วันที่ 13 ตุลาคม 2024

รัฐบาลอนุมัติงบกลาง 344 ล้านบาท ส่งเสริมถ่ายหนังต่างประเทศในไทย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 27 สิงหาคม 2567 ทำเนียบ – ครม.อนุมัติงบกลาง 344 ล้านบาท ส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย

นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 344,652,887.84 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ สำหรับจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ จำนวน 7 เรื่อง โดยที่ภาพยนตร์ทั้ง 7 เรื่อง ได้ยื่นเอกสารขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการฯ ก่อนที่กรมการท่องเที่ยวจะออกประกาศกรมการท่องเที่ยว เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข สำหรับการขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 ซึ่งประกาศบังคับใช้เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566

Advertisement

โพลไม่เชื่อ “แพทองธาร” บริหารประเทศโดยปราศจาก “ทักษิณ”

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์  : 25 สิงหาคม 2567 นิด้าโพล เผยคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อ “แพทองธาร” บริหารประเทศโดยปราศจาก “ทักษิณ” ชี้ไม่ควรดำรงตำแหน่งใด แค่ให้คำปรึกษาในฐานะพ่อ-ลูก

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “บทบาทอดีตนายกฯ ทักษิณ ในรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์” ระหว่างวันที่ 20-21 สิงหาคม 2567 จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับบทบาททางการเมืองของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนถึงความเป็นไปได้ที่ น.ส.แพทองธาร จะบริหารประเทศโดยปราศจากนายทักษิณ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.01 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย รองลงมา ร้อยละ 15.42 ระบุว่า ไม่น่าเป็นไปได้ ร้อยละ 14.96 ระบุว่า ค่อนข้างเป็นไปได้ ร้อยละ 9.77 ระบุว่า เป็นไปได้แน่นอน และร้อยละ 0.84 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ส่วนบทบาทที่นายทักษิณ ชินวัตร ควรมีในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 37.79 ระบุว่า ไม่ดำรงตำแหน่งใด ๆ ไม่อยู่หลังฉาก แต่อาจให้คำปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการในฐานะพ่อ-ลูก รองลงมา ร้อยละ 28.85 ระบุว่า ไม่ดำรงตำแหน่งใด ๆ แต่อยู่หลังฉากในการช่วย หรือให้คำปรึกษาในการบริหารประเทศแก่น.ส. แพทองธาร ร้อยละ 26.95 ระบุว่า ไม่ดำรงตำแหน่งใด ๆ ไม่อยู่หลังฉาก และปล่อยให้น.ส. แพทองธาร เป็นอิสระในการบริหารประเทศ ร้อยละ 6.03 ระบุว่า ดำรงตำแหน่งที่เป็นทางการในการช่วย หรือให้คำปรึกษาในการบริหารประเทศแก่น.ส.แพทองธาร และร้อยละ 0.38 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อถามถึงบทบาทของนายทักษิณ ในความเป็นจริงที่ประชาชนจะได้เห็นในรัฐบาลน.ส.แพทองธาร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.39 ระบุว่า ไม่ดำรงตำแหน่งใด ๆ แต่อยู่หลังฉากในการช่วย หรือให้คำปรึกษาในการบริหารประเทศแก่ น.ส.แพทองธารรองลงมา ร้อยละ 31.91 ระบุว่า ไม่ดำรงตำแหน่งใด ๆ ไม่อยู่หลังฉาก แต่อาจให้คำปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการในฐานะพ่อ-ลูก ร้อยละ 18.70 ระบุว่า ไม่ดำรงตำแหน่งใด ๆ ไม่อยู่หลังฉาก และปล่อยให้น.ส.แพทองธาร เป็นอิสระในการบริหารประเทศ ร้อยละ 9.08 ระบุว่าดำรงตำแหน่งที่เป็นทางการในการช่วย หรือให้คำปรึกษาในการบริหารประเทศน.ส. แพทองธาร และร้อยละ 0.92 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

Advertisement

นายกฯ โพสต์แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุดินโคลนถล่มภูเก็ต

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 24 สิงหาคม 2567 นายกฯ แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เหตุดินโคลนถล่มที่ จ.ภูเก็ต เร่งพัฒนาระบบเตือนภัยเพื่อรับมือภัยพิบัติให้ดียิ่งขึ้น

เมื่อเวลา 20.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ผ่าน X ว่า “ดิฉันขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ดินถล่มที่จังหวัดภูเก็ตไว้ ณ ที่นี้

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เราจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ทั้งการอนุรักษ์ธรรมชาติ คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และพัฒนาระบบเตือนภัยเพื่อรับมือภัยพิบัติให้ดีขึ้น เพราะปัญหานี้มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตค่ะ”

