วันที่ 18 พฤษภาคม 2024

เปิดจอง -จำหน่ายเข็มที่ระลึกพระพันปีหลวง 90 พรรษา

People Unity News : 24 มิ.ย. 65 สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ เปิดรับการสั่งจองและจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2565 รัฐบาลได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พร้อมตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เพื่อการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯในครั้งนี้ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อประชาชนและประเทศไทย ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ รัฐบาลเห็นชอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 จำนวน 10,000 ชุด เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไปสำหรับใช้ประดับในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา และในโอกาสสำคัญตามวาระอันสมควร โดยจำหน่ายราคาเข็มละ 199 บาท

ทั้งนี้ เข็มที่ระลึกจัดทำด้วยวัสดุทองเหลือง แข็งแรงทนทาน ขึ้นรูปแบบตามตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ขนาดความสูงประมาณ 4 x 2.7 เซนติเมตร ชุบทองด้านหน้าและหลัง พื้นด้านหน้าและหลังเป็นลายรัศมี ขอบสีทอง อักษรพระนามาภิไธย ส.ก. ลงยา ตัวอักษร “ส” สีฟ้า ตัวอักษร “ก” สีขาว กรอบรูปหัวใจ ขอบสีทอง ลงยาสีแดง พื้นลงยาสีน้ำเงิน ด้านบนเป็นพระมหามงกุฎภายในประดิษฐานพระแสงจักรและพระแสงตรี ขนาบซ้าย ขวา พระมหามงกุฎด้วยพระสัปตปฎลเศวตฉัตร ฉัตรขาว 7 ชั้น รูปลายหงส์ประคองฉัตร ซ้าย ขวา เลขไทย “๙๐” ลงยาสีฟ้า ภายใต้มาลัยหัวใจ ผ้าแพรแถบสีฟ้าอักษรบอกชื่องาน “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕” ด้านหลัง จารึกตัวอักษร “พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕” เข็มกลัดด้านหลังพร้อมหัวล็อคใช้วัสดุทองเหลืองชุบทอง กล่องบรรจุจัดทำด้วยกระดาษอาร์ตอัดลายความหนา 120 แกรม เคลือบสีฟ้า หุ้มพลาสติกขึ้นรูปทรงกล่อง ขนาดความสูงประมาณ 6.3 x 6.7 x 2.8 เซนติเมตร ฝากล่องด้านบนประดับด้วยตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พิมพ์ด้วยสีทอง ด้านข้างในกล่องเป็นสีขาวงาช้าง

สำหรับผู้สนใจสามารถสั่งจองผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (thailandpostmart.com) ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป หรือซื้อด้วยตนเอง ณ กองคลัง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2283 4305, 0 2283 4310, 0 2283 4312 และ 0 2283 4318

Advertisement

น้อมรับ “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์” ฉบับธรรมนาวา “วัง” เพื่อความพ้นทุกข์แก่คนไทย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 22 มีนาคม 2567 ทำเนียบรัฐบาล – “พวงเพ็ชร” น้อมรับ “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์”  ฉบับธรรมนาวา “วัง”  ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่พสกนิกรไทย เผยแพร่แก่พุทธศาสนิกชนอย่างทั่วถึง

ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน  “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์” ฉบับธรรมนาวา “วัง”  แก่พสกนิกรไทย เพื่อประโยชน์สุข   อันพึงจะได้รับจากพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงผ่านหลักการปฏิบัติอย่างถูกต้องตรงตามพุทธบัญญัติ

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ซึ่งกำกับดูแล ส่งเสริมกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาน้อมนำหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ฉบับธรรมนาวา “วัง”  ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ไปเผยแพร่ขยายผลทุกช่องทาง และนำไปบรรจุไว้ในการแสดงพระธรรมเทศนาของพระสงฆ์ทุกวัดทั่วประเทศ  ตลอดปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนอย่างทั่วถึงต่อไป

Advertisement

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้องคมนตรีติดตามโครงการฯอ่างเก็บน้ำยางชุม

People unity news online : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชกระแสให้ติดตาม ขับเคลื่อน เร่งรัด รวมทั้งแก้ไขปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อประชาชน

วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2560) เวลา 16.30 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคกลาง พร้อมคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำยางชุม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการฯ โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมชลประทานบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ และสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี พร้อมกับเยี่ยมชมอ่างเก็บน้ำ

โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำยางชุมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานพระราชดำริไว้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2546 สรุปความว่า ให้พิจารณาหาทางเพิ่มปริมาณเก็บกักของอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ ต่อมาในปี 2547-2548 กรมชลประทานจึงได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำยางชุม โดยปรับปรุงเขื่อนดินเพื่อเพิ่มความสูงของตัวเขื่อนและเพิ่มความจุของน้ำจาก 32.00 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 41.10 ล้านลูกบาศก์เมตร ปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น ปรับปรุงอาคารท่อระบายน้ำปากคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ก่อสร้างอาคารท่อระบายน้ำลงลำน้ำเดิม และติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ สามารถส่งน้ำให้พื้นที่รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากเดิม 15,300 ไร่ เป็น 20,300 ไร่ ส่งผลให้ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรโดยปลูกพืช เช่น สับปะรด มะม่วง มะพร้าว อ้อย พืชผักต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ผลักดันน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้งเพื่อรักษาคุณภาพน้ำและสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าโดยรอบ นอกจากประโยชน์ที่เกิดขึ้นโดยตรงแล้วอ่างเก็บน้ำย่างชุมฯยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดให้กับราษฎรได้มีแหล่งอาหารโปรตีนไว้บริโภค รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกแห่งของจังหวัดทำให้ราษฎรมีรายได้จากการทำประมงและจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

จากการติดตามการดำเนินงานโครงการฯของคณะองคมนตรีในครั้งนี้ ได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการดำเนินงานโครงการฯ ให้บังเกิดความมั่นคง ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อสนองพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดกับราษฎรต่อไป (NNT)

People unity news online : post 14 พฤศจิกายน 2560 เวลา 22.50 น.

ชวนเที่ยวงาน “ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” 21-25 เม.ย.นี้

People Unity News : 22 เมษายน 2566 เปิดยิ่งใหญ่ งาน “ ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” 21-25 เม.ย.นี้ เปิด 21 แหล่งเรียนรู้รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ชมวัง พิพิธภัณฑ์ เข้าวัดทำบุญไหว้พระ ขอพร เสริมสิริมงคล ถ่ายภาพย้อนยุค ฟรีตลอดงาน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จัดขึ้นวันที่ 21 – 25 เมษายน 2566 ณ บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ และวันที่ 21 เม.ย. – 7 พ.ค. 2566 ณ สวนสันติชัยปราการ พร้อมชมการแสดงชุด ใต้ร่มพระบารมี จักรวงศ์ และชุดมนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมประจำถิ่นไทย โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ นั่งรถรางแวะชมการแสดงมัลติมีเดีย นิทรรศการสวนแสง “แสงแห่งความภักดี ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” และการจัดแสดงอุโมงค์ไฟ ที่สวนสันติชัยปราการ พร้อมเดินชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน หรือ Night Museum

มีการสาธิตอาหารไทยโบราณ และอาหารชาววัง เยี่ยมชมบรรยากาศตลาดย้อนยุค จำหน่ายอาหาร ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย โดยจัดงานใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี รวมถึงสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ในพระบรมราชวงศ์จักรี ที่ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้มีความผาสุกและเจริญรุ่งเรืองมาจนปัจจุบัน เป็นเวลา 241 ปี โดยในปีนี้มุ่งหวังให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนตลอดการจัดงาน คาดเกิดรายได้กว่า 100 ล้านบาท

สำหรับกิจกรรมปีนี้เปิดให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ใช้บริการรถ ขสมก. และรถรางนำชม แวะทำบุญไหว้พระ เข้าชมแหล่งเรียนรู้ วัด และพิพิธภัณฑ์ 21 แห่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย ได้แก่ 1.พระบรมมหาราชวัง 2. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และโรงละครแห่งชาติ 3.สวนสันติชัยปราการ 4.พิพิธภัณฑ์บางลำพู 5.วัดบวรนิเวศวิหาร 6.พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน  เป็นต้น

การแสดงดนตรีสากล ดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีอีสาน หมอลำ จากนักร้องรับเชิญมากมาย และโชว์ศิลปะการแสดงสุดพิเศษ Soft Power ระดับโลกของไทย นอกจากนี้ยังมีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก อาทิ การแสดงละครนอก เรื่องสังข์ทอง รำเบิกโรงละครชาตรี อุปรากรจีน การแสดงพื้นบ้านภาคกลาง การแสดงหมอลำอีสาน มหกรรมกลองล้านนา การแสดงนานาชาติ การแสดงลิเก การสาธิตอาหารโบราณและอาหารชาววัง ในรูปแบบตลาดย้อนยุค การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม 76 จังหวัด

และคืนนี้ 4 ทุ่ม ช่อง 9 MCOTHD กด 30 จะถ่ายทอดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” นำภาพบรรยากาศสวยๆของงานมาให้ได้ชมกันแบบเต็มอิ่ม

