วันที่ 6 มิถุนายน 2023

MEA เตือนภัยพายุฤดูร้อน แนะวิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า

People Unity News : 1 พฤษภาคม 2566 MEA ห่วงใย เตือนภัยพายุฤดูร้อนล่าสุด แนะนำวิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า

ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ 1 พฤษภาคม 2566 ฉบับที่ 8 เรื่อง เตือนภัยพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย ระบุว่าในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง อาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ รวมถึงภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

นายคมกริช สาคริก ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทย ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ มีความห่วงใยประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดพายุฝนลมแรง โดยขอแนะนำให้ตรวจสอบโครงสร้างป้ายโฆษณาให้อยู่ในสภาพที่แข็งแรงมั่นคงปลอดภัย และตรวจสอบระยะห่างของป้ายโฆษณากับสายไฟฟ้าให้มากขึ้นเพราะอาจส่งผลกระทบกับระบบไฟฟ้าอาจทำให้ไฟฟ้าดับ และขอให้ประชาชนอยู่ห่างจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงใกล้แนวสายไฟฟ้า เพราะกิ่งไม้อาจหักโค่นจากลมกระโชกแรงและพาดลงมาทำให้เสาไฟฟ้าล้ม หรือสายไฟฟ้าขาด เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งขอแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าหากชำรุดเร่งซ่อมแซมแก้ไข และสำรวจต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านของตนเอง ให้กิ่งไม้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยไม่ระสายไฟฟ้าเพราะอาจทำให้ไฟฟ้าดับ รวมไปถึงอาจจะทำให้มีกระแสไฟฟ้ารั่วมาตามกิ่งไม้ที่เปียกน้ำจากฝนฟ้าคะนองได้พร้อมทั้งควรติดตามข่าวสารสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นสายไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าของ MEA ชำรุด หรืออยู่ในสภาพที่ไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ MEA ได้ทุกเขต หรือที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 รวมถึงสามารถแจ้งผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter : @mea_news หรือ แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้องผ่าน MEA Smart Life ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนระบบiOS และ Android ของ MEA ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดาวน์โหลดฟรี คลิก https://onelink.to/measmartlife

Advertisement

ค่าไฟแพง มิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ทิพย์

People Unity News : 29 เมษายน 2566 รัฐบาลเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ทิพย์ พบระบาดช่วงหน้าร้อน แม้แนวโน้มการแจ้งความคดีออนไลน์ลดลงหลังกฎหมายเข้มงวดขึ้น แต่ตำรวจยังพบการหลอกลวงหลายรูปแบบ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากรัฐบาล ได้บังคับพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.66 ได้ปราบปรามอย่างเข้มงวด โดยศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่า สถิติการแจ้งความคดีออนไลน์ ตั้งแต่ 1 มี.ค. 65 -24 เม.ย.66 มีคดีออนไลน์ 244,734 คดี นับว่ามีแนวโน้ม ลดลงจาก 27,000 คดีต่อเดือนในเดือน ธ.ค.65 ลดลงเป็น 24,000 คดีในเดือนมกราคม 21,000 คดีกุมภาพันธ์ และ 20,000 คดีในเดือน มี.ค.66 ตามลำดับ

แม้ข้อมูลรายเดือน เห็นแนวโน้มคดีออนไลน์ลดลง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังพบการหลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งการขายสินค้าและบริการทางออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ หลอกให้ทำธุรกรรมต่างๆ จึงขอย้ำเตือนประชาชนให้ยังคงระมัดระวังตนเอง ดูแลสอดส่องคนในครอบครัวไม่หลงเชื่อบุคคลแปลกหน้าที่ติดต่อมาทุกช่องทาง โดยเฉพาะหากมีกรณีที่เกี่ยวข้องกับการให้ทำธุรกรรม ให้โอนเงิน ชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ให้ตั้งข้อสงสัยก่อนว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ และให้ตรวจสอบโดยละเอียดก่อนทำธุรกรรม

