วันที่ 16 กันยายน 2025

นายกฯ ตรวจเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 19 กรกฎาคม 2567 นายกฯ ลงเรือ ตรวจเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งกำหนดให้จัดขึ้น ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นี้

วันนี้ (19 กรกฎาคม 2567) เวลา 08.30 น. ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี – ท่าวัดอรุณราชวราราม แขวงวชิร พยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตรวจเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยมี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมด้วย

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงโรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี นายกฯ เดินเยี่ยมชมท่าสุกรี จากนั้น รับฟังการบรรยายสรุปเส้นทางขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จากนาวาเอกทรงชัย จิตหวัง หัวหน้านายทหารฝ่ายอำนวยการกรมการขนส่งทหาร

ต่อจากนั้น นายกฯ ลงเรือ ณ ท่าเทียบเรือ ท่าวาสุกรี เพื่อตรวจเส้นทางของขบวนพยุหยาตราทางชลมารคและท่าเทียบเรือ (เส้นทางท่าสุกรี – ท่าวัดอรุณราชวราราม) และร่วมถ่ายภาพร่วมกับคณะกรรมการจัดงาน ก่อนเดินทางกลับ

“การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ใช้เรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ จัดขบวนเป็น 5 ริ้ว ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร ใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี รวมทั้งสิ้น 2,200 นาย สำหรับงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กำหนดจัดให้มีขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567” นางรัดเกล้า กล่าว

Advertisement

นายกฯ เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศล วันคล้ายวันสวรรคต รัชกาลที่ 9

People Unity News : 13 ตุลาคม 2565 นายกรัฐมนตรีและภริยา เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลและทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ ทำเนียบรัฐบาล

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ข้าราชการ และสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธี

เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยาเดินทางถึงบริเวณตึกสันติไมตรี (หลังนอก) พระสงฆ์ในพิธี จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสนะสงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีลและเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีถวายผ้าไตรพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ถวายเครื่องไทยธรรม พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระสงฆ์สวดอนุโมทนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำรับพร แล้วกราบลาพระรัตนตรัย และถวายความเคารพหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและภริยา นำผู้ร่วมงานใส่บาตรพระสงฆ์ ณ บริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี เป็นอันเสร็จพิธี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเป็นประธานในพิธีตักบาตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนนทบุรี ณ วัดเขมาภิรตารามราชวรมหาวิหาร ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เวลา 10.40 น. นายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนนทบุรี ณ วัดแสงสิริธรรม ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ส่วนในช่วงเย็นเวลา 17.00น. นายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต กรุงเทพฯ

Advertisement

นายกฯ เชิญชวนประชาชนสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ร่วมกัน ในโครงการ “บริจาคโลหิต 10,000,000 ซีซี” ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 67

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 21 กรกฎาคม 2567 นายกฯ เชิญชวนประชาชนแบ่งปันธารน้ำใจ สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ร่วมกันในโครงการ “บริจาคโลหิต 10,000,000 ซีซี ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2567 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567”

วันนี้ (21 ก.ค. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี บูรณาการความร่วมมือร่วมกับ สภากาชาดไทย ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดทำ “โครงการบริจาคโลหิต 10,000,000 ซีซี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” เพื่อเป็นการถวายพระราชกุศล และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเพื่อสนับสนุนปัญหาการขาดแคลนโลหิตสำรองของสภากาชาดไทย สำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เป็นการต่อชีวิตให้ผู้อื่น รวมถึงเสริมสร้างจิตสำนึกสาธารณะในการช่วยเหลือสังคม จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมกันบริจาคโลหิตได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2567 ทั่วประเทศ ตามวันที่และสถานที่ ดังนี้

เดือนกรกฎาคม 2567

วันที่ 1 – 31 กรกฎาคม ตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น

วันที่ 23 กรกฎาคม, อาคารนวม สุขุมวิท 21 กทม. และที่ว่าการอำเภอทัพถิ่น จ.อุทัยธานี

วันที่ 24 กรกฎาคม ตำรวจภูธรภาค 8 จ.ภูเก็ต, โรงพยาบาลตำรวจ กทม. และ สำนักงาน ป.ป.ท. กทม.

วันที่ 25 กรกฎาคม โรงพยาบาลตำรวจ กทม. และ โรงพยาบาลภูมิพล กทม.

