วันที่ 15 มิถุนายน 2025

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่นายกรัฐมนตรี

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 20 กรกฎาคม 2567 ราชกิจจานุเบกษาประกาศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่นายกรัฐมนตรี

วันนี้ (20 ก.ค. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประกาศราชกิจจานุเบกษา วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่ง ช้างเผือก ชั้น มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้น มหาวชิรมงกุฎ แก่ นายเศรษฐา ทวีสิน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม พุทธศักราช  2567

Advertisement

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้องคมนตรีติดตามโครงการฯอ่างเก็บน้ำยางชุม

People unity news online : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชกระแสให้ติดตาม ขับเคลื่อน เร่งรัด รวมทั้งแก้ไขปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อประชาชน

วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2560) เวลา 16.30 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคกลาง พร้อมคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปยังโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำยางชุม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการฯ โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมชลประทานบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการฯ และสถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี พร้อมกับเยี่ยมชมอ่างเก็บน้ำ

โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำยางชุมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดขึ้นจากพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานพระราชดำริไว้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2546 สรุปความว่า ให้พิจารณาหาทางเพิ่มปริมาณเก็บกักของอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ ต่อมาในปี 2547-2548 กรมชลประทานจึงได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำยางชุม โดยปรับปรุงเขื่อนดินเพื่อเพิ่มความสูงของตัวเขื่อนและเพิ่มความจุของน้ำจาก 32.00 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 41.10 ล้านลูกบาศก์เมตร ปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น ปรับปรุงอาคารท่อระบายน้ำปากคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ก่อสร้างอาคารท่อระบายน้ำลงลำน้ำเดิม และติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำยางชุมฯ สามารถส่งน้ำให้พื้นที่รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากเดิม 15,300 ไร่ เป็น 20,300 ไร่ ส่งผลให้ราษฎรได้ใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรโดยปลูกพืช เช่น สับปะรด มะม่วง มะพร้าว อ้อย พืชผักต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ผลักดันน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้งเพื่อรักษาคุณภาพน้ำและสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าโดยรอบ นอกจากประโยชน์ที่เกิดขึ้นโดยตรงแล้วอ่างเก็บน้ำย่างชุมฯยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดให้กับราษฎรได้มีแหล่งอาหารโปรตีนไว้บริโภค รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกแห่งของจังหวัดทำให้ราษฎรมีรายได้จากการทำประมงและจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

จากการติดตามการดำเนินงานโครงการฯของคณะองคมนตรีในครั้งนี้ ได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการดำเนินงานโครงการฯ ให้บังเกิดความมั่นคง ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อสนองพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดกับราษฎรต่อไป (NNT)

People unity news online : post 14 พฤศจิกายน 2560 เวลา 22.50 น.

นายกฯลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 12 สิงหาคม 2567 นายกรัฐมนตรีลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567

วันนี้ (12 สิงหาคม 2567) เวลา 08.15 น. ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง   นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567 พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและภริยา และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี  รองนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง   จากนั้น นายกรัฐมนตรีลงนามถวายพระพร รองนายกรัฐมนตรีและภริยาถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์ฯ เสร็จพิธี

Advertisement

ผบ.ทบ.นำ รด.จิตอาสา 3 แสนนาย ร่วม ”เราทำความดี ด้วยหัวใจ”

People Unity News : 9 ตุลาคม 2566 ผบ.ทบ.นำ รด.จิตอาสา 3 แสนนายทั่วประเทศ จัดกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566 ถวายเป็นพระราชกุศล

พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก เปิดกิจกรรม รด.จิตอาสา 3 แสนนาย เราทำความดี ด้วยหัวใจ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2566 และ เป็นการแสดงออกถึงความเสียสละ อุทิศตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

