วันที่ 19 พฤษภาคม 2024

อุบัติเหตุสงกรานต์ 5 วัน เกิดเหตุ 1,478 ครั้ง บาดเจ็บ 1,452 คน ตาย 204 ราย

People Unity News : ศปถ. สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ สะสม 5 วัน เกิดเหตุ 1,478 ครั้ง บาดเจ็บ 1,452 คน เสียชีวิต 204 ราย

16 เม.ย. 65 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการ ศปถ. แถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เม.ย.65 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 277 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 263 คน ผู้เสียชีวิต 44 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็น ขับรถเร็วเกินกำหนด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์

ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุสะสม 5 วัน ตั้งแต่ 11 – 15 เม.ย.65 เกิดอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,452 คน ผู้เสียชีวิต 204 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต รวม 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง นครพนม บึงกาฬ ปราจีนบุรี ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ

นายบุญธรรม กล่าวว่า วันนี้ (16 เม.ย.65) ประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้าสู่ กทม.และจังหวัดเขตเศรษฐกิจ ทำให้มีปริมาณรถหนาแน่น ศปถ. ได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการเดินทาง ควบคู่กับมาตรการป้องกันโควิด – 19 อย่างเข้มข้น จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก สายรอง ทางเลี่ยง ทางลัด ทางตรง วิ่งสวนเลน และไม่มีเกาะกลาง พร้อมคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เปิดช่องทางพิเศษ เร่งระบายรถ ปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ พร้อมเตือนให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ เนื่องจากประเทศไทยจะเกิดพายุฤดูร้อน ระหว่างวันนี้ – 18 เม.ย.65 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และ กทม. อาจทำให้สภาพถนนเปียกลื่น และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน

Advertisement

อุตุฯ เตือน 16-18 เม.ย.นี้ ทั่วไทยรับมือ “พายุฤดูร้อน”

People Unity News : 15 เมษายน 2565 ในช่วงวันที่ 16-18 เมษายน 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มได้รับผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป

ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ฃไม่แข็งแรง และขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางสัญจรผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งอาจเกิดอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่าได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

Advertisement

WHO เผยยอดป่วยโควิด-19 ทั่วโลก ทะลุ 500 ล้านรายแล้ว ทวีปยุโรปและอเมริกาป่วย-ตายสูงสุด

People Unity News : 15 เมษายน 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ได้รับการยืนยันผลพุ่งสูงเกิน 500 ล้านรายแล้ว

จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลทั่วโลกอยู่ที่ 500,186,525 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยเสียชีวิต 6,190,349 ราย เมื่อนับถึง 18.36 น. ตามเวลามาตรฐานสากล

สหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลและผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลกด้วยผู้ป่วยสะสมมากกว่า 79.71 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 979,321 ราย ซึ่งต่างคิดเป็นเกือบร้อยละ 16 ของทั้งโลก

รองลงมาคืออินเดียมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมสูงเกิน 43 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 521,737 ราย และบราซิลมีผู้ป่วยสะสมสูงเกิน 30 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 661,493 ราย

ปัจจุบันภูมิภาคยุโรปและอเมริกา มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลสูงเกิน 209 ล้านราย และ 151 ล้านราย รวมถึงผู้ป่วยเสียชีวิต 1,964,786 ราย และ 2,711,779 ราย

ภูมิภาคข้างต้นทั้งสองมีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลสะสมรวมกันคิดเป็นกว่าร้อยละ 72 ของผู้ป่วยยืนยันผลทั่วโลก และมีผู้ป่วยเสียชีวิตรวมกันคิดเป็นกว่าร้อยละ 75 ของผู้ป่วยเสียชีวิตทั่วโลก

ทั้งนี้ องค์การฯ เตือนว่าโรคโควิด-19 ยังคงเป็นเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ แม้จำนวนผู้ป่วยใหม่และผู้ป่วยเสียชีวิตรายสัปดาห์ลดลงต่อเนื่อง จึงแนะนำประเทศต่างๆ เตรียมพร้อมรับมืออย่างรวดเร็ว

