วันที่ 3 พฤษภาคม 2024

กรมการค้าภายใน คิกออฟจับมือห้างท้องถิ่น เปิดจุดขายมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง 200 จุด

People Unity News : 29 เมษายน 2566 กรมการค้าภายใน คิกออฟ “Fruit Festival 2023” จับมือห้างท้องถิ่น เปิดจุดจำหน่ายมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ปริมาณกว่า 1,000 ตัน ใน 200 จุดทั่วประเทศ ประชาชนแห่ซื้อ หลายจุดหมดเกลี้ยงในพริบตา

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ผนึกกำลังร่วมกับชมรมทายาทห้างค้าปลีก-ค้าส่งแห่งประเทศไทย (ห้างท้องถิ่น) ซึ่งมีสาขารวมกันกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ แยกเป็นภาคอีสาน 69 สาขา ภาคใต้ 52 สาขา ภาคกลาง 41 สาขา ภาคเหนือ 38 สาขา ทำการ Kick off กิจกรรม Fruit Festival 2023 โดยนำมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง จากแหล่งผลผลิตในพื้นที่จังหวัดพิจิตรและพิษณุโลก กว่า 1,000 ตัน หรือ 1 ล้านกิโลกรัม มาเปิดจุดจำหน่ายในราคา 30 บาท/กิโลกรัม (กก.) เพื่อช่วยพี่น้องชาวสวนได้มีตลาดรองรับผลผลิตที่กำลังออกสู่ตลาดมากในขณะนี้ และกระตุ้นให้ประชาชนหันมาบริโภคผลไม้เพิ่มขึ้น และผลักดันให้ราคามะม่วงน้ำดอกไม้ปรับตัวสูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โดยจากการติดตามกิจกรรมเปิดจุดจำหน่ายมะม่วงร่วมกับห้างท้องถิ่นกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ พบว่า ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเดินทางมาซื้อมะม่วงตลอดทั้งวัน และบางจุดมะม่วงจำหน่ายหมดเกลี้ยงในพริบตา และผลผลิตที่เหลือคาดว่าจะจำหน่ายหมดเร็ว ๆ นี้ และเมื่อจำหน่ายหมด กรมจะเข้าไปรับซื้อมะม่วงจากเกษตรกรในพื้นที่ ๆ ผลผลิตออกมาก มาเปิดจุดจำหน่ายต่อไป ซึ่งไม่ใช่แค่เปิดจุดจำหน่ายผ่านห้างท้องถิ่น แต่ในห้างค้าส่งค้าปลีก เช่น โลตัส บิ๊กซี แมคโคร ท็อปส์ ได้เปิดจุดจำหน่ายมะม่วง และผลไม้อื่น ๆ ในโครงการ Fruit Festival 2023 ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผลจากการนำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อมะม่วงจากเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิตและกระจายออกนอกแหล่งผลิตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคามะม่วงน้ำดอกไม้ เกรด AB ปัจจุบันอยู่ที่ 20-25 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 15-20 บาท/กก. ส่วนมะม่วงฟ้าลั่น ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 9-10 บาท/กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 6-7 บาท/กก.และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ร่วมกับศูนย์การค้าสยามพารากอน และกูร์เมต์ มาร์เก็ต เปิดงาน “พาณิชย์ Fruit Festival 2023” ซึ่งเป็น 1 ใน 22 มาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2566 เป็นครั้งแรก ณ พาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อจำหน่ายผลไม้สดและแปรรูปมากกว่า 100 ชนิด เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด สับปะรดภูแล ส้มสายน้ำผึ้ง ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป ไอศกรีมทุเรียนและผลไม้ บ้าบิ่นทุเรียน พิซซ่าหน้าผลไม้ เป็นต้น และได้ร่วมมือกับพันธมิตรเอกชนและผู้ประกอบการรายอื่น ๆ เช่น สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง (พีที พีทีทีสเตชัน บางจาก เชลล์) นิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการแปรรูป การเคหะแห่งชาติ ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ส่วนราชการท้องถิ่นเข้ามาช่วยระบายผลผลิตมะม่วงผ่านช่องทางที่ตัวเองมีอยู่ ทั้งการนำไปจำหน่ายในปั๊มน้ำมัน รับพรีออเดอร์ผลไม้จากนิคมอุตสาหกรรม นำไปเปิดจุดจำหน่ายที่การเคหะแห่งชาติ ส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางในการระบายผลไม้ และช่วยให้ประชาชนสามารถหาซื้อผลไม้ไปบริโภคได้ง่ายขึ้น และในปี 2566 คาดการณ์ผลผลิตผลไม้ในประเทศจะมีปริมาณ 6.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.2 ล้านตัน จากผลผลิต 6.56 ล้านตันในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้น 3% โดยผลผลิตที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น ได้แก่ ทุเรียน เพิ่ม 18% มังคุด เพิ่ม 22% เงาะ เพิ่ม 4% ลองกอง เพิ่ม 80% และลำไย เพิ่ม 0.8%

