วันที่ 5 พฤษภาคม 2024

“จุรินทร์”กระทบไหล่”สี จิ้น ผิง”ร่วมงาน Expo จีน โชว์สินค้านเอสเอ็มอีขึ้นห้างออนไลน์ใหญ่

People Unity News : “จุรินทร์”กระทบไหล่”สี จิ้น ผิง”ร่วมงาน Expo จีน นำผู้ประกอบการจัดแสดงสินค้า พร้อมนำสินค้าเอสเอ็มอีขึ้นห้างออนไลน์ใหญ่ คาดการณ์ยอดสั่งซื้อรวมกัน 4,200 ล้าน

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2562 เวลา 9.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และ คณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เยือนนครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2562 เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดงาน CIIE 2019 หรือ China International Import Expo 2019 ตามคำเชิญของทางการประเทศจีน โดยกำหนดการนายจุรินทร์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนประเทศไทยในนามคณะผู้แทนนานาชาติร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด CIIE 2019 โดยมีประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง เป็นประธานในพิธี

นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า งานนี้เพื่อส่งเสริมการนําเข้าสินค้าตาม นโยบายเปิดกว้างทางเศรษฐกิจของจีน ผลการจัดงานปีแรกงานนี้ของประเทศจีนนั้นมีการจัดแสดงสินค้า 3,617 ราย บนพื้นที่จัดงาน 2.7 แสนตารางเมตร ผู้เข้าชมงานกว่า 8 แสนคน ยอดขาย 5,783 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ1.73 แสนล้านบาท ในส่วนของผลการเข้าร่วมงานนี้ในปีที่ผ่านมาของไทยเรามีการออกบูธ Exhibitor 63 ราย ยอดการซื้อขาย 64 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,921 ล้านบาท และปีนี้ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประสานงานร่วมจัดแสดงสินค้าเช่นกัน

กำหนดการจากนั้นจะเข้าเยี่ยมชมซูเปอร์มาเก็ตเหอหม่า Hema Fresh ที่เป็นซูเปอร์มาเก็ตซึ่งได้รับเงินลงทุนจากอาลีบาบาเพื่อทดลองการเข้าสู่ตลาดค้าปลีก จุดเด่นของเหอหม่าคือ การให้บริการทั้งรูปแบบ Offline และ Online เน้นจําหน่ายสินค้าอาหารสด ซึ่งสินค้าสดคิดเป็นสัดส่วนราว 20% ของสินค้าทั้งหมด การจัดส่งสินค้าภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ระบบบริหารจัดการทั้งหมดเป็นระบบดิจิทัล สินค้ากว่า 20,000 ชนิด จากกว่า 2,000 แบรนด์ มีระบบ Traceability สืบค้นหาสินค้าได้ละเอียด

ประเด็นการเข้าเยี่ยมชมก็เพื่อการผลักดันให้สินค้าไทยเข้าไปวางจําหน่ายในห้างฯให้มากขึ้นโดยเชิญฝ่ายจัดซื้อมาร่วมงานแสดงสินค้าในไทยของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (THAIFEX STYLE) หรืองานจับคู่เจรจาการค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการจําหน่ายสินค้าไทยทั้ง Offline และ Online ศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นตัวขับเคลื่อน ในการจัดวางกลยุทธ์ธุรกิจค้าปลีก อาทิ การเลือกสถานที่ในการจัดตั้ง ร้านค้าปลีก ออฟไลน์ของ Hema กับจํานวนผู้ซื้อสินค้าออนไลน์การ จัดการคลังสินค้าเพื่อลดต้นทุนและรักษาความสดใหม่ของคุณภาพ สินค้า เป็นต้น ซึ่งจะเป็นโอกาสอย่างมากของสินค้าไทย

รายงานข่าวกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า สำหรับวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2562 รองนายกฯ และคณะ เข้าร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูง Alibaba โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และอาลีบาบา Letter of Intend เพื่อพัฒนา SMEs ไทยให้เข้าสู่แพลตฟอร์ม การค้าออนไลน์ระดับนานาชาติ MOU ข้อตกลง เพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีไทย และบุคลากรด้านดิจิทัล การตั้ง TOPTHAI Flagship Store บน Tmall Global จําหน่ายสินค้าแฟชั่น Personal Care อาหาร ซึ่งทราบว่าเป้าหมายผู้ประกอบการ ไทยที่เข้าร่วม 100 บริษัท คาดการณ์มูลค่าสั่งซื้อ 1,200 ล้านบาท ใน 3 ปี

