วันที่ 17 พฤษภาคม 2024

นายกฯ สั่ง สตช.เร่งจับเครือข่ายกลุ่มทุนจีนสีเทา

People Unity News : 27 ธันวาคม 2565 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ สั่ง สตช.เร่งจับเครือข่ายกลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อมรายงานความคืบหน้าทุก 15 วัน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรีว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการในกรณีการตรวจและจับกุมเครือข่ายกลุ่มทุนต่างชาติที่ประกอบธุรกิจผิดกฎหมายที่เรียกว่า คดีเครือข่ายธุรกิจกลุ่มทุนจีนสีเทา โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งตรวจสอบและดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีนตู้ห่าวและคณะ ซึ่งมีพฤติกรรมความผิดอาชญากรรมข้ามชาติ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งนี้ ได้ให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายรายงานผลความคืบหน้าและอุปสรรคให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก 15 วันด้วย

Advertisement

“ยุทธพล”แถลงจับลักลอบ”นาก-ชะนีมือขาว”พรากจากศพแม่

People Unity News : “ยุทธพล”แถลงข่าว”หน่วยพญาเสือ”จับกุมดำเนินคดีเครือข่ายลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองรายใหญ่ พบ “นาก-ชะนีมือขาว” ถูกพรากจากศพแม่

วันที่ 31 ตุลาคม​ 2562​ นายยุทธพล อังกินันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวการจับกุม-ดำเนินคดี ผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองในภาคใต้ โดยหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า “หน่วยพญาเสือ” ปฏิบัติการร่วมกับสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปราบที่ 4 (ภาคใต้) และอีกหลายหน่วยงาน ได้ของกลางเป็นนากเล็กเล็บสั้นจำนวน 17 ตัว ซากนากเล็กเล็บสั้น 1 ตัว นาอาย 1 ตัว และชะนีมือขาว 1 ตัว

จากกรณีที่มีการโพสต์ภาพและข้อความ เสนอขายนากเล็กเล็บสั้น และ ชะนีมือขาว บนเฟซบุ๊กหน่วยพญาเสือ จึงได้ลงพื้นที่จ.สงขลาและพัทลุง เพื่อสืบหาข้อมูล ติดต่อขอซื้อสัตว์ป่าจนทราบที่อยู่อาศัยของ นายวุฒินันต์ แสงแก้ว อายุ 27 ปี ผู้ต้องสงสัย จึงได้สนธิกำลังเข้าจับกุม โดนระหว่างการจับกุม นายวุฒินันต์ได้รับโทรศัพท์จากนาย เอกรัฐ วงษ์สวัสดิ์ อายุ 62 ปี ตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ สั่งให้นำนากไปส่งจำนวน 10 ตัว จึงขยายผลจับกุมเพิ่ม และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัทลุง ดำเนินคดีต่อไป

นายยุทธพล กล่าวว่า ตนขอวิงวอนทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย โดยเฉพาะผู้ซื้อ ขอให้ใช้วิจารณญานและศึกษาข้อมูลและกฏหมายให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะมีโทษปรับหลักล้านบาท อย่าเพียงแค่เสพสื่อทางโซเชียลมีเดีย แล้วเห็นความน่ารักของสัตว์ป่าจนอยากครอบครองโดยไม่สนใจข้อกฏหมาย เพราะส่วนใหญ่สัตว์ป่าที่ถูกนำมาเข้าสู่กระบวนการค้าสัตว์ป่า ล้วนถูกพรากมาโดยการยิงแม่ให้ตาย แล้วได้ลูกมาขายต่อ ส่วนด้านผู้ค้าที่ทำผิดกฏหมายมาหลายครั้งหลายคราว ต่อไปจะไม่มีการผ่อนผันและจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด โดยระหว่างนี้ สัตว์ของกลาง จะถูกนำไปอนุบาลรักษาสุขภาพ อย่างดีที่สุด เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรง รอวันปล่อยคืนสู่ป่าที่เป็นบ้านที่แท้จริง ตามนโยบายของ รมว.ทส.ต่อไป