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า มิจฉาชีพได้มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่ใช้ในการหลอกลวงไปตามสถานการณ์ ล่าสุดกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งเตือน ในช่วงประชาชน สนใจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า หลอกลวงขายแผงโซล่าเซลล์ โดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มต่างๆ ที่มีการซื้อขายโซล่าเซลล์และอุปกรณ์ติดตั้งแล้วโพสต์ขายสินค้าในราคาถูกกว่าท้องตลาด ด้วยภาพที่คัดลอกมาจากช่องทาง มีการซื้อขายจริง และมีการเร่งรัดให้รีบตัดสินใจว่าสินค้าใกล้จะหมด ซึ่งปรากฏว่ามีผู้หลงเชื่อแล้วโอนเงินให้ แต่ไม่ได้รับสินค้าจำนวนมาก

โดย บช.สอท. ได้มีข้อแนะนำจุดสังเกตเพื่อการซื้อสินค้า/บริการออนไลน์ที่ปลอดภัยว่า ให้หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่มีหน้าร้าน ควรติดต่อซื้อจากบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ ระวังการซื้อสินค้าราคาถูกกว่าปกติของท้องตลาด ตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของผู้ประกาศขายสินค้า มีความเคลื่อนไหวหรือไม่ ประวัติเป็นอย่างไร

ตรวจสอบความมีอยู่จริงของสินค้า โดยขอดูภาพหลายๆ มุมนอกจากภาพที่ประกาศขาย สอบถามรายละเอียดสินค้าที่เกี่ยวข้อง ผลิตจากที่ใด เงื่อนไขการรับประกัน วิธีการใช้งาน ตรวจสอบการรีวิวสินค้า และต้องระวังการรีวิวปลอม เป็นผู้รีวิวจริงหรือหรือบัญชีอวตาร และก่อนโอนชำระเงินค่าสินค้า ให้ตรวจสอบประวัติของร้าน และชื่อหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน ว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ Google, https://www.blacklistseller.com หรือ https://www.chaladohn.com เป็นต้น

Advertisement

 

อุตุฯ เตือน 58 จังหวัด รับมือพายุฤดูร้อน 24-26 เม.ย.

People Unity News : 24 เมษายน 2566 กรมอุตุฯ ประกาศฉบับที่ 5 เตือน 58 จังหวัด รับมือพายุฤดูร้อน โดยจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่าบางพื้นที่ ช่วงวันที่ 24-26 เม.ย.นี้

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 24-26 เมษายน 2566) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 24-26 เมษายน 2566 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ไม่ควรสวมใส่โลหะ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าว

โดยจังหวัดที่คาดว่าจะมีผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 24 เมษายน 2566

ภาคเหนือ : จังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคตะวันออก : จังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่ 25-26 เมษายน 2566

ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ส่วนบริเวณอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

Advertisement

สธ.ยืนยันมีผู้ติดเชื้อโควิดมากขึ้น 1 พ.ค.เตรียมฉีดวัคซีนโควิดคู่ไข้หวัดใหญ่

People Unity News : 18 เมษายน 2566 สธ.แจงสถานการณ์โควิด ยอมรับติดเชื้อมากขึ้นแต่ยังไม่มีนัยสำคัญ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบคนใส่ท่อช่วยหายใจ สะสมไม่ถึง 20 คน ส่วน XBB.1.16 หลบภูมิ ติดง่าย เป็นเรื่องปกติของไวรัสกลายพันธุ์ และ WHO ยังให้เป็นสายพันธุ์เฝ้าระวัง ยันยารักษามีเพียงพอทุกชนิด และยังใช้ได้ปกติ บ่ายนี้เตรียมทำความเข้าใจกับแพทย์ และ 1 พ.ค.นี้ เตรียมฉีดวัคซีนโควิดคู่กับไข้หวัดใหญ่ เหมือนโรคประจำถิ่น 1 ปีฉีด 1 ครั้ง