และที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับภาคเอกชนและเกษตรกร ประชุมกำหนดแผนบริหารจัดการผลไม้ ปี 2566 ไว้ล่วงหน้าแล้ว และกำหนดมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ปี 2566 จำนวน 22 มาตรการ มีเป้าหมายการรับซื้อผลผลิตรวม 700,000 ตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เริ่มนำมาตรการต่าง ๆ มาขับเคลื่อน เพื่อดูแลผลไม้ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว ทำให้ราคาผลไม้อยู่ในเกณฑ์ดีตั้งแต่ต้นฤดู เช่น มะม่วงฟ้าลั่น ราคาสูงกว่าปีก่อน 46% มะม่วงน้ำดอกไม้ เพิ่ม 29-40% มังคุด เพิ่ม 80-146% เงาะโรงเรียน เพิ่ม 94% ทุเรียนหมอนทอง เพิ่ม 5% เป็นต้น

Advertisement

ผู้ว่าฯ ธปท.คาด GDP ปี 66 โต 3.6% ชี้นโยบายหาเสียงกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น

People Unity News : 24 เมษายน 2566 ผู้ว่าฯ ธปท.คาดจีดีพีปี 2566 โต 3.6% ชี้นักท่องเที่ยวต่างชาติ-การบริโภคภาคเอกชน ยังหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง เสถียรภาพเข้มแข็ง แต่ยังกังวลหนี้ครัวเรือน มองนโยบายหาเสียงพรรคการเมืองช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้o

ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเจอวิกฤตจากหลายปัจจัย เริ่มจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก ขณะที่จีดีพีของไทยปี 2563 หดตัวอยูที่ 6.1%, ปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้เงินเฟ้อไทยเพิ่มขึ้นสูงสุด 7.9% ในเดือน ส.ค.2565 ขณะที่ธนาคารกลางหลักพร้อมใจกันขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลค่าเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 16 ปี อยู่ที่ 38.40 บาท เมื่อ 28 ก.ย.2565 และปัญหาภาคธนาคารในต่างประเทศ ซึ่งระบบการเงินไทยได้รับผลกระทบในวงจำกัด ทั้งนี้ ธปท.ยังจับตาความผันผวนของตลาดการเงินโลกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มองว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตมาแล้ว ขณะนี้อยู่ในทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปีจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก  โดยคาดว่าครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยจะเติบโตอยู่ที่ 2.9% และครึ่งปีหลังอยู่ที่ 4.3%  ภาพรวมทั้งปีอยู่ที่ 3.6%  โดยปัจจัยหลักที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าตลอดทั้งปีจะแตะ 28 ล้านคน และการบริโภคภาคเอกชน  แต่ส่วนมูลค่าการส่งออกสินค้าครึ่งปีแรกคาดว่าจะติดลบ และกลับมาเป็นบวกได้ในช่วงครึ่งปีหลัง  ขณะที่รายได้เกษตรกรในช่วงครึ่งปีหลังจะติดลบเนื่องจากปีที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้นสูงมาก จึงเข้าสู่ช่วงปรับลดลง ขณะที่เงินเฟ้อ คาดอยู่ที่ 2.9%  อย่างไรก็ตาม ยังกังวลหนี้ครัวเรือนมองว่าปีนี้จะอยูที่ 86.9% ซึ่งยังอยู่ในระดับสูง แต่ยังมั่นใจว่าจะไม่ลุกลามถึงระบบเสถียรภาพการเงินโดยรวม