โดยมีนักศึกษาวิชาทหารปีการศึกษา 2566 จำนวน 316,000 นาย ทั่วประเทศ ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาในรูปแบบต่างๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมตามความสมัครใจ เช่น การพัฒนาภูมิทัศน์สถานที่ต่าง ทั้งในชุมชน โรงเรียน  ศาสนสถาน โรงพยาบาล  การพัฒนาแหล่งน้ำ คู คลอง และการมอบสิ่งของให้ผู้ป่วยเจ็บ และยากไร้

ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้โอวาทนักศึกษาวิชาทหาร และกล่าวเปิดกิจกรรม รด.จิตอาสาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโครงการจิตอาสา พระราชทานด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรชาวไทยปรองดอง สามัคคี ร่วมมือร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเพื่อให้มีความรักความผูกพันต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่นักศึกษาวิชาทหาร 3 แสนนายทั่วประเทศได้ร่วมกันทำกิจกรรม และ แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่านักศึกษาวิชาทหารจะเป็นคนที่ดีของสังคม และเป็นกำลังพลสำรอง ที่มีคุณภาพในอนาคตต่อไป พร้อมย้ำว่า การเปิดกิจกรรมจิตอาสาในวันนีั ถือเป็นกิจกรรมเริ่มต้นที่กองทัพบกได้ดำเนินการ เนื่องในวันนวมินทรมหาราชปีนี้ และจะทำอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม

Advertisement

นายกฯแถลงจัด 10 โครงการสำคัญ เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 9 พฤษภาคม 2567 ทำเนียบรัฐบาล – นายกฯ แถลงรัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 ก.ค.นี้ เลือก 10 โครงการสำคัญพัฒนาคุณภาพชีวิต ปชช.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6  รอบ  28  กรกฎาคม 2567 ว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ  6 รอบ หรือ 72 พรรษาในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติทุกประการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานจะมีทั้งงานพระราชพิธี งานพิธีการ โครงการและกิจกรรม ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดทำโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนเพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้อยู่ดีมีสุข ซึ่งจะมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด ขณะนี้มีหน่วยงานภาครัฐ เอกชนเสนอโครงการและกิจกรรมเข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลได้เลือกโครงการขนาดใหญ่จากที่เสนอในการประชุมวันนี้ ให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติในนามรัฐบาล จำนวน 10 โครงการ โดยมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ รับไปดำเนินการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับโครงการเฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วย โครงการที่ 1 โครงการยกระดับสวนสาธารณะบึงหนองบอน และ Pocket Parks 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบครบวงจร ให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจะพัฒนาสวนสาธารณะขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ สวนหลวง ร.9 ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ และสวนสาธารณะบึงหนองบอน ให้เป็นสวนสาธารณะระดับมหานครที่มีพื้นที่รวมกันกว่า 1,144 ไร่ โดยจะจัดให้เป็นสถานที่เล่นกีฬา ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ และทำกิจกรรมต่าง ๆ แบบครบวงจร เพียบพร้อมด้วยอาคารสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนภูมิทัศน์ที่สวยงาม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 2 โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อเป็นการฟื้นฟูและรักษาสภาพป่าต้นน้ำ รวมถึงการคืนสภาพโครงสร้างของระบบนิเวศให้กับผืนป่าทั่วประเทศ รัฐบาลจึงจัดทำโครงการเพื่อรวมพลังจิตอาสาของทุกภาคส่วนในการร่วมกันปลูกป่า และบำรุงรักษาต้นไม้ เพื่อคืนธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ คืนอากาศสะอาดให้กับประชาชน โดยตั้งเป้าหมายในการปลูกป่าทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 72 ล้านต้น ทั้งนี้ ได้มอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการรับลงทะเบียน จัดหาพันธุ์กล้าไม้ และรวบรวมข้อมูลการปลูกต้นไม้ของทุกหน่วยงาน องค์กร หรือกลุ่มบุคคล เพื่อใช้ประกอบในการ

