื่องนี้”นายสิระ กล่าว

นายสิระ กล่าวต่อว่า ประเด็นของนายธนาธรยังสร้างความข้องใจให้สังคมว่าจริงๆแล้ว บรรทัดฐานในเรื่องนี้ควรข้อสรุปอย่างไร สภาฯชุดนี้ควรไตร่ตรองและสร้างมาตรฐานสำหรับกรณีเช่นนี้ เพื่อนำไปใช้ในอนาคตจะได้ไม่เป็นข้อถกเถียงกันในอนาคตต่อไป

นายสิระ ยังกล่าวต่อว่า ในขณะนี้นายธนาธรจะเป็นผู้ช่วย สส ยังทำไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นหากจะให้เรื่องนี้กระจ่างนายธนาธรควรที่จะลาออกจากการเป็น ส.ส.ดีที่สุด

“จุรินทร์”ยกจีนเป็นต้นแบบแก้จน บุกตลาดขายสินค้าเกษตร

People Unity :  “จุรินทร์”เชื่อมจีนบุกตลาดขายสินค้าเกษตร ทำความสัมพันธ์ให้ความสำคัญ เป็นต้นแบบแก้ความยากจนในไทย

วันที่ 28 ต.ค.2562 เวลา 09.10-9.40 น. ณ ห้องบอลรูม 1 โรงแรมดิเอมเมอรัล-รัชดา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “7 ทศวรรษจีนใหม่  ก้าวต่อไปที่โลกเฝ้ามอง” โดยใช้เวลาร่วมชั่วโมงปาฐกถาพิเศษการพัฒนาจีน แบบอย่างที่โลกเรียนรู้ โดยมีผู้เข้าร่วมฟังจากทั้งสมาคม สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ร่วมกับ อสมท. สถานทูตจีน และผู้สนใจเกี่ยวข้อง

นายจุรินทร์ กล่าวว่า นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งกับการที่สื่อมวลชนไทยและจีนได้ร่วมกันจัดการสัมมนานี้ขึ้นมาในวันนี้  เมื่อพูดถึงความเจริญก้าวหน้า 70 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุกๆด้าน ในระดับที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ โดยความมหัศจรรย์ที่ผมอยากจะพูดถึงในวันนี้คือความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจ ที่จีนได้แสดงให้ชาวโลกเห็น ในห้วง 70 ปีที่ผ่านมา พัฒนาการทางเศรษฐกิจที่มั่นคงของจีนส่งผลให้ชาวจีนมีรายได้เฉลี่ยสูงขึ้นราว 60 เท่า โดยเมื่อ 70 ปีที่แล้ว รายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวจีนอยู่ที่เพียง 49.7 หยวน หรือราว 250 บาท ในขณะที่เมื่อปี 2561 มีจำนวน 28,200 หยวน หรือราว 1.41 แสนบาท และการเติบโตอย่างมั่นคงของรายได้ส่งผลให้อัตราการใช้จ่ายเติบโตขึ้นตามไปด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงกำลังซื้ออันมหาศาล และความต้องการวัตถุดิบ ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน การค้า และการลงทุนอันมหาศาล ที่ช่วยสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก

และที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง คือการลดความยากจน ซึ่งตอนนี้ จีนมีคนจนประมาณต่ำกว่าร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมด นั่นหมายถึงประชากรประมาณ 700 ล้านคนของจีนได้ถูกยกออกจากความยากจน ตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ในวันนี้ประเทศจีนคือขุมพลังทางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าสินค้าอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ เหล็ก ปูนซีเมนต์ ถ่านหิน ยานยนต์ เรือ รถไฟความเร็วสูง หุ่นยนต์ สะพาน อุโมงค์ ถนน เครื่องจักร คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และที่สำคัญคือจีนมีสถิติการสมัครเพื่อจดทะเบียนสิทธิบัตรมากที่สุดในโลก ซึ่งมากกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 1.5 เท่า และปัจจุบันนี้ จีนได้กลายเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ของโลก ทั้งด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงินออนไลน์ อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of things) ปัญญาประดิษฐ์ และบล็อกเชน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้จีนจะยังคงรักษาบทบาทการเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกต่อไปในอนาคต