ส่วนประเด็นหารือ คือ ร่วมมือการส่งเสริมการตลาดและส่งออกสินค้าเกษตร ได้แก่ ยางพารา มันสําปะหลัง ปาล์มน้ํามัน ข้าว ผลไม้ และสินค้าศักยภาพ อื่นๆ ของไทย ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ การจัดกิจกรรมมหกรรมออนไลน์วันประเทศไทย(Thailand Day) เพื่อส่งเสริมภาพ ลักษณ์ กิจกรรมทางการตลาด และการท่องเที่ยวของ ประเทศไปสู่ผู้บริโภคชาวจีน ถ่ายทอดเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่และความรู้ที่สามารถช่วย อํานวยความสะดวกในการทําธุรกิจและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร

จากนั้น รองนายกฯ และคณะจะเข้าเยี่ยมชมงาน CIIE 2019 โดยประเทศไทยเข้าร่วม 2 ส่วน คือ Thailand Pavilion ที่เป็น 1 ใน 15 ประเทศ Country of Honor พื้นที่ 256 ตารางเมตร จัดแสดงศักยภาพด้านการค้าการลงทุนการท่องเที่ยวนวัตกรรม และ Enterprise & Business Exhibition มี ผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 46 รายโดยมีหน่วยงาน GIT การท่องเที่ยว และ การยาง ฯ เข้าร่วมด้วยโดยการคาดการณ์ยอดการซื้อขายของผู้ประกอบการ ไทยในงาน CIIE 2019 เท่ากับ 2,000 ล้านบาท ดังนั้นสรุปยอดรวมรวมประมาณการสั่งซื้อสินค้าในการเดินทางครั้งนี้ ร่วม 4,200 ล้านบาท

“เทวัญ”ดัน”หุบผาสวรรค์”แหล่งเที่ยวเชิงศาสนาแห่งใหม่

People Unity News :  “เทวัญ”นำคณะกราบเจ้าคณะปากท่อราชบุรี ดัน”หุบผาสวรรค์”แหล่งเที่ยวเชิงศาสนาแห่งใหม่

วันที่ 5 พ.ย.2562 เวลา 12.30 น. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธงชัย ลืออดุลย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณรงค์ ทรงอารมณ์  รองผู้อำนวยการรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ สถาบันพระสังฆาธิการ  “หุบผาสวรรค์” ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อติดตามแผนการพัฒนาพื้นที่บริเวณเขาถ้ำพระให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดราชบุรี ตามแผนโครงการพัฒนาพื้นที่หุบผาสวรรค์

เมื่อเดินทางถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จากนั้นคณะเดินทางไปยังหอประชุมสถาบันสังฆาธิการ ถวายไทยธรรมแด่พระครูสุภัทรญาณวินิฐ เจ้าคณะอำเภอปากท่อ และร่วมประชุมกับส่วนราชการในพื้นที่

นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัด ราชบุรี กล่าวว่า ที่ตั้งของสถาบันสังฆาธิการแห่งนี้มีที่ตั้งเชื่อมต่อกับเขาถ้ำพระ เขาเสือหมอบ และหุบผาสวรรค์ ซึ่งในอดีตเป็นพื้นที่สำคัญทางศาสนา โดยได้ชื่อว่าเป็นดินแดนศาสนิกสัมพันธ์สามศาสนา ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม ซึ่งจังหวัดราชบุรีมีแผนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้แก่คนในพื้นที่ สร้างความมั่นคงของเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ตรวจราชการของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ จะนำผลสรุปจากที่ประชุมไปนำเสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ณ จังหวัดกาญจนบุรี ต่อไป

“ชวน”เผยกำชับ”บิ๊กตู่”มาสภาแจงกมธ.-หนุนแก้รธน.

People Unity News : งานวันธรรมศาสตร์สามัคคี ครั้งที่ 20 “ชวน”เผยกำชับ”บิ๊กตู่”มาสภาแจงกมธ.-หนุนแก้รธน.

วันที่ 5 พ.ย.2562 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ความหวังสภาผู้แทนฯ ภาคใต้รัฐธรรมนูญ 2560” ในงานวันธรรมศาสตร์สามัคคี ครั้งที่ 20 โดยได้กล่าวถึงโครงสร้างรัฐธรรมนูญว่า เป็นตัวกำหนดโครงสร้างการบริหารประเทศ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นจนรัฐธรรมนูญในอดีตถูกยกเลิก ไม่ใช่เพราะรัฐธรรมนูญมีปัญหา แต่ตัวบุคคลกลับละเมิดรัฐธรรมนูญ ไม่ยึดหลักนิติธรรม ดังนั้น กระบวนการยุติธรรมการบังคับใช้กฎหมาย ต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียม เคร่งครัด ทั้งคนรวย และคนจน