Advertisement

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี แล้ว

People Unity News : 2 กันยายน 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 แล้ว นั้น

บัดนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรองนายกรัฐมนตรี

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายสุทิน คลังแสง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกตำแหน่งหนึ่ง

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายไชยา พรหมา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายอนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นางมนพร เจริญศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

Advertisement

พระราชดำรัสในหลวง พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี ในวโรกาสเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ

People Unity : พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานต่อคณะรัฐมนตรี ในการพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ 36 คน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เวลา 17.45 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า

“ขอให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้ได้ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ทั้งนี้เพื่อความสุขและความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน งานใดๆก็ต้องมีอุปสรรค งานใดๆก็ต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหา และเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์ โดยแก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุดและมีความเข้มแข็งอดทน ก็ขอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐบาลมีกำลังใจ มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีด้วยความถูกต้องต่อไป”

ใต้ร่มพระบารมี : พระราชดำรัสในหลวง พระราชทานแก่คณะรัฐมนตรี ในวโรกาสเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ

People Unity : post 18 กรกฎาคม 2562 เวลา 23.20 น.

รัฐบาลเชิญชวนเที่ยวงาน Silk Festival 2023

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 29 พฤศจิกายน 2566 ทำเนียบ – รัฐบาล เชิญชวนเที่ยวงาน Silk Festival 2023 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนฯ ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงมหาดไทย ขอเชิญประชาชนร่วมงาน Silk Festival 2023 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน Silk Success Sustainability ร่วมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และนิทรรศการผลสำเร็จจากโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และ การแสดงแบบภูมิปัญญาผ้าไทยร่วมสมัย (Sustainable Fashion) จากไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 3 ธ.ค 66 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 6-7 เมืองทองธานี

นายคารม กล่าวว่า งาน Silk Festival 2023 เป็นงานที่จัดแสดงการรังสรรค์ผลงานสุดประณีตสะท้อนศักยภาพของการพัฒนาลายผ้าทอให้เข้ากับยุคสมัย แต่ยังคงอัตลักษณ์และเสน่ห์ของความเป็นไทยไว้อย่างสมบูรณ์นำไปสู่ Soft Power ด้านผ้าไทยอย่างแท้จริง มีบูทผู้ประกอบการ 200 กลุ่ม โดย 170 กลุ่มเป็นผู้ได้รับการชนะเลิศประกวดผ้าพระราชทาน กลุ่ม Young OTOP และ Premium OTOP ซึ่งในแต่ละบูทจะมี QR Code และมี E-catalog E-Book Online ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกและสั่งจองผ่านออนไลน์ได้

“ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับสุดยอดผลงานภาคที่ได้รับการพัฒนาจากการน้อมนำพระดำริ นอกจากนี้ ในงานจะมีการ workshop ทุกวันวันละ 3-4 กิจกรรม ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการและเลือกซื้อผ้าไทย ผ้าพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ชั้นสูง และอาหารจากร้านดังทั่วประเทศ” นายคารม กล่าว

Advertisement

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯเยี่ยมผู้บาดเจ็บและพระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวเหยื่อโศกนาฏกรรม

People Unity News : วันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 20.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ ไปทรงเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุโศกนาฏกรรมในจังหวัดหนองบัวลำภู ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลอุดรธานี นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปิติล้นพ้น และทำให้พวกเขามีกำลังใจที่เข้มแข็งในการดำเนินชีวิตต่อไป

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Advertisement

ครม.ประกาศให้วันที่ 12 ส.ค. ของทุกปี เป็น “วันผ้าไทยแห่งชาติ” น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณพระพันปีหลวง

People Unity News : 30 พฤษภาคม 2565 ครม. ประกาศให้วันที่ 12 ส.ค. ของทุกปี เป็น “วันผ้าไทยแห่งชาติ”

ที่ประชุม ครม. (30 พ.ค. 65) เห็นชอบประกาศให้วันที่ 12 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันผ้าไทยแห่งชาติ เพื่อรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอนุรักษ์ ส่งเสริม สืบสานผ้าไทย ให้เป็นที่ประจักษ์มายาวนาน จากสิ่งทอท้องถิ่นที่สูญหายไปให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน

วันผ้าไทยแห่งชาติ ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า National Thai Textile Day โดยได้นิยาม “ผ้าไทย” คือ ผ้าที่สร้างสรรค์ขึ้นจากมรดกภูมิปัญญาของไทยที่ได้รับการสืบทอดต่อยอดจากรุ่นสู่รุ่น บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ประจำถิ่นที่ผลิตขึ้นภายในประเทศโดยฝีมือคนไทย โดยใช้เทคนิค เช่น การทอ จก ยก ขิด ล้วง ปัก มัดหมี่ มัดย้อม บาติก พิมพ์ โดยใช้เส้นใยธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ไหม ฝ้าย ใยกัญชง ใยสับปะรด ที่มีอยู่ในแต่ละท้องถิ่น เป็นต้น