ส่วนการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในเดือน พ.ค.2565 ที่หลายพรรคการเมืองประกาศนโยบายหาเสียง ลดแลกแจกแถมนั้น หากได้รับเลือกตั้งและมีการนำมาใช้จริง มองว่าเป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น  ได้ผลเพียงชั่วคราว  และจะเกิดผลกระทบตามมา ตัวเลขหนี้ครัวเรือนอาจเพิ่มขึ้น และยังมีค่าเสียโอกาส  อยากเสนอทางเลือกเพิ่มเติมว่าควรนำทรัพยากรที่มีไปบริหารจัดการในภารกิจที่เหมาะสมกับเศรษฐกิจของประเทศ

Advertisement

ชายหาดไทย 5 แห่ง ติดอันดับชายหาดที่ดีที่สุดในโลก เกาะกระดาน ติดอันดับ 1

People Unity News : 6 เมษายน 2566 โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ยินดี ชายหาดไทย 5 แห่ง ติดอันดับชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2566 โดยเว็บไซต์ World beach guide จัดอันดับให้เกาะกระดาน จ.ตรัง เป็นอันดับ 1 ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ชื่นชมทุกหน่วยงานต่อยอดความนิยม ส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเล

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ชายหาดไทยถึง 5 แห่ง ติดอันดับชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2566 (Top 100 beaches on Earth 2023) จากเว็บไซต์ World beach guide ปลื้มเกาะกระดาน จังหวัดตรัง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับ 1 ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก สะท้อนความนิยมต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวไทย ผ่านการส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเล

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวชายหาด World Beach Guide ของประเทศอังกฤษ เผยแพร่ผลการจัดอันดับในหัวข้อ “100 อันดับ ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2566” (Top 100 beaches on Earth 2023) (https://www.worldbeachguide.com/top-100-beaches-earth.htm) ซึ่งชายหาดจากประเทศไทยติดอันดับถึง 5 แห่ง ได้แก่

อันดับ 1 เกาะกระดาน จังหวัดตรัง

อันดับ 9 หาดไร่เลย์ จังหวัดกระบี่

อันดับ 18 หาดฟรีด้อม (Freedom beach) จังหวัดภูเก็ต

อันดับ 21 แหลมหาด เกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา และ

อันดับ 44 อ่าวโตนด เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยได้ระบุว่าประเทศไทยเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี มีชายหาดที่สวยงาม หาดทรายขาวละเอียดที่ทอดยาวตลอดแนวชายหาดเปรียบเหมือนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว ซึ่งเกาะกระดาน จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม โดยเกาะกระดาน ถือเป็นสถานที่ที่มีเกาะที่สวยงามที่สุดและส่วนใหญ่ยังคงสภาพสมบูรณ์ อยู่ห่างจากทางใต้ของจังหวัดภูเก็ตและใกล้เกาะพีพีเพียง 2 – 3 ชั่วโมง จึงล้อมรอบไปด้วยความงดงามตามธรรมชาติ ซึ่งไม่มีผู้คนพลุกพล่านและเสียงรบกวน

“นายกรัฐมนตรียินดีกับผลการจัดอันดับดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความนิยมและความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีต่อแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของไทย ซึ่งเป็นอีกทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศที่สำคัญและมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่สามารถต่อยอด สร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลได้อีกมาก พร้อมขอบคุณหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน ที่พร้อมใจกันสานต่อความนิยมของไทย เป็นไปตามกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจ ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถนำเสนอรูปแบบ แนวทาง กิจกรรม อาหารการกิน ประเพณีและวัฒนธรรม เป็นไปตามแหล่งท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ต่อไป” นายอนุชา กล่าว

อนึ่ง หนึ่งในแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยปี 2566 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนด ได้แก่ “Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” ซึ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) โดยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible tourism) ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

Advertisement

นายกฯ ยินดี ร้านอาหารไทยคว้าอันดับ 1 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย

People Unity News : 1 เมษายน 2566 โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ร่วมแสดงความยินดี ร้านอาหารไทยคว้าอันดับ 1 การจัดอันดับ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย Asia’s 50 Best Restaurants 2023 ร้านอาหารไทยติดอันดับรวม 9 ร้าน ตอกย้ำเอกลักษณ์ soft power ของไทยในระดับสากล