ทั้งนี้ นายชวน กล่าวต่อว่า สภาผู้แทนราษฎร เป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตย ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และต้องเป็นตัวอย่างของการเคารพกฎหมาย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ เป็นแบบอย่างให้ภาคส่วนอื่น ๆ และขอร้องสมาชิกอย่าสร้างภาพลบต่อสังคม พร้อมเคยกำชับไปยังนายกรัฐมนตรี ให้มาสภาฯ มาตอบกระทู้ ถ้ากรรมาธิการเรียก ก็ต้องมาชี้แจง และเตือนไปยังกรรมาธิการว่า ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะผู้ชี้แจงไม่ใช่จำเลย

ขณะเดียวกัน นายชวน กล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญ ไม่สามารถแก้คอร์รับชั่นได้ แม้จะมีข้อปฏิบัติ และมีบทลงโทษอย่างเข้มงวด ก็ไม่สามารถแก้ได ถ้าผู้ใช้ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญนี้ อย่างที่เราทราบกันว่า มีรูปแบบการเลือกตั้งมาจากเยอรมัน ซึ่งจากการเคยพบกับผู้แทนจากประเทศเยอรมันนั้น ทำให้ทราบว่า ระบบการเลือกตั้งดังกล่าว เยอรมัน ได้ยกเลิกการใช้ไปแล้ว เพราะทำให้มีพรรคการเมืองในสภาจำนวนมากเกิดปัญหา และย้ำว่า ตนก็ไม่ได้เห็นชอบต่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และมีหลายเรื่องที่สมควรจะต้องแก้ไข แต่การแก้ไขนั้น ไม่ควรยกเลิกทั้งฉบับ แต่จะต้องมาพูดคุยกันทุกฝ่ายว่าประเด็นใดเป็นปัญหาที่ควรแก้ไข เช่น ส.ว. ควรมีไว้ต่อไปหรือไม่ ถ้ามีจะให้มาจากการแต่งตั้ง หรือการเลือกตั้ง เป็นต้น

“บิ๊กตู่”ต้อนรับนายกฯจีน เป็นมงคลนกนางแอ่นบินว่อน

People Unity News : “บิ๊กตู่”ต้อนรับนายกฯจีน เป็นมงคลนกนางแอ่นบินว่อน ขณะตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ผลหารือ ไทย-จีนสานสัมพันธ์จับมือเป็นหุ้นส่วนร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรับมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเปนทางการในฐานะแขกของรัฐบาล โดยจัดพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ต้อนรับอย่างสมเกียรติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ และนายหลี่ เค่อเฉียง เดินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ที่สนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ปรากฎว่าเหนือท้องฟ้าได้มีฝูงนกนางแอ่นจำนวนมากบินวนเวียนไปมา จนกระทั่งนายกฯได้นำคณะของนายกฯจีนเข้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อหารือข้อราชการ แต่นกนางแอ่นฝูงดังกล่าวก็ยังคงบินวนเวียนอยู่เหนือตึกไทยคู่ฟ้า ทั้งนี้ โดยปกติในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีเพียงนกอีกา และนกพิราบ ที่มาบินให้เห็นเท่านั้น ไม่เคยมีนกนางแอ่นมาบินเช่นนี้

ทั้งนี้นกนางแอ่น ตามความเชื่อของชาวม้งในตอนใต้ของจีน เชื่อว่านกนางแอ่นเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคล และคู่นกนางแอ่นจะซื่อสัตย์ต่อกันไปจนวันตาย และนำมาซึ่งความสุข เข้ามาสู่ชีวิต ขณะที่ การหารือทั้งสองฝ่ายในวันนี้ จะมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน ในด้านต่างๆ

พล.อ.ประยุทธ์ และนายหลี่ เค่อเฉียงจะมีการหารือข้อราชการเต็มคณะ ที่ตึกภักดีบดินทร์ จากนั้น ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-จีนหลายฉบับ อาทิ บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิชาการ และนวัตกรรม บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข่าวและข้อมูลข่าวสารระหว่าง กรมประชาสัมพันธ์ กับ สำนักข่าวซินหัว และ บันทึกความเข้าใจ ระหว่าง บริษัท SCG จำกัด มหาชน กับ ศูนย์ความร่วมมือทางนวัตกรรมแห่งสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ก่อนเปิดแถลงข่าวร่วมตามลำดับ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีจีนและคณะด้วย

ผลหารือ ไทย-จีนสานสัมพันธ์จับมือเป็นหุ้นส่วนร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน

พล.อ.ประยุทธ์ได้ว่าการกระทรวงกลาโหม หารือเต็มคณะกับนายหลี่ เค่อเฉียง (H.E. Mr. Li Keqiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยผู้นำทั้ง 2 ได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนลงนามสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน ก่อนหารือข้าราชการเต็มคณะ

ผู้นำทั้งสองได้ร่วมกันหารือข้อราชการเต็มคณะ ณ ตึกภักดีบดินทร์ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีโดยฝ่ายไทยประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สำหรับคณะรัฐมนตรีฝ่ายจีน ประกอบด้วย นายเซียว เจี๋ย มนตรีแห่งรัฐและเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายหลิว คุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจาง หย่ง รองประธานคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ นายเล่อ ยู่เฉิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายหลี่ว เจี้ยน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และนายหยู เจี้ยนหัว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และรองผู้แทนการค้าระหว่างประเทศ

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือข้อราชการเต็มคณะ ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 3 ฉบับ และร่วมกันแถลงข่าว ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ภายหลังการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการในรอบ 6 ปีของนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน พร้อมขอบคุณรัฐบาลจีนที่สนับสนุนการทำหน้าที่ประธานอาเซียนของไทย

ทั้งสองฝ่ายยินดีกับพัฒนาการความความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างกัน ซึ่งมีพลวัต และมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้อีกมาก โดยทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันรับมือกับการผันแปรของเศรษฐกิจโลก ด้านเศรษฐกิจ ไทยและจีนเห็นพ้องส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการผสานความร่วมมือกันอย่างไร้รอย โดยเฉพาะนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Made in China 2025 และการส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของไทย กับกรอบความร่วมมือเขตอ่าวกวางตุ้ง ฮ่องกง มาเก๊า (GBA) รวมถึงข้อริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative: BRI) ของจีน เพื่อเป็นตัวขับเคลื่อนการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับจีน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวฝากให้นายกรัฐมนตรีจีนช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกภาคเอกชนไทยที่ลงทุนในจีน และดูแลเรื่องสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวและยางพารา

นอกจากนี้ ไทยและจีนต่างให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความกินดีอยู่ดีให้แก่ประชาชน นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาลจีนที่ยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความสำเร็จในการขจัดความยากจน โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำแผนการศึกษา ในประเด็นที่ฝ่ายไทยประสงค์จะเรียนรู้จากจีน

ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เมืองอัจฉริยะและอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 นายกรัฐมนตรีหวังที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควัน/PM 2.5 จากจีนด้วย ส่วนด้านการเมืองและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ

ต้องให้”IMF”แนะ!ใช้เศรษฐกิจพอเพียงหนุนปฏิรูปประเทศ

People Unity News : “อุตตม”เผยผลหารือ “กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ” แนะนำให้ไทยใช้เครื่องมือการเงินปละการคลังดูแลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด พร้อมหนุนไทยใช้เศรษฐกิจพอเพียงหนุนการปฏิรูปประเทศ

วันที่ 5 พ.ย.2562 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการเข้าพบของนางคริสตาลินา จอร์จิวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) พร้อมคณะ โดยไอเอ็มเอฟเห็นว่าเศรษฐกิจโลกยังมีความท้าทายจากสงครามการค้าและปัญหาการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจโลก รวมถึงประเทศไทย ได้ผลกระทบจากหลากหลายปัจจัยที่ไอเอ็มเอฟว่า Synchronized Slowdown

อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟยังระบุถึงประเทศไทยว่ามีความโชคดีจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งทำให้ไทยสามารถใช้เครื่องมืองทางการเงินและการคลังในการดูแลเศรษฐกิจ แต่ไอเอ็มเอฟได้ให้คำแนะนำและเน้นว่าประเทศไทยยังต้องดูแลเศรษฐกิจในข่วงนี้อย่างใกล้ชิด รลโดยพิจารณาถึงการใช้ทั้งเครื่องมือทางการเงินและการคลังต่อไป เนื่องจากไทยมีความสามารถและมีความแข็งแกร่งที่จะใช้เครื่องมือดังกล่าวนี้ได้ทันการณ์

นอกจากนี้ รัฐมนตนลรีว่าการกระทรวงการคลังยังกล่าวด้วยว่า ตนได้เล่าให้ไอเอฟได้รับทราบถึงช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่มาตรการทางการเงินนั้น คณะกรรมการนโยบายการเงิน กนง. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เคยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบสยไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยไอเอ็มเอฟยังเห็นว่าสำหรับประเทศไทยแล้วยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทางการยังสามารถที่จะใช้เครื่องมือที่มีอยู่ได้อีกช่วงหนึ่ง รวมทั้ง ไอเอ็มเอฟยังให้ความสนใจกับการนำทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศด้วย