Advertisement

คปภ.จับมือภาคธุรกิจ มอบ “ประกันภัย 10 บาท” ฟรี!!! เป็นของขวัญให้คนไทยเทศกาลสงกรานต์

People Unity News11 เมษายน 2565 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย “กรมธรรม์ประกันภัยสงกรานต์สุขใจ (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565” เพื่อมอบเป็นของขวัญวันปีใหม่ไทยให้กับคนไทยทั่วประเทศ โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยเพียง 10 บาท ให้ความคุ้มครองหลักๆ คือ ความคุ้มครองที่ 1 กรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกายและ/หรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาท ความคุ้มครองที่ 2 กรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกายและ/หรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครอง 50,000 บาท ความคุ้มครองที่ 3 ค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย (ยกเว้นกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยภายใน 15 วันแรก นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาประกันภัย) จะได้รับความคุ้มครอง 5,000 บาท ความคุ้มครองที่ 4 ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน กรณีได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (สูงสุดไม่เกิน 30 วัน) จะได้รับความคุ้มครอง 200 บาทต่อวัน ความคุ้มครองที่ 5 ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในในห้อง ICU กรณีได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (ผลประโยชน์รวมความคุ้มครองที่ 4 ไม่เกิน 30 วัน) จะได้รับความคุ้มครอง 400 บาทต่อวัน

สำหรับเงื่อนไขการรับประกันภัยที่สำคัญ คือ ผู้ทำประกันภัยต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ ถึง 70 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ทำประกันภัย ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยแต่ละราย มีสิทธิได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 1 กรมธรรม์ต่อผู้ประกอบการ 1 ราย เท่านั้น โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นผู้ถือกรมธรรม์ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยให้กับคนไทยทั่วประเทศ และเนื่องจากประกันภัย 10 บาทดังกล่าวเป็นกรมธรรม์กลุ่มที่ประชาชนไม่ต้องจ่ายเงินซื้อกรมธรรม์ โดยสามารถรับสิทธิฟรีจากการไปใช้บริการตามเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการซึ่งเข้าร่วมโครงการกำหนด ได้แก่ ธนาคารออมสิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัท โลตัสส์ เจเนอรัล อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AIS) บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด Café Amazon บริษัท เคาน์เตอร์ เซอร์วิส จำกัด บริษัท แรบบิท อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด และบริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด

หากบุคคลทั่วไปต้องการซื้อโดยตรงสามารถรวมตัวเป็นกลุ่มซื้อจากบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่  บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท เจมาร์ท ประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอไอเอ จำกัด ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2565

“เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ สำนักงาน คปภ. ขอส่งความสุขวันปีใหม่ไทยมาให้ทุกท่านและขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท ผู้ที่ใช้รถยนต์อย่าลืมคาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย เมาไม่ขับ เตรียมสภาพร่างกาย และตรวจสภาพรถให้พร้อม ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญควรตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด และควรทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและประกันชีวิตอื่นๆด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยเยียวยาความสูญเสียต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ด้วยความไม่ประมาท อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกันภัยสามารถสอบถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วง 7 วันอันตราย คือระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2565 ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect ” เลขาธิการ คปภ. กล่าว

Advertisement

ศกพ.ประกาศแจ้งเตือน PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐาน งดกิจกรรมกลางแจ้ง 9 – 11 เมษายน

People Unity News : ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานคุณภาพอากาศวันที่ 9 เมษายน 2565 สรุปสถานการณ์ PM2.5 พบเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ สรุปได้ดังนี้

  • ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 43 – 114 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 43 – 94 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคกลางและตะวันตก ตรวจวัดได้ 49 – 78 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคตะวันออก ตรวจวัดได้ 43 – 54 มคก./ลบ.ม.
  • ภาคใต้ ตรวจวัดได้ 10 – 17 มคก./ลบ.ม.
  • กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ตรวจวัดได้ 38 – 105 มคก./ลบ.ม.

