วันที่ 26 เมษายน 2024

เพื่อไทยหนุนผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองบนเวทีนานาชาติมากขึ้น

People Unity News : “ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เผย ส.ส.หญิงของพรรคได้รับเชิงเชิญจากทูตฟินแลนด์ร่วมสัมมนาและอภิปรายหัวข้อ”การมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิง” ยันพรรคหนุนผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองบนเวทีนานาชาติมากขึ้น

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ รองโฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2562 นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยรองโฆษกพรรคและนางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้รับเชิญจากนาง Satu Suikkari-Kleven เอกอัครราชทูตประเทศฟินแลนด์ประจำประเทศไทยเข้าร่วมสัมมนาและอภิปรายหัวข้อ “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิง” และมีเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ ตัวแทนจาก UN Women สถาบันพระปกเกล้า และนักการเมืองหญิงจากพรรคการเมืองต่างๆ ณ บ้านพักของเอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย

นางสาวธิดารัตน์กล่าวว่าภายในงาน พบสถิติที่น่าสนใจเรื่องจำนวนนักการเมืองหญิงในฟินแลนด์ โดยในปี พ.ศ. 2562 มีนักการเมืองหญิงในฟินแลนด์กว่า 40% หรือจำนวน 1,036 คน ในการลงสมัครเลือกตั้งครั้งล่าสุด ในสหภาพยุโรปเองก็มีอัตราส่วนของนักการเมืองหญิงสูงถึง 40% เช่นกัน ส่วนประเทศไทยมีสัดส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้หญิงที่เข้าไปนั่งในสภารวม 78 คน จาก 498 คน คิดเป็น 15.8% และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่ออยู่ที่ 25 คน จาก 149 คน หรือ 17% ซึ่งมากกว่าในช่วงรัฐบาลชุดที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ประมาณ 5%

นางสาวธิดารัตน์กล่าวอีกว่า ในการเสวนานางลดาวัลลิ์ได้เสนอว่าการที่จะส่งเสริมให้ผู้หญิงสามารถเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้นนั้น ต้องได้รับการสนับสนุนจากองค์การต่างๆ ในการช่วยพัฒนาความสามารถของผู้หญิง รวมถึงครอบครัว สื่อมวลชน และสังคมต้องยอมรับและช่วยผลักดัน และเสนอเส้นทางลัดในการสร้างความเปลี่ยนแปลงคือการให้มีผู้หญิงเข้าไปนั่งในกรรมการบริหารพรรคมากขึ้นดังเช่นที่พรรคเพื่อไทยทำ และให้มีผู้หญิงเข้าไปเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ เช่น รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านสังคม กระทรวงมหาดไทย และให้ผู้หญิงเป็นผู้บริหารในส่วนราชการมากขึ้น

“พรรคเพื่อไทยเองได้ให้การสนับสนุนให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองสม่ำเสมออยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้จากการริเริ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การสนับสนุนให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย และการที่มีประธานยุทธศาสตร์พรรคเป็นผู้หญิง คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” นางสาวธิดารัตน์กล่าว

รมว.ยุติธรรมติดตามคดีรถหรู สั่งดีเอสไอเร่งทำให้เสร็จภายใน 6 เดือน

People Unity News : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ติดตามคดีรถหรู กำชับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งทำให้เสร็จภายใน 6 เดือน ผิดว่ากันตามผิดไม่มีรังแกกัน ขอผู้ครอบครองรีบมาชี้แจง ให้กรมรายงานความคืบหน้าทุก 2 สัปดาห์ เผยสอบเสร็จส่งอัยการแล้ว 167 คดี มูลค่า 800 ล้านบาท

10 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม มีการประชุมคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมต่างๆและผู้บริหาร เข้าร่วมประชุม

นายสมศักดิ์ ได้ติดตามความคืบหน้าคดีรถหรู ที่ถือเป็นนโยบายหลักในการเร่งจัดการคดีให้เรียบร้อยหลังจากที่มอบหมายให้ นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งดำเนินการให้เรียบร้อยภายใน 6 เดือน โดยขอให้ดีเอสไอรายงานความคืบหน้าทุก 2 สัปดาห์ เผื่อกรณีมีปัญหาติดขัดอะไรจะได้เร่งแก้ไขโดยเร็ว คัดไหนผิดก็ยึดตกเป็นของหลวง ไม่มีการรังแกกัน ดังนั้นผู้ที่ครอบครองรถต้องรีบเข้ามาให้ปากคำมาให้ข้อมูล การเร่งคดีเพื่อให้จบกระบวนการทำงานของดีเอสไอ ซึ่งความคืบหน้าคดีรถหรูล่าสุด กรมศุลกากรประเมินราคาและภาษีแล้ว 1,428 คัน ทางดีเอสไอได้มอบหมายผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษดำเนินการสอบสวนแล้ว 854 คดี พบผู้ต้องหาเป็นนิติบุคคล 113 ราย และเป็นบุคคลธรรมดา 1 ราย รวม 114 ราย และได้ตั้งเป็นคดีพิเศษ 207 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นและส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้ว 167 สำนวนคดี มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท สำนวนอยู่ระหว่างการสอบสวนคดีพิเศษ 40 คดี และสำนวนอยู่ระหว่างมอบหมายผู้รับผิดชอบ 367 คดี