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามใกล้ชิด คือประเทศจีนทำอย่างไรในการเปลี่ยนแปลงประเทศ จากประเทศยากจนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวเพียงหนึ่งในสามของรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประเทศในแถบทวีปแอฟริกา ให้กลายเป็นขุมพลังทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของโลก และที่สำคัญคือประเทศนี้มีประชากรถึง 1.4 พันล้านคน

1.จีนให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพทางการเมือง 2.การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก 3.เน้นการปฏิรูปจากล่างสู่บน 4.ส่งเสริมอุตสาหกรรม โครงสร้างต่างๆ ในท้องถิ่น การส่งเสริมให้แรงงานมีทักษะอยู่อาศัยและทำงานในท้องถิ่น การลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลในด้านโครงสร้างพื้นฐาน 5.ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลกับเอกชน 6.ในด้านความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ นักลงทุนจีนได้ก้าวออกไปลงทุนทั่วโลก ทั้งนี้ เห็นว่าจีนเน้นเพื่อส่งเสริมการพึ่งพาเศรษฐกิจภายในประเทศ รับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพ ที่เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเดินหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หวังยุติความขัดแย้งสงครามการค้า

สำหรับไทยพวกเราย่อมให้ความสำคัญเรียนรู้จากประสบการณ์ในการพัฒนาประเทศของจีน และสามารถก้าวและเติบโตไปพร้อมกับจีนได้ เราเป็นเอเชียด้วยกัน กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับตลาดจีนเป็นอย่างมาก เพราะจีนเองก็เป็นประเทศคู่ค้าลำดับ 1 ของไทย โดยในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2552 – 2561 มูลค่าการค้าระหว่างไทยและจีนขยายตัวสูงมาก ถึงร้อยละ 10.3 โดยเฉลี่ยต่อปี โดยจีนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 1 ของไทย ครองสัดส่วนการค้าร้อยละ 16 ของการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของไทย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 14 ของจีน ครองสัดส่วนการค้าราวร้อยละ 2.1

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยกับจีน มี 2-3 รูปแบบกลไกแรกคือ JC คณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน (JC เศรษฐกิจไทย-จีน, กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation – MLC) , ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี – เจ้าพระยา – แม่โขง (Ayeyawady – Chao Phraya – Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ใน 3 กรอบความร่วมมือสำคัญเราทำงานร่วมกัน และอีกอันคือ กรอบ FTA อาเซียน-จีน ระหว่างประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจนี้ตนก็เป็นประธานรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ในระหว่างนี้ ก็ได้มีแนวทางและดำเนินการประชุมจะได้จาต่อเนื่อง

ตนได้จัดคณะเดินทางไปเยือนนครหนานหนิง ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน 2562 และได้พบหารือกับรองนายกรัฐมนตรี หาน เจิ้ง และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ ประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (นายลู่ ซิน เซ่อ) ในประเด็นความร่วมมือรอบด้าน โดยเน้นสินค้าเกษตร และมีการลงนาม MOU สินค้ามันสำปะหลังด้วย รวมถึงได้พบหารือกับผู้แทนภาครัฐ/เอกชนไทย-จีน ในกลุ่มยางพารา มันสำปะหลัง และผลไม้ และเร็วๆนี้ ผมจะพาคณะเดินทางไปยังนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อเข้าร่วมงาน China International Import Expo 2019 หรือ CIIE 2019 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดี ประเทศไทยให้ความสำคัญกับจีน และสานต่อความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีน ตลอดจนขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ที่มีมาอย่างยาวนานในอดีตให้พัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต

ในช่วงหนึ่งนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในสินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรแปรรูปไทยเรามีเอ็มโอยูหรือข้อตกลง อยู่กับจีนในเรื่องของข้าวกับยางพาราซึ่งในเรื่องของข้าวนั้นเราได้ทำเอ็มโออยู่กับจีนที่จะจีนช่วยเราซื้อข้าวเราประมาณ 2,000,000 ตันซึ่งขณะนี้เข้าใจว่ายังขาดอยู่อีก 1,300,000 ตัน รวมทั้งยาพาราเรามีเอ็มโออยู่กับจีนอีก 2 แสนตันจีนซื้อแล้ว 16,800 ตันยังขาดอยู่ส่วนหนึ่ง ทั้งนี้เรื่องนี้ตนก็ได้ประสานงานผ่านท่านทูตจีนไปแล้วรวมทั้งได้ฝากท่านรองฯหานเจิ้งของจีนไปด้วย ตนในฐานะเซลล์แมนประเทศก็จึงขอทำหน้าที่ไปด้วย