โดยการเพิ่มสูงขึ้นนี้มีสาเหตุจากแหล่งกำเนิดในพื้นที่ รวมถึงพบจุดความร้อนที่กระจายตัวอยู่ทั้งในประเทศและประเทศอนุภูมิภาคแม่โขง ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา ประกอบกับสภาพอุตุนิยมวิทยาไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นในพื้นที่ สภาพอากาศที่นิ่ง ลมอ่อน

ศกพ. คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 พบว่าในช่วงวันที่ 9 – 11 เมษายน 2565 ควรมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากสภาพอุตุนิยมวิทยาไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นในพื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศที่นิ่ง การยกตัวของมวลอากาศต่ำ หากจุดความร้อนมีจำนวนมากอาจส่งผลให้สถานการณ์ฝุ่นละอองสูงขึ้น ทั้งนี้หลังวันที่ 11 เมษายน 2565 สถานการณ์ฝุ่นละอองจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศนิ่งลดลงรวมถึงการยกตัวของมวลอากาศสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตามต้องดำเนินการควบคุมจุดความร้อนทั้งภายในและภายนอกประเทศควบคู่ไปด้วยกัน

ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 9 – 11 เมษายน 2565 ศกพ. ขอให้พี่น้องประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด งดกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยท่านสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK

Advertisement

ศบค. คง 4 มาตรการป้องกันควบคุมโควิด เตรียมบุคลากร เตียง ยา เวชภัณฑ์ รับมือสงกรานต์

People Unity News : ที่ประชุม ศบค. (8 เม.ย. 65) เห็นชอบการคงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่สีฟ้า – เหลือง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ทั้งการจำกัดเวลาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ไม่เกิน 23.00 น./ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ต้องผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2-Plus และมาตรการ COVID Free Setting/ สถานบริการ สถานบันเทิง เปิดแบบร้านอาหารได้ โดยขออนุญาต คกก.โรคติดต่อจังหวัด – กทม./ Work From Home ตามความเหมาะสม

วันนี้ (8 เม.ย. 65) เวลา 09.45 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 6/2565 รับทราบร่างการปรับมาตรการผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ประเภท Test & Go Sandbox และ Quarantine ระยะ 2

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อที่ประชุมว่า ต่างประเทศชื่นชมการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของไทยที่ผ่านมา พบว่าสัดส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาติดเชื้อน้อย และหลังจากที่ผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ มีการเดินทางเข้าใหม่มากขึ้น โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มบุคลากรในการปฏิบัติงาน เพื่ออำนวยความสะดวกและประสิทธิภาพการบริการด้วย สำหรับการประชุม ศบค.วันนี้ เพื่อรับทราบสถานการณ์ ติดตามประเมินสถานการณ์ภายหลังจากที่ได้มีการผ่อนคลายหลักเกณฑ์มาตรการเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 แต่ยังคงมาตรการการเดินทางเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go ซึ่งเป็นภาวการณ์ที่หลายประเทศก็มีการผ่อนคลายการเข้าประเทศ และบางประเทศได้เปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัว ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้การท่องเที่ยวได้ฟื้นตัวและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ทันต่อสถานการณ์ นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ และการเดินทางเข้าประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยวันนี้จะเห็นว่าชาวต่างชาติได้ทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ถึงแม้จะมีอาการไม่รุนแรง แต่ก็มีอัตราการติดเชื้อที่สูง ติดเชื้อได้ไว และหากการควบคุมทำได้ไม่ดีพอ จะส่งผลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนัก และจำนวนผู้เสียชีวิตที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้น จากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่อัตราผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ขอให้พิจารณาให้ผู้ป่วยกลุ่ม 608 และเด็ก สามารถเข้ารับการรักษาในระบบ UCEP Plus ในสถานพยาบาลได้ โดยไม่ต้องรอรักษาตามอาการ และขอให้ ศปก.สธ. ศปก.ศบค. และศปม. ช่วยกันระดมสรรพกำลังบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เตียง ยา และเวชภัณฑ์ ให้มีเพียงพอต่อการดูแลผู้ติดเชื้อทั้งในขณะนี้และช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่แนวทางการดูแลประชาชนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขอให้เพิ่มจำนวนคู่สายของสายด่วน 1330 เพิ่มช่องทางติดต่ออื่นๆ และเตรียมความพร้อมของระบบให้รองรับความต้องการในปริมาณมากได้ รวมถึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับเรื่องเข้าระบบและให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็วที่สุด