4-5พ.ย.เป็นวันหยุดพิเศษ! สธ.กทม.และนนทบุรีไม่หยุด

People Unity News : 4-5พ.ย.เป็นวันหยุดพิเศษ! สธ.กทม.และนนทบุรีไม่หยุด เปิดบริการปกติลดผลกระทบต่อผู้รับบริการ

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

วันหยุด เราไม่หยุด

ตามที่ได้มีการประกาศให้วันที่ 4-5 พฤศจิกายน เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ สำหรับส่วนราชการที่อยู่ในกทม.และนนทบุรี นั้น

กระทรวงสาธารณสุข ขอแจ้งให้ทราบว่า เพื่อไม่ให้กระทบต่องานบริการประชาชน และผู้ป่วย สถานบริการทุกแห่งในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ กทม.และนนทบุรี จะเปิดให้บริการตามปกติ ทั้งวันที่ 4-5 พฤศจิกายน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการประชาชน และผู้ป่วยที่ได้นัดหมายไว้แล้ว

ผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน ผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยนัดหมายผ่าตัด นัดหมายตรวจพิเศษ สามารถเข้ารับบริการได้ตามปกติ

อ่านแล้วช่วยแชร์ให้ทราบโดยทั่วกันนะครับ

ขณะนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ วันที่ 4- 5 พฤศจิกายน 2562 ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ที่ อิมแพค เมืองทอง จังหวัดนนทบุรี กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สถานบริการในสังกัด ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดนนทบุรี ยังคงเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ ในช่วงวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการประชาชน และเกิดความเสียหายต่อทางราชการ

โดยผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน ผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยนัดหมายผ่าตัด นัดหมายตรวจพิเศษ สามารถเข้ารับบริการได้ตามปกติ

รุกจัดการเว็บพนันเด็ดขาด ตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 31 มีนาคม 2567 “เกณิกา” เผย ผลงานรัฐบาล โดยกระทรวงดีอี รุกจัดการเว็บพนันเด็ดขาด 5 เดือน ปิดไปกว่า 60,000 เดินหน้าต่อเนื่องตามนโยบาย รบ. ชี้ เป็นอาญชากรรมทางเศรษฐกิจต้องตัดวงจรให้เด็ดขาด

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายเดินหน้าปราบเว็บพนันออนไลน์ โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตระหนักว่า เว็บพนันในปัจจุบันเข้าข่ายเป็นอาญชากรรมทางเศรษฐกิจมีความผิดตามกฎหมาย หลอกลวง มีการโกง หลอกเอาข้อมูลไปขาย โดยเฉพาะมีเยาวชนจำนวนมากหลงเชื่อ เข้าไปเล่นเว็บพนันเหล่านี้ สร้างความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นวงกว้าง รัฐบาลจึงเดินหน้าปราบปรามเว็บพนันอย่างต่อเนื่อง เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมออนไลน์ไม่ให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง

น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า กระทรวงดีอีได้ให้ความสำคัญในการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้ง และปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยมุ่งระงับข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมาะสม ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 5 มีนาคม 2567 ทำการระงับข้อมูลที่ไม่เหมาะสมทุกประเภทไปแล้วจำนวน 60,681 รายการ โดยปิดกั้นเว็บไซต์เกี่ยวกับพนันออนไลน์ จำนวน 25,571 รายการ เพิ่มขึ้น 13 เท่าตัวจาก 2,059 เว็บ ในช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ทั้งนี้ความผิด พ.ร.บ.การพนัน มีดังนี้– ผู้จัดให้เล่น – มาตรา 5 จำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ– ผู้เล่น/ประกาศชักชวน – มาตรา 12 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลห่วงใยพี่น้องประชาชน ขออย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อให้เข้าลงทุนหรีอทำเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ เพราะจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และอาจถูกหลอกให้โหลดแอปดูดเงินมาติดตั้งในเครื่อง หรือหลอกลวงขโมยข้อมูลสำคัญไปใช้ทำผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายให้กับตนเองและครอบครัว

