วันที่ 28 เมษายน 2024

สถาบันบำราศนราดูรเปิดจองคิวออนไลน์ “ฉีดวัคซีนพาสปอร์ต” เพื่อเดินทางไป ตปท. เริ่ม 18 ต.ค.

People Unity News : สถาบันบำราศนราดูร เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการจองคิวและลดระยะเวลารอคอยให้แก่ประชาชนลงทะเบียนขอรับหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 “วัคซีนพาสปอร์ต” เพื่อใช้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศของผู้ที่รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ผ่าน แอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” สามารถจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม 2564 นี้

17 ตุลาคม 2564 นายแพทย์กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่มีแผนเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวและเตรียมเปิดกิจการ เมื่อเปิดประเทศแล้ว หากประชาชนต้องการเดินทางไปต่างประเทศ สามารถขอรับวัคซีนพาสปอร์ต ได้ที่หน่วยงานที่กรมควบคุมโรคกำหนด 100 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี 3 แห่ง : สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรุงเทพมหานคร, สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี และกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค จ.นนทบุรี ระดับเขต : สำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดชลบุรี จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดสงขลา ระดับจังหวัด : 92 แห่ง นอกจากนี้ อาจขยายไปยังโรงพยาบาลภาครัฐในสังกัดมหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร สภากาชาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มเติมในอนาคต

ปัจจุบันมีประชาชนมาขอรับวัคซีนพาสปอร์ตจำนวนมาก ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน – 16 ตุลาคม 2564 มีผู้มารับบริการเฉพาะที่กรมควบคุมโรค 8,967 คน และภาพรวมในประเทศไทย 31,340 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ตุลาคม 2564) โดยระบบเดิมประชาชนต้อง Walk In และใช้เวลานานในการทำวัคซีนพาสปอร์ต สถาบันบำราศนราดูรจึงได้เตรียมเปลี่ยนมาใช้ระบบออนไลน์ ทั้งนัดคิว ส่งหลักฐาน และนัดรับเล่ม ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ซึ่งพัฒนาโดยกองโรคติดต่อทั่วไป (กรต.) ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และกองโรคติดต่อทั่วไปที่ให้บริการตั้งแต่วันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 9.00-15.30 น. ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถขอรับวัคซีนพาสปอร์ตได้มากขึ้น

สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในการขอหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด มีดังนี้ 1. หนังสือเดินทาง (Passport) 2.บัตรประชาชน 3.เอกสารรับรองการได้รับวัคซีน โดยสามารถมารับหนังสือรับรองฯ ตามที่ได้นัดหมายไว้

นายแพทย์กิตติ์พงศ์ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล สามารถขอวัคซีนพาสปอร์ตได้ที่ 4 หน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ 1.สถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี โทร 0 2590 3427, 0 2590 3427 และ 0 2590 3430 (ในวันราชการ 8.30-16.00 น.) 2.สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรุงเทพฯ โทร 0 2521 1668  3.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ อีเมล porthealth_bbk@ddc.mail.go.th และ 4.กองโรคติดต่อทั่วไป อาคาร 5 ชั้น 6 กรมควบคุมโรค จังหวัดนนทบุรี โทร 0 2590 3232, 0 2590 3234 ถึง 35 หรืออีเมล  travelhealth@ddc.mail.go.th สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

Advertising

ผู้สูงอายุมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าคนในวัยอื่นๆหรือไม่?

People Unity News : ผู้สูงอายุมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าคนในวัยอื่นๆหรือไม่?

ผู้สูงอายุมีโอกาสติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าคนในวัยอื่นๆจริงไหม

Q: ผู้สูงอายุมีโอกาสติดเชื้อ COVID-19 มากกว่าคนทั่วไปหรือไม่??

A: ทุกคนมีสิทธิจะติดโรคได้เท่ากัน ในทุกอายุ เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ ทุกคนจึงยังไม่มีภูมิต้านทานต่อโรคนี้ ไม่ว่าจะร่างกายแข็งแรง จะเป็นเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ แต่ความรุนแรงของโรคอาจแตกต่างกัน โดยผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงดี หรือในอายุน้อย ความรุนแรงของโรคก็จะน้อยกว่าผู้ที่มีอายุมากหรือมีโรคประจำตัวร่วมด้วย

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

COVID-19

โฆษณา

โฆษกกระทรวงดีอีเอส เตือนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ระวังสลิปปลอม แนะเช็กยอดก่อนส่งสินค้า