และ ในฐานะกำกับกระทรวงพาณิชย์ ไทยเรายังให้ความสำคัญกับการใช้กลไกทูตพาณิชย์ทั่วโลกในการทำหน้าที่เซลล์แมนประเทศ หรือในการเจาะลึกรายบุคคลต้องยอมรับว่าประเทศจีนมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจกระจายไปทั่วทุกมณฑลมีความต้องการใช้สินค้าเกษตรอาหารอะไรรูปและสินค้าจากประเทศไทย จึงเป็นจุดสำคัญในการที่ทูตพาณิชย์ไทยต้องทำงานหนักในการร่วมมือแต่ละมณฑลเพื่อส่งสินค้าไปจีนมากขึ้นลดการขาดดุลการค้าลงมาให้แคบลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมรับหน้าที่สิ่งที่ผมตั้งเป็นนวัตกรรมใหม่ในทางเศรษฐกิจของกระทรวงก็คือเราจะตั้ง กรอ.พาณิชย์เพื่อเป็นเวทีสำหรับความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับผู้ส่งออกและพ่อค้าเช่นเดียวกันที่จีนทำอยู่และประสบความสำเร็จคือการให้ความสำคัญทำงานร่วมกันระหว่างรัฐกับเอกชน

อย่างไรก็ตามการทำงานนั้น ตนเพิ่งประกาศไปว่าเราต้องทำงานเชิงรุกไปทุกตลาดทั่วโลก ก็เพิ่งประกาศไป เรากับจีนต่างกันที่รูปแบบการปกครองแต่เงื่อนไขความสำเร็จคือหลักใหญ่ต้องใช้หลักการบริหารรัฐกิจที่ชัดเจนจะทำให้เดินหน้าไปได้ เช่นที่ประธานาธิบดีสีได้ทำก็เป็นแบบอย่างก็เป็นเรื่องดี

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า เวลา 70 ปี เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันยาวนานนับพันปีของอาณาจักรจีนที่มีเรื่องราวมากมาย  แต่ 70 ปีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนก็เป็นกรณีศึกษาของโลกยุคปัจจุบัน  และปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอิทธิพลต่อโลกในอนาคต  ดังนั้นการสัมมนาเรื่อง “ 7 ทศวรรษจีนใหม่ ก้าวต่อไปที่โลกเฝ้ามอง” ที่ สมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีน ร่วมกับ อสมท. จัดในวันนี้ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านในการนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาด้านต่างๆในอนาคต

“บิ๊กตู่”ยกคำพระสอนใช้สติสัมปชัญญะจัดการกับเฟคนิวส์

People Unity News : “บิ๊กตู่”ยกคำพระสอนใช้สติสัมปชัญญะจัดการกับเฟคนิวส์ พร้อมขอให้ประชาชนช่วยกันแจ้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ปัดตอบไปชี้แจง “เสรีพิศุทธ์” หรือไม่ “ชวน”แนะควรให้เกียรติคนที่ถูกเชิญมาชี้แจง

วันที่ 29 ต.ค.2562 เมื่อเวลา 14.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti Fake News Center)ว่า ตนได้ทำความเข้าใจไปแล้ว ถึงศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเฟคนิวส์ หรืออะไรต่างๆ วันนี้ขอให้ประชาชนช่วยกันแจ้งเข้ามา เพื่อที่จะได้สอบสวน สืบสวน หาต้นตอ เพื่อจะได้แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทางโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบระยะยาวต่อไป ฉะนั้น สติมาปัญญาเกิด พระท่านว่าไว้อยู่แล้ว สติเตลิดก็ไม่เกิดปัญญา เพราะฉะนั้นต้องตั้งสติให้ดี

ส่วนกรณีที่คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช เป็นประธาน ออกหนังสือเชิญไปชี้แจงกรณีเสนอร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวและเดินออกจากการให้สัมภาษณ์ไปทันที

นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ยอมรับว่าได้ส่งหนังสือดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ไปยังคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวแล้ว ดังนั้นตนจะพูดก่อนคงไม่ดี เพราะเขาอาจจะยังไม่เห็นหนังสือ