Advertisement

สธ.ส่งแพทย์จบใหม่เกือบ 1,000 คน กระจายทำงานในชนบทห่างไกล ดูแลสุขภาพประชาชน

People Unity : กระทรวงสาธารณสุขส่งแพทย์จบใหม่ เกือบ 1,000 คน กระจายทำงานในพื้นที่ชนบทห่างไกลทั่วประเทศตามภูมิลำเนา ดูแลสุขภาพประชาชน แก้ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ รองรับการขยายบริการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข

เมื่อวานนี้ (14 พฤษภาคม 2562) ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบสัมฤทธิบัตรบัณฑิตแพทย์โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ประจำปีการศึกษา 2561 โดยมีบัณฑิตแพทย์ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคู่ความร่วมมือ จำนวน 14 แห่ง และศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก จำนวน 37 แห่ง เข้ารับสัมฤทธิบัตร จำนวนทั้งสิ้น 961 คน

 

นายแพทย์สุขุม กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการดำเนินโครงการผลิตแพทย์แพทย์เพื่อชาวชนบท แก้ไขปัญหาการขาดแคลนแพทย์ของประเทศใน 10 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2561 – 2570) และการกระจายแพทย์ที่ไม่เหมาะสมในพื้นที่ชนบทที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อเติมเต็มในระบบบริการสุขภาพของไทย นำไปสู่ความเสมอภาคการบริการทางสังคม รองรับการขยายการให้บริการทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศไทยโดยได้รับความร่วมมือจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยต่างๆ คัดเลือกเด็กนักเรียนในเขตพื้นที่ชนบท รับทุนกระทรวงสาธารณสุข ศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตระยะเวลา 6 ปี  เป้าหมายการรับนักศึกษา แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 (พ.ศ.2561-2564) จำนวน 4,784 คน และระยะที่ 2 (พ.ศ.2565 – 2570) จำนวน 7,798 คน รวม 12,582 คน

โดยนักศึกษาแพทย์ในโครงการฯนี้ ชั้นคลินิกปีที่ 1-3 เรียนที่คณะแพทยศาสตร์คู่ความร่วมมือ ส่วนชั้นคลินิกปีที่ 4-6 เรียนที่ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ภายหลังสำเร็จการศึกษา บัณฑิตแพทย์ทุกคนมีพันธะสัญญาผูกพันทุนรัฐบาลต้องกลับไปปฏิบัติงานชดใช้ทุนในพื้นที่ภูมิลำเนา ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขส่วนภูมิภาค ตามเขตบริการสุขภาพ 12 แห่ง โครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ระยะเวลาการใช้ทุน 3 ปี ปัจจุบันมีแพทย์ในโครงการฯนี้อยู่ในระบบร้อยละ 77 ในขณะที่แพทย์ทั่วไปยังคงอยู่ในระบบร้อยละ 26 (ข้อมูลจากโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทปี 2560)

สำหรับในปี 2561 นี้ มีผู้สำเร็จการศึกษาจากโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท จำนวนทั้งสิ้น 961 คน จะต้องกลับไปปฏิบัติงานในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ภาคเหนือ จำนวน 111 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 333 คน ภาคกลาง 197 คน ภาคตะวันออก 73 ภาคตะวันตกจำนวน 39 คน และภาคใต้จำนวน 208 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มโครงการฯในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา มีบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาทั้งสิ้น 18 รุ่น จำนวน 8,923 คน และปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ 6 รุ่น

สังคม : สธ.ส่งแพทย์จบใหม่เกือบ 1,000 คน กระจายทำงานในชนบทห่างไกล ดูแลสุขภาพประชาชน

People Unity : post 15 พฤษภาคม 2562 เวลา 10.30 น.

สร้างเสร็จแล้ว!อาคารรังสีรักษารพ.เมืองคอน “จิมมี่ ชวาลา”พร้อมเอกชนร่วมบริจาค 65 ล้าน

People Unity News : กระทรวงสาธารณสุขรับมอบอาคาร สหไทย รังสีรักษา โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช มูลค่า 40 ล้านบาท และเครื่องสวนหัวใจและหลอดเลือดมูลค่า 25 ล้านบาท ที่ได้รับบริจาคจากห้างสหไทยสรรพสินค้านครศรีธรรมราช และ “จิมมี่ ชวาลา” ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยโรคหัวใจ ได้รับการดูแลรักษาใกล้บ้าน ลดการส่งต่อ ลดเวลารอคอย “อนุทิน”โพสต์ฺขอบคุณ”จิมมี ชวาลา”หัวใจคุณน่ากราบ