People Unity News : 31 กรกฎาคม 2565 โฆษกดีอีเอส เตือนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ระวังสลิปปลอม แนะเช็กยอดโอนก่อนส่งสินค้า หากเกิดเหตุแล้วให้รีบแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวการแจ้งเตือนพ่อค้าแม่ค้าระวังภัยออนไลน์จากลูกค้าใช้สลิปบัญชีธนาคารปลอมแจ้งว่าชำระเงินแล้ว หลอกให้ส่งของโดยไม่ได้โอนเงินจริง และพบมีคนทำโปรแกรมสร้างสลิปปลอมมาขาย โดยสามารถกรอกชื่อผู้รับ ผู้โอนเป็นใครก็ได้ ตัวเลขเท่าใด โอนวันไหน เวลาไหน แล้ว สร้างภาพสลิปออกมา จึงขอแจ้งเตือนให้พ่อค้า แม่ค้า ระมัดระวัง ควรสังเกตสลิปก่อนที่จะส่งของให้ลูกค้า ตรวจสอบยอดเงินโอนในมือถือก่อนว่ามียอดเงินเข้ามาแล้วจริงๆ ก่อนส่งมอบสินค้า ทั้งนี้โดยทั่วไป การทำธุรกรรมโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร ในแต่ละครั้งธนาคารจะมีการบันทึกสลิปการทำธุรกรรมที่มีระบุรายละเอียดในการโอนเงิน คือ ชื่อผู้รับ/ผู้ส่ง, วัน เดือน ปี เวลา ที่ทำรายการ, จำนวนเงิน, QR Code เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดหรือมีปัญหาในการทำธุรกรรม

“ในกรณีสลิปปลอมมิจฉาชีพอาจจะใช้ช่องโหว่ของภาพสลิปมาดัดแปลง ทำซ้ำ เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า ที่ไม่ได้ทันสังเกต เห็นภาพสลิปโอนเงินปลอม ที่มิจฉาชีพแสดงหรือส่งไลน์ไปเป็นหลักฐานให้กับร้านค้าต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมปลอมสลิป เพราะสามารถใช้แอป แต่งรูปภาพบนสมาร์ทโฟนทำได้เลย”

สำหรับวิธีการตรวจสอบสลิปปลอม มีดังนี้

สังเกตภาพของสลิปโอนเงินว่าตัวหนังสือ และตัวเลขต่างๆ มีความสม่ำเสมอ อักษรเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ สลิปปลอมส่วนใหญ่ ตัวหนังสือบนสลิป เช่น เวลา วันที่ จำนวนเงิน ชื่อบัญชีผู้รับโอน ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าตัวหนังสือบนสลิปจะมีความหนา-บางไม่เท่ากัน หรืออาจจะเป็นตัวหนังสือคนละประเภทกัน และตรวจสอบยอดเงิน ชื่อบัญชีของผู้รับโอนด้วย ว่าเป็นบัญชีของเราหรือไม่ ยอดเงินถูกต้องหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายลักษณะนี้ โอกาสเป็นสลิปปลอมสูงมาก

สแกน QR Code บนสลิปโอนเงินที่ต้องการตรวจสอบ ทั้งนี้สลิปโอนเงินจากแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ จะมี QR Code ให้เราสามารถตรวจสอบสลิปปลอมได้ ทำได้โดยเข้าไปที่แอปของธนาคารที่เรารับโอน จากนั้นกด “สแกน QR Code” ใช้กล้องโทรศัพท์สแกน QR Code บนสลิปโอนเงินของลูกค้า หรือถ้ามีรูปสลิปโอนเงินอยู่ในโทรศัพท์อยู่แล้ว สามารถเลือกรูปสลิปที่อยู่ในอัลบั้มภาพที่เรา save มาตรวจสอบได้เลย ระบบก็จะตรวจสอบให้เราได้เห็นว่ายอดเงินที่โอนเข้ามาตรงกับสลิปหรือไม่ หากยอดเงินไม่ตรง หรือว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ เป็นไปได้ว่าลูกค้าอาจส่งสลิปปลอมให้แทน

ใช้บริการแจ้งเตือนของธนาคาร ซึ่งวิธีนี้อาจไม่ใช่วิธีการตรวจสลิปปลอมได้โดยตรงก็ตาม แต่การใช้ประโยชน์จากบริการแจ้งเตือนของธนาคาร ทำให้เราสามารถ รับการแจ้งเตือน ยอดเงินเข้า – ออกจากบัญชีของธนาคาร เพื่อตรวจสอบยอดโอนของลูกค้าว่าโอนเงินเข้ามาจริงหรือเปล่า ตรงตามยอดที่ตกลงกันไว้หรือไม่ โดยเปรียบเทียบกับสลิปโอนเงินที่ลูกค้าส่งมา

ใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีฟังก์ชันตรวจสอบสลิปการโอนเงินอัตโนมัติ กรณีที่ร้านค้าออนไลน์มียอดการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก และมีการโอนเงินเข้าหลายรายการ สามารถเลือกใช้ระบบจัดการร้านค้าที่มีระบบตรวจสอบสลิป และยอดเงินเข้าอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ร้านค้าประหยัดเวลา และลดขั้นตอนการตรวจสอบสลิปปลอม

“หากส่งสินค้าไปแล้ว พบว่าเป็นสลิปปลอม หากเกิดเหตุแล้วให้รีบแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.com เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทขนส่งต่างๆ เพื่ออายัดการส่งของให้เร็วที่สุดก่อนเพื่อบรรเทาความเสียหาย หากปล่อยเป็นระยะเวลานานจะทำให้ไม่สามารถติดตามเอาสินค้าคืนได้ สงสัยสอบถามข้อมูลและแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนของกระทรวงดิจิทัลฯ 1212 (24 ชม.), บช.สอท. โทร.1441” นางสาวนพวรรณ กล่าว

Advertisement

สธ. แนะ หากฉีดวัคซีนโควิดแล้ว แต่ข้อมูลในระบบ “ไม่ขึ้น-ไม่ถูกต้อง” ให้รีบแจ้งหน่วยบริการที่ฉีด

People Unity News : สธ. แนะ ปชช. หากฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่ข้อมูลในระบบ “ไม่ขึ้น – ไม่ถูกต้อง” ให้รีบแจ้งหน่วยบริการที่ฉีดวัคซีน

21 พ.ย.64 กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงกรณีประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว แต่ไม่พบข้อมูลในระบบหมอพร้อม ทำให้ไม่มีข้อมูลการนัดหมายฉีดวัคซีนเข็มต่อไป ไม่มีข้อมูลใน Digital Health Pass ทำให้ไม่สามารถออกใบรับรองการฉีดวัคซีน หรือเข้าสถานที่ต่างๆได้นั้น

ขณะนี้ ได้ประสานไปยังหน่วยบริการและผู้รับผิดชอบโครงการฉีดวัคซีนให้เร่งบันทึกผลการฉีดให้เป็นปัจจุบัน

สำหรับประชาชน เมื่อฉีดวัคซีนแล้วขอให้ตรวจสอบข้อมูลการฉีดวัคซีนใน Application หรือ LINE OA “หมอพร้อม” เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน วันที่ฉีดวัคซีน ชนิดวัคซีน จำนวนเข็ม ว่าถูกต้องหรือไม่

หากพบว่าไม่ถูกต้อง หรือไม่มีข้อมูลแสดงในระบบขอให้ติดต่อหน่วยบริการ หรือโครงการที่ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดศูนย์รับเรื่อง (call center) เพื่อลงข้อมูลสำหรับผู้ที่ไม่มีข้อมูลในระบบ MOPH IC หรือแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถติดต่อได้ที่สถานีกลางบางซื่อ/หน่วยบริการที่กรุงเทพฯ กำหนดขึ้น

Advertising

ด่วน!สาธารณสุขเตือนประชาชนระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง

People Unity : กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำที่พบบ่อยในพื้นที่ประสบภัยแล้ง อาจขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาด ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม. แนะนำประชาชนในการป้องกันโรค ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” หากท้องเสีย อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

วันนี้ (29 กรกฎาคม 2562) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วง ซึ่งสภาพอากาศร้อน แล้ง อาจทำให้เกิดโรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ ได้ให้กรมควบคุมโรคเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและผลกระทบต่อสุขภาพ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้คำแนะนำประชาชนในการป้องกันโรค หากมีอาการท้องเสีย อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

ด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้ให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมปฏิบัติงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่รับผิดชอบ หากพบกลุ่มก้อนการระบาดของโรคติดต่อที่สัมพันธ์กับภัยแล้ง ให้ลงพื้นที่ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคทันที สื่อสารความเสี่ยงให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ในการป้องกันตนเองจากการเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ โดยรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ ร้อน ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ใช้ช้อนกลางเมื่อกินอาหารร่วมกันหมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินอาหาร และหลังการขับถ่าย หากมีอาการท้องเสีย ดูแลเบื้องต้นโดยการจิบน้ำผสมสารละลายเกลือแร่ (ORS) บ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้น รับประทานอาหารไม่ได้ กระหายน้ำมากกว่าปกติ หรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือด ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา รายงานตั้งแต่ต้นปี 2562 พบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินอาหาร 6 โรคสำคัญ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง 575,112 ราย  โรคอาหารเป็นพิษ 59,360 ราย โรคบิด 432 ราย อหิวาตกโรค 9 ราย ไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย 560 ราย ไวรัสตับอักเสบเอ 224 ราย