นายอุตตม ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กระทรวงการคลังเตรียมพร้อมที่จะนำเครื่องมือต่างๆ ในการดูแลเศรษฐกิจของประเทศมาใช้อยู่แล้ว เพียงแต่จะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาตามภาวะเศรษฐกิจ โดยตนมองว่าแนวโน้มในไตรมาส 4 ของปี 62 นั้น เศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะปัญหาการทำสงครามหารค้าสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ตนเห็นจะเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันยังคงไม่สามารถขยายตัวได้เต็มตามศักยภาพที่เคยคาดหวังไว้ที่ระดับ 4% แต่ก็ยังไม่มีคำตอบว่าประเทศไทยควรต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษกิจระยะสั้นออกมาใช้เพิ่มเติมอีกหรือไม่

ส่วนประเด็นการหารือในประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียนซัมมิท) นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สหรัฐฯ สนใจที่จะร่วมปฏิรูปประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมถึงเทคโนโลยี แต่จะไม่มีวาระการหารือประเด็นสหรัฐฯ ตัดสิทธิ์พิเศษทางภาษีศุลกากรที่ให้กับประเทศไทยในการประชุมครั้งนี้

“จิราพร”เพื่อไทยเตือนสติแก้ปัญหาปากท้องต้องดูสภาพความจริง

People Unity News : “จิราพร”เพื่อไทยอัดรัฐบาลถนัดแค่แจกเงิน เตือนสติแก้ปัญหาปากท้องต้องดูสภาพความจริง แนะฟังฝ่ายที่เห็นต่าง

วันที่ 5 พ.ย.2562 นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 ในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลปลื้มใจกับผลสำรวจความคิดเห็นที่ระบุว่าประชาชนชื่นชอบโครงการ ‘ชิมช้อปใช้’ และ ‘บัตรคนจน’ โดยอ้างว่าเป็นตัวชี้วัดผลงานและความสำเร็จของโครงการว่า รัฐบาลควรตั้งสติและดูสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประเทศตอนนี้ หากวัตถุประสงค์ของโครงการเป็นไปเพื่อต้องการให้ประชาชนชื่นชอบพอใจ ก็ไม่จำเป็นต้องสำรวจให้เสียเวลาเพราะการได้รับเงินฟรีคงไม่มีใครที่ไม่ชอบ

นางสาวจิราพรกล่าวอีกด้วยว่า ตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการที่แท้จริงนั้น รัฐบาลต้องดูผลสัมฤทธิ์ว่า สามารถแก้ปัญหาปากท้องได้อย่างยั่งยืนหรือไม่ ที่สำคัญ รัฐบาลควรคิดให้ได้ว่าอยู่ในอำนาจมา 5 ปี ทำได้เพียงแค่แจกเงินให้ประชาชนพอใจควรจะนำมาอ้างเป็นความสำเร็จหรือไม่ เพราะนโยบายแบบนี้คือการให้ยาแก้ปวดไม่ใช่รักษาโรคให้หายขาด ยิ่งเพิ่ม ‘ชิมช้อปใช้’ เฟสต่อๆไป ยิ่งสะท้อนว่ารัฐบาลไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าการแจกเงิน

อย่างไรก็ดี การที่ฝ่ายค้านออกมาท้วงติงหรือตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลไม่ได้ต้องการเล่นเกมการเมือง แต่เป็น ‘การทำงานทางเมือง’ ตามครรลองระบอบประชาธิปไตย ยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ซึ่งทั่วโลกก็ปฏิบัติเช่นนี้

“เข้าใจว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ คงเคยชินกับการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จไร้การตรวจสอบมาตลอด 5 ปี แต่ตอนนี้มีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จึงแนะนำให้รัฐบาลกลับไปทำความเข้าใจระบอบประชาธิปไตยให้มากขึ้น เปิดใจให้กว้าง เลิกมีอคติกับฝ่ายที่เห็นต่าง” นางสาวจิราพรกล่าว

“ปารีณา”ติง”วัฒนา”อย่านำนักโทษมาเปรียบเทียบกับทหารที่มีเกียรติ

People Unity News : “ปารีณา”ติง”วัฒนา”อย่านำนักโทษมาเปรียบเทียบกับทหารที่มีเกียรติ มั่นใจทั่วโลกรู้ดีถึงพฤติกรรม”ทักษิณ”

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.เวลา 09.00 น.น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อความระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความสำคัญในการบริหารประเทศ มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีว่า ตนเห็นเรื่องนี้จากการอ่านข่าว ก็ไม่มั่นใจว่านายวัฒนาเป็นผู้เขียนเองหรือไม่ หรือมีใครสั่งให้เขียนหรือเปล่า ตนเชื่อว่าทุกประเทศต่างก็มีทูตอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะรู้ดีว่า เกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย และพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้กระทำความผิดข้อหาอะไรบ้างในช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