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน คงจะยังไม่จบง่ายๆ และองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม XE ที่สามารถแพร่เชื้อติดต่อได้ง่ายและเร็วกว่าทุกสายพันธุ์ ในเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะเกิดได้จากการเดินทางกลับบ้าน แล้วมีการพบปะสังสรรค์กันจำนวนมาก จึงอาจส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น มีผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผู้ที่เคยป่วยโควิดแล้วก็อาจจะติดเชื้อซ้ำได้อีก ซึ่งเป็นข้อมูลจากทางสาธารณสุข ถึงแม้ว่าจะฉีดวัคซีนมาแล้วก็ตาม ถ้าหากไม่ระวังตัวเอง จึงขอให้ ศปก.สธ. เพิ่มประสิทธิภาพของระบบการติดตามการกลายพันธุ์ของเชื้อในประเทศไทย เพื่อเตรียมการรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นายกรัฐมนตรีย้ำให้เร่งให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับภาวะหลังติดเชื้อโควิด-19 (Long COVID) เพราะการติดเชื้อโรคโควิด-19 ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ แม้หายแล้วก็จะมีโอกาสเกิดภาวะผิดปกติระยะยาวในผู้ป่วยบางราย จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการกำกับติดตาม เฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเต็มความสามารถต่อไป รวมถึงเตรียมแผนรับมือกับภาวะหลังติดเชื้อโควิด-19 เพื่อดูแลผู้ป่วยที่อาจประสบปัญหา Long COVID จนทำให้บั่นทอนสมรรถนะในการดำรงชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าการวิจัยพัฒนาวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19 มีความสำคัญมาก ขอให้เป็นวาระรายงานในที่ประชุม ศบค. เป็นระยะๆ เป็นแนวทางให้ประชาชนได้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนให้ป้องกันตัวเองและครอบครัวอย่างสูงสุดต่อไปอีก จะต้องไม่ประมาท โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สถานประกอบการต่างๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เจ้าหน้าที่ต้องไม่หละหลวม ไม่ปล่อยปละละเลย หากตรวจพบจะต้องลงโทษสถานหนักทุกพื้นที่ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาด ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิตให้ได้ เพื่อจะได้อยู่ร่วมกับโควิดได้โดยไม่เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคม ขอฝากทุกคนให้ช่วยกันดูแลด้วย และนายกรัฐมนตรียังกำชับให้มีการเตรียมความพร้อมมาตรการต่างๆที่เหมาะสม เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียนวันที่ 17 พฤษภาคมนี้