วันที่ 26 กรกฎาคม โรงพยาบาลตำรวจ กทม., อาคารสำนักงานศาลยุติธรรม กทม., ตำรวจภูธรภาค 6 จ.พิษณุโลก และโรงพยาบาลปทุมธานี จ.ปทุมธานี

วันที่ 31 กรกฎาคม สำนักงานเขตวัฒนา กทม. และอาคารตำรวจภูธร จ. ยโสธร

เดือนสิงหาคม 2567

วันที่ 1 – 31 สิงหาคม ตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่น โรงพยาบาลกองทัพบกทั้ง 37 แห่งและหน่วยงานโรงพยาบาลรัฐบาลทั่วประเทศ

วันที่ 2 สิงหาคม ที่ศาลาประชาคมจังหวัดตราด ที่สภากาชาดไทย กทม. และขอนแก่น

วันที่ 8 สิงหาคม กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กทม.

วันที่ 15 สิงหาคม บมจ.ไปรษณีย์ไทย กทม.

วันที่ 16 สิงหาคม สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนนทบุรี

วันที่ 20 สิงหาคม สำนักงานศาลปกครอง กทม.

วันที่ 22 สิงหาคม สำนักงานประกันสังคม (ส่วนกลาง) จังหวัดนนทบุรี

เดือนกันยายน 2567

วันที่ 1 – 30 กันยายน ตำรวจภูธรภาค 4 จังหวัดขอนแก่น

วันที่ 13 กันยายน สำนักงาน ปปช.จังหวัดนนทบุรี

เดือนตุลาคม 2567

วันที่ 25 ตุลาคม มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

วันที่ 31 ตุลาคม สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กทม.

เดือนพฤศจิกายน 2567

วันที่ 14 พฤศจิกายน บมจ.ไปรษณีย์ไทย กทม.

วันที่ 21 พฤศจิกายน สำนักงานประกันสังคม (ส่วนกลาง) จังหวัดนนทบุรี

เดือนธันวาคม 2567

วันที่ 2 ธันวาคม ศาลาว่าการ กทม. 2

วันที่ 13 ธันวาคม สำนักงาน ป.ป.ช. นนทบุรี

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2567 มีหน่วยงานเข้าร่วมจำนวน 65 หน่วยงาน จากทุกภาคส่วนทั่วประเทศที่ตั้งเป้าหมายการรับบริจาคโลหิตให้ได้ในจำนวน 10,000,000 ซีชี ภายในสิ้นปี 2567 นี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถช่วยผู้ป่วยได้ถึง 60,000 ราย โดยประชาชนที่สนใจสามารถศึกษาคุณสมบัติ การเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังการบริจาคโลหิตได้ที่ https://blooddonationthai.com/?page_id=735 และ https://blooddonationthai.com/?page_id=737

“นายกรัฐมนตรีเชิญชวนประชาชนทุกคน ร่วมบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แบ่งปันธารน้ำใจ ช่วยต่อชีวิตให้ผู้อื่น สร้างจิตสำนึกสาธารณะในการช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีมหามงคลนี้ ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่ชาวไทยทุกคนสามารถแสดงความจงรักภักดี ถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริและพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นเข็มทิศในการดำเนินชีวิต อยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพาและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตลอดจนผลักดันการพัฒนาโครงการต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคนให้อยู่ดีมีสุขโดยทั่วกัน” นายชัย กล่าว

Advertisement

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี แล้ว

People Unity News : 2 กันยายน 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 สิงหาคม พุทธศักราช 2566 แล้ว นั้น

บัดนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรองนายกรัฐมนตรี

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายสุทิน คลังแสง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกตำแหน่งหนึ่ง

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

นายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายไชยา พรหมา เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายอนุชา นาคาศัย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นางมนพร เจริญศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

นายเกรียง กัลป์ตินันท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

นายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

Advertisement

รัฐบาล ขอบคุณประชาชนและทุกภาคส่วน ร่วมใจเฉลิมพระเกียรติขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 28 ตุลาคม 2567 รัฐบาล ขอขอบคุณประชาชนและทุกภาคส่วน ร่วมใจเฉลิมพระเกียรติในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ที่พร้อมใจกันไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในการแสดงความจงรักภักดีและชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้านางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอขอบคุณทุกส่วนราชการ ทหาร พลเรือนที่มีส่วนร่วมในการจัดพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้สำเร็จเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม สมพระเกียรติ นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมจิตอาสา ที่คอยดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาร่วมชื่นชมพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงค์ ในการเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ได้เป็นที่ประจักษ์ เห็นถึงความจงรักภักดี ความรัก ความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน รวมถึงความสามัคคีของทุกภาคส่วนในการจัดงานในครั้งนี้ “สำหรับงานพระราชพิธีฯ ครั้งนี้ ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างได้ชื่นชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงความวิจิตรงดงามของริ้วขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ได้สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมของไทยทื่สืบทอดมายาวนาน รวมถึงศิลปกรรมไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ในหลากหลายสาขา ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ” นายจิรายุ กล่าว