วันนี้ (1 เม.ย. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและร่วมแสดงความยินดีกับ 9 ร้านอาหารไทยติดอันดับต้นๆ ในการจัดอันดับ 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2566 เชื่อมั่นอาหารไทยเป็นอาหารที่มีเสน่ห์ ครบรส สวยงาม เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทย สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมากให้กับประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า Asia’s 50 Best Restaurants Academy ซึ่งเป็นการรวมตัวของบุคคลสำคัญวงการอาหารกว่า 300 คน ประกอบด้วยนักเขียนบทความอาหาร นักวิจารณ์ เชฟ ผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารในระดับภูมิภาค ได้ร่วมกันจัดอันดับร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2566 (Asia’s 50 Best Restaurants 2023) โดยร้าน Le Du ของไทยได้รับอันดับ 1 ร้านอาหารยอดเยี่ยม (https://www.theworlds50best.com/asia/en/list/1-50) โดยขึ้นมาจากลำดับที่ 4 จากปีก่อน และยังได้รับอันดับ 1 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย (The Best Restaurant in Thailand) ควบอีก 1 รางวัลด้วย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจัดอันดับดังกล่าว ร้านอาหารไทยรวม 9 อันดับ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และเป็นเมืองที่ได้รับรางวัลมากที่สุดอีกด้วย ได้แก่ ร้าน Le Du อันดับ 1 ร้าน Nusara อันดับ 3 ร้าน Gaggan Anand อันดับ 5 ร้าน Sorn อันดับ 9 ร้าน Suhring อันดับ 22 ร้าน Ms. Maria & Mr. Singh อันดับ 33 ร้าน Potong อันดับ 35 Raan Jay Fai (เจ๊ไฝ) อันดับ 38 ร้าน Baan Tepa อันดับ 46 และแม้ว่าผู้ชนะส่วนใหญ่ในการจัดอันดับจะเป็นร้านอาหารรสเลิศ แต่ร้านอาหารริมทางอย่าง ร้านเจ๊ไฝ ก็ได้รับการจัดให้ติดใน 1 ใน 50 ร้านอาหารยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย ประจำปี 2566 ด้วย

“รัฐบาลชื่นชมและตระหนักถึงศักยภาพหลายๆ ด้านของไทย โดยอาหารไทยขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติ ใช้วัตถุดิบที่หลากหลาย ครบเครื่อง โดดเด่นในการนำเสนอวัฒนธรรม นำความเป็นไทยเผยแพร่ไปสู่สากล สู่การเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลยินดีผลักดัน และสนับสนุนศักยภาพในด้านนี้เสมอมา และพร้อมผลักดันให้อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว สร้างภาพลักษณ์ให้ไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว” นายอนุชา กล่าว

 Advertisement

นายกฯ ยันไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพงาน EXPO 2028 Phuket Thailand

People Unity News : 29 มีนาคม 2566 นายกฯ ประชุมความคืบหน้าเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน EXPO 2028 Phuket Thailand ยันไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพ เชื่อได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน EXPO 2028 Phuket Thailand ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ว่าได้มีการหารือกับคณะทำงานทั้งหมด พร้อมฝากไปยังประชาชนว่า นี่คืออนาคตของประเทศในปี 2028 นี้ ที่ไทยจะมีโอกาสในการจัดงาน expo ระดับโลก ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการหาเสียงในประเทศสมาชิก 171 ประเทศ ซึ่งการตัดสินจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ขณะนี้ ประเทศไทยได้รับเสียงสนับสนุนจากหลายประเทศแล้ว แต่ยังต้องหาเสียงต่อไป เพื่อให้ผ่านการคัดเลือก หากไทยได้เป็นเจ้าภาพ ถือเป็นโอกาสดีของประเทศที่จะได้ผลประโยชน์โดยตรงและโดยอ้อม เช่น ผลประโยชน์โดยตรง ส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ช่วยสร้างรายได้ในพื้นที่ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ และเรื่องอื่นๆ เช่น ประเทศไทยกำลังส่งเสริมด้าน Health and Wellness ซึ่งตนเองได้ลงพื้นที่ตรวจสถานที่แล้ว และเป็นที่น่าพอใจ มีพื้นที่สวยงาม และยังมีธรรมชาติอีกมาก ซึ่งงบประมาณได้มีการจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ขอให้ทุกคนช่วยกัน และเป็นเจ้าภาพที่ดี เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญ และกำลังเข้าสู่การเลือกตั้ง จึงขอให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย เพราะจะส่งผลให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยดี ซึ่งหลายอย่างรัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว แต่ยอมรับว่า ยังกังวลกับผู้ที่มีรายได้น้อย จึงมุ่งหวังว่าจะทำให้ดีขึ้นในระยะต่อไปตามงบประมาณที่มีอยู่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการจัดงานครั้งนี้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของตนเองที่ได้วางไว้ ให้ประเทศชาติไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นการตอบโจทย์ BCG ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกัน ตนเองยังมีวิสัยทัศน์ที่จะเชื่อมเศรษฐกิจฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน หรือ “ไทยแลนด์ริเวียร่า” ให้เกิดความเชื่อมโยงกัน เพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่วนใครจะมาสานต่อ ตนเองไม่ทราบ