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ว่า จากการรายงานของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าแม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่อาการไม่รุนแรง มีรักษาตัวใน รพ.น้อย โดยจำนวนผู้ใส่ท่อช่วยหายใจ ใน 12 เขตสุขภาพ มีสะสมไม่ถึง 20 คน และเสียชีวิตแค่ 2 คนเท่านั้น ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ผู้คนส่วนใหญ่ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น ทั้งนี้การเพิ่มจำนวนของผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการติดเชื้อที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

ส่วนการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ที่มีรายงานพบสายพันธุ์ XBB.1.16 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ลูกผสมโอไมครอนนั้น นพ.โอภาส กล่าวว่า เป็นธรรมดาของเชื้อไวรัสที่ต้องมีการพัฒนา และการกลายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่พบนี้ก็ยังเป็นโอไมครอนอยู่ ซึ่งทางห้องปฏิบัติการพบว่าไวรัสตัวนี้หลบภูมิติดง่าย แต่ก็ไม่ได้ติดง่ายกว่าตัวอื่น หรือรุนแรงกว่าตัวอื่น โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังคงจัดให้ไวรัสอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่ต้องติดตาม และไม่ได้อยู่ในสายพันธุ์เฝ้าระวัง และเชื้อไวรัสยังคงตอบสนองต่อยาเหมือนเดิม และสตอกยังคงมีเพียงพอ ไม่ว่าจะฟาวิพิราเวียร์, โมลนูพิราเวียร์ 1 ล้านเม็ด, เรมดีสซีเวียร์ 100,000 โดส (ใช้ฉีด), แพกซโลวิด ใช้เพียงพอ 10,000 คน และ LAAB ทั้งนี้การจะระบุว่าสถานการณ์การติดเชื้อรุนแรงขึ้นจะอยู่แค่ปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไม่ได้ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ หรือผู้เสียชีวิต หรืออาการทางคลินิก

นพ.โอภาส กล่าวว่า เมื่อวานนี้ก็มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญ ได้ให้คำแนะนำเรื่อง การจ่ายยาต้านยาไวรัส ในกลุ่มเสี่ยง 608 ที่มีอาการ ส่วนคนทั่วไปที่มีอาการน้อยให้รักษาตามอาการ สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด เตรียมให้การฉีดให้รูปแบบของวัคซีนแบบประจำปี /ปีละ 1 ครั้ง ร่วมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉะนั้นการรับมือโควิด-19 จึงเหมือนกับโรคประจำถิ่น ซึ่งจะเริ่มมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 คู่กับไข้หวัดใหญ่ทั่วประเทศ 1 พ.ค. นี้ เบื้องต้นเน้นในกลุ่มเสี่ยง 608 ก่อน ส่วนคนทั่วไปที่ตอนนี้กังวลกับสถานการณ์โควิด และใกล้เดือน พ.ค.แล้ว หากต้องการฉีดก็สามารถทำได้ เพียงแต่ระยะห่างของวัคซีน ควรห่างมากแล้ว 3 เดือน หรือป่วยหายแล้วมานาน 3 เดือนเช่นนั้น ทั้งนี้สถานการณ์การติดเชื้อโรคทางเดินหายใจพบว่า มีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มากถึง 15% ส่วนโควิด 3 % เท่านั้น

นพ.โอภาส กล่าวว่า ทั้งนี้ในช่วงบ่าย กระทรวงสาธารณสุข จะร่วมกับแพทยสภา สื่อสารข้อมูลกับแพทย์ทั่วประเทศ ถึงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม หากคนที่ไปทำกิจกรรมช่วงสงกรานต์ต้องสังเกตตัวเอง งดใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 โดยการป้องกันโรคยังใช้ชุดความรู้เดิม สวมหน้ากากอนามัย ระยะห่าง ล้างมือ พร้อมย้ำว่า สถานการณ์การติดเชื้อในไทย ยังไม่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสายพันธุ์ที่พบมากยังเป็น XBB.1.5 ส่วน XBB.1.16 ยังไม่พบ