“ชวน”แนะควรให้เกียรติคนที่ถูกเชิญมาชี้แจง

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ตนสนับสนุนให้รัฐบาลให้ความร่วมมือในการทำงานของกมธ. แต่การเชิญนั้นผู้เชิญต้องมีวุฒิภาวะด้วย รวมถึงเกียรติบุคคลที่ชี้แจง ไม่สามารถข่มขู่ คุกคามใดๆได้ ทั้งนี้ต้องยึดกรอบตามกฎหมาย คือ ให้ความเห็น ให้ข้อเท็จจริง รวมถึงอยู่ภายใต้กรอบอำนาจของตนเอง

“กมธ.สามารถเชิญบุคคลชี้แจงได้ แต่ต้องเป็นไปใต้กรอบกฎหมาย และอำนาจ ทั้งนี้ผมเคยบอก พล.อ.ประยุทธ์ แล้วว่าหากมีอะไรขอให้มาสภา เพราะเป็นระบบที่ต้องเคารพ แต่หากกมธ.เชิญในประเด็นที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่ แต่ไปเชิญเขามาชี้แจงไม่ได้ เพราะกมธ.แต่ละชุดกำหนดบทบาทไว้ตามกฎหมายที่ชัดเจน” นายชวน กล่าว

รมต.ดีอีเอสแถลงชี้แจง เว็บชิมช้อปใช้ถูกก่อกวน

People Unity : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงมีผู้ไม่หวังดีก่อกวนเว็บไซต์ ชิมช้อปใช้ ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ

วันที่ 25 ต.ค.2562 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และพันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมแถลงกรณีที่ระบบเทคโนโลยีของธนาคารกรุงไทย ที่ใช้ลงทะเบียนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชิมช้อปใช้เฟส 2 หลังจากที่มีผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนระบบลงทะเบียนในช่วงเช้าเวลา 06.00 น.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส กล่าวว่า ปฏิบัติการที่ผิดปกติ ด้วยระบบที่ธนาคารกรุงไทยมีอยู่ สามารถแสดงให้เห็นตัวเลขและความผิดปกติในช่วงเวลาต่างๆที่เข้ามาในระบบตั้งแต่เช้า ซึ่งธนาคารกรุงไทย ได้ส่งคนเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับ บก.ปอท. เพื่อดำเนินการหาผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชนว่า ขอให้ใช้ช่องทางการลงทะเบียนปกติที่เป็นทางการของธนาคารกรุงไทยและอย่าหลงเชื่อผู้ที่ไม่หวังดี สำหรับผู้ที่ได้ลงทะเบียนในช่องทางที่ไม่ถูกต้องดังกล่าว จะถือว่าเป็นโมฆะทั้งหมดเพื่อให้สิทธิ์กับผู้ที่ลงทะเบียนได้อย่างถูกต้องก่อน

 

“เพื่อไทย”จึ้รัฐเร่งเจรจาสหรัฐฯก่อนถูกตัด GSP

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

People Unity News : “เพื่อไทย”จึ้รัฐเร่งเจรจาสหรัฐฯก่อนถูกตัด GSP แนะเตรียมหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการส่งออกที่จะได้รับผลกระทบด้านภาษี

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ที่พรรคเพื่อไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายศราวุธ เพชรพนมพร รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวกรณีที่สหรัฐฯ เตรียมระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรที่ประเทศพัฒนาแล้วให้กับประเทศกำลังพัฒนาและ ด้อยพัฒนา หรือ GSP กับประเทศไทย