“การที่จะเอาผู้ต้องหาหนีคดีอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ มาเปรียบเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่น่าจะสมควรเพราะเหมือนกับการนำนักโทษไปเปรียบเทียบกับทหารที่มีเกียรติที่ทำประโยชน์เพื่อนประเทศชาติ เห็นได้จากเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ไปต่างประเทศ ทุกคนก็อยากจะจับมือ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่มีใครอยากจับมือด้วย”น.ส.ปารีณา กล่าว

น.ส.ปารีณา กล่าวต่อว่า พฤติกรรมคอร์รัปชั่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท เพื่อให้ไปทำเครือข่ายโทรศัพท์ แล้วอุปกรณ์ที่ซื้อก็ซื้อจากบริษัทของตนเอง นำไปสู่การทุจริตเชิงนโยบาย แต่ก็คงจะอดชื่นชมนายสุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ไม่ได้ ที่ท่านได้ไปให้ข้อมูลต่อกรรมการ คตส.และต่อศาลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีมาก ท่านเป็นรัฐมนตรีน้ำดี ทำเพื่อความถูกต้อง รักษาผลประโยชน์ให้กับประเทศ ต่างกับรัฐมนตรีหลายๆคนในยุคนายกทักษิณที่มีคดีทุจริตติดตัวเต็มไปหมด

“IMF”เข้าพบ”บิ๊กตู่” อาสาเผยแพร่ ศก.พอเพียง ให้ทั่วโลกได้รับรู้

People Unity News : “IMF”เข้าพบ”บิ๊กตู่”ที่ทำเนียบฯ อาสาเผยแพร่ ศก.พอเพียงให้ทั่วโลกได้รับรู้ เหตุสอดคล้องกับหลักการของ ยูเอ็น

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้การต้อนรับนางคริสตาลินา กอร์เกียวา (Mrs. Kristalina Georgieva)  กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หลังจากนั้นได้พาเดินชมทัศนียภาพโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนางคริสลินา กล่าวชื่นชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมของทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับทักทายบรรดาสื่อมวลชนอย่างเป็นกันเอง

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงท่าทีของไอเอ็มเอฟที่มีต่อประเทศไทยว่า นางคริสตาลินาระบุว่าก่อนเดินทางมาประเทศไทย เพิ่งได้อ่านหนังสือและได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และคิดว่าเป็นหลักปรัชญาที่ทางไอเอ็มเอฟจะนำไปเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้รับรู้ เพราะสอดคล้องกับหลักการของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ต้องการให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นางคริสตาลินาได้เล่าให้นายกรัฐมนตรีฟังว่าการเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาร่วมประชุมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งความจริงได้พบกับนายกรัฐมนตรีระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 อยู่แล้ว และได้มีการพูดคุยกันเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

นางนฤมล กล่าวว่า ส่วนสภาพเศรษฐกิจโลก นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่าในหลายข้อเสนอแนะ เราพร้อมที่จะรับมาดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบายด้านการเงินที่ทางไอเอ็มเอฟระบุว่า ไทยยังสามารถจะปรับได้อีก ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องของระยะยาว คือการปรับโครงสร้างขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องของการศึกษาจะพัฒนาอย่างไรให้มีคุณภาพ การพัฒนาทรัพยากรบุคคล และการพัฒนาทักษะแรงงาน

นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า สิ่งเหล่านี้ได้อยู่ในแผนพัฒนาและแผนยุทธศาสตร์ชาติอยู่แล้ว ที่จะมีการทบทวนทุกๆ 5 ปี ทั้งนี้ ทางธปท.คงได้มีการหารือตัวแทนไอเอ็มเอฟอีกครั้งหนึ่ง และไอเอ็มเอฟมองประเทศไทยว่า ยังมีจุดที่สามารถพัฒนาได้อีกมากตามศักยภาพที่มี พร้อมชื่นชมการจัดประชุมอาเซียนซัมมิท

“อย่างไรก็ตาม ไทยพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำและดำเนินการในทุกมิติ โดยมอบหมายให้ทางธปท.เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า ธปท.เป็นองค์กรอิสระ ในฐานะฝ่ายบริหารจะไปก้าวล่วง หรือสั่งการอะไรไม่ได้” นางนฤมล กล่าวและว่า