Advertisement

“อนุทิน” ขอความกรุณา ปชช. ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น

People Unity News : 17 เมษายน 2566 “อนุทิน” ยันไม่มีอำนาจมอบนโยบาย สธ. แล้ว ได้แต่กำชับปลัดฯ ดูแลโควิดหลังสงกรานต์ ขอความกรุณา ปชช.รับวัคซีนเข็มกระตุ้นต้านโอมิครอน โยนถามหมอเป็นคลัสเตอร์ใหม่หรือไม่ เผยยังอยู่ในวิสัยที่ยังไม่เสี่ยง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ ว่า ตอนนี้ตนเองเป็นรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่ได้กำชับให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขไป ให้มาปฏิบัติหน้าที่ตามที่เคยมอบนโยบายไปก่อนหน้านี้

“เพราะตอนนี้ไม่สามารถมอบนโบบาย ทำได้เพียงสนับสนุนเท่านั้น หากผู้บริหารเสนออะไรมาที่ต้องนำเข้าที่ประชุม ครม. หรือสิ่งที่จำเป็น ตนต้องสแตนด์บายเร่งเพื่อให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ไม่กล้าใช้คำว่าสั่งการอะไร” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ปลัดกระทรวงฯ กำลังเปิดศูนย์ฉุกเฉิน หรือ eoc และให้การยืนยันว่าแม้จะมีการติดเชื้อมากขึ้น ก็ต้องขอให้ประชาชนมารับวัคซีนให้มากขึ้นเช่นกัน เพราะการฉีดวัคซีนจะสามารทำให้ระดับความรุนแรงของเชื้อลดลง ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นนั้น ก็ยังคงเฝ้าระวังอยู่แล้ว ให้การยืนยันกับทุกคนว่า เรื่องเวชภัณฑ์และทีมแพทย์ที่มีความพร้อมมากๆ

ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นจากการมีความใกล้ชิดมากขึ้น แต่จำนวนผู้ป่วยที่มีความรุนแรงส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มผู้ป่วย 608 กลุ่มที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว และมีเชื้อโควิดเป็นตัวเร่งเร้าให้มีอาการหนักขึ้น รวมถึงผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยขอความกรุณาให้ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ช่วยทำให้ความเสี่ยงทั้งหลายลดลง เพราะยังเป็นเชื้อโอมิครอนอยู่ ซึ่งวัคซีนยังสามารถลดความรุนแรงของเชื้อได้

นายอนุทิน ยังกล่าวถึง ความกังวลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นคลัสเตอร์ และทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อพีคมากขึ้นเหมือนปีก่อนหรือไม่ว่า เรื่องนี้ต้องให้ไปถามแพทย์ แต่เท่าที่ได้รับการรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขนั้น ยืนยันว่ายังอยู่ในวิสัยที่ยังไม่ถือว่าเป็นความเสี่ยง การควบคุมดูแลต้องอยู่ทั้งสองฝ่าย หากป่วยแล้วป่วยหนัก เรามียารักษา และที่เพิ่มความคุ้มกันไปด้วยซึ่งเหมาะสมกับกลุ่มผู้ป่วย 608

Advertisement

นายกฯ ยินดี “ขอนแก่น” เป็นอันดับ 1 จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวคุ้มค่าที่สุด