Advertising

“บิ๊กตู่”โยน! “อนุทิน”ลั่นไม่ชี้แจงสหรัฐฯ ยันมติเดิมแบน 3 สารพิษตาม กม.ไทย

People Unity : “บิ๊กตู่”โยนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจงปมทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือค้านแบนไกลโฟเซต อ้างไทยไร้หลักฐานวิทย์พิสูจน์สารอันตราย “อนุทิน” ลั่นไม่ชี้แจงบอกพิจารณาตาม กม.ไทย ยันตามมติเดิม

เมื่อเวลา 09.35 น.วันที่ 24 ตุลาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ปี 2562 โดยก่อนการประชุมผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดค้านการห้ามใช้สารไกลโฟเชต ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สารเคมีทางการเกษตร ที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกเลิกใช้ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป โดยพล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบถึงกรณีดังกล่าว พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจง”

ลั่นไม่ชี้แจงสถานทูตสหรัฐฯขอไทยทบทวนมติแบนสารพิษ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จริงๆ แล้วสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกา ลงนามตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2562 แต่คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีการประชุมพิจารณาแบนสารเคมีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำไมมีการออกหนังสือล่วงหน้ามาถึง 11 วัน เช่นนี้แสดงว่า เป็นการกดดันหรือไม่ จะมาบอกว่าจะมีปัญหาเรื่องการนำเข้า ตนคงไปว่าเขาไม่ได้ เพราะเขาห่วงเรื่องกระเป๋าของเขา ไม่ได้ห่วงสุขภาพของคนไทย เพราะฉะนั้นเราต้องมีมาตรการ ถ้ากังวลว่าจะมีสารตกค้างก็ต้องมาพิสูจน์ว่าจะนำเข้ามาโดยไม่มีสารตกค้าง แต่นี่กลัวขายของไม่ได้เลยมาบอกให้รัฐบาลยกเลิกการห้ามสารพิษเพื่อให้ใช้ได้ แล้วเราจะยอมหรือไม่

นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายประชุมภายใต้กฎหมายของประเทศไทยใช่หรือไม่ หรือประชุมภายใต้กฎหมายต่างชาติ เพราะฉะนั้นกฎหมายไทยให้อำนาจคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาการใช้หรือห้ามใช้ ซึ่งคณะกรรมการวัตถุอันตรายจำนวน 29 คน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีความรู้ทั้งนั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมาเรียกประชุมในวันเดียว แต่มีการเตรียมมาเป็นปี และมีมติการห้ามใช้สารเคมีเหล่านี้ ไม่ได้มีการกดดันใดๆ ทางการเมืองแม้แต่น้อย มติที่ออกมาให้มีการยกเลิกการใช้สารเคมีเหล่านี้ก็เป็นไปตามสำนึกความห่วงใยต่อพี่น้องและสุขภาพประชาชน

เมื่อถามว่า สถานทูตสหรัฐฯ ส่งหนังสือโดยแนบท้ายหนังสือของสภาหอการค้าสหรัฐฯ ขอให้ไทยมีการทบทวนมติแบนสารเคมี โดยเฉพาะไกลโฟเซต ไทยจะยืนยันตามมติเดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนของกระทรวงสาธารณสุขยืนยันตามมติเดิม ส่วนกระทรวงอื่นก็ต้องแล้วแต่เจ้ากระทรวง เราก้าวก่ายกันไม่ได้ จริงๆ ก็ไม่ควรก้าวก่ายกัน กฎหมายใครกฎหมายมัน เมื่อถามต่อว่าจะต้องชี้แจงปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เพราะไม่ได้ส่งหนังสือมาถึงตน และตนก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปชี้แจง แต่หน้าที่ของ สธ.คือรับผิดชอบสุขภาพประชาชน อะไรก็ตามที่บริโภคเข้าไปแล้วเป้นอันตรายต่อร่างกาย สัมผัสแล้วเกิดแผลพุพอง สูญเสียอวัยวะ ตรงนี้เป็นคนละเรื่องกับการค้า ซึ่ง สธ.เกี่ยวข้องกับสุขภาพชีวิตคน เรื่องการค้าไม่ใช่เรื่องที่ สธ.จะให้ความเห็นอะไรได้ หรือจะมาเปลี่ยนแปลงจุดยืนของ สธ.ได้