Advertisement

 

นายกฯ kick off เปิดโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” ที่นครราชสีมา

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 16 พฤษภาคม 2567 นายกฯ เปิดโครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า วานนี้ (15 พ.ค. 67) เวลา 13.35 น. ณ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมด้วย

น.ส.เกณิกา กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริกและบริเวณพิธี ได้ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดกรวยวางพานพุ่ม และนำกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 วงโยธวาทิตทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้น ได้รับชมวีดิทัศน์ “พระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด อนุรักษ์ทรัพยากรเพื่อแผ่นดินไทย” และการแสดงขับร้องเพลงประสานเสียงชุดชีวิตสัมพันธ์ของผู้ต้องขัง จากทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก เรือนจำกลางคลองไผ่ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง และทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา รวม 72 คน รวมทั้งรับฟังรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์การจัดโครงการ จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวเปิดโครงการฯ ว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นมหามงคลสมัยพิเศษยิ่ง รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมอบหมายให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินมาตรการรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ในความรับผิดชอบให้ทั่วถึงและต่อเนื่อง รวมถึงมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำผู้ที่ก้าวพลาด ที่กระทรวงยุติธรรมพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม อาทิ การปลูกป่า การขุดลอกคูคลอง การลอกท่อระบายน้ำ เก็บขยะพื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยมุ่งหวังให้กลุ่มผู้ต้องราชทัณฑ์ และผู้ก้าวพลาดที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ได้แสดงพลังในการทำความดี ในลักษณะที่เป็นงานบริการสาธารณะ เพื่อชดเชยความเสียหายที่เคยกระทำ กลับคืนสู่สังคม เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

นายกฯ กล่าวต่อว่า กระทรวงยุติธรรมได้นำพลังของผู้ที่ก้าวพลาด ร่วมทำความดีด้วยการรักษาฟื้นฟูและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งมีกระทรวงมหาดไทยมาสนับสนุนการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งวันนี้ถือเป็นการ Kick off โครงการและทำพร้อมกันทั่วประเทศ นอกจากการดำเนินกิจกรรมข้างต้นแล้ว ยังได้มีการต่อยอดโดยจะมีการอบรมให้ความรู้กับผู้ที่ก้าวพลาด ที่กระทรวงยุติธรรมดูแลในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสร้างเรือนจำหรือหน่วยงานยุติธรรมสีเขียว Green Justice เพิ่มเติม ถือเป็นการสร้าง “สีเขียว” ทั้งทางกายภาพและมิติความคิดและจิตใจ ซึ่งขอชื่นชมมา ณ ที่นี้ และขอให้ดำเนินกิจกรรมนี้ตลอดไป

นายกฯ กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน รวมไปถึงผู้ต้องราชทัณฑ์ ผู้ถูกคุมความประพฤติ เด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาดทุกคน ที่เข้าร่วมกิจกรรม ณ สถานที่แห่งนี้และทั่วประเทศ ที่ร่วมใจรวมพลังกันทำกิจกรรมอันมีคุณูปการต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และขอให้การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้บรรลุผลสำเร็จทุกประการ

จากนั้นนายกฯ เติมสีเขียวทั่วแผ่นดินในแผนที่ประเทศไทยจำลอง พร้อมมอบสัญลักษณ์การขับเคลื่อนโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” ให้กับปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับมอบใบประกาศยกย่องคนต้นแบบที่ผ่านการอบรม โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและบุคคลจิตอาสาอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 10 ราย

ต่อจากนั้น นายกฯ kick off ปล่อยแถวผู้เข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” (ผ่านหน้าจอ) พร้อมกันทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น 1) การปล่อยแถวผู้ต้องขัง ผู้ถูกคุมประพฤติ และเด็กสถานพินิจฯ ถือพันธุ์กล้าไม้เตรียมปลูกและขึ้นรถไปยังพื้นที่บริเวณปลูกป่า 100 ไร่ 2) การปล่อยแถวผู้ร่วมกิจกรรม 5 พื้นที่ภูมิภาค (ผ่านหน้าจอ) ได้แก่ ภาคเหนือ จ.น่าน (อุทยานแห่งชาติศรีน่าน) กิจกรรมปลูกต้นไม้เขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (เรือนจำกลางคลองเปรม) กิจกรรมขุดลอกท่อระบายน้ำทั่วกรุงเทพมหานคร ภาคใต้ จ.สงขลา กิจกรรมพัฒนาแหล่งน้ำ (คลองระบายน้ำ ร.5 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่) 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี (หาดตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง) กิจกรรมรับมอบพันธุ์กล้าไม้ และเก็บขยะชายฝั่ง และภาคตะวันออก จ.ระยอง (เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว) กิจกรรมอบรมความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับเรือนจำที่เหลือ 71 จังหวัด ทำพิธีรับมอบพันธุ์กล้าไม้พร้อมกันในวันนี้ (15 พ.ค. 2567) ด้วย ทั้งนี้ นายกฯ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมกันปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ (ต้นรวงผึ้ง) ก่อนเดินทางกลับ