People Unity News : 15 เมษายน 2566 โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ยินดี Agoda จัดอันดับ “จ.ขอนแก่น” เป็นอันดับ 1 จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่จังหวัดขอนแก่น ติดอันดับ 1 จากทั้งหมด 10 แหล่งจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 (10 Most Affordable Destinations in Asia Pacific 2023) จาก Agoda แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ตอกย้ำความนิยมในแหล่งท่องเที่ยวของไทย พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เว็บไซต์ Travel Daily News ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับดังกล่าว ซึ่งให้ข้อมูลโดย Agoda (https://www.traveldailynews.asia/statistics-trends/khon-kaen-is-the-most-affordable-tourist-destination-in-thailand-says-agoda/) ระบุว่า Agoda ได้วิเคราะห์ราคาเฉลี่ยห้องพักของแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่า ราคาย่อมเยาที่สุดในช่วงเดือนเมษายน 2566 ซึ่งจังหวัดขอนแก่น ได้รับอันดับ 1 จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีราคาห้องพักคุ้มค่าที่สุดในเดือนเมษายน 2566 นี้ ด้วยราคาเฉลี่ยคืนละ 1,030 บาท นอกจากนี้เมื่อเทียบราคาเฉลี่ยห้องพักในประเทศไทยรองจากขอนแก่น 4 อำเภอ/จังหวัด ที่ราคาคุ้มค่าเช่นกัน ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา อุดรธานี และหาดใหญ่ ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังระบุว่าจังหวัดขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่จัดเทศกาลสงกรานต์ (วันปีใหม่ไทย) ได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน 2566 นี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมบึงแก่นนครและเตรียมพร้อมกับการเล่นสาดน้ำอย่างสนุกสนานในช่วงเทศกาลที่ถือได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย อีกทั้งจังหวัดขอนแก่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็น Hidden gems อีกหลายแห่งที่น่าสนใจ โดยจังหวัดขอนแก่นได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนไดโนเสาร์ของประเทศไทย แต่ยังมีความเป็นเมืองที่ทันสมัย เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟที่อยู่ในกระแสนิยมมากมาย รวมทั้งมีทะเลสาบประจำเมืองที่สามารถจัดงานเทศกาลได้ตลอดทั้งปี มีตลาดโต้รุ่งต้นตาล ซึ่งเป็นแหล่งรวมอาหารหลากหลาย

โฆษกรัฐบาลระบุว่า จังหวัดขอนแก่นถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สามารถนำผลตอบรับดังกล่าวไปเป็นแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism) โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เพื่อยกระดับประเพณีพื้นเมืองของไทยให้เป็นที่รู้จัก กระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ 10 จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ช่วงเดือนเมษายน 2566 มีการจัดลำดับดังนี้ 1.ขอนแก่น ประเทศไทย 2.Sibu มาเลเซีย 3.Surakarta อินโดนีเซีย 4.Puri อินเดีย 5.Bacolod ฟิลิปปินส์ 6.Ninh Binh เวียดนาม 7.Chiba ญี่ปุ่น 8.Gwangju เกาหลีใต้ 9.หมู่เกาะ Kinmen ไต้หวัน และ 10.Brisbane ออสเตรเลีย

“นายกรัฐมนตรียินดีกับผลการจัดอันดับที่ถือว่าย้ำว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก ซึ่งไทยยังคงเสน่ห์ และความนิยมในหลายๆ ด้านได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนศักยภาพของไทยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเป็นเจ้าภาพที่ดี รวมทั้งด้วยวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ สามารถเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวได้อย่างหลากหลาย” นายอนุชา กล่าว

Advertisement

เจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติช่วงสงกรานต์ เข้าได้ทุก รพ.ที่อยู่ใกล้

People Unity News : 9 เมษายน 2566 รองโฆษกรัฐบาล แจง “เทศกาลหยุดยาวสงกรานต์” หากเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติ เข้ารักษาได้ทุก รพ.ที่อยู่ใกล้ ตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่” ของรัฐบาล

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 มีวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 13-17 เมษายน 2566 ประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางต่างจังหวัด เพื่อกลับบ้าน เยี่ยมเยียน เฉลิมฉลองกับครอบครัว รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ และรดน้ำดำหัวขอพรจากญาติผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีประชาชนเดินทางจำนวนมาก และมักจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นเป็นประจำ จากข้อมูลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2565 ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุ ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 1,917 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,869 คน ผู้เสียชีวิต 278 ราย รัฐบาลจึงมีความห่วงใยประชาชน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย สามารถใช้สิทธิ์ Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP ได้ ดังนี้

1.กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤติ หากไม่รักษาทันทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ใกล้สุดโดยเร็ว เป็นไปตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients : UCEP) ของรัฐบาล โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาเบิกค่าใช้จ่ายค่ารักษาจาก สปสช. ตามอัตราที่กำหนด