Advertisement

“แพทองธาร” โพสต์ขอโทษชาวแพร่ อากาศไม่เอื้อ วันนี้ไปได้แค่ “น่าน”

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 24 สิงหาคม 2567 “แพทองธาร” ขอโทษชาวแพร่ อากาศไม่เอื้อไปได้แค่ “น่าน” กทม. – “แพทองธาร” ขอโทษชาวแพร่ลงพื้นที่ไม่ได้ สาเหตุจากสภาพอากาศทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ โดยไปที่น่านจังหวัดเดียว พร้อมส่งกำลังใจไปภูเก็ต

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความด่วน ระบุว่า “ต้องขออภัยพี่น้องประชาชน จ.แพร่ เป็นอย่างสูงค่ะ จากเดิมที่ดิฉันตั้งใจจะลงพื้นที่ 2 จังหวัดคือน่าน แพร่ในวันนี้ แต่เนื่องจากสภาพอากาศในพื้นที่ทำให้ไม่สามารถเดินทางไป จ.แพร่ได้ ในวันนี้จึงเป็นการเดินทางไป จ.น่านได้เพียงจังหวัดเดียว โดยจะไปที่ อ.เมือง และ อ.ภูเพียง ต้องขออภัยอีกครั้งค่ะ

ดิฉันขอส่งกำลังใจให้พี่น้อง จ.แพร่ ผ่านทาง สส. ทั้ง 3 ท่านของเรา คือ สส.ทศพร เสรีรักษ์, สส.นิยม วิวรรธนดิฐกุล และ สส.วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่ตอนนี้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และประสานความช่วยเหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง

ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นสิ่งที่ดิฉันและทีมงานให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาให้ได้ค่ะ

ดิฉันขอส่งความห่วงใย และกำลังใจให้พี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังในทุกจังหวัด ซึ่งรวมถึงใน จ.ภูเก็ต ที่มีเหตุการณ์ดินถล่มด้วย (ทราบจากพื้นที่ว่าตอนนี้คลี่คลายแล้ว เหลือการจัดการพื้นที่) ดิฉันและทีมงานจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดค่ะ”

Advertisement

“แพทองธาร” สวมชุดสีฟ้าไหว้ศาลหลักเมือง-วัดพระแก้ว ก่อนทำหน้าที่นายกฯ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 22 สิงหาคม 2567 “แพทองธาร” ไหว้ศาลหลักเมือง ก่อนทำหน้าที่นายกฯ ศาลหลักเมือง – “แพทองธาร” นายกฯ สวมชุดโทนฟ้า พร้อม “ภูมิธรรม-สุทิน-สุริยะ” แกนนำเพื่อไทยไหว้ศาลหลักเมือง-วัดพระแก้ว เอาฤกษ์-เอาชัย เสริมสิริมงคล ก่อนทำหน้าที่นายกฯ

เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางสักการะศาลหลักเมือง เพื่อเสริมสิริมงคล โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ

โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางถึง ได้กราบสักการะพระพุทธรูป พระบรมสารีริกธาตุ จากนั้นกราบสักการะองค์พระหลักเมืองจำลอง และผูกผ้าแพร 3 สี บนองค์พระหลักเมืองจำลอง ก่อนที่จะกราบสักการะและถวายพวงมาลัย องค์พระหลักเมือง และกราบไหว้ องค์เทพารักษ์ทั้ง 5 ที่ศาลเทพารักษ์ ประจำวันเกิด พร้อมทั้งเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ซึ่งนายกฯ เกิดวันพฤหัสบดี และเติมน้ำมันตะเกียงลงในอ่างสะเดาะเคราะห์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มอบองค์จำลองศาลหลักเมือง ให้เป็นที่ระลึก พร้อมอวยพรว่า “แฮปปี้เบิร์ดเดย์” ก่อนที่นายกฯและคณะจะเดินออกมาถ่ายภาพหมู่ร่วมกันหน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเดินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อสักการะพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมืองประเทศ ไทยเพื่อความเป็นสิริมงคล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ เดินจากศาลหลักเมือง ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่ารู้สึกอย่างไรที่เดินอยู่ท่ามกลาง รัฐมนตรีกลาโหม 2 คนตามที่มีกระแสข่าวนายภูมิธรรม จะไปนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยนายกฯ ได้หัวเราะชอบใจ แต่ไม่ได้กล่าวอะไร