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานรับมอบอาคาร สหไทย รังสีรักษา โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบบริการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง กระจายความเชี่ยวชาญไปยังทุกเขตสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับบริการใกล้บ้าน ลดรอคอย ลดแออัด โดยโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชได้รับการสนับสนุนเครื่องฉายแสงและเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เมื่อปีงบประมาณ 2561 และได้รับการสนับสนุนเงินบริจาคในการก่อสร้างอาคารรังสีรักษาวงเงิน 40 ล้านบาท จากเจ้าของห้างสหไทยสรรพสินค้านครศรีธรรมราช จำนวน 30 ล้านบาท และนายจิมมี่ ชวาลา 10 ล้านบาท ซึ่งช่วยให้ลดการส่งตัวผู้ป่วยมะเร็งไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จ.สงขลา ซึ่งอยู่นอกเขตสุขภาพและต้องรอคิวนาน โดยที่ผ่านมาจังหวัดนครศรีธรรมราชส่งตัวผู้ป่วยมะเร็งไปรักษานอกเขตปีละประมาณ 600-800 คน มากที่สุดในเขตสุขภาพที่ 11 นอกจากนี้ คุณจิมมี่ ชวาลา ยังได้บริจาคเครื่องสวนหัวใจและหลอดเลือดเครื่องที่ 2 ให้กับโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช มูลค่า 25 ล้านบาท สามารถให้บริการได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการผู้ป่วยได้ปีละประมาณ 2,000-2,500 คนต่อปี

“ขอขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสร้างอาคารรังสีรักษา มอบเครื่องสวนหัวใจและหลอดเลือด ถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ในการช่วยผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยโรคหัวใจได้รับการรักษาเร็วขึ้น ลดการเสียชีวิต มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และขอเชิญชวนประชาชนร่วมสนับสนุนโรงพยาบาลในพื้นที่ให้มีเครื่องมือแพทย์ครบครัน เมื่อเจ็บป่วยไม่ต้องเดินทางไปรักษาในจังหวัดอื่น ดังเช่นชาวนครศรีธรรมราช” นายแพทย์สุขุมกล่าว

สำหรับอาคาร สหไทย รังสีรักษา โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียว ประกอบด้วยห้องฉายแสง 2 ห้อง ห้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อวางแผนรักษา 1 ห้อง ห้องตรวจ 3 ห้อง ห้องให้คำปรึกษาวางแผนรักษา 1 ห้อง ห้องทำงานแพทย์ และห้องประชุม เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2562 มีผู้ป่วยมารับการรักษาฉายแสงวันละ 50-60 ราย ตั้งแต่เปิดให้บริการถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ให้การฉายแสงรักษาครบคอร์สแล้วจำนวน 296 ราย ทำให้ผู้ป่วยและญาติไม่ต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หรือศูนย์มะเร็งที่สุราษฏร์ธานี สามารถลดระยะในการรอคอย ลดค่าใช้จ่ายผู้ป่วยและญาติ