สำหรับมติที่ประชุม ศบค. ที่สำคัญมีดังนี้

1.รับทราบร่างการปรับมาตรการผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ประเภท Test & Go Sandbox และ Quarantine ระยะ 2 (พฤษภาคม 2565) ที่มีแผนงาน ประกอบด้วย 1. ระบบการลงทะเบียน – ปรับหลักฐานที่ต้องใช้ในระบบ Thailand Pass 2. ผลตรวจก่อนเดินทาง – ยกเลิกตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางทั้ง 3 กลุ่ม  3. ประกันภัย – ผ่อนคลายวงเงินประกัน หรืออื่น ๆ 4. ปรับรูปแบบการตรวจหาเชื้อ เมื่อมาถึง และระหว่างพำนัก กรณี Test & Go – ปรับรูปแบบการตรวจหาเชื้อฯ เมื่อเดินทางมาถึง กรณี Quarantine ลดระยะเวลากักตัว กรณีผู้ควบคุมยานพาหนะฯ และลูกเรือ ลดระยะเวลากักตัว หรือผ่อนคลายอื่นๆ 5. กรณีผู้เดินทางติดเชื้อฯ และกรณีเป็นผู้เสี่ยงสูง (HRC) – ผู้ติดเชื้อฯ อาการเล็กน้อย (ผู้ป่วยสีเขียว) ผ่อนคลายอื่นๆ – ผู้เสี่ยงสูง (HRC) ยกเลิกการกักตัว หรือผ่อนคลายอื่นๆ

2.เห็นชอบแผนการจัดหา Long-acting antibody (LAAB) สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงที่ภูมิคุ้มกันต่ำ ที่มีหลักการ ฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Passive immunity) ในกลุ่มเสี่ยงสูงที่ไม่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ด้วยวัคซีน มีรายละเอียดในเอกสารกำกับยา คือ 1) เป็น Antibody ชนิด long-acting antibody มีส่วนประกอบ 2 ชนิด (150 mg tixagemab co-packaged with 150 mg cilgavimab) 2) ผ่านการรับรองใช้แบบฉุกเฉิน EUA โดย US FDA เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 3) ขึ้นทะเบียนยาโดยบริษัท AstraZeneca ประเทศอังกฤษเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 มีข้อบ่งใช้ คือ กลุ่มเป้าหมายผู้มีความเสี่ยงสูงที่ภูมิคุ้มกันต่ำ โดยให้ก่อนการสัมผัสโรค สำหรับเชื้อไวรัสโควิด ขนาดการใช้ ฉีดเข้ากล้ามทุก 6 เดือน ภูมิต้านทานสามารถป้องกันโควิด19 ได้ 6 -12 เดือนต่อการให้ 1 ครั้ง ประสิทธิผล ร้อยละ 83 ในการลดความเสี่ยงของอาการรุนแรงของโควิด 19 สายพันธุ์ Omicron subvariants BA.1 BA.2 และ BA.1.1 สำหรับกระบวนการจัดหา หารืออัยการสูงสูงสุดแนะนำให้ปรับสัญญากับบริษัท AstraZeneca โดยเปลี่ยนจากวัคซีน AstraZeneca บางส่วน โดยอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณเดิมที่ ครม. อนุมัติแล้วและไม่ต้องเสียงบประมาณเพิ่ม (ข้อมูล ณ 8 เมษายน 2565)

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยนโยบายของรัฐบาล และ ศบค. ขอให้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัย เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมของตัวเองในการเดินทาง เคารพกฎจราจร ปลอดภัยจากโควิดและเดินทางปลอดภัย พร้อมย้ำว่า ขอให้รักตนเอง รักครอบครัว รักผู้อื่น

Advertisement

เริ่มแล้ว! ห้ามนำโฟม-พลาสติกใช้ครั้งเดียวเข้าอุทยานฯทั่วประเทศ ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 1 แสนบาท

People Unity News : เริ่มแล้ว! ห้ามนำโฟม – พลาสติกใช้ครั้งเดียวเข้าอุทยานฯ ทั่วประเทศ ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 1 แสนบาท

7 เมษายน 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมและบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single – use plastics) เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อสงวน อนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปะการัง ระบบนิเวศ และเป็นการลดขยะในอุทยานแห่งชาติ เริ่ม 6 เม.ย. 65 เป็นต้นไป