พร้อมกันนี้ รัฐบาลจะแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่ภาคใต้ไม่ให้เกิดการแออัด ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ในอนาคตอยากฝากการสร้างเส้นทางสายใต้ใหม่อีกเส้น หากมีความเป็นไปได้ก็จะมีเส้นทางในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มขึ้น แต่บางอย่างติดปัญหาเรื่องประชาชนและคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมย้ำรัฐบาลนี้ได้ดำเนินการเรื่องต่างๆ มากพอสมควร จึงอยากให้ทุกคนมองไปข้างหน้าด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญต้องเคารพความคิดเห็นของประชาชนเป็นหลัก ขณะนี้ประเทศก้าวมาไกลแล้ว ดังนั้นจึงต้องก้าวต่อไป ให้ประเทศชาติมีความมั่นคงปลอดภัย นั่นคือสิ่งที่ไทยมีความพร้อมในด้านศักยภาพอยู่แล้ว และเป็นประเทศที่หมายหลักของหลายประเทศ ซึ่งหลายประเทศที่จะร่วมมือกับเรา และอยากให้ประเทศไทยเป็นเมดิคัลฮับ ในเรื่องการรักษาพยาบาล ซึ่งประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมาก

ดังนั้น ขออย่าทำลายโอกาสนี้ด้วยความไม่เรียบร้อย ทะเลาะเบาะแว้งกัน สิ่งไหนที่ไม่ดีก็อย่าทำในช่วงนี้ เพราะประเทศชาติกำลังเดินไปและต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของโลกใบใหม่ ซึ่งมีความซับซ้อน มีความไม่แน่นอนผันผวนอยู่ ดังนั้น ประเทศไทยจะต้องปรับตัวให้ทันโลกด้วย เพราะเรายังมีโอกาส

Advertisement

10 ธนาคารร่วมมือรัฐบาล ตัดวงจรหลอกโอนเงิน ยกเลิกส่ง SMS – แนบลิงก์

People Unity News : 25 มีนาคม 2566 รองโฆษกรัฐบาลเผย 10 ธนาคารพาณิชย์ร่วมมือรัฐบาลตัดวงจรหลอกโอนเงิน ยกเลิกส่ง SMS แบบแนบลิงก์ ถ้าเจอเป็นมิจฉาชีพแน่นอน ที่เหลือกำลังดำเนินการ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งปราบปรามและป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยทุกภาคส่วนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่ง และล่าสุด ธนาคารพาณิชย์บางส่วนได้ออกมาตรการยกเลิกการส่ง SMS และแบบแนบลิงก์แล้ว 10 แห่ง (ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารทหารไทยธนชาติ ธนาคารอาคารสงเคราะห์) และธนาคารที่ยกเลิกการส่งอีเมลแบบแนบลิงก์อีก 2 แห่ง (ธนาคารกรุงเทพและธนาคารอาคารสงเคราะห์) ที่เหลือกำลังดำเนินการ (ข้อมูล ณ 24 มีนาคม 2566) ดังนั้น หากประชาชนได้รับ SMS หรืออีเมลที่แนบลิงก์ส่งมาให้ โดยอ้างว่ามาจากธนาคารดังกล่าว ขออย่าคลิกเด็ดขาด เพราะนั้นเป็นการส่งจากมิจฉาชีพแน่นอน

นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า ขณะนี้กฏหมายลงโทษผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งผู้กระทำผิดจะได้รับโทษอาญาหนัก จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ได้เป็นธุระจัดหา โฆษณา เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนหมายเลขโทรศัพท์ ก็มีโทษอาญาหนักเช่นกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอเตือนประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีให้ไปปิดบัญชีให้หมด และสำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ตรวจความเคลื่อนไหวของบัญชีเป็นประจำ เมื่อพบความผิดปกติให้แจ้งธนาคารทันที

Advertisement

ปตท.คว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมประจำปี 2565

People Unity News : 24 มีนาคม 2566 สคร. จัดงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2565“รัฐวิสาหกิจไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน GROW GREEN BALANCE”

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “รัฐวิสาหกิจไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (GROW GREEN BALANCE)” โดยมีนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในงาน พร้อมทั้งให้เกียรติมอบรางวัลและมอบนโยบายให้แก่รัฐวิสาหกิจ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยการจัดงานในปีนี้มีการมอบรางวัลทั้งสิ้น 11 ประเภทรางวัล

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการ สคร. เปิดเผยว่า สคร. ได้มีการจัดงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น หรือ SOE Awards อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพและนำองค์กรสู่ความเป็นเลิศ ซึ่งได้รับการตอบรับในการเข้าร่วมงานจากรัฐวิสาหกิจและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดีตลอดมา โดยการจัดงานในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “รัฐวิสาหกิจไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (GROW GREEN BALANCE)” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนรัฐวิสาหกิจในการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ หรือ BCG Model เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างสมดุล ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

สำหรับผลรางวัล SOE Award ประจำปี 2566 ทั้ง 11 ประเภทรางวัล มีดังนี้

1.​รางวัลคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจดีเด่น

​(1) ประเภทเกียรติยศ ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

​(2) ประเภทดีเด่น ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และธนาคารอาคารสงเคราะห์

2.รางวัลการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น

​(1) ประเภทเกียรติยศ ได้แก่ ธนาคารออมสิน

​(2) ประเภทดีเด่น ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์

3.รางวัลการพัฒนาองค์กรดีเด่น ได้แก่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม

4.รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น – ไม่มีผู้ที่ได้รับรางวัล –

5.รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจดิจิทัล ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

6.รางวัลการพัฒนาสู่รัฐวิสาหกิจยั่งยืน ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และธนาคารออมสิน

7.รางวัลการดำเนินงานเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น

​​(1) ประเภทดีเด่น ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารอาคารสงเคราะห์

​​(2) ประเภทชมเชย ได้แก่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย และธนาคารออมสิน

8.รางวัลความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมดีเด่น แบ่งรางวัลเป็น 2 ด้าน ประกอบด้วย

​8.1 ด้านความคิดสร้างสรรค์

​​(1) ประเภทดีเด่น ได้แก่ การประปานครหลวง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน

​​(2) ประเภทชมเชย ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

​8.2 ด้านนวัตกรรม

​​(1) ประเภทดีเด่น ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และธนาคารอาคารสงเคราะห์

​(2) ประเภทชมเชย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง และธนาคารออมสิน การยาสูบแห่งประเทศไทย องค์การเภสัชกรรม องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ

9.รางวัลความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาดีเด่น

​(1) ประเภทดีเด่น จำนวน 1 คู่ความร่วมมือ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

​(2) ประเภทเชิดชูเกียรติ จำนวน 1 คู่ความร่วมมือ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

10.รางวัลบริการดีเด่น ได้แก่ ธนาคารออมสิน การประปานครหลวง และธนาคารอาคารสงเคราะห์

11.รางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมประจำปี 2565 ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