“โครงการที่ 3 โครงการแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ให้มีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปี รวมถึงเพื่อเป็นการขยายผลต่อยอด จากโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จากเดิมที่ทรงรับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 47 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ 25  จังหวัด   รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขยายขอบเขตการดำเนินโครงการเพิ่มเติม จำนวน 25  แห่ง รวมเป็น 72  แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะพิจารณาพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งและขาดแคลนน้ำ ไม่มีศักยภาพในการเจาะบ่อน้ำบาดาล จำเป็นต้องทำการเจาะบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ พร้อมกับก่อสร้างระบบประปาบาดาลในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมเพื่อช่วยเหลือราษฎรไม่ให้เดือดร้อน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 4 โครงการ “10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการสืบสาน และขยายผลต่อยอดพระบรมราโชบายในการพัฒนาแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่าง ๆ ที่เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ตลอดจนเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงสร้างความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง เช่น โครงการพัฒนาคลองเปรมประชากร และพัฒนาคลองแม่ข่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำโครงการพัฒนาแม่น้ำ คู คลองทั่วประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน  ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการตั้งแต่ขุดลอกคู คลอง ปรับภูมิทัศน์ และทัศนียภาพ รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนตลอดสองฝั่งคลอง ได้แก่ การจัดระเบียบที่อยู่อาศัยใหม่ ความสะอาดของทางเดิน และถนน การกำจัดขยะ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และระบบการระบายน้ำ โดยจะดำเนินการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดอื่น ๆ รวม 10 แห่ง

“โครงการที่ 5  โครงการพัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ด้วยรัฐบาลเล็งเห็นว่า น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภค และบริโภคของประชาชน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการขุดลอกคลองและอ่างเก็บน้ำ จำนวนทั้งสิ้น 72 แห่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเก็บกักน้ำให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงและสามารถบริหารจัดการน้ำรวมถึงแก้ปัญหาภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 6 โครงการยกระดับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชัยพัฒน์ และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพการให้บริการและการเข้าถึงการบริการด้านสาธารณสุขลดความแออัด ลดระยะในการรอคอยการเข้ารับการบริการของประชาชน รวมถึงมีสถานที่ที่เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

“รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการขยายบริการทางการแพทย์ และขยายศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยเฉพาะทางที่มีความซ้ำซ้อน และลดการส่งต่อผู้ป่วย โดยจะดำเนินการทั้งสิ้น 72 แห่ง แบ่งเป็น 1. การยกระดับคุณภาพการบริการของโรงพยาบาล 36 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ  21 แห่ง โรงพยาบาลชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 11 แห่ง โรงพยาบาลชัยพัฒน์ 4 แห่ง 2. การยกระดับการเข้าถึงบริการของประชาชน โดยเป็นการจัดสร้างชุดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชน 36 แห่ง ทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 7 โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ช่วยเหลือและให้โอกาสแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสรวมถึงผู้พิการหรือทุพพลภาพในการที่จะได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน อันได้แก่ ที่พักอาศัย หรือที่ดินทำกิน สำหรับการประกอบอาชีพเพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมจึงได้เสนอการดำเนินการ 2 กิจกรรม ได้แก่ การจัดหาที่ดินที่เป็นพื้นที่ของเหล่าทัพทั่วประเทศ รวมจำนวน 72,000 ไร่ สำหรับจัดสรรให้กับประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการเป็นที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย รวมถึงได้รับเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักอาศัยสำหรับคนพิการ จำนวน 720 หลัง และผู้ด้อยโอกาส จำนวน 720 หลัง