“อนุทิน”โพสต์ฺขอบคุณ”จิมมี ชวาลา”หัวใจคุณน่ากราบ

ทั้งนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” เพื่อขอบคุณห้างสหไทยสรรพสินค้า นครศรีธรรมราช และนายจิมมี่ ชวาลา นักธุรกิจ ที่บริจาคเงินสมทบทุนสร้างอาคาร สหไทย รังสีรักษา โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ระบุว่า
หัวใจคุณน่ากราบ
…..
กราบขอบพระคุณ
ห้างสหไทยสรรพสินค้า นครศรีธรรมราช
กราบขอบพระคุณ
คุณจิมมี่ ชวาลา
ร่วมกันบริจาคอาคารสหไทย ศูนย์รังสีรักษา เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไป
เพราะงบประมาณมีจำกัด
เพราะผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจนงบประมาณเพิ่มตามไม่ทัน
การสนับสนุน และความร่วมมือของประชาชน และ ภาคเอกชน คือ กำลังสำคัญที่ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ส่มารถให้บริการ และ ดูแล ประชาชน ได้มากขึ้น กว่าความสามารถของกระทรวงสาธารณสุข เพียงลำพัง
จังหวัดไหน ท่านใดจะทำตาม จังหวัดนครศรีธรรมราช ประสานมาที่ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ครับ
ขอกราบพระคุณทุกๆ ท่าน ที่ร่วมมือกัน ดูแลประชาชน
ผมจะกำชับให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ใช้อาคาร และ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับบริจาค ให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
พึงระลึก และ สำนึกไว้ตลอดเวลาว่า ประชาชน คือ เจ้าของโรงพยาบาล อาคาร และ เครื่องมือแพทย์ ทุกชิ้น จึงต้องใช้ เพื่อการดูแล รักษา และบริการประชาชน ให้ดีที่สุด

 

อธิบดีกรมสุขภาพจิต วิเคราะห์เหตุพ่อฆ่าลูก 5 ศพ จิตใจด้านชาต่อความรุนเเรง

People Unity News : 23 กันยายน 2566 อธิบดีกรมสุขภาพจิต วิเคราะห์เหตุพ่อฆ่าลูก 5 ศพ จิตใจด้านชาต่อความรุนเเรง เเนะสังคมร่วมใส่ใจกันเเละกัน

พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยกับทีมข่าวกองบรรณาธิการข่าววิทยุสำนักข่าวไทย วิเคราะห์พฤติกรรม จากคดีพ่อแท้ๆ ฆ่าลูกตัวเองต่อเนื่อง 5 ศพ ซึ่งกำลังเป็นคดีสะเทือนใจ ว่า จากการวิเคราะห์สาเหตุจากนักจิตวิทยา จิตแพทย์ นักอาชญวิทยานั้น พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความโหดร้ายอย่างมาก ในแง่ของผู้กระทำต่อคนในสายเลือดเดียวกัน สะท้อนสภาพจิตใจที่ด้านชาต่อความรุนแรง มีแนวโน้มใช้ความสุข ความต้องการตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เห็นใจใครเลย และเกือบ 100% มักเคยเป็นเหยื่อ หรือคลุกคลีกับความรุนแรงตั้งแต่อายุยังน้อย และเรียนรู้การกลบความรุนแรง เพื่อปรับตัวให้อยู่ในสังคมได้ และปิดซ่อนเพื่อให้เหยื่อถูกทำร้ายไปเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม แม้ข่าวนี้จะน่าสนใจ น่าติดตาม รับฟังข่าวด้วยความเป็นห่วง แต่ผลกระทบทางอ้อม จากการติดตามข่าวคือ เกิดความกดดันความรู้สึกอย่างมาก ช่วงแรกจะรู้สึกเจ็บปวดเมื่อรับรู้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทางอ้อม และน่าเป็นห่วงคือ ความชาชินต่อความรุนแรง หรือการชี้นำทิศทางให้เห็นความรุนแรง หากผู้ที่รับรู้ข่าวนี้มีภาวะจิตใจที่เอื้อต่อการก่อปัญหาได้

สำหรับการแก้ไขปัญหา ตั้งแต่ระดับเล็กที่สุด คือครอบครัว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ต้องดูแลกันและกันโดยไม่ใช้ความรุนแรง รวมถึงการเป็นต้นแบบที่ดีในครอบครัว

นอกจากนี้ พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงเกินกว่าปกติ อาจเกิดจากเด็กบางคนมีปัญหาสุขภาพกายเข้ามาเกี่ยวข้อง มีข้อมูลว่า บางคนมีปัญหาทางสมองบางเรื่อง อาจมีสมองบางจุดไม่พัฒนาเท่าที่ควร สติปัญญาบางด้านไม่สมบูรณ์