Advertisement

จ่อส่งออกน้ำมันปาล์ม  ลดสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ

People Unity News : 10 มีนาคม 2566 “พล.อ.ประวิตร” ห่วงใยชาวสวนปาล์ม จ่อดันส่งออกน้ำมันปาล์ม ลดสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ กระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นย้ำให้ดูแลกลไกราคา ให้เกิดความเป็นธรรมต่อชาวสวนปาล์ม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการปาล์มแห่งชาติ (กนป.) มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันของประเทศ สืบเนื่องจากมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 66 ได้เห็นชอบการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลอยู่ที่ 7% หรือ บี7 ไปจนถึงเดือน กันยายน 66   ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ ทำให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจกระทบต่อราคาปาล์มน้ำมันทะลายของเกษตรกรในอนาคต  รองนายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเตรียมรับกับสถานการณ์ที่จะเข้าสู่ฤดูกาลที่ผลปาล์มมีผลผลิตมากในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ โดยรองนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้ดูแลกลไกราคา ให้เกิดความเป็นธรรมต่อชาวสวนปาล์ม

พล.ต.อ.ดร.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนกลไกบริหารจัดการเพื่อแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า ได้เชิญผู้แทนกระทรวงการคลัง สำนักงานงบประมาณ กรมการค้าภายใน สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรในฐานะฝ่ายเลขานุการ กนป. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือการผลักดันส่งออกน้ำมันปาล์ม เพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2566 เป้าหมาย 150,000 ตัน ระยะเวลาส่งออกตั้งแต่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ถึง กันยายน 2566 โดยรัฐบาลจะพิจารณาสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสำหรับการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ (Crude Palm Oil : CPO) ในอัตราไม่เกิน 2.00 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า 300,000 ตัน และราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก ทั้งนี้ เพื่อลดปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกิน และรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเทศรวมถึงอาจพิจารณาอุดหนุนการส่งออกเพิ่มเติมในอนาคตตามสถานการณ์ผลผลิตที่คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มมากขึ้นอีกใน ปี 2566

ทั้งนี้ จะได้นำข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ เกี่ยวข้องกับเหตุผลความจำเป็นในการดำเนินโครงการและรายละเอียดด้านงบประมาณ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้นำมาพิจารณาทบทวน โดยจะต้องคำนึงถึงแนวทางปฏิบัติที่ได้มีประกาศ กกต. ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานี้อีกด้วย

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับทุกหน่วยงานให้คำนึงถึงเกษตรกร ผู้บริโภค และผู้ประกอบการ ไม่ไห้ได้ผลกระทบ หรือ ได้ผลกระทบน้อยที่สุด และขอให้ดำเนินมาตรการให้ทันต่อสถานการณ์โลก ทั้งนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงมาตรการระยะยาว ได้แก่ หลักการการเกษตรอัจฉริยะ Smart Farming การขับเคลื่อนการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันในรูปแบบของศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อการพัฒนาจังหวัด Center of Excellence for Provincial Development หรือ COE-PD) ด้านการเกษตร ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เสริมสร้างรายได้ให้ “กินดีอยู่ดี” อย่างยั่งยืน

Advertisement

ข่าวดีชาวไร่อ้อย! ครม. เคาะราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ฤดูผลิตปี 64/65 ตันละ 1,106.40 บาท

People Unity News : 7 มีนาคม 2566 ที่ประชุม ครม. (7 มี.ค. 66) เห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้าย และผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 64/65 เป็นรายเขต 9 เขต โดยมีอัตราเฉลี่ยทั่วประเทศ ดังนี้

1.ราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิตปี 64/65 เฉลี่ยทั่วประเทศในอัตรา ตันอ้อยละ 1,106.40 บาท ณ ระดับความหวานที่ 10 ซี.ซี.เอส.

2.อัตราขึ้น/ลงของราคาอ้อย เฉลี่ยทั่วประเทศ เท่ากับ 66.38 บาท ต่อ 1 หน่วย ซี.ซี.เอส.