2.กรณีเจ็บป่วยที่ไม่ใช่ฉุกเฉินระดับวิกฤติ หรือกรณีผู้มีสิทธิบัตรทองที่เดินทางไปต่างถิ่นแล้วมีความจำเป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล เช่น มีความดันโลหิตขึ้นสูง ปวดศีรษะมาก เกิดภาวะท้องเสียรุนแรง เป็นต้น กรณีนี้ให้เป็นไปตามข้อบังคับ สปสช. ว่าด้วยการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขกรณีที่มีเหตุสมควร กรณีอุบัติเหตุหรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 ระบุว่าผู้ป่วยสิทธิบัตรทองหากมีเหตุสมควร หรือกรณีอุบัติเหตุฉุกเฉิน หรือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลอื่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนหน่วยบริการประจำและสถานพยาบาลที่ไม่ได้เข้าร่วมให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามมาตรา 7 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545

“ขอให้ประชาชนเตรียมบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ ในการเข้ารับบริการรักษาพยาบาลฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้เพื่อความสะดวก พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลหน่วยบริการที่อยู่ในพื้นที่ระหว่างเดินทางและจุดหมายปลายทาง เพื่อเป็นข้อมูลในการเข้ารับการรักษาพยาบาลได้โดยเร็ว ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ควรเตรียมพร้อมยารักษาโรคเพื่อให้เพียงพอสำหรับการเดินทาง สิ่งที่สำคัญต้องไม่ประมาท พักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง และมีสติอยู่ตลอดเวลา ” นางสาวรัชดา กล่าว

Advertisement

เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ สำนักงานสลากฯยังไม่เปิดขายเลข 3 หลัก

People Unity News : 6 เมษายน 2566 รองโฆษกรัฐบาลย้ำสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยังไม่เปิดจำหน่ายเลขสลาก 3 หลัก ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการโพสต์ข้อความระบุว่า “สำนักงานสลากฯ เปิดจำหน่ายเลขสลาก 3 หลัก ให้รางวัลตั้งแต่บาทละ 100 – 1,000 บาท” ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ขณะนี้สำนักงานสลากยังไม่ได้มีการเริ่มดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับสลากแบบ N3 (3 หลัก) โดยสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบตัวเลข 6 หลัก (L6) และสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบตัวเลข 3 หลัก (N3) ยังอยู่ในขั้นตอนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยหลังจากนี้ จะต้องไปจัดทำประกาศ กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบใหม่ เพื่อนำมาเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณสลากที่เหมาะสม ช่วงเวลาในการจำหน่าย ช่องทาง และวิธีการจำหน่าย เป็นเรื่องที่สำนักงานสลากฯ จะพิจารณาต่อไป

นางสาวรัชดา กล่าวว่า การออกสลากกินแบ่งรัฐบาล แบบตัวเลข 6 หลัก (L6) และสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบตัวเลข 3 หลัก (N3) จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถควบคุมราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมามีการออกผลิตภัณฑ์สลากหลายประเภทก็สามารถช่วยลดราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลลงมาได้ อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาหวยใต้ดินในทางอ้อม เพราะเป็นตัวเลือกที่ถูกกฎหมาย อีกทั้งการซื้อสลาก 1 ใบ มีสิทธิ์ถูกรางวัลถึง 4 รางวัล คือ 3 ตัวตรง 3 ตัวสลับ 2 ตัวตรง และมีโอกาสถูกรางวัลแจ๊คพอต และในส่วนของช่องทางการจำหน่าย

“ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.glo.or.th หรือโทร. 02 5289999”

Advertisement

กบน.ปรับลดราคาดีเซลอีกเหลือ 33 บาท มีผล 7 เม.ย.