การเเก้ไขปัญหาระดับสังคม ต้องร่วมกันใส่ใจกันและกันอย่างถูกวิธี ไม่ปล่อยให้ผู้ใหญ่ใช้เด็กที่พิการ หรือน่าสงสาร น่าเห็นใจ กลายเป็นแหล่งเรียกร้องความช่วยเหลือแบบผิดๆ ซึ่งในคดีนี้ยังต้องรอการพิสูจน์จากตำรวจ แต่ที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีแบบนี้ โดยการทำให้เด็กเกิดความพิการและนำไปขอทาน ดังนั้นสังคมต้องฉุกคิดว่ากำลังช่วยเหลือ หรือทำให้เด็กตกเป็นเหยื่อมากขึ้น และสังคมต้องช่วยกันสอดส่องเหยื่อที่กำลังถูกคุกคาม ว่ามีมากแค่ไหน ช่วยเหลืออย่างไร ยืนยันว่าทุกคนมีสิทธิในการช่วย และปกป้องเด็กตามกฎหมาย หากพบเห็นความรุนแรงสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเข้าช่วยเหลือได้ และสังคมต้องรีบปรับตัว อย่าเกรงกลัวต่อการต้องเผชิญกับเรื่องยุ่งยาก

Advertisement

รู้ยัง! ตั้งแต่ 1 เม.ย.เจ็บป่วยฉุกเฉินเข้า รพ.รัฐ-เอกชน 72 ชม.แรกไม่เสียเงิน

People unity news online :  เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 เมษายน 2560) เป็นวันแรกที่โครงการเจ็บป่วยวิกฤตฉุกเฉิน มีสิทธิทุกที่ หรือ ยูเซป เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนที่อยู่ใกล้ที่สุด โดยไม่ต้องจ่ายเงินใน 72 ชม.แรก หลังจากที่ ครม.ได้อนุมัติหลักการเรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ป่วยฉุกเฉินไปแล้ว และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกประกาศ 3 ฉบับให้โรงพยาบาลทุกแห่งต้องปฏิบัติตาม

“ท่านนายกฯ ให้ความสำคัญกับโครงการนี้อย่างมาก เพราะเป็นสิทธิพึงมีพึงได้ขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนต้องได้รับจากรัฐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเน้นย้ำให้โรงพยาบาลทุกแห่งศึกษาข้อมูลตามประกาศที่ สธ.กำหนด และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งระบุด้วยว่า รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างจริงจังและเป็นระบบ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น สงกรานต์ แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจริง ก็จะต้องดูแลช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่”

สำหรับกลุ่มอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่ใช้สิทธิยูเซปได้มี 6 กลุ่ม คือ 1.หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ 2.หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง 3.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม 4.เจ็บหน้าอกเฉียบพลันรุนแรง 5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด 6.มีอาการอื่นร่วมที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยหากติดต่อรับส่งผู้ป่วยผ่าน 1669 จะช่วยให้เกิดการคัดกรองที่ถูกต้องแต่แรก

ทั้งนี้ เมื่อโรงพยาบาลแต่ละแห่งรับตัวผู้ป่วยฉุกเฉินแล้วจะต้องดูแลรักษา เพื่อให้พ้นจากอันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและขีดความสามารถของตน โดยไม่มีเงื่อนไขการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลในระยะ 72 ชม. แต่ให้เรียกเก็บจากกรมธรรม์ประกันภัย หรือกองทุนที่ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลตามกฎหมาย เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม กรมบัญชีกลาง ตามบัญชีและค่าอัตราค่าใช้จ่ายที่ภาครัฐกำหนด เช่น ค่าห้องผ่าตัดใหญ่ ชม.ละ 2,400 บาท ค่าอัตราซาวด์ครั้งละ 1,150 บาท ค่า MRI สมองครั้งละ 8,000 บาท ค่าลิ้นหัวใจเทียมอันละ 29,000 บาท ค่าสายยางและปอดเทียมชุดละ 80,000 บาท เป็นต้น

ส่วนการรักษาพยาบาลหลัง 72 ชม.นั้น ให้โรงพยาบาลที่รับตัวผู้ป่วยฉุกเฉินส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยมีสิทธิรับการรักษาอยู่ ซึ่งจะเข้าสู่ระบบปกติ แต่หากผู้ป่วยประสงค์จะรักษาต่อในโรงพยาบาลแห่งนั้นก็จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ทั้งนี้ ประชาชนที่มีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์ประสานงานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต โทร 0 2872 1669 หรือสายด่วน สปสช.1330

People unity news online : post 3 เมษายน 2560 เวลา 11.03 น.