พล.อ.ประยุทธ์ เข้าทำเนียบฯ เพจ PMOC โพสต์ “My Hero”

People Unity News : 12 กรกฎาคม 2566 “พล.อ.ประยุทธ์” เข้าทำเนียบฯ ทำงานตามปกติ หลังประกาศวางมือทางการเมือง ด้าน ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพ “บิ๊กตู่” ขึ้นข้อความ “My Hero”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.22 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ตามปกติ หลังเมื่อวานนี้(11 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศวางมือทางการเมือง และลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นการประกาศผ่านทางเพจเฟสบุ๊กพรรครวมไทยสร้างชาติ

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวางมือทางการเมือง เพจเฟซบุ๊กศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี หรือ PMOC ซึ่งเป็น เพจการทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความ “ขอบพระคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้งประเทศ 11 ก.ค.2566” พร้อมโพสต์รูปภาพ พล.อ.ประยุทธ์ เดินขึ้นบันไดบนตึกไทยคู่ฟ้า ชูมือสัญญลักษณ์ไอเลิฟยู และระบุข้อความ “มายฮีโรบนภาพ”

Advertisement

 

นายกฯยืนยันในที่ประชุมสภาฯ ไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์-ไม่เคยอนุมัติโครงการใดเป็นพิเศษ

People Unity News : นายกรัฐมนตรียืนยันในที่ประชุมสภาฯ ไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ แผนงาน/โครงการต้องผ่านการกลั่นกรองของคณะกรรมการทุกระดับ ไม่เคยอนุมัติโครงการใดเป็นพิเศษ

วันนี้ (3 ก.ค. 63) เวลา 17.00 น. ณ ห้องประชุมสุริยัน สัปปายะสภาสถาน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564  ยืนยันไม่เคยเรียกรับผลประโยชน์ การอนุมัติจัดงบประมาณผ่านกลั่นกรองของคณะกรรมการทุกระดับ ไม่เคยอนุมัติโครงการใดเป็นพิเศษ ขณะที่การลงทุน PPP เน้นความโปร่งใส ลดภาระด้านงบประมาณ

นายกรัฐมนตรีชี้แจงถึงแผนงานคมนาคมว่า มีการศึกษาพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะลงมือทำ โดยภาครัฐเน้นการลงทุนร่วมรัฐ-เอกชน หรือ PPP เพราะหากรัฐลงทุนเองจะใช้งบประมาณจำนวนมาก ดังนั้นการลงทุน PPP จะช่วยลดภาระด้านงบประมาณด้านการลงทุนของภาครัฐไปได้ โดยการประมูลและลงนามสัญญาต้องโปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย หลายโครงการก็ประสบความสำเร็จแล้ว หน้าที่ของรัฐบาลต้องดูแลประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งประชาชนผู้มีรายได้น้อยทั้งลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่ยืนหยัดได้เพราะไม่เคยเรียกผลประโยชน์จากใคร การอนุมัติดำเนินการเป็นไปตามการเสนอแผนงานโครงการ ผ่านการกลั่นกรองของคณะกรรมการทุกระดับ มีสัดส่วนงบประมาณชัดเจนถูกต้องและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม พร้อมรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน

นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการจัดสรรงบประมาณนั้น เน้นความถูกต้องโปร่งใส คำนึงถึงภาระและความเหมาะสม งบประมาณแบ่งออกเป็นหลายส่วน ทั้งงบกลางของส่วนราชการ งบบูรณาการ ขออย่านำงบประมาณฟื้นฟูมาปะปนกับงบประมาณรายจ่ายในงบประมาณปี 64  สำหรับการจัดซื้อเรือดำน้ำ ยืนยันว่า ยึดหลักเหตุผลความจำเป็น ดำเนินการด้วยความโปร่งใส  รวมทั้งพัฒนาเส้นทางคมนาคม ทั้งเพิ่มถนนสายใหม่และแก้ไขถนนเส้นเก่าที่มีปัญหา ก็ทยอยดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพราะไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1-2 ปี ขอยืนยันว่างบประมาณที่อนุมัติยึดตามพันธกิจของหน่วยงานเป็นสำคัญ