People Unity News : 3 เมษายน 2566 คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ประกาศลดราคาดีเซลรอบที่ 4 อีก 50 สตางค์/ลิตร เหลือ 33 บาท/ลิตร มีผล 7 เม.ย. หลังสภาพคล่องดีขึ้นกองทุนน้ำมันฯ ติดลบลดลงเหลือ 9.1 หมื่นล้านบาท

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) วันนี้ (3 เม.ย.66) มีมติปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงอีก 0.50 บาท/ลิตร จากราคา 33.50 บาท/ลิตร เป็น 33.00 บาท/ลิตร มีผลวันที่ 7 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยเป็นปรับลดลงครั้งที่ 4 หรือรวมการปรับลงแล้ว 2 บาท/ลิตร นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สาเหตุการปรับลดลงครั้งนี้ เป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซล เดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 98.92 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 4.69 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยอัตราเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทน้ำมันดีเซลเฉลี่ยเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 5.00 บาท/ลิตร อย่างไรก็ดี สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลโลกยังคงมีความผันผวนจากวิกฤติด้านการเงิน ความผันผวนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ตลอดจนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจีน

สำหรับฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เริ่มทยอยติดลบลดลง ณ วันที่ 2 เม.ย.66 ติดลบ 91,860 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 45,008 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 46,860 ล้านบาท

Advertisement

เชียงใหม่หมอกควัน-ฝุ่นพิษยังท่วมเมือง ยืน 1 เมืองอากาศแย่ของโลก

People Unity News : 31 มีนาคม 2566 เชียงใหม่หมอกควัน-ฝุ่นพิษยังท่วมเมือง ยืน 1 เมืองอากาศแย่ของโลก ฝุ่นพิษรายชั่วโมงสูงสุดทะลุ 800 มคก./ลบ.ม. เผยสาเหตุเกิดจากไฟไหม้ป่าบนดอยปุย พร้อมเฝ้าระวังไฟป่าอีก 3 ดอยหลัก

ตลอดทั้งวันเมืองเชียงใหม่ยังเต็มไปด้วยหมอกควันฝุ่นพิษปกคลุมหนาแน่นกว่าทุกวัน ค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง จากกรมควบคุมมลพิษ สูงสุดช่วงบ่ายวันนี้ (31 มี.ค.) อยู่ที่ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว วัดได้ 326 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) แต่ค่าฝุ่นพิษรายชั่วโมงจากศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สูงสุดเมื่อช่วงเที่ยงอยู่ที่วัดบ้านดอนศรีสะอาด ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว วัดได้ 817 มคก./ลบ.ม. ทำให้เมืองเชียงใหม่ยังยืน 1 เมืองอากาศยอดแย่อันดับ 1 ของโลก จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ไอคิวแอร์ เมื่อเวลา 13.00 น.

นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เปิดเผยว่า สาเหตุหนึ่งที่ฝุ่นพิษในตัวเมืองเชียงใหม่หนาแน่นขึ้น มาจากไฟไหม้ป่าบนดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งอยู่ใกล้ตัวเมือง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดมกว่า 100 นาย เข้าดับไฟตลอดทั้งคืนจนถึงวันนี้ เพื่อไม่ให้ไฟไหม้ลุกลามเข้ามาในเขตเมือง และสภาพอากาศปิด เฮลิคอปเตอร์จึงไม่สามารถบินเข้าไปช่วยดับไฟได้ สั่งเฝ้าระวังไฟไหม้ป่าใน 3 ดอยหลักของเชียงใหม่ ทั้งดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ และดอยหลวงเชียงดาว ปีนี้พบจุดความร้อนจากการเผาสะสมมากถึง 7,000 จุดแล้ว คาดว่าจะมากกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดเกิดจากฝีมือคนจุดไฟเผา

ขณะที่ตัวแทนหน่วยงานและภาคประชาชนได้ร่วมกันนำน้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง และอาหารแห้ง มามอบให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เพื่อส่งต่อกำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานดับไฟไหม้ป่าในหลายพื้นที่

Advertisement

FOLLOW US

20,829แฟนคลับชอบ
2,508ผู้ติดตามติดตาม

RECENT POSTS