นายศราวุธ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า คณะกรรมาธิการการต่างประเทศฯ จะนำเรื่องที่ไทยจะถูกสหรัฐตัดสิทธิ GSP หารือว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าการที่ไทยถูกตัดสิทธิ เพราะโตเร็วเกินไป มีการพัฒนาสูงนั้น เห็นว่าไม่น่าจะใช่เหตุผลที่ถูกต้อง เพราะหากมองตามข้อเท็จจริง จะพบว่าประเทศที่จะได้รับสิทธิ GSP จะต้องมีรายได้ต่อหัวไม่เกิน 12,476 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี ซึ่งไทยมีรายได้ต่อหัวของคนไทยอยู่ที่ 7,000 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี รวมถึงต้องพิจารณาว่าประเทศไทยแก้ไขปัญหาเรื่องแรงงานได้ตรงตามมาตรฐานสากลแล้วหรือไม่ ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ยังเหลืออีก 6 เดือนก่อนที่จะถูกตัดสิทธิ รัฐบาลต้องเดินหน้าเจรจากับสหรัฐฯ เพราะหลายประเทศที่ถูกตัดสิทธิ GSP ก็เดินหน้าเจรจาสำเร็จมาหลายประเทศแล้ว ขณะเดียวกันรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการส่งออกที่จะได้รับผลกระทบด้านภาษี ทั้งนี้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศฯ จะเชิญกรมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ มาหารือเพื่อหามาตรการเยียวยากลุ่มผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบครั้งนี้

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชน และควรหาทางเจรจากับสหรัฐฯ เพื่อขอคืนสิทธิ GSP เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหลายประเทศก็เคยเจรจากับสหรัฐฯ จนได้รับสิทธิคืน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลไม่ควรตีกิน และเป็นสิทธิอันชอบธรรมของนายกรัฐมนตรีที่จะให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นว่าประเทศไทยไม่มีความจำเป็นต้องถูกตัดสิทธิ GSP รัฐบาลไม่ควรปัดความรับผิดชอบ เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนและผู้ประกอบการ

“อนุทิน”ปลื้ม! ปิดจ็อบเซ็นสัญญารถไฟ 3 สนามบินสำเร็จ

People Unity : “อนุทิน”ปลื้ม! ปิดจ็อบเซ็นสัญญารถไฟ 3 สนามบินสำเร็จ ช่วยรักษาผลประโยชน์รัฐ ก่อนปล่อยมุก สบายใจไม่ต้องควักค่าทุบโฮปเวลล์เอง ขณะที่ “รฟท.-กลุ่มซีพี” พร้อมพันธมิตรลงนามสัญญาร่วมลงทุนเรียบร้อย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกำกับดูแลงานด้านคมนาคม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” ระบุว่า
วันนี้ (24 ต.ค.62) จะมีการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้า 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา ซึ่งเป็นโครงการสำคัญและมีผลต่ออนาคตการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี โครงการที่จะนำการลงทุนเข้าสู่ประเทศไทย จำนวนมาก และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ประเทศไทย ก้าวไปข้างหน้าได้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อครั้งโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด เมื่อ 30 ปีที่แล้ว

ผมมีความสุขที่เป็นฟันเฟืองหนึ่งให้เกิดการลงนามในสัญญาวันนี้ได้ 1.สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั่วโลก ที่เฝ้ารอดูการการเกิดขึ้นของโครงการนี้ 2.รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ได้ ไม่น้อยกว่า 50,000 ล้านบาท 3.จะมีการลงทุนและการจ้างงานในโครงการนี้ มูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านบาท และ การพัฒนาที่ดิน การก่อสร้างต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนการจัดทำโครงการ โรงงานต่างๆ อีกมาก ซึ่งคาดว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ เป็นการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาอันดับหนึ่งของประชาชน และประเทศไทย 4.โครงการนี้ จะเป็นการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศไทย ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ถ้าจำกันได้ ผมเคยพูดว่าผมจะสนับสนุนให้มีการลงนามในสัญญาโครงการนี้ให้ได้ โดยให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด หากผู้ที่ชนะการประมูล คือ CPH มีปัญหาอุปสรรคตรงไหน อย่างไร ผมจะพยายามแก้ไข และ เคลียร์ให้ได้มากที่สุด ภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งผมได้ทำตามที่พูดไว้แล้ว คือ จะมีการลงนามในสัญญาฉบับนี้ ในวันนี้แล้ว และมั่นใจว่าผมได้รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ไว้ สำคัญที่สุด ทำทุกอย่างให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย

ผมขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี ที่ริเริ่มโครงการนี้ และผู้ปฏิบัติทุกท่านที่ช่วยกันคิดหาแนวทางที่จะทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น และ ขอบคุณ CPH ที่มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาประเทศไทยของเรา

สุดท้าย ที่สบายใจ คือ การลงนามสัญญาวันนี้ ผมไม่ต้องจ่ายเงินส่วนตัวทุบเสาตอม่อโฮปเวลล์ เพราะคู่สัญญาคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย กับ CPH ตกลงกันได้แล้ว ขอบคุณที่สุดคือ ประชาชน และ สื่อมวลชน ที่ช่วยกันตรวจสอบ และสนับสนุน การทำงานของรัฐบาล

รฟท.-กลุ่มซีพีพร้อมพันธมิตรลงนามสัญญาร่วมลงทุนเรียบร้อย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสาม สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร) และพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก การรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า การลงนามสัญญาครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลอย่างรัดกุมของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และนับเป็นครั้งแรกของรัฐบาลที่ได้ผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP Net Cost) ที่มีมูลค่าสูงถึง 224,544 ล้านบาท โดยที่ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุดจากข้อตกลงสัญญาสัมปทานโดยมีกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 119,425 ล้านบาท (มูลค่าปัจจุบัน) ปรากฎว่ากลุ่มเอกชนเสนอกรอบวงเงินที่รัฐร่วมลงทุน 117,226 ล้านบาท (มูลค่าปัจจุบัน) ส่งผลให้รัฐประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 2,200 ล้านบาท ภายใต้สัญญาร่วมลงทุน 50 ปี อีกทั้งทรัพย์สินทั้งหมดจะเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐเมื่อสิ้นสุดสัญญา

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน มีแนวเส้นทางเชื่อมโยงท่าอากาศยานสำคัญของประเทศ โดยเริ่มต้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง วิ่งตรงเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ผ่านสถานีมักกะสัน เลี้ยวเข้าสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าต่อไปตามแนวทางรถไฟสายตะวันออก ผ่านแม่น้ำบางปะกง เข้าสู่สถานีฉะเชิงเทรา สถานีชลบุรี สถานีศรีราชา สถานีพัทยา และเข้าสู่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นสถานีสุดท้าย ระยะทางรวม 220 กิโลเมตร (กม.) โดยขบวนรถสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็งสูงเชื่อมสามสนามบิน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2566 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะทำให้เกิดการพัฒนาเมืองโดยรอบสถานี นำความเจริญสู่ชุมชน เกิดการกระจายรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีที่ค้าขาย มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 650,000 ล้านบาท ถือเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจไทยตามนโยบาย Thailand 4.0 นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดการจ้างงานในช่วงก่อสร้างมากถึง 16,000 อัตรา และการจ้างงานในธุรกิจเกี่ยวเนื่องมากกว่า 100,000 อัตรา ใน 5 ปีข้างหน้า รวมทั้งเปิดโอกาสให้คนไทยได้เรียนรู้วิธีการทำงานในโครงการด้วยเทคโนโลยีสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาสู่การเป็นบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูงและมีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้

ได้ทั้งบุญได้ทั้งสุขภาพ! “สาธิต”เข้าวัดทอดกฐิน ผุด”อสม.ชวนขยับ”รณรงค์ออกกำลังกาย

People Unity : ได้ทั้งบุญได้ทั้งสุขภาพ! “สาธิต”เข้าวัดทอดกฐิน ผุด”อสม.ชวนขยับ”รณรงค์ออกกำลังกาย 1 ต่อ 10 ครอบครัว สร้างเสริมสุขภาพ ลดโรค ชะลอความแก่ ยืดอายุให้ยืนยาว

วันที่ 20 ตุลาคม 2562 ที่วัดสุวรรณาราม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานและมอบประกาศเกียรติบัตรแก่ อสม.อำเภอพุทธมณฑลที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ว่า จากสถิติกรมอนามัยพบคนไทยโดยเฉลี่ยมีพฤติกรรมเนือยนิ่งที่ไม่รวมการนอนสูงถึงเกือบ 14 ชั่วโมงต่อวัน เช่น การนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ การใช้คอมพิวเตอร์ การนั่งคุยกับเพื่อน การนั่งหรือนอนดูโทรทัศน์ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีน้ำหนักเกินและเกิดโรคอ้วน ทำให้เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และมะเร็งบางชนิด ดังนั้นหากส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางกายอย่างจริงจังจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ถึง 11,129 รายต่อปี และลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลได้ถึง 5,977 ล้านบาท

ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า โครงการ “อสม.ชวนขยับ” ให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 1 คนรับผิดชอบชวนคนมาร่วมออกกำลังกาย 10 ครอบครัว เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนใส่ใจดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองในรูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมแต่ละวัยโดยวิธีง่าย เช่น เดิน วิ่ง รำไทเก็ก หรือ คีตะมวยไทย เป็นต้น อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้ง ๆ ละ 30 นาที

“ผมเชื่อว่าการออกกำลังกายเป็นสิ่งดีจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกในเด็ก รักษาความแข็งแรงของกระดูกในวัยรุ่นที่กำลังเจริญเติบโต ชะลอความเสื่อมของกระดูกในช่วงวัยสูงอายุ อีกทั้งยังช่วยในการย่อยและดูดซึมอาหาร ลดท้องอืดท้องเฟ้อ ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดความอ้วน มีสมาธิในการทำงานดีขึ้น ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า ลดความเครียด นอนหลับได้ดี ชะลอความแก่ ยืดอายุให้ยืนยาวด้วย” ดร.สาธิตกล่าว

“ไพศาล” เชียร์สุดลิ่ม! แบน 3 สารพิษ ยุติอาชญากรรมแผ่นดิน

People Unity : “ไพศาล” เชียร์สุดลิ่ม! แบน 3 สารพิษ ยุติอาชญากรรมแผ่นดิน ก้าวต่อไปคือเสรีกัญชา

วันที่ 22 ต.ค.2562 นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กPaisal Puechmongkol ระบุว่า..เป็นความถูกต้องในการบริหารบ้านเมือง และเป็นการยุติอาชญากรรมแผ่นดินที่สังหารผลาญ ชีวิตและเป็นอันตรายต่อประชาชนจำนวนมากมาช้านานแล้ว

ขอชื่นชมความร่วมมือร่วมใจความสามัคคีของทุกหมู่เหล่า ที่ผลักดันจนเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อทุกคนตื่นขึ้นแล้ว ก็ไม่มีพลังอำนาจใดมาต้านทานได้ จังหวะก้าวต่อไปคือ การให้เสรีในการปลูกและใช้กัญชาในการรักษาความเจ็บป่วย ของประชาชน โดยไม่ให้มีการผูกขาดแก่ต่างชาติหรือเจ้าสัว หรือหน่วยงานของรัฐหน่วยใดหน่วยหนึ่ง

พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงพระกรุณาประทานประธานสภาสตรีแห่งชาติ นำผ้าพระกฐินถวายแด่พระสงฆ์วัดโนนสว่างอุดรธานี

People Unity : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงพระกรุณาประทานประธานสภาสตรีแห่งชาติ นำผ้าพระกฐิน (จุลกฐิน) ถวายแด่พระสงฆ์วัดโนนสว่าง ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี

วันที่ 19 ตุลาคม 2562 เวลา16.00 น. ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน เป็นประธานในพิธีเพื่อน้อมนำผ้าพระกฐินไปถวายแต่พระสงฆ์ที่จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ ชุมนุมสงฆ์วัดโนนสว่าง ตำบลหมากหญ้ อำภอหนองวัวยอ จังหวัดอุดรธานี เนื่องในโอกาสพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงพระกรุณาประทานผ้าพระกฐิน (จุลกฐิน) ถวายแด่พระสงฆ์วัดโนนสว่าง ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี เพื่อน้อมนำไปถวายแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษาถ้วนไตรมาส

โดยมี นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และที่ปรึกษาประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน คณะกรรมการ อำนวยการ คณะกรรมการบริหาร สภาสตรีแห่งชาติและองค์กรสมาชิก สภาสตรีแห่งชาติฯจังหวัดอุดรธานี ผู้บริหารจากกรมพัฒนาชุมชน พัฒนาการจังหวัดอุดรธานี และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดอุดรธานี เข้าร่วมพิธี ณ วัดโนนสว่าง ตำบลหมากหญ้า อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี โดยมียอดเงินบริจาคร่วมทำบุญครั้งนี้ ทั้งสิ้น 3,333,333.- บาท