Advertising

“หมอสุภัทร” ร้อง โดนสั่งโยกย้ายไม่เป็นธรรม

People Unity News : 2 กุมภาพันธ์ 2566 “หมอสุภัทร” ร้อง กมธ.ป.ป.ช. โดนสั่งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ด้าน “เสรีพิศุทธ์” ชี้ โจรย่อมทิ้งร่องรอย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) รับหนังสือจาก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบทและผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เรื่องการโยกย้ายตนเองที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรม ไม่มีธรรมาภิบาลในกระทรวงสาธารณสุข

นพ.สุภัทร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวพบข้อพิรุธชัดเจน คือ มีการสั่งย้ายผู้ตรวจราชการ ทั้งที่แต่งตั้งได้เพียงเดือนเดียว เนื่องจากผู้ตรวจราชการคนดังกล่าวไม่ลงนามสั่งย้ายตนเอง อีกทั้งการโยกย้ายของกระทรวงสาธารณสุขโดยปกตินั้น เป็นอำนาจของปลัด แต่ครั้งนี้ ปลัดไม่ลงนาม แต่ทำหนังสือระเบียบการย้ายขึ้นมาใหม่ และให้อำนาจผู้ตรวจราชการย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนได้ ชัดเจนว่าการโยกย้ายครั้งนี้ส่อถึงความไม่มีธรรมาภิบาลในกระทรวงสาธารณสุข

นพ.สุภัทร ตั้งข้อสังเกตว่า นอกจากนี้ ยังมีป้ายนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่มีรูปของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเด่นชัด จึงมองว่าอาจมีการหาเสียงแอบแฝงหรือไม่ จึงนำเรื่องนี้มาให้กรรมาธิการ ป.ป.ช.ตรวจสอบด้วยว่าผิดกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือไม่

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า โจรย่อมทิ้งร่องรอย และสิ่งที่ยื่นหลักฐานมา ถือเป็นข้อผิดสังเกตในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ จึงจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในชั้น กมธ.ป.ป.ช.ต่อไป

Advertisement

ด่วน!! ศาล รธน.ชี้ขาด กม.ลูกพรรคการเมืองพรุ่งนี้

People Unity News : 22 พฤศจิกายน 2565 ศาลรัฐธรรมนูญ นัดลงมติร่างกฎหมายลูกพรรคการเมืองขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่พรุ่งนี้ ชี้เป็นปัญหาทางข้อกฎหมาย มีพยานหลักฐานเพียงพอวินิจฉัยได้ ยุติไต่สวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) เวลา 09.30 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติกรณีที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 77 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่.. ) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9  และมาตรา 10 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก.ด้านการเมือง (2) หรือไม่ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่

ทั้งนี้ คำร้องดังกล่าว ประธานรัฐสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเมื่อวันที่  29 สิงหาคมที่ผ่านมา และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งแจ้งผู้ร้อง และให้ผู้เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือ พร้อมส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาทางข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติพรุ่งนี้

Advertisement

“กรณ์” จวก ลดค่าไฟแค่ 2 สตางค์ อย่าอ้างว่าช่วย

People Unity News : 23 เมษายน 2566 “กรณ์” จวก ลดค่าไฟแค่ 2 สตางค์ อย่าอ้างว่าช่วย ยันต้องยกเลิกค่าไฟฟ้าFT 3 เดือนสุดร้อนเพื่อประชาชน

จากกรณีมีข่าวว่าคณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) มีมติเห็นชอบตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าวงเงิน 130,000 ล้านบาท แทนประชาชนจาก 5 งวด ที่มีการเรียกเก็บค่าเอฟทีทุก 4 เดือน หรือ 20 เดือน จากงวดละ 27,000 ล้านบาท เป็น 6 งวด หรือ 24 เดือน เป็นเหลือเพียงงวดละ 22,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวดที่ 2 ของปีนี้ (พ.ค.-ส.ค.) ลดลง 7 สตางค์ ต่อหน่วย จากเดิมที่ประกาศจัดเก็บ 4.77 บาท เหลือเพียง 4.70 บาทต่อหน่วย

ในประเด็นดังกล่าว นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า จากกระแสค่าไฟแพง ที่ตนออกมาเรียกร้องเมื่อเดือนมีนาคม จนตอนนี้ปัญหาค่าไฟแพง กลายเป็นประเด็นรุนแรงทั่วโซเชียล จนคณะอนุกรรมการเอฟทีชงบอร์ด กกพ. ให้ลดค่าไฟ แต่ตัวเลขที่ลดมันน้อยจนน่าเกลียด