ข่าวด่วน : ก.สาธารณสุขเตือนประชาชนระวัง 6 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำในพื้นที่ประสบภัยแล้ง

People Unity : post 29 กรกฎาคม 2562 เวลา 13.30 น.

ครม. อนุมัติแจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่แล้ว

People Unity News : 28 กุมภาพันธ์ 2566 นายกฯ เผย ครม. อนุมัติแจกเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ มีผล 1 เม.ย.นี้ ยันต้องดูแลประชาชนให้ดีที่สุด แม้ช่วงปลายรัฐบาล

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า วันนี้ในที่ประชุมมีวาระ ครม.เข้ามาจำนวนมาก มีวาระเพื่อทราบ 14 เรื่อง และวาระเพื่อการพิจารณา 34 เรื่อง วาระจรอีก 8 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการดูแลประชาชน ที่สำคัญ คือเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วันนี้อนุมัติงบประมาณแล้ว ที่เหลือคือการพิสูจน์สิทธิต่างๆ ที่จะใช้เวลาอีกสักพัก ตั้งเป้าให้มีผลในวันที่ 1 เมษายนนี้ ยืนยันจะดูแลประชาชนให้ดีที่สุดแม้จะเป็นช่วงปลายรัฐบาลก็ตาม และได้ขอร้องพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้ความร่วมมือการทำงานทุกเรื่องช่วงสุดท้ายของรัฐบาล โดยงบที่อนุมัติวันนี้เป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิม เป็นเรื่องให้ความเป็นธรรมดูแลผู้มีรายได้น้อย

Advertisement

ประยุทธ์ สั่งเร่งแก้กฎหมายฟอกเงินเอาผิด “บัญชีม้า” สกัดเส้นทางโอนเงินมิจฉาชีพออนไลน์

People Unity News : ประยุทธ์ สั่งเร่งแก้กฎหมายฟอกเงินเอาผิดเครือข่ายบัญชีม้า สกัดเส้นทางโอนเงินแก๊งค์มิจฉาชีพ

10 มี.ค. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับรายงานจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ว่า ขณะนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน ซึ่งได้กำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้าหรือบัญชีทางผ่านเพื่อรับโอนเงินระหว่างเหยื่อและมิจฉาชีพ จะต้องมีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน มีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ ซึ่งหากสามารถแก้ไขปัญหาบัญชีม้าได้จะสกัดเส้นทางการรับและโอนเงินในขบวนการของมิจฉาชีพ

พล.อ.ประยุทธ์  ได้มีข้อสั่งการให้เร่งรัดกระบวนการแก้ไขกฎหมายให้ได้มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อให้เป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามการกระทำผิด เนื่องจากขณะนี้อาชญากรรมทางออนไลน์เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ นอกจากคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินแล้วยังมีรูปแบบอื่นๆ ซึ่งหากแก้ไขปัญหาบัญชีม้าได้ จะลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากอาชญากรรมเหล่านี้ได้มาก

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับว่านอกจากเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมายแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องเร่งให้ความรู้กับประชาชนว่าการรับจ้างเปิดบัญชีม้า รวมถึงพฤติการณ์ใดๆ ที่เป็นการเข้าไปสนับสนุนเพื่อให้มีบัญชีม้านั้นเป็นความผิดตามกฎหมาย เพื่อประชาชนจะได้ไม่ทำความผิดหรือระมัดระวังตัวไม่ให้ถูกหลอกลวงให้กระทำผิด

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพของกฎหมาย ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้ประสานการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ อาทิ ดีอีเอสได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการอายัดโดยเฉพาะ การจัดตั้งทีมเฉพาะกิจสายตรวจไซเบอร์ ประสานงานระหว่างประเทศในการขอข้อมูล IP Address และข้อมูลผู้กระทำความผิด รวมทั้งการพิจารณาจัดทำบันทึกความร่วมมือร่วมประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย อยู่ระหว่างการวางแนวทางการแจ้งเตือนประชาชนก่อนโอนเงินและมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้า ให้พนักงานสาขาที่รับเปิดบัญชีระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการหลอกให้เปิดบัญชีเงินฝากเพื่อเป็นบัญชีม้ามีจำนวนมากขึ้น  รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการส่งข้อมูลเพื่อแจ้งอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางออนไลน์

Advertising

เชื้อไวรัส COVID-19 สามารถเข้าทางบาดแผลในร่างกายได้หรือไม่??