3.ผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นสุดท้าย ฤดูการผลิต ปี 2564/2565 เฉลี่ยทั่วประเทศ เท่ากับ 474.17 บาทต่อตันอ้อย

ซึ่งราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 64/65 อยู่ในระดับสูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้น ดังนั้น กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จึงไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างให้แก่โรงงาน

ส่วนรายได้สุทธิจากการจำหน่ายน้ำตาลทรายสูงกว่าราคาอ้อยขั้นสุดท้าย โรงงานน้ำตาลต้องนำส่งเงินส่วนต่างระหว่างรายได้สุทธิและราคาอ้อยขั้นสุดท้ายให้กับกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ตันอ้อยละ 10 บาท ตามมาตรา 57 พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527

Advertisement

นายกฯเตรียมบูรณะโบราณสถานในอยุธยา

People Unity News : 3 มีนาคม 2566 นายกฯตรวจเยี่ยมสภาพโบราณสถานวิหารพระมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ เพื่อเตรียมการบูรณะ  อารมณ์ดีทักทาย-ถ่ายรูป นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น แซววันหน้าต้องมากินอาหารญี่ปุ่นในไทย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ตรวจเยี่ยมสภาพวิหารพระมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเตรียมการบูรณะให้เป็นแหล่งการเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเข้ากราบสักการะพระมงคลบพิตร ถวายพวงมาลัย ผ้าห่มพระมงคลบพิตรและรับฟังประวัติและสถานที่สําคัญภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ โดยในอดีตวัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญในสมัยอยุธยา มีสถานะเป็นวัดประจำพระราชวังหลวง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ภายในวัดยังใช้เป็นสถานที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์และพระอัฐิของพระบรมวงศานุวงศ์ในสมัยอยุธยา จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินชมโดยรอบของวัดศรีสรรเพชญ์  พร้อมกับสอบถามประวัติการอนุรักษ์วัดพระศรีสรรเพชญ์ โดยในปี พ.ศ. 2560 สํานักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร ดําเนินการบูรณะวิหารป่าเลไลย์และป้อมมุมด้านทิศตะวันตก เฉียงใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ นอกจากนี้เมื่อ พ.ศ. 2562 กรมศิลปากรดําเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบวัดพระศรีสรรเพชญ์ เพื่อเป็นประโยชน์ในการดูแลรักษาโบราณสถานในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวสําคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเพื่ออํานวยความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว เช่น ปรับปรุงทางเดินและประตูภายในวัด ติดตั้งทางลาด ปรับปรุงระบบไฟส่องสว่างโบราณสถาน ติดตั้งระบบน้ำเพื่อรดน้ำและปรับปรุงสนามหญ้าให้เกิดความสวยงามแก่โบราณสถานมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเปิดเป็นแหล่งการเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

นายกรัฐมนตรี ชื่นชมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันดูแลรักษาโบราณสถานประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทย และยังสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ ชื่อเสียงให้กับจังหวัดและประเทศ ซึ่งในวันข้างหน้าจะต้องมีการคิดไอเดียใหม่ๆ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ภายในพื้นที่นำมาเพิ่มมูลค่าจึงจะยั่งยืน ถ้าหากคิดโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ ใช้งบประมาณมาก ทรัพยากรมาก โอกาสที่จะเกิดขึ้นก็จะไม่แน่นอน โดยวันนี้อาจเพิ่มกิจกรรมที่น่าสนใจ เสริมผลิตภัณฑ์ในชุมชนเข้าไปในสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยให้มาเที่ยวในจังหวัด ทำให้การท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น ต้องไม่ลืมว่าแหล่งท่องเที่ยวของไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ทักทายและร่วมถ่ายภาพกับประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมกับรับมอบดอกไม้และพูดคุย สอบถามด้วยความเป็นกันเอง และได้กล่าวติดตลกกับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เกี่ยวกับการที่คนไทยนิยมอาหารญี่ประเภทปลา ว่า “วันหน้าปลาจะไม่เหลือแล้วนะ คนไทยกินหมด ทำให้วันหน้าจะต้องมากินอาหารญี่ปุ่นที่ประเทศไทย” เรียกเสียงหัวเราะ ให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นอย่างครื้นเครง นอกจากนี้ยังมีบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติคนอื่นๆได้ มาขอถ่ายรูปกับพล.อ.ประยุทธ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวบางคนเห็นพล.อ.ประยุทธ์แสดงอาการร้อน จึงนำพัดมาพัดเพื่อแก้ร้อนให้ โดยพลเอกประยุทธ์ได้ยกมือไหว้ขอบคุณ

Advertisement

Verified by ExactMetrics