“โครงการที่ 8 โครงการบริจาคโลหิต 10,000,000 CC เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดี และทำประโยชน์ในการช่วยเหลือต่อชีวิตและลมหายใจให้กับผู้อื่น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ในการนี้ รัฐบาล จึงได้จัดทำโครงการเพื่อเป็นการรวมพลังจิตอาสาทั่วประเทศจากทุกภาคส่วนในการบริจาคโลหิต โดยมีเป้าหมายในการรับบริจาคครั้งนี้ จำนวน 10 ล้าน CC เพื่อมอบให้แก่สภากาชาดไทยสำหรับใช้เป็นโลหิตสำรองให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 9 โครงการจัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย หรือผู้มีแนวโน้มจะเป็นคนพิการที่มีรายได้น้อยที่ประสบความเดือดร้อน เข้าไม่ถึงสิทธิและสวัสดิการ ให้กลับมาใช้ชีวิตประจำวัน เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้อย่างเท่าเทียม และดำรงชีวิตด้วยตนเองได้อย่างอิสระ กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ จะจัดหากายอุปกรณ์ และเครื่องช่วยความพิการ สำหรับช่วยเหลือคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกายดังกล่าว ที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับอุปกรณ์สำหรับช่วยความพิการที่มีความเหมาะสมต่อสภาพความพิการของแต่ละบุคคลทั่วประเทศจำนวน 72,000 ชุด

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการที่ 10 โครงการ “หลอมรวมใจ มอบน้ำใสสะอาดให้โรงเรียน” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้เด็กนักเรียนได้มีน้ำสะอาดอุปโภคบริโภค รวมถึงส่งเสริมสุขภาวะที่ดี รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการ โดยบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องปรับปรุงคุณภาพน้ำประปาในโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งต้องตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพน้ำทั้งด้านกายภาพ เคมี และแบคทีเรีย ตามวิธีการมาตรฐานที่ได้รับการรับรองเพื่อให้เหมาะกับการอุปโภคและบริโภคต่อไป

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป  ผมจะลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการในนามรัฐบาลทั้ง 10 โครงการรวมทั้งโครงการอื่น ๆ ที่เข้าร่วมเฉลิมพระเกียรติ โดยจะร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน องค์กร มูลนิธิ และภาคเอกชนต่าง ๆ ได้ร่วมกันแสดงถึงพลังแห่งความจงรักภักดี  และความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ เพราะโครงการต่าง ๆ จะสำเร็จลงได้ด้วยการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน ภาคเอกชนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนเพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุวัตถุประสงค์ ให้พี่น้องประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของพวกเราชาวไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

“บิ๊กตู่” นำ ครม.ทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เฉลิมพระเกียรติในหลวง

People unity news online : นายกรัฐมนตรี พร้อม ครม. นำหน่วยงานภาครัฐ ภาคีเครือข่ายและประชาชน ร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

วันนี้ (26 กรกฎาคม 2561) เวลา 09.10 น. ณ บริเวณถนนครปฐม ด้านคลองเปรมประชากร ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี  ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนภาคีเครือข่ายภาคเอกชน นักศึกษา และประชาชนผู้มีจิตอาสา ร่วมกันทำกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อแสดงน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการร่วมกันปฏิบัติการจิตอาสา เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ว่า การปฏิบัติการจิตอาสาเป็นกิจกรรมที่ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติในหลายๆด้าน ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเข้มแข็ง หลอมรวมดวงใจของทุกคนให้เป็นพลังหนึ่งเดียวกัน และผนึกกำลังสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ กลายเป็นพลังแห่งความรัก ความสามัคคีที่ยิ่งใหญ่ของคนในประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนได้มาร่วมกันทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่สังคม ด้วยพลังของจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งรัฐบาลได้น้อมนำโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” มาสืบสาน ขยายผลออกไปในวงกว้างในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมไปถึงกลุ่มคนไทยในต่างประเทศด้วย เพื่อให้ประชาชนผู้มีจิตอาสาทุกคนได้ร่วมกันเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2561 โดยได้จัดให้มีกิจกรรมจิตอาสานี้อีกหลายๆกิจกรรม โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2561