Advertisement

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา

People Unity News : วันนี้ (29 กรกฎาคม 2565) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2565 ซึ่งรัฐบาลจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

เวลา 19.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งถึงทำเนียบรัฐบาล วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี รถยนต์พระที่นั่งจอดเทียบหน้าตึกสันติไมตรีกองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ รถยนต์พระที่นั่ง จากนั้น นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลเชิญเสด็จฯ ตามลาดพระบาท ผ่านแถวผู้รอเฝ้าฯ รับเสด็จ ไปจนถึงที่ประทับ

นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใจความว่า

ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทรงทราบฝ่าละอองพระบาท

เนื่องในศุภมงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม  ได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ข้าพระพุทธเจ้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการและพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า มีความปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองพระบาททรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาในงานสโมสรสันนิบาต ที่รัฐบาลได้จัดขึ้นเพื่อน้อมถวายความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันนี้

ด้วยน้ำพระราชหฤทัยและพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่นที่จะบำรุงอาณาราษฎรใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารให้ได้พำนักอาศัยด้วยความสุขสวัสดิ์ และความวัฒนาสถาพรแก่ราชอาณาจักร ทั้งยังได้พระราชทานโครงการพระราชดำริน้อยใหญ่อันเป็นประโยชน์อเนกอนันต์ ตลอดจนพระราชทานความช่วยเหลือพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเพื่อดับความทุกข์ร้อนและบรรเทาเภทภัยนานา  พระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ได้ประจักษ์ชัดแจ้งแก่ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และได้สถิตอยู่ในดวงใจของพสกนิกรชาวไทยทั้งปวง

ในมหามงคลสมัยนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระราชานุญาต ตั้งจิตอธิษฐานร่วมกันถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล อีกทั้ง พระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลรักษาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ พระบรมเดชานุภาพและพระบารมีแผ่ไพศาล มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสฤษดิ์ดั่งพระราชหฤทัยปรารถนา สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้าและเหล่าพสกนิกรชาวไทย ตราบจิรัฐิติกาล

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

วงดุริยางค์กรมศิลปากรบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จบแล้ว นายกรัฐมนตรีนำผู้ร่วมงานกล่าว “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง นายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรการแสดงเฉลิมพระเกียรติชุด “อาศิรวาทราชสดุดี” โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม เป็นการแสดงถึงความงดงามประณีตในรูปแบบนาฏศิลป์จารีตประเพณี (ราชสำนัก) ที่ได้รับการสืบทอดกระบวนท่ารำ การขับร้องและท่วงทำนองเพลงเป็นแบบแผนมาแต่โบราณสืบมาจนปัจจุบัน การแสดงนำมาเรียงร้อยปรับแต่งขึ้นใหม่เป็นการเฉพาะ โดยเริ่มจากพระอิศวรเทพเจ้า พร้อมพระอุมาภัควดี นำขบวนพราหมณ์และพราหมณี ซึ่งเป็นผู้ทรงศีล สะอาด บริสุทธิ์ทั้งกายและใจ ออกมาร่ายรำเพื่อถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ด้วยเพลงหน้าพาทย์ดำเนินพราหมณ์ จากนั้น ขับร้องบทประพันธ์ด้วยเพลงขับไม้บัณเฑาะว์ ต่อด้วยเพลงหน้าพาทย์ตระนิมิตล้วนเป็นเพลงหน้าพาทย์ที่มีกระบวนท่ารำสืบทอดมาตั้งแต่่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จบแล้ววงดุริยางค์กรมศิลปากร บรรเลงเพลงสดุดีจอมราชา 2 จบ โดยผู้ร่วมงานได้ร่วมขับร้องเพลงสดุดีจอมราชาเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เมื่อได้เวลาอันสมควร นายกรัฐมนตรีและภริยา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ ส่งเสด็จสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ รถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เชิญพระราชวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี ประธาน/รองประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หัวหน้าส่วนราชการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ วุฒิสภา หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการการเมือง ข้าราชการประจำ คณะบดีคณะทูต เอกอัครราชทูตอาวุโสประจำภูมิภาคต่าง ๆ เลขาธิการ ESCAP ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ พร้อมคู่สมรส เข้าร่วมในงานสโมสรสันนิบาตฯ ด้วย

Advertisement

Verified by ExactMetrics