วันที่ 13 กรกฎาคม 2025

ด่วน! ศบค.ระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศไทยแบบ Test & Go ชั่วคราว 21 ธ.ค. 64 – 4 ม.ค. 65

People Unity News : ศบค. ระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศไทยแบบ Test & Go ชั่วคราว ส่วนผู้ลงทะเบียนแล้วสามารถเดินทางได้ถึง 10 ม.ค. 65

21 ธ.ค.64 วันนี้ ที่ประชุม ศบค. เร่งหารือการปรับมาตรการเข้าราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ “โอมิครอน” (Omicron) โดยมีมติเห็นชอบปรับมาตรการฯ ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 64 – 4 ม.ค. 65 ดังนี้

1.ระงับการลงทะเบียนชั่วคราวประเภท Test & Go และ Sandbox สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ยกเว้นภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

2.ปรับมาตรการตรวจหาเชื้อเป็น RT-PCR 2 ครั้ง และต้องมีการติดตามอาการ การเดินทางในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว รวมถึงการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ให้ได้ 100%

3.ประชาสัมพันธ์ให้คนไทยที่จะเดินทางต่างประเทศชะลอหรือยกเลิกการเดินทางที่ไม่จำเป็น แต่หากจำเป็นขอให้ตรวจ ATK ด้วยตัวเองเป็นระยะ

4.ส่งเสริมให้มีการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง รวมทั้งจุดฉีดวัคซีนในสถานีขนส่ง ท่าเรือ หรือท่าอากาศยาน

แต่ผู้ที่ลงทะเบียนในระบบ Test & Go ไว้แล้ว ยังสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ถึงวันที่ 10 ม.ค. 65 แต่จะมีมาตรการติดตามที่เข้มขึ้น เช่น การตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง คือ วันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 7 โดยการตรวจครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และหลังจากนี้ ศบค. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพี่อพิจารณามาตรการหลัง 4 ม.ค. 65 อีกครั้ง

Advertising

อย. อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ในกลุ่มเด็ก 5 – 11 ปีแล้ว

People Unity News : อย. อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ในกลุ่มเด็ก 5 – 11 ปีแล้ว

วันนี้ 20 ธันวาคม 2564 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติการใช้วัคซีนโคเมอร์เนตี (COMIRNATY VACCINE) ของ บ.ไฟเซอร์ จำกัด สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 5 – 11 ปี เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว หลังก่อนหน้านี้อนุญาตให้ใช้วัคซีนสำหรับกระตุ้นภูมิในเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป

การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5 – 11 ปี จะใช้ปริมาณวัคซีน 1 ใน 3 (10 ไมโครกรัม) ของเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดยจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อจำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 21 วัน ซึ่ง “ไฟเซอร์” นับเป็นวัคซีนโควิด-19 ตัวแรกที่ทาง อย. อนุมัติให้ใช้ในกลุ่มเด็กอายุดังกล่าว

Advertising

ตำรวจเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อประกาศรับจ้างทำใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ปลอม

People Unity News : ระวัง! มิจฉาชีพรับทำเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนปลอม ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

15 ธ.ค.64 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อประกาศรับจ้างทำเอกสารรับรองปลอมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมประสานผู้ประกอบการ – ร้านค้า เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน รวมถึง QR Code ให้สอดคล้องกับข้อมูลในแอปฯ “หมอพร้อม”

ผู้กระทำความผิดโดยการทำเอกสารรับรองปลอมจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งความผิดฐานปลอมเอกสาร แก้ไขข้อความ หรือการประทับตรา – ลงลายมือชื่อปลอม มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท เป็นต้น

จึงขอให้ประชาชนลงทะเบียนทำเอกสารตามระบบและช่องทางต่างๆที่ภาครัฐกำหนด เพื่อให้ได้รับเอกสารที่ถูกต้อง และหากพบเบาะแสหรือการกระทำความผิด สามารถแจ้งสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชม.

Advertising

เตือน! ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คลายหนาว เป็นความเชื่อที่ผิด อาจอันตรายถึงตายได้

People Unity News : เตือน! ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คลายหนาว เป็นความเชื่อที่ผิด อาจอันตรายถึงตายได้

11 ธ.ค.64 สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี ออกคำเตือนประชาชน ว่า ช่วงฤดูหนาวของทุกปี ประชาชนบางกลุ่มมีความเชื่อว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น คลายหนาวได้ จึงนิยมดื่มแอลกอฮอล์ในฤดูหนาว ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด!

เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายในระยะแรกหลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังจะขยายตัว ทำให้ผู้ดื่มรู้สึกอบอุ่นขึ้นเพียงชั่วครู่ ร่างกายจะเริ่มระบายความร้อนโดยไม่รู้ตัว และทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดลง ซึ่งส่งผลเกิดความเสียหายต่ออวัยวะในร่างกาย

หากมีเครื่องนุ่งห่มที่ให้ความอบอุ่นไม่เพียงพอ ร่างกายอาจโดนอากาศเย็นเป็นเวลานาน จะทำให้ขาดน้ำ หัวใจทำงานผิดปกติ ระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้

สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี แนะว่าหากต้องการคลายความหนาวเย็น ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายได้รับความอบอุ่นจากภายใน รวมถึงดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ สวมเสื้อผ้ากันหนาว จะช่วยบรรเทาความหนาวได้เช่นกัน และเน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็จะส่งผลให้มีสุขภาพแข็งแรง

Advertising

อธิบดีกรมควบคุมโรคยืนยันการฉีดวัคซีนลดความรุนแรงและเสียชีวิตจากสายพันธ์ุโอไมครอนได้

People Unity News : อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันการฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพสามารถลดความรุนแรงและเสียชีวิตจากสายพันธ์ุโอไมครอนได้

6 ธ.ค.64 นายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการให้ข้อมูลถึงสายพันธุ์โอไมครอนว่า วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ไม่สามารถป้องกันได้ ว่า จากข้อมูลข่าวสารเรื่องของโรคติดเชื้อโควิด -19 ส่วนใหญ่เป็นความเห็นและความรู้สึกมากกว่าข้อเท็จจริง โดยกระทรวงสาธารณสุขได้รวบรวมข้อมูลทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงองค์การอนามัยโลกผ่านการวิเคราะห์จากนักวิชาการ ซึ่งการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนไม่ต่างกับสายพันธุ์อื่น ยังคงติดต่อจากละอองฝอยเป็นหลัก ติดต่อผ่านทางลม อากาศ พบได้น้อยมาก ทั้งนี้ไม่ว่าวัคซีนชนิดไหน ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100%

ประเทศไทยใช้วัคซีนหลากหลายยี่ห้อ ที่ผ่านมาประสิทธิผลของวัคซีนมีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อที่ 50-80% แต่สามารถป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ดีมาก ยืนยันทั่วโลกเห็นพร้อมกันว่าสายพันธุ์โอไมครอน วัคซีนที่ฉีดสามารถลดความรุนแรงของอาการป่วยหนักและรุนแรงเสียชีวิตได้ดี แต่ป้องกันการติดเชื้อแม้ว่าประสิทธิภาพจะลดลงแต่ยังมีประสิทธิภาพ ถ้าเทียบกับผู้ไม่ฉีดวัคซีน

Advertising

กระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน ขณะนี้ยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ในไทย

People Unity News : สธ. ยืนยัน ขณะนี้ยังไม่พบโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ในไทย

29 พ.ย.64 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยถึงกรณีเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ชื่อว่า โอไมครอน (Omicron) พบเมื่อกลางเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นสายพันธุ์ที่น่าห่วงกังวล ขณะนี้ WHO ขอความร่วมมือทุกประเทศช่วยกันตรวจสายพันธุ์นี้ เพื่อทราบข้อมูลสถานการณ์การระบาดอย่างใกล้ชิด

ยืนยันว่า จากระบบการเฝ้าระวังสายพันธุ์ทางห้องปฏิบัติการฯ ยังไม่พบสายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์เดลตา ส่วนอัลฟาและเบตาพบบ้างเล็กน้อย

สำหรับการตรวจไวรัสสายพันธุ์นี้ด้วยวิธีมาตรฐาน RT-PCR หรือการคัดกรองด้วย ATK ยังตรวจได้เหมือนสายพันธุ์อื่น

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานกับ รพ. ที่เป็นคู่สัญญาของ ASQ ว่าเมื่อตรวจพบเชื้อโควิด-19 จากตัวอย่างของผู้เดินทางเข้าประเทศ ให้ส่งตัวอย่างมาตรวจสายพันธุ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทุกราย เพื่อตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ส่วนข้อควรปฏิบัติของประชาชน ยังจำเป็นต้องป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เมื่อมีอาการสงสัยให้รีบตรวจหาเชื้อ และที่สำคัญประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ควรเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในเกิดขึ้นโดยเร็ว

Advertising

ประยุทธ์ สั่งติดตามโควิดสายพันธุ์ใหม่ “Omicron” ตั้งแต่ 1 ธ.ค. ห้าม 8 ประเทศเสี่ยงเข้าไทย

People Unity News : รัฐบาลเร่งติดตามโควิดสายพันธุ์ใหม่ “Omicron” ตั้งแต่ 1 ธ.ค. เป็นต้นไป ไม่อนุญาตให้ 8 ประเทศเสี่ยงเข้าไทย