นายกฯ ร่วมงานตรุษจีนเยาวราช อวยพรให้มั่งมี มั่งคั่ง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 10 กุมภาพันธ์ 2567 เยาวราช – นายกฯ ร่วมเทศกาลตรุษจีนเยาวราช นักท่องเที่ยวแห่ถ่ายรูป พร้อมอวยพรให้มีความสุข มั่งมี มั่งคั่ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาร่วมงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ซึ่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันนี้ (10 ก.พ.) ตลอดเส้นทางที่เดินชมงาน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติขอถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนซาอุดีอาระเบีย ก่อนเข้าร่วมงานเทศกาลตรุษจีน พร้อมระบุว่า ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตลอด 2 ปีที่เชื่อมสัมพันธ์ทางการทูต รวมทั้งเรื่องปิโตรเคมี และการท่องเที่ยว ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก รวมทั้งการค้าการลงทุน

ส่วนความขัดแข้งระหว่างกลุ่มรักสถาบันและกลุ่มทะลุวัง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายกฯ กล่าวว่า อยากให้พูดคุยกันดีๆ ไม่ใช้กำลัง เพราะวันนี้เป็นวันตรุษจีน วันแห่งการท่องเที่ยว จะมีการกำชับเจ้าหน้าที่ไปดูเรื่องความปลอดภัยกับประชาชนมากขึ้น

“เนื่องในวันปีใหม่เทศกาลตรุษจีน เป็นวันของการสนุกสนาน อยากให้ทุกคนมีความสุข มั่งมี มั่งคั่ง สุขภาพแข็งแรง ดูแลผู้หลักผู้ใหญ่ อยากให้เทศกาลตรุษจีน เงินสะพัดที่สุดเท่าที่จะเป็น นโยบายรัฐบาลพยายามกระตุ้นเรื่องนี้ ทั้งเรื่องวีซ่าฟรี และนโยบายความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญ ความสะดวกสบายในการตรวจคนเข้าเมือง อยากให้ประทับใจประเทศไทยตั้งแต่แรกที่เข้ามา” นายกฯกล่าว

Advertisement

“นพ.ชลน่าน” ประกาศ 12 นโยบายสุขภาพเริ่มทำทันที

People Unity News : 16 กันยายน 2566 “นพ.ชลน่าน” ประกาศ 12 นโยบายสุขภาพเริ่มทำทันที แต่เห็นผลเชิงประจักษ์ 100 วัน การรักษามะเร็งครบวงจร และบริการวัคซีนมะเร็งปากมดลูก

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการหารือประชุมนัดพิเศษกับผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อน 12 นโยบาย อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพมหานคร 50 เขต 50 โรงพยาบาล, การดูแลสุขภาพจิตและบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด, การรักษามะเร็งแบบครบวงจร, การสร้างขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากร, สาธารณสุขชายแดนรวมถึงการพัฒนาโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่ายและดิจิทัลสุขภาพ รวมถึงส่งเสริมการมีบุตร ซึ่งในส่วนของนโยบายที่เป็นควิกวินนั้น สามารถทำให้เห็นผลได้ภายใน 100 วัน คือมะเร็งครบวงจร และการให้วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคงจะครอบคลุม และเป็นส่วนหนึ่งในนโยบาย 30 บาทพลัส ส่วนพื้นที่ไหนที่จะระบุให้มีการนำร่องใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการรักษาระบบหลักประกันสุขภาพนั้นยังคงอยู่ในระหว่างการหารือ

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนเรื่องของการส่งเสริมการมีบุตรนั้นเนื่องจากตระหนักว่าขณะนี้อัตราวัยแรงงานลดลงและอัตราเกิดก็ลดลง เหลือ 500,000 คน ในปี 2565 ซึ่งหากจะให้มีอัตราแรงงานที่เหมาะสมและเกิดความสมดุลจะต้องมีอัตราเกิดต่อปีเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.1% หรือมีอัตราเกิดประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี

Advertisement

Verified by ExactMetrics