ขณะที่ระหว่างเดินประชาชนได้ทักทายนายกรัฐมนตรีว่า “ดีใจมากเลยที่เจอเลือกมากับมือ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ นายกฯ ได้สวมชุดโทนสีฟ้าคราม และวันนี้เสื้อสีฟ้า ถือเป็นสีสิริมงคล​ เสริมเรื่องการงาน ขณะที่รัฐมนตรีบางส่วนได้สวมเสื้อสีฟ้าด้วย

Advertisement

ครม.ยกปลาหมอคางดำเป็นวาระแห่งชาติ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 สิงหาคม 2567 ทำเนียบ – ครม.ยกปลาหมอคางดำเป็นวาระแห่งชาติ จัดงบ 450 ล้านบาท ป้องกันแพร่ระบาด ดึงออกจากแหล่งน้ำ 5,000 ตัน ขจัดให้หมดสิ้น

ในการประชุม ครม.วานนี้ (20 ส.ค.) โดยมีนายภูมิธรรม เวชชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เห็นชอบแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ช่วงปี 2567-2570 ยกให้เป็นวาระแห่งชาติ มอบหมายให้หลายหน่วยงาน ทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกันควบคุม กำจัด และลดประชากรปลาหมอคางดำ แพร่ระบาดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ การฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งน้ำ

มุ่งกำจัดประชาชนกรปลาหมอคางดำออกจากแหล่งน้ำไม่น้อยกว่า 5,000 ตัน การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพไม่น้อยกว่า 20 ล้านตัว การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการประมง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคาดำและสัตว์น้ำต่างถิ่นรุกราน ปล่อยปลาผู้ล่าตามความเหมาะสมของแหล่งน้ำ ไม่น้อยกว่า 5 ล้านตัว จัดงบประมาณ 450 ล้านบาท เพื่อควบคุมปลาหมอคางดำออกจากแหล่งทั่วประเทศ

Advertisement

แพทองธาร ประกาศผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ต่อ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 18 สิงหาคม 2567 นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี ประกาศสานต่อนโยบายเศรษฐกิจ ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ สัญญาทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยเป็นโอกาสของคนไทยทุกคน

วันนี้ (18 สิงหาคม 2567) เวลา 11.00  น. ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงแก่สื่อมวลชนภายหลังรับสนองพระบรมราชโองการ โดยกล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคร่วมรัฐบาลและประชาชน ที่ได้ให้ความไว้วางใจให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31

นายกรัฐมนตรีให้คำมั่นสัญญาว่า จะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด พร้อมขอบคุณ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทุ่มเทแรงกายทำเพื่อประเทศชาติตลอดเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ตนจะไม่ได้วางแผนในการเป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้มาก่อน แต่ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า ตนพร้อมและเต็มใจที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ  ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ นำพาประเทศชาติผ่านปัญหา อุปสรรค ประเทศไทยเรายังมีปัญหาปากท้องที่รอการแก้ไขอยู่

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ปากท้องของพี่น้องประชาชนดีขึ้นและผลักดันนโยบายทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ปัญหายาเสพติด ระบบสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกที่ และนโยบายซอฟต์พาวเวอร์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่ได้เริ่มทำมาตั้งแต่ต้น

นายกรัฐมนตรี ยังแสดงความจริงใจที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วง และขอให้ทุกคนได้ติดตามการแถลงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมได้ในเดือนกันยายนนี้

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณพลังอันยิ่งใหญ่ คือ พลังของพี่น้องประชาชน ทั้งที่เลือกและไม่ได้เลือกดิฉัน  โดยสัญญาว่าจะทำหน้าที่นี้อย่างเต็มความสามารถ ทุกความหลากหลาย ไม่แบ่งแยก ในฐานะของนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ในฐานะแม่ ฐานะลูก ฐานะเพื่อน มุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้ประเทศไทยทุกตารางนิ้วเป็นพื้นที่ของโอกาส เป็นพื้นที่ที่คนไทยทุกคนมีความฝัน มีความคิดที่สร้างสรรค์และการที่กำหนดอนาคตของตัวเอง

Advertisement

“แพทองธาร” รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ​เป็นนายกฯ ​คนที่ 31 ลั่น ทำให้ทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินไทย เป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์ และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 18 สิงหาคม 2567 “แพทองธาร” รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ​เป็นนายกฯ ​คนที่ 31

“แพทองธาร ชินวัตร” เข้าพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ของประเทศไทย ยืนยันนำพาประเทศไทยเดินหน้าฝ่าฟันทุกอุปสรรค แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ลั่นจะรับผิดชอบหน้าที่ให้ดีที่สุด ขณะที่ครอบครัวชินวัตรร่ำไห้ด้วยความตื้นตัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.29 น. ณ ห้องโถงกลาง อาคารวอยซ์ สเปส ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 และอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คนที่ 31

โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

จากนั้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังรับสนองพระบรมราชโองการ ว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิต

ตนและครอบครัว และพรรคเพื่อไทย สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นล้นพ้น ทั้งจะมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยความจงรักภักดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ และประชาชน สนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการและตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทุกประการ

นางสาวแพรทองธาร กล่าวขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนที่ได้มอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ให้ได้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ซึ่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ที่จะนำพาประเทศไทยเดินหน้า ฝ่าฟันทุกอุปสรรค แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แก้ไขปัญหาปากท้องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน ดังนั้น 3 ปีที่เหลือตามวาระของรัฐสภา ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหาร จะขอทำหน้าที่ร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติ ด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง เปิดพื้นที่ในการรับฟังทุกความเห็น เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างมั่นคง

อย่างไรก็ตาม ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้ ไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการทำงานของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ตนมีความมุ่งหวังที่จะประสานพลังของคนทุกรุ่น ประสานพลังของบุคคลที่มีความสามารถในประเทศไทยจากทุกภาคส่วน ทั้งคณะรัฐมนตรี พรรคร่วมรัฐบาล ข้าราชการ เอกชน และพี่น้องประชาชน โดยตนจะส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและทักษะของคนไทยทุกคน และทำให้ทุกตารางนิ้วบนแผ่นดินไทย เป็นพื้นที่ให้คนไทยได้กล้าฝัน กล้าสร้างสรรค์ และกล้ากำหนดอนาคตของตัวเอง

“ดิฉัน แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะรับผิดชอบหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทย เป็นประเทศแห่งโอกาส เป็นประเทศแห่งความหวัง เป็นประเทศแห่งความสุข ของคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม” นางสาวแพทองธาร กล่าว

จากนั้นนางสาวแพทองธารได้เข้าไปไหว้ขอบคุณบรรดารัฐมนตรี รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และ สส. จากนั้นได้เข้าไปสวมกอดคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดาและนายทักษิณ ชินวัตร บิดา โดยคุณหญิงพจมานถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความยินดี ก่อนที่จะไปกอดพี่ชายพี่สาว แล้วมาสวมกอดกับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ซึ่งทุกคนในครอบครัวพร้อมทั้งนางสาวแพทองธารเองถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความตื้นตันและยินดี

Advertisement

“แพทองธาร” เผยพร้อมทำงานและแบ่งเวลาให้ดี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 สิงหาคม 2567 อาคารวอยซ์สเปซ – “แพทองธาร” เผยพร้อมทำงานและแบ่งเวลาให้ดี เตรียมพาลูกเที่ยววันหยุด ขณะที่ “ทวี” ส่งตัวแทนมอบดอกไม้แสดงความยินดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 17.15 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และนางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือ เอม พี่สาว เดินทางออกจากอาคารวอยซ์ สเปซ

โดยทันทีที่เดินลงมาจากอาคารมีตัวแทนของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำแจกันดอกไม้มาแสดงความยินดีด้วย

โดยระหว่างเดินไปขึ้นรถ นางสาวแพทองธาร ได้กล่าวกับสื่อมวลชนสั้นๆ ว่า ตอนนี้หายตื่นเต้นแล้ว แต่ยอมรับว่าในช่วงแถลงข่าวตัวเองตื่นเต้นจริงๆ หลังจากนี้ขออนุญาตกลับไปหาลูก ส่วนวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) ไม่ได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรค ขอหยุดหนึ่งวัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะมีการวางแผนชีวิตอย่างไร นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ก็ทำงานและจะแบ่งเวลาให้ดี ซึ่งถ้าพรุ่งนี้มีเวลาก็จะพาลูกไปเที่ยว ก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับทันที

Advertisement

“วิษณุ” แจงข้อปฏิบัติ การปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 15 สิงหาคม 2567 “วิษณุ” แจงข้อปฏิบัติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี

วันนี้ (15 สิงหาคม 2567) เวลา 15.20 น.  ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการชกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม เป็นผู้ชี้แจงข้อปฏิบัติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

เรื่องที่ 1 คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรม เวชยชัย ให้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ใช่เป็นกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน  เคยมอบไว้ว่าให้รักษาการ เพราะการรักษาการเป็นกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน  ไปต่างประเทศ แล้วให้นายภูมิธรรม ฯ รักษาการแทน แต่กรณีนี้ เป็นกรณีที่ไม่มีนายกรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติพ้นจากตำแหน่ง จึงต้องใช้อีกมาตราในการพิจารณา ซึ่งจำเป็นต้องประชุมคณะรัฐมนตรี และได้มีมติใหม่ คือมอบรองนายกรัฐมนตรีภูมิธรรมให้ปฏิบัติหน้าที่แทน