Advertisement

ร.10 รับสั่งให้รัฐบาลสืบสานต่อยอดยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

People unity news online : สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งให้สืบสานต่อยอด ยุทธศาสตร์การบูรณาการการขับเคลื่อนพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

วันนี้ (23 มกราคม 2560) เวลา 13.40 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงความคืบหน้าโครงการจิตอาสาพระราชทานว่า โครงการดังกล่าวเป็นพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่ทรงจัดตั้งขึ้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งกับรัฐบาลและประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์คือ 1.ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานภาครัฐในรูปแบบของคณะกรรมการ  ผู้ประสานงานโครงการ การจัดทำแผนงาน เรื่องการพัฒนา การช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ และกิจกรรมพิเศษอื่นๆตามที่ได้รับมอบหมาย และ 2.เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามสถานที่ต่างๆ เช่น การลอกคูคลอง เป็นต้น

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงรับสั่งให้สืบสานต่อยอด โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การบูรณาการการขับเคลื่อนการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานส่วนพระองค์อยู่อย่างต่อเนื่อง

People unity news online : post 23 มกราคม 2561 เวลา 23.00 น.

ผบ.ทบ.นำ รด.จิตอาสา 3 แสนนาย ร่วม ”เราทำความดี ด้วยหัวใจ”

People Unity News : 9 ตุลาคม 2566 ผบ.ทบ.นำ รด.จิตอาสา 3 แสนนายทั่วประเทศ จัดกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566 ถวายเป็นพระราชกุศล

พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก เปิดกิจกรรม รด.จิตอาสา 3 แสนนาย เราทำความดี ด้วยหัวใจ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2566 และ เป็นการแสดงออกถึงความเสียสละ อุทิศตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม

โดยมีนักศึกษาวิชาทหารปีการศึกษา 2566 จำนวน 316,000 นาย ทั่วประเทศ ร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาในรูปแบบต่างๆ อย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมตามความสมัครใจ เช่น การพัฒนาภูมิทัศน์สถานที่ต่าง ทั้งในชุมชน โรงเรียน  ศาสนสถาน โรงพยาบาล  การพัฒนาแหล่งน้ำ คู คลอง และการมอบสิ่งของให้ผู้ป่วยเจ็บ และยากไร้

ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้โอวาทนักศึกษาวิชาทหาร และกล่าวเปิดกิจกรรม รด.จิตอาสาว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานโครงการจิตอาสา พระราชทานด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรชาวไทยปรองดอง สามัคคี ร่วมมือร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเพื่อให้มีความรักความผูกพันต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่นักศึกษาวิชาทหาร 3 แสนนายทั่วประเทศได้ร่วมกันทำกิจกรรม และ แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่านักศึกษาวิชาทหารจะเป็นคนที่ดีของสังคม และเป็นกำลังพลสำรอง ที่มีคุณภาพในอนาคตต่อไป พร้อมย้ำว่า การเปิดกิจกรรมจิตอาสาในวันนีั ถือเป็นกิจกรรมเริ่มต้นที่กองทัพบกได้ดำเนินการ เนื่องในวันนวมินทรมหาราชปีนี้ และจะทำอย่างต่อเนื่องตลอดเดือนตุลาคม

Advertisement

นายกฯ เปิด “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

พีเพิล ยูนิตี้ นิวส์ : 14 มิถุนายน 2567 นายกฯ เปิด “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” รวมพลังจิตอาสาทุกภาคส่วน ร่วมปลูกป่า บำรุงรักษาต้นไม้

วันนี้ (14 มิ.ย. 67) เวลา 13.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยมี พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนเหล่าทัพ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมพิธี

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีถวายความเคารพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายกฯ และผู้เข้าร่วมพิธี รับชมวีดิทัศน์ “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ต่อจากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานการดำเนินโครงการฯ

โอกาสนี้ นายกฯ กล่าวว่ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเปิดโครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลจัดทำโครงการนี้ขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยรวมพลังจิตอาสาทุกภาคส่วนในการร่วมกันปลูกป่าและบำรุงรักษาต้นไม้ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ธรรมชาติ คืนอากาศสะอาดให้กับประชาชน โดยตั้งเป้าหมายในการปลูกป่าทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 72 ล้านต้น โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการรับลงทะเบียน จัดหาพันธุ์กล้าไม้ และรวบรวมข้อมูลการปลูกต้นไม้ของทุกหน่วยงาน องค์กร กลุ่มบุคคล เพื่อใช้ประกอบการดูแลรักษาต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็น 1 ใน 10 โครงการที่ดำเนินการในนามของรัฐบาล นอกจากนี้ ยังมีโครงการของภาคส่วนต่าง ๆ ที่ร่วมจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานทุกภาคส่วนได้ร่วมทำกิจกรรมในวาระสำคัญกับพี่น้องประชาชน จึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและพี่น้องประชาชนร่วมกันแสดงออกถึงพลังแห่งความจงรักภักดี และความสามัคคีของปวงชนชาวไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รวมทั้งเพื่อร่วมกันสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนางานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้มีความยั่งยืนสืบไป

ต่อจากนั้น นายกฯ ได้มอบต้นกล้า “ต้นรวงผึ้ง” จำนวน 26 ต้น ให้แก่ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวง ผู้แทนเหล่าทัพและกรุงเทพมหานคร แล้วเยี่ยมชมบูธนิทรรศการฯ พร้อมถ่ายรูปร่วมกับคณะผู้บริหาร

“การจัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อเป็นการฟื้นฟูและรักษาสภาพป่าต้นน้ำ รวมถึงการคืนสภาพโครงสร้างของระบบนิเวศให้กับผืนป่าทั่วประเทศ โดยรวมพลังจิตอาสาของทุกภาคส่วนในการร่วมกันปลูกป่าและบำรุงรักษาต้นไม้ เพื่อคืนธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ อันเป็นการถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว

Advertisement

กระทรวงเกษตรฯประชุมวางกรอบการดำเนินงานโครงการพระราชดำริของ 9 พระองค์

People Unity News : 23 เมษายน 65 นางสาวนฤมล สงวนวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 2/2565 ผ่านระบบการประชุมทางไกลออนไลน์ (Zoom Meeting) โดยที่ประชุมได้รับทราบแนวทาง/กรอบเวลาการจัดทำฐานข้อมูลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นชอบ ให้มีความครอบคลุมทั้งในมิติพระราชดำริ (ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์) ครอบคลุมพระราชดำริของ 9 พระองค์ คือ

1) พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

2) สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

3) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

4) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

5) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

6) สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี

7) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

8) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

และ 9) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ

มิติโครงการ ครอบคลุม 4 ลักษณะโครงการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กำหนด ประกอบด้วย 1) โครงการตามพระราชประสงค์ 2) โครงการหลวง 3) โครงการในพระบรมราชานุเคราะห์ และ 4) โครงการตามพระราชดำริ หรือโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมิติงบประมาณ ครอบคลุมโครงการที่ดำเนินการโดยใช้งบประมาณจากแหล่งงบประมาณต่างๆ ได้แก่ 1) งบประมาณปกติหรืองบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณของหน่วยงาน/ส่วนราชการ 2) งบประมาณของสำนักงาน กปร. และ 3) งบประมาณสนับสนุนจากแหล่งงบประมาณอื่น โดยแบ่งกรอบระยะเวลาการดำเนินการ ออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรก (ระยะเร่งด่วน) ให้ดำเนินการจัดทำรูปแบบที่กำหนด (Platform) ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 และรายงานผลโครงการในระบบได้ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 ระยะกลาง ให้ดำเนินการจัดทำรูปแบบที่กำหนด (Platform) ให้แล้วเสร็จ และรายงานผลโครงการ ในระบบได้ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (วันที่ 30 กันยายน 2566) และระยะยาว ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกมิติ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (วันที่ 30 กันยายน 2567)

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบรูปแบบการจัดทำระบบฐานข้อมูลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานทบทวน/ปรับปรุงฐานข้อมูลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภายใต้มิติโครงการ ๔ ลักษณะโครงการ ตามที่สำนักงาน กปร. กำหนด ประกอบด้วย 1) โครงการตามพระราชประสงค์ 2) โครงการหลวง 3) โครงการในพระบรมราชานุเคราะห์ และ 4) โครงการตามพระราชดำริ หรือโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทิศทางเดียวกันและสามารถนำฐานข้อมูลที่พัฒนามาบริหารจัดการโครงการพระราชดำริของกระทรวง ลดความซ้ำซ้อน และสามารถบูรณาการและติดตามผลการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว

Advertisement

Verified by ExactMetrics