People Unity News : เชื้อไวรัส COVID-19 สามารถเข้าทางบาดแผลในร่างกายได้หรือไม่??

ติดเชื้อไวรัสจากบาดแผลได้จริงหรือ ?

Q: เชื้อไวรัส COVID-19 สามารถเข้าทางบาดแผลในร่างกายได้หรือไม่ ??

A: จากการตรวจสอบ ยังไม่พบหลักฐานว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถติดต่อเชื้อทางบาดแผลได้แต่อย่างใด

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

COVID-19

โฆษณา

รัฐบาลเชิญชวนบริจาคเลือดเพิ่มปริมาณเลือดสำรองในโรงพยาบาล ศิริราชแจ้งขาดเลือดทุกหมู่

People Unity News : 14 กรกฎาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องด้วยเดือน ก.ค. มีวันหยุดยาวหลายช่วงด้วยกัน ทำให้ปริมาณผู้บริจาคเลือดในโรงพยาบาลและศูนย์รับบริจาคโลหิตหลายแห่งลดลง ในขณะที่ปริมาณการใช้เลือดยังเท่าหรือมากกว่าเดิม ทำให้ปริมาณเลือดสำรองของโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มลดลงและขาดแคลน

ดังนี้ จึงขอเชิญชวนคนไทยที่มีสุขภาพดี ร่วมบริจาคเลือดเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณเลือดสำรองสำหรับช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัด รวมถึงผู้ป่วยโรคเลือดที่จำเป็นต้องใช้เลือด โดยสามารถบริจาคได้ที่โรงพยาบาล ศูนย์รับบริจาคโลหิตทั่วประเทศ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  ในส่วนของโรงพยาบาลศิริราชได้แจ้งว่าขณะนี้ทางโรงพยาบาลกำลังขาดแคลนเลือดสำรองทุกหมู่ ทำให้อาจกระทบต่อความต่อเนื่องในการให้บริการรักษาผู้ป่วยได้ ขณะนี้โรงพยาบาลจึงได้เปิดรับบริจาคเลือดทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยประชาชนสามารถติดต่อบริจาคได้ที่ศูนย์รับบริจาคเลือดศิริราช อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา ชั้น 3 โรงพยาบาลศิริราช  เวลา 08.30-16.00 น. โดยสามารถข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทร. 02-414-0100, 02-414-0102 หรือ เฟซบุ๊ค: ศูนย์รับบริจาคเลือดศิริราช

สำหรับข้อแนะนำผู้ต้องการบริจาคเลือด ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนเพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง เป็นผู้มีอายุระหว่าง 18-60 ปี มีน้ำหนัก 48 กก.ขึ้นไป, ไม่เจาะผิวหนัง สัก ลบรอยสัก ในระยะเวลา 4 เดือน, ไม่อยู่ระหว่างรับประทานยาปฏิชีวนะ ยาป้องกันเลือดแข็งตัว, ไม่ได้รับการถอนฟัน ภายใน 7 วัน หรือขูดหินปูนภายใน 3 วันก่อนบริจาคเลือด

ทั้งนี้ หากเป็นผู้หญิงต้องไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร, ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ, ไม่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เหนื่อยหอบ, ไม่มีความเสี่ยงต่อการติดโควิด 19 ในช่วง2 สัปดาห์ที่ผ่านมา, หากได้รับวัคซีนโควิด19 ให้เว้น 1 สัปดาห์ก่อนบริจาคเลือด หรือหากมีผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนโควิด19 เมื่อหายแล้วให้เว้น 14 วันก่อนบริจาคเลือด

Advertisement

ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีโอกาสหายป่วยสูงหรือไม่??

People Unity News : ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีโอกาสหายป่วยสูงหรือไม่??

ถ้าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีโอกาสจะหายไหม?

Q: ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีโอกาสหายป่วยสูงหรือไม่ ??

A: ผู้ป่วยทั่วไปมีโอกาสหายจากโรคได้เอง สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แต่หากพบว่ามีอาการป่วยรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยทันที

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

COVID-19

โฆษณา

Verified by ExactMetrics