นอกจากนี้ ทางไอเอ็มเอฟ แม้ไม่ได้มีการพูดคุยถึงภาพรวมภายหลังการเลือกตั้ง แต่ก็มองว่าในปัจจุบันประเทศไทยยังมีเสถียรภาพ ซึ่งหลังการเลือกตั้งน่าจะมีการปฎิรูปในหลายด้าน

เมื่อถามว่าทางไอเอ็มเอฟต้องการให้ธปท. ลดอัตราดอกเบี้ยตามเฟดใช่หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่ได้พูดชัดเจนขนาดนั้น เพียงแต่บอกว่ายังมีช่องทางที่สามารถปรับได้อีก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนได้มากขึ้น

“อนุทิน”โพสต์”สตีฟ จ็อบส์”แนะ “สุขภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด”

People Unity News : “อนุทิน”โพสต์”สตีฟ จ็อบส์”แนะ “สุขภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด” พร้อมเสริม”ไม่มีใครดูแลสุขภาพของเราได้ดีเท่าตัวเราเอง”

วันที่ 5 พ.ย.2562 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความว่า

“สุขภาพ คือสิ่งสำคัญที่สุด”คำแนะนำจากอัจฉริยะคนหนึ่งของโลก
……….

ผมประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านธุรกิจ หรืออาจกล่าวว่าชีวิตผมเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของความสำเร็จ แต่นอกจากการทำงานแล้ว ผมไม่ได้มีความสุขนัก เพราะในที่สุด ความร่ำรวยก็กลายเป็นสิ่งเดียวที่ผมมี

ในขณะนี้ ผมกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงและพยามยามรำลึกถึงชีวิตของผมที่ผ่านมา ผมพบว่าความร่ำรวยที่ผมเคยภูมิใจ กลับไม่มีค่าอะไรเลยในช่วงสุดท้ายที่ผมกำลังจะตาย

ในความมืด ผมมองเห็นเพียงแสงสีเขียวและเสียงของเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าความตายใกล้เข้ามาแล้ว

ตอนนี้ผมเพิ่งตระหนักว่า เมื่อเราร่ำรวยพอแล้ว เราควรหันไปใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ บ้าง
ซึ่งอาจเป็นสิ่งอื่นๆที่สำคัญ เช่น งานศิลป ที่เราเคยใฝ่ฝันในตอนเด็กๆ

การไม่ยอมหยุดสร้างความร่ำรวย จะทำให้ต้องมีชีวิตเหมือนที่ผมเป็น

พระเจ้าได้มอบความรักไว้ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน ซึ่งไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน

เมื่อผมตาย ผมเอาความร่ำรวยไปด้วยไม่ได้ สิ่งที่ผมจะนำติดตัวไปคือความทรงจำเกี่ยวกับความรักเท่านั้น ซึ่งเป็นความร่ำรวยที่แท้จริงและจะเป็นแสงนำทางให้กับเราต่อไป

ความรักจะติดตามเราไปได้ทุกที่ เพราะมันอยู่ในหัวใจและในมือของเราเอง

เตียงที่แพงที่สุดในโลกก็คือเตียงผู้ป่วย
คุณสามารถจ้างคนมาขับรถให้ มาทำงานหาเงินให้ แต่ไม่มีใครมาป่วยแทนคุณได้

สิ่งของใดๆ ที่หายไป เราอาจหาพบได้ แต่เราเอาชีวิตที่เสียไปกลับคืนมาไม่ได้

เมื่อเราเข้าไปอยู่ในห้องผ่าตัด เราจะตระหนักได้ว่า เราใส่ใจสุขภาพของตัวเองน้อยเกินไป
แต่เรามักจะรู้ตัวเมื่อสายเกินไปเสมอ

จงให้ความรักกับครอบครัว กับคนรัก และเพื่อนๆ หมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองและใส่ใจคนรอบข้างให้มากๆ

สิ่งที่พิสูจน์แล้ว เงิน เวลา สุขภาพ
สุขภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด
เวลา และเงิน คือสิ่งสำคัญรองลงมา

สตีฟ จ็อบส์
……..
ไม่มีใครดูแลสุขภาพของเราได้ดีเท่าตัวเราเอง
สิ่งที่ต้องทุ่มเทแสวงหายิ่งกว่าสิ่งใด คือ สุขภาพ
สิ่งที่ต้องรักษายิ่งกว่าสิ่งใด คือ สุขภาพ
เตียงผู้ป่วย ไม่น่านอนเท่าพื้นกระดานที่บ้านท่าน

ปิดฉากประชุมผู้นำอาเซียน “บิ๊กตู่”ส่งต่อปธ.ให้เวียดนาม

People Unity News : ปิดฉากประชุมผู้นำอาเซียนส่งต่อประธานให้เวียดนาม “บิ๊กตู่”แถลงความสำเร็จ พร้อมเน้นย้ำการสร้างความยั่งยืนของอาเซียนโดยใช้หลัก 3Cs