27 พ.ย.64 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกรัฐมนตรีรับทราบรายงานกรณีองค์การอนามัยโลกได้ประกาศว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 “Omicron” ที่พบในแอฟริกาใต้เป็นสายพันธุ์ที่อาจแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น จึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมวางมาตรการเฝ้าระวังที่เข้มงวด

ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศไม่อนุญาต 8 ประเทศที่พบสายพันธุ์ B 1.1.529 รวมถึงประเทศเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป

Advertising

ศบค.ยกเลิกเคอร์ฟิว-พื้นที่สีแดงเข้ม เพิ่มพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเป็น 7 จว. เริ่ม 1 ธ.ค.64

People Unity News : ศบค. ยกเลิกเคอร์ฟิว – พื้นที่สีแดงเข้ม และเพิ่มพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวเป็น 7 จว. เริ่ม 1 ธ.ค. 64

ที่ประชุม ศบค. 26 พ.ย.64 มีมติปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เหลือ 0 จว. พร้อมยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว)/ พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 23 จว./ พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 23 จว./ พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 24 จว./ พื้นที่สีฟ้า (นำร่องท่องเที่ยว) เพิ่มเป็น 7 จังหวัด ได้แก่ กทม. กระบี่ กาญจนบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา และภูเก็ต

สำหรับมาตรการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ได้มีการปรับการตรวจหาเชื้อหลังเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม Test and Go เป็น ATK จากเดิมที่ต้องตรวจด้วยวิธี RT-PCR พร้อมกักตัวเป็นเวลา 1 วัน แต่ยังคงต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ภายใน 72 ชม. ก่อนเดินทางเช่นเดิม ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 64 เป็นต้นไป

Advertising

สธ. แนะ หากฉีดวัคซีนโควิดแล้ว แต่ข้อมูลในระบบ “ไม่ขึ้น-ไม่ถูกต้อง” ให้รีบแจ้งหน่วยบริการที่ฉีด

People Unity News : สธ. แนะ ปชช. หากฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่ข้อมูลในระบบ “ไม่ขึ้น – ไม่ถูกต้อง” ให้รีบแจ้งหน่วยบริการที่ฉีดวัคซีน

21 พ.ย.64 กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงกรณีประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่ไม่พบข้อมูลในระบบหมอพร้อม ทำให้ไม่มีข้อมูลการนัดหมายฉีดวัคซีนเข็มต่อไป ไม่มีข้อมูลใน Digital Health Pass ทำให้ไม่สามารถออกใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือเข้าสถานที่ต่างๆได้นั้น

ขณะนี้ ได้ประสานไปยังหน่วยบริการและผู้รับผิดชอบโครงการฉีดวัคซีนให้เร่งบันทึกผลการฉีดให้เป็นปัจจุบัน

สำหรับประชาชน เมื่อฉีดวัคซีนแล้วขอให้ตรวจสอบข้อมูลการฉีดวัคซีนใน Application หรือ LINE OA “หมอพร้อม” เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน วันที่ฉีดวัคซีน ชนิดวัคซีน จำนวนเข็ม ว่าถูกต้องหรือไม่

หากพบว่าไม่ถูกต้อง หรือไม่มีข้อมูลแสดงในระบบขอให้ติดต่อหน่วยบริการ หรือโครงการที่ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดศูนย์รับเรื่อง (call center) เพื่อลงข้อมูลสำหรับผู้ที่ไม่มีข้อมูลในระบบ MOPH IC หรือแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ที่สถานีกลางบางซื่อ/หน่วยบริการที่กรุงเทพฯ กำหนดขึ้น

Advertising

กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ประกาศเตือน กทม. น้ำทะเลหนุนระลอกใหม่ ช่วง 19-28 พ.ย.นี้

People Unity News : กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ออกประกาศฉบับที่ 22 เรื่องสภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณกองบัญชาการกองทัพเรื่อ กรุงเทพมหานคร และป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ  และพื้นที่ใกล้เคียง ในระหว่างวันที่ 19-28 พฤศจิกายนนี้ ระหว่างเวลาประมาณ  06.00 น.-15.00 น. เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง บริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ และพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย รวมทั้งมีการระบายน้ำบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ลักษณะดังกล่าวอาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ

คาดว่าที่บริเวณกองบัญชาการกองทัพเรือ กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง  ระดับน้ำจะมีความสูงประมาณ 1.80-2.0 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง และบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ และพื้นที่ใกล้เคียงระดับน้ำจะมีความสูง ประมาณ 1.7-1.9 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง

ขอให้ระมัดระวังผลกระทบจากระดับน้ำขึ้นสูงและติดตามสภาวะระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าที่ “สภาวะน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา” ในเว็บไซต์ของ กรมอุทกศาสตร์ หรือสอบถามข้อมูลระดับน้ำที่หมายเลขโทรศัพท์ 024752117, 021736551

Advertising

Verified by ExactMetrics