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจัดการผังเมืองของรัฐบาลในขณะนี้ว่า เพื่อให้ประชาชนเกิดความรับผิดชอบขยะของตนเอง ซึ่งต้องแก้ปัญหาร่วมกัน และต้องรู้วิธีจัดการขยะว่านำไปจัดการอย่างไร เช่น นำไปทำปุ๋ย ผลิตไฟฟ้า หรือเป็นพลังงาน อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ พร้อมกล่าวย้ำว่ารัฐบาลดำเนินการต่างๆ ไม่ได้เอื้อต่อประโยชน์แก่บุคคลหรือหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วนและทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการจัดการขยะ คือ ร่วมกันคัดแยกขยะก่อนทิ้งลงถัง เพื่อจะลดภาระให้แก่เจ้าหน้าที่ที่จัดเก็บ พร้อมกล่าวกับประชาชนจิตอาสาที่มาร่วมกิจกรรมว่าให้เรียนรู้และทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลแก้ไขข้อกฎหมายด้านต่างๆ ซึ่งรัฐบาลมีการประเมินทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นการติดตามผลการดำเนินงานซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์สูงสุด

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีและภริยา ได้ปลูกต้นรวงผึ้ง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณด้านข้างศาลพระภูมิ

จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมภริยา และคณะรัฐมนตรี ได้ปลูกต้นทองอุไร บริเวณถนนนครปฐมด้านติดคลองเปรมประชากร ก่อนนำคณะรัฐมนตรี จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ทำกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ ได้แก่  การฉีดน้ำล้างทำความสะอาดบริเวณถนนครปฐม ด้านคลองเปรมประชากร ทำเนียบรัฐบาล ทาสีรั้วบริเวณสะพานอรทัยและแนวขอบริมทางเดินเท้า ชมการสาธิตเรือลอกตะกอนและเครื่องกลเติมอากาศใต้น้ำ รวมทั้งเยี่ยมชมให้กำลังใจจิตอาสา บริเวณจุดบริการอาหารแก่จิตอาสาเชิงสะพานอรทัย และบริเวณถนนพระรามที่ 5 จนถึงบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมชมการขุดลอกคลองบริเวณริมกำแพงโรงเรียนราชวินิต นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบอาหารเป็นห่อข้าวเหนียวไก่และน้ำดื่มให้แก่ผู้มาร่วมปฏิบัติการจิตอาสาครั้งนี้ด้วย

People unity news online : post 26 กรกฎาคม 2561 เวลา 12.50 น.

รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา

People Unity News : รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

7 มี.ค.2565 วันนี้ (7 มี.ค. 65) เวลา 13.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ครั้งที่ 1/2565 (ผ่านระบบ Video Conference) โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา นางสาวปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลฎีกา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้แทนหน่วยงานในพระองค์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเนื่องด้วยวันที่ 12 สิงหาคม 2565 เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระชนมพรรษา 90 พรรษา นับเป็นมหามงคลพิเศษอย่างยิ่ง รัฐบาลเห็นควรให้มีการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติทุกประการ และขอให้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับโครงการต่างๆ และพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและความผาสุขของประชาชนชาวไทยและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ และเพื่อให้เยาวชนและประชาชนไทยทั้งรุ่นปัจจุบันและรุ่นหลัง ได้ศึกษาหาความรู้จากโครงการต่างๆเหล่านี้ เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แสดงออกถึงความจงรักภักดี ทั้งนี้ ให้ช่วยกันจัดทำกิจกรรมและโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ สอดคล้องกับโครงการต่างๆของพระองค์ เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด ขยายผลให้เจริญเติบโต เกิดผลเป็นรูปธรรม และเห็นสมควรให้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะถวายเป็นพระราชกุศลและถวายพระชัยมงคล

อนึ่ง ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ครบ 6 รอบ และในวันที่ 5 ธันวาคม 2570 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จะมีพระชนมพรรษา 100 พรรษา หรือ 100 ปีชาตกาล ซึ่งเป็นมหามงคลอีกวาระหนึ่ง รัฐบาลจะได้เตรียมการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ จึงขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันจัดทำโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ โดยเป็นโครงการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานไว้ ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม/โครงการขอให้ดำเนินการตามแบบธรรมเนียมโบราณราชประเพณีที่ได้ดำเนินการเช่นที่ผ่านมา

ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบในประเด็นสำคัญ เช่น

  1. การกำหนดชื่อการจัดงาน กำหนดขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการกำหนดชื่องานว่า “การจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565” โดยการกำหนดขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
  2. การแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ จำนวน 3 คณะ เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานและเพื่อให้การดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ โดยคณะกรรมการ 3 คณะ ประกอบด้วย

(1) คณะกรรมการฝ่ายพิธีการการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมี รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน มีหน้าที่และอำนาจ จัดงานรัฐพิธี ศาสนพิธี งานพิธีการในนามรัฐบาล ให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณี จัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

(2) คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและการจราจรการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) เป็นประธาน มีหน้าที่และอำนาจ จัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการจัดงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

(3) คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีหน้าที่และอำนาจ วางแผนการประชาสัมพันธ์ในทุกช่องทาง การนำเสนอภาพของการจัดกิจกรรม และการถ่ายทอดสดในการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ให้ข้อเสนอแนะควรให้มีการแต่งตั้งผู้ที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยด้านสารธาณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย เพื่อให้การจัดงานและกิจกรรมต่างๆ มีความปลอดภัยและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน พร้อมย้ำการจัดงานให้ดำเนินการภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และเป็นไปอย่างเหมาะสมโดยให้นำการจัดกิจกรรมและโครงการเสนอที่ประชุม ศบค. พิจารณาด้วย

Advertising

ชวนเที่ยวงาน “ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” 21-25 เม.ย.นี้

People Unity News : 22 เมษายน 2566 เปิดยิ่งใหญ่ งาน “ ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” 21-25 เม.ย.นี้ เปิด 21 แหล่งเรียนรู้รอบเกาะรัตนโกสินทร์ ชมวัง พิพิธภัณฑ์ เข้าวัดทำบุญไหว้พระ ขอพร เสริมสิริมงคล ถ่ายภาพย้อนยุค ฟรีตลอดงาน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” จัดขึ้นวันที่ 21 – 25 เมษายน 2566 ณ บริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ และวันที่ 21 เม.ย. – 7 พ.ค. 2566 ณ สวนสันติชัยปราการ พร้อมชมการแสดงชุด ใต้ร่มพระบารมี จักรวงศ์ และชุดมนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรมประจำถิ่นไทย โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ นั่งรถรางแวะชมการแสดงมัลติมีเดีย นิทรรศการสวนแสง “แสงแห่งความภักดี ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” และการจัดแสดงอุโมงค์ไฟ ที่สวนสันติชัยปราการ พร้อมเดินชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน หรือ Night Museum

มีการสาธิตอาหารไทยโบราณ และอาหารชาววัง เยี่ยมชมบรรยากาศตลาดย้อนยุค จำหน่ายอาหาร ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย โดยจัดงานใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี รวมถึงสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ในพระบรมราชวงศ์จักรี ที่ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้มีความผาสุกและเจริญรุ่งเรืองมาจนปัจจุบัน เป็นเวลา 241 ปี โดยในปีนี้มุ่งหวังให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนตลอดการจัดงาน คาดเกิดรายได้กว่า 100 ล้านบาท

สำหรับกิจกรรมปีนี้เปิดให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ใช้บริการรถ ขสมก. และรถรางนำชม แวะทำบุญไหว้พระ เข้าชมแหล่งเรียนรู้ วัด และพิพิธภัณฑ์ 21 แห่งรอบเกาะรัตนโกสินทร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย ได้แก่ 1.พระบรมมหาราชวัง 2. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และโรงละครแห่งชาติ 3.สวนสันติชัยปราการ 4.พิพิธภัณฑ์บางลำพู 5.วัดบวรนิเวศวิหาร 6.พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน  เป็นต้น