โฟม – พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งที่ห้ามนำเข้าอุทยานฯ ได้แก่ พลาสติกหูหิ้วความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน กล่องบรรจุอาหารพลาสติก แก้วพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) หลอดพลาสติก และช้อนส้อมพลาสติก หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มีโทษปรับสูงสุด 100,000 บาท

Advertisement

ประยุทธ์ เห็นด้วยรีไซเคิลรถยนต์เก่าอายุ 20 ปีขึ้นไปทุกประเภท เผยทั่วประเทศมีกว่า 5 ล้านคัน

People Unity News :  ประยุทธ์ สนับสนุนการรีไซเคิลรถยนต์เก่าหวังลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และลดต้นทุน และลดการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ

วันนี้ (4 เมษายน 2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบการดำเนินการสนับสนุนการรีไซเคิลซากรถทั่วประเทศ ตามมาตรการรองรับขยะจากซากรถยนต์เก่าที่หมดอายุการใช้งานในประเทศ อีกทั้งช่วยลดปริมาณการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ และช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5

จากสถิติประเทศไทยมีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ทุกประเภท รวมทั้งสิ้น 5,033,307 คัน ซึ่งหากไม่ได้รีไซเคิลให้ถูกต้องเหมาะสม ในอีก 20 ปีข้างหน้า รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี จะเพิ่มเป็น 16 ล้านคัน รถยนต์เก่าเหล่านี้หากนำมาใช้งาน และขาดการบำรุงรักษาตามมาตรฐานจะเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ประกอบกับ การรีไซเคิลที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ จะสามารถนำทรัพยากรจากการแยกซากรถมาหมุนเวียนให้กลายเป็นชิ้นส่วนที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม ซึ่งจะลดปริมาณการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ ซึ่งในรถยนต์หนึ่งคันมีสัดส่วนเหล็กมากถึง 69%

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) โครงการสาธิตสำหรับการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนที่คำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานเพื่อการรีไซเคิลทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมสำหรับซากยานพาหนะที่หมดอายุใช้งานในประเทศไทย (ELV Project: End-of-life Vehicles in Thailand) ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ องค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEDO: New Energy and Industrial Technology Development) ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า จะเป็นโอกาสสร้างศักยภาพ และการแข่งขันให้ไทย โดยไทยจะเป็นต้นแบบการรีไซเคิลทั้งในประเทศ และในภูมิภาคเอเชีย ต่อไปในอนาคต ด้วยวิสัยทัศน์ และการดำเนินนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการแก้ไขปัญหาในภาพรวม ซึ่งในการแก้ไขแต่ละปัญหานั้น สามารถสร้างโอกาส สร้างลู่ทางพัฒนาประเทศร่วมกันไปด้วย นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการการทำงานหาแนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อให้ธุรกิจเกี่ยวกับการรีไซเคิลรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานขยายตัว ซึ่งนอกจากจะสร้างงานสร้างอาชีพ เกิดโอกาสการเติบโตของประชาชน ยังสามารถแก้ปัญหาลดขยะซากรถ นำรถยนต์ที่หมดอายุการใช้งานมาหมุนเวียนให้กลายเป็นชิ้นส่วนที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม และสามารถต่อยอดแนวความคิดให้ไทยเป็นต้นแบบเกิดระบบจัดการซากรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนายกฯขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมหาแนวคิดต่อยอดทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Advertisement

WHO เตือน โอมิครอนลูกผสม XE อาจแพร่เชื้อได้เร็วที่สุดเท่าที่เคยพบมา

People Unity News : 2 เมษายน 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกคำเตือนเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์โอมิครอนลูกผสมเอ็กซ์อี (XE) ที่เชื่อว่าอาจสามารถแพร่เชื้อได้รวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยพบมานับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปลายปี 62

สำหรับเชื้อโอมิครอน XE เป็นเชื้อลูกผสมระหว่างเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.1 กับสายพันธุ์ย่อย BA.2