“ผมขอไม่ใช้คำว่าลด 7 สตางค์ตามข่าวนะครับ เพราะเดือนนี้จ่ายอยู่ 4.72 เดือนหน้าจ่าย 4.70 นับยังไงก็ 2 สตางค์ อย่าเอาตัวเลขเดือนหน้าที่จะขึ้นอย่างไร้เหตุผลเป็น 4.77 บาทมาหลอกกัน ผมเสนอว่ายกเลิกค่าเอฟที 3 เดือนสุดร้อนนี้ ลดไป 93 สตางค์ต่อหน่วย ลองคิดตามผมนะครับ สมมติเราใช้ไฟ 485 หน่วย เราจ่ายค่าไฟเดือนนี้ 2,564.05บาท ถ้าไม่คิดค่าเอฟที ค่าไฟจะลดเหลือ 2,111.05บาท ลดไป 453 บาท (485 หน่วย x 0.93 สตางค์) แต่ถ้าลด 2 สตางค์ตามที่ กกพ. กำลังจะเปิดรับความคิดเห็น 485 หน่วย คูณ 0.02 สตางค์ ลดได้ 9.72 บาท ยังไม่สิบบาทเลยครับ” นายกรณ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาแบบขอไปทีเช่นนี้คือเหตุผลที่เลือกตั้งครั้งนี้ต้องเลือกพรรคที่จริงใจจริงจัง และเสมอต้นเสมอปลายกับการชนกับทุนผูกขาด

Advertisement

“เทวัญ”เร่ง”สคบ.”เคลียร์คดีสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน

People Unity News : “เทวัญ”นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เร่งเคลียร์คดีสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน ช่วยผู้เสียหาย ตามนโยบาย สคบ. เชิงรุก

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ครั้งที่ 5/2562 ณ ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และร่างคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ที่ประชุมยังได้พิจารณาการดำเนินคดีด้านอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 29 เรื่อง ซึ่งส่วนมากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการเช่าซื้อห้องชุดและบ้านที่อยู่อาศัยก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ โดยขอให้มีการดำเนินคดีทางแพ่งและเร่งรัดให้ดำเนินการยุติโดยเร็ว นอกจากนี้ ที่ประชุมมีการพิจาณาดำเนินคดีด้านสินค้าและบริการ จำนวน 18 เรื่อง โดยส่วนมากเป็นเรื่องของการซื้อสินค้าและบริการแล้วไม่ได้ตามที่โฆษณาไว้ โดยอาจมีสินค้าชำรุด บกพร่อง เสียหาย

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ ทั้งเรื่องการดำเนินคดีกรณีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีการลักลอบจำหน่ายเป็นวงกว้าง แม้ที่ผ่านมา สคบ. ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถจับกุมการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าออนไลน์รายใหญ่ได้ก็ตาม และย้ำให้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลและรายละเอียดการขอสินเชื่อบ้าน ที่ครอบคลุมถึงการทำสัญญาระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เพราะมีผ่านมามีกลุ่มผู้บริโภคต้องการซื้อบ้าน มีการวางมัดจำแต่สินเชื่อไม่ผ่าน และไม่สามารถเรียกเงินคืนจากโครงการขายได้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้แต่ละคณะตรวจสอบเรื่องตกค้างที่ร้องมาเป็นระยะเวลานาน หรือเรื่องที่ค้างการพิจารณา ให้รีบดำเนินการนำเรื่องต่างๆ อย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะมีบางเรื่องที่ร้องเรียนมานานแล้วยังไม่ได้รับการพิจารณา

“ไพศาล”ชี้ไทยไม่ต้องกลัวสหรัฐตัดสิทธิGSPเข้ากลุ่มเซี่ยงไฮ้จบ

People Unity : “ไพศาล พืชมงคล” กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี ชี้ไทยไม่ต้องกลัวสหรัฐตัดสิทธิGSPเข้ากลุ่มเซี่ยงไฮ้จบ

วันที่ 26 ต.ค.2562 นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรอง นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก“ Paisal Puechmongkol” ถึงกรณีสหรัฐฯ ตัดสิทธิจีเอสพีไทย ระบุว่า ถ้าไทยเข้ากลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ก็ไม่ต้องกลัวได้รับผลกระทบใดๆ จากเรื่องแบบนี้อีกต่อไปมิฉะนั้นระบบเศรษฐกิจไทย และการค้าต่างประเทศไม่มีวันที่จะมีเสถียรภาพและความมั่นคงได้เลย เว้นแต่จะยอมเป็นเมืองขึ้นแบบบางประเทศข้อกล่าวหาแบบนี้จะกล่าวหากันได้ทุกวัน

Verified by ExactMetrics