วัดโนนสว่าง เดิมเป็นสำนักสงฆ์มีที่ดินจำนวน 17 ไร่ 2 งาน 90 ตารางวา ถวายโดย นายยอด เชยงูเหลือม ต่อมาได้รับอนุญาติให้สร้างวัดเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2531 เดิมชื่อว่าวัดศรีสว่าง ต่อมาเพื่อปฏิบัติตามนโยบายของคณะสงฆ์ที่ต้องการให้ชื่อวัดมีชื่อเดียวกันกับหมู่บ้าน จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ตามชื่อหมู่บ้านว่า วัดโนนสว่าง ต่อมาเมื่อภายหลังเจ้าอาวาสรูปแรกคือ พระครูพุทธศาสโนวาท (ชาลี ถาวโร) ได้มรณภาพลง ชาวบ้านโนนสว่าง จึงพร้อมใจกันอาราธนา พระอาจารย์เจริญ ฐานยุตฺโต โดยได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 1 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2532

ต่อมาภายหลังได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2539 โดยได้ทำการปักหมายเขต และมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไปเล่ม 113 ตอนที่ 42 ง กำหนดเขตกว้าง 16 เมตร ยาว 28 เมตร เป็นที่เรียบร้อย ต่อมาพระครูพัฒน์วิทยาคม ได้ทำการก่อสร้างศาสนวัตถุอีกหลายอย่าง เป็นต้นว่า ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ จำนวน 1 หลัง สร้างหอระฆังจำนวน 1 หลัง สร้างศาลาปฏิบัติธรรม จำนวน 1 หลัง สร้างกุฎีที่พักสงฆ์ จำนวน 14 หลัง สร้างศาลาหอฉันภัตตาหารพระภิกษุสามเณร จำนวน 1 หลัง ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2548 พระครูพิพัฒน์วิทยาคม ได้ซื้อที่ดินขยายเนื้อที่วัดออกไปอีกจำนวน 46 ไร่ รวมเนื้อที่ทั้งหมดในวัด 66 ไร่ นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริโสภาพรรณวดี เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานพิธีเททองหล่อองค์พระประธานวัดโนนสว่าง (พระศรีรัตนสักยมุณีหรือหลวงพ่อบุษราคัม เป็นพระเนื้อสัมฤทธ์ทรงเครื่องกษัตริย์) และวัดนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านการปลุกเสกเครื่องรางของขลัง และพิธีกรรมทางศาสนา

“เสรีพิศุทธ์”แนะสร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้เกษตรกร

People Unity : “เสรีพิศุทธ์”แนะสร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้เกษตรกร ช่วยให้พ่อค้าแม่ขาย มีรายได้ลืมตาอ้าปากได้พร้อมฝากลงคะแนนเสียง “ลาวัลย์”เบอร์ 4 ของพรรคเสรีรวมไทย เลือกตั้งซ่อมส.ส.นครปฐม เขต 5  

วันที่ 21 ต.ค.2562 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้ความเห็นว่า การสร้างอาชีพเสริมให้กับพี่น้องชาวนครปฐม เป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากจังหวัดนครปฐมเป็นดินแดนของภาคเกษตรกรรม โรงงาน พรรคเสรีรวมไทย มองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้มาเสมอ เรามีความเชื่อว่า การหารายได้เสริมจากพี่น้องชาวเกษตรกรจะช่วยให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง ลืมตาอ้าปากได้

พรรคเสรีรวมไทย มีโอกาส พบพี่น้องช่วงที่ผ่านมา หลายท่านบอกว่าต้องการมีรายได้พิเศษ เพื่อมาจุนเจือครอบครัว เราจึงเห็นว่าเราหาความร่วมมือ จากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อหาอาชีพเสริมให้กับ พี่น้องเพื่อเป็นหลักค้ำประกันให้กับพี่น้อง และครอบครัวกับทุกท่าน สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ทางพรรคเสรีรวมไทย คิดว่าจะเข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ ได้อย่างแน่นอน

“การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ พรรคเสรีรวมไทย มีความจริงใจ ที่จะเข้ามาช่วยพี่น้อง ชาวเกษตรกร พ่อค้าแม่ขาย ให้มีโอกาสเห็นช่องทางทำมาหากิน   อย่าลืมนะครับ 23ตุลาคมนี้ เดินเข้าคูหาไปลงคะแนนให้กับส.ส.ในดวงใจของท่าน  ผมขอฝากคุณลาวัลย์ เบอร์ 4 คนเดียวเท่านั้นครับ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวด้วยน้ำเสียง หนักแน่น

 

Verified by ExactMetrics