เมื่อวันที่ 4 พ.ย.62 เวลา 19.30 น. ณ ห้อง Grand Diamond Ballroom ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในพิธีปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ภายหลังเสร็จสิ้น ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ ภายใต้แนวคิดหลักคือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งมุ่งหวังให้อาเซียนก้าวสู่อนาคตอย่างมีพลวัต ใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกภูมิภาค ตลอดจนสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งนี้ ความร่วมมือของอาเซียนจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม 4 ประการ

ประการที่หนึ่ง ประชาชนจะมีความมั่นคงที่ยั่งยืนมากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่มีการแข่งขันและความไม่แน่นอนสูง อาเซียนได้วางรากฐานความไว้เนื้อเชื่อใจในเชิงยุทธศาสตร์ที่ยั่งยืน เป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค โดยได้นำหลักการภายใต้สนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) มาใช้ในบริบทที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ ผู้นำอาเซียนได้รับรองเอกสารมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก และจัดตั้งกลไกแก้ไขปัญหาด้านมนุษยธรรมในรัฐยะไข่ เพื่อช่วยเหลือในเรื่องการส่งกลับผู้พลัดถิ่น

ประการที่สอง ความร่วมมือของอาเซียนในปีนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าและลดผลกระทบจากความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างคู่ค้าที่สำคัญของอาเซียน โดยการสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ตามแถลงการณ์ร่วมของผู้นำเกี่ยวกับอาร์เซ็ป เป็นการผนึกกำลังของกลุ่มประเทศซึ่งมี GDP รวมกันร้อยละ 32 ของโลก มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรโลก และมีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึงร้อยละ 30 ของการค้าโลก โดยอาเซียนจะได้ประโยชน์จากการที่ประเทศคู่ค้าเปิดตลาดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมโยง ASEAN Single Window ให้ครบทั้ง 10 ประเทศในปีนี้ การริเริ่มการจัดตั้งเครือข่ายอาเซียนเพื่อต่อต้านการประมง IUU และการจัดทำแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตลาดทุนอาเซียน จะทำให้ผู้ประกอบการในอาเซียนได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้ง ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการผลักดันยุทธศาสตร์เชื่อมโยงความเชื่อมโยง ซึ่งอาเซียนได้ประกาศโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของอาเซียน 19 โครงการ ที่ธนาคารโลกได้พิจารณาเห็นว่ามีศักยภาพที่ภาครัฐและเอกชนน่าจะมีความสนใจร่วมลงทุน

ประการที่สาม อาเซียนให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะร่วมมือในประเด็นด้านสังคมและวัฒนธรรม ได้แก่ การต่อต้านขยะทะเล, การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การส่งเสริมสิทธิต่าง ๆ ของเด็กและเยาวชน, การเสริมสร้างอัตลักษณ์ของอาเซียน และการสนับสนุนให้อาเซียนร่วมกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ในปี 2577 ทั้งนี้ เพื่อให้ชาวอาเซียนมีความภาคภูมิใจต่อความเป็นอาเซียนร่วมกัน

ประการที่สี่ ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือทั้งภายในอาเซียนและระหว่างภาคีภายนอกของอาเซียนจะช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนในภูมิภาค โดยผู้นำอาเซียนได้ร่วมกันรับรองเอกสารวิสัยทัศน์ว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืนสำหรับเป็นแนวทางการสานต่อความยั่งยืนในทุกมิติ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนต่อจากไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมเน้นย้ำถึงการสร้างความยั่งยืนในอาเซียนต่อจากนี้ ซึ่งจำเป็นต้องมี 3Cs ได้แก่ 1) Continuity 2) Complementarity และ 3) Creativity ทั้งนี้ เป้าหมายในหลาย ๆ ด้านไม่สามารถบรรลุผลได้ภายในปีเดียว จึงต้องมี C ตัวแรก คือ Continuity กับข้อริเริ่มที่สำคัญจากปีก่อน ๆ เพื่อให้สามารถเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยอาศัย C ตัวที่สอง คือ Complementarity ความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ ภายใต้ข้อริเริ่มที่เกื้อกูลกันในอาเซียน สุดท้ายต้องใช้ C ตัวที่สาม คือ Creativity ในการแก้ปัญหาที่คั่งค้างและเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตอย่างสร้างสรรค์ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีอวยพรให้เวียดนามและอาเซียนประสบความสำเร็จต่อไปในปีหน้า

 

Verified by ExactMetrics