การแสดงดนตรีสากล ดนตรีพื้นบ้าน ดนตรีอีสาน หมอลำ จากนักร้องรับเชิญมากมาย และโชว์ศิลปะการแสดงสุดพิเศษ Soft Power ระดับโลกของไทย นอกจากนี้ยังมีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก อาทิ การแสดงละครนอก เรื่องสังข์ทอง รำเบิกโรงละครชาตรี อุปรากรจีน การแสดงพื้นบ้านภาคกลาง การแสดงหมอลำอีสาน มหกรรมกลองล้านนา การแสดงนานาชาติ การแสดงลิเก การสาธิตอาหารโบราณและอาหารชาววัง ในรูปแบบตลาดย้อนยุค การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม 76 จังหวัด

และคืนนี้ 4 ทุ่ม ช่อง 9 MCOTHD กด 30 จะถ่ายทอดงาน “ใต้ร่มพระบารมี 241 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” นำภาพบรรยากาศสวยๆของงานมาให้ได้ชมกันแบบเต็มอิ่ม

Advertisement

นายกฯ เป็นประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 28 กรกฎาคม 2567 นายกฯ เป็นประธานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (28 กรกฎาคม 2567)  เวลา 08.00 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ข้าราชการระดับสูงของทุกส่วนราชการ ทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ มหาวิทยาลัยของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ และภาคประชาชน  เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

เมื่อนายกรัฐมนตรีถึงบริเวณเวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง เดินขึ้นสู่เวที ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วถวายธูปเทียนแพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ความว่า

ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในนามของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วประเทศ ต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ได้มาร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2567 นี้

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์ในพระราชวิริยอุตสาหะ และพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความเจริญงอกงามของประเทศชาติ และประโยชน์สุขของอาณาราษฎรทุกหมู่เหล่า ทรงดำรงพระองค์ เป็นแบบอย่างแก่บรรดาข้าราชการในการปฏิบัติงาน เพื่อตอบแทนคุณของแผ่นดินด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม เน้นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าจักเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมสืบไป

ในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ดลบันดาลให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญพร้อมด้วยสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล พระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระบารมีเกริกไกรแผ่ไพศาล สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้า และเหล่าพสกนิกรตราบกาลนาน

ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต นำข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ กล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณดังต่อไปนี้

“ข้าพระพุทธเจ้า …….(ออกนามของผู้กล่าว แต่ละบุคคล) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน มีความซื่อสัตย์สุจริต เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทมุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา ตามแนวทางพระบรมราโชวาทตลอดไป” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

จบแล้ว นายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมพิธีร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและร้องเพลงสดุดีจอมราชา เป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประกอบไปด้วยกิจกรรมทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยกิจกรรมส่วนกลาง กำหนดจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ณ ท้องสนามหลวง กิจกรรมส่วนภูมิภาค กำหนดจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด หรือในสถานที่เหมาะสม ซึ่งสำนักงาน ก.พ. ได้เชิญชวนหน่วยงานจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ โดยดำเนินการพร้อมกับพิธีที่จัดขึ้น ณ ท้องสนามหลวง

Advertisement

น้อมรับ “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์” ฉบับธรรมนาวา “วัง” เพื่อความพ้นทุกข์แก่คนไทย

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 22 มีนาคม 2567 ทำเนียบรัฐบาล – “พวงเพ็ชร” น้อมรับ “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์”  ฉบับธรรมนาวา “วัง”  ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่พสกนิกรไทย เผยแพร่แก่พุทธศาสนิกชนอย่างทั่วถึง

ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน  “หลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์” ฉบับธรรมนาวา “วัง”  แก่พสกนิกรไทย เพื่อประโยชน์สุข   อันพึงจะได้รับจากพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงผ่านหลักการปฏิบัติอย่างถูกต้องตรงตามพุทธบัญญัติ

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ซึ่งกำกับดูแล ส่งเสริมกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาน้อมนำหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ฉบับธรรมนาวา “วัง”  ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ไปเผยแพร่ขยายผลทุกช่องทาง และนำไปบรรจุไว้ในการแสดงพระธรรมเทศนาของพระสงฆ์ทุกวัดทั่วประเทศ  ตลอดปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เพื่อเป็นแนวปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนอย่างทั่วถึงต่อไป

Advertisement

Verified by ExactMetrics