โดย BA.2 นั้น กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 แล้วร้อยละ 86 ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมด เนื่องจากสายพันธุ์ย่อย BA.2 สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ได้ดีกว่าและแพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์ BA.1 ถึงร้อยละ 30 ขณะที่สายพันธุ์ลูกผสม XE สามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าBA.2 ถึงร้อยละ 10

องค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อโอมิครอน XE ถูกพบครั้งแรกในอังกฤษเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา และขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้แล้วไม่น้อยว่า 600 คน โดยยังจัดให้เชื้อลูกผสม XE เป็นสายพันธุ์ย่อยของเชื้อโอมิครอนต่อไป จนกว่าจะตรวจสอบพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการแพร่เชื้อ ลักษณะอาการป่วย และความรุนแรงของโรค

Advertisement

นายกฯ ย้ำเตือนประชาชน รู้ทันกลลวงใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ล่าสุดหลอกค่าเทอมผู้ปกครอง!!

People Unity News : นายกฯ ย้ำเตือนประชาชน รู้ทันกลลวงใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ “อย่าโอน” ล่าสุดหลอกค่าเทอมผู้ปกครอง แถมล้วงคองูเห่า ล้วงข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปหลอกเหยื่ออีกทอด

2 เมษายน 2565 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำเตือนประชาชน รู้ทันกลลวงใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่าหลงเชื่อ โอนเงินให้มิจฉาชีพ ซึ่งปัจจุบันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการหลอกลวงหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะในไลน์กลุ่มการศึกษา ไลน์รับนักเรียนหรือไลน์ต่างๆ ซึ่งได้มีการให้จ่ายค่าเทอมโดยอ้างว่าจ่ายแล้วได้เรียน 100% และมาควบคู่กับการทำประกันโควิด 19 โดยระบุให้โอนเข้าไปในบัญชีมิจฉาชีพ รวมทั้งมีมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นครูธุรการการเงินประจำโรงเรียน โดยใช้ชื่อและรูปโปรไฟล์ Facebook ของครูการเงิน เพื่อสร้าง open chat สำหรับติดต่อกับผู้ปกครองของนักเรียนเพื่อหาประโยชน์โดยมิชอบ

มากไปกว่านั้น “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ยังได้เปลี่ยนกลโกงใหม่ให้แยบยลอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระบวนการยุติธรรม ติดต่อไปยังหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนหลอกเอาข้อมูลของประชาชนไปหลอกเหยื่ออีกทอด โดยการหลอกลวง มุ่งเน้นไปยังหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรเอกชนมากขึ้น ซึ่งมิจฉาชีพจะแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกระบวนการยุติธรรม เช่น อัยการ ศาล ปปช. ปปท. และหน่วยงานอื่นๆ โทรเข้าไปยังหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ อ้างว่าต้องการประสานงาน หรือขอความร่วมมือในการติดตามบุคคลเพื่อขอหมายจับ หรือต้องการข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ของประชาชนที่เป็นเป้าหมาย บางครั้งอาจจะมีการหลอกให้ทางเจ้าหน้าที่ติดต่อไปหาเป้าหมายโดยตรง เพื่อสร้างความนน่าเชื่อถือก่อน จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะโทรไปหาเป้าหมายเพื่อหลอกลวงเหยื่ออีกครั้ง

นายกฯ ขอให้ทุกคนมีสติ อย่าตื่นตระหนกหลงเชื่อเมื่อรับสายคนไม่รู้จัก อ้างและบอกให้ทำในสิ่งที่ผิดไปจากปกติ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการเงิน ขอให้สันนิษฐานว่าเป็นมิจฉาชีพ หากไม่แน่ใจให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ของรัฐ พร้อมชื่นชมประชาชนที่อัดคลิปแล้วนำมาเผยแพร่ผ่านโซเซียล ทำให้ประชาชนรับทราบรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆมากยิ่งขึ้น

Advertisement

Verified by ExactMetrics