เรื่องที่ 2 คณะรัฐมนตรีได้ประชุมกันคือ เรื่องเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวพันกับคณะรัฐมนตรี แบ่งเป็น 2 ระดับ ระดับนายกรัฐมนตรี กับระดับรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตำแหน่งใดก็ตามที่อดีตนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน  ได้แต่งตั้งไว้เป็นข้าราชการการเมือง เช่น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งตำแหน่งการเมืองทั้งหลายนั้น เป็นตำแหน่งตามกฎหมาย เป็นอันพ้นจากตำแหน่งไปทั้งหมด และจะจ่ายเงินเดือนจนถึงวันที่ 13 สิงหาคม

กรณีของรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีตามกระทรวงใดก็ตาม ยกเว้นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อดีตนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน   แต่งตั้งก็พ้นจากตำแหน่ง แต่รัฐมนตรีประจำกระทรวงต่าง ๆ ที่รัฐมนตรีเป็นคนตั้งเอง ยังคงอยู่ ไม่ได้พ้นจากตำแหน่งไป ส่วนตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นโควต้าของนายกรัฐมนตรี และรวมถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีทั้งหมด ผู้แทนทางการค้าก็จากพ้นจากตำแหน่งด้วย และมีปัญหาอยู่ คือ กรรมการที่อดีตนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน   ได้แต่งตั้งเอาไว้ ซึ่งเป็นการแต่งตั้งตามกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดินที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีสามารถตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นกรรมการต่าง ๆ ได้ อาทิ กรรมการที่ปรึกษา กรรมการวิปรัฐบาล เป็นต้น ตำแหน่งดังกล่าวนี้ก็พ้นจากตำแหน่งด้วย แต่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ได้มีมติว่า เนื่องจากมีความจำเป็นต้องมีวิปรัฐบาล ก็มีมติให้แต่งตั้งใหม่เป็นการต่อเนื่องกันไป ไม่ใช่ไปต่ออายุให้กับคนเก่า เพราะพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่เป็นการแต่งตั้งใหม่ และใช้คนเก่าให้ดำรงตำแหน่งเดิม

นายวิษณุ ฯ กล่าวว่า เรื่องสำคัญ คือการทำงานของคณะรัฐมนตรีในระหว่างเวลานี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติว่า เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือรักษาการในขณะนี้ แตกต่างจากสมัยยุบสภา เพราะตอนนั้นรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ในระหว่างรักษาการจะแต่งตั้งข้าราชการไม่ได้ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต. จะใช้งบประมาณผูกพันไม่ได้ จะกำหนดเรื่องที่เป็นนโยบายไม่ได้ แต่สำหรับกรณีคณะรัฐมนตรีสิ้นสุดเพราะ นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งนั้น ไม่มีข้อห้ามเหล่านี้อยู่จึงสามารถทำได้หมดทุกประการ และหากเป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องรอมติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายที่รัฐบาลใหม่จะแถลง เช่น นโยบายดิจิตอลวอลเล็ต นโยบายปกติธรรมดา อย่างปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำ ได้มีการพูดในการประชุมคณะรัฐมนตรีมาหลายนัด เหลืออีกนิดเดียวก็จะจบเรื่องแล้วว่าจะต้องอนุมัติงบประมาณ ก็มีการหารือว่าเป็นเรื่องนโยบาย เป็นเรื่องเร่งด่วนจำเป็นก็ให้สามารถทำได้ หรือว่าการอนุมัติจ่ายเงินสงเคราะห์เด็กช่วยเหลือเด็ก ซึ่งก็เป็นการใช้งบประมาณก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีที่สิ้นสุดลง แล้วก็ปฏิบัติหน้าที่ ยังไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. จะยื่นก็ต่อเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว แม้จะเปลี่ยนตำแหน่งก็ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินเหมือนตอน รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งที่ 1 มาเป็นรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งที่ 2 รัฐมนตรีซ้ำกันหลายคน อาทิ นายวิษณุ เครืองาม ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตอนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ครั้งที่ 2 แต่ได้ทำบัญชีแล้วยื่นเองด้วยความสมัครใจอยู่ดี คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันก็สามารถทำอย่างเดียวกันได้ ยืดด้วยความสบายใจ แต่ไม่เปิดเผย นายวิษณุ ยังชี้แจงถึงการประชุม ครม. สัญจรในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 ที่ จ. อยุธยาต้องเลื่อนไปหรือยกเลิกไปก่อน

Advertisement

Verified by ExactMetrics